“ฉันมีวิธีเด็ดที่จะทำให้เธอกับพี่เฮ่าชวนสุดหล่อของฉันได้กลับมาพูดคุยคืนดีกันอีกครั้งแล้วยังไงล่ะ”
“หา?!” หัวใจของซ่งจื่อหานเต้นระรัวราวกับรัวกลองศึกเมื่อได้ยินคำพูดนั้น เธอมองเพื่อนรักอย่างพิจารณา สำรวจใบหน้าอย่างละเอียดถี่ถ้วน “วิธีที่ดี...หรือว่าเป็นวิธีบ้า ๆ บอ ๆ เพี้ยน ๆ ของเธออีกแล้วล่ะยะ”
“จื่อหาน!” ฉู่ลี่เหยียนทำปากยื่นเหมือนเด็กโดนขัดใจ ดวงตาคู่สวยมองมาอย่างเจ้าเล่ห์แสนกล “ตั้งแต่เมื่อไหร่กันยะ ที่ฉันคนนี้เคยมีความคิดอะไรบ้า ๆ บอ ๆ น่ะ”
“ก็ตั้งแต่เธอมาเป็นเพื่อนสนิทของฉันยังไงล่ะยะ” ซ่งจื่อหานหัวเราะร่วนออกมาแล้วส่ายหน้าอย่างเอ็นดู น่าเสียดายที่มันเป็นเรื่องจริงยิ่งกว่าจริงเสียอีก พวกเธอทั้งคู่ดูเหมือนจะมีความคิดและแผนการปุบปับสุดเพี้ยนที่มักจะพาตัวเองไปเจอกับปัญหาปวดเศียรเวียนเกล้าอยู่เสมอ แต่ถ้าจะพูดให้ยุติธรรมกับฉู่ลี่เหยียนสักหน่อยล่ะก็...ปกติแล้วเธอต่างหากที่เป็นคนมีความคิดอะไรต่อมิอะไรที่มันงี่เง่าหลุดโลกอยู่เรื่อย แต่พักหลังมานี้ดูเหมือนว่าฉู่ลี่เหยียนก็เริ่มจะตามเธอทันแล้วเหมือนกันนะ
“พวกเราจะไปสมัครเข้าชมรมแบดมินตันกัน” ฉู่ลี่เหยียนประกาศก้อง
“ว่า...ว่าไงนะ!” ซ่งจื่อหานขมวดคิ้วมุ่นจนแทบจะเป็นปม
แบดมินตันเนี่ยนะ! กีฬาที่ต้องวิ่งไล่ตีลูกขนไก่ในสนามน่ะเหรอ!
“ก็แบดมินตันยังไงล่ะยะ เมื่อวานหยุนเฟิงเพิ่งจะเล่าให้ฉันฟัง เขาก็บอกว่าจะไปเล่นด้วยเหมือนกันนะ” ฉู่ลี่เหยียนพูดอย่างตื่นเต้นสุดขีด ดวงตาเป็นประกายวิบวับ
“โอเค...” ซ่งจื่อหานตอบรับเสียงอ่อย ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นตามไปด้วยเลยแม้แต่น้อย “แล้ว...แล้วการไปตีแบดมินตันมันจะช่วยให้พี่เฮ่าชวนหันมาสนใจฉันได้ยังไงกันยะ ช่วยอธิบายหน่อยสิ”
“ก็พี่เฮ่าชวนเขาก็จะไปอยู่ในชมรมเดียวกันกับพวกเรายังไงล่ะ มันจะต้องออกมาดีแน่ ๆ เชื่อฉันสิเพื่อนรัก” ฉู่ลี่เหยียนส่งยิ้มกว้างเสียจนแก้มแทบปริ
“ไม่รู้สิลี่เหยียน ฉันไม่ค่อยแน่ใจเลยจริง ๆ นะ” ซ่งจื่อหานทำหน้าครุ่นคิด “เธอคิดจริง ๆ เหรอว่าการที่ฉันไปยืนเหวี่ยงไม้ตีแบดในสนามมันจะทำให้ผู้ชายหันมาสนใจฉันได้น่ะ ฉันไม่ใช่ราชินีนักกีฬาหรือนางฟ้านักกีฬาสุดเซ็กซี่อะไรเลยนะจะบอกให้”
ฉู่ลี่เหยียนรีบคว้ามือเพื่อนรักขึ้นมากอบกุมไว้แน่น “เชื่อฉันเถอะน่า นั่นมันไม่ใช่แผนการเดียวที่ฉันมีอยู่ในหัวสักหน่อย นั่นมันก็แค่ขั้นแรกของการเริ่มต้นเท่านั้นเอง”
“ขั้นแรกอย่างนั้นเหรอ” ซ่งจื่อหานเผลอครางออกมาเบา ๆ แต่ในใจกลับรู้สึกตื่นเต้นจนท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด เธอไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้ของกีฬาแบดมินตันเลยสักนิด แต่ถ้าหากการเข้าร่วมชมรมมันหมายความว่าเธอจะได้มีโอกาสเจอหน้าฉู่เฮ่าชวนทุกสัปดาห์ล่ะก็...เธอก็พร้อมจะเอาด้วยเต็มที่เลยทีเดียว สู้ตายค่ะ!
