“เจ้าชื่อะไร เจ้ากุ้ง”
“ข้าชื่อ ลิโป้ !” เสียงของลิโป้ดังก้อง โอลาฟควงดาบแล้วพูดว่า
“ก็ดีข้าจะจำไว้ และเจ้าก็จำชื่อข้าไว้ด้วยจะได้บอกยมบาลถูกว่าใครฆ่าเจ้า ข้าคือโอลาฟ !” ลิโป้เห็นท่าทางองอาจของโอลาฟแล้ว เขาก็อดที่จะหวั่น ๆ ไม่ได้ แต่ว่าเขาคือ ขุนศึกที่แข็งแกร่งไฉนเลยจะยอมแพ้กับเรื่องแบบนี้
“น่าขำ คิดว่าคนอย่างข้าจะกลัวเจ้าเหรอ ไอ้หลานเต่า” ลิโป้แทงทวนไป โอลาฟเอาโล่ขึ้นรับ แม้โล่ทำจากไม้แต่ความหนามากพอที่จะทนคมทวนของลิโป้ได้ โอลาฟเหวี่ยงดาบมา ลิโป้หลบได้เหวี่ยงทวนสวนไปเต็มแรง แต่โอลาฟเอาโล่ปัดทิ้ง ทำให้ขุนพลเซ โอลาฟเหวี่ยงดาบหมายจะตัดคอ แต่ลิโป้เอาด้ามทวนรับเอาคมดาบเอาไว้เสียงอาวุธกระทบกันดังสนั่น
“เคลื่อนศิลา” ร่างของโอลาฟถูกถีบมันกระเด็นไปไม่ไกลนัก เป็นโอกาสให้ลิโป้ได้ตั้งตัว เตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีครั้งต่อไป
โอลาฟยืนคุมเชิงอยู่ ลิโป้ตั้งสมาธิ โอลาฟเห็นก็เข้าใจว่าเป็นจังหวะเหมาะแล้ว จึงรีบวิ่งเข้าไปหมายจะจัดการขั้นเด็ดขาด นับเป็นการตัดสินใจที่ผิดมหันต์
“พยับฟ้า” ลิโป้แทงทวนไปเป้าหมายคือ ที่หัว ยังดีที่โอลาฟไวพอเลยโดนเข้าที่หูแทน ทำให้หูขาด เจ้าไวกิ้งร้องลั่น ลิโป้กำลังจะโจมตีซ้ำ แต่...
“ลิโป้ พวกมันปล้นเรือเราได้แล้วลำหนึ่ง” เสียงเซน่าดังขึ้น ลิโป้หันขวับไป เรือของเขาถูกบุกขึ้นไปแล้ว เมื่อเป็นเช่นนั้นจึงได้กระโดดข้ามไปบนเรือลำนั้น เหล่าไวกิ้งกำลังจะขนของไป แต่ลิโป้เข้าฟาดฟันอาวุธใส่พวกมันแตกกระจาย บางส่วนต้องทิ้งของไป
“ช่วยด้วย” เสียงเด็กผู้หญิงดังขึ้นลิโป้หันไปมองแล้วก็ต้องตกใจ เมื่อเห็นลูน่ากำลังถูกไวกิ้งอุ้มขึ้นเรือไปแล้ว
“ออกเรือ” เรือของไวกิ้งรีบเคลื่อนพลทันที ลิโป้รีบกระโดดตามไป แต่ ระยะที่เรือลำนั้นออกไปมันเกินระยะกระโดดของเขา กลายเป็นเป็นลิโป้ตกน้ำไม่เป็นท่าเขาได้แต่มองด้วยความแค้น แล้วรีบว่ายน้ำขึ้นขึ้นไปบนเรือ
“เธอมานี่ได้ไงกันหา” ลิโป้ตวาดเสียงดังลั่น ทำให้ทุกตัวสั่นเพราะไม่มีคำตอบให้กับลิโป้สักคน เซน่ารีบบอกว่า
“อย่าเพิ่งคิดเรื่องอื่นเลยตามไปช่วยน้องของข้าก่อน” ลิโป้นิ่งไปไม่พูดอะไรต่อ นั่นทำให้เซน่ารู้เลยว่าลิโป้ไม่ช่วยแน่ จริงสินะจะหวังอะไรกับคนแบบนี้ เธอเลยไปที่เรือเล็กหวังไปตามน้องสาว
“หยุดนะ” ลิโป้พูดเสียงดัง ทำให้เซน่าชะงักแต่เธอกลับหันมาแล้วบอกว่า
“ถ้าไม่ไปช่วย ข้าจะไปคนเดียวอย่าห้ามข้า”
“ใครบอก มันเหยียบจมูกข้าแบบนี้ ข้าไม่ปล่อยให้ไปง่าย ๆ หรอก เจ้ารู้ใช่มั้ยว่ามันไปไหน” เซน่าพยักหน้า ลิโป้ชูทวนขึ้นแล้วบอกว่า
“พวกมันบังอาจเหยียบจมูกข้า พวกเราไปถล่มพวกมัน ถ้าพวกมันไม่ยอมมาเป็นทหารของเรา ก็ฆ่าล้างโคตรมัน !” เหล่าทหารร้องรับเสียงดังลั่น เซน่าเริ่มรู้สึกว่าคิดผิดหรือเปล่าที่มาทางเรือกับลิโป้
บนเรือไวกิ้งลูน่านั่งตัวสั่น เพราะไวกิ้งแต่ละคนรูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาน่ากลัว สายตาที่จ้องเด็กหญิงก็ดูไม่มีความเป็นมิตรเลย
“พวกแกจะจ้องอะไรนักหนาวะ เด็กกลัวจะแย่แล้ว” โอลาฟตะโกนด่า พวกไวกิ้งเลยละสายตาออกจากเธอไปได้
“ไม่เป็นไรนะแม่หนูพวกเราไม่ทำร้ายหนูหรอก”โอลาฟพูดแล้วยิ้มให้เธอ เผยให้เห็นฟันที่ไม่เป็นระเบียบในปาก ลูน่ายังคงกลัวแต่ต้องทำใจดีสู้เสือ
“ปล่อยหนูไปเถอะ จับหนูไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก”
“เราแค่เอาหนูไว้ป้องกันไม่ให้พวกบนเรือมาฆ่าพวกเราเท่านั้น ถึงฝั่งแล้ว จะไปส่งหนูกลับบ้าน บ้านหนูอยู่ไหนล่ะ” โอลาฟถาม ลูน่าก็พาซื่อตอบไปว่า
“ไวโอเล็ตโรส” โอลาฟยิ้มอย่างพอใจ เขาดูออกว่าลูน่าต้องไม่ใช่เด็กธรรมดาแน่ ยิ่งมาจากไวโอเล็คโรสด้วยแล้ว เธอต้องมีฐานะดีมากแน่นอน แต่สิ่งที่น่ากลัวก็คือ โอลาฟเป็นพวกชอบสังวาสกับเด็ก !
