“อะไรอีกล่ะคะ ฉันยังตักน้ำไม่เสร็จเลย”
“ไม่เสร็จก็ไปอาบมันที่ลำธารทีเดียวเลย”
“ฉันไม่ไป จะอาบในห้องน้ำ” พลอยชมพูพยายามขืนไม่ยอมเดินตามรณพีย์ แต่เธอก็ไม่สามารถต้านแรงอันมหาศาลของเขาได้อยู่ดี
“ขืนรอให้คุณตักให้เต็มคงได้มืดก่อนที่จะได้อาบน้ำ” ว่าจบก็รวบอุ้มคนตัวเล็กด้วยท่าเจ้าสาว เพราะไม่อยากจะมายืนยื้อยุดฉุดกระชากแม้จะรู้ว่าหญิงสาวสู้แรงของเขาไม่ได้ก็เถอะ
“นี่คุณ ปล่อยฉันสิ ฉันไม่อยากอาบน้ำที่อื่น ฉันอยากอาบในห้องน้ำ”
“อ๊าย...” ตู้ม... พลอยชมพูตัวลอยตกลงไปกลางลำธารด้วยฝีมือของรณพีย์ ไม่กี่วินาทีหลังจากที่หญิงสาวตัวเล็กตกลงไป เธอก็รีบตะเกียกตะกายตัวเองให้ใบหน้าพ้นเหนือน้ำ
“ช่วย...ด...” ยังไม่ทันที่จะพูดได้จบประโยคพลอยชมพูก็จมลงไปในน้ำ พฤติกรรมของหญิงสาวแสดงออกให้รณพีย์ที่กำลังยืนหัวเราะร่วนอยู่รู้ว่าเธอนั้นว่ายน้ำไม่เป็น
“เฮ้ย...” รู้ดังนั้นจึงรีบถอดรองเท้ากระโดดพุ่งไปตรงไปยังพลอยชมพูทันที แต่เมื่อลงไปถึงก็มองไม่เห็นหญิงสาวแล้ว
“พลอย...” รณพีย์เริ่มหน้าเสียเมื่อหันซ้ายซ้ายหันขวาไม่มีวี่แววว่าจะเห็นพลอยชมพูโผล่หัวขึ้นมาจากน้ำ เขาจึงตัดสินใจดำลงไปใต้น้ำอีกรอบจนคว้าตัวพลอยชมพูขึ้นมาได้
“คุณโรมครับ” ลุงเพิ่มที่กำลังเตรียมตัวจะมาตักน้ำที่ลำธารเห็นเหตุการณ์ตรงหน้าก็รีบทิ้งถังน้ำเดินหน้าตาตื่นเข้าไปหารณพีย์ที่กำลังอุ้มหญิงสาวขึ้นมาจากลำธารทันที
“เธอตกน้ำเหรอครับ”
“ครับลุงเพิ่ม ลุงเพิ่มช่วยไปตามป้าละไมมาหน่อยนะครับยืมชุดของเดือนมาสักสองสามชุดด้วยนะครับ”
“ครับๆ”
หลังจากลุงเพิ่มรีบวิ่งหันหลังไปได้ รณพีย์ก็รีบวางพลอยชมพูนอนกับพื้นราบและเขย่าตัวของเธอแรงๆ
“พลอย พลอย” เขาเริ่มหน้าเสียเมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่ตอบสนอง จึงรีบปฐมพยาบาลโดยการปั๊มหัวใจและเรียกเธอเสียงดังอยู่ตลอดเวลา
“ตื่นสิพลอย คุณจะมาตายตรงนี้ไม่ได้เข้าใจไหม” ยังไงรณณพีย์ก็จะปล่อยให้พลอยชมพูเสียชีวิตตอนนี้ไม่ได้ เขายังต้องใช้เธอเป็นเครื่องมือเพื่อล่อคนชั่วให้ออกมารับผิด
รณพีย์รีบปั๊มหัวและเป่าลมเข้าไปในปากของหญิงสาว ไม่นานนักพลอยชมพูก็เริ่มสำลักน้ำและลืมตาขึ้นมา หลังจากที่เธอลืมตามาได้ไม่นานก็หมดสติไปอีกรอบ เพราะร่างกายของเธอตอนนี้มีอาการขาดน้ำและขาดอาหารมาเป็นเวลานาน ทั้งยังต้องถูกใช้แรงงานและถูกแกล้งให้จมน้ำอีก