“ใช่แล้วเพื่อนรัก ถูกต้องที่สุด ฉันน่ะคิดแผนการเด็ดสะระตี่ที่จะทำให้เธอกับพี่ชายสุดหล่อของฉันได้ลงเอยรักกันอย่างดูดดื่มแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์เลยล่ะ”
สีหน้าของเพื่อนรักดูภาคภูมิใจและตื่นเต้นกับแผนการของตัวเองมากเสียจนซ่งจื่อหานต้องพยายามอย่างหนักที่จะกลั้นเสียงครางครั้งที่สองเอาไว้ในใจ เธอไม่อยากจะทำลายบรรยากาศความสุขของเพื่อนเลยจริง ๆ แต่เธอก็เคยมีแผนการเด็ด ๆ แบบนี้เหมือนกันนะครั้งหนึ่ง...แล้วมันก็ดันพังไม่เป็นท่าเลยน่ะสิ
“แล้ว...แล้วแผนการเด็ดสุดยอดของเธอที่ว่านั่นมันคืออะไรกันล่ะยะ ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยสิ” เธอถามเสียงอ่อย พลางนึกในใจว่ามีหลายครั้งเหลือเกินที่เธอไม่ค่อยจะชอบใจนัก ที่ตัวเองดันมีอิทธิพลต่อความคิดจิตใจของฉู่ลี่เหยียนมากเกินไปขนาดนี้
ตอนเด็ก ๆ น่ะเหรอ ฉู่ลี่เหยียนเป็นเด็กสาวที่แสนจะเรียบร้อย ไร้เดียงสา และเงียบขรึมเป็นที่สุด ส่วนเธอน่ะเหรอ ก็คือตัวป่วนประจำกลุ่ม ชอบหาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัวอยู่ตลอดเวลา เธอจะมีแผนการหรือกลอุบายอะไรต่อมิอะไรอยู่ในหัวเสมอ และมันก็ไม่เคยจะเป็นไปตามที่เธอวางแผนเอาไว้เลยสักครั้งเดียว ไม่เคยเลยจริง ๆ
“เธอจะต้องไปที่คอร์ตแบดกับฉันและหยุนเฟิงสุดหล่อของฉัน” ฉู่ลี่เหยียนเริ่มอธิบายแผนการด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “เธอจะต้องแต่งตัวให้สวยเช้งกระเด๊ะที่สุด แล้วก็จะต้องไปโปรยเสน่ห์ใส่นายผู้ชายโสดหน้าตาดีทุกคนที่อยู่ในคอร์ตวันนั้น เธอจะต้องทำตัวดี ๆ น่ารัก ๆ เข้าไว้นะ แต่! แต่จะต้องไม่ทำตัวเป็นมิตรสนิทสนมกับพี่เฮ่าชวนมากจนเกินไปนัก เธอจะต้องทำให้พี่เฮ่าชวนได้เห็นอย่างชัดเจนเลยว่าเขาพลาดอะไรที่สำคัญในชีวิตไปบ้าง ตลอดหลายปีที่ผ่านมาที่เขาไม่เคยชายตามองเธอเลยน่ะ”
