ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
เสียงเคาะประตูหน้าห้อง ทำให้ชายหนุ่มที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำเดินมายังประตูแล้วเปิดมันออก ตอนนี้เขาสวมเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวเท่านั้น มันช่างหมิ่นเหม่ว่าปมที่ผูกเอาไว้หลวมๆ จะหลุดเสียเหลือเกิน “วิคตอเรีย” ชายหนุ่มเอ่ยเรียกชื่อหญิงสาวที่ยืนอยู่หน้าห้อง เธอสวมชุดนอนเนื้อบางเบามองทะลุไปถึงไหนต่อไหน สายตาชายหนุ่มจ้องมองแบบเปิดเผย เพราะเธอตั้งใจใส่มาให้เขาดูอยู่แล้ว จะไม่มองก็ดูจะเสียความตั้งใจ “ร้อนจังค่ะ แอร์ห้องฉันไม่เย็นเลย” วิคตอเรียสลัดภาพสาวน้อยเขินอายเมื่อตอนหัวค่ำออกไปเสียหมด หญิงสาวเดินนวยนาดเข้ามาในห้องชายหนุ่มเหมือนเป็นเจ้าของ ก่อนจะยกมือพัดไปมาต้องการให้อากาศผ่านตัว รั้งสายชุดนอนเส้นเล็กให้ลงต่ำ เน้นหน้าอกอวบอูมที่โนบราของเจ้าตัวให้ดูเด่นมากขึ้น สาววัยยี่สิบเอ็ดที่ดูจะไม่กลัวกับเรื่องอย่างว่ามองหน้าชายหนุ่มตรงๆ “ถ้าไม่รังเกียจ จะนอนห้องผมก็ได้” ลูคัสเอ่ยชวน ดูท่าทางประโยคร้อนจัง แอร์ไม่เย็นเลย จะเป็นประโยคฮิตของหญิงสาวทุกคนที่มาพักบ้านเขา แม้จะรู้ความหมายมันดี แต่ชายหนุ่มเพลย์บอยตัวฉกาจก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ก่อนจะปิดประตูเพื่อความเป็นส่วนตัว “จริงเหรอคะ เจ้าของบ้านใจดีจัง” หญิงสาวยิ้มน้อยๆ ออกมาที่มุมปาก ก่อนจะเดินเข้ามาหาเจ้าของห้อง ยกมือบางขึ้นลูบผิวแน่นๆ เต็มไปด้วยมัดกล้ามของชายหนุ่ม ลูบไล้หยดน้ำที่เกาะอยู่ตามตัวเขาช้าๆ ส่งแววตาหยาดเยิ้มบ่งบอกความหมายมาให้ “ขอบคุณที่ชม” “ฉันจะตอบแทนความใจดีนั้นให้ ต้องการหรือเปล่า?” น้ำเสียงชวนวาบหวิวเอ่ยถาม “แบบไหน?” รู้ทั้งรู้แต่ลูคัสก็ยังถาม “แบบไหนก็ได้ที่คุณชอบ” น้ำเสียงแหบพร่าของสาวน้อยนัยน์ตาสีฟ้าเอ่ยตอบ วิคตอเรียขยับตัวเข้าแนบชิดชายหนุ่ม ก่อนจะยกแขนทั้งสองข้างขึ้นคล้องคอเขา โน้มให้เข้ามาหาใกล้ๆ “ให้มันจริง” ชายหนุ่มยิ้มมุมปาก เขาไม่ค้านหากผู้หญิงต้องการเรื่องเซ็กซ์ เพราะชีวิตเขานั้นขาดมันไม่ได้เหมือนกัน วิคตอเรียเขย่งปลายเท้าหวังขึ้นจูบชายหนุ่มที่เธออยากได้ตั้งแต่แรกเห็น