"เมื่อไหร่พี่จะหยุดสักที..!พี่ทองอิน บ้านเราจะไม่เหลืออะไรจะให้พี่เอาไปจำนำได้อีกแล้วนะ"นางนวลเมียที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับทองอินมาตลอดหลายสิบปี จนมีแก้วตาดวงใจอย่างอัญชันที่ตอนนี้อายุ 12 ปีแล้ว
"มึงจะบ่นทำไมนักหนาวะ กูก็แค่อยากจะพักผ่อนอยู่กับพวกมึงก็ไม่มีอะไรดี พวกมึงมีปัญญาหาเงินเข้าบ้านก็แค่เศษเงิน พวกมึงมีปัญญาหาเงินเหมือนกูหรือเปล่าล่ะ"ไอ้ทองอินโวยวายเมียรักอย่างนางนวล เพราะไม่มีเงินเอาไปเล่นการพนันอีก "พี่ก็หยุดเสียทีเถิด พี่ดูลูกเราสิ อัญชันโตขึ้นทุกวันพี่จะให้ลูกมันทำตัวเช่นไร ไปที่ใดก็มีแต่คนตราหน้าว่ามีพ่อขี้เหล้าติดการพนันเช่นนี้ เพี้ยะ ..! เสียงตบหน้าฉาดใหญ่ตบกระทบอย่างแรงบนใบหน้าของนางนวล ใบหน้าเล็ก ๆ ถึงกับขึ้นเป็นรอยนิ้วมือแดงบนใบหน้า เมื่อทองอินผัวที่ตนรักและให้ทั้งชีวิตทำร้ายร่างกายมาโดยตลอด ทุกครั้งที่ไม่มีเบี้ยไปซื้อสุราหรือเล่นการพนันทองอินจะโมโหร้ายถึงกับตบตีนวลทุกครั้งและนวลก็อดทนเพราะรักลูกสาวไม่อยากให้กำพร้าพ่อ "พี่...!! ฮึก ...ฮื่อ"นางนวลถึงกับตวาดลั่นเมื่อความเจ็บปวดที่กระทบบนใบหน้าอย่างแรง นวลใช้มือเรียวเล็กกุมไปที่ใบหน้าด้วยความเจ็บแสบ ควมเจ็บปวดบนใบหน้ามันยังไม่เท่าเจ็บใจ ที่ตนเองไม่เชื่อพ่อและแม่เลือกที่จะแต่งงานกับคนชั่วช้าเช่นทองอิน "ทำไม..!! มึงยังจะอวดดีกับกูอีกหรือเปล่าอีนวล!ลูกสาวมึงอีกภารฉิบหาย กูไม่รู้จะเอาพวกมึงมาเป็นภาระทำอะไรในชีวิตกู โถ่..โว๊ยย..!!"ไอ้ทองอินโวยวายจนลั่นเรือนพร้อมกับขว้างปาข้าวของจนสภาพบ้านเละเทะไม่เหลือชิ้นดี บัดนี้ทั้งชีวิตของทองอินเหลือแต่เรือนที่จะเอาไปจำนำได้พร้อมกับที่นาที่เหลือเพียงไม่ถึง 2 ไร่ เมื่อมันคิดได้ดังนั้นมันจึงเดินไปที่หีบในห้องนอนที่เอาไว้เก็บใบโฉนดที่นากับบ้าน "หยุดนะพี่ทองอิน..! พี่จะทำแบบนี้ไม่ได้ พี่จะเอาบ้านเรากับนาไปไม่ได้นะ เราไม่เหลืออะไรแล้วนะพี่ ถ้าพี่ทำเช่นนี้นวลกับลูกจะยังไง"นางนวลถึงกับกระโดดกอดหีบสมบัติชิ้นสุดท้ายที่จะเก็บไว้ให้ลูกและตนได้มีที่ซุกหัวนอนในยามแก่ตัว "มึงออกไปให้พ้นอีนวล..! ถ้ามึงไม่ออกกูจะกระทืบมึงตรงนี้แหละ"ไอ้ทองอินที่โดนผีพนันเข้าสิงเกินกว่าที่มันจะควบคุมสติตัวเองได้แล้ว "พ่อทองอินอย่าทำแม่นวลนะ..!" อัญชันเด็กหญิงวัย 12 ปี ที่เพิ่งกลับมาจากตลาดเพราะเอาขนมที่แม่ทำเอาไว้ไปส่งพร้อมกับเงินไม่กี่บาท "มาก็ดีอีตัวภาระ"ไอ้ทองอินหันไปง้างมือจะตบหน้าของอัญชัน แต่ผู้เป็นแม่อย่างนางนวลกระโดดกอดอัญชันเอาไว้ในอ้อมแขนจนแน่น ทำให้ไอ้อินฟาดไปที่กลางหลังของนางนวลอย่างแรง "แม่..!! แม่จ๊ะ แม่ ฮึก ฮื่อ เจ็บไหมแม่"อัญชันรีบลุกขึ้นแล้วสอดส่องว่าแม่ของตัวเองเจ็บตรงไหนบ้างไหมจนมองเห็นใบหน้าที่โดนตบจนเลือดซิบข้างปาก "พ่อหยุดเดี๋ยวนี้นะ พ่ออยากได้อะไรพ่อก็เอาไปเลย แต่อย่ามาทำร้ายแม่แบบนี้"อัญชันที่ทนไม่ไหวจึงได้ตะคอกผู้เป็นพ่อไป "มึงดูไว้นะอีนวล ลูกบังเกิดเกล้าของมึง สั่งสอนมันมายังไง ถึงได้มาขึ้นเสียงใส่กูแบบนี้"ไอ้ทองอินที่ได้ดั่งใจแล้วก็เอาโฉนดที่นาและโฉนดบ้านเดินออกจากเรือนไปเพื่อเอาไปเข้าบ่อนโรงจำนำ สองแม่ลูกนั่งร้องไห้กอดกันกลม นางนวลรู้สึกโทษชะตาชีวิตของตัวเอง ที่เลือกผัวผิดทำให้ตนเองเป็นทุกข์มาจนถึงทุกวันนี้ และทุกข์นั้นก็ได้มาตกอยู่ที่ลูกสาวของตนเองตนเอง นางนวลรู้สึกตระหนักถึงคำพูดของพ่อกับแม่แต่จะย้อนกลับไปก็คงทำอะไรไม่ได้เพราะตอนนี้นางนวลเหลือแค่ชีวิตและลูกสาว ทางด้านไอ้ทองอินที่ได้เงินจากการวางจำนำที่บ้านและที่นาผืนสุดท้ายในชีวิตมามากโขอยู่ ไอ้ทองอินถึงกับเล่นพนันอยู่ 3 วัน 3 คืนไม่ยอมกลับเรือน "เฮ้ย..!ไอ้ทองอินมึงไปมั่งมีจากไหนมาวะบอกกูหน่อยซิ"ไอ้มั่งคู่ซี้คู่หูการพนันที่เป็นคนริเริ่มชักชวนให้ไอ้ทองอินเข้าโรงบ่อน "บอกไม่ได้หรอกเว้ย มันเป็นความลับ มือกูกำลังขึ้น มึงอย่าขัดสิวะ"ไอ้ทองอินที่ไม่ยอมบอกว่าตนนั้นได้เอาบ้านกับพี่นามาเข้าที่โรงบ่อนจนหมดสิ้น "มึงเล่นอยู่ที่นี่สามคืนติด ๆ อีนวลมันไม่เป็นห่วงมึงหรอวะ"ไอ้มั่งที่หันไปถามเพื่อนรัก "มึงอย่าพูดให้กูเสียอารมณ์เลยว่ะ กูเบื่อแม่งจะตายอยู่แล้ว วัน ๆ ก็อยู่แต่เรือนส่งแค่ขนมนิดๆหน่อยๆมันจะไปพอห่าอะไรวะ ต้องทำงานอย่างกูนี่ ต่ำ ต่ำ หนังเฮเชียร์การเปิดตัวเลขสูงต่ำดังลั่น "เออ ๆ มึงก็ให้มันเบา ๆ หน่อยเถอะกูว่ากูต้องกลับก่อนแล้วล่ะ เดี๋ยวเมียกูเป็นห่วง" ไอ้มั่งที่เล่นการพนันอย่างรู้ลิมิตรู้ตัวเองเมื่อมันได้มันก็จะออกทันที แตกต่างจากไอ้ทองอินไม่ว่าจะได้หรือจะเสีย มันก็จะเล่นให้ตายกันไปข้างนึง นางนวลที่รู้สึกชินชา กับการที่ไอ้ทองอินไม่กลับบ้านหลายวัน ไม่ว่ากี่วันกี่เวลานางนวลก็ไม่สนใจ ตั้งหน้าตั้งตาทำขนมไทย ที่นางนนวลพอมีวิชาความรู้ติดตัวมาเท่านั้น เอาไปส่งที่ตลาดโดยให้อัญชันเป็นคนไปส่งเพื่อหาเงินเลี้ยงลูกสาวไม่ให้อดอยาก "อัญชันลูก ลำบากลูกแล้วนะ เดี๋ยวแม่จะทำขนมเพิ่มอีกสักหน่อย ลูกเอาไปส่งให้ป้าจันทร์ในตลาดนะลูกนะ"นางนวลที่บอกลูกสาวพร้อมกับใช้มือลูบหัวทุยด้วยความรักแววตาแสดงออกถึงความรักใคร่อย่างสุดหัวใจ "ได้จ้ะแม่ แม่ทำมาเถอะ เดี๋ยวอัญชันจะไปส่งให้ทุกที่เลย ขอแค่แม่ทำขนมเยอะ ๆ "อัญชันที่รู้ว่าแม่เหนื่อยและลำบากมาตั้งแต่ที่ตัวเองจำความได้อัญชันจึงเป็นเด็กดีมากเพราะไม่อยากเห็นแม่ลำบาก "แม่ยังดีที่มีลูกสาวที่ดีและน่ารักแบบลูก ไม่งั้นแม่คงไม่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้อีก" "แม่อย่าพูดอย่างนั้นสิจ๊ะ แม่ยังอยู่กับอัญชันไปอีกนาน งั้นอัญชันขอไปส่งขนมให้ป้าจันทร์ที่ตลาดก่อนนะจ๊ะ"อัญชันพูดจบก็เอาขนมใส่หาบแล้วเดินออกจากบ้าน ไอ้ทองอินที่เสียพนันจนหมดเนื้อหมดตัวแต่มันกลับมาบ้านไม่ได้ เพราะโดนเจ้าของโรงพนันกระทืบจนกระอักเลือดเพราะมันติดหนี้พนันพอกพูนจนมันไม่สามารถใช้หนี้ได้อีก "พี่พอแล้ว..! อย่ากระทืบข้าอีกเลย เดี๋ยวข้าจะกลับไปเอาเงินที่เรือน แล้วจะกลับเอาเงินมาให้พี่"ไอ้ทองอินที่โกหกเพื่อเอาตัวรอด "มึงแน่ใจว่ามึงจะไม่ตุกติกกับลูกพี่ของกู"ลูกน้องคนนึงของนายโรงพนันเอ่ยขึ้น "ข้าจะตุกติกพี่ได้อย่างไรเล่า ข้าก็อาศัยอยู่ที่นี่ตั้งแต่เล็กยันโต พี่ก็รู้ว่าบ้านข้าอยู่ที่ใด ที่บ้านข้ายังมีเงินมีทองอีก"ไอ้ทองอินก็แกล้งโกหกใหญ่โตเพื่อเอาตัวรอด "ในเมื่อมึงมั่นใจ ว่ามึงจะเอาอัดเอาเบี้ยมาคืนกูได้ตามที่มึงติดค้าง กูก็จะปล่อยมึงกลับไป แต่ถ้ามึงตุกติกกูจะเอาชีวิตของมึง แม้แต่กระดูกมึงก็จะเหลือ" "จ้ะพี่จ้ะ ข้าจะรีบกลับไปเอาอัดที่บ้านแล้วมาเล่นที่โรงพนันอีก พี่ก็รู้ว่าข้าจะไปไหนได้"ไอ้ทองอินที่มีแผนจะต้องหนีเอาตัวรอดในใจ มันก็ไม่รู้ว่านับจากวันนี้ชีวิตของมันจะเป็นยังไงต่อ แต่มันคิดแค่ว่ามันต้องเอาตัวรอดให้ได้...