ภายในห้องประชุมใหญ่ของบริษัท P&M
กฤษณะเป็นตัวแทนในการนำเสนอผลการวิจัยตัวยาต่าง ๆ เป็นเวลากว่าครึ่งชั่วโมง ต่อด้วยภาคิณที่เริ่มการเจรจา เสนอข้อตกลงแก่ริชาร์ด
ทางริชาร์ดและภาคิณได้มีการต่อรองข้อเสนอบางส่วน เป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมง จนกระทั่งข้อตกลงเป็นที่พึงพอใจทั้ง 2 ฝ่าย
“ขอบคุณมากนะครับ คุณริชาร์ด ที่ร่วมมือทำการวิจัยกับบริษัทของเรา” ภาคิณยื่นมาจับมือกับริชาร์ด “ทางเราสัญญาว่าจะดำเนินการวิจัยและผลิตยาตามที่ตกลงไว้ ไม่ให้คุณริชาร์ดผิดหวังแน่นอนครับ”
“ทางเราก็ยินดีที่ได้ร่วมมือกับบริษัทเก่ง ๆ อย่าง P&M เหมือนกันครับ”
“หากผมดำเนินการแก้ไขข้อตกลงตามที่คุยกันเรียบร้อยแล้ว ผมจะส่งให้คุณริชาร์ดตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้งนะครับ” ภาคิณส่งเล่มข้อตกลงฉบับเดิมให้แก่ชยพล
“ได้เลยครับ” ริชาร์ดยิ้มรับ “ถ้าอย่างนั้น เดี๋ยวผมขอตัวไปโทรศัพท์แจ้งคุณพ่อสักครู่”
“เชิญเลยครับ” ภาคิณผายมือไปอีกทาง ก่อนจะหันมาถามเมษา “เมย์ เตรียมรถและจองร้านอาหารเย็นนี้ไว้แล้วใช่ไหม”
“เรียบร้อยแล้วค่ะ บอส” เมษาตอบอย่างรวดเร็ว
“ดีมาก เดี๋ยวรอคุณริชาร์ดเสร็จธุระแล้วเราก็ไปที่ร้านอาหารเลยแล้วกัน ถ้าออกเย็นมาก เดี๋ยวรถจะติดอีก” ภาคิณพูดพลางก้มมองนาฬิกา
“ถ้าอย่างนั้น เมย์ขอเอาของไปเก็บและลงไปรอที่รถเลยนะคะ บอส”
เมื่อเจ้านายอนุญาต หญิงสาวก็เดินเอาแฟ้มงานไปเก็บที่โต๊ะ พร้อมเก็บของใส่กระเป๋าถือเรียบร้อย ในระหว่างนั้น เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น เธอจึงกดรับสายแนบที่หู พร้อมเก็บของไปด้วย
“ว่าไงคะ พี่กฤษ”
“คุณริชาร์ดว่าไงบ้าง เมย์” กฤษณะถามตามสาย เนื่องจากเมื่อเขาเสนอผลการวิจัยเสร็จเรียบร้อย ภายในห้องก็เหลือเพียงคณะผู้บริหารและคู่ค้าจากต่างประเทศที่เริ่มเจรจาข้อตกลงกัน
“ไม่มีปัญหาค่า คุณริชาร์ดโอเคกับบริษัทเรามาก” เมษาตอบเสียงใส “แต่ก็มีตกลงข้อเสนอกันใหม่นิดหน่อย”
“ถือว่า โอเคเลยนะ”
“ช่ายยย นี่เมย์ก็กำลังเก็บของ เดี๋ยวพาคุณริชาร์ดไปทานมื้อเย็นต่ออ่ะ พี่กฤษ” เมษารายงานความเป็นไปตามปกติ “น่าจะเสร็จแล้วก็กลับคอนโดเลย”
“โอเคค่ะ พี่เองก็ติดประชุมต่อ พอดี ผลยาตัวใหม่น่าจะออกคืนนี้ อาจจะต้องรอดูก่อน ถ้าผลออกมาดี อาจจะได้ต่อรองกับคุณริชาร์ดเพิ่ม” กฤษณะบอกภาระงานในค่ำคืนนี้ “ยังไง คืนนี้ พี่อาจจะไม่ได้โทรหาเรานะ”