แต่เขากลับเบนใบหน้าหล่อเข้มไปทางอื่น “ทำไมคะ” หญิงสาวขมวดคิ้วถาม หรือเขารังเกียจเธออย่างนั้นเหรอ แต่ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะแววตาแบบนี้เธอมองออกว่าเขาอยากกินเธอมากแค่ไหน “วัน ไนท์ สแตนด์ ผมไม่ชอบการจูบกับใครง่ายๆ” ลูคัสเอ่ยตอบนิ่งๆ เพราะจูบนั้นเขาได้มอบให้ผู้หญิงคนหนึ่งไปแล้ว หลังจากที่เสียเธอไป เขาก็ไม่เคยจูบใครอีกเลย “ทั้งๆ ที่กำลังจะมีเซ็กซ์ด้วยนะเหรอ?” “ใช่” ชายหนุ่มเอ่ยตอบสั้นๆ ไม่ได้อธิบายเหตุผล เพราะคิดว่ามันไม่จำเป็น “โอเค...ถึงไม่ได้จูบ แต่ได้ตัวคุณทั้งตัวก็ไม่เสียหาย” วิคตอเรียเองก็ไม่อยากเซ้าซี้ต่อให้เสียอารมณ์ ก่อนที่จะเริ่มปลุกเร้าชายหนุ่ม แม้จะยืนนิ่งในครั้งแรก แต่ตอนนี้ลูคัสก็ต่อต้านความต้องการของตัวเองไว้ไม่ไหวแล้วเช่นกัน ลูคัสจึงตอบสนองตามที่วิคตอเรียต้องการ ทุกสัมผัสมอบให้หมด ยกเว้นเพียงการจูบเท่านั้นที่ชายหนุ่มไม่ยอมทำให้ใครง่ายๆ ไฟราคะที่เกิดเพราะอารมณ์เสน่หาเพียงชั่ววูบเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนค่อยๆ ดับมอด เมื่อไร้เสน่หาลูคัสก็ขยับออกห่างจากวิคตอเรีย ชายหนุ่มลุกขึ้นคว้าบุหรี่ที่วางอยู่ข้างๆ โต๊ะขึ้นมาจุดสูบ จากนั้นก็เดินไปหยิบผ้าขนหนูมาคลุมท่อนล่าง ประหนึ่งก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น “หลังจบเรื่องเซ็กซ์ คุณนี่ก็เฉยชาเสียเหลือเกินนะ” วิคตอเรียเดินเข้าไปในห้องน้ำชายหนุ่มเหมือนเป็นเจ้าของก็ไม่ปาน ก่อนจะคว้าชุดคลุมอาบน้ำของเขามาสวมแล้วเดินกลับออกมาหาคนที่นั่งสูบบุหรี่อยู่ จากนั้นหยิบบุหรี่อีกมวนออกมาสูบบ้าง โดยต่อไฟจากบุหรี่ของลูคัส “ใช่ เพราะผมไม่ชอบความผูกมัด” “ผู้ชายแบบคุณแสดงว่าเคยอกหักครั้งใหญ่ สูญเสียคนรัก ถึงเย็นชานัก” หญิงสาวเป่าควันสีจางๆ ออกจากปากอิ่มแล้วถามขึ้น จะว่าไปสิ่งที่เธอต้องการก็ได้แล้ว จะแคร์เรื่องอื่นทำไมกัน “เดาสุ่ม” ลูคัสยิ้มมุมปากนิดๆ เพราะการเดาของวิคตอเรียค่อนข้างตรงประเด็น “แล้วมันถูกหรือเปล่า นี่เป็นเซ็กซ์ครั้งแรกของฉัน ที่ผู้ชายไม่จูบหรือแม้แต่เล้าโลมสักนิดด้วยซ้ำ” พูดจบก็มองหน้าชายหนุ่มที่ยังคงอัดบุหรี่เข้าปอดอย่างต่อเนื่อง “แต่ผมก็ทำให้คุณถึงจุดสุดยอดได้” “ไม่เถียงค่ะ” วิคตอเรียยักไหล่ให้ เธอเองก็ไม่ได้สนใจเรื่องความรัก แม้จะอยากได้ชายหนุ่มให้อยู่ข้างกายไปตลอด แต่คงเป็นเพียงฝัน สู้มาหาความสุขให้กันและกันบ้างเป็นบางครั้งยามต้องการ แบบนี้ดูจะมีความสุขกว่ากันเยอะ เพราะท่าทางคนอย่างลูคัสจะจับยากเสียด้วย แววตาของเขาบางครั้งเธอยังแอบกลัวด้วยซ้ำ “ผู้หญิงฟรีเซ็กซ์แบบจริงจังอย่างคุณนี่ น้อยคนที่ผมจะเจอ” รอยยิ้มของลูคัสเหมือนเยาะเย้ย เพราะชีวิตเขามีผู้หญิงเข้ามาข้องแวะมากหน้าหลายตา บางคนบอกไม่ได้คิดอะไร แต่พอเซ็กซ์จบกลับร้องห่มร้องไห้จะเป็นจะตายทั้งๆ ที่เป็นฝ่ายเริ่ม บางรายก็เรียกร้องนั่นนี่ชดเชยกับสิ่งที่เสียไป ทั้งๆ ที่ตอนเริ่มต่างเต็มอกเต็มใจร่วมมือกันเสียด้วยซ้ำ “แต่ฉันก็ไม่ได้ฟรีเซ็กซ์กับผู้ชายทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตหรอก ต้องคนพิเศษแบบคุณ” ว่าแล้วมือบางก็ลูบไล้แผงอกของชายหนุ่มเป็นการปลุกเร้าอีกครั้ง แต่สำหรับลูคัสครั้งเดียวก็เกินพอ ชายหนุ่มย้ำประโยคที่เขาพูดไปก่อนที่เซ็กซ์จะเริ่ม “วัน ไนท์ สแตนด์” “อีกครั้งไม่ได้เหรอ ฉันชอบมากตอนที่คุณเข้ามาอยู่ในตัวฉันนะ มันทำให้ฉันรู้สึกดีมาก” วิคตอเรียร้องขอตามตรง เพราะถ้าอ้อมไปอ้อมมาเธอก็อดกันน่ะสิ เรื่องอะไรต้องเล่นตัวให้มากความทั้งๆ ที่มาถึงขั้นนี้แล้ว “แต่สำหรับผม พอแค่นี้” ชายหนุ่มปัดมือของหญิงสาวให้ออกไปพ้นตัว น้ำเสียงฟังดูรำคาญนิดหน่อย ช่างแตกต่างกับตอนแรกนัก “งั้นสำหรับผู้หญิงที่เป็นวัน ไนท์สแตนด์ คุณไม่มีอะไรให้หล่อนบ้างเลยหรือไง?” คำถามของเธอทำให้ลูคัสยิ้มออกมา สุดท้ายก็จบแบบนี้ “อะไรล่ะ เงิน ทอง บ้าน รถ เพชร ว่ามา”บทที่ 68ชายหนุ่มเดินกลับมาที่ห้อง คว้าผ้าห่มของตัวเองขึ้นมาอุ้ม ก่อนจะเดินกลับเข้ามาในห้องนอนนาตาเซียแล้วห่มผ้าห่มนวมให้เธออีกชั้น จากนั้นก็ไปนั่งข้างๆ เธอ หยิบยาอีกชุดที่น้ำอ้อยจัดมาให้ส่งเข้าปากตามด้วยน้ำ เพราะเขาไม่อยากติดหวัดจากยายจอมดื้อเหมือนกันลูคัสคอยหมั่นเปลี่ยนผ้าที่หน้าผากให้พร้อมทั้งเช็ดเนื้อเช็ดตัวจุดที่พอจะเช็ดได้ ไม่ละลาบละล้วงเข้าไปจุดใต้เสื้อผ้าแต่อย่างใด