“แล้ว...เธอคิดว่าพี่เฮ่าชวนเขาจะสนใจ หรืออย่างน้อยก็ชายตามองฉันบ้างจริง ๆ เหรอ” ซ่งจื่อหานถามอย่างไม่ค่อยมั่นใจนัก
ฉู่ลี่เหยียนส่งยิ้มกว้างเสียจนเห็นฟันครบทุกซี่ “ฉันมั่นใจร้อยล้านเปอร์เซ็นต์เลยเพื่อนรัก ตอนนี้ฉันรู้ความจริงทั้งหมดแล้วว่ามันเคยเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้างระหว่างเธอกับเขา ฉันเข้าใจความสัมพันธ์อันซับซ้อนของพวกเธอดีขึ้นเยอะแยะมากมายก่ายกองแล้วล่ะ”
“จริง...จริงเหรอ” ซ่งจื่อหานถามย้ำอย่างไม่อยากจะเชื่อ
ฉู่ลี่เหยียนพยักหน้ารับอย่างหนักแน่น “ใช่สิ ฉันน่ะสงสัยมาตั้งนานแล้วนะ ว่าทำไมพี่เฮ่าชวนเขาถึงได้ชอบแอบมองเธอด้วยสายตาที่ทั้งปกป้องดูแล แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีความรู้สึกหวงแหนและหึงหวงปนอยู่ด้วยเสมอเลยน่ะ”
“พี่เฮ่าชวนเขาก็ทำแบบนั้นกับเธอเหมือนกันนั่นแหละน่า” ซ่งจื่อหานเหลือบตามองเพื่อนอย่างหมั่นไส้ แต่ลึก ๆ ในใจความหวังเล็ก ๆ ก็เริ่มจะพองโตขึ้นมาอีกครั้ง
“ไม่เหมือนกันสักหน่อย” ฉู่ลี่เหยียนหัวเราะร่วนออกมาอย่างอารมณ์ดี “ใช่ พี่เฮ่าชวนเขาน่ะชอบปกป้องฉันเกินเหตุ แล้วก็ยังทำตัวงี่เง่าไปบ้างในบางครั้ง แต่เขาไม่เคยแสดงท่าทีหึงหวงออกมาเลยนะ เวลาที่ฉันพูดถึงเรื่องผู้ชายคนอื่นน่ะ และเขาก็ไม่เคยแสดงท่าทีหวงแหนหรือหงุดหงิดออกมาเลยสักครั้ง เวลาที่เห็นฉันไปไหนมาไหนอยู่กับผู้ชายคนอื่นน่ะ เขาไม่แคร์เลยสักนิดเดียว เธอรู้ไหมว่าเขาเคยบอกฉันด้วยนะว่าเขาน่ะดีใจมากเลยที่ฉันได้คบกับหยุนเฟิงน่ะ เพราะว่าตอนนี้หยุนเฟิงก็จะได้มาคอยนั่งกังวลเรื่องของฉันแทนเขายังไงล่ะ”
“อืม...แต่ฉันว่าพี่เฮ่าชวนเขาก็แค่พูดจาประชดประชันไปอย่างนั้นเองแหละน่า พี่เฮ่าชวนเขารักเธอนะจะบอกให้!”
