จิวหลินน้องสาวฝาแฝดที่ต้องมาเข้าพิธีแต่งงานแทนพี่สาวของตนเอง แต่ทว่าเมื่อเข้ามาอยู่ที่วังหลังนางก็ได้พบเจอเรื่องที่นางไม่คาดคิดเพราะการที่นางเข้ามาแทนท่านพี่ในครั้งนี้ช่างมีเลศนัยและนางก็ได้มารู้ตอนที่เข้าห้องหอว่าองค์ชายที่ตนเองแต่งงานแทนนั้นเป็นองค์ชายอัปลักษณ์ ชีวิตของจิวหลินจะเป็นอย่างไรต่อไป “จิวหลิน” น้องสาวฝาแฝดของ “จิวซิน” ที่คลานตามกันออกมาตั้งแต่เด็ก แต่ทว่าโชคชะตาได้ให้นางแยกอยู่กับท่านพี่โดยมีท่านป้าพี่สาวของท่านพ่อรับตัวนางไปอยู่ด้วยเนื่องจากท่านป้าของนางไม่มีลูก จนนางเติบโตมาอย่างแข็งแรงและสมบูรณ์ นางเป็นสตรีที่เก่งในทุก ๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นงานของบุรุษนางเองก็ทำได้ไม่ต่างจากคนเหล่านั้น ทำให้ท่านป้าของนางรักนางยิ่งนัก แต่แล้วจู่ ๆ ก็มีจดหมายมาที่จากครอบครัวของจิวซินพี่สาวฝาแฝดของนาง เป็นเรื่องดีทีเดียว นางและท่านป้าก็ได้เดินทางไปที่เรือนของตระกูลจิว จิวหลินไม่เคยน้อยเนื้อต่ำใจที่ถูกท่านป้าขอมาเลี้ยงนางได้รับความรักความดูแลเป็นอย่างดีเลยไม่นึกโกรธท่านพ่อและท่านแม่แม้แต่น้อย ผู้ใดจะไปคิดว่าโชคชะตาของนางจะเปลี่ยนไปจากการกลับมาเหยียบที่ตระกูลจิวในครั้งนี้
view more"ชีวิตพลิกผันได้เข้ามาเป็นชายาขององค์ชายอัปลักษณ์ แต่เมื่อเข้ามาอยู่วังหลังทุกอย่างกลับไม่เป็นเช่นดั่งที่นางคิดไว้"
บทที่ 1 เรือนสกุลจิว
“กรุบกรับ กรุบกรับ” เสียงฝีเท้าของรถม้ากำลังวิ่งอยู่หนทางอย่างรวดเร็วสตรีที่งดงามพร้อมกับท่านป้านั่งอยู่บนรถม้านั้นถูกบังคับโดยบ่าวรับใช้ของเขา กำลังมุ่งหน้าไปที่บ้านเกิดของจิวหลิน นางตื่นเต้นมากเพราะนางจำอะไรไม่ได้สักอย่างรวมถึงใบหน้าท่านพ่อและท่านแม่ หัวใจอยู่ไม่เป็นสุข นางพยายามข่มใจหายใจเข้าออกอย่างช้า ๆ จนท่านป้าของนางมองออก
“จิวหลินเจ้าตื่นเต้นสินะ "
“ท่านป้า ข้าตื่นเต้นจนขาของข้าอยู่ไม่นิ่งแล้ว อยากรู้เหลือเกินว่าใบหน้าของท่านพ่อท่านแม่จะเป็นเช่นไร พี่สาวของข้าจะงดงามมากกว่าข้าไม่นะ” นางจินตนาการคิดถึงใบหน้าของครอบครัวก็ยิ้มออกมาอย่างตื่นเต้น
“เด็กน้อยเอ๋ย ท่านพ่อท่านแม่ของเจ้าก็มีใบหน้าเฉกเช่นเจ้า เจ้าถอดแบบทั้งสองออกมาทั้งหมด หากเจ้าอยากคลายความตื่นเต้นเจ้าก็เปิดหน้าต่างออกไปรับลมให้สบายใจเถิด อีกไม่นานก็ถึงเรือนสกุลจิวแล้วล่ะ” หญิงวัยชราเอ่ยกับนางอย่างเอ็นดู หากเด็กสาวที่เขาเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก แต่งงานออกเรือนไปเขาคงจะเศร้าไม่น้อย เพราะจิวหลินเป็นเด็กฉลาดพูดเก่ง ทำให้นางรักเช่นบุตรที่ออกมาจากท้องของนาง
จิวหลินเปิดหน้าต่างรับลมเล็กน้อย วันนี้อากาศค่อนข้างดีนางมองทอดไปด้านหน้าลมตีเข้ากับใบหน้าทำให้นางสบายใจขึ้น ไม่นานนักรถม้าก็มาถึงที่หมู่บ้าน จิวหลินตื่นตาเป็นอย่างมาก แม้ที่ที่นางอยู่จะมีตลาดเช่นกันแต่ที่นี่ก็มีอะไรที่ไม่เหมือนกับที่นางอยู่มากมาย จนกระทั่งรถม้ามาหยุดอยู่ที่หน้าเรือนหลังใหญ่ ป้ายชื่อสลักติดบนหน้าประตูทางเข้าคือบ้านสกุลจิว หัวใจของนางเต้นแรงจนแทบไม่เป็นจังหวะมือไม้เย็นเพราะความตื่นเต้น ท่านป้าของนางจับมือของนางเอาไว้และให้มืออีกข้างตบลงที่หลังมือเบา ๆ
“เจ้าคงตื่นเต้นมากสินะ มือของเจ้าถึงเย็นได้ขนาดนี้ มาเถิดตอนนี้ถึงบ้านสกุลจิวแล้ว” ท่านป้าได้เอ่ยบอกกับจิวหลิน
“ท่านป้าลงดี ๆ นะเจ้าคะ วันก่อนท่านป้าบ่นว่าปวดเข่าอยู่เมื่อกลับจากงานของพี่จิวซินข้าจะนวดให้ท่านป้าเองนะเจ้าคะ”
“เด็กคนนี้ช่างพูดเอาใจข้าเก่งเสียจริง ” ทั้งสองยิ้มให้กันและเดินลงจากรถม้าอย่างช้า ๆ
ชายชรากับสตรีที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ใบหน้าซูบผอมแต่ก็มีราศีของฮูหยินจับอยู่ จิวหลินรู้ในทันทีว่านี่คือท่านพ่อและท่านแม่ของนาง เมื่อนางเห็นท่านทั้งสองจึงได้โค้งตัวลงคารวะ
“ข้าจิวหลิน คารวะท่านพ่อ คารวะท่านแม่” ผู้เป็นป้าที่เฝ้าฝึกสอนมาก็ยิ้มอย่างปลื้มปริ่มหัวใจ
“ท่านพี่สบายดีหรือ นี่เจ้าคือจิวหลินของเราหรือนี่” ท่านพ่อได้เอ่ยถามพี่สาวของตนก่อนจะมองดูสตรีร่างเล็กใบหน้าจิ้มลิ้มยืนคารวะเขาอยู่ส่วนผู้เป็นแม่นั้นก็ได้โผล่เข้ากอดบุตรของตนเองด้วยความคิดถึง
“จิวหลินของข้า เจ้าช่างเหมือนกับพี่สาวของเจ้าไม่มีผิด เป็นเช่นไรบ้างชีวิตเจ้าคงอยู่อย่างสุขสบายสินะดูสิเนื้อตัวของเจ้าสะอาดสะอ้านแถมใบหน้ายังเกรี้ยงเกรา ข้าต้องขอบน้ำใจท่านพี่ที่ดูแลจิวหลินของเราดีขนาดนี้”
“เอาเถิด ๆ พวกเจ้าจะไม่ชวนข้าเข้าเรือนหรืออย่างไร อีกอย่างพวกเจ้ามีเวลาที่จะอยู่จิวหลินอีกหลายวัน ข้าจะมาพักที่นี่เมื่อเสร็จงานของจิวซินแล้วจะกลับ " พี่สาวได้เอ่ยปรามทั้งสองคน
“เชิญท่านพี่ ข้าได้ให้สาวใช้เตรียมห้องไว้ให้แล้ว ส่วนเจ้าเองก็เดินทางมาเหนื่อยสินะ ดูสิมือเจ้าเย็นไปหมด ” ท่านแม่ของจิวหลินได้เอ่ยถามนาง ตอนนี้นางดีใจมากส่ะจนเอ่ยอันใดไม่ออกเอาแต่จับจ้องใบหน้าของทั้งสอง