แม้ภายในห้องจะร้อนขึ้นเรื่อยๆ จนเหงื่อไหลเต็มตัว แต่ชายหนุ่มก็ไม่บ่นสักคำ เพราะไม่อยากเปิดแอร์ให้ตัวเองสบายแต่นาตาเซียแย่ ทั้งที่จะกลับไปห้องแล้วให้น้ำอ้อยมาดูแลต่อก็ได้ แต่ลูคัสกลับไม่ทำแบบนั้น“ผมคิดยังไงกับน้องสาวคุณกันแน่” ขณะมองหน้านาตาเซีย ลูคัสก็เอ่ยกับตัวเองก่อนจะนึกถึงนาเดียร์ พี่สาวของนาตาเซีย คนรักที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ เพราะช่วยชีวิตผู้ชายอย่างเขา ครั้งแรกที่ได้พบนาตาเซีย เขาปรี่เข้าไปกอดและจูบเธอ เพราะคิดว่าคือนาเดียร์ แต่พอได้รู้จักตัวตนทั้งคู่แทบไม่เหมือนกันด้วยซ้ำ คนพี่นั้นห้าว แต่ภายในที่เขาสัมผัสกลับอ่อนหวานเรียบร้อย ส่วนคนน้อง ภายนอกดูเรียบร
บทที่ 67“ให้ตาย...ไม่สบายจนได้สิ” ลูคัสบ่นกับตัวเอง ก่อนจะรั้งผ้าห่มนวมขึ้นห่มให้หญิงสาว ชายหนุ่มเดินมาที่ประตู ลากโต๊ะทำงานเล็กๆ ที่นาตาเซียเอามากั้นเขาเป็นแน่กลับไปวางที่เดิม เปิดประตูแล้วก้าวลงไปชั้นล่างก็เห็นน้ำอ้อยยืนมองอยู่“พยาบาลของป้าไม่สบาย”“ตายจริง คงติดหวัดจากป้าแน่ๆ เดี๋ยวป้าขอขึ้นไปดูนาตาเซียหน่อย” คนฟังยกมือทาบอก“ผมดูแลเอง ป้าช่วยหายากับทำข้าวต้มแล้วยกขึ้นไปให้ผมด้วยแล้วกัน” พูดจบลูคัสก็ก้าวยาวๆ เข้าไปในครัว เปิดตู้เย็นแล้วหยิบน้ำแข็งในช่องฟรีซใส่ลงถ้วยแก้วใบใหญ่ จากนั้นก็เทน้ำเปล่าลงไปอีกครั้ง ท่าทางรีบร้อนแต่ก็คล่องแคล่ว“รีบหน่อยนะป้า” ก่อนจะกลับขึ้นไปชั้นบน ลูคัสยังหันมาย้ำกับน้ำอ้อยอีกครั้ง แล้วเดินกลับขึ้นไป“ค่ะ” น้ำอ้อยเอ่ยรับด้วยใบหน้ายิ้มๆ แล้วปลีกตัวไปทำตามที่ลูคัสบอก สงสัยคราวนี้จะได้รู้ใจตัวเองเป็นแน่ว่าคิดยังไงกับนาตาเซีย หวังเหลือเกินว่าคนทั้งคู่จะเกิดมาเพื่อกันและกันเมื่อเข้ามาในห้องนอนของนาตาเซีย ลูคัสก็เดินเข้าไปใ
บทที่ 66หลังจากเคลียร์งานที่ต่างเมืองเสร็จเรียบร้อย ลูคัสก็เลือกกลับเข้าบ้านก่อนในตอนเช้าตรู่ คิดว่าเที่ยงๆ ค่อยออกไปที่บริษัท เมื่อชายหนุ่มมาถึงบ้านก็เจอกับน้ำอ้อย อาการไม่สบายคงทุเลาลงมามากแล้วจึงออกมาเดินเหินได้แบบนี้ แต่ยังไงเขาก็อยากให้แม่บ้านพักผ่อนอีกหน่อย“ตื่นมาทำอะไรแต่เช้า”“ทำกับข้าวค่ะ” คนเป็นแม่บ้านหันมาตอบ ก่อนจะทำหน้าแปลกใจ เพราะไม่คิดว่าลูคัสจะกลับมาเช้ามืดแบบนี้“แล้วนี่หายหรือยัง ฝืนไปเดี๋ยวก็ทรุดลงไปอีก”“ป้านอนมาตั้งสองสามวันแล้วนะคะ เบื่อจะแย่” น้ำอ้อยยิ้มให้ลูคัส เพราะอยู่ๆ เธอก็ไม่สบายซะได้ เรื่องการเจ็บป่วยนี่เดาไม่ถูกเลยจริงๆ“ผู้ช่วยล่ะ ยังไม่ลงมาอีกหรือไง?” ลูคัสมองเข้าไปในบ้าน เลยขึ้นไปข้างบนเพื่อหานาตาเซีย“ให้พักสักวัน อยู่ดูแลป้าแทบไม่ได้ขยับไปไหน”“ดีขนาดนั้นเชียว ผมนึกว่าจะอู้” ชายหนุ่มปรามาส แต่ก็รู้ว่านาตาเซียทำอะไรบ้าง เพราะเขาโทรศัพท์กลับมาที่บ้านออกจะบ่อย“น่ารักดี ที
บทที่ 65อาการของน้ำอ้อยดีขึ้นตามลำดับหลังจากนอนซมมาสองสามวัน เพราะได้พยาบาลพิเศษอย่างนาตาเซียคอยดูแลไม่ห่าง ไข้เริ่มลดจนตอนนี้ลุกขึ้นมานั่งบนเตียงได้แล้ว แต่นาตาเซียยังไม่ยอมให้ออกไปนั่งตากลมนอกห้องเพราะกลัวไข้กลับมาอีก ใบหน้าที่ซีดเซียวของน้ำอ้อยก็ดูมีเลือดไหลเวียนมากขึ้น ลูคัสเองก็โทรมาถามอาการน้ำอ้อยวันละสามสี่ครั้ง แต่แฝงกับการได้รู้ข่าวของนาตาเซียด้วยว่าเธอยังอยู่ที่บ้านเขา ไม่ได้หนีหายไปไหน “ขอบใจที่ดูแล” น้ำเสียงแหบๆ ของคนป่วยเอ่ยบอกนาตาเซีย ที่กำลังเป่าข้าวต้มในถ้วยเพื่อไล่ความร้อนให้เธอจนแก้มป่อง “ไม่เป็นไรค่ะ ป้าหายดีแบบนี้ค่อยหายห่วงหน่อย” นาตาเซียหันมายิ้มตอบ ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาเป่าข้าวต้มให้หายร้อนอีกหน่อย จากนั้นก็ใช้ช้อนตักป้อนให้น้ำอ้อย“ป้ากินเองได้” “ให้นาตาเซียป้อนน่ะดีแล้ว นะจ๊ะป้า” คำแทนตัวเองของนาตาเซียดูเปลี่ยนไป น้ำอ้อยพยักหน้าให้กับคำพูดนี้ ก่อนจะอ้าปากรับข้าวต้มกุ้งเข้าไปในปาก “ฝีมือทำกับข้าวอร่อยขึ้นมากแล้วนี่” แม้จะมีกลิ่นคาวกุ้งนิดหน่อยในข้าวต้มถ้วยนี้ แต่น้ำอ้อยก็ไม่ได้ต่อว่าอะไร เพราะนาตาเซียทำกับข้าวได้ดี ดีมากกว่าเมื่อสองสามวันก่อนด้วยซ้ำ เด็กสาว