“ก็ไปแอบส่องโซเชียลมีเดียมายังไงล่ะ แถมแม่นั่นก็ยังมีบล็อกส่วนตัวที่เขียนเล่าเรื่องราวชีวิตของตัวเองด้วยนะ แล้วก็ยังมีรูปของเจ้าโฟรโด แฮมสเตอร์สุดที่รักของหล่อน กับเจ้าแบล็กกี้ หมาคู่ใจของหล่อนเต็มไปหมดเลย”“เดี๋ยวก่อนนะ อย่าบอกนะว่าหมาของหล่อนน่ะมันสีดำ”“ใช่เลย เป๊ะเลย” ซ่งจื่อหานพยักหน้ารับแล้วก็หัวเราะคิกคักออกมา “ใครกันนะช่างมีความคิดสร้างสรรค์ตั้งชื่อหมาดำว่าแบล็กกี้เนี่ย”“ช่างไม่มีความคิดสร้างสรรค์เอาเสียเลยจริง ๆด้วย” ฉู่ลี่เหยียนส่ายหน้าอย่างเห็นด้วย “คนแบบนี้จะต้องถูกกำจัดออกไปให้พ้นทาง เธอสิถึงจะเหมาะสมกับพี่เฮ่าชวนมากกว่าตั้งเยอะ”“พูดก็พูดเถอะนะ ฉันก็ยังสงสัยอยู่ดีว่าพี่เฮ่าชวนเขาจะคิดแบบนั้นกับฉันจริง ๆ รึเปล่าน่ะสิ”“พี่เฮ่าชวนก็แค่ตาไม่ถึงเองต่างหากล่ะ” ฉู่ลี่เหยียนพูดอย่างมั่นอกมั่นใจ ก่อนที่โทรศัพท์ในมือของเธอจะส่งเสียงเตือนขึ้นมา “อุ๊ย! พี่เฮ่าชวนนี่นา...เขาส่งข้อความมาบอกว่าอีกประมาณชั่วโมงหนึ่งเขาจะมาถึงที่นี่แล้วนะ”“หา! แล้วฉันจะรีบไปใส่อะไรดีล่ะทีนี้ แล้วพี่เฮ่าชวนเขารู้ไหมว่าฉันจะอยู่ที่นี่ด้วยน่ะ”“ก็รู้สิยะ! ถ้าไม่อย่างนั้นแล้วเธอจะไปอยู่ที่ไหนได้อีกล่ะ!”“
“โอ๊ยตายแล้ว! จื่อหาน!” ซ่งจื่อหานส่ายหน้าให้กับตัวเองเบา ๆ ที่เผลอหลุดปากเรื่องนั้นออกไป “เธอน่ะไม่ควรรู้เรื่องนั้นไม่ใช่เหรอ จำได้ไหม” เธอแกล้งทำเป็นยกมือขึ้นมาเล่นกับปอยผมของตัวเองเพื่อกลบเกลื่อนอยู่ครู่หนึ่! ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง “แล้ว...แล้วนายกู้หยุนเฟิงคิดจริง ๆ เหรอว่าพี่เฮ่าชวนชอบฉันน่ะ”ฉู่ลี่เหยียนส่งยิ้มกว้างออกมาในทันที “ใช่สิ ถึงแม้ว่าเขาจะคิดว่าพี่เฮ่าหรานกับกู้เทียนอี้ก็ดูเหมือนจะสนอกสนใจเธออยู่เหมือนกันก็เถอะนะ อ้อ แล้วก็ยังมีนายผู้ชายคนนั้นอีกคนหนึ่งไงล่ะ ที่ชื่ออะไรนะ...”“ใครคือที่ชื่ออะไรนะ”“ก็นายเจเจยังไงล่ะ ไอ้คนที่พยายามจะมาแจกขนมจีบเธอในสนามตลอดเวลานั่นแหละ”“อ๋อ...ไอ้คนที่ตัวสูง ๆ แล้วก็จมูกดูเบี้ยว ๆ หน่อยนั่นน่ะเหรอ” ซ่งจื่อหานทำหน้าแหย ๆ “ฉันสาบานได้เลยนะว่าไอ้หมอนั่นมันพยายามจะมาแต๊ะอั๋งฉันอย่างชัดเจนเลยล่ะ”ฉู่ลี่เหยียนหัวเราะลั่นออกมาอย่างขบขัน “ใช่ ๆ คนนั้นแหละ ไอ้หมอนั่นมันก็พยายามจะทำแบบนั้นกับฉันเหมือนกันนะ แล้วกู้หยุนเฟิงก็เลยแอบเอาข้อศอกไปกระแทกใส่เข้าให้ทีหนึ่งน่ะสิ”“โอ้โห! กู้หยุนเฟิงนี่มันสุดยอดไปเลย!” ซ่งจื่อหา
