“เดี๋ยวผมจะปรับแก้ตามที่คุณวินเซนต์แนะนำมาอีกทีนะครับ คุณริชาร์ด” ภาคิณกล่าว ขณะเดินออกจากห้องประชุม
“ได้ครับ ถ้าเป็นอย่างที่พ่อผมแนะนำ เราน่าจะได้ผลิตภัณฑ์ที่คุ้มค่ากว่าเดิม” ริชาร์ดส่งแฟ้มให้วิลเลียมถือไว้
“นั่นน่ะสิครับ สมแล้วที่เป็นคุณวินเซนต์ ท่านเชี่ยวชาญในเรื่องยาจริง ๆ ” ภาคิณชมบิดาของชายหนุ่มไม่ขาดปาก “เดี๋ยวเชิญคุณริชาร์ดทานอาหารเย็นกันนะครับ เมย์น่าจะรอที่รถข้างล่างแล้วครับ”
“ได้ครับ” ริชาร์ดรับคำ
ทั้ง 2 คนพูดคุยเรื่องต่าง ๆ จนมาถึงที่หน้าบริษัท โดยมีเมษายืนรออยู่อย่างเรียบร้อย
“ทุกอย่างเรียบร้อยค่ะ บอส เชิญขึ้นรถได้เลยค่ะ” เมษาฝืนยิ้ม ทำทุกอย่างให้ปกติ
“เชิญคุณภาคิณก่อนเลยครับ เดี๋ยวผมขอนั่งรถแยกไปต่างหากดีกว่า เผื่อจะโทรหาคุณพ่ออีกหน่อยน่ะครับ” ริชาร์ดปฏิเสธอย่างสุภาพ “เดี๋ยวเจอกันที่ร้านอาหารได้เลยครับ”
“ได้ครับ” ภาคิณตอบรับอย่างงง ๆ ก่อนจะขึ้นรถไปกับเมษา
วิลเลียมเหลือบตามองเจ้านายอย่างแปลกใจ และไม่ทันได้ถาม ริชาร์ดก็สั่งงานทันที
“วิลล์ ไปสืบว่า ระหว่างที่ฉันคุยงาน เกิดอะไรขึ้นกับเมย์” ริชาร์ดสั่งเสียงเข้ม
เขาผู้ซึ่งสังเกตเมษาตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน เขาชอบรอยยิ้มสดใสที่เหมือนดวงตะวันของเมษามาก
แต่เมื่อครู่ที่เจอกัน มองผิวเผิน รอยยิ้มของเมษายังคงเหมือนเดิม แต่ความสดใสมันได้หายไป รวมถึงใบหน้าที่ซีดเซียว และดวงตาที่หม่นแสงลง เขาถึงมั่นใจมากว่า เมื่อครู่ ต้องเกิดอะไรบางอย่างขึ้นแน่นอน
และลางสังหรณ์ของเขา ทำให้เขาสั่งงานคนสนิทเพิ่มเติม
“ส่งคนไปสะกดรอยตามแฟนเมย์ด้วย”
###################
“บอสคะ พรุ่งนี้ เมย์ขอลา 1 วันได้ไหมคะ” เมษาถามภาคิณ ขณะที่อยู่ในรถระหว่างการเดินทาง
“ได้สิ พรุ่งนี้ วันศุกร์ ไม่น่ามีอะไรมาก คุณริชาร์ดก็คงพักก่อน” ภาคิณตอบรับ พลางมองหน้าเมษา และไม่ถามอะไรต่อ
เขาคิดว่า มีอะไรบางอย่าง แต่นั่นคือเรื่องส่วนตัวของเลขาสาว หากเธอไม่เล่า เขาก็ไม่มีสิทธิ์ไปซักไซ้
เมษาเลือกร้านอาหารไทยโบราณต้อนรับลูกค้าหนุ่มต่างชาติ เพื่อแสดงถึงวัฒนธรรมไทย ซึ่งบรรยากาศในการรับประทานอาหารมื้อเย็นนั้น เป็นไปอย่างราบรื่น อาหารไทยถูกปากหนุ่มผู้ดีเป็นอย่างมาก
“อาหารอร่อยมากเลยนะครับ” ริชาร์ดเอ่ยชม รสชาติเปรี้ยวหวานของอาหารไทยยิ่งกระตุ้นให้เขาอยากอาหารมากขึ้นไปอีก เขาสามารถกินได้ไม่รู้เบื่อ