“ค่า คืนนี้ พี่กฤษไม่ได้นอนอีกแล้วสิ” หญิงสาวทำหน้ามุ่ยด้วยความเป็นห่วงแฟน
“เอาน่า พี่เองก็อยากเร่งให้เสร็จก่อนที่เราจะลาไปฮันนีมูนกันนะ” ชายหนุ่มปลอบเสียงนุ่ม “ยังไงก็ พี่บอกฝันดีเลยนะ ฝันดีนะคะ”
“ฮ่า บอกฝันดี ตั้งแต่สี่โมงเย็นเลยเหรอ พี่กฤษ” เมษาทำเสียงเย้า
“ก็เดี๋ยวบางคนก็งอนพี่อีก ถ้าไม่บอกฝันดี” กฤษณะแกล้งทำเสียงเข้มใส่
“ค่า ค่า รู้แล้วค่า ดูแลตัวเองด้วยนะคะ พี่กฤษ” เมษาบอกส่งท้าย
“ครับผม งั้นแค่นี้ก่อนนะ พี่ต้องไปแล้ว” กฤษณะวางสายไปแล้ว เมษาก็เก็บของเสร็จพอดี
หญิงสาวสะพายกระเป๋า ก่อนจะเหลือบเห็นแฟ้มข้อมูลวิจัยที่ภาคิณฝากไปให้กฤษณะ
“เอ้า ลืมฝากไปให้พี่กฤษ” เมษาพึมพำ ยิ่งเมื่อครู่ เขาบอกว่า กำลังรอผลวิจัยยาตัวใหม่ ก็อาจจะต้องใช้ข้อมูลเหล่านี้
ร่างบางชะเง้อมองดูภาคิณกับริชาร์ดที่ยังคงยืนคุยกันอยู่หน้าห้องประชุม โดยมีชยพลและธนัทยืนจดข้อมูลบางอย่างเพิ่มเติม ก่อนที่ภาคิณจะผายมือเชิญริชาร์ดกลับเข้าห้องประชุมอีกครั้ง
สงสัยมีข้อตกลงเพิ่มเติม ยังพอมีเวลา...
“แวะเอาลงไปให้ที่ห้องก็แล้วกัน” หญิงสาวตัดสินใจ ก่อนจะก้าวยาว ๆ ตรงไปที่ลิฟต์ ก่อนจะกดชั้นที่ 9 ชั้นทำงานวิจัยของชายหนุ่ม แล้วแวะไปหาที่ห้องทำงานส่วนตัว
ไม่อยู่... หรือว่าไปดูงานวิจัยแล้ว
เมษาวางแฟ้มเอกสารไว้บนโต๊ะ แล้วหากระดาษมาโน้ตทิ้งไว้ให้สั้น ๆ ก่อนจะเดินกลับไปทางลิฟต์
พลันหางตาเหลือบไปเห็นร่างคุ้นตาของแฟนหนุ่มที่เดินไว ๆ ไปทางบันไดหนีไฟ
“พี่กฤษ...” เมษาอ้าปากเรียก เพื่อบอกแฟ้มงานที่วางไว้บนโต๊ะ แต่กฤษณะไม่ทันได้ยิน “ไปทางหนีไฟทำไม”
หญิงสาวสงสัย ก่อนจะเดินตามชายหนุ่มไปทางบันไดหนีไฟ ประตูบานใหญ่สีขาวแง้มออกเล็กน้อย ทำให้มีเสียงเล็ดลอดออกมา
“พี่กฤษขา~”
หืมมมม เมษาชะงักกับชื่อเรียกนั้น เสียงผู้หญิงร้องเรียกชื่อแฟนของเธอช่างคุ้นนัก
เมษาค่อย ๆ เดินไปที่บานประตู ด้วยใจที่เย็นเฉียบ เธอรู้สึกเหมือนจะเป็นลมก็วันนี้ ใจมันหล่นวูบ มือไม้และปลายเท้าเย็นขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ
เธอเอนศีรษะมองผ่านประตูนั้นเข้าไป ปรากฏภาพแผ่นหลังของชายหนุ่มที่คุ้นเคยยืนเด่นอยู่ตรงหน้า บดบังร่างหญิงสาวที่นั่งคุกเข่าอยู่ที่พื้น
“เร็วหน่อยนะ พราว” เสียงคุ้นชินดังขึ้น
พราว... พราวฟ้า?
