Share

บทที่ 11

Author: ลิ่วเยว่
กูกูสอนมารยาทมองนางด้วยสายตาแปลกประหลาด “ฮองเฮาจะบรรทมช่วงกลางวัน เป็นบ่าวจะถืออะไรได้?”

หลงฮูหยินไม่คิดว่ากูกูสอนมารยาทจะพูดจาเช่นนี้ จึงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ ทำได้เพียงกล่าวว่า “เช่นนั้น เชิญกูกูออกไปดื่มน้ำชาข้างนอกก่อนเถิด!”

กูกูสอนมารยาทเอ่ยขึ้น “ไม่จำเป็น ฮูหยินกลับไปเถิด บ่าวได้รับบัญชาจากไทเฮามาที่จวน ก็ต้องปรนนิบัติรับใช้ฮองเฮาจนกว่าฮองเฮาจะเสด็จเข้าวัง สองวันนี้ คงต้องรบกวนที่จวนเสียแล้ว!”

“อย่าได้กล่าวว่ารบกวนเลย การมาของกูกู ทำให้จวนแม่ทัพรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ข้าเกรงว่าจะดูแลกูกูได้ไม่ดีพอ!” หลงฮูหยินรู้สึกโมโหจนกัดฟันกรอด คาดไม่ถึงว่ากูกูสอนมารยาทผู้นี้จะไม่ไว้หน้านางเลยแม้แต่น้อย

“เชิญฮูหยิน!” กูกูสอนมารยาททำท่าผายมือเชิญนางออกไป ราวกับไม่ได้ยินคำพูดถ่อมตัวเหล่านั้นที่นางกล่าวมา

สีหน้าของหลงฮูหยินพลันเปลี่ยนเป็นเขียวสลับขาวไปมา นางหัวเราะแห้ง ๆ เสียงหนึ่ง “เช่นนั้น ข้าขอตัวลาก่อน!” พูดจบ นางก็จ้องมองหลงจ่านเหยียนที่นอนหลับปุ๋ยอยู่บนเตียงด้วยสายตาอาฆาต จากนั้นพาหญิงรับใช้ออกไป

หลงจ่านเหยียนนอนหลับคราวนี้ ยาวจนถึงยามซวีจึงจะตื่นขึ้นมา นางนั่งกอดผ้าห่มอยู่บนเตียง หรูอี้รีบเข้ามาปรนนิบัติ “คุณหนูใหญ่ ในที่สุดท่านก็ตื่นแล้วหรือเจ้าคะ?”

“นั่นใคร ข้าหิวแล้ว!” หลงจ่านเหยียนค่อย ๆ ลงจากเตียง “ไปหาอะไรมาให้ข้ากินหน่อย!”

“เตรียมไว้เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ!” หรูอี้ช่วยคลุมเสื้อให้นาง “อุ่นไว้ในหม้อแล้ว บ่าวจะรีบไปนำมาเดี๋ยวนี้เลยเจ้าค่ะ!”

กูกูสอนมารยาทเปิดม่านเข้ามาพลางกล่าวคำคารวะ “ถวายพระพรฮองเฮาเพคะ!”

หลงจ่านเหยียนราวกับยังไม่ตื่นเต็มตา นางปรือตาขึ้นอย่างเกียจคร้าน ตอบรับเพียง “อืม!”

กูกูสอนมารยาทเอ่ยขึ้น “ฮองเฮาเพคะ กฎระเบียบในวัง...”

หลงจ่านเหยียนขมวดคิ้วมุ่น เอ่ยขึ้นอย่างช้า ๆ “ไว้ค่อยว่ากันทีหลัง!” เสียอารมณ์กินอาหาร!

“เพคะ!” กูกูสอนมารยาทก็ไม่ได้บังคับ อย่างไรเสีย นางแค่มาเป็นพิธี นางเข้าใจดี และคิดว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลหลงก็คงเข้าใจเช่นกัน

หลงฮูหยินถูกหลงจ่านเหยียนทำให้เสียอารมณ์ นางก็อารมณ์ไม่ดีไปทั้งเย็น แม่ทัพหลงก็ถูกเพื่อนร่วมงานชวนออกไปดื่มสุราอีก ไม่มีที่ระบายความโกรธ จึงอดไม่ได้ที่จะลงกับข้ารับใช้

