บทที่ 6 ลองให้โอกาส
ฝั่งด้านซืออี้เขาทั้งโมโหและรู้สึกไม่พอใจในสิ่งที่แม่ของเขาลำเอียงรักแต่น้องชาย
“โธ่เว้ย ทำไมต้องเป็นอย่างนี้ด้วยว่ะ นังจื่อเหยาทำไมถึงรอดมาได้แถมยังทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น คุณแม่ก็อีกคนเข้าข้างแต่ยั่วถงแล้วอย่างนี้จะเอายังไงต่อไปดี”
“พี่ซืออี้เอาแบบนี้มั้ยเดี๋ยวฉันจะเข้าหานังจื่อเหยาเองจะได้รู้ว่ามันแกล้งทำเป็นจำอะไรไม่ได้หรือว่ามันจำเรื่องทุกอย่างไม่ได้จริง ๆ หากมันจำได้ฉันจะจัดการส่งมันไปลงนรกอีกครั้ง หากไม่ทำแบบนั้นมันจะเปิดโปงเราทั้งสองคนนะแล้วแผนการที่เราจะหุบสมบัติทั้งหมดจะได้ล่มกันพอดี”
“จะทำอะไรก็ทำเถอะ ระวังด้วยแล้วกันเธอยิ่งท้องอยู่เฮ้อ แล้ววันนี้ฉันจะเอาเงินที่ไหนไปเล่นว่ะ หงุดหงิดเป็นบ้าให้ตายสิ” หลันเหย่รักสามีเธอมากและคิดว่าวันหนึ่งยังไงสมบัติทุกอย่างต้องตกเป็นของเธอ จึงเดินไปยกหีบเงินที่เธอเก็บเอาไว้ให้สามีของเธอเผื่อเขาจะอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง
“ฉันพอจะมาเงินเก็บอยู่บ้างพี่เอาไปหมุนก่อนเถอะนะอีกไม่กี่วันเงินกงสีจะออกแล้ว”
“ภรรยาของฉันดีที่หนึ่งเลย ขอบใจเธอมากนะฉันจะเอาเงินนี่ไปต่อทุนหากได้มาจะเอามาคืน ฉันไปก่อนนะอย่าลืมไปทำเรื่องที่เราพูดเมื่อครู่นี่ด้วย” เมื่อได้เงินซืออี้อารมณ์ดีขึ้นมาทันตาจูบลงที่หน้าผากของภรรยาก่อนจะรีบเดินออกไปข้างนอกเพื่อไปเล่นการพนัน
เพราะความขี้เกียจทำงานหวังรายทางลัดไม่ต้องทำงานแต่มีเงินใช้ซืออี้จึงนำเงินที่มีอยู่ไปเล่นการพนันและตอนนี้เขาติดมากจนคิดว่าเงินกงสีไม่เพียงพอที่เขาจะเอาไปเล่นเสียแล้ว จึงคิดหาหนทางที่จะเอาเงินจากบ้านตัวเองแต่ใครจะคิดวันที่เขาวางแผนกับภรรอยู่นั้น จื่อเหยาได้ปรากฏตัวขึ้นและได้ยินแผนการทั้งหมดเพื่อไม่ให้แผนที่ตนเองวางไว้ไปถึงหูผู้เป็นแม่และน้องชาย ซืออี้จึงข่มขู่แต่ทว่าจื่อเหยามิได้กลัวแม้แต่น้อย ทำให้เขาโมโหพลั้งมือผลักเธอจนตกคลองหลังบ้าน สองสามีภรรยามองหน้ากันด้วยความตกใจแต่เมื่อเห็นว่าร่างของจื่อเหยาไม่โผล่มาเธอคงจะจมน้ำตายไปแล้ว ทั้งสองรีบจชักชวนพากันกลับที่ห้องโดยเร็วก่อนที่สาวใช้ในบ้านจะมาพบเจอ และวางแผนไม่รู้เรื่องที่จื่อเหยาหายตัวพร้อมปิดปากเงียบเรื่องที่พวกเขาเป็นคนฆ่าเธอกับมือตัวเอง