อัญชันที่นั่งดูการฝึกอาวุธอยู่ด้านหลังของอินทรีย์ วันนั้นทั้งวันตลอดบ่าย เหล่าบรรดาชายหนุ่มต่างพากันยิ้มกริ่ม อย่างมีกำลังใจเพราะไม่ได้เห็นแต่ใบหน้าเหี้ยมเกรียมของอินทรีย์แต่กลับเห็นใบหน้าน่ารักจิ้มลิ้มที่ส่งยิ้มให้กับอินทรีย์ทำให้พวกเขาที่ฝึกอาวุธอยู่ก็ยิ้มตามไปด้วย"พวกมึงยิ้มห่าอะไรกัน..! ฝึกกันไปสิวะ..!!"อินทรีย์ยืนเอามือไพล่หลัง เดินวนไปวนมาจ้องเราลูกสมุนตาเขม็งอินทรีย์รู้สึกทนไม่ไหวจึงบอกให้ไอ้สนมาคุมการฝึกแทนเขา เพื่อจะพาอัญชันกับเรือนเขารู้สึกรำคาญสายตาทุกคู่ที่จ้องมองอัญชันอย่างไม่วางตาก่อนที่เขาจะควบคุมอารมณ์เอาไว้"ไอ้สน มึงคุมการฝึกให้ดี ฝึกพวกมันให้หนักโทษฐานที่มองอัญชันของกู"อินทรีย์หันไปพูดกับไอ้สน"ฉิบหาย งานหยาบแล้วพวกมึง เหนื่อยเอวเคล็ดแน่!"ไอ้บุญมาลูกน้องลูกกระจ๊อกที่รองมือรองเท้าของไอ้สนและไอ้กล้าเอ่ยขึ้นเสียงดัง"แน่นอนพี่อินทรีย์ เดี๋ยวข้าจะคุมการฝึกให้พี่เอง พี่พาคุณหนูอัญชันกับเรือนไปเถอะไ"อ้สนที่รู้ใจผู้เป็นลูกพี่ยิ่งกว่าใครอัญชันที่นั่งเป็นทองไม่รู้ร้อนมิรู้หนาว อยู่บนแคร่เห็นหน้าบึ้งตึงของพ่อคุ้มอินทรีย์ก็รีบเดินเข้าไปถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใยตามประสา"ไป
ไอ้ทองอินเดินโซซัดโซเซ ตั้งใจจะเอาชีวิตไปตายเอาดาบหน้า ไอ้ทองอินเหลือแต่ชีวิตของมัน และไม่เหลือใครอีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นลูกหรือเมียและญาติคนสุดท้ายมันรู้สึกสิ้นไร้ไม้ตอก จึงเดินตุ้มปัดตุ้มเป๋ไปในป่าโดยไร้จุดหมาย"อย่าให้กูฟื้นตัวมาได้นะ..!ไอ้อินทรีย์ ตาเขียว กูจะมาเอาคืนให้หมดทุกคนเลย ที่ทิ้งกู"ไอ้ทองอินกับเคียดแค้นให้กับลุงแท้ ๆ อย่างตาเขียวที่ไล่ตะเพิดมันออกจากบ้านและคนที่ซื้อลูกสาวมันไปอย่างพ่อคุ้มอินทรีย์ก็ยังจะมาซ้ำมันให้ออกจากหมู่บ้านอีกนับจากวันนั้นเป็นต้นมา วันแล้ววันเล่าชีวิตของอัญชันดูราบรื่นและสวยงาม อัญชันบัดนี้อายุเข้า 17 ปีดูสวยงามสง่า ความเป็นกุลสตรีที่อ่อนโยนยิ่งผูกมัดใจของอินทรีย์เข้าไปทุกวัน"ยายปริกจ๋า วันนี้อัญชันขอไปลานฝึกอาวุธได้ไหมจ๊ะอยากจะเอาปลาสามรสไปฝากพ่อคุ้ม"อัญชันที่ยิ้ม