“ฉันอยากให้เธอช่วยปลอมเป็นว่าที่คู่หมั้นให้ฉันหน่อย” เวหาพูดขึ้นในขณะที่พาร่างบางเดินเข้าไปหาพิงค์กี้ที่กำลังยืนกำหมัดแน่นอยู่ยังบริเวณที่เดิมและในขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยถึงเรื่องสำคัญกันอยู่นั้น เพลงที่ใช้สำหรับโปรโมทร้านค้าก็ดังขึ้น จึงทำให้เชอรีนไม่ได้ยินคำพูดของเวหาเลยสักนิด
“นายพูดว่าไงนะ!” เชอรีนเอียงคอถามชายหนุ่มอีกครั้งเพราะเธอไม่ได้ยินในสิ่งที่เขาพูดในก่อนหน้านั้นอีกทั้งในตอนนี้เสียงเพลงก็เปิดดังเป็นอย่างมาก เวหาที่ไม่มีเวลาได้อธิบายบอกเธออีกก็สาวเท้าพาเชอรีนมาหยุดยืนต่อหน้ารุ่นน้องสาว
“นี่ไงว่าที่คู่หมั้นของพี่!” เวหาเริ่มแนะนำหญิงสาวข้างกายให้พิงค์กี้ได้รู้จักโดยการบอกออกไปว่าเธอคนนี้นี่แหละคือว่าที่คู่หมั้นของเขา ชายหนุ่มตัวร้ายพูดพร้อมกับมองใบหน้าสวยหวานของเธอข้างกายด้วยแววตาหวานซึ้งความรู้สึกแปลกๆเริ่มแทรกซึมเข้ามาอย่างบอกไม่ถูก
เขายังคงรู้สึกใจเต้นแรงทุกครั้งที่ได้มองสบตาเธอคนนี้~
“ห๊ะ ดะ เดี๋ยวนะ! ว่าที่คู่หมั้นอะไรของนาย” ร่างบางเบิกตากว้างด้วยความตกใจที่อยู่ดีๆเธอก็กลายเป็นว่าที่คู่หมั้นของใครก็ไม่รู้ นี่มันชักจะงงไปหมดแล้วนะหรือว่าผู้ชายคนนี้อาจจะจำเธอผิด เชอรีนไม่รอช้าที่จะรีบแก้ไขในสิ่งที่ผู้ชายคนนี้พูด
แต่ก็ยังไม่ทันที่เธอจะได้พูดอะไรขึ้นมาเด็กสาวข้างกายชายหนุ่มก็พูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน
“นั่นไงคะ ยัยนี่ไม่เห็นจะรู้เรื่องอะไรเลยพี่เวหาอย่ามาหลอกพิ้งค์กี้จะดีกว่า” พิ้งค์กี้แสยะยิ้มมุมปากพลางชี้ไปที่เชอรีน หญิงสาวที่โดนนำตัวเข้ามาเป็นว่าที่คู่หมั้นสาว(ปลอมๆ)แต่แล้วสายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นเข้ากับเสื้อนักเรียนของเชอรีนที่ปักชื่อโรงเรียนรวมไปถึงตราดาวโรงเรียนที่เหมือนกันกับพี่เวหาไม่มีผิด
“นี่เธอเป็นคู่หมั้นของพี่เวหาเขาจริงๆเหรอ..” พิงค์กี้กลืนน้ำลายลงคอเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือซึ่งฉันที่เป็นผู้โดนถามทำได้แค่กระพริบตาถี่ๆอย่างไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดี
“เชอรีน~ เธอคงยังไม่รู้ว่าพ่อแม่ของพวกเราได้หมั้นหมายพวกเราเอาไว้ตั้งแต่ตอนที่พวกเรายังเป็นเด็กตัวเล็กๆแล้ว” เวหายกนิ้วขึ้นเกลี่ยเส้นผมที่ตกปกคลุมใบหน้าสวยพร้อมทั้งเรียกชื่อเธอเพื่อบ่งบอกว่าเขานั้นรู้จักเธอจริงๆซึ่งรอยยิ้มละมุนของชายหนุ่มสร้างความปวดร้าวให้กับพิงค์กี้เป็นอย่างมาก
พิงค์กี้เม้มปากแน่นครุ่นคิดในใจว่าทำไมผู้หญิงที่ได้เป็นว่าที่คู่หมั้นของพี่เวหาถึงไม่เป็นเธอกันนะ
เวหายิ้มกว้างมองดูใบหน้าสวยหวานที่กำลังอ้าปากค้างด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูกใจมันเต้นแรงรวมไปถึงเขินเธอยังไงก็ไม่รู้ไม่รอช้ามือหนาเอื้อมจับคางเรียวให้หันหน้ามองเขาและทันทีที่ได้สติกลับคืนมาเชอรีนก็รีบเอ่ยถามเขาอีกครั้ง
“นี่นายรู้จักเราจริงด้วย!!” เชอรีนกระพริบตารัวๆเอ่ยถามผู้ชายตรงหน้าซึ่งเขาก็ยิ้มพร้อมกับขยับใบหน้าเขามาใกล้จนเธอนั่นแหละที่ต้องเป็นดันแผ่นอกกว้างให้ห่างออก ร่างบางยังคงไม่อยากจะเชื่อว่าสิ่งที่เขาพูดจะเป็นความจริง
“ฉันไปก่อนนะหวังว่าเธอคงจะไม่ติดต่อฉันมาอีกทั้งๆที่รู้ว่าฉันมีคู่หมั้นคู่หมายอยู่แล้ว” เวหาโอบกอดรอบเอวเชอรีนแล้วค่อยๆโน้มใบหน้าเข้าหอมแก้มขาวเนียนอมชมพูของเธอตรงหน้าทำเอาร่างบางที่พึ่งจะเคยโดนผู้ชายใกล้ชิดและหอมแก้มเป็นครั้งแรกถึงกับยืนตัวแข็งทื่ออยู่อย่างนั้น
ดวงตากลมโตหันมองใบหน้าหล่อเหลาของชายแปลกหน้าที่ได้ขโมยหอมแก้มเธอ มือเล็กไม่รอช้าที่จะหยิกไปข้างเอวของเวหาส่งผลให้ร่างแกร่งส่งเสียงร้องโอดครวญขึ้นมาทันควัน
“โอ๊ย!! นี่เธอจะหยิกฉันทำไม” เขารีบส่งสายตาดุจ้องมองเธอที่หมายหยิกเขา
“แล้วนายมาหอมแก้มเราทำไม ไอ้คนฉวยโอกาส!” แววตาสวยจ้องเขม็งจ้องตาเขากลับอย่างคนที่พร้อมจะเอาเรื่องผู้ชายคนนี้นิสัยไม่ดีพึ่งจะเคยเจอกันครั้งแรกแท้ๆแต่ทำไมถึงกล้าหอมแก้มเธอแบบนี้
ไอ้คนเจ้าชู้ ทุเรศจริงๆ..
“เขาเรียกว่าจะได้ดูสมจริง ยัยนั่นจะได้เลิกตอแยฉันสักที” เวหาหัวเราะออกมาให้กับความน่ารักน่าเอ็นดูของหญิงสาวตรงหน้าเขามองไปยังใบหน้าสวยที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงอย่าบอกนะว่าเธอไม่เคยใกล้ชิดและโดนหอมแก้มแบบนี้มาก่อน
งั้นแบบนี้เขาก็เป็นคนแรกของเธออะดิ!!