หลันเหย่คิ้วขมวดเข้าหากันพลางครุ่นคิดเธอจะเข้าไปหาน้องสะใภ้อย่างไรไม่ให้เธอระแคะระคาย น้องสะใภ้ยิ่งมีนิสัยโหดเหี้ยมแถมยังเย็นชาเช่นนั้น เธอจึงคิดหาทางที่ดี มิเช่นนั้นอาจจะถูกเธอสงสัยเอาได้หากเธอจำเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดไม่ได้ล้วนเป็นการดีต่อเธอและสามี แต่ถ้าเธอแกล้งจำไม่ได้จะทำอย่างไรต่อไป ดังนั้นหลันเหย่ไม่อาจจะบุ่มบ่ามทำอะไรได้ เธอจะค่อย ๆ เข้าไปตีสนิทกับจื่อเหยาดู
ช่วงเย็นมาถึงหลันเหย่เดินลงมาจากห้องเห็นจื่อเหยายืนพูดคุยกับแม่สามี เธอเริ่มไม่พอใจใบหน้าบึ้งตึงแต่ไหนแต่ไรไม่เห็นเธอจะเคยโผล่มาที่ครัวสักครั้ง
'เฮอะ! อยู่ที่นี่ตั้งหลายปีไม่เห็นจะเคยมาที่ครัวสักครั้ง นี่เกิดอะไรขึ้นกันหรือว่าเธอจะจำอะไรไม่ได้จริง ๆ ดีเลยฉันจะได้ตีสนิทเธอเอาไว้ '
"คุณแม่น้องสะใภ้ทำอะไรกินกันหรือกลิ่นหอมฟุ้งไปจนถึงชั้นสอง"
"สะใภ้ใหญ่ลงมาก็ดีแล้ว นี่ก็ใกล้จะถึงเวลาอาหารเย็นจะได้กินกันพร้อมหน้าพร้อมตาแล้วซืออี้ล่ะสำนึกตัวเองหรือยัง"
"ตอนนี้พี่ซืออี้ไม่อยู่ค่ะออกไปข้างนอกแล้ว เห็นว่านัดกับเพื่อนเอาไว้ฉันรู้ว่าคุณแม่ไม่อยากให้พี่ซืออี้ทำธุรกิจ แต่ว่าเขามีความตั้งใจมากจริง ๆ นะคะ "
"เฮ้อ! นี่ฉันพูดอะไรไม่เคยจะฟังเลยสินะ เอาล่ะในเมื่อไม่อยู่ก็กินกันแต่เรานี่แหละ จริงสิจื่อเหยาแล้วยั่วถงกลับมาหรือยัง"
"ยังไม่เห็นน่าจะยังไม่มา เดี๋ยวฉันขอไปตามเจ้อหยูร์ลงมากินข้าวด้วยกันก่อนป่านนี้คงหิวแล้ว" จื่อเหยาเช็ดมือเมื่อจัดโต๊ะเสร็จเดินหันหลังไปที่ห้องของเจ้อหยูร์ หลันเหย่มองตามมองพูดออกมากับแม่สามี
“คุณแม่ว่าช่วงนี้น้องสะใภ้แปลกไปหรือเปล่าคะ แต่ก่อนแต่ไรเธอไม่เคยมาที่ครัวแลยแถมยังไม่เคยสนใจใยดีเจ้อหยูร์แม้แต่น้อย นี่อะไรกันไปตามเจ้อหยูร์มากินข้าวเพราะกลัวว่าหิว ทั้งที่เมื่อก่อนไม่ใส่ใจด้วยซ้ำ ”
“ว่าแปลกก็แปกลแต่เป็นแบบนี้ฉันก็ว่าดีเหมือนกัน เจ้อหยูร์ได้รับไออุ่นความรักของแม่บ้างใบหน้าของหลายชายฉันจะได้มีรอยยิ้มบ้าง เธอเองก็ไปล้างไม้ล้างมือมากินข้าวกันเถอะ ฉันซื้อยาบำรุงครรภ์มาให้ดื่มให้หมดด้วยล่ะ มันดีต่อลูกในท้องเข้าใจที่ฉันพูดมั้ย ส่วนซืออี้กลับมาเมื่อไหร่ฉันจะคุยกับเขาเองเรื่องธุรกิจที่เขาอยากทำ" แม่สามีเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ก่อนจะพยักหน้าให้สาวใช้ตักข้าวลงใส่จานให้ทุกคน ไม่นานนักหลี่ยั่วถงก็เดินเข้ามาจากด้านนอก
