“พี่เฮ่าชวนมาแล้วแน่ะ จื่อหาน” เสียงฉู่ลี่เหยียนตะโกนแว่วมาจากโถงทางเดินหน้าห้อง “ฉันเห็นรถเลี้ยวเข้ามาแล้ว”“ฉันดูเป็นยังไงบ้าง” ซ่งจื่อหานรีบพรวดพราดออกจากห้องนอนในชุดเดรสสั้นรัดรูปสีดำสนิท ฉู่ลี่เหยียนที่ยืนรออยู่ถึงกับผิวปากหวือด้วยความตะลึง“อืมมม...จะบอกว่ายังไงดีล่ะ...ฮอตยิ่งกว่าเดินอยู่กลางทะเลทรายซาฮาราในตอนกลางวันแสก ๆ เสียอีกนะเนี่ย!”“ฮอตเลยเหรอ” ซ่งจื่อหานยิ้มกว้างอย่างพอใจ หมุนตัวอวดโฉมในชุดเดรสตัวสวย “ฉันก็รู้สึกว่าตัวเองร้อนแรงไม่เบาเลยล่ะคืนนี้”“เธอไม่ใช่แค่ร้อนแรงธรรมดา ๆ หรอกนะเพื่อนรัก แต่เธอโคตรร้อนแรงต่างหากล่ะ!” ฉู่ลี่เหยียนหัวเราะร่วน เดินเข้ามาใกล้ เอานิ้วจิ้มที่แขนของซ่งจื่อหานเบา ๆ แล้วแกล้งร้องเสียงหลงออกมา“เป็นอะไรไปน่ะ” ซ่งจื่อหานเลิกคิ้วถามเพื่อนรักอย่างงุนงง“ก็เธอเล่นฮอตซะจนแทบจะเผาฉันให้ไหม้เป็นจุลไปแล้วนี่นา”ทั้งสองคนระเบิดเสียงหัวเราะออกมาพร้อมกันอย่างครื้นเครง“เธอนี่มันบ๊องจริง ๆ เลยนะ ลี่เหยียน ดีนะที่เธอไม่ได้เกิดเป็นผู้ชาย ไม่งั้นเธอคงไม่มีวันจีบสาวติดด้วยประโยคแบบนี้แน่ ๆ” ซ่งจื่อหาน
“อะไรนะคะ? เรื่องที่ฉันคุยเล่นกับกู้เทียนอี้เหรอคะ?”“ไม่ใช่ ยัยบ๊อง” เขาเปิดคอนโซลกลางรถแล้วหยิบชุดปฐมพยาบาลออกมา “เธอในชุดชั้นในต่างหาก”“ฉันในชุดชั้นในเหรอคะ” เธอหอบหายใจแล้วมองขณะที่เขาดึงขากางเกงเธอขึ้นอีกครั้งเพื่อทำความสะอาดแผล“ใช่ นั่นคือทั้งหมดที่ฉันคิดถึงมาตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา”“พี่กล้าพูดมากเลยนะคะ” เธออ้าปากค้างเมื่อเขาทายาฆ่าเชื้อลงบนเข่าเธอ“ทำไมล่ะ” เขามองลึกเข้าไปในดวงตาเธอขณะที่นิ้วเขาลูบไล้ผิวเธอ“ก็เพราะ...”“เพราะอะไร”“ก็แค่เพราะ” เธอครางออกมาเมื่อริมฝีปากเขาเข้ามาใกล้อย่างอันตราย “พี่กำลังทำอะไรคะ”“เธออยากให้ฉันทำอะไรล่ะ”“พี่เฮ่าชวน” เธอครางออกมา เขาหัวเราะเบา ๆ แล้วถอยกลับไป“ฉันนึกว่าเธอชอบจูบฉันซะอีก”“ฉันไม่เข้าใจพี่เลย พี่เฮ่าชวน” ซ่งจื่อหานมองขณะที่ชายหนุ่มติดพลาสเตอร์ยาบนเข่าเธอแล้วก้มลงจูบมัน“เสร็จแล้ว” เขาพูดแล้วมองเธอ “เธออยากเข้าใจอะไรล่ะ”“รอยบนข้อมือของคุณลี่ซาคืออะไรคะ” เธอถามเร็ว คำพูดหลุดออกจากปากก่อนที่เธอจะทันได้หยุดมัน“รอยบนข้อมือของล