“ข้า ไม่เหนื่อยเลยท่านแม่ ว่าแต่พี่สาวของข้าอยู่ที่ใด นางมีใบหน้าเช่นข้าจริงหรือ"
“ใช่แล้วล่ะ พี่สาวของเจ้ามีใบหน้าเช่นเจ้าทุกประการ มาเถิดเข้ามาข้างในก่อน ” ทั้งสี่คนก็ได้เดินเข้ามาในเรือน บ่าวรับใช้ก็ได้ยกของใช้ของท่านป้าและจิวหลินไปเก็บไว้ที่ห้องที่จัดเตรียมไว้ให้ ท่านป้าก็ได้ขอคุยกับท่านพ่อเป็นการส่วนตัว ทำให้ตอนนี้จิวหลินนั้นได้อยู่กับท่านแม่ของนางที่ห้องโถงใหญ่
ท่านแม่ได้ให้สาวใช้ไปตามจิวซินมาพบกับน้องสาวของตนเอง
ท่านแม่ก็ได้เอ่ยถามสารทุกข์สุขดิบกับจิวหลินอย่างสนใจความเป็นอยู่ นางเองก็เล่าเรื่องราวของตนเองให้ท่านแม่ฟังอย่างสนุกสนาน
“เจ้าคงคิดถึงพ่อกับแม่มากสินะ ต้องขอโทษเจ้าด้วยที่ไม่ได้ไปหาเจ้าที่เรือนของท่านพี่เลย "
“ข้ารู้ว่าร่างกายของท่านแม่ไม่ค่อยดีท่านป้ามักจะเล่าให้ข้าฟังบ่อย ๆ แถมท่านพ่อก็มีงานมากมายที่ต้องทำ ข้าไม่เคยน้อยใจเลยสักนิดท่านแม่อย่าเป็นกังวล เพราะข้ามีท่านป้าที่ใจดีเมตตาข้าดั่งเป็นบุตรสาวของท่านป้าเอง ข้าก็ไม่เคยขาดเหลืออันใดเลยเจ้าค่ะ” จิวหลินจับมือของท่านแม่มากุมไว้ผิวหนังที่เริ่มหุ่มกระดูกทำให้จิวหลินได้รู้ว่าท่านแม่ของตนเองนั้นป่วยหนักไม่น้อย
“นี่ท่านแม่ ท่านจะให้สาวใช้ไปตามข้ามาทำไมรู้หรือไม่นี่มันเป็นเวลานอนของข้า” เสียงแผดเข้ามาในห้องโถงทำให้จิงหลินรีบหันไปมอง สตรีที่เดินเข้ามาช่างมีใบหน้างดงามราวเทพธิดา ชุดสีส้มที่สวมใส่ช่างขับกับผิวของนางยิ่งนักใบหน้าที่แต่งแต้มด้วยของประทินโฉม ปิ่นที่ปักมากมายบนศรีษะแม้กระทั่งริมฝีปากที่แดงดั่งสีของกุหลาบช่างเข้ากับนางยิ่งนัก ทำให้จิงหลินตกอยู่ในพวังภ์ของความงดงามของพี่สาวของตน ช่างแตกต่างจากนางที่แทบจะแต่งกายเป็นบุรุษอยู่ทุกครั้ง ใบหน้าที่ไม่เคยแต่งเติมมือเล็ก ๆ ของนางก็แข็งกระด้างเพราะมักออกไปช่วยชาวนาทำงาน ชีวิตของนางกับพี่สาวช่างแตกต่างกันเสียจริง
“ที่ข้าเรียกเจ้ามาพบเพราะอยากให้เจ้าพบกับน้องสาวฝาแฝดของเจ้า นี่จิวหลินนางเป็นน้องสาวที่คลอดตามเจ้าออกมา” ท่านแม่แนะนำให้ลูกทั้งสองได้รู้จักกัน จิวหลินดีใจมากจึงได้วิ่งเข้าไปหาจิวซิน
“ท่านพี่ ท่านพี่ของข้าช่างงดงามยิ่งนักข้าดีใจเหลือเกินที่เจอท่าน” แต่ทว่าใบหน้าของจิวซินกลับไม่ได้ดีใจอย่างที่จิวหลินคิดไว้ นางชักสีหน้ารังเกียจหญิงสาวที่มาจากบ้านนอก และผลักนางออกจากกายของตน
