หลังจากที่ถ่ายละครเสร็จแล้วลีน่าไม่มีจิตใจจะไปชอปปิ้งที่ไหนอีกแล้ว เธอเหนื่อยจนอยากกลับบ้าน และที่สำคัญห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดนั้นเป็นของครอบครัวเธอเอง ไม่รู้จะไปเที่ยวทำไมให้ปวดขา อยากได้อะไรก็โทรบอกให้พี่ๆ เอามาให้เลือกที่บ้านแล้วจ่ายเงินก็จบแล้ว
“กลับบ้านเลยหรือเปล่า” แก้วดาราหันไปถามเพื่อนสนิท
“กลับเลย วันนี้เบื่อไม่อยากไปไหน คิดถึงยายลูกแก้วด้วย ตอนนี้น่าจะกลับมาถึงบ้านแล้ว”
“ดีเหมือนกันฉันเองก็คิดถึงยายหนูมากไม่เจอหลายวันแล้วด้วย พี่ชายแกหวงลูกยิ่งกว่าจงอางหวงไข่เสียอีก” แก้วดาราอดที่จะนินทาพี่ชายจอมเย็นชาของเพื่อนรักไม่ได้
“พี่รามเย็นชาก็จริง แต่ถ้ารักใครก็จะรักสุดใจนะแก ไม่ลองเปิดใจดูล่ะ”
“ฉันว่าเราเลิกคุยกันเรื่องนี้เถอะ แกคุยกับฉันมาหลายปีแล้ว ไม่เบื่อหรือยังไง” แก้วดาราไม่อยากให้เพื่อนพูดถึงเรื่องนี้อีกแล้ว เธอขอมองดูอยู่ห่างๆ แบบนี้ก็พอ
ทันทีที่กลับมาถึงบ้านทั้งสองสาวเจอกับลูกแก้วตัวน้อยกำลังเดินเตาะแตะที่สนามหญ้าหน้าคฤหาสน์ของตะกูลอิริคเซ่
“ยีน่า” แม่หนูตัวน้อยดวงใจของบ้านยิ้มหวานให้คุณอาคนสวย
“ลูกแก้วอาชื่อลีน่าค่ะลูก ไม่ใช่ยีน่า เปลี่ยนชื่อให้อาอีกแล้ว”
ลีน่ายิ้มหวานแกล้งบ่นหลาน ก่อนจะอุ้มแม่หนูตัวน้อยแล้วหอมแก้มซ้ายขวาด้วยความเอ็นดู
“พี่รามกลับมานานแล้วเหรอคะ”
“อืม พรุ่งนี้พี่จะบินไปดูงานที่อเมริกา เราพอจะว่างดูลูกแก้วหรือเปล่า” ราเมศหันมาถามน้องสาวแต่สายตานั้นมองไปทางแก้วดาราเพื่อนสนิทของน้องสาวแทน
“พรุ่งนี้น้องมีถ่ายสองฉากสุดท้าย แต่ไม่เป็นไรให้ยายแป๋มอยู่ดูลูกแก้วแทนก่อนแล้วกันนะ น้องไปกองถ่ายเองได้พี่รามไม่ต้องเป็นห่วงยายหนูลูกแก้ว พี่ไปทำงานเถอะแต่ครั้งนี้พี่จะไปกี่วันล่ะ”
“หนึ่งอาทิตย์ เราอยากจะได้อะไรไหม”
“ไม่ล่ะ พี่ซื้อมาฝากพี่เลี้ยงจำเป็นของลูกแก้วเถอะ” ลีน่าพูดเหมือนไม่ใส่ใจ แต่สายตานั้นสังเกตทั้งสองคนที่เธอรัก ปากแข็งกันทั้งคู่ดีนักเดี๋ยวเถอะ ระวังผีผลักไม่รู้ตัว
“จริงสิแป๋ม วันนี้คุณก้องภพพ่อพระเอกสุดหล่อมาคุยกับฉัน ถามว่าแกมีแฟนหรือยังดูท่าทางเขาจะสนใจแกนะ” ลีน่าส่งหลานสาวไปให้เพื่อนสนิทก่อนจะพูดถึงเรื่องพ่อพระเอกของเรื่อง ที่คอยมาถามว่าเพื่อนของเธอนั้นมีแฟนหรือยัง
“แล้วเธอตอบไปว่ายังไง”
“จะให้ตอบยังไงล่ะ ฉันก็ตอบว่าแกทั้งโสดทั้งสดนะสิ คุณก้องภพเท่าที่ฉันร่วมงานมา ฉันว่าเขาเป็นคนดีนะ ไม่มีแฟนแถมยังโสดร้อยเปอร์เซ็นต์ แกไม่ลองคบดูละฉันหนับหนุน” ลีน่ายังไม่หยุดที่จะกระทุ้งต่อ ตอนนี้ดูเหมือนว่าพี่ชายสุดที่รักของเธอคิ้วเริ่มจะขมวดแล้ว
“ก่อนจะคบใครศึกษานิสัยใจคอให้ดีเสียก่อน ระวังจะโดนหลอกไม่รู้ตัว” รามหรือราเมศมาเฟียผู้แสนเย็นชาต่อคนทั้งโลกยกเว้นลูกสาวและน้องสาว เมื่อพูดจบจึงเดินเข้ามาอุ้มลูกสาวตัวน้อยเดินเข้าบ้านไปทันที
ทำเอาสองสาวต้องมองหน้ากันด้วยความสงสัยว่าพี่รามไปกินอะไรผิดมาหรือเปล่า“พี่ชายแกประจำเดือนไม่มาเหรอ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่เลย” แก้วดาราไม่เข้าใจ จะมาแสดงอาการเหวี่ยงใส่เธอทำไม บ้าหรือเปล่า
“ช่างเถอะ สงสัยจะเข้าวัยทองแล้ว เข้าบ้านกันดีกว่า คืนนี้ฉันนอนกับแกนะ ไม่รู้พี่ชายแกจะเดินทางตอนไหนเป็นห่วงลูกแก้ว” แก้วดาราห่วงหลานตัวน้อย เพราะพรุ่งนี้เพื่อนสาวของเธอจะต้องไปถ่ายสองฉากสุดท้ายของละครเรื่องนี้แล้ว จากนั้นทั้งสองคนจูงแขนกันเข้าบ้านด้วยเสียงหัวเราะ
เช้าวันต่อมาหลังจากที่กินมื้อเช้าลีน่าเตรียมที่จะออกจากบ้าน ก่อนไปจึงเข้าไปหอมแก้มหลานสาวสุดที่รักไปสองฟอด แม่หนูน้อยลูกแก้วหัวเราะคิกคักที่อาสาวมาเล่นด้วย
“เย่น เย่น”
“เล่นไม่ได้ค่ะคนเก่ง ลูกแก้วอยู่กับอาแป๋มก่อนนะ วันนี้อาต้องไปถ่ายละคร เย็นนี้อากลับมาเล่นด้วยนะคะ” ลูกแก้วเป็นเด็กที่รู้ความนัก พออาสาวคนสวยบอกว่าต้องไปทำงาน ค่อยกลับมาเล่นด้วยตอนเย็น หนูน้อยพยักหน้าหงึกหงัก ทำเอาอาสาวอย่างลีน่าใจละลายแทบไม่อยากจะออกไปทำงาน
“เตรียมรถเสร็จแล้วครับคุณหนู” บอดี้การ์ดคนหนึ่งเดินเข้ามาบอก
“วันนี้ลีน่าจะขับรถไปเอง พี่ ๆ ขับตามก็พอ”
“ไม่ได้ครับ คุณรามสั่งไว้ว่าช่วงที่คุณรามไม่อยู่ห้ามให้คุณลีน่าขับรถเอง อย่าทำให้พวกเราลำบากใจเลยครับ”
“โอเค ไปกันเถอะสายแล้ว” ลีน่ายอมในที่สุด จากนั้นจึงเดินขึ้นรถเดินทางไปทำงานพร้อมกับบอดี้การ์ดทั้งสามคน
เมื่อมาถึงกองถ่ายลีน่าเข้าฉากตามปกติเหมือนเช่นเคย เธอแสดงจนมาถึงฉากสุดท้าย เป็นฉากที่นางร้ายของเรื่องไม่อยากถูกรับโทษที่กระทำความผิดด้วยการติดคุก เธอจึงเลือกที่จะยิงตัวตาย ฉากนี้ซักซ้อมกันหลายครั้งจนมาถึงเวลาถ่ายจริง แต่ไม่มีใครรู้ว่าปืนที่ใช้ถ่ายทำนั้นได้มีการเปลี่ยนมาเป็นปืนจริงเรียบร้อยแล้ว ปัง!!!