“โอ๊ย ไม่นะ!” หญิงสาวอุทานในใจ เธอกัดฟัน ทิ้งตัวสุดเหยียด แขนเอื้อมออกไปข้างหน้า ไม้แบดในมืองัดลูกขนไก่ขึ้นอย่างสุดกำลัง หวังเพียงให้มันข้ามตาข่ายและตกลงในเส้นเขตแดน“ลง!” เธอตะโกนลั่นสุดเสียงด้วยความดีใจระคนโล่งอก เมื่อเห็นลูกขนไก่สีขาวลอยละลิ่วข้ามตาข่ายไปตกในฝั่งตรงข้ามอย่างพอดิบพอดี แต้มนี้เป็นของเธอ! ชัยชนะเป็นของทีมเธอ! ทว่าด้วยแรงส่งจากการพุ่งตัวสุดเหยียด ทำให้ร่างบางเสียหลักล้มลงไปบนพื้นคอร์ตอย่างแรง น้ำตาและเหงื่อไหลปะปนกันอาบสองแก้ม“หลบหน่อย จื่อหาน!” เสียงทุ้มของฉู่เฮ่าหรานดังขึ้น พร้อมกับร่างสูงของเขาที่พุ่งเข้ามาหมายจะรับลูกแต่ไม่ทันการณ์ ทำให้เขาก็เสียหลักถลาเข้ามาปะทะร่างเธอที่นอนอยู่บนพื้น“อะไรนะ?” ร่างกายของซ่งจื่อหานแข็งทื่อด้วยความตกใจระคนเจ็บปวด เมื่อร่างหนักอึ้งของฉู่เฮ่าหรานล้มทับลงมาบนตัวเธอเต็ม ๆ “โอ๊ย!” เธอร้องออกมาอย่างสุดกลั้น สรรพางค์กายที่เมื่อยล้าอยู่แล้วจากการแข่งขันอันดุเดือด บัดนี้ยิ่งปวดระบมไปทุกส่วน โดยเฉพาะหัวเข่าที่กระแทกพื้นอย่างแรง แถมหน้าท้องยังโดนเข่าของเขากระแทกซ้ำเข้ามาอีก! “โอ๊ยยย!” เธอครางออกมาอย่างเจ็บปวด ขณะที่เขา
ความรู้สึกใดเล่าจะดีงามเท่าการที่ใครคนนั้น คนที่แอบมีใจให้ เขาตอบรับความรู้สึกดี ๆ นั้นกลับมาทว่าความสุขนั้นอาจเป็นรองลงมาเสียหน่อย เมื่อมีชายอีกคนหนึ่งมอบหัวใจให้คุณ และนั่นก็ดันไปกระตุ้นต่อมความหึงหวงของชายคนแรกที่หมายปองแต่ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมานั้น อาจพลิกผันกลายเป็นความรู้สึกที่เลวร้ายที่สุดในบัดดล หากดันเผลอใจไปชอบผู้ชายคนที่สองด้วยเหมือนกันไม่มีอะไรจะแย่ไปกว่าการตกหลุมรักผู้ชายสองคนพร้อมกัน แล้วทั้งคู่ก็ดันมาชอบคุณตอบเสียด้วย!ซ่งจื่อหานรู้ซึ้งถึงสัจธรรมข้อนี้ดี แม้ในใจจะค้านว่าเรื่องราวมันอาจจะไม่ได้ซับซ้อนยืดเยื้อขนาดนั้น เธอเองก็ไม่แน่ใจนักหรอกว่าทั้งฉู่เฮ่าชวนและฉู่เฮ่าหรานจะชอบเธอจริง ๆ หรือเปล่า หรือแม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่ได้ชอบทั้งสองคนอย่างแท้จริงเสียหน่อยคนหนึ่งนั้นใช่ เธอรักเขาจริง ๆ ส่วนอีกคน ก็แค่ทำให้รู้สึกดี ซึ่งนั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะชอบเธอเสมอไปเสียเมื่อไหร่ เอาเข้าจริงแล้ว เธอก็ไม่รู้อะไรเลยสิ่งที่พอจะจับความได้ก็คือ ท่าทีของชายทั้งสองที่คอร์ตแบดมินตันวันนั้น มันเหมือนกับว่าพวกเขากำลังสนใจเธออยู่ไม่น้อย