รณพีย์อุ้มพลอยชมพูมานอนพักที่กระท่อมและเริ่มปฐมพยาบาลทำให้เธอฟื้นขึ้นมาอีกรอบ และแล้วก็เป็นเวลาที่ละไมมาถึงพอดีจึงได้ช่วยเช็ดเนื้อเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้พลอยชมพู และอยู่ดูอาการของเธออยู่พักใหญ่ เมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่เป็นอะไรมากแล้วละไมจึงออกมาคุยกับรณพีย์ที่หน้าชานกระท่อม
“ไปทำยังไงกันคะถึงได้ตกน้ำตกท่าไปแบบนี้” ละไมต้องเก็บคำถามที่คาใจมาถามกับรณพีย์ เพราะเธอถามอะไรพลอยชมพูไปก็ไม่ได้คำตอบอะไรกลับมา มีเพียงแค่เสียงสะอื้นจากการเสียขวัญของหญิงสาวที่ส่งเสียงอยู่ข้างหูของเธอตลอดเวลาเท่านั้น
“คือ...ผมตักน้ำมาเติมที่ห้องน้ำไม่ทันก็เลยไปอาบน้ำที่ลำธารกันน่ะครับ พลอยเค้าน่าจะไม่รู้ว่าตรงไหนลึกไม่ลึกเลยจมน้ำไป”
“ดีนะคะที่คุณโรมอยู่กับเธอด้วยไม่อย่างนั้นป้าไม่อยากจะคิดเลย แล้วจะให้ป้าอยู่ช่วยดูแลความเรียบร้อยที่นี่ไหมคะ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมดูแลเธอได้”
“ถ้าอย่างงั้นป้าไม่รบกวนแล้วนะคะ”
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ลุงมาตักน้ำเติมให้นะครับ” ลุงเพิ่มเอ่ยเสริมเมื่อเห็นภรรยาตนกำลังเตรียมตัวจะกลับ
“ไม่ต้องหรอกครับลุงเพิ่ม เดี๋ยวผมจัดการเองครับ” หากไม่จำเป็นรณพีย์ไม่อยากให้ใครมายุ่มย่ามที่นี่นัก เพราะกลัวว่าพลอยชมพูจะมีคนช่วยเหลือแทนไม้แทนมือ อีกอย่างเขาก็กลัวว่าเธอจะพูดเรื่องข้อตกลงระหว่างเขากับเธอให้คนอื่นฟังด้วย
พลอยชมพูนั่งกอดเข่าอยู่บนเตียงไม้ เธอยกมือปาดน้ำตาลวกๆ มองชายหนุ่มที่กำลังเดินเข้ามาหาด้วยสายตาที่โกรธแค้น
“คุณจงใจจะฆ่าฉันให้ตายใช่ไหม” เสียงแหบพร่าเอ่ยถามไม่ค่อยเป็นคำเท่าไหร่นักแต่รณพีย์ก็ได้ยินชัดเจน เขาจึงยืนกอดอกมองจ้องหญิงสาวเขม็ง
“ใครจะไปรู้ว่าคุณจะว่ายน้ำไม่เป็น พ่อคุณไม่เคยสอนการเอาตัวรอดหรือส่งไปเรียนเลยหรือไง”
“ฉันเคยจะจมน้ำ เลยไม่อยากเรียนว่ายน้ำก็เลยว่ายน้ำไม่เป็น แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็น ฉันถามว่าคุณจงใจทำให้ฉันจมน้ำใช่หรือเปล่า” ครั้งนี้พลอยชมพูเริ่มเปล่งเสียงชัดถ้อยชัดคำขึ้นเพราะเริ่มควบคุมอารมณ์โทสะของตัวเองไม่ได้