“คุณลีน่า / คุณหนู” บอดี้การ์ดได้ยินเสียงปืนจึงรีบวิ่งเข้ามาโดยไม่สนใจกฎของกองถ่ายอีกเลย ส่วนอีกสองคนที่เหลือรีบสั่งหยุดกองถ่าย ห้ามไม่ให้ใครออกไปจากที่นี่
“คุณหนูทำใจดีๆ ไว้นะครับ เดี๋ยวผมจะรีบพาไปส่งโรงพยาบาล” บอดี้การ์ดเตรียมอุ้มตัวเจ้านายสาว แต่กลับได้ยินเสียงห้ามของเธอเสียก่อน
“ไม่...ไม่ต้อง ฉัน...ไม่ไหวแล้ว”
ลีน่าพูดเสียงกระท่อนกระแท่น ตอนนี้เธอเจ็บแทบขาดใจ แต่สิ่งที่เธอเป็นห่วงคือพี่ชายและหลานสาวตัวน้อย ถ้าหากเธอตายไปพี่รามคงเสียใจมาก เพราะเธอคือน้องสาวเพียงคนเดียวของเขา และยังมีแก้วดาราเพื่อนสนิทของเธออีกคน ทั้งสองจะเจ็บปวดแค่ไหนเมื่อรู้ว่าเธอตายไป
“ฉัน...ฝากขอโทษพี่รามด้วย ให้พี่รามช่วย...ช่วยดูแลยายแป๋มแทนฉันด้วยนะ”
สิ้นคำพูดนี้ลีน่าหมดลมหายใจไปในอ้อมกอดของบอดี้การ์ดตัวโตทันที จึงสร้างความตกใจและแตกตื่นให้กับคนในกองถ่ายเป็นอย่างมากผู้จัดละครอย่างคุณปัทมาเป็นลมลงไปหลังจากที่รู้ว่านางร้ายอย่างลีน่าหมดลมหายใจ
ร่างโปร่งแสงของลีน่าที่กำลังยืนมองเหตุการณ์อยู่นั้น อยู่ๆ ดวงวิญญาณก็ลอยตามแรงกระชากของใครบางคน จนมาอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นตา เมื่อพบคนหน้าดุลีน่าจึงเอ่ยถาม
“คุณคือท่านยมใช่ไหม” ในเมื่อตายแล้วคงไม่ไปไหนแน่ ถ้าไม่นรกก็คงจะเป็นสวรรค์ แต่ภาพที่เห็นคงไม่ใช่สวรรค์หรอกมั้ง
“ใช่ ฉันคือยมทูตตอนนี้เธอตายแล้ว รอดูสมุดรายชื่อของเธอก่อนว่ามีกรรมดีกรรมชั่วมากแค่ไหน”
“นางสาวลีน่า อิริคเซ่ถึงแก่กรรมวันที่.... เห้ย! เวรแล้ว เอาวิญญาณมาผิดดวง” ยมทูตกำลังอ่านรายชื่ออยู่นั้นสะดุ้งตัวโยน งานเขาแล้วเอามาผิดทีนี้ทำยังไงล่ะ เวลาของที่นี่หนึ่งชั่วโมงเท่ากับเวลาของมนุษย์หนึ่งเดือน จะเอากลับไปคืนร่างเดิมก็คงไม่ทันแล้วเพราะนี่ก็ผ่านมาหลายชั่วโมง ซวยแล้ว!!!