“ไม่เคยโดนหอมแก้มหรือไง” เสียงทุ้มเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงหยอกเย้าพลางรอดูคำตอบว่าเธอจะบอกกับเขาว่าอย่างไรซึ่งคนที่ได้ยินก็รีบพูดขึ้นด้วยความลืมตัวและพอนึกได้ว่าตัวเองต้องหยุดก็รีบเม้มปากห้ามตัวเอง
“ก็ไม่เคย อะ ยุ่ง! นายอย่ามาชวนเราคุยเรื่องแบบนั้นอีกนะ” ในตอนนี้แววตาของเชอรีนเปล่งประกายไปด้วยความหงุดหงิดและเคอะเขิน เขินที่ตัวเองหลุดปากบอกความจริงออกไปว่าตัวเธอนั้นยังไม่เคยโดนผู้ชายคนไหนหอมแก้มมาก่อน
“หึ”
เชอรีนที่ได้ยินเขาหัวเราะอย่างชอบใจก็รีบชวนเปลี่ยนเรื่องคุยทันทีขืนมัวแต่พูดเรื่องเก่ามีหวังเธอได้โดนเขาล้ออีกแน่เลย มือเล็กยกขึ้นกอดยกถามเรื่องที่ยังคงค้างในใจทำไมเขาถึงรู้ชื่อเธอสายตาคมเลื่อนมองไปยังป้ายตัวอักษรที่ปักอยู่บนหน้าอกเสื้อนักเรียนของเขา
“หัวเราะอะไร สรุปก็คือนายอยากเลิกกับผู้หญิงคนนั้นเลยดึงเราที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยเข้ามาช่วยสินะหรือว่ายังไงอะแล้วทำไมนายถึงรู้ชื่อของเรา เอ๊ะ! หรือว่า..”
“ถามไม่หยุดเลยนะ” เวหาที่พยายามเก็บกลั้นรอยยิ้มของตัวเองอยู่ก็พูดขึ้น ความน่ารักของเธอทำเขาอยากแกล้ง
“พวกเราเป็นว่าที่คู่หมั้นกัน!!”
“ห๊ะ! ตกลงพวกเราเป็นคู่หมั้นกันจริงๆเหรอ” สิ้นประโยคคำพูดนั้นร่างบางที่ตั้งใจฟังอยู่ก็ทำตาโตลุกวาวอีกครั้งสรุปแล้วเธอกับเขาเป็นคู่หมั้นกันจริงๆใช่มั้ย
“ฉันก็แค่โกหกเด็กนั่นเฉยๆ ทำไม..หรือเธออยากเป็นเหรอ” เวหาส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนที่จะขยับใบหน้าเข้าใกล้ใบหน้าเรียวสวยไร้เครื่องสำอาง
“จะบ้าเหรอใครเขาอยากเป็นคู่หมั้นของนาย!” ใบหน้าเรียวเล็กร้อนผ่าวราวกับมีไฟมาสุมทรวงจนเธอต้องรีบแผดเสียงตะโกนออกมาด้วยความเคอะเขินริมฝีปากเล็กเม้มเข้าหากันแน่นพร้อมกับดวงตาคู่สวยที่หันมองไปทางอื่น
“เขินเหรอ?” คำถามของเขาทำคนตัวเล็กหันหมับกลับมามองด้วยใบหน้าเลิ่กลั่กแล้วรีบส่ายหน้าปฏิเสธ
“บ้า! เราจะไปเขินนายทำไมแล้วนี่นายรู้จักชื่อเราได้ยังไงแล้วนี่นายอยู่ชั้นเดียวกันกับเราด้วยนี่ อยู่ห้องไหนเหรอ” เชอรีนถามในสิ่งที่ตัวเธอเองสงสัยเธอ
เวหาที่มองการกระทำของเธอมาโดยตลอดก็เลือกที่จะยิ้มเพียงเล็กน้อยก่อนที่จะจับข้อมือเล็กให้รีบเดินต่อไปยังลานจอดรถของทางห้างสรรพสินค้าชื่อดังและในตอนนี้เวหาก็จูงมือเชอรีนมาถึงยังลานจอดรถเป็นที่เรียบร้อย
2 ปีผ่านไปเฮ้อ~เสียงถอนหายใจดังขึ้น“ขีดเดียวอีกแล้วขอโทษนะ” เชอรีนเดินถือที่ตรวจครรภ์ออกมาจากห้องน้ำ ใบหน้าของเธอห่อเหี่ยวดูไม่สดชื่นไม่มีชีวิตชีวาเอาเสียเลย เธอยื่นที่ตรวจนั้นให้สามีหนุ่มได้มองเห็นอย่างใกล้ๆ เวหาที่เห็นก็ยิ้มขึ้นเพื่อปลอบใจภรรยาสาว ไม่มาตอนนี้ก็ใช่ว่าต่อไปจะไม่มานี่เนอะ พวกเราก็ทำได้เพียงแค่รอต่อไปก็เท่านั้น“ไม่เป็นไร ไว้พวกเราค่อยๆทำกันไปเรื่อยๆ เดี๋ยวลูกก็มาเอง”“แต่นี่มันจะครบ 2ปีที่เราแต่งงานกันแล้วนะเว!” เธอมองเขาด้วยสายตาตัดพ้อเพราะตั้งแต่ที่แต่งงานกันมาทั้งเธอและเขาก็พยายามกันมาโดยตลอด เวหาที่เห็นแบบนั้นก็รีบโอบกอดภรรยาสุดที่รัก เขาไม่อยากให้เธอต้องมานั่งเครียดด้วยเรื่องนี้เลย ค่อยๆเป็นค่อยๆไปก็ได้ พวกเราก็ยังอายุไม่ได้เยอะอะไรยังไม่ถึงสามสิบกันด้วยซ้ำ“ใจเย็นๆเดี๋ยวก็มาเองนั่นแหละ ยังไงก็ต้องมา เราก็ไปตรวจกันแล้วนี่ต่างคนก็ต่างไม่ได้มีใครที่เป็นหมัน”“เราคงมีลูกยาก ปล่อยมา2ปีแล้วก็ยังไม่มาเลย” เชอรีนพยักหน้า พวกเราไปตรวจมาแล้วก็จริงแต่ทำไมลูกถึงยังไม่มาสักทีหรือเธออาจมีลูกยากใช่มั้ย มีอะไรที่ผิดพลาดหรือเปล่า ความเศร้าทำให้เธอเครียดสามีอย่างเวหาจึงผละร่างก
1 อาทิตย์ต่อมาณ งานแต่งงานของนายพชรดนัย & นางสาวชนัญชิดา“ยินดีกับพวกแกด้วยนะ นี่เวหาดูแลเพื่อนฉันให้ดีๆด้วย” เพียวเดินเข้าไปจับมือเล็กของเชอรีนที่กำลังยืนยิ้มอยู่ข้างกายเวหาโดยที่มาร์ชก็ยิ้มอย่างเห็นด้วย เขายินดีกับทั้งเวหาและเชอรีนเป็นอย่างมาก เชอรีนที่ได้ยินเพื่อนรักร่วมแสดงความยินดีก็รีบตอบกลับไปตามประสาเพื่อนสนิทที่ชอบหยอกเย้ากัน“แล้วเมื่อไหร่มาร์ชจะขอเพียวแต่งงานสักที เรารอไปงานอยู่นะ” เพียวทำเพียงแค่ยิ้มเจื่อนเพราะก็ไม่รู้เหมือนกันว่าแฟนหนุ่มจะขอเธอแต่งงานเมื่อไหร่ มาร์ชมองไปยังแฟนสาวที่กำลังยิ้มแห้งมองดูก็รู้ได้ทันทีว่าเธอคิดอะไรอยู่ ไม่รีรอให้เธอได้คิดอะไรไปเรื่อยมือหนารีบเอื้อมไปกอบกุมมือเล็กของเธอเอาไว้ทันที“เร็วๆนี้แหละ”“จริงเหรอ” เพียวเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อนั้นด้วยใจที่เต้นแรงพร้อมกับยิ้มกว้างขึ้นด้วยความดีใจ จากหัวใจที่ห่อเหี่ยวกลับมากระชุ่มกระชวยมีชีวิตชีวาอีกครั้ง พวกเขาสบสายตาส่งยิ้มให้แก่กันทำเอาวิเวียนที่ยืนอยู่กับออสตินเบ้หน้าด้วยความหมั่นไส้เบาๆแต่ก็แอบอมยิ้มอย่างมีความสุขที่เพื่อนทั้งสองรักกันอย่างหวานซึ้ง“ชิ สองคนนี้นี่ไปหวานกันไกลๆเลย วันนี้เชอรีนของพวกเ