หญิงรับใช้ข้างกายนางที่ชื่อจวีชุนถูกดุด่าว่ากล่าว ย่อมต้องออกไปพูดระบายกับบ่าวไพร่คนอื่น ๆ บ้างเป็นธรรมดา

หลงจ่านซิน คุณหนูรองจวนตระกูลหลงบังเอิญได้ยินคำพูดของจวีชุน ก็โกรธจนเลือดขึ้นหน้า เมื่อถามจนรู้สาเหตุแล้ว จึงได้รู้ว่าเป็นหลงจ่านเหยียนและกูกูสอนมารยาทผู้นั้นที่ทำให้มารดาโกรธ ทันใดนั้นก็พาหญิงรับใช้สองสามคนไปหาหลงจ่านเหยียน

นางสารเลวนั่นกล้าอวดดีเช่นนี้? คิดว่าตัวเองเป็นฮองเฮาจริง ๆ หรือไร? ไม่สั่งสอนให้นางหลาบจำเสียบ้าง นางคงคิดว่าตัวเองสูงส่งเสียดฟ้าเสียแล้ว

นางหลงจ่านเหยียนก็เป็นแค่สุนัขที่กระดิกหางขอความเมตตาในจวนแม่ทัพเท่านั้น!

เมื่อนางมาถึง หลงจ่านเหยียนกำลังกินอาหารด้วยสีหน้าเศร้าหมอง

ที่บอกว่าเศร้าหมอง ก็เพราะว่าแทบจะไม่มีเนื้อเลยสักชิ้น จะเห็นได้ว่าถึงแม้จะได้รับการแต่งตั้งเป็นฮองเฮาแล้ว แต่หลงฮูหยินก็ยังคงตระหนี่ถี่เหนียว ยังคงปฏิบัติต่อนางอย่างโหดร้าย ไม่ยอมให้นางได้กินอิ่มแม้แต่มื้อเดียว

มองดูรูปร่างของหลงจ่านเหยียนที่ผอมแห้งบอบบาง แม้แต่หน้าอกก็ไม่มี ก็รู้ได้ว่าช่วงวัยเจริญเติบโตนั้นได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ นางจึงตั้งปณิธานว่าจะต้องบำรุงร่างกายนี้ให้อ้วนท้วนสมบูรณ์ โชคดีที่ร่างกายนี้เพิ่งอายุสิบหกปี ยังมีศักยภาพที่จะพัฒนาไปเป็นคัพดีได้

ขณะที่นางกำลังโศกเศร้าคร่ำครวญอยู่นั้น จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียง “โครม” ดังขึ้น ประตูถูกถีบเปิดออก ร่างสีเขียวพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วราวกับพายุหมุน น้ำเสียงที่หยิ่งผยองและโกรธเกรี้ยวก็ดังขึ้นกระทบโสตประสาทของหลงจ่านเหยียน

“หลงจ่านเหยียน ตอนนี้เจ้าใหญ่โตนักนะ ถึงขนาดกล้ารังแกท่านแม่แล้วหรือ?” สิ้นเสียง เจ้าของเสียงก็ปัดจานชามบนโต๊ะอาหารตกพื้นแตกกระจายไปทั่ว เสียงดัง “โครมคราม” โต๊ะอาหารก็ถูกนางพลิกคว่ำลงกับพื้นทันที
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Chonchanok Phuangthong
555 ขำนังแม่เลี้ยง,ชอบนางเอกแบบนี้แระ
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 400

