อัญชันที่ไปส่งขนมให้กับป้าจันทร์ในตลาดอย่างเช่นทุกวัน พออัญชันส่งเสร็จก็แวะซื้อข้าวสารเพื่อพอ กรอกหม้อเอากลับไปให้แม่
เพราะอัญชันรู้ว่าถ้าแม่มาซื้อเองคงไม่กล้าที่จะซื้อเพราะอยากจะเก็บเงินเอาไว้ให้เธอได้กิน "ลุงจ๊ะเอาข้าวสารให้ฉันสักถุงเถิด"อัญชันถึงจะเป็นเด็ก แต่ก็มีความคิดที่ดีต่อแม่ที่เลี้ยงเธอมา "ได้สิแต่คราวที่แล้วพ่อเอ็งมาติดค่าเหล้าเอาไว้ด้วยเอ็งจะจ่ายเลยหรือเปล่า" "ฉันมีไม่พอจ่ายหรอกจ้ะลุง แค่พอมีซื้อข้าวสารก็แทบจะไม่พอแล้วจ้ะลุง"อัญชันพูดพร้อมกับทำสีหน้าเศร้าสร้อยและกำถุงในมือจนแน่น "เออ ๆ ไม่เป็นไรเอาไว้ก่อนก็ได้ เดี๋ยววันไหน ไอ้ทองอินมาข้าทวงกับมันเอง เอ็งเอาข้าวไปก่อนเถอะส่วนเงินตรงนั้นเองก็เอาเก็บไว้กินทำทุนซื้อของมาขายอีกนะ" ตาเอี้ยงมองไปในมือเล็กๆที่กำถุงเงินไว้แน่นก็พอจะเข้าใจความรู้สึกของอัญชันตาเอี้ยงจึงเมตตาอัญชันและนวลเป็นพิเศษเพราะแม่ก็ขยันลูกก็น่ารักนิสัยดี "ขอบคุณนะจ๊ะลุงเอี้ยง ฉันจะไม่ลืมบุญคุณของลุงเลย"อัญชันที่ได้ข้าวก็ยิ้มแป้นรีบกลับไปที่บ้านเพื่อไปหาแม่นวลของเธอ ทางด้านไอ้ทองอินทร์ที่หลุดออกมาจากโรงพนันได้มันรีบสาวเท้ากลับมาที่บ้านทันที พอมันมาถึงมันค้นข้าวของมีค่าทุกอย่าง เพื่อเตรียมจะหนีไปจากที่เมืองลพบุรีมันไม่สามารถอยู่ที่นี่ต่อได้แล้ว เพราะถ้ามันอยู่คงโดนฆ่าทิ้งจากนายโรงพนันเป็นแน่ "พี่อินพี่จะทำอะไรน่ะ ทำไมจะต้องขนข้าวของตั้งมากมายพวกนี้ด้วย"เสียงนางนวลวิ่งพรวดขึ้นมาบนบ้านพร้อมทำสีหน้าตกอกตกใจเพราะข้าวของกระจัดกระจายราวกับถูกโจรขึ้นบ้าน "มึงต้องหนีไปจากที่นี่พร้อมกับกู ถ้ามึงไม่อยากตายอีนวล"ไอ้ทองอินที่ตะคอกนางนวลที่ยืนงงเป็นไก่ตาแตกอยู่ "ทำไมเราต้องหนี"นวลที่หันไปมองทองอินทร์ด้วยคำถามมากมายที่พรั่งพรูอยู่บนใบหน้าแต่นวลก็พอจะรู้สาเหตุ "หรือพี่ไปเล่นพนันอะไรมาแล้วเป็นปัญหาอีกใช่หรือไม่"นางนวลเค้นถามผู้เป็นสามี "มึงไม่ต้องถามกูมากหรอก กูบอกให้เก็บของยังไงเล่า หรือมึงจะรอให้มันมาฆ่ามึงกับลูกของมึงก่อน" ไอ้ทองอินหยุดมือแล้วหันกลับไปตะคอกนวล "ไม่พี่ต้องตอบฉันมาก่อน ไม่งั้นฉันก็จะไม่ไปที่ไหนทั้งนั้น เพราะนี่มันก็บ้านของฉันเหมือนกัน" "ถ้ามึงจะอยู่ มึงก็อยู่ไปกันเลยสองคนแม่ลูกมึง ถ้ามึงไม่เชื่อกู ไอ้นายโรงพนันมันจะมายึดบ้านเพราะกูไปติดหนี้มัน" "พี่ติดหนี้เขาเท่าไหร่ ทำไมถึงจะต้องฆ่าแกงกันเลยหรือไร"นางนวลถึงกับสงสัย "กูเอาบ้านกับนาไปเข้าจำนำที่โรงพนัน กูก็เล่นพนันไปจนหมดแล้ว และกูก็เป็นหนี้มันอีก 300 บาทถ้าไม่มีเงิน 300 บาทไปคืนมันมันจะมากระทืบกูถึงบ้านไง..!" "300 บาท..! พี่จะบ้าหรือ พี่เล่นอะไรขนาดนั้นบ้านก็ไม่เหลือ ที่นาก็ไม่เหลือแล้วเราจะไปอยู่กินกันที่ไหน ทำไมพี่ทำอย่างนี้"นางนวลที่โมโหจนขาดสติถึงกับตะคอกกลับไอ้ทองอินทันทีเช่นกัน "กูจะหนีไปตั้งหลักโคราช กูจะต้องไปหาลุงเขียวญาติคนสุดท้ายของกู จะต้องเดิน จะต้องวิ่งใช้เวลาหลายวันก็ต้องทำ" "ไม่งั้นลูกมึงกับมึงนั่นแหละที่จะตาย เพราะมันจะต้องฆ่าพวกมึงพร้อมกับกู"ไอ้ทองอินใช้คำพูดขู่เข็นโดยเอาอัญชันมาเป็นตัวกระตุ้นความเป็นห่วงของนางนวล "ฉันจะเชื่อพี่อีกสักครั้ง ถ้าเราไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เมืองโคราช พี่สัญญากับฉันได้ไหม ว่าพี่จะเลิกเล่นการพนัน"นางนวลที่น้ำตานองหน้าพูดพร้อมกับความโกรธน้อยเนื้อต่ำใจ ทุกอย่างปะเดปะดังใส่จนไม่รู้จะแก้ไขเรื่องไหนก่อน "เออกูสัญญา กูจะเลิกเล่นการพนัน มึงกับกูจะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่โคราช แล้วลูกมึงอยู่ที่ไหน" ไอ้ทองอินถึงแม้จะเป็นคนกะล่อนปลิ้นปล้อนและไม่ชอบอัญชันที่เป็นผู้หญิงสักเท่าไหร่ แต่ความเป็นพ่อก็ยังคงต้องเป็นห่วงลูกอยู่บ้าง อัญชันที่เดินมาถึงบ้าน ก็ถึงกับตกอกตกใจเมื่อเห็นสภาพบ้านที่ถูกรื้อกระจัดกระจายอัญชันรีบวิ่งขึ้นไปตะโกนเรียกแม่เสียงหลง "แม่ ..,! แม่นวลแม่อยู่ที่ไหนจ๊ะ"อัญชันที่กวาดสายตามองหานวลทุกซอกมุมของบ้านใจคอก็ไม่ดี "อัญชันแม่อยู่นี่ลูก ขึ้นมาเร็วเราต้องรีบไปกันแล้ว"นางนวลและให้ทองอินที่เก็บข้าวของที่พอจะเก็บได้ใส่ย่ามเล็ก ๆ สะพายไปได้หม้อหุงข้าวหม้อดินเล็กๆสัมภาระทำครัวนิดหน่อยที่พอจะประทังชีวิตระหว่างเดินทางก็ขนไปจนหมดสิ้น "เราจะไปที่ใดกันแน่ แล้วทำไมบ้านเราถึงเป็นอย่างนี้"อัญชันถามผู้เป็นแม่ในมือก็ยังถือห่อข้าวสารที่เอาใส่ยามมาเป็นอย่างดี "เราจะไปอยู่บ้านญาติของพ่อสักพัก เรารีบไปกันเถอะลูก เราต้องออกจากที่นี่อีกสักก็ใกล้จะค่ำแล้วคนก็คงจะไม่ค่อยเห็นกันแล้วล่ะ" ไอ้ทองอินได้พาลูกและเมียออกเดินทางตั้งแต่หัวค่ำ ออกจากหมู่บ้านไปอย่างเงียบ ๆ มันไม่อยากให้เป็นที่สังเกตของใคร มันจึงลัดเลาะไปตามทางป่าที่ไม่มีคนใช้มากนัก "พี่นี่เราก็เดินกันมา 4-5 ชั่วยามแล้วพักสักหน่อยเถอะ ลูกไม่ไหวแล้ว"นางนวลที่เห็นสภาพของอัญชันที่แทบจะเดินไม่ไหวรองเท้าก็ไม่มีใส่ "เออ พักก็ได้ พวกมึงนี่เป็นภาระกูจริงๆเลย" "อัญชันหิวไหมลูก"นางนวลหันไปถามลูกสาวที่ใบหน้าดูอิดโรยเหนื่อยล้า "หิวนิดหน่อยจ๊ะแม่" "แม่มีปลาเค็มตากแห้งกับข้าวเหนียวมานิดหน่อยเดี๋ยวลูกกินสักหน่อยนะ" ยังไม่ทันที่อัญชันจะได้ยื่นมือไปหยิบห่อข้าวไอ้ทองอินที่หิวโซ ก็คว้าห่อข้าวในมือของนางนวลเอาไปกินเข้าปากคนเดียวโดยไม่แบ่งให้ใครเลย "ทำไมพี่ทำอย่างนี้ล่ะ ข้าจะให้อัญชันมันกินนะ ลูกหิวข้าวขนาดนี้ พี่ยังทำได้ลงคอเลยหรอพี่ทองอิน" "กูก็หิวเหมือนกันไม่ใช่แค่ลูกมึงหิว มันจะกินไปทำไม งานการก็ไม่ค่อยได้ทำ ให้กูกินนี่"ไอ้อินไม่สนใจ สองแม่ลูกนั่งมองดูไอ้ทองอินกินข้าวเหนียวจนหมดห่อ "ไม่เป็นไรนะลูก แม่ยังพอมีปลาแห้ง อยู่เดี๋ยวก่อไฟย่างปลาแห้งสักหน่อย พอให้ลูกประทังหิวได้บ้าง" "แม่จ๊ะลูกมีข้าวสารมาอยู่ย่ามจ๊ะ"อัญชันพูดจบก็ควักข้าวสารออกมาจากย่ามของตัวเอง แต่อัญชันไม่ยอมควักเงินออกมา เพราะถ้าควักออกมาพ่อก็คงเอาไปหมดอีกเช่นเคย "ลูกเอาข้าวมาจากไหนฮะอัญชัน" "ลูกเอาเงินที่แม่ให้ไปเก็บจากป้าจันทร์ขายขนมไปซื้อข้าวมาจ้ะ ตังค์ที่ได้จากค่าขนมก็เลยไม่เหลือ"อัญชันเลือกที่จะโกหกต่อหน้าพ่อ "ไม่เป็นไรจ้ะ ลูกดีแล้ว ที่ลูกซื้อข้าวมา เรายังกินตอนเดินทางได้อีกหลายวันเลย"นางนวลที่ติดหม้อดินเล็ก ๆ มาด้วยก็จัดการหุงหาอาหารให้กับลูกสาวโดยมีปลาตากแห้งโรยข้าวให้ลูกสาวได้ประทังหิว "แค่นี้ลูกก็อิ่มแล้วจ้ะแม่ แม่กินบ้างเถอะ"อัญชันกิน 4-5 คำก็แกล้งบอกว่าอิ่มเพื่ออยากให้แม่ตนเองได้กินข้าวด้วยกัน "ได้จ้ะถ้าลูกอิ่มแล้ว เดี๋ยวแม่จะกินต่อเอง"นางนวลกินข้าวที่เหลือจากลูกสาว ถึงแม้จะหุงไม่มากนักก็ยังให้ได้อิ่มและมีแรง "มึงนี่ก็ยังดีนะที่มีความคิดไปซื้อข้าวซื้อปลามาเก็บไว้บ้าง ถ้าเกิดไม่มีอะไรกินป่านนี้ก็คงอดตายกันไปหมด"ไอ้ทองอินที่ทำเป็นพูดชมลูกสาวตัวเองทั้งๆที่เรื่องทั้งหมดต้นเรื่องก็เกิดจากตนเองทั้งนั้นแต่มันก็ยังไม่มีสามัญสำนึกเลย.....