“คุณโง่หรือคุณฉลาดน้อย ถ้าผมจะทำให้คุณตายผมจะไปช่วยคุณทำไม”
คำถามของรณพีย์ไม่มีตัวเลือกที่จะให้หญิงสาวมีทางตอบว่าตัวเองฉลาดเพราะเขาถามเพื่อต้องการประชด คิดว่าสาวเจ้าจะคิดได้เสียอีกว่าเขาไม่ได้ตั้งใจทำให้เธอจมน้ำ ที่โยนเธอลงน้ำไปแบบนั้นเพราะคิดว่าเธอว่ายน้ำเป็นต่างหาก
พลอยชมพูเริ่มมีก้อนแข็งๆ ที่ขึ้นมาอีกรอบ ขอบตาของเธอร้อนผ่าวมีน้ำตาเริ่มเอ่อคลอและเริ่มไหลทะลักอาบแก้ม ริมฝีปากบางเริ่มเบะจนไม่เหลือรูปทรงสวย
“ฮือ ฮือ ฮือๆๆ... รู้ไหมฉันกลัวน้ำแค่ไหน ถ้ายังไม่อยากให้ฉันตายก็อย่าทำแบบนี้อีก ฮือๆๆๆ ฉันจมน้ำพร้อมกับคุณแม่ แล้วฉันก็เสียคุณแม่ไปตั้งแต่ตอนนั้น ฮือ ฮือๆๆๆ”
“เลิกฟูมฟายได้แล้วน่า” รณพีย์ดุหญิงสาวที่กำลังนั่งกอดเข่าสะอื้นตัวโยนเสียงดัง ไม่สบายใจในสิ่งที่หญิงสาวพรั่งพรูออกมาเหมือนกัน เพราะเขาเองก็เสียน้องสาวไปจากอุบัติเหตุทางน้ำเช่นเดียวกัน หากตอนนั้นเขาว่ายน้ำเป็น วันนี้น้องของเขาก็คงจะมีชีวิตอยู่
“ก็คนมันเสียใจ เสียใจมากๆ ฮือๆๆๆ... คุณไม่เป็นฉันไม่รู้อะไรหรอก” พลอยชมพูเอ่ยไม่เป็นคำเธอก้มหน้างุดฟุบอยู่กับเข่า
“เงียบได้แล้ว” รณพีย์ที่ทนเห็นภาพนี้ต่อไปไม่ได้เขาจึงเลือกที่จะเข้าไปกอดปลอบเธอเอาไว้ นานเท่าไร่นับเวลาไม่ได้ กว่าหญิงสาวจะนิ่งสงบลงก็เป็นเวลาที่เธอผลอยหลับไปเรียบร้อยแล้ว
รณพีย์ค่อยๆ จัดแจงให้คนตัวเล็กนอนราบลงไปกับเตียงก่อนจะนั่งมองเธออยู่ครู่หนึ่ง เมื่อหัวใจเริ่มมีความสงสารหญิงสาวเข้ามาเขาจึงรีบออกไปจากตรงนี้ทันที
ข่าวที่มีนานุชได้รับรู้จากแน่งน้อยทำให้เธอเป็นลมแล้วล้มพับครั้งแล้วครั้งเล่าจนต้องหามกันมาที่โรงพยาบาล เพราะหลังจากที่รอสามีอยู่หลายชั่วโมงสาวหญิงสาวก็ได้รู้ว่าสามีของเธอถูกชรันทรยิงเข้าที่กลางหลังขณะพาเมนิลาหนีหลังจากนั้นตำรวจก็ทำการล้อมจะจับชรันทร จนชายหนุ่มรีบดึงเมนิลาเป็นตัวประกันก่อนจะวิ่งหนีไปที่ถนนใหญ่ ด้วยความที่ทางแถบนั้นค่อนข้างมือรถบรรทุกข์ที่ขับมาด้วยความเร็วไม่เห็นทั้งสองจึงชนเข้าไปเต็มๆ ทำให้ชรันทรและเมนิลาเสียชีวิตกันคาที่ทั้งคู่มีนานุชถูกสั่งให้นอนอยู่กับเตียงนิ่งๆ เพราะตอนนี้เธอมีภาวะเครียดจนทำให้เลือดออกเสี่ยงที่จะแท้ง“ทำไม ทำไมต้องมีเรื่องร้ายๆ แบบนี้เกิดขึ้นด้วย” หญิงสาวยังคงมีน้ำตาพรั่งพรูอยู่ตลอดเวลา จนแน่งน้อยและนาราที่เห็นสภาพแล้วก็อดสงสารไม่ได้“ป้าเข้าใจนะคะว่าคุณมีนเสียใจ แต่ตอนนี้โล่งใจได้อย่างหนึ่งแล้วนะคะว่าคุณเรย์ปลอดภัย ส่วนคุณรันกับคุณเมเค้าไปสบายแล้วนะคะ ตอนนี้คุณมีนต้องห่วงตัวเองกับลูกในท้องก่อนเข้าใจที่ป้าพูดไหมคะ”คนที่นอนอยู่บนเตียงพยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะหลับตาภาวนาในใจให้ชรันทรและเมนิลาไปสู่สุคติ และขอให้พระคุ้มครองลูกน้อยในท้องอย่าให้จากเธอไปตอน
กว่ามีนานุชจะหายกลัวและหายตัวสั่นได้รามินทร์ก็ต้องกอดปลอบอยู่พักใหญ่ เขารู้สึกผิดเหลือเกินที่ทำให้ภรรยาของเขาต้องมาเจอเหตุการณ์เลวร้ายที่ไม่คาดคิดมาก่อนเช่นนี้“คุณแค้นพี่ชายคุณมากเลยเหรอคะ คืนทุกอย่างให้เค้าแล้วปล่อยผ่านทุกอย่างไปได้ไหม ฉันคิดว่าหลังจากนี้ถ้าคุณไม่ถอยคุณได้ทะเลาะกับพี่ชายคุณใหญ่โตแน่” มีนานุชรับรู้ได้ตอนที่อยู่ใกล้กับชรันทร รังสีอำมหิตของเขามันแผ่ไปทั่วตัวของเธอจนทำให้กลัวจนถึงขั้นน้ำตาไหล เธอคิดว่าพี่ชายของสามีไม่จบเรื่องความบาดหมางง่ายๆ แน่ หากสามีเธอไม่เป็นฝ่ายถอยเสียเอง“ผมจะยอมจบทุกอย่างถ้าพี่รันยอมขอร้องผมแค่คำเดียว” รามินทร์ยอมรับว่าเขาอยากจะได้คำขอร้องจากปากของชรันทรเท่านั้น แค่นั้นจริงๆ เพราะเขาเชื่อว่าหากชรันทรยอมลดศักดิ์ศรีให้เขาได้ ทิฐิในใจของเขาทุกอย่างมันจะถูกขจัดออกไปได้“ดูก็รู้ว่าเค้าไม่ยอมง่ายๆ ฉันขอถามอะไรอย่างนึงได้ไหมคะ ที่คุณโกรธเคืองเค้าเพราะเค้าแย่งพี่เมไปจากคุณใช่ไหม” มีนานุชเงยหน้าจ้องมองคนที่กอดเธอซุกไว้กับอก“ไม่ใช่” รามินทร์เอ่ยเสียงอ่อนทั้งหลบสายตาของภรรยาตัวเล็ก เพราะมีเรื่องบางอย่างที่ปิดบังทุกคนเอาไว้“เค้าคือคนที่ขับรถชนมีนกับแม่ใช่
“อะไรนะ” สีหน้าระรื่นคราแรกเริ่มเปลี่ยนเป็นบึ้งตึง เมนิลาเริ่มเสียงแข็งเพราะกำลังรู้สึกได้ว่าตัวเองนั้นถูกรามินทร์ปั่นหัว“ส่วนบ้านหลังใหญ่ที่ผมให้คุณดู ถ้าคุณจะอยู่ก็อยู่ได้นะครับ แต่จ่ายค่าเช่าให้น้องคุณด้วยเพราะบ้านหลังนั้นผมซื้อให้มีน” รามินทร์ยังคงพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มราบเรียบ ทั้งใบหน้ายังเปื้อนรอยยิ้มตลอดเวลา