ที่เกาะของพวกไวกิ้งที่นี่เคยเป็นที่ขังนักโทษคดีร้ายแรงมาก่อน ต่อมาเหล่าไวกิ้งมายึดเกาะไว้เป็นเป็นฐาน ไม่มีอาณาจักรไหนสนใจที่จะยึดคืนอาจเพราะมันก็เป็นเหมือนที่ทิ้งขยะเท่านั้น ยิ่งตอนนี้เกิดสงครามกับไคจูด้วยแล้ว เลยกลายเป็นที่ที่ไม่มีใครสนใจมันอีก ลูน่ามองไปรอบ ๆ ที่นี่มีผู้ชายตัวใหญ่ ๆ น่ากลัวผู้หญิงมีน้อย โอลาฟพาเธอไปที่บ้านของมัน แล้วหันไปบอกกับลูกน้องว่า
“คอยดูต้นทางเอาไว้ ถ้าแองเคอร์เข้ามารีบบอกข้า” โอลาฟพูด ลูน่าถูกพาเข้าไปในบ้าน มันปิดประตูและมองเธอด้วยสายตาหื่นกระหาย เด็กหญิงไม่ชอบสายตาแบบนี้เลย มันปราดเข้ามาหาเธอ เด็กหญิงรีบหลบ
“นี่จะทำอะไร” เธอพูดเสียงสั่น
“เฉย ๆ เถอะเดี๋ยวก็ชอบเองล่ะ” มันจับตัวลูน่าเอาไวเธอพยายามดิ้นรนแต่แรงของเด็กไม่อาจสู้แรงของผู้ใหญ่ได้ เธอกรีดร้องเสียงดัง
“ช่วยด้วย” โอลาฟเอามือปิดปากของเธอ แต่ลูน่ากัดมือของเจ้าไวกิ้ง มันร้องลั่นและปล่อยเธอ ลูน่ารีบวิ่งออกไป ไปชนกับชายร่างสูงใหญ่อีกคนหนึ่ง เขาเป็นชายวัยประมาณสี่สิบเศษ ไว้หนาวเครายาวสีน้ำตาล ผมยาวยุ่งใส่หมวกเหล็กสีแดง แต่เขามีดวงตาสีดำเป็นมัน ที่ดูแล้วอ่อนโยนกว่าโอลาฟมาก
“มายังไงเนี่ยแม่หนู” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูแล้วทำให้ลูน่ารู้สึกว่าปลอดภัย โอลาฟวิ่งตามมาเมื่อเห็นชายผมสีน้ำตาลก็หน้าเสีย
“แองเคอร์”
“โอลาฟนี่แกไปพาเด็กจากไหนวะ ข้าบอกแล้วไม่ใช่เหรอ ห้ามจับคนมา เดี๋ยวก็ได้มีปัญหาหรอก” โอลาฟไม่กล้าพูดอะไรอีก แองเคอร์เห็นหูของโอลาฟหายไปข้างหนึ่ง
“แกไปโดนอะไรมาวะหา !” เสียงตวาดของแองเคอร์ ทำให้โอลาฟไม่กล้าปิดบังมันบอกว่า
“ข้าพาพวกไปปล้นเรือทหารของไวโลเล็ตโรสมา พวกมันมีมือดีมาด้วย…..” แองเคอร์ชกหน้า โอลาฟแล้วพูดว่า
“ด้วยอำนาจที่ข้าได้รับมาในฐานะผู้ที่สังหารราชาอนัน ข้าขอแต่งตั้งให้ลูน่า บุตรสาวของโฮกัส ผู้เป็นรัชทายาท อันดับสาม ขึ้นครองบังลังค์”“ไม่นะข้าทำไม่ได้”“เจ้าทำได้ลูน่า เจ้าเป็นลูกของพ่อเจ้า อย่ากลัวข้าอยู่กับเจ้าเสมอ” ลิโป้พูด ลูน่านิ่งคิดในที่สุดก็ตัดสินใจรับตำแหน่ง“ข้ายินดีรับตำแหน่ง”“ทำไมพวกเจ้ายังไม่คุกเข่า ! ราชินีลูน่า ทรงพระเจริญ” ลิโป้ประกาศ ทุกคนคุกเข่าลงพร้อมกันและเอ่ยเสียงดังกึกก้อง“ทรงพระเจริญ” ลิโป้ลุกขึ้นและบอกว่า“เนื่องจากพระนางยังทรงพระเยาวซ์ ข้าคิดว่าเราต้องมีผู้สำเร็จราชการแทน” คราวนี้เหล่าจอมเวทย์คิดว่าอย่างไรเสียลิโป้ก็ต้องแต่งตั้งตัวเองแน่ แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น“ข้าขอแต่งตั้งให้เซน่าเป็นผู้แทนพระองค์” เซน่าอึ้งเธอกำลังจะปฎิเสธ แต่ลิโป้มองเธอเป็นเชิงสั่ง หญิงสาวเลยยอมทำตาม ลิโป้ชูทวนขึ้นฟ้าแล้วพูดว่า“สำหรับ ขอแต่งตั้งตัวเองเป็นผู้พิทักษ์แห่งอาณาจักรทั้ง 7 ของทวีปลาอองเซียว นี้ โดยข้าจะขอให้อาณาจักรทั้งเจ็ด สร้างที่อยู่ให้ข้า และเตรียมกองทหารให้ข้าด้วย ข้าจะไปประจำในทุกดินแดน ดินแดนละหนึ่งปีคอยคุมกันที่นี่ให้กับพวกท่าน” เหล่าจอมเวทย์งงเป็นไก่ตาแตกไม่คิดว่าลิโป
แม้จะเพิ่งชนะศึกใหญ่มาแต่กลับไม่ได้มีงานเลี้ยงฉลอง เพราะสองอาณาจักรต้องสูญเสียงราชาอันเป็นที่รักไป เสียงร้องไห้ดังระงมไปทั่วบริเวณ กาแลงต้องคอยปลอบจินเจอร์ ไม่ว่าฝ่ายไหนจะชนะก็ตามที ก็ต้องพบความสูญเสียเหมือนกัน ลิโป้มองดูภาพดังกล่าว เขาไม่คิดเลยว่า กอร์ดอน โฮกัส โฮเซ่จะเป็นที่รักขนาดนี้ ถ้าคนตายวันนี้เป็นเขาจะมีใครเศร้าโศกให้ขนาดนี้มั้ย มีทหารมาเรียกเขาไปที่ประชุม พอลิโป้เข้าไปก็พบกับเหล่าจอมเวทย์ที่นั่งรออยู่แล้ว ลิโป้เห็นครีมมีท่าทางกังวลใจ“เรื่องที่เราตกลงกันไว้ ข้าจะทำตามแน่ แต่ขอให้หลังจากที่จัดพิธีศพของสามกษัตริย์ก่อน” ลิโป้พยักหน้าอย่างว่าง่ายแล้วถามกลับไปว่า“แล้วจะทำยังไงกับพวกกลุ่มไคจูที่เหลือ” “ก็คงจะมีประหารและปล่อยไปเป็นบางตน แต่ก็ไม่น่าห่วงอะไร เมื่อไม่มีอนัน พวกมันคงจะไม่คิดบุกมาอีกหรอก” วีโต้ตอบ ลิโป้พยักหน้า“แล้วอนันเป็นใคร” เหล่าจอมเวทย์มองกัน กาแลงก้าตอบว่า“คงเป็นศิษย์ของจอมเวทย์คนหนึ่งนั่นล่ะ น่าเสียดายตอนเห็นหน้ามันก็ไม่อยู่ในสภาพที่จะให้จำได้ แถมไม่ซากเหลืออีก” การประชุมจบลง แล้ว ลิโป้เดินออกไป “หวังว่าแผนท่านคงจะได้ผลนะ” ธีโอดอร์พูดขึ้นมา“ได
ลิโป้นั้นเอง วีโต้กับครีมรักษาเขาจนหายและยังฟื้นพลังให้อีกด้วย จึงเข้าไปร่วมการต่อสู้ได้ เมื่ออนันเห็นลิโป้ลุกขึ้นมาแล้ว จึงเรียกดาบกลับมาทั้งห้าเล่ม“ไอ้เก๊งเจ๊ง แกไม่มีสิทธิ์ใช้ดาบของโฮเซ่โว้ย”“ตอนนี้มันเป็นส่วนหนึ่งของเราแล้ว” อนันบังคับดาบให้พุ่งเข้าหาลิโป้ เหล่าจอมเวทย์จะเข้าไปช่วย