แชร์

บทที่ 8

ผู้เขียน: เย่ชิงขวง
คุณ...คุณหนูสาม... กล้าตบ...ตบหน้าอี๋เหนียงห้าเลยหรือ...

แม่เจ้า พวกเขาไม่ได้ตาฟาดใช่ไหม

อี๋เหนียงห้าเป็นถึงอนุคนโปรดของนายท่านเชียวนะ

อี๋เหนียงห้าโดนตบจนเห็นดาว เกือบเซล้ม นางกุมใบหน้าบวมแดงอย่างตกตะลึง ทุกคนต่างมองนางด้วยสายตาแปลกประหลาด

อี๋เหนียงห้าเก็บอารมณ์ไม่อยู่ ตวาดลั่น "นี่เจ้ากล้าตบข้าหรือ?"

"ก็ตบเจ้าอย่างไรเล่า"

"สามหาว! สามหาว! ใครก็ได้ จับตัวคุณหนูสามเอาไว้ วันนี้ข้าจะสั่งสอนนางให้เข็ด"

"กล้าก็เข้ามา"

กู้ชูหน่วนที่เคยอ่อนแอ กลับแผ่รังสีทรงอำนาจไปทั่วร่าง

แววตาของนางเย็นยะเยือก เย็นชาไร้ซึ่งตวามรู้สึก เมื่อถูกนางจ้องมอง เหล่าบ่าวรับใช้ตัวสั่นอย่างห้ามไม่อยู่ ราวกับก้าวเท้าข้างหนึ่งลงนรกไปแล้วอย่างไรอย่างนั้น

กู้ชูหน่วนเอ่ยเสียงเย็นชา "ท่านแม่ข้าคือน้องสาวบุญธรรมของฮ่องเต้พระองค์ก่อน ได้รับแต่งตั้งเป็นองค์หญิงเจาหลิง ส่วนข้านั้นเป็นลูกสาวแท้ๆ ขององค์หญิง คุณหนูสามสายตรงแห่งจวนอัครเสนาบดี อี๋เหนียงห้าจะเทียบอันใดได้? ก็แค่อนุภรรยาชั้นต่ำในจวนอัครเสนาบดี อย่าว่าแต่ข้าตบเจ้าวันนี้เลย ต่อให้วันนี้ข้าฆ่าเจ้า ก็ไม่มีใครทำอะไรข้าได้"

ตาลาย

ทุกคนต่างตาลาย

หากการที่นางปฏิเสธสมรสพระราชทานกับเทพสงครามหานอ๋องก่อนหน้านี้คือคลุ้มคลั่ง นางถึงได้กล้าบ้าบิ่นเช่นนั้น

แต่คราวนี้นางตบอี๋เหนียงห้าต่อหน้าคนมากมาย ทั้งยังยโสอหังปานนี้ ก็เรียกว่าคลุ้มคลั่งอย่างนั้นหรือ?

ไม่ เป็นไปไม่ได้

คุณหนูสามเปลี่ยนไปแล้ว

นางไม่ใช่คนอ่อนแอที่ถูกรังแกได้ง่ายๆ เหมือนแต่ก่อน

อี๋เหนียงห้าสะอึกจนพูดไม่ออก

นางสารเลวนี่ วันนี้ผีเข้าหรืออย่างไร ถึงได้กล้าอวดดีเช่นนี้ ทว่าแต่ละประโยคที่อีกฝ่ายพูด นางกลับเถียงไม่ออกเลย

สาวใช้คนสนิทของอี๋เหนียงห้า เซี่ยอวี่เห็นเหตุการณ์จึงเอ่ยอย่างเดือดดาล "ต่อให้เจ้าจะเป็นคุณหนูสามสายตรง แต่จะมาตบตีอี๋เหนียงห้าโดยไม่มีเหตุผลเช่นนี้ไม่ได้ อย่างไรเสียนางก็เป็นผู้อาวุโส"

"เจ้านายคุยกัน เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาสอด จับตัวนางไว้"