“โอ๊ย...ปวดกล้ามเนื้อไปหมดเลย โดยเฉพาะน่องเนี่ย ทำไมฉันถึงได้เดี้ยงขนาดนี้นะ ไม่ได้ฟิตเลยจริง ๆ” ซ่งจื่อหานครางเสียงโหยพลางใช้มือนวดเฟ้นกล้ามเนื้อที่ยังคงตึงเปรี๊ยะราวกับจะฉีกออกจากกัน“ฉันก็เหมือนกัน สงสัยเราคงต้องเริ่มเข้ายิมออกกำลังกายกันอย่างจริงจังแล้วละมั้ง” ฉู่ลี่เหยียนทำหน้าเบ้เหมือนเพิ่งกินยาขมเข้าไป“อี๋...แค่คิดก็เหนื่อยจะตายแล้ว” ซ่งจื่อหานยู่หน้าใส่เพื่อนรัก“เหอะน่า ก็แค่เข้าฟิตเนส วิ่งเหยาะ ๆ บนลู่สักหน่อย แล้วบางทีเราอาจจะไปหาที่ซ้อมตีแบดกัน ที่สวนสาธารณะก็น่าจะดีนะ” ฉู่ลี่เหยียนพูดอย่างมุ่งมั่น พลางพยักหน้ากับตัวเองอย่างเอาจริงเอาจัง“จะไปซ้อมทำไมกันยะ”“ก็จะได้ซ้อมให้มันเก่ง ๆ ไง ฉันอยากให้คราวหน้าพวกเราไปถึงสนามแล้วก็เล่นให้มันเทพไปเลย เราต้องทำให้พี่เฮ่าชวนกับกู้หยุนเฟิงเห็นว่าพวกเราไม่ใช่พวกไก่อ่อนหัดเล่นกีฬาไม่เป็น”“เออ...นั่นสิ” ซ่งจื่อหานพยักหน้าเห็นด้วยอย่างเสียไม่ได้“ใช่แล้ว เราต้องแสดงให้พวกผู้ชายพวกนั้นได้เห็นไปเลยว่าผู้หญิงอย่างพวกเราก็เล่นกีฬาเก่งได้เหมือนกัน” ฉู่ลี่เหยียนพูดอย่างฮึกเหิมราวกับกำลังจะไปออกรบซ่งจื่อหานถอนหายใจออกมาเบา ๆ พลางเหยียดขาที่ยั
“ได้เลยสิครั! จื่อหานคุณสามารถมาที่ฟิตเนสของผมเมื่อไหร่ก็ได้เลยนะครับ ผมน่ะเป็นเทรนเนอร์ส่วนตัวที่ยอดเยี่ยมที่สุดในสามโลกเลยนะจะบอกให้” กู้เทียนอี้ส่งยิ้มกว้างมาให้เธออย่างเป็นมิตร“ขอบคุณมากเลยค่!” ซ่งจื่อหานมองเขาด้วยดวงตาที่เบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย นี่มันไม่ใช่ส่วนหนึ่งของแผนการเลยนะ! เธอเคยคิดว่ากู้เทียนอี้ก็แค่ทำดีกับเธอไปตามมารยาทเท่านั้น แต่ตอนนี้เธอไม่แน่ใจแล้ว หรือว่าเขากำลังจะจีบเธอจริง ๆ กันแน่นะ“ผมว่ามันคงจะสนุกมากแน่ ๆเลยนะครับ แล้วพวกเราก็จะได้มีโอกาสมาคุยเรื่องนี้กันต่อ โดยที่ไม่มีเสียงนกหวีดน่ารำคาญมาเป่าไล่ใส่พวกเราด้วยยังไงล่ะครับ” เขาขยิบตาให้เธออย่างมีเลศนัย“คุยเรื่องอะไรกันต่ออย่างนั้นเหรอ” ดวงตาคมกริบของฉู่เฮ่าชวนหรี่ลง แล้วก็ก้าวเข้ามาหาพวกเธออย่างรวดเร็ว“ก็จื่อหานเธอกำลังจะบอกผมถึงสิ่งที่เธออยากจะทำจริง ๆ ยังไงล่ะครับ” กู้เทียนอี้ยิ้มกว้าง ดูเหมือนจะไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าฉู่เฮ่าชวนกำลังดูไม่ค่อยจะสบอารมณ์มากนัก“เธออยากจะเป็นแคสติ้งเอเจนต์ให้กับพวกนักแสดงในรายการเรียลลิตี้โชว์ยังไงล่ะ” ฉู่เฮ่าชวนเหลือบมองมาที่ซ่งจื่อหานขณะที่พูด“แล้ว...แล้วพี่เฮ่าชวนรู้ได้ยังไง