“ยังมีอาหารไทยอีกหลายอย่างที่อร่อยนะครับ คุณริชาร์ด” ภาคิณตอบรับ “เดี๋ยวให้เมย์เตรียมร้านอาหารอร่อย ๆ ไว้ให้อีกหลาย ๆ ร้านเลยนะครับ”
“ดีเลยครับ น้ำหนักผมต้องขึ้นแน่ ๆ เลย” สิ้นเสียงชายหนุ่ม คนอื่น ๆ บนโต๊ะต่างหัวเราะออกมา ผิดกับเลขาสาวที่แค่ยิ้มเจื่อน ๆ
“แต่น่าเสียดายนะครับ ที่คุณริชาร์ดอยู่แค่ไม่กี่วันก็จะกลับซะแล้ว” ภาคิณเอ่ย เพราะตามกำหนดการ หลังจากที่ลงนามสัญญาเรียบร้อย ชายหนุ่มก็จะขึ้นเครื่องกลับทันที “มาเมืองไทยทั้งที น่าจะอยู่เที่ยวก่อนนะครับ”
“ก็น่าสนใจอยู่นะครับ” ริชาร์ดทวนคำ ขณะที่หมุนแก้วในมือเล่น “ผมก็กำลังลังเลอยู่ว่า จะอยู่ต่อดีไหม”
“คุณริชาร์ดสนใจจะไปเที่ยวไหนในเมืองไทยเพิ่มไหมครับ” ภาคิณถามอย่างกระตือรือร้น เพราะการที่ชายหนุ่มยังอยู่ในเมืองไทย ย่อมส่งผลดีต่อบริษัทเขา
เพียงแค่ข่าวลือการร่วมมือกับบริษัท ไคล์ ก็ส่งผลให้หุ้นของบริษัทก้าวกระโดดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แล้วถ้าปรากฏว่าเป็นจริง รวมถึงการที่ ริชาร์ด เจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ ยังคงอยู่ในเมืองไทย ก็ล้วนแต่ยิ่งส่งผลดีกับบริษัทของเขา
“คราวก่อน คุณเมย์แนะนำทริปทะเลทางใต้น่ะครับ” ร่างสูงเอ่ยถึงอีกคนที่กำลังนั่งเงียบ ๆ เพื่อเรียกความสนใจให้กลับมาอยู่ปัจจุบัน ไม่ใช่นั่งอมทุกข์อยู่อย่างนั้น
“เรื่องทริปเที่ยว เมย์ เขาเก่งครับ” ภาคิณรีบรับลูกทันที “ยังไง เมย์ช่วยดูทริปให้คุณริชาร์ดหน่อยนะ”
“ได้ค่ะ บอส” เมษายิ้มอ่อน ๆ รับคำ
และเมื่อทุกคนรับประทานของหวานกันเสร็จเรียบร้อย
เสียงโทรศัพท์ของภาคิณก็ดังขึ้น เมื่อเขาเห็นชื่อที่ปรากฏก็กดรับสายทันที เพราะทราบดีว่า อย่างไรก็เกี่ยวข้องกับเรื่องงานอย่างแน่นอน
“ว่าไง กฤษ” ชื่อที่เจ้านายทัก ทำให้หญิงชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะทำตัวปกติ แต่ก็ไม่รอดพ้นสายตาของริชาร์ดที่จับจ้องอยู่ตลอดเวลา “โอเค ได้ ฉันจะรีบกลับไป”
ภาคิณตัดสายและเก็บโทรศัพท์ ก่อนจะเอ่ยบอกทุกคนกลางโต๊ะอาหารด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม
“คุณกฤษณะ โทรมารายงานว่า สารกระตุ้นตัวใหม่ที่เราทดลองใช้ ได้ผลเบื้องต้นเป็นอย่างดีครับ ซึ่งส่งผลให้ตัวยาที่เราตกลงกันมีโอกาสสำเร็จแทบจะ 100% ครับ คุณริชาร์ด”
“เป็นเรื่องที่น่ายินดีมากครับ คุณภาคิณ” ชายหนุ่มยิ้มรับ
“ถ้าอย่างไร ผมขอตัวกลับบริษัท เพื่อไปติดตามผลอีกทีก่อนนะครับ” ภาคิณหันมาบอก “ส่วนวันงานที่นัดลงนามข้อตกลงเป็นวันจันทร์นี้ คุณริชาร์ดยืนยันตามเดิมนะครับ”