    “อ๊า...” นางส่งเสียงร้องอนาถออกมา ลมข้างหูราวกับกรอกเข้าไปอย่างไรอย่างนั้น ในใบหน้าเต็มไปด้วยลม นางแทบจะไม่ได้ยินเสียงใด ๆ ความรู้สึกเสียน้ำหนักทำให้ลมหายใจของนางถูกดักไป ทรวงอกมีความรู้สึกเหมือนจะระเบิดนางยังร่วงลงไปไม่หยุด ก็ขณะที่นางนึกว่าตัวเองต้องร่างแหลกเหลวขาดอากาศตายนั้น ก็ราวกับถูกใครฉุดไหล่ขึ้น จากนั้นก็พุ่งพรวดขึ้นมา ในตอนที่นางคืนสติก็ยืนอยู่บนผิวพื้นแล้วหมอกควันตรงหน้าสลายไปฉับพลัน ทิวทัศน์เบื้องหน้าค่อย ๆ แจ่มชัด นางยังไม่ทันมอง ได้แต่หายใจกระหืดกระหอบ“ดีขึ้นบ้างหรือยัง?”นางหอบหายใจชะงักงัน จึงเห็นจ่านเหยียนยืนอยู่ตรงหน้า“เกิดอะไรขึ้นหรือ?” อาเสอพบว่าตัวเองเนื้อตัวเปียกปอน มีหยดน้ำไหลติ๋ง ๆ จากเส้นผม“เจ้าเกือบจมน้ำตายแล้ว” จ่านเหยียนกล่าวเรียบอาเสอตกตะลึง เมื่อหันไปมอง นางเห็นเพียงทะเลสาบที่คนขุดอันกว้างขวาง ทะเลสาบมีใบบัวเป็นแถบ ๆ บดบังน้ำใสในทะเลสาบ“เมื่อครู่ข้าอยู่กลางอากาศชัด ๆ” อาเสอไม่รู้สึกประหวั่นพรั่นพรึงเช่นนี้นานมากแล้ว“เจ้าเข้าค่ายกลลวงวิญญาณ” จ่านเหยียนลากแขนของนาง ครั้นกระโดดขึ้นเบา ๆ ปลายเท้าของจ่านเหยียนแตะอยู่บนต้นดอกท้อทีหนึ่งก็ตกอยู่หน

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 399

    พระราชครูพาถงจื่อซั่งกลับอารามซานชิงที่เขาพำนักอยู่อารามซานชิงตั้งอยู่ในวังหลวง อยู่ทางตะวันตกของวังหลวง ห่างจากตำหนักเย็นเพียงหนึ่งก้าวเท่านั้นอาเสอตามเขาติด ๆ เขาก็เหมือนจะพบอาเสอแล้วเหมือนกัน ผ่อนความเร็วฝีเท้าเล็กน้อย หันกลับมามองเป็นระยะ ฉีกริมฝีปากยิ้มจาง ๆอาเสอตามไปติด ๆ แต่ขณะอยู่ในป่าดอกท้อกลับไม่เห็นร่องรอยของเขาอาเสอวนไปวนมา แต่ก็ออกจากป่าดอกท้อไม่ได้ ดอกท้อโรยราหมดแล้ว กิ่งไม้งอกใบเขียวอ่อนรับกับสายลมเริงระบำอาเสอวนอยู่ในป่าดอกท้อหลายรอบ วกไปวนมา สุดท้ายกลับหยุดอยู่สถานที่เดิม ๆอาเสอรู้ว่าตัวเองเข้าม่านอาคมที่พระราชครูวางไว้แล้ว นางจึงยืนนิ่งแล้วหลับตาฟังเสียงลมแยกแยะตำแหน่งจากนั้นก็เดินไปตามทางลม แต่... หลังจากที่นางเดินไปได้ไม่กี่ก้าว จู่ ๆ ลมก็นิ่งไป ในอากาศราวกับมีกลิ่นหอมจาง ๆ อย่างหนึ่งลอยมา นางพูดในใจว่าแย่แล้ว แต่นางสูดกลิ่นหอมเข้าไปแล้ว หัวสมองมึนงงทันใดป่าดอกท้อตรงหน้าหายไปฉับพลัน หมอกควันมวลหนึ่งพวยพุ่งตรงหน้า ท่ามกลางความขมุกขมัว นางเห็นแผ่นหินทางเดินทอดยาวออกไป นางลังเลขณะหนึ่ง ก่อนจะเหยียบแผ่นหิน สติสัมปชัญญะเริ่มเลือนรางหมอกควันหนาทึบขึ้นเรื