ณ ที่นั้นนิ่งสงัด ไม่มีใครฟังคำสั่งของนาง

อี๋เหนียงห้าและสาวใช้เซี่ยอวี่ลำพองใจ

ต่อให้นางจะมีอำนาจมากเพียงใด แต่ไม่มีใครในจวนฟังคำสั่งนาง

ขณะที่อี๋เหนียงห้ากำลังจะสั่งสอนกู้ชูหน่วน แต่ดันเห็นกู้ชูหน่วนยิ้มร้าย กู้ชูหน่วนแย่งท่อนไม้จากมือของบ่าว ฟาดไปที่ร่างของเซี่ยอวี่ดังปึกอย่างรวดเร็วและรุนแรงปานสายฟ้า

"ดูท่าแล้ววันนี้คุณหนูอย่างข้าคงต้องสั่งสอนเจ้าเสียให้หลาบจำ ไม่อย่างนั้นเจ้าคงไม่มีวันรู้ว่าเหตุใดดอกไม้ถึงได้แดงนัก"

เซี่ยอวี่เจ็บจนต้องร้องสูดปาก สัญชาตญาณบอกให้ต่อต้าน ทว่ากู้ชูหน่วนกลับฟาดรัวไม่รู้กี่ไม้ต่อกี่ไม้ ไม่ว่านางจะหลบอย่างไร ไม้ของกู้ชูหน่วนก็เหมือนมีดวงตาจับจ้องนางอยู่ จนนางไร้ทางสู้

"เจ็บ...เจ็บจะตายอยู่แล้ว อี๋เหนียงห้า ช่วยข้าทาสด้วยเจ้าค่ะ"

อี๋เหนียงห้าเดือด "หยุดนะ หยุดเดี๋ยวนี้ ใครก็ได้ รีบมาหยุดนางที"

"ข้าคือคุณหนูสามสายตรง คือหานอ๋องเฟยที่ฮ่องเต้พระราชทานสมรสให้ ใครกล้าดีมาขวางข้า"

เหล่าบ่าวต่างหยุดชะงัก

หานอ๋องคือใครน่ะหรือ นั่นคือคนที่มีอำนาจสูงสุดแห่งแคว้นเย่อย่างไรเล่า แม้แต่ฮ่องเต้ยังเกรงกลัว

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่เห็นหัวคุณหนูสาม แต่ด้วยยศถาบรรดาศักดิ์ของนาง พวกเขาจึงไม่กล้าลงมือจริงๆ

อี๋เหนียงห้าโกรธจนหน้าดำหน้าแดง

บ่าวพวกนี้วันๆ แย่งกันประจบประแจงนาง พอถึงคราวต้องใช้งาน กลับแกล้งตายไปเสียหมด

เมื่อเห็นเซี่ยอวี่ถูกตีจนเลือดอาบ อัครเสนาบดีก็ไปประชุมราชสำนัก กู้ชูหลันลูกสาวของตัวเองก็ไปสำนักบัณฑิตหลวงตั้งแต่เช้า ไม่เหลือที่พึ่งพิงในจวนอัครเสนาบดีแล้ว

อี๋เหนียงห้าจำต้องหันไปหาฮูหยินใหญ่ ร้องขอความช่วยเหลือ "ฮูหยินเจ้าคะ ท่านช่วยห้ามคุณหนูสามได้หรือไม่ หากตีต่อไป เซี่ยอวี่คงไม่รอดแน่"

แม้ฮูหยินใหญ่จะตกใจกับความเปลี่ยนแปลงของกู้ชูหน่วน กระนั้นก็มองออกว่าอี๋เหนียงห้านั้นพลาดท่าเสียแล้ว นางถึงได้สะใจนัก

"เซี่ยอวี่เป็นแค่สาวใช้ แต่กลับจาบจ้วงคุณหนูสามต่อหน้าคนมากมาย คงถึงเวลาแล้วที่จะจัดระเบียบบ่าวในจวนเสียบ้าง ไม่อย่างนั้นคงไม่รู้ว่าผู้ใดเป็นนายในจวนนี้กันแน่"