"วันนี้ทำอะไรหรือครับ กลิ่นโชยออกไปด้านบ้านเลยคงไม่ใช่ว่ากินข้าวเย็นกันไปแล้วหรอกนะครับ"
"ยั่วถงลูกมาพอดี เรายังไม่ได้กินข้าวเย็นกันเลยรีบมานั่งข้าง ๆ แม่นี่"
"ว่าแต่คนอื่นไปไหนกันหมดหรือครับ" ยั่วถงมองซ้ายมองขวาไม่เห็นใครนอกจากคุณแม่และสาวใช้
“หลันเหย่ไปล้างมือในครัวนะ ส่วนจื่อเหยาไปตามเจ้อหยูร์ที่ห้องน่าจะลงมากันแล้วล่ะ นั่นไงมานั่นแล้ว” เอ่ยไม่ทันจบจื่อเหยาเดินลงมาพร้อมกับเจ้อหยูร์ ยั่วถงเผลอยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าตอนนี้ภรรยาของเขาสนใจลูกชายมากกว่าแต่ก่อน
‘แม้จะรู้ว่าช่วงนี้ตั้งแต่ที่จื่อเหยาฟื้นขึ้นมาจากความตายเธอจะเปลี่ยนไปบ้าง แต่เป็นแบบนี้ก็ดีไม่น้อยเจ้อหยูร์คงมีความสุขที่แม่ของเขาสนใจ’ ยั่วถงคิดในใจนั่งลงที่เก้าอี้ตัวข้าง ๆ แม่ของเขา
หลังจากที่ทุกคนกินข้าวกันพร้อมหน้าพร้อมตา แม่สามีได้เอ่ยขึ้นมาเรื่องที่ได้ยินมาจากตลาดวันนี้
“จริงสิได้ยินว่าวันนี้ที่ตลาดจะมีงานเชิดสิงโตและมีการจัดงานมากมาย ฉันนะเข้าร่วมเป็นเจ้าภาพสนับสนุน ยั่วถงพาเจ้อหยูร์กับสะใภ้เล็กออกไปเปิดหูเปิดตาข้างนอกบ้าง ส่วนเธอตอนนี้ท้องอยู่ไม่ต้องออกไปข้างนอกนักเดี๋ยวจะไม่ดีต่อลูกในท้อง ยิ่งคนเยอะยิ่งอันตรายเอาไว้คลอดและหลานของฉันสักหน่อยค่อยออกงานสังคม” หลี่มู่หลานหรือแม่หลี่ได้เอ่ยขึ้นทำให้หลันเหย่ชะงักเล็กน้อยเมื่อครู่เมื่อได้ยินใบหน้าของเธอยิ้มระเรื่อนานมากแล้วที่ไม่ได้เที่ยวงานยิ่งใหญ่แบบนี้ แต่จู่ ๆ กลับถูกแม่สามีสั่งห้ามไม่ให้ออกไปแต่เป็นจื่อเหยาที่ได้ออกไปทำให้เธออิจฉาริษยามากกว่าเดิม
‘ทำไมต้องเอาอกเอาใจ คนนิสัยไม่ดีอย่างนังจื่อเหยาด้วย ไม่เคยเห็นเธอจะออกไปที่ไหนเลยสักครั้งที่ชักชวนคอยดูสิเดี๋ยวเธอต้อง
ตอบว่าไม่ไปแน่นอน’ หลันเหย่คิดในใจก่อนจะตอบแม่หลี่
“ก็ได้ค่ะคุณแม่ แต่อย่าลืมซื้อขนมอร่อย ๆ มาฝากฉันด้วยนะคะ”
“ได้ ว่าแต่ลูกล่ะยั่วถงจะพาเจ้อหยูร์ออกไปเที่ยวมั้ย ”
“ไปสิครับ วันนี้ช่วงเช้าผมได้พูดคุยและชักชวนทั้งสองคนเอาไว้แล้ว เจ้อหยูร์เตรียมตัวรอพ่อแล้วใช่มั้ย” เด็กชายคลี่ยิ้มเต็มดวงหน้า
“ใช่ครับคุณพ่อ วันนี้ผมนอนกลางวันเตรียมตัวไว้เป็นอย่างดี คืนนี้จะเที่ยวให้สนุกเลยครับ”
“ดี ๆ อย่างนั้นหลานต้องกินข้าวเยอะ ๆ ล่ะจะได้มีแรงเดิน แล้วเธอล่ะจื่อเหยาไปด้วยกันมั้ย?”