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 398

    ช่างลำบากใจเขามากจริง ๆ เพื่อความสุขของหลงอู่ เขาเป็นทุกข์เป็นร้อนเหลือเกินนายท่านเฉินมองคุณหนูเฉิน “เซียงเอ๋อร์ เจ้าคิดเห็นอย่างไร?”คุณหนูเฉินใช้พัดกลมปิดบังใบหน้า เอ่ยด้วยความขวยเขินเล็กน้อย “ทุกอย่างสุดแต่ท่านพ่อจะตัดสินใจเจ้าค่ะ”หวังติ่งทังได้ยินคำพูดประโยคนี้ก็รู้ว่าสำเร็จแล้ว จึงอมยิ้มเอ่ย “นายท่านเฉิน หลงอู่ผู้นี้ถือว่าเป็นน้องชายบุญธรรมของข้า ตอนนี้น้องสาวของข้าหมั้นกับคุณชายบ้านท่าน น้องชายบุญธรรมของข้ายังแต่งกับบุตรสาวของท่าน คิดดูแล้วเราสองครอบครัวช่างเป็นญาติที่มีสัมพันธ์แน่นแฟ้นจริง ๆ”นายท่านเฉินก็ดูดีใจมากเช่นนั้น ถอนหายใจเอ่ย “ไอ้หยา หลานหวัง วันนี้ข้าอารมณ์ดียิ่งนัก เจ้าไม่รู้เรื่องข้าคิดหนักเรื่องแต่งงานของเซียงเอ๋อร์มานานเท่าใดแล้ว หากเป็นครอบครัวทั่วไป ย่อมตัดใจให้นางไปตกระกำลำบากไม่ได้ หากเป็นตระกูลใหญ่...”นายท่านเฉินพูดถึงตรงนี้ก็ไม่พูดต่อ หวังติ่งทังไม่เข้าใจความหมาย เพียงพูดด้วยความยินดี “ตอนนี้เรื่องมงคลสองครอบครัวได้กำหนดแล้ว เช่นนั้นคุณหนูเฉินออกเรือนก่อน จากนั้นก็คุณชายแต่งงาน ดูว่าวันใดจะเป็นฤกษ์ยามมงคล จะเลือกวันจัดเสียทีเดียว ขอเพียงคุณหนูเฉินออก

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 397

    ราชครูถงอยู่ในตำหนักฉือหนิงกับจงเสี้ยน วางร่างของถงจื่อซั่งไว้ที่ตำหนักหลัก จงเสี้ยนสั่งให้คนในตำหนักออกไปพร้อมเชิญพระราชครูมา“พระราชครู? เขายังอยู่ในวังหรือ?” ราชครูถงถามด้วยความประหลาดใจพระราชครูคือคนของเขา รับผิดชอบยุแยงตะแคงรั่วกับอดีตฮ่องเต้ แต่หลังจากอดีตฮ่องเต้สวรรคต เขาเคยบอกว่าจะลากลับภูเขา ไม่นึกว่าตอนนี้ยังไม่ไป“เขาไปแล้ว แต่กลับมาเมื่อช่วงก่อน วิชาพรตของเขาล้ำเลิศกว่าแต่ก่อนมาก ดูสิว่าเขาจะช่วยชีวิตจื่อซั่งได้หรือไม่” จงเสี้ยนเอ่ย“จื่อซั่งหมดลมไปแล้ว ต่อให้เขามีทักษะการแพทย์ล้ำเลิศแล้วจะทำอะไรได้?” ราชครูถงเอ่ย“เรื่องมาถึงขั้นนี้ ท่านยังไม่เชื่อว่าโลกนี้มีหลาย ๆ เรื่องที่เราไม่สามารถอธิบายได้หรือ? ท่านคิดว่าหลงจ่านเหยียนก็คือลูกสาวของหลงฉางเทียนจริงหรือ? ท่านพี่ อย่าไร้เดียงสาไปหน่อยเลย แม้เราจะหาคนมา แต่เบื้องหลังจะมีคนสับเปลี่ยนตัวหรือไม่ก็ไม่รู้” จงเสี้ยนเอ่ยจากใจ“เจ้าคิดว่าหลงฉางเทียนกล้าสับเปลี่ยนตัวหรือ? ต่อให้เขามีพันหัวเขาก็ไม่กล้าหรอก” ราชครูถงหัวเราะเสียงเย็น“หลงฉางเทียนไม่กล้า แต่ท่านกล้าพูดว่ามู่หรงหล่างเทียนไม่กล้าหรือ? ตอนนั้นทุกคนคิดว่าเขาหมดสติ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 396

