"ข้าไม่ใช่หลางหงเช่อ และข้าไม่ยอมให้เจ้าไปไหน" ไม่ใช่แค่หงเช่อ แต่ต่อให้เป็นยมบาลก็พรากนางไปจากเขาไม่ได้!"เสวี่ยเอ๋อร์ ทำใจดีๆ ไว้ เจ้าอย่าแกล้งให้เหอหลางตกใจอีกเลย" เขากอดนางไว้แน่นก่อนเรียกจื่อหนี่ที่รออยู่ข้างนอก "จื่อหนี่ เข้ามานี่เร็ว เสวี่ยเอ๋อร์นางหมดสติไปแล้ว!"จื่อหนี่รีบวิ่งเข้ามา แตะปลายนิ้วตรงข้อมือด้านในเพื่อตรวจชีพจร "นางเพียงอ่อนเพลียมากไป การคลอดลูกแฝดเป็นงานหนักสำหรับสตรี ท่านอย่ากังวลไปเลย ให้นางพักผ่อนให้เต็มที่เถอะเจ้าค่ะ""เรียกพี่หญิงซื่อมา บอกว่าข้าต้องการยาบำรุงที่ดีที่สุด" ไป๋จิ้งเหอโอบกอดภรรยารักแนบอก "ต่อให้ต้องปล้นสะดมบรรณาการจากซยงหนูหรือซีเซี่ยก็ต้องเอามาให้ข้าให้ได้!""เจ้าค่ะ" จื่อหนี่ไม่กล้าขัดเพราะรู้ว่าเขาทำเพราะรักหมิงเสวี่ยจริงๆ "เช่นนั้นข้าจะต้มยาบำรุงให้นางกินก่อน อย่างน้อยพอให้มีกำลังวังชาขึ้นบ้างก็ยังดี" จื่อหนี่เอ่ย ก่อนรีบไปที่ห้องของตนเองไป๋จิ้งเหอรอจนสาวใช้ทำความสะอาดร่างกายของหมิงเสวี่ยเสร็จจึงอุ้มร่างบางนั้นกลับไปยังห้องนอน ร่างกายนางสั่นเทายิ่งจนไป๋จิ้งเหอต้องกอดนางเอาไว้แนบอก ไม่กล้าปล่อยแม้เพียงชั่วเสี้ยวเวลา"เหอ...เหอหลาง" ร่างเล็ก
"ผู้ชายเจ้าค่ะ" จื่อหนี่ตอบผ่านๆ เพราะนางกำลังคว่ำตัวทารกน้อย มือบางตบหลังร่างจ้อยเพื่อกระตุ้นให้ทารกน้อยหายใจเสียงเจ้าตัวเล็กร้องเสียงดังลั่น ยังความปีติยินดีให้กับทุกคนในห้องนั้น แม้แต่ไป๋จิ้งเหอที่ได้แต่ยืนนิ่งมองดูอยู่ข้างๆ"เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ? ฮูหยิน" จื่อหนี่เช็ดหน้าที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อของสาวน้อย ก่อนมองหน้าท้องที่ยังนูนกลมอยู่ "ยังมีอีกคนนะ ไหวไหม?""..." หมิงเสวี่ยรู้สึกใจหายน้อยๆ ...เป็นแฝดจริงๆ ด้วย "ไหว ข้าไหว"มือน้อยจับลงที่ท้อง รู้สึกได้ถึงแขนขาที่เปะป่ายมาโดนมือนาง ไม่ไหวก็ต้องไหว ...พี่ชายเจ้าออกมาแล้ว เจ้ารออีกนิดก็แล้วกันนะไป๋จิ้งเหอเดินมานั่งลงเคียงข้างอย่างเงียบๆ หมิงเสวี่ยหายใจแรง ทำท่าจะหันไปด่า แต่พอมองหน้าขาวซีดของเขาก็ด่าไม่ลง "เข้ามาทำไม รออยู่ข้างนอกก็ดีแล้ว" นางว่าพลางถอนใจและเอนศีรษะพิงไหล่เขา"ข้าเป็นห่วงเจ้า" เขาเกลี่ยปอยผมที่เปียกเหงื่อนั้น "ข้าอยากเห็นเจ้าปลอดภัยด้วยตาของข้าเอง""ท่านอยากเห็นทายาทของท่านเท่านั้นล่ะ" หมิงเสวี่ยหลับตาอย่างอ่อนแรง...ขอพักสักนิดเถอะ นางจะไม่ไหวอยู่แล้วไป๋จิ้งเหอจนใจจะตอบโต้ ตอนนี้ไม่ว่าเขาจะพูดสิ่งใด มันก็ไม่มีค่าอะไร