หวานขอยายปริกให้ใจอ่อน"ก็ได้คุณหนูอัญชัน ยายให้ไปแต่คุณหนูอัญชันจะต้องไม่ไปก่อความวุ่นวายให้กับพ่อคุ้ม ต้องลำบากใจรู้หรือไม่"ยายปริกรู้ว่าอัญชันเองก็เป็นเด็กดีน่ารักแต่ก็มีความแสบอยู่ไม่น้อย"อัญชันสัญญากับยายปริกว่าจะไม่สร้างความวุ่นวายเด็ดขาด อัญชันจะรีบไปรีบกลับ ขอเอาข้าวไปส่งให้กับ
อีจวงที่วิ่งหน้าตั้งไปตามไอ้สนและไอ้กล้าที่อยู่ร้าน น้ำชาข้างตลาด ไม่ไกลจากบ้านของพ่อคุ้มอินทรีย์มากนัก เมื่อมาถึงอีจวงจึงรีบตะโกนเรียกคนทั้งสอง"พี่สน พี่กล้า พ่อคุ้มหัวอินทรีย์เรียกหาที่เรือนมีเรื่องรีบกลับไปที่เรือนทันที"อีจวงที่ยืนหอบแฮ่กๆแต่ก็ยังบอกทุกความของพ่อคุ้มอินทรีย์ไม่มีตกหล่น"เกิดเรื่องอะไรวะ"ไอ้สนและไอ้ต้นกล้าหันไปพูดกับ อีจวงพร้อมกัน"ก็พ่ออีนางเด็กอัญชันน่ะ มันมาอาละวาดที่เรือนจะเอาอีอัญชันกลับ"อีจวงที่ไม่ชอบอัญชันก็เรียกจิกหัว ทันทีสองคนที่ได้ยินดังนั้น"นังจวงพูดจาอะไรให้มันดี ๆ หน่อยเถอะ แม่อัญชันก็เป็นคนสำคัญของที่เรือนของพ่อคุ้มอินทรีย์"ไอ้สนหันไปเอ็ดอีจวง"ช่างมันเถอะพวกพี่รีบไปเที่ยวเรือนก่อน"อีจวงที่ไม่สนใจเสียงบ่นกรนด่าของไอ้สนไอ้ทองอินที่อยู่ใต้ถุนเรือน ก็ยังคงโวยวายลั่นทำ ท่าทางจะขึ้นมาบนเรือนของอินทรีย์ให้ได้ แต่อินทรีย์ยืนขวางแม้แต่บันไดขั้นเดียวก็ไม่ให้ขึ้นเหยียบ"เอ็งมาทำแบบนี้ได้ยังไงวะ ข้าอยากจะเอาลูกสาวข้าคืน เอ็งก็คืนมาสิ ข้าเป็นพ่อของมันนะ"ไอ้ทองอินทำเป็นทองไม่รู้ร้อนทั้งที่รับเ
สภาพของไอ้ทองอิน ที่โดนซ้อมจนใบหน้าปูดบวมบิดเบี้ยว กว่ามันจะลุกขึ้นมาได้ก็เล่นเอาช้ำใน เจ็บตัวไป 3-4 วัน เงินที่เหลือติดตัวอยู่ยี่สิบบาทบาทสุดท้ายในสมัยนั้นเป็นเงินที่มากอยู่พอจะให้ตั้งตัวได้เลยแต่สุดท้ายไอ้ทองอินก็ยังหอบสภาพสังขารด้วยใบหน้าที่ปูดบวมไปเล่นการพนันในบ่อนท้ายหมู่บ้านจนสิ้นเนื้อประดาตัวไอ้อินที่โดนเอามาทิ้งใกล้ ๆ กับโรงหมอ ก็ได้หมอใจดีช่วยรักษาจนหาย แต่คนอย่างไอ้ทองอินก็เปรียบเสมือนงูพิษมันพร้อมจะชกกัดกับทุกคน"หมอข้าขอยาแก้ปวดหน่อยสิ ข้าปวดเนื้อปวดตัวไปหมด"ใบหน้าที่ปูดบวมเขียวช้ำ ของไอ้ทองอินก็ยังไม่ดีขึ้น มันก็เริ่มจะแผลงฤทธิ์ได้อีกแล้ว"ข้าก็เพิ่งจะให้เอ็งกินไปไม่ถึงชั่วยาม