“รับปากเจ้อหยูร์ไว้แล้วก็คงต้องไป อย่างนั้นขอไปเตรียมตัวก่อนนะคะ” จื่อเหยาลุกขึ้นจากเก้าอี้เพราะเธอลืมไปเลยว่าเมื่อเช้านี้ยั่วถงชวนออกไปเที่ยว
“ฮึ สงสัยพายุฝนจะกระหน่ำลงมา ฉันอิ่มแล้วขอตัวก่อนนะคะคุณแม่” หลันเหย่ไม่พอใจเล็กน้อยลุกขึ้นพรวดออกจากโต๊ะอาหารกลับไปที่ห้องของตัวเอง ทำไมต้องกลายเป็นเธอที่ถูกทิ้งให้อยู่ในบ้านเพียงคนเดียวสามีก็ออกไปข้างนอก ไหนคืนนี้แม่สามีน้องชายและสะใภ้เล็กจะได้ออกไปเปิดหูเปิดตา ยิ่งทำเธอยิ่งไม่ชอบใจจนเจ็บใจแค้น
“ลูกว่าภรรยาของลูกดูเปลี่ยนไปหรือไม่? ” เมื่อทุกคนเดินออกไปหมดแล้วหลี่มู่หลานพูดขึ้นมากับยั่วถง
“บางครั้งเธอก็ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปทั้งแววตาและน้ำเสียงแต่บางครั้งเธอก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม สงสัยเป็นเพราะเธอฟื้นจากความตายมานะครับ แต่เป็นแบบนี้ผมว่าดีต่อเจ้อหยูร์นะครับคุณแม่ ว่าแต่พี่ซืออี้ไปไหนไม่เห็นมากินข้าวด้วยกันหรือว่าโมโหคุณแม่ตั้งแต่เมื่อเช้านี้”
“เฮ้อ ! แม่ละทุกข์ใจจริง ๆ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่พี่ชายของแกจะโตสักทีเอาแต่ใจตัวเอง ทำอะไรไม่เคยสำเร็จสักอย่างเดิมทีโรงงานของเราแม่ตั้งใจให้ซืออี้คอยดูแล แต่ตอนนี้ดูเหมือนทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่คิด แม่ไม่สามารถไว้ใจให้ซืออี้ดูแลโรงงานของเราได้เลย เห็นสะใภ้ใหญ่บอกว่าออกไปข้างนอกนัดเพื่อนเอาไว้เรื่องธุรกิจ นะ”
“คุณแม่ลองเชื่อใจพี่ซืออี้ดูอีกสักครั้งนะครับ ลองให้โอกาสพี่อีกรอบไม่แน่รอบนี้พี่อาจจะทำได้ดีเลยก็ได้ พี่คงตั้งใจสร้างเนื้อสร้างตัวเพื่อลูกที่กำลังลืมตานะครับ” ยั่วถงพูดคุยกับแม่พักใหญ่ก่อนจะขอตัวไปพักอีกคน หลี่มู่หลานครุ่นคิดพักใหญ่หรือเธอจะเย็นชาและคาดหวังในตัวลูกชายคนโตมากเกินไป เลยคิดว่าจะลองให้เงินกับซืออี้สักก้อนเพื่อให้เขาลองพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง
บทที่ 27 เข้าที่เข้าทาง3 เดือนต่อมาหลังจากวันนั้นซืออี้ถูกจับขังคุกตลอดชีวิต ข้อหาวางแผนพยายามฆ่า ส่วนมือปืนรับจ้างถูกจับคุก 10 ปี เพราะยังไม่ได้ลงมือทำร้ายและให้การเป็นประโยชน์แก่ตำรวจจึงถูกสั่งจำคุกเพียงแต่ 10 ปี โดยมียั่วถงไปเยี่ยมเพื่อแจ้งข่าวเรื่องครอบครัวเขาบ่อย ๆ ส่วนหลันเหย่ หลังจากที่เธอฟื้นเธอเสียสติเสียใจที่เสียลูกและเห็นภาพหลอนเฝ้าตามหลอกหลอนเธอไม่หยุด ทำให้ตอนนี้เธอกลายเป็นหญิงสติไม่ดี บางวันมีนิสัยดุร้ายบางวันก็ร้องไห้เสียใจ บางวันก็เกิดอาการหวาดกลัวกรี๊ดร้องทั้งวัน หลังจากที่ออกจากโรงพยาบาล ทางครอบครัวของเธอไม่รับเธอเป็นลูกเพราะความอับอายตัดขาดและทิ้งเธอเอาไว้จนมีหน่วยงานต้องเอาตัวเธอเข้าไปเป็นคนไข้ของโรงพยาบาลจิตเวช“เธอได้ยินข่าวคุณหลันเหย่มั้ย ? ฉันไปตลาดมาเมื่อเช้าได้ยินเขาคุยกันว่าสติไม่ดี คงเป็นเพราะทำเรื่องร้าย ๆ กับคนอื่นจนหวาดระแวงและคิดไปเองจนเห็นภาพหลอน”“นั่นคงเป็นผลกรรมของเธอนะสิ ที่คิดทำร้ายคุณหญิงใหญ่และทุกคนในครอบครัวไม่เว้นแม้กระทั่งคุณชายเจ้อหยูร์ที่ไม่รู้เรื่องอะไร ทำให้เธอเสียลูกในท้อง ฉันคิดแล้วก็สงสัยตั้งแต่ตอนที่เธอหลอนครั้งแรก คงเป็นเพราะทำความ
บทที่ 26 กรรมตามสนองบ้านตระกูลหลี่แฮ่ก แฮ่ก !!“อย่ามานะฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น”“สะใภ้ใหญ่เธอมันชั่วร้ายจริง ๆ ฉันจะพาเธอมาอยู่ด้วยไปอยู่ด้วยกันเถอะนะ ฉันจะไม่ยอมให้เธอได้ใช้ชีวิตสุขสบายกับสมบัติของฉันหรอกอย่าหวังไปเลย” แม่หลี่เดินเข้ามาสภาพที่คอหักเลือดอาบหน้าเดินใกล้เข้ามาหาหลันเหย่ที่นอนอยู่“ไม่!! ฉันไม่ไป ฉันไม่ได้ทำ” เธอเริ่มใช้มือปัดไล่ไม่ให้ทุกคนเข้ามาใกล้ก่อนที่จะมีอีกคนเดินตามมา ใบหน้าของยั่วถงเละจนดูไม่ได้ยิ่งทำให้เธอขวัญกระเจิงไปกันใหญ่“พี่สะใภ้ อย่ากลัวสิครับขนาดตอนที่พี่สะใภ้รวมหัวกับพี่ซืออี้ยังไม่เห็นจะมีความกลัวอะไรเลย”“คุณป้าครับ ผมยังไม่อยากตายทำไมคุณป้าถึงทำแบบนี้กับผม คุณป้ากำลังท้องอยู่ไม่นึกสงสารผมหรือไง ผมเหงาไม่มีเพื่อนเล่นผมจะเอาน้องในท้องของคุณป้าไปเป็นเพื่อนเล่นของผม”เจ้อหยูร์ร่างกายอืดบวมชี้นิ้วมาที่ท้องของหลันเหย่เธอรีบใช้มือปิดหน้าท้องด้วยความเป็นห่วงลูกทันที“ฉันบอกแล้วใช่มั้ยว่าฉันจะตามหลอกหลอนไม่ว่าจะหลับหรือตื่น หลันเหย่เธอไม่เกรงกลัวอะไรอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง มาสิมาด้วยกันฉันจะพาเธอไปเอาสมบัติที่มากกว่านี้อีก” ทุกคนต่างพากันเดินตรงเข้ามายื่นมือจั