“อี้!! ออกไปไกล ๆ ตัวของข้า เสื้อผ้าของข้าจะติดกลิ่นดินของเจ้า แม้เจ้าจะเป็นน้องฝาแฝดของข้าแต่เจ้าก็ไม่ได้เหมือนข้าแม้แต่น้อย ข้าไม่ได้ยินดีที่มีเจ้าหรอกนะ ท่านแม่หากหมดเรื่องแล้วข้าขอตัว ช่างเสียเวลานอนข้าเสียจริง” จิวหลินที่คิดในใจมาตลอดว่าพี่สาวของนางจะคิดถึงนางมากเพียงใดหากได้พบหน้ากันคงมีเรื่องราวมากมายมาเล่าสู่กันฟังและรักนางเหมือนที่นางนั้นรักพี่สาวของนาง แต่ทว่านางกลับถูกมองด้วยสายตารังเกียจและไม่ได้ดีใจเลยแม้สักนิดที่ได้เจอนางในครั้งนี้ จิวหลินใบหน้าถอดสีถอยหลังออกห่างจากจิวซินมือทั้งสองข้างประกบกันอย่างแนบแน่น
บทที่ 34 พ่ายรักพระชายาตัวแทนหลายวันต่อมาจิวหลินกลับมาอยู่วังหลวงอยางมีความสุข เสี่ยวหลงก็ไม่ยอมอยู่ห่างนางเลยแม้แต่น้อยแม้กระทั่งห้องนอนยังต้องย้ายมานอนในห้องเดียวกัน"จิวหลินตอนนี้เจ้าเก็บของเสร็จหรือยัง? ""เสร็จแล้วเพคะ หม่อมฉันตื่นเต้นเหลือเกินเพคะไม่รู้ว่าต่อจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป ""ให้ข้าบอกเจ้ามั้ยล่ะ ชีวิตของเจ้าต่อจากนี้คือเจ้าต้องตั้งครรภ์บุตรของข้าโดยมีซือเล่อคอยช่วยเหลือ ข้าวางแผนจะมีบุตรสักสามคนกำลังดี พอเจ้าคลอดข้าก็จะให้เจ้าท้องอีกคนดีหรือไม่ความคิดของข้า""ฮึ! ไม่เพคะ หม่อมฉันจะปลูกผักปลูกข้าวทำทุกอย่าง และนำข้าวของที่ได้มาส่งขายที่ตลาดเพคะ หม่อมฉันจะยังไม่มีบุตรจนกว่าเราจะมีทุกอย่างมั่นคงเพคะ ""แต่ว่าทุกวันนี้ข้ากับเจ้าก็มีจนไม่ต้องชาตินี้ทั้งชาติก็ใช้ไม่หมดแล้วนะ อย่าลืมสิว่าข้าคือองค์ชายของฮ่องเต้ผู้ยิ่งใหญ่""หม่อมฉันรู้ไม่เคยลืมเพคะ แต่หม่อมฉันอยากวางแผนชีวิตให้เป็นอย่างดี หากมีบุตรชายก็ดีแต่หากมีบุตรสาวหม่อมฉันไม่อยากบังคับให้นางแต่งเข้าเรือนของบุตรชายของใต้เท้าหรือแต่งงานกับท่านอ๋อง ชีวิตของนางถึงได้อยู่อย่างสุขสบาย แต่ข้าอยากให้นางได้เลือกเส้นทางของนางเอ
บทที่ 33 ตามพระชายากลับวังสายลมพัดผ่านร่างบางที่ยืนรับลมยามนี้เริ่มเข้าฤดูหนาวชาวบ้านเริ่มพากันเก็บเกี่ยวเมล็ดข้าว จิวหลินข่มตานอนในแต่ละคืนช่างยากนัก จิตใจของนางเฝ้าแต่คิดถึงเสี่ยงหลงไม่จางหาย นี่นานเท่าไหร่แล้ว นางยังคงไม่ลืมจิวหลินเงยหน้ามองท้องฟ้าก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงโศกเศร้า "ปานนี้ท่านพี่คงจะมีความสุขกับพระชายาตัวจริงมากสินะ แค่คิดว่าท่านมีความสุขข้าเองก็สุขใจแม้ในใจของข้าจะเจ็บปวดมากก็ตาม" "ข้าจะมีความสุขได้อย่างไรในเมื่อพระชายาตัวจริงของข้าไม่ได้อยู่ข้างกายของข้า " จิวหลินแสยะยิ้มสมเพชตนเองที่จู่ ๆได้ยินเสียงของเสี่ยวหลง"ข้าคงคิดถึงท่านจนหูฝาดไปแล้ว เอาล่ะต่อจากนี้ข้าจะเลิกคิดถึงท่านเสียที ข้าจะใช้ชีวิตของตนเองอย่างมีความสุข เป็นสาวบ้านนอกอีกไม่นานอายุของข้าก็ใกล้ออกเรือนท่านป้าก็หาบุตรชายบ้านขุนนางมาดูตัว ตอนนั้นข้าคงจะลืมท่านได้สักทีองค์ชายเสี่ยวหลง""ไม่ข้าไม่ยอม เจ้าเป็นพระชายาของข้า หากชายใดกล้ามาแตะต้องตัวเจ้าข้าจะจับไปประหารให้หมด" จิวหลินคิดว่าตนเองหูฝาดนางจึงมองหาเสียงก็พบว่านางไม่ได้หูฝาดแต่น้ำเสียงที่พูดคุยกับนางอยู่นั้นคือเสี่ยวหลงตัวจริง หัวใจของจิวหลินเ
บทที่ 32 จิวซินยอมแพ้แต่โดยดีเมื่อแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ลับท้องฟ้าปกคุมด้วยความมืดมน จิวซินที่แช่น้ำดอกกุหลาบจนร่างกายของกรุ่น นางแต่งกายด้วยเนื้อผ้าที่บางแนบเนื้อเผยให้เห็นผิวเนียนขาวด้านในจนเห็นได้ชัดก่อนจะสวมเสื้อคุมด้านนอกอีกชั้นเพื่อไม่ให้ขันทีกับนางกำนัลได้เห็น เมื่อนางเข้าไปที่ห้องของเสี่ยวหลงเมื่อนั้นนางจะปลดเสื้อตัวนอกออกเพื่อยั่วยวนเสี่ยวหลง "ซือเล่อตอนนี้ข้าพร้อมแล้ว เมื่อเจ้าไปส่งข้าที่ห้องขององค์ชายจากนั้นเจ้าก็กลับไปพักผ่อนเถิดข้าจะอยู่ปรนนิบัติองค์ชายตลอดทั้งคืน คงไม่กลับมานอนที่ห้องนี้รุ่งสางเจ้าค่อยไปรับตัวข้า หรือไม่แน่ข้าอาจจะลุกก็ไม่ขึ้นก็ได้ แต่เอาเถอะให้คืนนี้ผ่านพ้นไปเสียก่อน" ซือเล่อไม่เอ่ยอันใดพานางเดินไปส่งที่ห้องของเสี่ยวหลงอย่างเป็นห่วงกลัวว่าองค์ชายเสี่ยวหลงจะนอนกับจิวซินจริง ๆ เมื่อจิวซินย่างเท้าก้าวเข้ามาในห้องของเสี่ยวหลงประตูก็ถูกปิดหัวใจของนางสั่นระรัวเดินเข้าไปเรื่อย ๆ ภายในห้องช่างเงียบสงัดแสงสว่างในห้องมีเพียงแสงเทียนที่จุดอยู่ในห้องนอนเท่านั้น นางจึงเดินไปในห้องนอนก็พบว่าเสี่ยวหลงนั่งอยู่บนเตียงรอนางด้วยรอยยิ้ม "มาแล้วหรือ มานั่งลงข้าง ๆ ข้านี่