เอ็งก็ต้องรอหน่อยสิวะ มันก็ต้องปวดเป็นธรรมดาสมุนไพรยังไม่ออกฤทธิ์"คนเป็นหมอถึงกับส่ายหัว กับคนไข้อย่าง ไอ้ทองอิน แม้แต่เงินสตางค์แดงเดียวไอ้ทองอินก็ไม่จ่าย"โธ่เว้ย..! ทำไมข้าต้องมาทนเจ็บปวดด้วยวะ หมอยังเองนี่มันไม่ได้เรื่อง"ไอ้ทองอินลุกขึ้น โซซัดโซเซ สีหน้าชี้หนาด่าทอหมอที่ช่วยชีวิตมันเอาไว้"ถ้าเอ็งพูดอย่างนี้ เอ็งก็ออกไปจากโรงหมอของข้าเสีย แล้วอย่าย้อนกลับมาอีก"คนเป็นหมอถึงกับโมโหเลือดขึ้นหน
ไอ้กล้ากับไอ้สนถือวิสาสะพาตาเขียวเดินขึ้นไปบนเรือนของอินทรีย์ เพื่อไปพบกับอินทรีย์ที่นั่งอยู่กลางเรือน นั่งดูอัญชันฝึกร้อยมาลัยอยู่กับยายปริกที่พื้นด้านล่างตรงหน้าของเขา"พ่อคุ้มอินทรีย์ ดูสิจ๊ะ มาลัยของอัญชันบูดเบี้ยวไม่สวยเหมือนของยายปริกเลย"อัญชันทำหน้างอเป็นม้าหมากรุกรู้สึกน้อยใจในฝีมือของตัวเองยายปริกจึงพูดปลอบใจอัญชันว่า "ตอนที่ยายฝึกทำครั้งแรกโย้เย้กว่าของเอ็งเยอะเลย อัญชันเนี่ยถือว่าเก่งแล้ว เอ็งต้องฝึกฝีมือมาก ๆ นะ'ยายปริกเอ่ยบอกให้อัญชันได้รู้สึกดีขึ้น"จริงหรอจ๊ะ"อัญชันหันไปถามยายปริกพร้อมกับรอยยิ้มพิมพ์ใจ"จริงสิ ยายจะหลอกเอ็งทำไมล่ะ กว่ายายร้อยมาลัยเก่ง สวยขนาดนี้ ยายก็ฝึกจนเข็มแทงนิ้วไม่รู้กี่พันรอบ"ยายปริกรู้สึกเหมือนมีหลานสาวตัวเล็ก ๆ ทำให้เรือนนี้ดูมีชีวิตชีวาตาเขียวที่ยืนมองดูหลานสาว อยู่ตรงหัวกระได รู้สึกมีความสุขที่ เห็นหลานสาวมีรอยยิ้มและดูหน้าตาสดใสเพียงแค่เวลาวันสองวันเท่านั้นเอง แต่ตาเขียวก็อยากจะไปคุยกับพ่อคุ้มอินทรีย์ให้รู้เรื่องเพื่อความปลอดภัยของหลานอินทรีย์หันไปตามเสียงก๊อกแก๊กที่ตรงหัวบันไดบ้านก็รู้สึกแปลกใจที่ไอ้สนกับไอ้กล้า จูงใครคนนึงมาบนบ้านของเขาโ
ไอ้ทองอินที่ได้เงินสามร้อยห้าสิบบาทเป็นเงินที่ขายลูกสาวกิน มันเอาไปถลุงในบ่อนพนันเพียงคืนเดียวก็เหลือติดตัวเพียงยี่สิบบาท มันจึงรีบล่าถอยกลับไปหาลุงของมันที่เรือน"ลุงเขียวจ๊ะ ข้าขอโทษจ้ะ"ไอ้ทองอินก้มลงไปกราบ ลุงเขียว เพื่อขอขมาลาโทษ ที่ทำให้ลุงได้รับบาดเจ็บตาเขียวที่เห็นหลานชายหัวแก้วหัวแหวนมาทำท่าทางขอขมาลาโทษก็รู้สึกใจอ่อน แต่ก็ไม่ได้รับคำขอโทษแต่อย่างใด"แล้วหลานสาวกูอยู่ที่ไหน