ศึกในวันนี้ผลสุดท้ายถ้าถามว่ามีใครแพ้หรือชนะหรือเปล่าสำหรับอินทรีย์เขามองเพียงว่านี่เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ ไม่มีใครอยากลาจากโลกนี้ไปโดยทิ้งครอบครัวไว้เบื้ิองหลัง อินทรีย์ทำได้เพียงปล่อยให้ผู้หญิงและเด็กรวมถึงคนชราที่อยู่ที่นี่ได้ใช้ชีวิตที่เหลือของตัวเองต่อไป "ข้าจะถามพวกเอ็งว่าจะติดตามกลับไปที่หมู่บ้านของข้าหรือไม่ข้าจะดูแลทุกคนอย่างดีไม่ให้มาลักเล็กขโมยน้อย ปล้นฆ่าแบบนี้" อินทรีย์ถึงแม้จะดูโหดเหี้ยมอำมหิตแต่เขาก็ไม่เคยคิดจะทำร้ายผู้หญิงเพศแม่ "พวกข้าไม่มีอะไรที่พึ่งใบบุญได้แล้ว หากพ่อคุ้มอินทรีย์จะเมตตา พวกข้าก็ยินดีจะติดตามและจงรักภักดีกับพ่อคุ้มอินทรีย์จนกว่าชีวิตของพวกข้าจะลาจากโลกนี้ไป" ยายเฒ่าคนหนึ่งที่ดูเป็นคนที่น่าจะมีวุฒิภาวะและผู้คนน่าจะนับหน้าถือตาอยู่ไม่น้อย "หากยายเฒ่ามะเกลือว่าเช่นนั้นพวกฉันก็ว่าตามนั้นจ้ะ"ลูกเด็กเด็กแดงของเหล่าเสือโจรก็พากันน้อมรับที่จะติดตามอินทรีย์ตลอดชีวิต "พี่อินทรีย์มันจะดีหรือที่รับลูกเสือลูกจะเข้มาเลี้ยง สักวันหนึ่งมันอาจจะแว้งกัดพวกเราตอนที่มันโตขึ้นก็ได้นะพี่"ไอ้สนหันมาบอกอินทรีย์ "หากเป็นเช่นนั้นมันก็เป็นเวรกรรมของกูแล้วล่
ตัดภาพมาที่ปัจจุบันเมื่ออินทรีย์ร่ำลาอัญชันแล้วมาที่ลานอาวุธของเขาพร้อมกับเตรียมยุทโธปกรณ์ในการไปกำจัดพวกไอ้โจรปล้นควายให้สิ้นไป"ในวันนี้ กูไม่รู้ว่า กูจะพาพวกมึงไปตายหรือรอดกลับมาครบทุกคนหรือเปล่า""แต่กูอยากจะบอกพวกมึงว่า การในครั้งนี้เพื่อลูกหลานของเรา และครอบครัวของเรากูขอให้พวกมึงสู้อย่างสุดกำลัง..!"อินทรีย์พูดปลอบขวัญลูกสมุนทุกคนต่างส่งเสียงเฮลั่นอินทรีย์เตรียมไพร่พลไปนับห้าสิบคนในการทำศึกครั้งนี้ไม่ว่าจะออกมาแพ้หรือชนะนั่นหมายถึงความเป็นและความตายของหมู่บ้านแห่งนี้ใช้เวลาไม่นานจากเส้นทางลับที่อินทรีย์และทุกคนได้ล่วงรู้จึงได้ไปตั้งหลักที่นั่นเพื่อเตรียมถอนรากถอนโคนไอ้โจรปล้นควายถึงถิ่น"พวกมึงแบ่งกำลัง เป็นสองกอง กองแรกไปหลอกล่อพวกมันให้ออกมาจากหมู่บ้าน""กองที่สองไปอยู่บนหน้าผาสูงชันบริเวณที่มันเคยกลิ้งหินลงมาใส่พวกเราแล้วยิงธนูไฟใส่หลังคาบ้านของพวกมัน""กองที่สามลัดเลาะไปตามเส้นทางที่ไอ้สนได้แจกแจงให้พวกมึงเป็นทางลอบเข้าหมู่บ้านของพวกมัน""แล้วพวกมึงค่อยเข้าไปเผาบ้านเรือนของพวกมันทีละหลัง และฆ่าพวกมันอย่าให้เหลือหากเป็นผู้หญิงกับเด็กไว้ชีวิตมัน"อินทรีย์สั่งเสียงเข้มทุกคนจึ