แต่ลิโป้บอกว่า“อย่ามาสอดข้าจะฆ่ามันเอง” คราวนี้ลิโป้อ่านการโจมตีของดาบได้ทั้งหมด ทำให้รับมือได้ อนันตกใจมาก“แกทำได้ยังไง”“ข้าคือ ลิโป้ ผู้เป็นหนึ่งในใต้หล้า ผ่านสงครามมาเป็นร้อยครั้งแล้ว การโจมตีของแกน่ะ ใช้เวลาไม่นานข้าก็อ่านออกแล้ว” ถึงกระนั้นลิโป้ก็ยังไม่สามารถเข้าใกล้อนันได้ เขารีบถอยตั้งหลัง และปักทวนลงพื้น“ใจกับอาวุธรวมกันเป็นหนึ่ง ใจเดินอาวุธเดิน ใจถึงอาวุธถึง ฝืนลิขิตฟ้า” ทวนของลิโป้ลอยขึ้นมา หมุนกลางอากาศ และพุ่งไปหาอนัน ดาบทั้งห้ารีบมาสกัดเอาไว้ อาวุธทั้งสองปะทะกันเสียงดังสนั่นราวกับเป็นการต่อสู้ของทหารทั้งกองทัพ ในที่สุดก็มีช่องว่าง ทวนพุ่งไปด้วยความเร็ว ดาบทั้งห้ากระจัดกระจาย ปลายทวนแทงเข้าไปที่หน้ากากกระจกของอนันอย่างจัง“เพล้ง”เสียงกระจกแตกดังสนั่น อนันรีบถอยหลังออกมา ทวนปักอยู่ตรง
“ไม่คิดว่าเราจะต้องลงมือเอง !” พูดจบมันเรียกดาบออกมาอีกห้าเล่ม ดาบทั้งห้าลอยอยู่เหนือนิ้วมือซ้ายของมัน โฮเซ่กับลิโป้รีบตั้งท่าเตรียมพร้อม อนันฟาดฝ่ามือมาตรงหน้า ดาบทั้งห้าเล่มพุ่งไปด้วยความเร็ว แล้วเข้าโจมตี ลิโป้กับโฮเซ่รีบรับมือ แต่ว่าดาบบินกลับโจมตีด้วยความรวดเร็วและรุนแรง จนทำให้ยิ่งรับมือยิ่งลนลาน โดยอนันนั่งขยับมือและนิ้วไปมา ดาบก็เคลื่อนไหวตามราวกับว่ามันชีวิต ดาบเล่มหนึ่งกำลังจะมาแทงลิโป้ โฮเซ่เห็นก่อนเขารีบเอาดาบไปปัดเล่มนั่นช่วยชีวิตของลิโป้ไว้ได้อย่างหงุดหวิด แต่ว่าทำให้เขาเสียจังหวะดาบเล่มหนึ่งแทงเข้าที่อกมันพาร่างของโฮเซ่ ลอยขึ้นฟ้าไป ดาบอีกสี่พุ่งเสียบร่างของเขาทะลุร่างร่างร่วงลงสู่พื้นและยังมีอีกเล่มพุ่งมาตัดหัวของโฮเซ่ขาดกระเด็นลิโป้ตกตะลึง ! โฮเซ่คนที่เกลียดเขาที่สุด และคิดจะฆ่าเขาตลอดเวลา กลับเป็นคนช่วยชีวิตของเขา ยังไม่ทันได้ทำอะไร ร่างของโฮเซ่ก็ลอยขึ้นมาดวงไฟสีขาวลอยออกมา อนันชูมือขวาขึ้นดวงไฟสีขาวลอยเข้าไปในมือของอนันมันเอาดวงไฟใส่เข้าไปในตัว แม้ไม่เข้าใจว่าอนันทำอะไรแต่เขารู้สึกโกรธมาก จึงวิ่งเข้าไปหมายจะแทงทวนใส่ แต่ถูกดาบของอนันสกัด“ใจเย็นก่อนลิโป้ถอยออกมา”