มึงเอาแม่อัญชันไปขัดดอกจริงๆ ใช่ไหม"ตาเขียวเค้นถามหลานชายหัวแก้ว หัวแหวน ตาเขียวถามหาหลานสาวสุดที่รักอย่างอัญชันเมื่อวานแกพยายามจะวิ่งตามแต่ด้วยความบาดเจ็บของคนแก่จึงทำอะไรไม่ได้"ฉันขายนางอัญชันให้กับผู้ชายคนนึงไปแล้วฉันได้เงินมานิดหน่อย แต่ตอนนี้ เหลือติดตัวอยู่ยี่สิบบาท" ตาเขียวโมโหจนเลือดขึ้นหน้า ที่ไอ้ทองอินขายลูกกินอย่างไม่รู้สึกผิด แกจึงใช้ไม้ตะพดฟาดไปที่หัวของ ไอ้ทองอินจนแตก พร้อมกับตวาดลั่นบ้าน แกเอ่ยไล่ไอ้ทองอินทร์ให้ออกจากบ้านไป"มึงนี่มันไม่ใช่คนจริง ๆ ขนาดลูกหมาลูกแมว มันยังรักลูกของตัวเอง แต่นั่นลูกสาวมึงแท้ ๆ มึงยังกล้าขายให้กับคนที่มึงไม่รู้จัก มึงใช้สมองหรือหัวแม่โป้งตีนคิดไว่ะ..?"
วันนี้เป็นวันแรก ที่อัญชันได้ใช้ชีวิตในแบบที่ควรเป็นเย็นวันนี้อัญชันที่ฝึกทำปลาสามรสกับยายปริกและน้ำพริกกะปิผักต้มให้กับพ่อคุ้มอินทรีย์เป็นครั้งแรกอัญชันรีบช่วยยายปริกยกข้าวเย็นขึ้นมาบนเรือน"เอ็งทำอันใดให้ข้ากินหรืออัญชัน"พ่อคุ้มอินทรีย์ที่พึ่งอาบน้ำผัดเสื้อผ้าก็เดินออกมา"อัญชันทำเมนูปลาสามรส น้ำพริกกะปิแล้วก็ผักต้มให้กับพ่อคุ้มอินทรีย์ ลองกินดูจ๊ะ"อัญชันยิ้มหวานเนื้อตัวยังมีแต่กลิ่นกับข้าวพ่อคุ้มอินทรีย์เดินเข้าไปหาอัญชัน โอบกอดร่างเล็ก ๆ พร้อมกับหอมแก้มเบาๆ ดังฟอด..!"พ่อคุ้ม...!!!"อัญชันเรียกอินทรีย์เสียงดังเพราะแอบตกใจที่อยู่ดีๆก็โดนขโมยหอมแก้ม"ทำไม มึงเป็นคนของกูแล้ว กูบอกมึงแล้วไง ไม่ต้องตกใจหรอก ต่อไปนี้ทุกอย่างบนตัวมึงเป็นของกูแต่เพียงผู้เดียว"อินทรีย์พูดไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ออกมาทั้งนั้น"อัญชันแม้จะไม่เคยได้รับความรักจากพ่อแบบที่พ่อคุ้มทำ ก็ยิ่งรู้สึกเคอะเขินเล็กน้อยเพราะพ่อคุ้มอินทรีย์ไม่ใช่พ่อแท้ ๆ ของตน"ขอบใจเอ็งมาก เอ็งก็มากินข้าวพร้อมข้าเลยแล้วกัน"อินทรีย์ที่จุงมือเล็ก ๆ ให้เดินตามมาด้วยอีจวงที่เดินขึ้นมาพร้อมกับโถข้าว แทบจะทำโถข้าวหลุดมือ เมื่อเห็นภาพพ่อคุ้มอินทรีย์