ตอนนี้ไป๋จิ้งเหอมีคำถามมากมายอยากจะถาม แต่อาการยังไม่สู้ดีนักจึงได้แต่เก็บไว้ก่อน เขาลุกขึ้นและนั่งร่วมโต๊ะกับผู้เฒ่าซาน "เจ้าบาดเจ็บเพียงนี้ ถึงมิได้กลับมาอยู่ดูแลฮูหยินน้อยของเจ้าสินะ""...ขอรับ""แล้วเจ้าบอกให้นางรู้หรือไม่?""ข้าไม่อยากให้นางกังวลก็เลย..."ผู้เฒ่าซานพยักหน้า "เอาเถอะ เช่นนี้ข้าก็จะไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องระหว่างพวกเจ้า คนผูกควรเป็นผู้แก้เอง"ไป๋จิ้งเหอประสานมือ "ขอบพระคุณอาจารย์อาที่เข้าใจขอรับ""อาจารย์อา..." เฉี่ยวเหมยพูดขึ้น "...เหตุใดท่านจึงมาอยู่ที่นี่ล่ะขอรับ""ข้าจะเดินทางกลับสำนัก ระหว่างทางได้ประมือกับศัตรูจนได้รับบาดเจ็บ ยังดีที่ได้ฮูหยินน้อยกับแม่นางจิงช่วยเหลือเอาไว้""อ้อ ที่แท้เรื่องราวเป็นเช่นนี้" ไป๋จิ้งเหอถอนใจ "จริงสิ ตอนที่ข้ามาถึง ศิษย์น้องพูดถึงเรื่องมีคนมาทำร้ายฮูหยินของศิษย์ เรื่องราวเป็นเช่นไรหรือขอรับ?""ฟังจากที่ตงเทียนเล่า คนผู้นั้นเป็นคนรู้จักของฮูหยินน้อย แต่เขามาข่มขู่เอาเงินจากนาง พอไม่สำเร็จก็พยายามทำร้าย ข้าให้ตงเทียนตามไปจึงช่วยเหลือได้ทัน"คำพูดนั้นเสียดแทงหัวใจของไป๋จิ้งเหอยิ่ง ในขณะที่นางตั้งครรภ์ลูกของเขาอย่างยากลำบากและเผชิญกับอัน
หัวใจของไป๋จิ้งเหอเต้นแรงจนรู้สึกเจ็บ โดยนึกว่าอีกไม่กี่ชั่วยามเขาก็จะได้เป็นพ่อคนแล้ว "ข้าจะอยู่ข้างๆ เจ้า" เขาบอก มือยังไม่ปล่อยจากครรภ์ของนาง"..." นางกัดปาก น้ำตาซึม ไม่รู้จะดีใจที่เขามา หรือจะเสียใจที่เขามาเอาป่านนี้ดี"ข้านวดให้นะ" เขายื่นมือไปรับผ้าอุ่นมาช่วยประคบเหมือนคราแรก"อื้อ..." นางพยักหน้ารัวๆ ...ตอนนี้แค่เขามาให้เห็นหน้า นางก็ดีใจที่สุดแล้ว เรื่องอื่น...ค่อยว่ากันเถอะ"อดทนหน่อยนะ" เขาพยายามจะพูดให้กำลังใจนาง มือนางอ้อมมาด้านหลังเพื่อจับและบีบมือเขาเบาๆ ว่านางเข้าใจแล้ว"เหอหลาง...ข้าปวดจังเลย" นางว่าเสียงเครือ มือที่จับมือเขาเริ่มบีบแน่นขึ้นทุกที"ข้ารู้..." เขากระซิบ เห็นนางเจ็บเพียงนี้ เขาก็เจ็บไม่แพ้กันหมิงเสวี่ยรู้สึกร้าวไปทั้งหลังและท้อง นางไม่อยากท้องอีกแล้ว!นางอายุยังน้อยนัก กลับต้องมาตั้งครรภ์ซ้ำลูกในท้องยังเป็นเด็กแฝด...ขนาดคนเดียวยังเจ็บแทบแย่ แต่นี่มีถึงสองคน ไป๋จิ้งเหอขอสาบาน เขาจะไม่ให้นางตั้งครรภ์อีก"นายท่าน ฮูหยินเป็นเช่นใดบ้างเจ้าคะ?" จื่อหนี่เดินเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง"นางต้องเจ็บขนาดนี้เชียวหรือ?" เขาถามอย่างกังวล "นางบอกว่าปวดมาก มีวิธีบรรเทาป