อี๋เหนียงห้าขุ่นเคืองยิ่งนัก

ฮูหยินใหญ่กำลังหลอกด่านางชัดๆ พูดว่าอี๋เหนียงต่ำต้อยอย่างนางแย่งชิงอำนาจฮูหยินใหญ่ของตัวเองไป

นางไม่ลงรอยกับฮูหยินใหญ่มาแต่ไหนแต่ไร ฮูหยินใหญ่คงอยากจะกำจัดเซี่ยอวี่ไปให้พ้น ขอร้องต่อไปก็เปลืองแรงเปล่า

อี๋เหนียงห้าจำต้องหันไปหาอี๋เหนียงสาม "พี่สามเจ้าคะ ท่านช่วยเกลี้ยกล่อมคุณหนูคุณหนูสามได้หรือไม่"

แม้จะเป็นลูกสาวอนุเหมือนกัน แต่กู้ชูหลันกลับได้เข้าเรียนสำนักบัณฑิตหลวง อี๋เหนียงสามอดกลั้นเพลิงในอก นางอยากจะใช้เท้าขยี้อี๋เหนียงห้าให้แหลกด้วยซ้ำ มีหรือนางจะตอบตกลง

อี๋เหนียงสามเล่นเล็บแดงของตัวเองด้วยท่าทางเกียจคร้าน ป้องปากยิ้มบางพลางเอ่ย "อี๋เหนียงห้า อย่าทำให้ข้าต้องลำบากใจเลย? ว่าตามตรงข้าเองก็เป็นแค่อนุนางหนึ่ง หากคุณหนูสามอยากจะจัดการใคร ข้าจะมีสิทธิ์อะไรไปห้าม ลูกสาวเจ้าเองก็ได้รับเมตตาให้เข้าเรียนสำนักบัณฑิตหลวงมิใช่หรือ ไม่เช่นนั้น เจ้าลองให้ลูกสาวเจ้ามาเกลี้ยกล่อมสิ?"

อี๋เหนียงห้าแทบหายใจไม่ทัน

อี๋เหนียงสามกำลังดูถูกนางอยู่ชัดๆ

ใครจะไม่รู้บ้างว่าที่ลูกสาวนางได้เข้าเรียนที่สำนักบัณฑิตหลวงก็เพราะได้อานิสงส์จากกู้ชูหน่วน

อีกอย่างลูกสาวนางก็เป็นแค่ลูกสาวสายรอง ต่อให้มาแล้ว หากกู้ชูหน่วนคิดจะหาเรื่องกันจริงๆ นางคงรับมือไม่ไหว หลักกับรองแม้จะต่างกันเพียงคำเดียว แต่ฐานะนั้นต่างกันราวฟ้ากับเหว

"อี๋เหนียงห้า ช่วยข้าด้วย ช่วยข้าด้วย..."

เซี่ยอวี่โดนฟาดจนเลือดอาบ เสียงกรีดร้องค่อยๆ รวยริน เหงื่อเย็นและเลือดไหลไปตามพื้น ทว่ากู้ชูหน่วนราวกับมองไม่เห็น ฟาดไม้ลงบนร่างนางไม่หยุดหย่อน ทุกคนต่างได้ยินเสียงกระดูกหักทุกคราที่ไม้ฟาดลงไป

เฮือก...

คุณหนูสามยามปกติไม่เคยมีปากเสียง คิดไม่ถึงเลยว่ายามโมโหขึ้นมาจะน่ากลัวเช่นนี้ ดูท่าแล้ววันหน้าพวกเขาคงต้องระวังตัวสักหน่อย จะรังแกนางเหมือนแต่ก่อนไม่ได้อีกแล้ว

เซี่ยอวี่คือบ่าวที่ติดตามอี๋เหนียงห้ามาด้วยตอนแต่งเข้าจวน เติบโตมาพร้อมกับนาง แม้จะเรียกว่านายบ่าว แต่ความจริงแล้วเหมือนพี่น้อง หลายปีมานี้ก็ช่วยงานอี๋เหนียงห้าได้ไม่น้อย

หากนางตายไป ย่อมเท่ากับว่าสายข่าวของอี๋เหนียงห้าถูกตัดขาด อี๋เหนียงห้าจะยอมได้อย่างไร นางขวางหน้าเซี่ยอวี่เอาไว้