บทที่ 25 จัดการหลันเหย่ฝั่งหลันเหย่เธอนั่งเล่นอยู่โต๊ะต้อนรับกลางบ้าน นั่งหยิบจับเครื่องประดับชื่นชมดวงตาเป็นประกาย“ฮึ ๆ ในที่สุดของพวกนี้ก็เป็นของฉัน ดีนะที่พี่ซืออี้ไม่เอาไปขายหมด ส่วนนี้ฉันจะเก็บเอาไว้เวลาใส่ออกงาน นี่เธอนะช่วยเอาของพวกนี้ขึ้นไปไว้ที่ห้องให้ฉันแล้วก็กลับไปพักผ่อนได้ พรุ่งนี้ฉันอยากกินไก่ดำตุ๋น รีบตื่นมาทำให้ฉันตั้งแต่เช้าตรู่ด้วยล่ะอย่าทำให้ฉันอารมณ์เสียไม่อย่างนั้นฉันจะไล่ออกให้หมด” หลันเหย่ชี้นิ้วสั่งสาวใช้จนพวกเธอรีบก้มหน้ารับคำของเธอทันที“ได้ค่ะคุณหลันเหย่”“ไม่ใช่ต่อจากนี้ฉันไม่ใช่สะใภ้ใหญ่บ้านหลังนี้ ต่อจากนี้ต้องเรียกฉันว่านายหญิงใหญ่ เรียกใหม่สิ”“ค่ะนายหญิงใหญ่” สาวใช้พูดจบรีบพากันยกกล่องที่ใส่เครื่องประดับขึ้นไปไว้ที่ห้องตามสั่ง ส่วนหลันเหย่เธอหัวเราะออกมาอย่างชอบใจก่อนจะลุกขึ้นยืนกวาดสายตามองแสยะยิ้มพร้อมพูดออกมาอย่างมีความสุข“ฮ่า ฮ่า นี่สินะความสุขที่แท้จริง ในที่สุดบ้านหลังนี้ก็เป็นของฉัน พรุ่งนี้ฉันคงต้องให้สาวใช้เก็บของใช้นังแก่หนังเหนียว ยั่วถงกับนังจื่อเหยาพร้อมของลูกชายเธอเอาไปเผาทิ้งให้หมด ป่านนี้ศพจะหาพบหรือยังนะ คงจะขึ้นอืดอยู่ในน้ำทะเลหรือ
บทที่ 24 สะใจจริง ๆฝั่งด้านซืออี้เมื่อได้รับโทรเลขจากคนที่เขาว่าจ้าง เขาแทบจะคุมอารมณ์แสดงความดีใจเอาไว้ไม่ได้ รีบเดินกึ่งวิ่งไปหาภรรยาทันที“หลันเหย่ภรรยาที่รักของพี่ วันนี้เป็นวันดีของเขาจริง ๆ เราออกไปกินข้าวนอกบ้านเพื่อเฉลิมฉลองกันเถอะ ”“พี่ซืออี้แผนของเราสำเร็จแล้วใช่มั้ยคะ”“ใช่แล้ว ต่อจากนี้จะไม่มีใครมาคอยต่อว่าเราอีกต่อไป วันนี้หลันเหย่ของพี่อยากได้อะไรเสื้อผ้าของใช้หรือเครื่องประดับอะไรพี่จะตามใจเธอทุกอย่าง ฮ่า ฮ่า มีความสุขจริงโว้ย” หลันเหย่ยิ้มระรื่นเมื่อได้ยินข่าวดีจากสามี รีบเข้ากอดสามีด้วยความดีใจ“ฉันดีใจที่สุดเลย พี่ซืออี้ต่อจากนี้เราจะรวยกันแล้วใช่มั้ยฉันจะได้เป็นนายหญิงใหญ่ของบ้านตระกูลหลี่ ไหนจะโรงงานเย็บผ้าอีก เราไม่ต้องรอเงินกงสีอีกต่อไป อย่างนั้นฉันจะแต่งตัวสวย ๆ เราจะได้ออกไปกินข้าวของนอกกัน” หลันเหย่ผละออกจากสามีรีบเดินไปหน้ากระจกแต่งใบหน้าให้สวยงามทั้งสองพากันออกไปกินข้าวนอกบ้านอย่างสุขสบายใจ นำเงินของแม่หลี่ไปถลุงใช้อย่างไม่เสียดาย จนถึงช่วงหัวค่ำ จู่ ๆ ทีวีได้มีข่าวด่วน ที่ร้านอาหารดังขึ้น“ข่าวด่วนตอนนี้มีรายงานเข้ามาว่ามีรถเก๋งทะเบียนXXX เกิดอุบัติเหตุพ