“ทำไมล่ะคะ ก็พี่กฤษเป็นคนโทรเรียกพราวมาเองนะ” เสียงแง่งอนดังขึ้น พร้อมขยับมือมาแกะกางเกงชายหนุ่ม “ตามพราวมาปลดปล่อยแบบนี้ ก็ต้องให้เวลาพราวเยอะหน่อยสิคะ”
“ก็พี่เครียดนี่คะ ไหนจะเตรียมพรีเซนต์งาน ไหนจะงานวิจัยยาตัวใหม่อีก ช่วยพี่คลายเครียดหน่อยแล้วกัน” กฤษณะบอกเสียงหวาน พร้อมลูบศีรษะคนข้างล่างอย่างแผ่วเบา “พี่ขอสูตรลัดนะ พราว พี่ต้องรีบกลับไปประชุม”
“ได้ค่ะ แต่ถ้าเสร็จงานแล้ว คืนนี้ ต้องไปจัดหนักให้พราวต่อนะ” พราวฟ้าต่อรอง ขณะปลดปล่อยให้แท่นเอ็นเป็นอิสระ
“ได้สิคะ อืม... ถ้าเมย์ทำได้สักครึ่งของพราวก็ดีสิ” กฤษณะเริ่มคราง ก่อนจะพึมพำออกมา
“ไม่เอาหรอก ถ้าเมย์ทำได้ พี่กฤษก็ทิ้งพราวสิ” หญิงสาวเอื้อมมือมาลูบท่อนรักของกฤษณะอย่างใจเย็น
“อา ไม่หรอก ยังไง พราวก็เป็นที่ 1 ในใจพี่อยู่ดี”
“พี่ก็พูดได้สิ ก็ตอนนี้ พี่ยังไม่ได้ยัยเมย์เลยนี่” พราวฟ้าตอบเสียงแข็ง ก่อนจะเปลี่ยนโทนเสียง เมื่อสัมผัสท่อนเอ็นร้อนตรงหน้า “แต่ตอนนี้ พราวต้องได้น้ำของพี่คนเดียว”
พูดเสร็จหญิงสาวก็แทะเล็มปลายลิ้นกับยอดเห็ดนิ่ม ๆ ก่อนลามไปถึงโคนที่ปรากฏเส้นเลือดปูดโปน พราวฟ้าอมเข้าไปทั้งคำ ก่อนจะถอยเข้าถอยออก
“อ่า~ พราว สุดยอด” กฤษณะเลื่อนมือมาจับศีรษะพราวฟ้า แล้วกดเป็นจังหวะเข้า-ออกกับปากของหญิงสาว “ทำให้พี่อยากแบบนี้ คืนนี้ ระวังไม่ได้นอนนะ พราว อา”
คนสองคนกำลังเริงร่าอย่างสุขสม ขณะที่อีกคนกำลังทุกข์ตรมจากสิ่งที่เห็น เมษาเอื้อมมือมาปิดปากกลั้นเสียงสะอื้น เธอไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรต่อดี จะเปิดประตูเข้าไปขัดจังหวะ หรือจะปล่อยให้เป็นไปแบบนี้ แสงบางอย่างแวบผ่านมาในสมองของเธอ
สติ!!! เมย์ แกต้องมีสติ!! อย่าเพิ่งร้องไห้เด็ดขาด
หญิงสาวรู้ตัวดีว่า เมื่อไรที่เธอร้องไห้ เธอจะไม่รับรู้อะไร แล้วเอาแต่ร้องไห้ระบายออกมาจนหมด ซึ่งหากเธอร้องไห้ในเวลานี้ ในสถานการณ์ตรงหน้าแบบนี้ ไหนจะภาระงานที่วันนี้ เธอต้องดูแลรับรองลูกค้าให้เสร็จเรียบร้อยอีก
เธอไม่ใช่คนที่เอาเรื่องส่วนตัวมาทำให้งานเสียได้
เมษาเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ามากดปิดเสียงอย่างสั่นเทา และมือถือเองก็เกือบจะหลุดมือ ดีแต่คว้าไว้ได้ทัน เมษากดอัดคลิปวิดิโอไว้ผ่านช่องเล็ก ๆ ตรงนั้น