อี๋เหนียงห้าคิดว่าต่อให้กู้ชูหน่วนจะอวดดีเพียงใด ก็คงไม่กล้าตีนาง แต่นางคาดไม่ถึงเลยว่ากู้ชูหน่วนจะฟาดแผ่นหลังนางอย่างแรงจนเสียงดังอึก ถึงขั้นว่านางเองยังได้ยินเสียงกระดูกร้าว

"โอ๊ย...กู้ชูหน่วน เจ้ากล้าตีข้าหรือ"

ฮูหยินใหญ่และอี๋เหนียงสามเองก็ไม่คาดคิด กู้ชูหน่วนบ้าดีเดือดได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ อี๋เหนียงห้าใช้ตัวเป็นเกาะกำบังแล้ว แต่นางก็ยังกล้าลงไม้ลงมือกับอี๋เหนียงห้า

แถมกู้ชูหน่วนไม่ได้ฟาดแค่หนเดียวด้วย นางฟาดรัวถึงสองไม้ เอาเสียจนอี๋เหนียงห้าเกือบหมดสติไป ถึงได้ร้องตกใจหน้าตาใสซื่อ

"โธ่ อี๋เหนียงห้า ข้าแค่สั่งสอนบ่าวรับใช้ ท่านจะวิ่งเข้ามาทำไมกัน ไม้มันไม่ได้มีลูกตาเสียหน่อย ดูสิดู โดนลูกหลงเข้าจนได้"

อี๋เหนียงห้ากัดฟันกรอด ถลึงตามองกู้ชูหน่วนอย่างเคียดแค้น ราวกับอยากจะกลืนนางทั้งเป็น

เมื่อเห็นเซี่ยอวี่หายใจไม่เป็นจังหวะ ส่วนอี๋เหนียงห้าก็โดนหวดไปสามไม้ หมอใหญ่ถึงได้เอ่ยเสียงเนิบช้าขึ้น

"คุณหนูขอรับ นางบ่าวชั่วนี้ถูกลงโทษแล้ว ข้าว่าวันหน้านางคงไม่กล้าทำผิดอีก พอแค่นี้เถิดขอรับ"

กู้ชูหน่วนยิ้มเย้ยหยัน เอ่ยอย่างไม่ไว้หน้าหมอใหญ่แม้แต่นิด "พอแค่นี้? ข้าเป็นถึงคุณหนูสายหลัก แต่เสื้อผ้าที่สวมใส่ยังเทียบกับพวกสาวใช้มิได้เลย หลายปีมานี้ เงินเดือนแม้แต่เหวินเดียวข้าก็ไม่ได้รับ ฮูหยินใหญ่ ท่านจะอธิบายเรื่องนี้อย่างไร"
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 585

    ซี้ดดด... ทันทีที่พูดประโยคนี้ออกมา คนทั้งสำนักบัณฑิตหลวงต่างก็พากันลนลาน พวกเขารอไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว นับประสาอะไรกับแปดปีสิบปี หากต้องรอเป็นสิบปี เช่นนั้นผมคงได้ขาวกันก่อนแน่ "หานอ๋องเฟย หากท่านหิว ท่านก็หาอะไรกินก่อน หากเหนื่อย ก็นอนพักสักงีบ แต่สิบปีมันนานเกินไป พวกข้าได้รอจนว้าวุ่นใจเป็นแน่" "นั่นน่ะสิ หากอ่านเรื่องนี้ไม่จบ ข้าคงค้างคาใจ กินไม่ได้นอนไม่หลับ เฝ้ารอให้ท่านเขียนต่อ" กู้ชูหน่วนยิ้มเยาะ คนเหล่านี้ เห็นนางเป็นนักเขียนนิยายไปแล้วหรืออย่งไร นางว่างขนาดที่มีเวลามาเขียนนิยายให้พวกเขาอ่านกันหรืออย่างไร บัณฑิตหนึ่งในนั้นพูดด้วยความร้อนรน "ปิ่นระย้าด้ามนั้นของอาจารย์ซ่างกวานประณีตงดงาม หยกก็ยังเป็นของชั้นดี หรือว่าท่านไม่อยากได้ที่หนึ่ง ไม่อยากได้ปิ่นระย้าผีเสื้อหยกขาวแล้วหรือ" "ข้าอยากรักษาชีวิตข้าไว้มากกว่า" ทั้งสำนักบัณฑิตหลวงเสียงดังระงม บ้างก็เตือนกู้ชูหน่วน บ้างก็ส่งข้าวส่งน้ำมาให้กู้ชูหน่วน บ้างก็ตัดพ้อหานอ๋องและฮ่องเต้เย่ หากไม่ใช่เพราะพวกเขา มีหรือที่กู้ชูหน่วนจะหยุดเขียน ยังมีบางคนที่คอยวิเคราะห์เนื้อหาตอนต่อไป ซ่าง