หลังจากกลับมาอินทรีย์ก็ได้เค้นสอบถามเรื่องความจริงจากปากคนของตาเฒ่าเสือดำด้วยวิธีการที่โหดเหี้ยมด้วยการจับมันถอดเล็บทีละเล็บถอดฟันทีละซี่เมื่อไหร่ที่มันไม่พูดความจริงก็ถอดออกทีละข้างอ๊าค....!เสียงร้องโหยหวนของไอ้แคระและลูกน้องรวมถึงไอ้โกสุมผู้ที่คิดคดทรยศแม้กระทั่งคนที่ให้ข้าวให้น้ำโดนทรมานอยู่ด้านหลังลานฝึกอาวุธที่มีบ่องูพิษอยู่ด้านข้าง"มึงฆ่ากูซะเถอะถ้ากูรอดไปได้กูจะฆ่ามึงซะ"ไอ้โกสุมจากที่รักและเคารพกลายเป็นเครียดแค้นและโกรธเกลียดอินทรีย์เป็นเท่าตัว"ฮึ ฮึ ฮึ ฮ่า ฮ่า" เสียงแค้นหัวเราะอันเย็นยะเยือกของอินทรีย์ทำให้ทุกคนอยู่ตรงนั้นถึงกับขนรกเกลียวเพราะไม่เคยเห็นอินทรีย์ในเวอร์ชั่นดูโหดร้ายเป็นเท่าทวีคูณจากปกติมาก"ถ้าเป็นกูกูยอมตายว่ะ กูไม่ยอมให้พ่อคุ้มทรมานกูแบบนี้แน่"ไอ้บุญทองที่เห็นการทรมานก็รู้สึกว่าความตายมันดูหอมหวานกว่าการที่เป็นอยู่แน่นอน"มึงอยากจะลองดูไหมล่ะไอ้ห่าอย่าพูดไป"ไอ้สนหันไปตีปากไอ้บุญทอง"กูไม่อยากลองอ่ะ แค่กูได้ยินเสียงมันร้องกูก็จะตายแล้วโอ๊ยขนลุก..บรื้อ.."ไอ้บุญทองถึงกับใช้มือลูกต้นแขนตัวเอง"ต่อให้มึงอยากตาย..กูก็จะไม่ให้มึงตายคนอย่างมึงควรค่า แก่การทรมาน..ส่
ย้อนกลับไปวันที่อินทรีย์ได้บอกให้ไอ้โกสุมพาลูกสมุนนับสิบคนออกไปตรวจตราและแก้มือเพื่อเอาความดีมาลบล้างความผิดที่มันได้หักหลังรอบส่งศาลให้กับฝ่ายศัตรูตรงข้าม"พวกมึงรอกูอยู่ที่นี่ เดี๋ยวกูจะไปเดินดูนอกถ้ำสำรวจอีกทีว่าเราจะโจมตีพวกมันได้จากทางไหน"ไอ้โกสุมที่วางแผนจะออกไปส่งข่าวให้กับพวกโจรปล้นควายคนเดียวจึงสั่งให้ลูกน้องนับสิบรอภายในถ้ำและจะเปิดเผยที่อยู่ของลูกน้องรวมถึงทางรับเข้าออกที่มันได้ค้นพบ"พี่ให้ข้าไปเป็นเพื่อนดีกว่า หากพี่ไปคนเดียว ข้ากลัวจะเกิดอันตราย"ลูกสมุนคนนึงตะโกนขึ้นมาเพราะเป็นห่วงไอ้โกสุม"มึงต้องฟังคำสั่งกูไอ้ชัช ถ้ามึงไม่ฟังคำสั่งกูคนอื่นก็จะพาลเดือดร้อนไปด้วยมึงต้องดูแลทุกคนที่นี่จนกว่ากูจะกลับมาเข้าใจหรือไม่" ไอ้โกสุมทำแทรกเป็นห่วงทุกคน"ได้พี่ข้าขอให้พี่ปลอดภัยกลับมา"ไอ้ชัชได้กล่าวคำอวยพรให้กับไอ้โกสุม"ขอบใจมึงมากไอ้ชัชมึงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของกู"ไอ้โกสุมที่ทำท่าซึ้งอกซึ้งใจทั้งที่เป็นการโกหกหลอกลวงผู้อื่นทั้งสิ้นผ่านไปไม่นานไอ้โกสุมเดินลัดเลาะออกจากถ้ำทางลับเพื่อจะไปส่งข่าวแก่ไอ้มอญที่อยู่ในชุมโจรและมันอยากไปดูลูกกับเมียให้เห็นกับตาว่าสบายดีหรือไม่ มันคิดแล