ในวินาทีนั้น เธอตอบตัวเองไม่ได้ว่า เธออัดคลิปไปทำไม แต่รู้แค่ว่า การเข้าไปขวาง 2 คนนี้ ในตอนนี้ ไม่ใช่เรื่องที่ฉลาดเลย เมื่ออัดคลิปไปได้ระยะเวลาประมาณหนึ่ง ทั้งภาพและเสียงครางถูกบันทึกเก็บไว้เรียบร้อย เธอจึงค่อย ๆ เลื่อนตัวถอยออกมาอย่างเงียบเชียบ
ชายหนุ่มสะดุ้งไปกับประโยคนั้นใช่ เขาฝากแม่มาบอกผู้หญิงคนนั้น แต่ใครจะไปคิดล่ะว่า ผู้หญิงคนนั้นจะกลายเป็นคนที่เขารักสุดใจตรงหน้าแค่ทำให้เธอโกรธ เขายังไม่กล้าเลย นับประสาอะไรจะไปกลั่นแกล้งให้เธอรู้สึกทรมานเหมือนตกนรกทั้งเป็น“ตกนรกสวาทไง ที่รัก” สัญชาตญาณความเป็นเสือผู้หญิงทำงานอย่างเร่งด่วน พร้อมมือหนาที่ประคองกอดอยู่ด้านหลังก็รูดซิปชุดเจ้าสาวอย่างรู้หน้าที่ ทำให้ชุดเกาะอกหล่นลงตามแรงโน้มถ่วง พอดีกับที่หญิงสาวยันตัวห่างจากชายหนุ่ม เผยให้เห็นเนินอกอวบเปลือยเปล่าเต็มสองตา“อ๊ะ ว้าย” เมษารู้สึกเหมือนโลกหมุน เพราะคนข้างล่างจัดการพลิกตัวให้เธอลงมานอนแผ่บนเตียงแทน ขณะที่อีกมือก็ดึงเกาะอกลงมา ก่อนจะก้มลงฝังหน้าที่ร่องอกเธออย่างคิดถึง“อึก อ๊ะ อื้อ~”มือหนาขยำอกอวบอย่างคิดถึง พร้อมดันให้เต้านุ่มสู้กับหน้าของตนเอง“หอมจัง” ชายหนุ่มสูดความหอมจากตัวหญิงสาวเข้าเต็มปอด กลิ่นที่เขาคิดถึงอย่างที่สุด พลางเบียดแทรกกายเข้าระหว่างกลางเรียวขางามภายใต้กระโปรงหนานิ้วซุกซนเริ่มขยับมาบี้ยอดอกจนค่อย ๆ แ
ริชาร์ดนั่งรถคันหรูมากับเอวามาอย่างเงียบ ๆ ก่อนที่รถจะเคลื่อนเข้าสู่บริเวณคฤหาสน์ของแม่ของเขา เมื่อรถจอดสนิท ชายหนุ่มก็ก้าวขายาว ๆ เดินลิ่วไปที่ห้องของตัวเองทันที เพราะทราบมาจากวินเซนต์แล้วว่า ราเชลจัดห้องนอนของเขาเป็นห้องหอร่างสูงก้าวเท้าเดินนำไปอย่างไม่ไยดีเจ้าสาว ในใจเอาแต่นับเวลาถอยหลังให้ครบ 2 ชั่วโมง ก่อนที่จะได้เจอใครบางคน ขณะที่เขาจะก้าวไปถึง เสียงบิดาที่ก้าวตามมาติด ๆ เรียกไว้ก่อน“ริชาร์ด”“มีอะไรครับ พ่อ” ชายหนุ่มหยุดเดินแล้วหมุนตัวมามองบิดาที่ก้าวตามมา ทั้งคู่หยุดยืนที่หน้าบันไดกว้าง“มากับพ่อแปบหนึ่ง” วินเซนต์คว้ามือบุตรชาย ลากเข้าห้องทำงานที่อยู่ข้าง ๆ ก่อนจะปิดประตูลงอย่างเงียบเชียบ“เรื่องหนูเอวาน่ะ” พ่อของเขาเกริ่นขึ้น เมื่อเห็นลูกชายยังนิ่งเงียบ เขาจึงเอ่ยต่อ “เธอเป็นลูกสาวเพื่อนพ่อเอง แม่เธอเป็นคนไทยเพิ่งเสียได้ไม่นาน ยังไงก็ใจดีกับเธอหน่อย”“...” ริชาร์ดไม่ตอบรับคำใด เขาได้แต่นิ่งเงียบ“พ่อรู้ว่า แกน่ะโกรธแม่เขาที่ไม่เข้าใจแกเลย แต่หนูเอ