หลังจากนั้นเหล่าจอมเวทย์ก็ไปแช่แข็งศพของโฮกัสเอาไว้ แม้ว่าวีโต้จะตาบอด แต่ดวงตาของเขามีน้ำตาคลอเป้า ส่วนเหล่าทหารไวโอเล็ตก็ร้องเสียงดังระงม ทำให้บรรยากาศยิ่งเศร้าหนัก โฮเซ่คุกเข่าแล้วพูดต่อหน้าศพพ่อว่า“ข้าจะจัดการกับอนันให้ได้ และจะไม่ยอมให้ไวโอเล็ตโรสต้องเป็นของคนอื่นเด็ดขาด” เขาชูดาบขึ้นเป็นการแสดงคำสัญญาต่อหน้าหลุมบิดา เหล่าจอมเวทย์มองหน้ากันอย่างลำบากใจ เพราะคำสัญญาที่วีโต้ให้กับลิโป้คืนนั้นลิโป้ให้คนหาเหล้ามา เขาเทลงพื้นไปหนึ่งจอกเป็นการคาราวะผู้ตาย เซน่าเดินมาหาเขาทำให้แปลกใจไม่น้อย เลยเชิญเธอนั่งข้าง ๆ“ขอเหล้าให้ข้าหน่อยได้มั้ย” ลิโป้รินเหล้าให้เธอ เซน่ารับมาดื่มอย่างยากเย็น“จะใช้เหล้าให้ลืมความเจ็บปวดหรือไง” ลิโป้ถาม เซน่าแทบจะสำลักเหล้า“เปล่านะแค่.....”“ถ้าจะเศร้าก็ไม่มีใครว่าหรอกนะ เพราะเจ้าก็เพิ่งจะเสียพระราชาไปนี่” เซน่าส่ายหน้าแล้วพูดว่า“ท่านไม่ใช่ราชา ท่านเป็นพ่อของข้า ข้าน่าจะเรียกท่านว่าพ่อสักครั้ง” พูดจบเธอก็ดื่มเหล้าเข้าไปอีก ลิโป้เองก็ดื่มเป็นเพื่อนเธอ ยิ่งดื่มเหมือนความเศร้าทั้งหมดก็พรั่งพรูออกมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเสียพ่อ แม่ หรือที่เธอต้องมาเป็นองค์หญิงในวั
“งั้นเหรอ” มันร่ายมนตร์ เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นมา โฮเซ่หันไปมอง สะพานหินถูกทำลายไปแล้ว พร้อมกับทหารที่ตามมาร่วงลงสู่พื้นเบื้องล่าง หนึ่งในนั้นคือ“ท่านพ่อ !” โฮเซ่เห็นพ่อของตนเองร่วงลงไปต่อหน้าต่อตา เขาหันไปทางคราวิซาและควบม้าไปแทงดาบใส่หมายจะเอาชีวิต แต่คราวิซเอาวุธออกมารับ เป็นตะบองหนามทำจากแก้วผลึกสีม่วง ซึ่งดูจะผิดกับการเป็นจอมเวทย์ของมันมากเซน่าควบม้ามาถึงค่าย รีบตามหาลิโป้ ในที่สุดก็เจอ จึงวิ่งหน้าตื่นเข้าไปหา“ลิโป้แย่แล้ว ท่านโฮเซ่แอบเอากองทัพไปจัดการกับไคจู แล้วพวกมันหนีเข้าป่าไป ท่านโฮกัสก็ตามไปด้วย” ลิโป้ได้ยินก็ตกใจ นี่มันเป็นกับดักชัด ๆ เขารีบออกคำสั่งเคลื่อนพลไปทันที แต่ใช้เพียงกองทัพของกรีนฮาร์ท ไลท์บลูเมาเท้นกับกองทัพส่วนตัวเท่านั้น จิระ แองเคิ้ล ชิว็อก คอปเปอร์ เกลตามไปด้วย แต่เมื่อมาถึง ก็พบว่าสะพานถูกทำลายไปแล้ว ที่ฝั่งตรงข้าม กำลังเกิดการต่อสู้อย่างดุเดือด ฝ่ายของไวโอเล็ตโรสเริ่มบาดเจ็บล้มตายโฮเซ่พยายามแทงดาบใส่แต่ว่า คราวิซกลับรับมือได้ทั้งหมด“เล่นพอแล้ว” คราวิซยิงแก้วผลึกออกมาจากตะบอง จำนวนมากราวกับฝูงผึ้งแตกรัง แทงม้าของโฮเซ่ไปเต็ม ๆ จนพรูน โฮเซ่รีบกระโดดลงจาก