บทที่ 23 ซ้อนแผนรุ่งเช้าวันถัดมาทุกอย่างเป็นไปตามที่ซืออี้วางแผนเอาไว้ ตอนนี้รถของน้องชายกำลังเคลื่อนตัวออกจากบ้าน ใบหน้าสองคนผัวเมียยิ้มออกมาด้วยความสุข“ขอให้ทุกคนพักผ่อนให้สบายนะ ต่อจากนี้ทุกอย่างในบ้านหลังนี้ฉันจะดูแลเอง” หลันเหย่พูดขึ้นเมื่ออยู่กับสามีเพียงสองคน สาวใช้หลังส่งเจ้านายเสร็จก็พากันกลับเข้าไปในบ้านทำหน้าที่ของตัวเอง“หลันเหย่ของพี่ต่อจากนี้ไม่ว่าจะตรงไหนของบ้านหลังนี้จะเป็นของเธอทั้งหมด ลูกจ้าเมื่อไหร่ที่ลูกลืมตาขึ้นมาดูโลก พ่อจะเตรียมทุกอย่างไว้ให้ลูกเอง ตอนนี้เธอไปนอนเล่นกินของอร่อย ๆ ให้สบายใจเถอะนะไม่เกินเย็นวันนี้เราจะได้รับข่าวดีเมื่อนั้นไม่ว่าอะไรหรือของในบ้านจะตกเป็นของเราสองคน” ซืออี้เข้าไปโอบเอวของภรรยาพาเธอเดินเข้าบ้าน ก่อนที่เขาจะขึ้นไปที่ห้องของคุณแม่เพื่อดูสมบัติทั้งหมดที่คุณแม่มียิ่งทำให้ความโลภของเขามีมากกว่าเดิม“เย็นวันนี้ของพวกนี้จะเป็นของฉันทั้งหมด ฮ่า ฮ่า มีความสุขจริง ๆ ต่อจากนี้จะไม่มีคุณแม่ที่คอยบ่นและต่อว่าไม่ต้องมียั่วถงที่คอยทำอะไรขัดหูขัดตา ฉันจะใช้เงินทั้งหมดอย่างมีความสุขเลยคอยดู” เขาหัวเราะออกมาด้วยความคึกคะนองหากวันนี้มีข่าวออกมาเมื่อไ
บทที่ 22 แปลกใจหลายวันต่อมา ตั้งแต่ที่จื่อเหยาปรับความเข้าใจความรักของทั้งสองเริ่มก่อตัวขึ้นมาอย่างเบิกบาน ซืออี้ก็ออกไปทำงานทุกวันเช่นเดียวแต่แผนของเขายังคงดำเนินต่อไปเมื่อทุกอย่างที่เขาเตรียมการเอาไว้พร้อมแล้ว อีกอย่างนี่ก็ใกล้จะถึงเวลาส่งดอกให้ต้าหลง เช้าวันนี้เขาจึงเริ่มแผนที่วางเอาไว้ทันทีในระหว่างบนโต๊ะอาหาร“ช่วงนี้บรรยากาศบ้านของเราดูเหมือนจะดีขึ้นกว่าเมื่อก่อน จริงสินี่ก็ใกล้ถึงวันที่หลานชายจะเข้าเรียนแล้ว ลุงคิดว่าย่ากับคุณพ่อต้องพาหลานไปเที่ยวพักผ่อนก่อนจะเข้าเรียนแล้วล่ะ อีกอย่างยั่วถงทำงานทุกวันอย่างเหน็ดเหนื่อย เหนื่อยล้าลองพาคุณแม่ เจ้อหยูร์กับน้องสะใภ้ไปเที่ยวทะเลจางชุ่ยสิ ตอนนี้เป็นช่วงฤดูร้อนมีนกมากมายที่โผบินเต็มท้องฟ้า นักท่องเที่ยวชอบไปเที่ยวกัน ตอนนั้นที่ฉันขอเงินทุนคุณแม่ไปลงทุนกับเพื่อนเปิดโรงแรมที่ท่องเที่ยวติดทะเลฉันจะโทรเลขไปแจ้งเพื่อนให้ หากอยากจะไปพักที่นั่นไม่ต้องเป็นกังวลที่พักและค่าใช้จ่ายเรื่องห้อง ฉันจะจัดการเอง”“ทะเลหรือครับ ผมอยากไปจังคุณพ่อพาผมไปได้มั้ยครับ”เจ้อหยูร์ดวงตาเป็นประกายด้วยความตื่นเต้นเมื่อได้ยินสิ่งที่ลุงซืออี้บอก“แม่ก็คิดว่าดีเหมือ