ไม่ได้สะท้านกับคนที่กำลังเปลี่ยนสีหน้าเป็นยักษ์เป็นมารใส่เขา“แกหลอกใช้ฉันเหรอ!” เมนิลาลุกพรวดจากเด้าอี้ชี้หน้าตวาดลั่นใส่รามินทร์“คุณลองนึกดูดีๆ ว่าผมหลอกอะไรคุณ คุณได้ของมีค่าได้เงินไปจากผมตั้งเยอะ คุณมีแต่ได้กับได้คุณไม่เห็นจะเสียอะไรเลย”“ก็แกหลอกให้ฉันเข้าใจว่าแกยังรักฉันไง ให้ฉันหลอกผัวฉันให้ขายบริษัทให้แก แล้วมาทำกับฉันแบบนี้เนี่ยนะ”“คุณคิดเองเออเองคุณเม ออกไปจากบริษัทผมได้แล้ว หรือจะให้ผมตามคนมาลากคุณออกไป”“อ๊ายยยย...ฉันเกลียดแก” อาละวาดเสร็จก็เดินกระฟัดกระเฟียดออกไปจากห้องทำงานของรามินทร์ ท่าทีก้าวร้าวของหญิงสาวไม่ได้ทำให้รามินทร์รู้สึกมีโทสะแม้แต่น้อย กลับรู้สึกสมเพชเวทนาคนที่อยากได้ใคร่ดีโดยไม่สนหัวใครแม้แต่สามีของตัวเอง สมควรแล้วที่จะรับความผิดหวังกลับไปแบบนี้
และแล้วรามินทร์ก็ต้องรีบถอดกุญแจมือรีบไปโรงพยาบาลพร้อมกับมีนานุช หลังจากได้รับข่าวร้ายว่าตอนนี้พ่อของหญิงสาวกำลังอาการหนักต้องรีเข้ารับการผ่าตัดเอาเนื้อร้ายในสมองออก เพราะไม่เช่นนั้นจะไม่รอดภายในคืนนี้“คุณพ่อป่วยหนักแล้วทำไมคุณพ่อกับแม่ใหญ่ไม่เคยบอกมีนคะ” มีนานุชนั่งคุยกับเปรมนภาทั้งน้ำตา เพราะเธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าพ่อเธอนั้นป่วยด้วยโรคร้าย“ฉันก็อยากบอกแกแต่พ่อแกน่ะสิไม่ให้บอก ที่เค้ารีบยกแกให้เรย์ก็เพราะรู้ว่าจะดูแลแกไปได้ไม่ตลอดไง เค้าเลยอยากทำหน้าที่พ่อที่ดีบ้างเลยให้แกไปอยู่กับคนที่เค้ามีเงินรักษาดวงตาของแกแล้วก็เลี้ยงแกให้สุขสบายได้” เปรมนภาเห็นว่าไหนๆ เรื่องการป่วยของสามีเธอก็แดงขึ้นมาแล้ว จึงไม่คิดปิดบังเรื่องในใจที่ศรุตรู้สึกผิดต่อมีนานุชและดารัณ“คุณพ่อ” สาวเจ้าได้ยินเช่นนั้นก็ปล่อยโฮสะอื้นตัวสั่นจนรามินทร์ต้องรีบกุมมือของเธอเอาไว้ มีนานุชมองย้อนกลับไปในอดีตเธอเองก็ทำตัวดื้อรั้นกับพ่อของตัวเองหลายอย่างเช่นกัน เพราะต้องการเรียกร้องความสนใจและความเท่าเทียมกับพี่สาวคิดมาตลอดว่าพ่อไม่เคยรักไม่เคยหวังดี แต่มาถึงตอนนี้เธอรู้และเข้าใจทุกอย่างแล้ว ภาวนาในใจอยากให้พ่อของเธอรอดชีว