    จ่านเหยียนหัวเสียเล็กน้อย “สบายใจได้ ข้าต้องคืนชุดให้ท่านแน่”“เช่นนั้นก็ดี!” มู่หรงฉิงเทียนกล่าวจบก็เดินอาด ๆ ไปจ่านเหยียนคับอกคับใจกับเงาหลังของเขานานระยะหนึ่งจึงหมุนตัวกลับตำหนักบรรทมอย่างกรุ่นโกรธอาเสอกลับมาเห็นจ่านเหยียนหงุดหงิดอยู่คนเดียวในห้องจึงถาม “เป็นอะไรไปหรือ? ใครทำให้ท่านโกรธ?”“เปล่า!” จ่านเหยียนถือเข็มกับด้ายอยู่ในมือ เย็บเป็นเส้นตะขาบ แล้วพูดด้วยความหงุดหงิด “เจ้าว่าเขาหมายความว่าอย่างไร?”“ใครหมายความว่ายังไง?” อาเสอถามด้วยความสับสนจ่านเหยียนสูดลมหายใจเข้าลึก “ไม่มีอะไรแล้ว”“เป็นบ้าอะไรขึ้นมา ใครทำให้ท่านโมโห? มู่หรงฉิงเทียนหรือ?” อาเสอถาม“เขาทำให้ข้าโกรธได้หรือ? เขาเป็นอะไรกับข้า?” จ่านเหยียนพูดอย่างไม่สบอารมณ์อาเสอมองนางด้วยความอยากรู้ จากนั้นก็ขมวดคิ้ว “ไม่ใช่นะ น้ำเสียงการพูดของท่านมันมีปัญหา เขาไม่เป็นอะไรกับท่านจริง ๆ นั่นแหละ เขาจะทำอะไรย่อมไม่เกี่ยวกับท่าน แล้วท่านมาผายลมอยู่นี่มันหมายความว่าอย่างไร?”“เอ๊ะ ทำไมเจ้าถึงเป็นคนหยาบคายอย่างนี้?” จ่านเหยียนอารมณ์ขึ้น คว้ารองเท้าปักลายบนโต๊ะแล้วไล่ฟาดนาง “เจ้ายังมีคำพูดอะไรที่ทุเรศกว่านี้อีกไหม? พูดก

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 395

    อาเสอจึงได้แต่ส่งเหมย หลาน จู่และจวี๋ออกจากวัง ที่ทำก็เพราะกลัวว่าพวกเขาจะถูกฆ่าปิดปาก นางจ้างรถม้าส่งออกนอกเมืองในคืนนั้น แล้วล้วงเงินให้พวกเขาจำนวนหนึ่งต้าเหมยรับเงินมาแล้วดึงแขนเสื้อของอาเสอ ถาม “โปรดบอกคุณหนูใหญ่ บุญคุณครั้งนี้ ชาตินี้ต้าเหมยไม่มีวันลืม หากมีโอกาสต้องตอบแทนแน่”อาเสอเอ่ย “ไม่หวังให้พวกเจ้าตอบแทน ถึงเวลาอย่าถูกคนหลอกใช้ก็พอ หนีเอาตัวรอดเถอะ ราชครูถงไม่ปล่อยพวกเจ้าไปหรอก”ทั้งสี่ขึ้นนั่งรถม้าหนีเอาตัวรอดหลังจากที่อาเสอไป ต้าเหมยก็ให้สารถีหยุดรถ “ข้าจะกลับเมืองหลวง”อาจู๋ดึงเขาไว้ “เจ้าบ้าไปแล้วหรือ? ราชครูถงไม่ปล่อยเราหรอก”ต้าเหมยกระโดดลงรถม้าแล้วมองทั้งสามคน “คุณหนูใหญ่ไม่เคยเอาเปรียบเรา กระทั่งเวลานี้ก็ยังเป็นห่วงชีวิตของเรา ข้าจะเห็นแก่ตัวเช่นนี้ไม่ได้ ข้าจะกลับไป”“เจ้ากลับไปแล้วจะทำอะไรได้?” อาจู๋ถามต้าเหมยนิ่งเงียบพักหนึ่ง “ไม่รู้ แต่กลับไปแล้วค่อยว่ากัน”เขานิ่งไปพักหนึ่งแล้วพูดอีก “ชาตินี้เราอยู่ใต้น้ำลายคนอื่น ไม่เคยได้รับความเคารพจากใคร แต่คุณหนูใหญ่เห็นพวกเราเป็นคนจริง ๆ ข้าอยากเป็นคนอย่างแท้จริง ข้าไม่อยากเร่ร่อนเหมือนสุนัขไร้บ้าน”กล่าวจบเข

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status