-ห้องนอนเวหา เชอรีน-“แล้ววันงานคือวันไหนเหรอ” ทันทีที่เดินเข้ามาในห้องแล้ว เชอรีนรีบถามไปยังแฟนหนุ่มทันทีเพราะเธอไม่รู้เลยว่าเขาได้จัดเตรียมงานไปถึงขั้นไหนแล้ว เวหารีบเดินเข้ามาโอบกอดเชอรีนจากทางด้านหลัง“อาทิตย์หน้า” ทันทีที่ได้ยินว่าอาทิตย์หน้าใบหน้าสวยก็อ้าปากค้างเพราะมันเหลือเวลาอีกเพียงแค่ไม่กี่วันเท่านั้นแล้วแบบนี้เธอกับครอบครัวจะเตรียมตัวกันทันหรือ“แล้วจะทันเหรอ”“ทันแน่นอน งานถูกจัดเตรียมไปเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว จะเหลือก็แค่กลับไปลองชุดแต่งงานถ่ายรูปพรีเวดดิ้งแล้วก็แจกการ์ดเท่านั้น งั้นเวโพสต์ลงโซเชียลไว้ก่อนเลยแล้วกัน ญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงของพวกเราจะได้เตรียมหาซื้อเสื้อผ้าไว้ได้ทัน”“อืม ขอบคุณมากนะที่ทำเพื่อเราขนาดนี้” เชอรีนพยักหน้าอย่างคนที่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ในตอนนี้เธอรู้สึกอยากขอบคุณผู้ชายคนนี้มากถึงมากที่สุดที่ยังคงรักและรอคอยเธอเสมอมาแม้ว่าเธอนั้นจะทำตัวไม่น่ารักเอาซะเลย“ก็เมียทั้งคน เชอ..” เวหายิ้มด้วยความเต็มใจอีกทั้งก็จงใจเรียกชื่อแฟนสาวเมื่อนึกขึ้นได้ว่า...“อะไรเหรอ”“ใส่ชุดนั้นให้ดูหน่อยได้มั้ย” เขาชี้มือไปยังกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ของคนทั้งคู่ เชอรีนที่ย
“รู้นะว่าคิดอะไรอยู่” คนที่โดนกระทำย่นคอหลบหนีสัมผัสที่กำลังได้รับอย่างเขินอายพร้อมทั้งกล่าวดักคอแฟนหนุ่มด้วยคำพูดที่รู้ทัน เวหาหัวเราะในลำคอกระซิบตอบกลับพร้อมพรมจูบไปตามลำคออย่างตั้งใจ“รู้ว่าอะไร รู้จริงหรือเปล่า” มือหนาเคลื่อนไปกอบกุมหน้าอกอวบอิ่มคัพดีตรงหน้า บีบขยำพร้อมกันสองข้างอย่างถ้วนทั่ว เชอรีนที่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางอยู่จึงดึงมือซุกซนของเขาให้ออกห่างจากหน้าอกของตัวเองแล้วหันหลังจ้องมองเขาด้วยสายตาอ้อนๆ“ไว้คืนนี้แล้วกัน ตอนนี้เราเหนื่อยอยากนอนพักมากเลย เวไม่เหนื่อยหรือไงขับรถมาตั้งนาน แล้วเรื่องแบบนั้นก็ต้องใช้แรงนะ” เธอพูดโน้มน้าวจิตใจแฟนหนุ่มจนเขาพยักหน้าคล้อยตามพร้อมกับสวนหัวเราะออกมาอย่างชอบใจที่แฟนสาวของเขาเป็นฝ่ายที่นัดเย็xในคืนนี้“หึ~ พูดแล้วนะ”เชอรีนจูงมือเวหาไปยังเตียงนอนที่มีขนาดใหญ่ คนทั้งคู่ขึ้นไปนั่งบนนั้นพร้อมกับค่อยๆล้มตัวลงนอน ผ้าห่มผืนใหญ่ถูกหยิบขึ้นมาใช้ปกคลุมร่างกาย อุณหภูมิของแอร์ในห้องกำลังพอดีไม่หนาวหรือไม่ร้อนจนเกินไปทั้งสองนอนกอดก่ายซึ่งกันและกันแล้วเพียงไม่นานพวกเขาก็หลับใหลไปในที่สุด...19.00น.ทันทีที่ตื่นขึ้นทั้งเวหาและเชอรีนต่างก็เปล