“อืม ได้ครับ” ชายหนุ่มตอบรับ
จากนั้น ทุกคนจึงลุกออกจากโต๊ะรับประทานอาหาร ก่อนจะแยกย้ายกันที่หน้าร้านอาหาร
โดยภาคิณหันมามอบหมายงานให้เมษารับรองลูกค้าต่อ ในขณะที่วิลเลียมเข้ามากระซิบข้อมูลที่เจ้านายเขาสั่งไว้เมื่อตอนเย็น
หลังจากที่ได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้นกับเมษาทั้งหมดแล้ว เขาก็ครุ่นคิดบางอย่าง
เขาไม่อยากเห็นเจ้าของรอยยิ้มสดใสนิ่งเงียบและอมทุกข์แบบนี้เลย
“คุณริชาร์ดอยากไปไหนต่อไหมคะ หรือว่า อยากกลับโรงแรมไปพักผ่อน”
“ผมยังไม่อยากกลับเลยครับ อยากไปนั่งดื่มต่ออีกหน่อย คุณเมย์พอจะมีร้านแนะนำไหมครับ” ชายหนุ่มถาม พร้อมรีบบอก “แต่คุณเมย์แค่บอกก็พอครับ มันเย็นแล้ว ผู้หญิงกลับบ้านคนเดียวจะอันตราย”
“ไม่เป็นไรค่ะ” เมษาตอบเสียงแผ่ว “ฉันไปด้วยดีกว่า”
เพราะฉันเอง ก็ยังไม่อยากกลับไปอยู่คนเดียวเหมือนกัน...
ชายหนุ่มสะดุ้งไปกับประโยคนั้นใช่ เขาฝากแม่มาบอกผู้หญิงคนนั้น แต่ใครจะไปคิดล่ะว่า ผู้หญิงคนนั้นจะกลายเป็นคนที่เขารักสุดใจตรงหน้าแค่ทำให้เธอโกรธ เขายังไม่กล้าเลย นับประสาอะไรจะไปกลั่นแกล้งให้เธอรู้สึกทรมานเหมือนตกนรกทั้งเป็น“ตกนรกสวาทไง ที่รัก” สัญชาตญาณความเป็นเสือผู้หญิงทำงานอย่างเร่งด่วน พร้อมมือหนาที่ประคองกอดอยู่ด้านหลังก็รูดซิปชุดเจ้าสาวอย่างรู้หน้าที่ ทำให้ชุดเกาะอกหล่นลงตามแรงโน้มถ่วง พอดีกับที่หญิงสาวยันตัวห่างจากชายหนุ่ม เผยให้เห็นเนินอกอวบเปลือยเปล่าเต็มสองตา“อ๊ะ ว้าย” เมษารู้สึกเหมือนโลกหมุน เพราะคนข้างล่างจัดการพลิกตัวให้เธอลงมานอนแผ่บนเตียงแทน ขณะที่อีกมือก็ดึงเกาะอกลงมา ก่อนจะก้มลงฝังหน้าที่ร่องอกเธออย่างคิดถึง“อึก อ๊ะ อื้อ~”มือหนาขยำอกอวบอย่างคิดถึง พร้อมดันให้เต้านุ่มสู้กับหน้าของตนเอง“หอมจัง” ชายหนุ่มสูดความหอมจากตัวหญิงสาวเข้าเต็มปอด กลิ่นที่เขาคิดถึงอย่างที่สุด พลางเบียดแทรกกายเข้าระหว่างกลางเรียวขางามภายใต้กระโปรงหนานิ้วซุกซนเริ่มขยับมาบี้ยอดอกจนค่อย ๆ แ
ริชาร์ดนั่งรถคันหรูมากับเอวามาอย่างเงียบ ๆ ก่อนที่รถจะเคลื่อนเข้าสู่บริเวณคฤหาสน์ของแม่ของเขา เมื่อรถจอดสนิท ชายหนุ่มก็ก้าวขายาว ๆ เดินลิ่วไปที่ห้องของตัวเองทันที เพราะทราบมาจากวินเซนต์แล้วว่า ราเชลจัดห้องนอนของเขาเป็นห้องหอร่างสูงก้าวเท้าเดินนำไปอย่างไม่ไยดีเจ้าสาว ในใจเอาแต่นับเวลาถอยหลังให้ครบ 2 ชั่วโมง ก่อนที่จะได้เจอใครบางคน ขณะที่เขาจะก้าวไปถึง