บทที่ 31 ข้าจะทำให้องค์ชายลุ่มหลงส่วนจิวหลินหลังจากที่นางออกมาจากวังหลวงก็เอาแต่เก็บตัวเงียบครุ่นคิดหาทางกับเข้าวังหลวงแต่ทว่าทำอย่างไรนางก็คิดไม่ออกเสียที ท่านป้าเห็นหลานสาวของนางเอาแต่เหม่อลอยจึงเดินเข้าไปหาอย่างเป็นห่วง "จิวหลินเจ้าคงคิดถึงองค์ชายเสี่ยวหลงสินะ แต่จะทำอย่างไรได้หากเจ้าเข้าไปปรากฎตัวเจ้าเองก็อาจจะต้องโทษได้ ข้าล่ะเห็นใจเจ้าเสียจริง""ท่านป้าข้าคิดจนหัวของข้าแทบระเบิด ข้าคงหมดหนทางแล้วเจ้าค่ะ ข้าคงไม่มีวาสนาเคียงคู่กับองค์ชายเสี่ยวหลง สวรรค์เหตุใดต้องเล่นตลกกับชีวิตของข้าด้วยล่ะเจ้าคะ หากไม่ให้ข้าได้เคียงคู่กับองค์ชายเสี่ยวหลงแล้วทำไมต้องลิขิตให้ข้าเข้าไปพัวพันจนข้าเกิดความรู้สึกดี ๆ กับองค์ชายด้วย ข้าไม่เข้าใจจริง ๆ"จิวหลินมิอาจกักเก็บความเงียบเหงาภายในหัวใจนางเอ่ยออกมาพร้อมน้ำตาอย่างเจ็บปวด ท่านป้าโอบกอดนางแน่นใช้มือลูบหลังเบา ๆ ปลอบประโลม"หากเจ้ากับองค์ชายเป็นคู่เคียงวาสนาต่อกัน ไม่ช้าไม่นานทั้งสองก็ต้องกลับมาครองรักกันเช่นเดิม " จิวหลินมิได้เอ่ยอันใดมีเพียงเสียงสะอึกไห้ดังระงม หลายวันต่อมาเสี่ยวหลงได้ไปหาจิวซินตอนนี้นางกำลังนั่งจิบน้ำชาที่ห้องโถง ทันทีที่จิวซ
บทที่ 30 ซือเล่อมิอาจทนท่านป้าจับตัวจิวหลินหมุนไปมาเพื่อดูให้แน่ใจว่านางไม่ได้รับบาดเจ็บ "ท่านป้าข้าไม่ได้รับบาดเจ็บเท่าไหร่นัก เรารีบเข้าเรือนกันเถอะเจ้าค่ะ""ได้สิ ว่าแต่เจ้าได้กินอะไรมาหรือยัง ""ตอนนี้ข้าไม่มีอารมณ์มากินอะไรหรอกนะเจ้าคะ ""เช่นนั้นเรารีบไปที่ห้องของเจ้าเถิดข้าอยากรู้เต็มอกแล้วว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นกับเจ้า " ทั้งสองพากันเดินไปยังห้องนอนห้องจิวหลินเมื่อมาถึงห้องนางก็เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ท่านป้าฟัง นางรู้สึกสงสารจิวหลินยิ่งนัก "โธ่! จิวหลินของข้า เหตุใดต้องเกิดเรื่องเช่นนี้กับเจ้าด้วยนะ ท่านพ่อของเจ้าก็ช่างเลวร้าย ทำไมทำกับเจ้าได้ลงคอไหนจะจิวซินนั้นอีกไม่เห็นว่าเจ้าเป็นสายเลือดเลยแม้แต่น้อย แล้วอย่างนี้เจ้าจะทำอย่างไรต่อไป " สายตาที่อ่อนโยนพร้อมคำพูดที่อ่อนหวานทำให้จิวหลินรู้สึกสบายใจนางโผล่เข้ากอดท่านป้าแน่น "ตอนนี้ข้าคิดอะไรไม่ออกเลยเจ้าค่ะ ขอกอดท่านป้าเยี่ยงนี้นาน ๆ ก่อนได้มั้ยเจ้าคะ" ท่านป้ากอดนางกลับเพื่อปลอบโยน"ไม่ว่าเจ้าจะทำเช่นไร ป้าผู้นี้ก็อยู่เคียงข้างเจ้าเสมอ หากเจ้าไม่สบายใจวันนี้ข้าจะนอนกับเจ้าที่นี่ดีหรือไม่ สมัยก่อนตอนที่เจ้าไม่สบายใ