“ผมดีใจมากเลยนะครับที่คุณได้มาอยู่ทีมเดียวกับผม” กู้เทียนอี้ยิ้มกว้างให้เธอขณะที่ยืนอยู่ที่สุดปลายคอร์ต หอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน“ฉันก็รเหมือนกันค่ะ” ซ่งจื่อหานส่งยิ้มตอบกลับไปแล้วสูดหายใจเข้าลึก ๆ หัวใจของเธอเต้นระรัวไม่เป็นส่ำจากการวิ่งทั้งหมด และเธอก็แค่อยากจะทรุดตัวลงนั่งแผ่หลาอยู่บนพื้นเสียเดี๋ยวนี้เลย“ทีมฝั่งโน้นเขาดูจะจริงจังกับเกมเกินไปหน่อยนะว่าไหมครับ” เขาหัวเราะออกมาเบา ๆ และก็มองดูฉู่เฮ่าชวนกับกู้หยุนเฟิงกำลังตีลูกโต้กันไปมาอย่างไม่หยุดหย่อน“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าพี่เฮ่าชวนกับกู้หยุนเฟิงไปอยู่ทีมเดียวกันได้ยังไงกันน่ะ” เธอหัวเราะออกมาอย่างอ่อนแรง “มันดูไม่ค่อยจะยุติธรรมเลยนะว่าไหมคะ ถึงแม้ว่าฉันจะดีใจมากที่ไม่ได้ไปอยู่ทีมเดียวกับใครคนใดคนหนึ่งในสองคนนั้นก็ตามที”“น่าสงสารลี่เหยียนนะครับเนี่ย” กู้เทียนอี้ส่งยิ้มกริ่มมาให พวกเขาสองคนมองดูขณะที่ฉู่ลี่เหยียนกำลังตะโกนใส่ชายหนุ่มทั้งสองคนให้ช่วยส่งลูกมาให้เธอบ้างเธอหัวเราะออกมาเบาๆ “นั่นสิคะ คุณว่าพวกเราควรจะรีบวิ่งเข้าไปช่วยเธอรับลูกบ้างไหมคะ”เขาส่ายหน้าไปมาช้า ๆ “อืม...ผมว่ายังก่อนจะดีกว่านะครับ ดูเหมือนว่าคุณยังจะต้อ
บางครั้ง...คนเราก็รู้สึกเหมือนอยากจะร้องไห้และหัวเราะออกมาพร้อม ๆ กัน สับสนงุนงงจนสมองไม่อาจจะประมวลผลได้ว่าควรจะให้ร่างกายแสดงความรู้สึกใดออกมากันแน่การได้เห็นฉู่เฮ่าชวนในชุดกางเกงขาสั้นสีดำสนิทและเสื้อยืดสีขาวรัดรูปที่ขับเน้นมัดกล้ามเป็นลอนสวย กำลังยืนยืดเส้นยืดสายอยู่ในคอร์ตแบดมินตันในบ่ายวันนั้น ก็เป็นหนึ่งในช่วงเวลาเหล่านั้นสำหรับซ่งจื่อหาน หัวใจของเธอราวกับถูกกระแทกอย่างจังจนจุก อารมณ์มากมายหลากหลายประดังประเดเข้ามาจนหญิงสาวแทบจะตั้งรับไม่ทันโอ๊ย...หล่อ...หล่ออะไรเบอร์นี้! อยากจะร้องไห้เพราะความหล่อของเขา หรือจะหัวเราะให้กับความบ้าผู้ชายของตัวเองดีนะ!“จื่อหาน! ยืนบื้อทำอะไรอยู่ยะ!” ฉู่ลี่เหยียนผลักหลังเพื่อนรักเบา ๆ ขณะที่เธอหยุดนิ่งเป็นหุ่นขี้ผึ้งอยู่กลางคอร์ต“พี่เฮ่าชวน...” ซ่งจื่อหานพึมพำเสียงอ่อนขณะที่เข่าเริ่มจะอ่อนแรงลงอย่างไม่มีสาเหตุ หัวใจเธอเต้นรัวเป็นจังหวะสามช่า และใบหน้าก็ร้อนผ่าวขึ้นมาดื้อ ๆ“เธอกำลัง ‘ทำ’ พี่เฮ่าชวนอยู่หรือไง ฮ่า ๆ นี่เธอโอเคดีอยู่ไหมเนี่ยจื่อหาน” ฉู่ลี่เหยียนเอ่ยล้อเลียนเพื่อนรักแล้วก็หัวเราะคิกคักออกมา ทั้งขำทั้งเป็นห่วงในอาการของเพื่อน“ฉัน.