อินทรีย์จ้องมองลูกน้องทั้งสองตาเขม็งด้วยความไม่พอใจที่สอดรู้สอดเห็น เรื่องของเขาไปเสียทุกเรื่อง ถึงแม้พวกมันจะดูทะเล้นตึงตังไปบ้าง แต่ยามที่สู้รบปรบมือ พวกมันก็ไม่เคยถอยและไม่เคยทิ้งอินทรีย์เลยแม้แต่ครั้งเดียวเป็นตายแทนเขาได้เสมอ"ช่างสอดรู้สอดเห็นเสียจริงพวกมึง อัญชันเป็นคนของกู นับจากวันนี้เป็นต้นไป ผู้ใดก็ห้ามแตะต้อง"อินทรีย์ใช้น้ำเสียงที่ดูอ่อยโยนทำให้อัญชันไม่รู้สึกกลัว"แม่อัญชันจ๊ะฉันชื่อไอ้กล้า ส่วนเนี่ยไอ้สน แม่อัญชันอย่าได้กลัวฉันสองคนเลยนะ ฉันเป็นลูกน้องของพ่อคุ้มอินทรีย์"ไอ้กล้าที่มันก็กล้าสมชื่อได้พูดขึ้นไอ้สนใช้มือตบไปที่เพื่อนเบา ๆ ให้หยุดพูดเสียทีเดี๋ยวจะปากพาซวยกันทั้งคู่แต่ไอ้กล้าก็ไม่ได้ฟังอัญชันหันมองคนทั้งสองพร้อมกับผงกหัวรับอย่างว่าง่าย คนตัวเล็กอย่างอัญชันทำอะไรก็ดูน่ารักไปเสียหมดในสายตาของอินทรีย์ อินทรีย์ค่อย ๆ อุ้มอัญชันออกจากตัก ให้นั่งอยู่ข้าง ๆ พร้อมกับใช้วงแขนแกร่งโอบกอดเอาไว้"ไหน ไหน ก็ไหน ไหนแล้ว ทำความรู้จักไว้เสียสิอัญชัน อันนั้นไอ้สนหน้าตามันจะดูรูปทั่วตัวดำแต่มันเป็นคนจิตใจดี""ส่วนคนนั้นไอ้กล้าปากหมาพาซวยถึงแม้มันจะดีดดิ้งไปบ้างไม่ค่อยเชื่อฟังคำ
อินทรีย์ที่อุ้มอัญชันขึ้นมากอดกระชับไว้แน่นพร้อมหอมใบบนหน้าผากมนด้วยความน่ารักน่าเอ็นดูของอัญชัน ทำให้อินทรีย์อดใจไม่ไหวจึงแกล้งหยอกล้ออัญชันจนมันหัวเราะร่วน"ฮ่า ฮ่า พ่อคุ้ม อัญชันจั๊กจี้จ้ะ ไม่เอาแล้ว ไม่เล่นแล้ว"อัญชันที่โดนพ่อคุ้มกลั่นแกล้งนั่งหัวเราะร่วนอยู่บนตักแกร่ง"กูไม่แกล้งมึงแล้วก็ได้อัญชัน แต่ต่อไปนี้เอ็งจะต้องเป็นเด็กดี เชื่อฟังทุกเรื่องที่ข้าพูดเข้าใจไหมพ่อคุ้มอินทรีย์บอกกับอัญชันอย่างจริงจัง"อัญชันสัญญาจ้ะ อัญชันจะเป็นเด็กดี จะเชื่อฟังที่ พ่อคุ้มบอกทุกเรื่องเลยจ้ะ อัญชันอยากจะเรียนทำอาหารเพิ่มได้ไหมจ๊ะ""เมื่อก่อนแม่ของอัญชัน มักจะสอนอัญชันทำขนมแล้วก็อาหารมากมาย อัญชันอยากรู้ว่าพ่อคุ้มชอบกินอะไรอัญ ชันจะได้ทำให้พ่อคุ้มกินทุกวันเลย"อัญชันที่พูดเอาอกเอาใจพ่อคุ้มอินทรีย์ด้วยความไร้เดียงสาอัญชันรู้สึกรักและผูกพันกับพ่อคุ้มอย่างบอกไม่ถูก"มึงเป็นเด็กที่น่ารัก และรู้จักเอาอกเอาใจเสียจริงนะไม่เสียแรงที่กูช่วยมึงมา"พ่อคุ้มพูดคุยกับอัญชันอยู่นานสองนานอย่างไม่รู้สึกเบื่อทางด้านไอ้ต้นกล้าและไอ้สนที่เดินดั้นด้นจากลานฝึกมาจนถึงเรือนของพ่อคุ้ม มันแอบดูอยู่ตรงชายบันไดเรือน ก็ถึงก