บทที่ 29 พระชายาเปลี่ยนไปเมื่อเกี้ยวเคลื่อนขบวนจิวซินก็ยิ้มออกมาอย่างดีใจในที่สุดนางก็จะได้ครอบครองทุกอย่างที่เคยเป็นของนางมาก่อน ฝั่งด้านเสี่ยวหลงที่กลับมาจากเขาซกมู เขาก็รีบร้อนมาหาจิวหลินที่ห้องของนางแต่กลับไม่พบแม้แต่เงา ขันทีจางที่เดินเข้ามาเห็นองค์ชายเสี่ยวหลงก็ได้เข้ามาบอก "องค์ชายตามหาพระชายาหรือพ่ะย่ะค่ะ""ใช่แล้ว เจ้ารู้หรือไม่ว่าพระชายาอยู่ที่ใด""ช่วงสาย ๆ มีสาวใช้จากสกุลจิวมาเข้าเฝ้าพระชายาไม่นานนักพระชายาก็ให้กระหม่อมเตรียมเกี้ยวออกไปที่เรือนสกุลจิวอย่างรีบร้อนพ่ะย่ะค่ะใบหน้าของพระชายาเป็นกังวลยิ่งนักคงมีเรื่องอันใดเกิดขึ้นเป็นแน่""อย่างนั้นหรือ นี่ก็ใกล้ตะวันลับฟ้าแล้วปานนี้คงจะเดินทางกลับแล้ว ข้าจะรออยู่ที่นี่เจ้าให้นางกำนัลไปจัดเตรียมอาหารมาเถิดนางกลับมาจะได้กินพอดี " "พ่ะย่ะค่ะองค์ชาย" ขันทีจางโค้งคำนับรับคำสั่งพร้อมเดินหันหลังจากไป เสี่ยวหลงจ้องมองไปด้านนอกสายตาของเขาก็เหลียวไปเห็นเกี้ยวของจิวหลินได้เคลื่อนเข้ามาหยุดอยู่หน้าตำหนักเขารีบออกไปหานางทันทีด้วยความคิดถึง จิวซินลงจากเกี้ยวกวาดตามองดูตำหนักที่นางจะต้องมาอยู่ต่อจากนี้นางตื่นเต้นเป็นอย่างมาก "พระชายาเ
บทที่ 28 สลับตัวจิวหลินนั่งมองท่านแม่อย่างน่าสงสาร สักพักเสียงประตูก็ได้เปิดเข้ามานางคิดว่าเป็นซือเล่อที่กลับมาจากไปต้มข้าวจึงรีบเดินออกไปนอกห้องนอนเพราะไม่อยากให้ท่านแม่ตื่น "เหตุใดเจ้าถึงกลับมาเร็วเช่นนี้เล่า เสร็จแล้วหรือข้าวต้มที่ข้าสั่งให้เจ้าไปทำมา" จิวหลินหันไปมองแต่ทว่ามิใช่ซือเล่อที่เดินเข้ามาประตูถูกปิดลงใบหน้าของนางเริ่มวิตกกังวลเล็กน้อย "ท่านพี่จิวซิน... ""ใช่ข้าเอง ทำไมต้องทำสีหน้าราวกับเห็นผีด้วยเล่า ""เปล่าเจ้าค่ะ หากท่านพี่มาหาท่านแม่ข้าเองก็จะออกไปด้านนอกนะเพคะ " จิวหลินไม่อยากอยู่กับจิวซินที่ไม่เคยมองว่านางเห็นน้องสาวเลย ทำให้นางรู้สึกอึดอัดหากอยู่ด้วยกันตามลำพัง จิวหลินกำลังเดินย่างเท้าจะเดินออกจากห้องก็ต้องถูกจิวซินดึงกระชากแขนของนางไว้ก่อน "เจ้าจะไปที่ใดไม่ได้ข้ามีเรื่องจะคุยกับเจ้า""แต่ข้าไม่มีเจ้าค่ะ ปล่อยนะหากท่านไม่ปล่อยข้าเองก็จะไม่ไว้หน้านะเจ้าคะ" จิวหลินดวงตาแข็งกร้าวตอบกลับจิวซิน "เฮอะดูสายตาเจ้าสิ คิดว่าข้ากลัวหรือไงก็ได้ข้าปล่อยเจ้าก็ได้ แต่เจ้าต้องคุยกับข้าเสียก่อน" จิวซินปล่อยมือตนออกจากแขนของจิวหลิน "เรื่องอันใดเจ้าคะ" "ก็เรื่องตำแหน่งพระช