เสียงบิดาที่ก้าวตามมาติด ๆ เรียกไว้ก่อน“ริชาร์ด”“มีอะไรครับ พ่อ” ชายหนุ่มหยุดเดินแล้วหมุนตัวมามองบิดาที่ก้าวตามมา ทั้งคู่หยุดยืนที่หน้าบันไดกว้าง“มากับพ่อแปบหนึ่ง” วินเซนต์คว้ามือบุตรชาย ลากเข้าห้องทำงานที่อยู่ข้าง ๆ ก่อนจะปิดประตูลงอย่างเงียบเชียบ“เรื่องหนูเอวาน่ะ” พ่อของเขาเกริ่นขึ้น เมื่อเห็นลูกชายยังนิ่งเงียบ เขาจึงเอ่ยต่อ “เธอเป็นลูกสาวเพื่อนพ่อเอง แม่เธอเป็นคนไทยเพิ่งเสียได้ไม่นาน ยังไงก็ใจดีกับเธอหน่อย”“...” ริชาร์ดไม่ตอบรับคำใด เขาได้แต่นิ่งเงียบ“พ่อรู้ว่า แกน่ะโกรธแม่เขาที่ไม่เข้าใจแกเลย แต่หนูเอ
เสียงเพลงสากลหวาน ๆ ดังคลอขับกล่อมคนในงานที่พูดคุยทักทายกันอย่างยินดีกับคู่บ่าวสาวในพิธีมงคลสมรส เจ้าบ่าวร่างสูงในชุดสูทสีขาวยืนต้อนรับแขกอยู่ที่หน้างาน โดยมีวินเซนต์และราเชลคอยยืนประกบหลังจากวันนั้น ก็ไม่มีทีมงานออแกไนซ์หน้าไหนเข้ามาติดต่ออีกเลย จนเขาได้ทราบจากเบนจามินว่า มาดามราเชลจัดการเลือกทุกอย่างเองเสร็จสรรพ แต่ก็ช่างเถอะ เขาไม่ได้สนใจไยดีอะไรอยู่แล้วงานแต่งในวันนี้ มันก็เป็นแค่หน้าที่หนึ่งที่เขาตั้งใจทำให้มันเสร็จ ๆ ไป เพื่อรอเจอหน้าร่างบางที่เขาไม่เจอมานานนับ 2 เดือนตั้งแต่วันที่แม่ริบคนรักของเขาไป“ทำหน้าให้มันดี ๆ หน่อย” เสียงมารดาเขากระซิบแผ่วเบา“ผมก็ยิ้มให้แม่ได้เท่านี้แหละ” ชายหนุ่มกระซิบตอบกลับ ก่อนจะยกยิ้มฝืน ๆแม่ของเขาตัดสินใจเปลี่ยนรูปแบบงานแต่งใหม่ โดยให้มาทำพิธีที่โบสถ์แถวชานเมือง ใกล้คฤหาสน์ของพวกท่าน ส่วนแขกเหรื่อก็เชิญแต่คนสนิทไม่กี่สิบคนเท่านั้น ก่อนจะไปจัดงานเฉลิมฉลองพิธีมงคลสมรสที่โรงแรมหรูกลางเมืองในอีก 2 วันข้างหน้า“แล้วผมจะได้เจอเมย์ตอนไหนครับ แม่”“หลังเสร็จเข
ก๊อก ก๊อก ก๊อกเบนจามินเปิดประตูห้องทำงานเข้ามา หลังจากที่เคาะประตูขออนุญาต“คุณลิเดียพาทีมออแกไนซ์งานแต่งงานมาแล้วครับ”ลิเดียเดินเข้ามาในห้อง พร้อมทีมงานอีก 3 – 4 คน ริชาร์ดจึงลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงาน ผายมือเชิญทุกคนนั่งที่ชุดโซฟารับแขก“สวัสดีครับ คุณริชาร์ด” โรเบิร์ต หัวหน้าทีมออแกไนซ์ยื่นมือมาทักทาย“สวัสดีครับ”“นี่ ทีมงานของผมครับ ฮันน่า นาตาลี และเจคอป ครับ” โรเบิร์ดผายมือแนะนำลูกทีมไปทีละคน ริชาร์ดกวาดสายตาทักทายผ่าน ๆ โดยเมินสายตายั่วยวนของนาตาลีไปอย่างไม่ใส่ใจ“ครับ” ชายหนุ่มรับคำสั้น ๆ“เอ่อ งั้นเราเริ่มกันเลยนะครับ” โรเบิร์ตเปิดบทสนทนา เมื่อเห็นว่าริชาร์ดตอบกลับสั้น ๆ “คุณริชาร์ดอยากได้ธีมงานประมาณไหนครับ”“ไม่รู้สิครับ”“เอ่อ เป็นแบบ Vintage แบบ Minimal หรือแบบเรียบหรูดีครับ” หัวหน้าทีมลองให้ตัวเลือกหลาย ๆ แบบ โดยมีฮันน่าเตรียมจดข้อมูลที่ลูกค้าต้องการ“ไม่รู้สิครับ” ชายหน