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 584

    ณ สำนักบัณฑิตหลวง กู้ชูหน่วนเขียนตั้งแต่เช้ายันค่ำ แล้วก็เขียนต่อตั้งแต่ค่ำยันเช้า เขียนจนปวดระบมไปทั้งแขน ข้างหูมีเสียงกระซิบกระซาบ เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังขึ้นไม่หยุด ทั้งยังมีคนจำนวนไม่น้อยเร่งให้นางเขียนเร็วๆ กู้ชูหน่วนโมโห โยนพู่กันขนสัตว์ในมือทิ้ง "รอดูเฉยๆก็เลยไม่เหนื่อยกันใช่หรือไม่ หากพวกเจ้าเร็วนัก เช่นนั้นก็มาเขียนเองเลย" "หานอ๋องเฟย เป็นเพราะท่านเขียนดีเกินไป พวกเราอ่านแล้วก็อดรู้สึกค้างคางใจไม่ได้ อยากจะอ่านทั้งหมดให้จบ" กู้ชูหน่วนร้อนจนต้องถกแขนเสื้อ คนพวกนี้มุงล้อมนางทั่วทุกทิศ อยากให้นางหายใจไม่ออกหรืออย่างไร "อยากให้ข้าเขียนต่อละก็ พวกเจ้าทุกคนถอยหลังไปคนละยี่สิบก้าว ห้ามเข้าใกล้ข้าอีก" หากไม่ใช่เพราะอยากได้ปิ่นระย้า นางไม่มีทางทนจนถึงตอนนี้ ทุกคนต่างก็ไม่ยอมถอย หากถอยหลังไป พอนางเขียนสิ่งใด พวกเขาก็จะมองไม่เห็น แต่หากพวกเขาไม่ถอยไป ก็กลัวกู้ชูหน่วนจะโมโห แล้วเลิกเขียนไปกะทันหัน ถึงเวลานั้นจะเสียหายหนักกว่าเดิม ทำได้เพียงแค่ถอยไปพร้อมกัน ในระหว่างที่กู้ชูหน่วนกำลังไม่สบอารมณ์เป็นอย่างยิ่ง ชิงเฟิงพลันปรากฏตัวขึ้นปุบปับ เขาทำความเคารพ แล