ซีหนิง หกวันต่อมา ไป๋จิ้งเหอลงจากรถม้าโดยมีเฉี่ยวเหมยคอยประคอง หากเป็นเมื่อก่อนเขาคงกระโดดลงมาเองได้ แต่ตอนนี้ร่างกายเขายังไม่ฟื้นตัวดี จำใจต้องเหยียบเก้าอี้ที่อี้ปิงเอามาวางไว้ให้ลงมา เขามองไปยังบานประตูที่มีเด็กชายไม่คุ้นหน้ายืนอยู่ สองฝ่ายยืนประจันหน้ากันอย่างไม่คิดจะหลบ"เจ้าเป็นใคร?""ข้าต้องถามท่านต่างหากว่าท่านเป็นใคร?" ตงเทียนเอ่ยถาม เรื่องที่มีคนบุกเข้ามาทำร้ายหมิงเสวี่ยเมื่อหลายเดือนก่อนทำเอาเขาไม่ไว้ใจใครง่ายๆไม้กวาดในมือกำแน่น พร้อมจะไล่ตีผู้บุกรุกได้ทุกเมื่อเฉี่ยวเหมยกำลังจะก้าวออกไปเป็นฝ่ายเผชิญหน้าแทน แต่ไป๋จิ้งเหอยกมือห้าม "ข้าคือเจ้าของบ้านนี้""เป็นท่านรึ?" แววตาเด็กชายมีทั้งตื่นตกใจและชิงชัง "ท่านทิ้งฮูหยินน้อยให้อุ้มท้องลูกของท่านอย่างยากลำบากเช่นนี้ไม่มีความละอายใจหน่อยหรือ!?" อีกฝ่ายกระแทกไม้กวาดข่มขู่...ช่างน่าเกรงขามนัก"เจ้าหนูปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม!" เฉี่ยวเหมยตวาดเพ้ย"เฉี่ยวเหมย" เจ้านายเอ่ยปรามก่อนที่เฉี่ยวเหมยจะพูดต่อ"นายท่าน!"ไป๋จิ้งเหอก้าวไปหาตงเทียน "ข้ามีความจำเป็นของข้า และนั่นไม่เกี่ยวกับเจ้า หลีกทางด้วย"แต่ตงเทียนกลับยืนนิ่ง "ข้าจะไปหาฮูหยินของข
นางเรียกชื่อเขาหรือ? ทำไมล่ะ? ตงเทียนขมวดคิ้วน้อยๆอย่างฉงน เด็กน้อยเช่นเขายังมีเรื่องไม่เข้าใจอยู่หลายอย่าง นี่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้เขารู้สึกสับสน"...น้องชาย...ที่น่ารัก"เขาได้ยินก็ยิ้มออกมา "หลับให้สบายเถอะ หมิงเจี่ยเจีย น้องชายคนนี้จะอยู่ข้างๆ ท่านเอง"เมื่อขบวนของตระกูลไป๋ออกนอกตัวเมืองไปไม่นานนัก ก็มีเหตุให้ต้องหยุดพัก เมื่ออาการของไป๋จิ้งเหอกำเริบอีกครั้ง"นายท่าน!" เฉี่ยวเหมยตาลีตาเหลือกพุ่งตัวเองเข้าไปควานหากล่องยา พอหายาพบ ก็ต้องแทบเป็นลม เมื่อพบว่าเจ้านายของเขาหมดสติไปแล้ว"เฉี่ยวเหมย! นายท่านเป็นอย่างไร?!" อี้ปิงโผล่ศีรษะตามเข้ามา"แย่แล้ว นายท่านหมดสติไปแล้ว!" เฉี่ยวเหมยเอามืออังจมูกอีกฝ่าย "ฉิบล่ะ! ท่านไม่หายใจ!""กระตุ้นหัวใจเร็ว!" อี้ปิงร้องบอกเมื่อเห็นเฉี่ยวเหมยทำท่าจะเสียสติเฉี่ยวเหมยหันรีหันขวางโยนยาไปข้างๆ รีบจับร่างเจ้านายนอนราบและเริ่มเอามือสองข้างประสานกันวางไว้ที่หน้าอกของไป๋จิ้งเหอและเริ่มกดลึกลงไป"นายท่าน ท่านต้องตื่นมาเห็นหน้าเสวี่ยเอ๋อร์กับลูกก่อนนะขอรับ อย่าเพิ่งทิ้งพวกนางไป" เขาโถมร่างลงกดลึกกระตุ้นหัวใจครั้งแล้วครั้งเล่า"เป่าปากด้วยสิ!" อี้ปิงบ