ตั้งแต่กลับจากบ้านแม่ในคืนนั้น ริชาร์ดก็เอาแต่เก็บตัวเงียบอยู่ในห้องนอน เขาครุ่นคิดอย่างหนัก ตั้งแต่แผนการแทรกซึมก็โดนจับได้อย่างไว ส่วนแผนการชิงตัวก็เหมือนว่าแม่เขาจะรู้อยู่ก่อนแล้ว ถึงได้ไปนั่งดักรออยู่แบบนั้น แถมยังรู้ทันเขาถึงแผนการที่จะไปดีลว่าที่เจ้าสาวไว้ล่วงหน้าอีกเขาแทบไม่สามารถทำอะไรได้เลย เหมือนเป็นเด็กเล็ก ๆ ที่กำลังวิ่งวนอยู่บนฝ่ามือแม่อย่างไรอย่างนั้นก็เอาเถอะ ใครเป็นคนเลี้ยงดูสั่งสอนเขามาล่ะ“ฮอตตี้ ผมควรทำยังไงดี”ริชาร์ดเงยศีรษะพิงโซฟานุ่มอย่างจนใจ ไม่ว่า จะทำอะไรก็ยิ่งเหมือนรัดตัวเขา และทำร้ายเมษาทางอ้อม เพราะทันทีที่เขากลับถึงบ้านคืนนั้น เขาก็ได้รับคลิปวิดีโอสั้น ๆ จากแม่ของเขาวิดีโอที่เมษากำลังยืนร้องไห้อย่างเงียบ ๆ พร้อมปาดน้ำตาที่ไหลมาไม่หยุด แม้ว่าจะเป็นเพียงคลิปสั้น ๆ ไม่ถึง 10 วินาที แต่ก็สร้างความทรมานใจให้เขาอย่างที่สุดเขาไม่สามารถรับรู้สาเหตุของความเสียใจนั้น ไม่สามารถปลอบโยนคนในโทรศัพท์มือถือได้เลย และนอกจากคลิปนั้น ยังมีข้อความเตือนการกระทำของเขาจากราเชลกำกับไว้อีกชายหนุ่มเลือกที่ค่อย ๆ ป
ก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูห้องทำงานของประธานบริษัท ไคล์ ดังขึ้น ก่อนจะปรากฏร่างเลขาสาวของมาดามราเชล“มาดามให้พามาส่งค่ะ” อิซาเบลเอ่ยขึ้นสิ้นเสียงพูด ริชาร์ดผุดลุกขึ้น เพื่อรอรับคนที่เขาอยากเจอมาตลอดสัปดาห์ เพราะนับตั้งแต่วันนั้น เขาก็จำต้องกลับบ้านคนเดียว ไม่สิ... มีคนกลับมากับเขาด้วย‘ลิเดีย ส่งแขก’ สิ้นคำพูดของแม่เขา ลิเดียก็เดินมาหาเขาทันที‘แม่...’ เขาร้องเรียกอีกฝ่ายอีกครั้งอย่างเว้าวอน‘อ่อ ถ้ากลับไปคนเดียวคงจะเหงาสินะ’ จู่ ๆ มาดามก็หันมาถาม ‘วินเซนต์ คุณกลับไปอยู่เป็นเพื่อนลูกสักพักก็แล้วกัน’อยู่ดี ๆ หวยก็ดันมาออกที่พ่อเขาซะอย่างนั้น วินเซนต์ได้แต่มองตาปริบ ๆ ‘ทำไมล่ะ’‘คิดว่า ฉันไม่รู้หรือไง ที่ลูกหนีฉันได้ตลอด มันก็เป็นเพราะคุณนั่นแหละ’ ราเชลมองตาขวาง ‘เพราะฉะนั้น ครั้งนี้ ไปอยู่กับลูกซะ’ใช่ คนที่เขาได้พากลับบ้าน คือ พ่อของเขาเอง อย่าคิดว่า พ่อเขาจะค้านแม่ได้ แค่แม่ปรายตาก็ปิดปากเงียบสนิทแล้ว เหอะ เหอะ...