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 583

    "หากพระชายาเขียนตามแบบฉบับนี้และเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไป เช่นนั้นเจ้าก็ไม่ต้องกลับมาที่จวนหานอ๋องอีก" "ขอรับ…" ชิงเฟิงรับคำสั่งด้วยใบหน้าสลด ตั้งแต่ที่พระชายาเข้ามาในจวนอ๋อง เขาก็ไม่เคยได้มีชีวิตที่สงบสุขเลยสักวัน เจี้ยงเสวี่ยรีบโพล่งออกมา "นายท่าน ข้าน้อยจะรีบไปบอกให้เรือนชาลฟ้าดำเนินการสืบหาก่อน" ไม่รอเย่จิ่งหานตอบตกลง เจี้ยงเสวี่ยก็แผ่นแน่บออกไปทันที ชิงเฟิงได้แต่นิ่งอึ้ง เหตุใดเขาถึงได้ลืมวิธีนี้ไปอีกแล้ว ต่อไปเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพระชายา เขาก็จะรีบเปิดแน่บไป ทิ้งปัญหาไว้ให้กับเจี้ยงเสวี่ยบ้าง ณ คฤหาสน์หลังหนึ่งในเมืองหนานเฉิง นิ้วเรียวขาวดุจหยกของหัวหน้าเผ่าหมอ ปลายนิ้ววาดผ่านเรื่องสั้นหน้าแล้วหน้าเล่า ใบหน้าที่ร้ายกาจมุ่นคิ้วเป็นระยะ บ้างก็อมยิ้ม บ้างก็เสียใจ อารมณ์เปลี่ยนแปลงไปตามเนื้อหา ในที่สุดเขาก็อ่านจนจบ เขาขมวดคิ้วมุ่นด้วยความไม่พอใจ "ที่เหลือเล่า" "นายท่าน บ่าวรับใช้ยังไม่ส่งมา คงใกล้มาถึงแล้ว" “จะช้าเกินไปหรือเปล่า ในเมื่อเดินช้าเช่นนี้ จะเก็บขาเขาไว้ทำไม ตัดทิ้ง แล้วส่งผู้ที่รวดเร็วกว่าไป” "ขอรับ" เซวี่ยซาปาดเหงื่อ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 582

    ต้องรู้ก่อนว่านางเอกหยางฉู่รั่วไม่เพียงแต่มีสัมพันธ์กับเซวียนหยวนจิ่นเจ๋อ ยังมีสัมพันธ์กับพระรองเฟิงหลิง ที่สำคัญที่สุดคือ ยังมีสัมพันธ์กับเฟิงหลิงบนเตียงของฉู่หนิงเฉินอีกด้วย เขียนให้ฉู่หนิงเฉินไร้ประโยชน์ขนาดนี้ นายท่านของพวกเขาเป็นถึงผู้ใด ฉู่หนิงเฉินจะเทียบได้อย่างไร เย่จิ่งหานรู้สึกว่าชิงเฟิงพูดถูก แต่ก็เหมือนจะมีบางอย่างไม่ถูกต้อง ระหว่างที่มองตัวหนังสือเหล่านั้น เขาก็พึมพำกับตัวเอง "นางใช้หยางฉู่รั่วเป็นร่างสมมติของตัวเอง จงใจจะให้ข้าอ่านเรื่องนี้ ให้ข้ารู้ว่านางต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ให้ข้าทะนุถนอมนางหน่อยเช่นนั้นหรือ" ชิงเฟิงเจี้ยงเสวี่ยกระตุกมุมปาก หยางฉู่รั่วตัวคนเดียวไร้ที่พึ่ง อ่อนแอบอบบาง พระชายาของพวกเขาใช่ผู้ที่ใจดีอ่อนแอ ปล่อยให้คนรังแกได้เสียเมื่อไหร่ แต่ไหนแต่ไรมาก็มีแต่พระชายารังแกผู้อื่น ยังไม่เคยเห็นผู้ใดจะทำให้พระชายาเสียเปรียบได้ แม้แต่นายท่านของพวกเขาก็ถูกพระชายาควบคุมบงการครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่มีวิธีต่อกรกับนางเลยสักนิด "พวกเจ้าว่า เฟิงหลิงในเรื่องที่พระชายาเขียนคือผู้ใด หัวหน้าเผ่าหมอหรือว่าเซียวอวี่เชียน?" "เรื่องนี้...นายท่าน ไ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 581