เสียงเพลงสากลหวาน ๆ ดังคลอขับกล่อมคนในงานที่พูดคุยทักทายกันอย่างยินดีกับคู่บ่าวสาวในพิธีมงคลสมรส เจ้าบ่าวร่างสูงในชุดสูทสีขาวยืนต้อนรับแขกอยู่ที่หน้างาน โดยมีวินเซนต์และราเชลคอยยืนประกบหลังจากวันนั้น ก็ไม่มีทีมงานออแกไนซ์หน้าไหนเข้ามาติดต่ออีกเลย จนเขาได้ทราบจากเบนจามินว่า มาดามราเชลจัดการเลือกทุกอย่างเองเสร็จสรรพ แต่ก็ช่างเถอะ เขาไม่ได้สนใจไยดีอะไรอยู่แล้วงานแต่งในวันนี้ มันก็เป็นแค่หน้าที่หนึ่งที่เขาตั้งใจทำให้มันเสร็จ ๆ ไป เพื่อรอเจอหน้าร่างบางที่เขาไม่เจอมานานนับ 2 เดือนตั้งแต่วันที่แม่ริบคนรักของเขาไป“ทำหน้าให้มันดี ๆ หน่อย” เสียงมารดาเขากระซิบแผ่วเบา“ผมก็ยิ้มให้แม่ได้เท่านี้แหละ” ชายหนุ่มกระซิบตอบกลับ ก่อนจะยกยิ้มฝืน ๆแม่ของเขาตัดสินใจเปลี่ยนรูปแบบงานแต่งใหม่ โดยให้มาทำพิธีที่โบสถ์แถวชานเมือง ใกล้คฤหาสน์ของพวกท่าน ส่วนแขกเหรื่อก็เชิญแต่คนสนิทไม่กี่สิบคนเท่านั้น ก่อนจะไปจัดงานเฉลิมฉลองพิธีมงคลสมรสที่โรงแรมหรูกลางเมืองในอีก 2 วันข้างหน้า“แล้วผมจะได้เจอเมย์ตอนไหนครับ แม่”“หลังเสร็จเข
ก๊อก ก๊อก ก๊อกเบนจามินเปิดประตูห้องทำงานเข้ามา หลังจากที่เคาะประตูขออนุญาต“คุณลิเดียพาทีมออแกไนซ์งานแต่งงานมาแล้วครับ”ลิเดียเดินเข้ามาในห้อง พร้อมทีมงานอีก 3 – 4 คน ริชาร์ดจึงลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงาน ผายมือเชิญทุกคนนั่งที่ชุดโซฟารับแขก“สวัสดีครับ คุณริชาร์ด” โรเบิร์ต หัวหน้าทีมออแกไนซ์ยื่นมือมาทักทาย“สวัสดีครับ”“นี่ ทีมงานของผมครับ ฮันน่า นาตาลี และเจคอป ครับ” โรเบิร์ดผายมือแนะนำลูกทีมไปทีละคน ริชาร์ดกวาดสายตาทักทายผ่าน ๆ โดยเมินสายตายั่วยวนของนาตาลีไปอย่างไม่ใส่ใจ“ครับ” ชายหนุ่มรับคำสั้น ๆ“เอ่อ งั้นเราเริ่มกันเลยนะครับ” โรเบิร์ตเปิดบทสนทนา เมื่อเห็นว่าริชาร์ดตอบกลับสั้น ๆ “คุณริชาร์ดอยากได้ธีมงานประมาณไหนครับ”“ไม่รู้สิครับ”“เอ่อ เป็นแบบ Vintage แบบ Minimal หรือแบบเรียบหรูดีครับ” หัวหน้าทีมลองให้ตัวเลือกหลาย ๆ แบบ โดยมีฮันน่าเตรียมจดข้อมูลที่ลูกค้าต้องการ“ไม่รู้สิครับ” ชายหน