“หมายความว่าไง ฉันยังไม่ถึงเวลาตายใช่ไหมคุณท่านยม”
ลีน่ากัดฟันกรอด ดี! ดีเหลือเกินเอาวิญญาณมาผิดดวง แบบนี้เธอจะกลับไปได้อีกไหม
“เอ่อ... ใจเย็นๆ นะลีน่า ใจเย็นก่อน!” ท่านยมรีบพูดเมื่อเห็นว่าวิญญาณของนางร้ายตรงหน้าเริ่มมองเขาตาขวาง และเดินเข้าหาเขาช้าๆ
“ใจเย็นแล้วฉันจะกลับไปได้ไหมคุณท่านยม สามีก็ยังไม่มี คนรักก็ยังไม่เจอ แล้วยังมีพี่ชายฉันอีกที่ต้องเสียใจมากกับการตายของฉัน พี่รามจะทำยังไงหากรู้ว่าน้องสาวคนเดียวตายไป คิดสิคิดคุณท่านยม” หากยมทูตตรงหน้าไม่มีคำตอบที่ดีให้กับเธอ คอยดูเถอะ เธอจะทำให้ที่นี่แตกตื่นและวุ่นวายให้ดู
“ฉันจะส่งเธอไปเกิดใหม่ตกลงไหม แต่คงกลับไปที่ครอบครัวของเธอไม่ได้แล้ว แต่ที่ฉันจะส่งเธอไปเกิดนั้น เธอมีทั้งคนรักที่รักเธอมากและครอบครัวเธออบอุ่นมากเช่นกัน ใจเย็นก่อนนะ และฉันจะมอบพรให้เธอหนึ่งข้อ เธอสามารถขออะไรก็ได้”
ลีน่าคิดตาม ก่อนจะตอบกลับในที่สุด “ตกลง แต่ต้องสามข้อ ไม่เอาข้อเดียว ถ้าไม่ให้ฉันจะร้องถึงท่านพญายม จะให้ไหมแล้วต้องบอกด้วยว่าจะส่งฉันไปที่ไหน” ในเมื่อกลับไปไม่ได้แล้ว ก็ขอพรเยอะๆ ก็แล้วกัน
“ฉันจะส่งเธอไปในยุคแปดศูนย์ของจีน เป็นครอบครัวคุณหนูลูกสาวผู้มีอิทธิพล เธอไม่มีอะไรที่ลำบากเลย พรข้อเดียวพอแล้ว” ยมทูตตนนี้พยายามต่อรอง แค่ให้พรข้อเดียวเพื่อชดใช้ความผิดพลาดน่าจะพอ ไม่คิดว่านางร้ายตัวแม่จะกล้าเรียกร้องถึงสามข้อ
”ท่านพยายมเจ้าขา! ฉันลีน่ามีเรื่องจะร้องเรียนเจ้าค่ะ” ลีน่าร้องโวยวายเสียงดัง เอาวิญญาณเธอมาผิดยังไม่พอยังจะขี้เหนียวอีก
“ตกลง ตกลง สามข้อก็สามข้อ” ยมทูตต้องรีบเบรกและตอบตกลง ไม่อย่างนั้นหากเรื่องถึงหูของท่านพญายม เขาต้องโดนลงโทษต่อไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดแน่
ตอนพิเศษ 4 ซวี่เซิ่งเสว่ - เกาฮ่าวซวนหลังจากที่ตัดสินใจก้าวเดินออกมาจากหลี่เหว่ยเฉียงพร้อมกับลูกน้อย ซวี่เซิ่งเสว่ไม่ได้รับความลำบากเท่าไหร่ เมื่ออยู่ภายใต้การดูแลของนายหญิงโรงน้ำชาในเวลาสามสี่ปีที่ผ่านมา มีเกาฮ่าวซวนที่คอยดูแลเธอและลูกมาตั้งแต่ก้าวเท้าเหยียบปักกิ่ง ตอนนี้เธอจึงมีตำแหน่งหัวหน้างานด้านห้องอาหารและดูแลในส่วนของการแสดงของโรงน้ำชาเหมยกุ้ยเสี่ยวเหยาอายุสี่ขวบ ใครเห็นก็หลงรักแม่หนูน้อยคนนี้ คำแรกที่เรียกได้คือคำว่าพ่อ ซึ่งนั้นก็คือเกาฮ่าวซวน เธอเองก็เกรงใจเพราะพี่ฮ่าวซวนยังไม่แต่งงาน และไม่ใช่มองไม่ออกว่าเขาคิดยังไงกับเธอ แต่บาดแผลที่เธอเจอมามันสาหัสนัก อีกทั้งหลี่เหว่ยเฉียงคือรักแรก มันยากที่จะลืมจริงๆ แต่คงมีสักวันที่เธอลืมได้และขจัดภาพของหลี่เหว่ยเฉียงออกจากหัวใจ เพราะถ้าหากเธอรับรักพี่ฮ่าวซวนตอนนั้นเท่ากับเธอทำร้ายทั้งตัวเธอเองและพี่ฮ่าวซวน จนมาถึงวันนี้เธอคิดว่าตัวเองพร้อมแล้วที่จะเปิดรับเขาเข้ามาในชีวิต เป็นพ่อจริงๆ ของเสี่ยวเหยาตัวน้อยเสียทีเย็นนี้ซวี่เซิ่งเสว่จึงกลับมาทำอาหารด้วยรอยยิ้มและเต็มเปี่ยมด้วยความสุข เพราะเธอนัดให้พี่ฮ่าวซวนมากินอาหารด้วยกัน ระหว่างที่ทำ
ตอนพิเศษ 3 อาเผย - ซินอี้หลังจากส่งนายหญิงกลับบ้าน อาเผยจึงให้ลูกน้องสืบเรื่องของหมอซินอี้คนสวย หลังจากนั้นไม่กี่วันเขาก็ได้รับคำตอบว่าคุณหมอซินอี้นั้นเป็นใคร ซินอี้เป็นลูกสาวนักการทูตประจำที่ปักกิ่ง มีพี่ชายเป็นทหารซึ่งก็คือนายพลจ้าน ไม่รู้ว่าเป็นเวรกรรมของตัวเองหรือไม่ สนใจหญิงสาวครั้งแรกดันไปรักน้องสาวท่านนายพลเสียได้ แต่พอคิดว่าฐานะนั้นต่างกันเกินไปอาเผยจึงคลายความสนใจของตัวเองและตั้งหน้าทำงานตามปกติจนวันที่นายท่านกลับมาจากการฝึกซ้อมรบจากสถานที่จริงนายท่านให้กำลังใจและบอกให้เดินหน้า หากมั่นใจเขาและภรรยาจะเป็นเถ้าแก่ไปสู่ขอให้เอง ใครบ้างจะกล้าปฏิเสธคนสนิทของนายท่านแห่งโรงน้ำชาเหมยกุ้ยวันเวลาผ่านมาจนถึงวันที่หมอซินอี้ตอบรับคำเชิญของหลิวชิงเย่ว แม้ว่าจะไม่ได้มาต้อนรับด้วยตัวเอง แต่ก็ส่งอาเผยมาต้อนรับแทน“สวัสดีครับคุณหมอซินอี้” อาเผยเดินยิ้มร่าเข้ามาเมื่อพนักงานมาบอกว่าคุณหมอมาถึงแล้ว“สวัสดีค่ะคุณ...” ซินอี้ยิ้มให้และทักทายกลับไปแต่เธอไม่รู้จักชื่อของชายตรงหน้าจึงทำหน้าเหมือนจะถาม“ผมชื่ออาเผยครับ”“สวัสดีค่ะคุณเผย คุณไม่ต้องเรียกฉันคุณหมอหรอกนะคะ มันเป็นทางการจนเกินไปเ
ตอนพิเศษ 2 มู่ฟ่านปิง-มู่หยางอย่าคิดว่าเหวินตงจะปล่อยร่างบางไป ในเมื่อเธอคือดวงใจของเขา เขาแอบรักมาตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นรอยยิ้มของเธอตอนเรียนมัธยมปลายแล้ว คิดว่าเขาจะปล่อยไปง่ายๆ เหรอ ไม่มีทางหรอก “ไม่ครับ พี่ไม่ปล่อย เสี่ยวปิงเต็มใจเป็นของพี่ พี่ก็ดีใจมากแล้วไม่จำเป็นต้องวางยาตัวเองหรอกนะ เพราะไม่เช่นนั้นเราจะไม่ได้นอนทั้งคืนแน่คืนนี้” เหวินตงพูดอย่างเจ้าเล่ห์ เนื้อกวางมาถึงปากแล้วคิดว่าเขาจะยอมปล่อยไปเหรอ หากเธอกล้าเดินออกไปจากห้องด้วยสภาพนี้ ใครเห็นเขาจะควักลูกตาออกมาจริงๆ มู่ฟ่านปิงตาโตมองอย่างตกใจ คนบ้านี่พูดไม่อายจริงๆ แต่ก่อนที่จะทันได้คิดอะไร เธอกลับโดนคนที่กำลังจะเป็นสามีอุ้มไปที่เตียงและปลดเปลื้องปราการสองชิ้นสุดท้าย ก่อนจะทำหน้าที่สามีให้เธอด้วยความรักและเป็นสามีภรรยากันอย่างสมบูรณ์ ห้องของซือโถก็ไม่ต่างจากห้องของมู่ฟ่านปิงเท่าไหร่ เพราะมีเจ้านายหนุ่มที่ควบตำแหน่งเพื่อนสนิทมานั่งมึนอยู่ในห้อง “นายไม่ไปนอนเหรอ งานพรุ่งนี้ฉันเตรียมให้หมดแล้ว” ซือโถเอ่ยถาม แม้จะชอบชายหนุ่มตรงหน้ามากกว่าคำว่าเพื่อน แต่เธอยังไม่กล้าอาจเอื้อมถึง
ตอนพิเศษ 1 พ่อแม่ลูกดก NCมู่ยวี่เฉินตั้งหน้าตั้งตาทำลูกสาวอย่างขะมักเขม้น เขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าปีหน้าเขาต้องมีก้อนแป้งตัวน้อยๆ น่ารักน่าชังอีกคนสองคน ทุกครั้งที่ตั้งใจทำสองแฝดมักจะก่อกวนพ่อเช่นเขาตลอด วันนี้ครอบครัวมีงานเลี้ยงอย่างน้อยเขาก็มีโอกาส หลังจากที่คุยกับน้องทั้งสองคนมู่ยวี่เฉินอุ้มภรรยารักเข้าห้องโดยไม่สนใจน้องๆ อีกเลย“ชิงชิงเราเข้ามิติกันเถอะนะ” ปากนั้นออดอ้อนขอเข้ามิติ แต่มือนั้นยุ่มย่ามถอดชุดภรรยาอย่างตั้งใจหลิวชิงเย่วนับวันสามีเธอยิ่งหน้ามึนกว่าเมื่อก่อน นี่ใช่สามีจอมเย็นชาของเธอหรือไม่ ผู้ชายที่เธอเจอตรงลำธารคนนั้นไปไหนแล้ว แม้ว่าจะแอบบ่นในใจแต่ก็ยังพาสามีสุดที่รักเข้ามิติตามคำขอเมื่อเข้ามาในมิติแล้วมู่ยวี่เฉินไม่สนใจอีก อุ้มภรรยารักนั่งที่โต๊ะกลางสนาม เขาจับขาเธอแยกออกจากกัน ก่อนจะใช้ลิ้นของตัวเองไล่เลียกลีบดอกไม่งามของภรรยารัก ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปี ไม่ว่าจะกินและสัมผัสมากี่ครั้ง ดอกไม้ดอกนี้ของภรรยายังคงหอมหวานและสดใหม่สำหรับเขาเสมอไม่เพียงใช้ลิ้นเลียกลีบทั้งสองข้าง เขายังคงใช้ลิ้นตวัดจุดเสียวของภรรยาคือเกสรของดอกไม้ จนทำให้หลิวชิงเย่วบิดตัวด้วยความเสียว แต่กลับต