ซ่งจื่อหานสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะเสียงโทรศัพท์มือถือที่สั่นเตือนอยู่ข้างหมอน เธอครางออกมาอย่างหัวเสีย ไม่ได้ตั้งใจจะเผลอหลับไปอีกรอบเลยสักนิด แค่อยากจะนอนพักเอาแรงแล้วก็คิดทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นสักครู่หนึ่งเท่านั้นเอง เธอคว้าโทรศัพท์ขึ้นมามองที่หน้าจอ แล้วหัวใจก็พลันกระตุกหยุดเต้นไปชั่วขณะฉู่เฮ่าชวนส่งข้อความมาหาเธอ!ฉู่เฮ่าชวน: ไงจื่อหาน ฉันแค่จะโทรมาเช็กดูให้แน่ใจว่าเธอโอเคดีอยู่รึเปล่าน่ะซ่งจื่อหาน: ฉันสบายดีค่ะ ขอบคุณมากนะคะเธอรีบพิมพ์ข้อความตอบกลับไปในทันที ขณะที่ลุกขึ้นมานั่งพิงหัวเตียง ใจหนึ่งก็อยากจะเอ่ยปากถามออกไปเหลือเกินว่าแล้วแม่สาวสวยเจิ้งลี่ซาของเขาไปไหนเสียล่ะ แต่ก็ไม่กล้าพอฉู่เฮ่าชวน: เมื่อคืนนี้พวกเรายังคุยกันไม่จบเลยนะ จำได้ไหมซ่งจื่อหาน: อ้อ...อย่างนั้นเหรอคะฉู่เฮ่าชวน: ใช่สิ แล้วพวกเราจะคุยกันต่อได้ไหมล่ะซ่งจื่อหาน: แล้วพี่ไม่ยุ่งเหรอคะช่วงนี้
อันที่จริงแล้วนะ ถ้าหากว่าเธอได้คบกับฉู่เฮ่าชวนอย่างเป็นทางการเมื่อไหร่ แล้วเขายังกล้าที่จะไปดูหนังกับยัยเจิ้งลี่ซาอีกคนล่ะก็ เธอจะอาละวาดให้บ้านแตกไปเลย เธอไม่ใช่คนที่จะมาเล่น ๆ กับเรื่องของความรัก และเธอก็ไม่มีวันที่จะยอมให้แฟนของตัวเองไปออกเดตกับผู้หญิงคนอื่นอย่างเด็ดขาด และใช่ เธอรู้ดีอยู่แล้วว่าเมื่อคืนนี้มันไม่ใช่เดตจริง ๆ จัง ๆ แต่เธอกับเขาก็จูบกันไปแล้ว และเธอก็ยังได้ไปนั่งอยู่บนตักของเขาอีกด้วย แถมเขาก็ยังแข็งตัวสู้มือเธอเสียด้วย เธอรู้สึกได้ถึงความปรารถนาของเขาที่กำลังดันดุนอยู่กับบั้นท้ายของเธอ และใช่ เธอพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะปลุกเร้าเขา แต่เธอก็ไม่ได้ทำให้เขาตื่นตัวสู้มือเธอเองทั้งหมดเสียหน่อยนะ เขามีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมาด้วยตัวของเขาเองต่างหาก เธอรู้ดีอยู่แล้วว่าถ้าหากว่าฉู่เฮ่าชวนเกิดไปมีอารมณ์กับผู้หญิงคนอื่นในขณะที่คบกับเธออยู่ล่ะก็ ความสัมพันธ์ของพวกเธอมันก็คงจะจบเห่ลงตรงนั้นอย่างแน่นอน“ฉัน...ฉันก็จำไม่ค่อยได้แล้วล่ะค่ะ” เธอตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่อ่อยลง แล้วก็ก้มหน้าลงงุด รู้สึกผิดขึ้นมาจับใจอย่างไม่มีสาเหตุทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงได้ดูดีและก