เมื่อความรักเริ่มเบ่งบานและสุกงอมทุกอย่างดูจะสวยงามและโรยไปด้วยกลีบกุหลาบโลกทั้งใบเปลี่ยนสีกลายเป็นสีชมพูระหว่างอินทรีย์และอัญชันที่ดูอบอุ่นไปด้วยมวลความรัก เหมือนผีเสื้อบินรายล้อมอยู่รอบตัว"พ่อคุ้มอินทรีย์จ๊ะอัญชันจะไปบ้านตาเขียวไปดูแลทำความสะอาดสักพักแล้วจะรีบกลับมา"บ้านของตาเขียวที่ทิ้งทรัพย์สมบัติไว้ให้หลานสาวอย่างอัญชันมากมาย อัญชันกลายเป็นทายาทโดยชอบธรรมเพียงคนเดียวของตาเขียวที่มีสิทธิ์ในทรัพย์สมบัติทั้งที่นาบ้านเรือนไทยและเงินสดอีกจำนวนหนึ่งทองแท่งอีกเป็นหีบ"ให้นางชมพู่ติดตามเอ็งไปด้วยนะอย่าไปไหนมาไหนคนเดียวแล้วเดี๋ยวข้ากลับจะไปลานฝึกอาวุธจะรีบตามเอ็งไป"อินทรีย์ที่รีบแต่งตัวเพื่อต้องไปทำภารกิจวางแผนที่จะปิดฉากล้างบางถอนรากถอนโคนพวกโจรปล้นควายที่อยู่ในหุบเขาฝั่งตรงข้ามกับช่องเขาแคบให้มันหมดสิ้นไปเสียที"ได้จ้ะพ่อคุ้ม พ่อไม่ต้องเป็นห่วงอัญชันดอกหนาอัญชันมีชมพู่ไปเป็นเพื่อนแล้วไหนจะบ่าวไพ่ที่เรือนของตาเขียวอีก ไม่มีใครกล้าทำอะไรอัญชันดอก" อัญชันแต่งกายด้วยเสื้อแขนยาวสีน้ำตาลปกปิดไปจนถึงต้นคอกระดุมเม็ดสุดท้ายนุ่งผ้าถุงสีน้ำตาลเรียบๆแต่กลับทำให้อัญชันดูสง่าผ่าเผย"เดี๋ยวข้าจะใ
การจูบที่เนิ่นนาน เหมือนกับกระชากวิญญาณของอัญชันให้หลุดลอยออกจากร่างแววตาระยิบระยับหยาดเยิ้มจ้องมองประสานกันหวานยิ่งกว่าน้ำผึ้ง อินทรีย์ถอนจูบออก แล้วกดจมูกโด่งลงไปบนซอกคอขวาขบเม้มเบา ๆ พอให้อัญชันรูสึกเจ็บแปล็บ ๆ เหมือนเป็นการลงโทษเด็กดื้อไปในตัว"พะ พ่อคุ้ม อย่ากัดนะจ๊ะ ฮืม อัญชันเจ็บ.!"อัญที่ถูกเอารัดเอาเปรียบเอาแต่ใจโดยคนตัวโตเพราะไม่พอใจในคำตอบที่เธอตอบ"ข้าไม่กัดหรอก แต่ข้าจะเปลี่ยนเป็นเลียหัวนมที่ตั้งแข็งชูชันจนทะลุกระโจมอกเอ็งแล้ว ฮืม เด็กดื้อ... "อินทรีย์เลื่อนจมูกมาถูไถกลางร่องอกอวบอิ่มที่นุ่มนิ่ม กลิ่นหอมอ่อน ๆ ยังเยาว์เชื้อเชิญเสียเหลือเกิน"พ่อ อย่านะ ฮืม ไม่เอาแบบนี้" อัญที่แผลเก่ายังไม่ทันจะหาย เหมือนจะโดนทำแผลให้ใหม่เสียแล้ว"เอ็ง อยากดื้อกับข้า ทำไม ฮึ ..! ดูซิว่านมเอ็งอร่อยไหม ขอข้าชิมอีกทีนะ เด็กดื้อ.."อินทรีย์ไม่พูดเปล่า กระชากกระโจมอกของอัญชันออก เผยให้เห็นเต้าอวบอิ่มใหญ่โต และยอดจุกปทุมสีชมพูหวาน ชูชันราวกับเชื้อเชิญให้เขาพุ่งเข้าหา อินทรีย์ใช้ปากหนาก้มลงไปดูดดึงราวกับเด็กหิวนม ไม่พอใจอินทรีย์ใช้สองมือหนา รวบสองเต้าให้มาอยู่ตรงกลางแล้วลงลิ้นที่จุกสีชมพูหวา