บทส่งท้าย ไม่มีอะไรมาพรากจากกันสามปีผ่านไป หลิวชิงเย่วไม่คิดเลยว่าธุรกิจของเธอจะก้าวกระโดดได้ขนาดนี้ บริษัทเหมยกุ้ยขยายตัวจนติดอันดับหนึ่งของสายธุรกิจ ลูกชายที่น่ารักตอนนี้ก็อายุห้าปีแล้ว ความแสบความซนยังคงมีอยู่ ส่วนน้องทั้งสองเรียบจบเรียบร้อยแล้ว เธอจึงให้บริหารงานที่ปักกิ่งแทนเธอ พร้อมกับมอบกิจการให้ทั้งสองคนดูแลเพื่อเป็นทรัพย์สินของตัวเองอีกด้วยไม่เพียงแค่ธุรกิจของเธอเท่านั้นที่ก้าวกระโดด ตำแหน่งสามีของเธอเช่นกัน ตอนนี้ได้ติดยศเป็นผู้พันด้วยแรงสนับสนุนของพ่อบุญธรรม ท่านเกษียณตัวเองเพื่อออกมาดูแลและเลี้ยงหลานๆ รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงท่านอื่น ไม่ใช่เพราะฐานะของนายท่านมู่ แต่เพราะความสามารถของตัวมู่ยวี่เฉินเองด้วยหากจะไม่พูดถึงหลี่เหว่ยเฉียงอดีตสามีของเธอคงไม่ได้ หลังจากที่สอบสวนและโดนโทษของการคบชู้แล้ว เขายังติดคุกเพิ่มอีกสามปีข้อหาพยายามทำร้ายเพื่อทหารด้วยกัน ในช่วงที่ติดคุกนางจ่างซื่อหรือแม่เฒ่าหลี่ตรอมใจที่ลูกชายโดนจับ และหญิงสาวที่หมายมั่นว่าจะเป็นลูกสะใภ้เธอกลับไม่สนใจ หลังจากรับโทษเสร็จหญิงสาวรายนั้นก็มีคนรักใหม่แม้อยากจะสืบหาสวี่เซิ่งเสว่แค่ไหนก็ไม่ได้ข่าวคราวเลย ทำให้นา
บทที่ 45 ความสำเร็จการใช้ชีวิตของทุกคนยังคงดำเนินไปตามที่ควรจะเป็น กิจการของหลิวชิงเย่วนั้นเจริญงอกงามขึ้นเรื่อยๆ เธอยังติดต่อส่งขายเครื่องสำอางไปยังต่างประเทศ สร้างแบรนด์เป็นของตัวเอง หากถามว่าเธอยังเอาของออกมาจากมิติไหม ตอบเลยว่ามีบ้างอย่างแต่ไม่ทั้งหมดตอนนี้เธอสร้างโรงทอผ้าเองแม้ว่าจะมีผ้าในมิติมากมายก็ตาม แต่ถ้าเกิดวันหนึ่งลูกค้าถามว่าเอาผ้ามาจากไหนจะให้เธอตอบยังไง โรงงานของเธอนอกจากผลิตและตัดเย็บให้ร้านชิงเย่วบูติกแล้ว ยังผลิตให้ลูกค้ารายอื่นๆ อีกด้วย แต่แบบที่เปิดขายนั้นจะไม่ซ้ำกับร้านของเธอส่วนเนื้อผ้าขึ้นอยู่กับราคาและต้นทุนที่ลูกค้าให้งบมา ส่วนโรงน้ำชาจะไม่พูดถึงเลยไม่ได้ ตั้งแต่เริ่มทำจนถึงวันนี้ก็สามปีแล้ว ตอนนี้โรงน้ำชาขยายเพิ่มไปอีกหลายสาขา ส่วนโชว์รูมรถยนต์ก็มียอดสั่งซื้อเข้ามาตลอดเช่นกัน ตอนนี้พี่ใหญ่จ้านซากำลังติดต่ออีกสองยี่ห้อเพื่อเป็นตัวแทนขาย หลิวชิงเย่วจะใช้เงินต่อเงินในการทำธุรกิจ นอกจากธุรกิจที่พูดก่อนหน้านี้ยังมีที่ห้างสรรพสินค้าที่กำลังก่อสร้างและโรงแรม ยังไม่รวมอะพาร์ตเม้นต์และคอนโดที่กำลังทำ ภายในสามปีเธอสร้างได้ขนาดนี้ถือว่าธุรกิจโตพอสมควรส่วนสองแฝดก็อา