ตั้งแต่กลับจากบ้านแม่ในคืนนั้น ริชาร์ดก็เอาแต่เก็บตัวเงียบอยู่ในห้องนอน เขาครุ่นคิดอย่างหนัก ตั้งแต่แผนการแทรกซึมก็โดนจับได้อย่างไว ส่วนแผนการชิงตัวก็เหมือนว่าแม่เขาจะรู้อยู่ก่อนแล้ว ถึงได้ไปนั่งดักรออยู่แบบนั้น แถมยังรู้ทันเขาถึงแผนการที่จะไปดีลว่าที่เจ้าสาวไว้ล่วงหน้าอีกเขาแทบไม่สามารถทำอะไรได้เลย เหมือนเป็นเด็กเล็ก ๆ ที่กำลังวิ่งวนอยู่บนฝ่ามือแม่อย่างไรอย่างนั้นก็เอาเถอะ ใครเป็นคนเลี้ยงดูสั่งสอนเขามาล่ะ“ฮอตตี้ ผมควรทำยังไงดี”ริชาร์ดเงยศีรษะพิงโซฟานุ่มอย่างจนใจ ไม่ว่า จะทำอะไรก็ยิ่งเหมือนรัดตัวเขา และทำร้ายเมษาทางอ้อม เพราะทันทีที่เขากลับถึงบ้านคืนนั้น เขาก็ได้รับคลิปวิดีโอสั้น ๆ จากแม่ของเขาวิดีโอที่เมษากำลังยืนร้องไห้อย่างเงียบ ๆ พร้อมปาดน้ำตาที่ไหลมาไม่หยุด แม้ว่าจะเป็นเพียงคลิปสั้น ๆ ไม่ถึง 10 วินาที แต่ก็สร้างความทรมานใจให้เขาอย่างที่สุดเขาไม่สามารถรับรู้สาเหตุของความเสียใจนั้น ไม่สามารถปลอบโยนคนในโทรศัพท์มือถือได้เลย และนอกจากคลิปนั้น ยังมีข้อความเตือนการกระทำของเขาจากราเชลกำกับไว้อีกชายหนุ่มเลือกที่ค่อย ๆ ป
ก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูห้องทำงานของประธานบริษัท ไคล์ ดังขึ้น ก่อนจะปรากฏร่างเลขาสาวของมาดามราเชล“มาดามให้พามาส่งค่ะ” อิซาเบลเอ่ยขึ้นสิ้นเสียงพูด ริชาร์ดผุดลุกขึ้น เพื่อรอรับคนที่เขาอยากเจอมาตลอดสัปดาห์ เพราะนับตั้งแต่วันนั้น เขาก็จำต้องกลับบ้านคนเดียว ไม่สิ... มีคนกลับมากับเขาด้วย‘ลิเดีย ส่งแขก’ สิ้นคำพูดของแม่เขา ลิเดียก็เดินมาหาเขาทันที‘แม่...’ เขาร้องเรียกอีกฝ่ายอีกครั้งอย่างเว้าวอน‘อ่อ ถ้ากลับไปคนเดียวคงจะเหงาสินะ’ จู่ ๆ มาดามก็หันมาถาม ‘วินเซนต์ คุณกลับไปอยู่เป็นเพื่อนลูกสักพักก็แล้วกัน’อยู่ดี ๆ หวยก็ดันมาออกที่พ่อเขาซะอย่างนั้น วินเซนต์ได้แต่มองตาปริบ ๆ ‘ทำไมล่ะ’‘คิดว่า ฉันไม่รู้หรือไง ที่ลูกหนีฉันได้ตลอด มันก็เป็นเพราะคุณนั่นแหละ’ ราเชลมองตาขวาง ‘เพราะฉะนั้น ครั้งนี้ ไปอยู่กับลูกซะ’ใช่ คนที่เขาได้พากลับบ้าน คือ พ่อของเขาเอง อย่าคิดว่า พ่อเขาจะค้านแม่ได้ แค่แม่ปรายตาก็ปิดปากเงียบสนิทแล้ว เหอะ เหอะ...