บทที่ 64 “ผมไม่ได้มามือเปล่า ตอนนี้สามารถเลี้ยงดูละออได้เป็นอย่างดี ถ้าผมพูดไม่จริงให้เอาชีวิตผมไปได้เลย”“คุณอดัม” ละออมองหน้าอดัม ทำไมต้องเอาชีวิตมาพูดเล่นแบบนี้ด้วย “ผมเชื่อว่าคนอย่างคุณจะดูแลละออได้” แมทธิวพยักหน้าให้ แค่เห็นแววตาของอดัมที่มองละออก็แทบไม่ต้องพูดอะไรแล้ว“ครับ...จะว่าอะไรไหม ถ้าผมจะพาละออไปหาลูกชายของเราสองคน”“ลูกชาย” ดารียะห์งงเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้“เรามีลูกชายด้วยกันหนึ่งคน ตอนนี้อายุย่างเข้ายี่สิบเก้าปีแล้ว” อดัมเอ่ยบอกสองคนตรงหน้าให้รับรู้ เพราะเขาไม่ได้จะปิดบังอยู่แล้ว “แต่ฉันยังมีห่วงอยู่ที่นี่” ละออค้าน แม้จะอยากไปหาลูคัส แต่ห่วงของเธอก็คือนาตาเซีย “อะไร...ผมพอจะช่วยได้หรือเปล่า?” แขกของบ้านเอ่ยอาสา “เรื่องนาตาเซียไม่ต้องเป็นห่วงไปละออ ไม่นานเราก็จะได้ข่าวดี...เชื่อสิ” แมทธิวเอ่ยให้ละออคลายกังวลเรื่องนี้ เพราะรู้ว่าละออนั้นรักนาตาเซียไม่แพ้พ่อและแม่แท้ๆ อย่างพวกเขา “เกิดอะไรขึ้นครับ พอจะบอกผมได้ไหม เผื่อจะช่วยเหลือได้” คำพูดของอดัม ทำให้ดารียะห์ยิ้มออกมา เพราะรู้สึกขอบคุณที่คนเพิ่งจะรู้จักกัน แสดงออกถึงความห่วงใยต่อลูกสาวเธอมากมายขนาดนี้ “ลู
บทที่ 63“ฉันก็อยากทำแบบนั้น แต่...แต่ฉันกลัว” ความอ่อนแอของละออถูกถ่ายทอดออกมาเป็นหยดน้ำตา ความอัดอั้นและหวาดกลัวเกิดขึ้นมาหลายปี ความคิดถึงโหยหาคนที่รัก อยากกลับไปใจแทบขาด แต่กลับไม่กล้าแม้แต่จะก้าวออกไป ขนาดไปถึงเมืองไทยกลับยืนนิ่งไม่ทำตามที่ใจอยากทำ เพราะกลัวคนที่รักจะเป็นอันตราย “ผมจะคอยปกป้องคุณเอง ให้ผมได้ทำแบบนั้น” อดัมเอ่ยให้คำมั่นสัญญา ครั้งนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เขาต้องทำให้ได้ เขาจะคอยปกป้องละออและลูคัสด้วยชีวิต จะไม่ยอมให้ใครมาพรากจากแม้คนคนนั้นจะเป็นแม่ของตนเองก็ตาม เพราะเวลากว่ายี่สิบแปดปีที่ผ่านมา มันนานเกินพอแล้ว“ขอบคุณนะคะ” ละออเอ่ยขอบคุณในอ้อมกอดของสามี แม้จะดีใจที่ได้พบอดัม แต่เธอก็ยังมีความกังวลอยู่ ถึงจะยิ้มได้แต่ใช่ว่าจะมีความสุขนัก “ที่นี่เป็นยังไงบ้าง ไปไงมาไงคุณถึงมาทำงานด้วย” หนุ่มใหญ่ผละร่างของภรรยาที่ตอนนี้อวบขึ้นจากเมื่อก่อน คงเป็นเพราะอายุที่เพิ่มมากขึ้น แต่ไม่ว่ายังไงละออก็ยังดูสวยในสายตาของเขาเสมอ อวบๆ มีน้ำมีนวลแบบนี้ กอดแล้วอุ่นดีออก “พอฉันออกจากโรงพยาบาล ก็กลับไปที่บ้านเกิดที่ต่างจังหวัด ได้พบญาติห่างๆ คนหนึ่งที่จะมาทำงานที่บรูไน ฉันกลัวว่ามาดา