“อืม... อ่อ อีกสักพักฉันจะพาคุณเรย์ไปหายายพวกแกไปกับฉันนะ ไปเป็นกำลังใจให้ฉันหน่อย ฉันกลัวว่ายายจะโกรธที่ฉันแต่งงานแล้วเพิ่งจะไปบอก”“ได้... แล้วเอาเหลนไปฝากยายด้วยไหมล่ะ”“ยังไม่มีวี่แววเลย” มีนานุชเอ่ยตอบบราลีด้วยน้ำเสียงและท่าทีขวยเขิน เพราะคำนี้รามินทร์ก็พูดกับเธอด้วยเหมือนกัน“บอกให้คุณเรย์ขยันกว่านี้หน่อยสิ แกจะได้ท้องเร็วๆ” กมลเนตรเอ่ยหยอกมีนานุชเสียงดังจนคนในร้านรวมถึงพนักงานต่างก็ยิ้มกรุ้มกริ่มมองมายังพวกเธอเป็นตาเดียว“ชู่ว...เบาๆ สิ” มีนานุชรีบปรามให้กมลเนตรหลี่เสียงลง อยากจะพูดออกมาเหลือเกินว่าสามีเธอขยันแค่ไหนแต่ก็อายที่จะพูด แต่เป็นเธอเองที่ไม่มีวี่แววว่าจะท้องเสียที“เฮ้ย...” บราลีสะกิดกมลเนตรขณะเดินนำหน้ามีนานุชออกจากลิฟท์ เพาะเห็นว่าตอนนี้รามินทร์กำลังเดินหัวร่อต่อกระซิกคู่กับเมนิลาออกจากร้านอาหารหรู“คุณเรย์” มีนานุชยืนตัวชาวาบจ้องสามีของเธอและพี่สาวที่กำลังเดินหันหลังเข้าลิฟท์อีกฝั่งไป“กลับกันเถอะ ฉันไม่อยากกินอะไรแล้ว”กมลเนตรและบราลีรับขนาบข้างอีกคนยกมือลูบหลังอีกคนแตะบ่าเบาๆ ให้กำลังใจและปลอบโยนไม่ให้มีนานุชนั้นคิดมากกับภาพที่เห็น“เค้าอาจจะบังเอิญเจอกันก็ได้ แก
“ฉันพูดความจริงก็ได้ ว่าตอนแรกก็แค่ต้องการดูแลมีนเพื่อไถ่โทษ แต่ฉันก็ดันถูกใจเธอตั้งแต่แรกเห็นก็เลยลองเปรยกับพ่อของเธอดูว่าจะยกให้ไหม เค้าตอบตกลงมาง่ายๆ ฉันก็เลยเลือกที่จะแต่งงานกับเธอ แล้วตอนนี้ฉันก็รักมีนมากๆ ด้วย”“ตอนนี้รักเมียแกมาก แต่ทำไม่ดีลับหลังเมียแกเนี่ยนะ ฉันว่าแกแต่งงานกับมีนเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเมมากกว่า”“เป้าหมายของฉันไม่ใช่เม เธอก็แค่หมากตัวเล็กๆ เท่านั้น ฉันเชื่อว่าถ้าฉันให้เมได้เยอะกว่าที่พี่ฉันให้ คนอย่างเมนิลาก็ต้องคอยดูถูกดูแคลนพี่ฉันแน่ และคนอย่างพี่รันชอบให้ใครมาดูถูกที่ไหน ฉันเชื่อว่าเค้ากำลังจะทำทุกทางเพื่อเอาชนะฉัน ดูสิ ตอนนี้เค้าก็ตั้งใจจะเปิดบริษัทแข่งกับฉัน แต่ดูท่าจะไปไม่รอดแล้วด้วย”เมคินทร์เงียบไปครู่หนึ่งก่นจะคิดอะไรบางอย่างออก “แกต้องการให้พี่แกมาขอความช่วยเหลือจากแกใช่ไหม”“สมกับที่แกเป็นเพื่อนรักฉันเลยเมฆ ฉันต้องการแค่นั้นเลย”“แกก็รู้ว่าเรื่องการแก้แค้นเอาคืนมันมีแต่เรื่องสูญเสียมากแค่ไหน ดูตัวอย่างจากโรมสิ ตอนนี้มันมีความสุขตรงไหน” เมคินทร์หลับตาถอนหายใจอ่อน ทั้งๆ ที่รามินทร์ก็เห็นตลอดว่าครั้งที่ร่วมมือกับรณพีย์แก้แค้นศัตรูมันมีแต่ความสูญเสีย