บทที่ 27 ท่านแม่ล้มป่วย หลายวันต่อมา ระหว่างที่รอเรือนที่ฝ่าบาทสั่งการให้ทหารไปสร้างให้ จิวหลินมีความสุขมากจริง ๆ นางได้รับการดูแลเอาใจใส่ของเสี่ยวหลงเป็นอย่างดี จนนางกำนัลในตำหนักพากันเบิกบานหัวใจ สาย ๆ ของวันอากาศเย็นสบายจิวหลินได้ออกมาเดินรับลมด้านนอกเรือนมองดูเหล่าผีเสื้อที่บินดอมดมเกสรดอกไม้ส่วนเสี่ยวหลงนั้นวันนี้ได้เดินทางไปดูเรือนว่าเสร็จไปถึงขั้นไหนแล้ว"วันนี้ช่างอากาศดีเสียจริงว่ามั้ยซือเล่อ" จิวหลินยืนมองทอดสายตาไปด้านหน้าพร้อมเอ่ยถามซือเล่อที่เดินตามหลังมาติด ๆ"เพคะ คงเป็นเพราะะทุกอย่างกำลังลงตัว หม่อมฉันเห็นพระชายามีความสุข หม่อมฉันเองก็พลอยมีความสุขเช่นกัน อย่าให้มีเรื่องอันใดเกิดขึ้นอีกเลยนะเพคะ ""เหตุใดเจ้าถึงเอ่ยเช่นนั้นเล่า ""ก็หม่อมฉันอดคิดไม่ได้นี่เพคะ ในเมื่อตอนนี้องค์ชายเสี่ยวหลงเปิดใบหน้าที่แท้จริงให้ทุกคนได้เห็นหม่อมฉันคิดว่าถ้าหากคุณหนูจิวซินรับรู้คงคิดหาทางทวงคืนแน่ ๆ ""เจ้าไม่ต้องกังวล ข้าไม่มีทางให้เกิดเรื่องนั้นขึ้นแน่ ในเมื่อท่านพี่ไม่ได้ต้องการมันตั้งแต่แรกแถมยังผลักไสไล่ส่งข้าเข้ามาแทน มีหรือที่ข้าจะยอมให้ข้ามิใช่จิวหลินคนเดิม" ดวงตาจริงจังน้ำเสี
บทที่ 26 ข้าจะทวงคืนฝั่งด้านจิวซินเมื่อท่านป้ากลับนางโมโหอย่างมากที่ถูกท่านป้าตบที่ใบหน้า นางเข้าห้องมาโวยวายโยนข้าวของพร้อมกรี๊ดร้อง"กรี๊ด!!! ทำไม ...ทำไมทุกคนต้องรักนาง ทำไมนางต้องได้ดีทำไมไม่เป็นข้า ที่ข้าถูกท่านป้าตบก็เพราะนาง ข้าเกลียดเจ้าจิวหลิน" "หยุดเถอะนะเจ้าคะ คุณหนูข้าวของเสียหายแล้วเจ้าคะ" แม่นมพยายามร้องขอให้คุณหนูของตนหยุดโยนของและโวยวาย"ไม่! ข้าไม่หยุด ! " ใต้เท้าจิวที่พาฮูหยินไปพักที่ห้องเพราะจู่ ๆ นางเกิดเป็นลมเมื่อท่านป้าเดินออกจากเรือน ช่วงนี้ร่างกายของฮูหยินไม่ค่อยมีแรงเสมือนนางตรอมใจเสียใจรับไม่ได้ที่เขาได้ทำร้ายบุตรสาวคนรอง เขาเองก็ครุ่นคิดเช่นกันเพราะเรื่องทั้งหมดนี่เด็กคนนั้นไม่ควรมารับรู้ เขานอนไม่หลับจึงได้ออกมาเดินรับลมก็ได้ยินเสียงโวยวายของจิวซินจึงได้เดินไปหานางที่ห้องของนาง"เกิดอะไรขึ้น ""ท่านพ่อ ท่านพ่อต้องช่วยข้านะเจ้าคะ ทำไมทุกคนต้องรักแต่จิวหลินท่านป้าก็รักนางจนลงไม้ลงมือกับข้า ไหนจะเรื่ององค์ชายที่ไม่ได้มีอัปลักษณ์นั้นอีกด้วย ข้าเห็นแววตาที่องค์ชายมองไปทางจิวหลินแววตานั้นสื่อให้ข้าเห็นว่าเขานั้นรักและเอ็นดูจิวหลินมากเพียงใด หากผู้ที่ยืนอยู่ตร
Mga Comments