อึก!!เชอรีนกลืนของเหลวสีขุ่นลงสู่ลำคอพร้อมทั้งยกมือเช็ดคาบน้ำที่เปรอะเปื้อนออกจากมุมปากของตัวเอง เธอผละริมฝีปากออกจากความใหญ่โตตรงหน้า มือเล็กแตะลงบนหน้าขาของเขาอย่างตั้งใจ ในเมื่อเสร็จกิจเรียบร้อยแล้วก็สมควรแก่เวลาที่จะต้องรีบไปอาบน้ำกันได้แล้ว“ปล่อยได้แล้วจะรีบไปอาบน้ำ เดี๋ยวไม่ทันเวลา”เวหาที่ได้ยินแบบนั้นก็ปล่อยเธอให้เป็นอิสระ เชอรีนรีบลุกขึ้นนั่งหลังตรงเพียงแค่มองหน้าเขาภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ก็ผุดเข้ามาในหัว เธอส่ายหน้าไปมาแล้วรีบลุกขึ้นยืน“เราไปอาบน้ำก่อนนะ”“งั้นขอเวอาบด้วยคนนะจะได้เร็วขึ้นไง” เวหาลุกยืนตามแฟนสาวเขาอุ้มเธอในท่าเจ้าสาวโดยที่เธอนั้นทำได้แค่เพียงพยักหน้าเบาๆ เวหาเดินลงจากเตียงแล้วเดินดุ่มๆไปยังห้องน้ำทันที 30 นาทีต่อมาบนรถ“พวกเราจะไปกันที่ไหนเหรอ” ในขณะที่กำลังขับรถอยู่นั้นเสียงทุ้มก็เอ่ยถามไปยังแฟนสาวของตัวเองที่กำลังมองไปยังหน้าจอโทรศัพท์มือถือของเธออยู่ เชอรีนเงยหน้าหันมาให้ความสนใจไปกับคนข้างกาย เธอยิ้มอย่างสดใสยกชูหน้าจอมือถือให้เขาได้เห็นรูปภาพของบ้านพักพูลวิลล่าหลังใหญ่ที่พวกเรากำลังจะไป“เราลืมบอกเวไปเลย พวกเราจะไประยองกันนี่ไงรูปบ้าน หลังใหญ่ดีว่ามั้
-1 อาทิตย์หลังจากงานรับปริญญาเสร็จสิ้น-เสียงมือถือปลุกเตือนดังขึ้นร่างบางหยัดกายลุกขึ้นนั่งปลุกแฟนหนุ่มที่ยังคงนอนหลับใหลอย่างไม่มีสติ มือเล็กยกขึ้นสะกิดไปยังแผ่นหลังของเขาอย่างเบามือ “ตื่นได้แล้วเว วันนี้พวกเรามีนัดไปเที่ยวกับที่บ้านนะ ลืมไปแล้วเหรอ ทำไมยังไม่ตื่นอีกเนี่ย” เธอสะลึมสะลือส่งเสียงโวกเวกโวยวายออกมาเมื่อพยายามปลุกเท่าไหร่เขาก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมาซะที สงสัยอาจเป็นเพราะเมื่อคืนเขาดื่มเหล้าเข้าไปด้วยแน่เลยจึงทำให้เรียกยากแบบนี้คือแบบนี้นะคะทุกคน เมื่อคืนพวกเราไปดื่มฉลองเรียนจบที่ผับของสายฟ้ากันมาค่ะ ไปกันครบทุกคนเลยนะทั้งกลุ่มของเชอรีนและกลุ่มของเวหาเขา... “เมื่อคืนก็ดื่มไปนิดเดียวเองนี่แล้วทำไมถึงได้นอนตื่นยากแบบนี้” เธอบ่นไปตามประสาก่อนที่จะหยัดกายลุกขึ้นยืนเพื่อที่จะเข้าไปอาบน้ำแล้วค่อยกลับมาเรียกเขาอีกรอบ “เฮ้อ~ ช่างเหอะไปอาบน้ำดีกว่า อะ!” เชอรีนลุกขึ้นยืนซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกลับที่เวหาลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับดึงข้อมือของแฟนสาวให้ร่วงหล่นล้มไปทับร่างกายของเขาเข้าอย่างจังว๊าย!!เชอรีนร้องอุทานเสียงหลงเมื่ออยู่ดีๆร่างกายของเธอก็ถูกดึงล้มลงไปทับอยู่บนตัวของเขาแ