    หากเป็นเยี่ยงนี้ เช่นนั้นนางขอปฏิเสธที่จะเขียน แล้วคิดหาหนทางอื่นเพื่อให้ได้ปิ่นระย้าหยกขาวมาครองดีกว่า อาจเพราะสายตาของนางดูแน่วแน่เกินไป น้ำเสียงของซ่างกวานฉู่จึงอ่อนลงมาเล็กน้อย "เช่นนั้นก็ทั้งเมืองหลวงแล้วกัน ห้ามต่อรองอีก ไม่เช่นนั้นจะยึดรางวัลคืน" "อีกอย่าง ต้องเขียนเรื่องด้วยความตั้งใจ ห้ามจบแบบขอไปที ไม่เช่นนั้นรางวัลก็จะถูกยกเลิกเช่นกัน" กู้ชูหน่วนได้แต่กัดฟันตอบรับ "ได้" ช่างเถอะ เพื่อปิ่นระย้าหยกขาว นางจะสู้สุดแรง วันนี้ทั้งวัน กู้ชูหน่วนเร่งมือเขียนเรื่องด้วยความรวดเร็วที่สำนักบัณฑิตหลวง เพราะเรื่องที่นางแต่งยอดเยี่ยมยิ่งนัก เหล่าบัณฑิตล้วนแต่ถูกดึงดูดจนติดหนึบ บัณฑิตคนอื่นๆ ต่างก็เขียนต่อไม่ได้แล้ว แม้แต่กู้ชูอวิ๋นเองก็เขียนต่อไม่ได้ ทุกคนล้อมวงดูนางเขียน มีบางคนถึงขนาดที่คัดลอกทุกตัวอักษรที่กู้ชูหน่วนเขียน เพื่อส่งไปให้คนในครอบครัวของตนอ่าน ทุกครั้งที่กู้ชูหน่วนเขียนเสร็จหนึ่งแผ่น จะมีคนเก็บรวบรวมเพื่อนำให้ไปอาจารย์ซ่างกวานอ่านโดยเฉพาะ นานๆ ทีอาจารย์ซ่างกวานจะอยู่โต้รุ่งไม่ยอมกลับ เขานั่งอยู่ในห้องเรียนตลอด เพื่อรอต้นฉบับของกู้ชูหน่วน ก่อนหน้

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 580

    ทุกคนล้วนแต่รู้สึกดึงดูดจนดึงสติกลับมาไม่ได้ไปชั่วขณะ บ้างก็น้ำตารื้น ปาดน้ำตาไม่หยุด พลางร้องไห้สะอึกสะอื้น "เรื่องที่หานอ๋องเฟยเขียนช่างอนาถยิ่งนัก นางเอกเดิมเป็นที่รักของทุกคน แต่เมื่อผลัดเปลี่ยนรัชกาล ก็ถูกพาตัวเข้าวังไปทรมานตั้งแต่สิบขวบ ทั้งยังต้องคลอดลูกชายของทรราชอย่างเซวียนหยวนจิ่นเจ๋ออีก ตอนที่นางถูกรังแกเพิ่งจะอายุได้สิบขวบ เรื่องโหดร้ายทารุณเช่นนั้น เซวียนหยวนจิ่นเจ๋อทำลงได้อย่างไร" "ข้าคิดว่าพี่ชายทั้งเจ็ดของนางเอกหยางฉู่รั่วช่างน่าเวทนายิ่งนัก ทุกคนล้วนแต่มีความสามารถโดดเด่น เก่งกาจทั้งบู๊และบุ๋น แต่กลับต้องตายอย่างทรมาน อีกทั้งตระกูลหยางทั้งตระกูล เป็นตระกูลที่จงรักภักดีแท้ๆ เซวียนหยวนจิ่นเจ๋อช่างโหดเหี้ยมยิ่งนัก" "ไม่ ที่น่าเวทนาที่สุดคือลูกชายของหยางฉู่รั่ว เดิมทีเขาควรเป็นรัชทายาท แต่เพราะเซวียนหยวนจิ่นเจ๋อไม่ยอมรับเขา ถึงได้มีชีวิตที่เทียบไม่ได้กับกระทั่งข้าทาสในวังหลวง ตั้งแต่เกิดออกมาก็ต้องอยู่อย่างอดๆ อยากๆ ต้องทนหิวและหนาวเหน็บทุกวันคืน แต่เขาก็ไม่เคยตัดพ้อ เก็บของกินไว้ให้หยางฉู่รั่วทุกครั้ง เด็กคนนี้ ช่างรู้เดียงสาจนทำให้คนสงสารจับใจ" "นั่นน่ะสิ เขาถูก

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status