Share

บทที่ 5 ชดใช้

last update Last Updated: 2025-05-17 09:22:40

บทที่ 5 ชดใช้

“คุณแม่ไม่น่าไปพูดแทงใจดำพี่ซืออี้เลยนะครับ พี่อาจจะไม่ได้อยากจะสืบทอดธุรกิจของครอบครัวแต่อยากจะมีธุรกิจของตัวเอง คุณแม่น่าจะไถ่ถามเรื่องที่พี่ซืออี้อยากทำก่อน”

“ยั่วถงแม่นะเลี้ยงดูลูกทั้งสองคนมาล้วนรู้ดีว่าทั้งสองคนเป็นยังไง เลิกพูดเรื่องนี้เถอะ” เธอใช้ผ้าเช็ดปากและลุกขึ้นจากโต๊ะอาหารหลังจากที่พูดจบ จือเหยามองตามพร้อมครุ่นคิดในใจว่าแม่สามีของเธอเป็นคนอย่างไรเหมือนจะใจดีแต่ก็แอบจะดุเช่นเดียวกัน

“จื่อเหยาเธอกินเยอะ ๆ นะ เมื่อกินข้าวเสร็จแล้วฉันจะพาไปหาหมอ”

“ไม่เอาหรอก ตอนนี้ฉันหายดีแล้วอาจจะมีบางอย่างที่ขาดหายไป คุณไปทำงานเถอะ เจ้อหยูร์อิ่มหรือยังเราไปสวนหลังบ้านกัน” จื่อเหยารีบชักชวนลูกชายไปที่สวนหลังบ้านเพราะไม่อยากจะคุยกับเขาต่อ กลัวว่าเขาจะจับได้ว่าเธอไม่ใช่ภรรยาของเขา เด็กชายแม้จะเกรงกลัวผู้เป็นแม่แต่ก็ยอมตามมาแต่โดยดี

“หากคุณว่าหายดีแล้วก็เอาอย่างนั้นก็ได้ เจ้อหยูร์พ่อฝากให้เราดูแลคุณแม่ด้วยนะวันนี้หลังกลับจากทำงานพ่อจะพาไปเที่ยวงานเทศกาลปล่อยโคมไฟ เห็นว่าปีนี้จัดใหญ่และหลายวันมากกว่าปีที่แล้ว” ยั่วถงพูดตามหลังจื่อเหยากับเจ้อหยุร์หยุดเดินชะงักและหันกลับมามองเขา

“จริงนะครับ คุณแม่คุณแม่ไปด้วยกันนะครับ เอ่อ…ผมลืมตัวเพราะดีใจเกินไปคุณแม่พึ่งจะหายป่วยคงไม่อยากออกไปเดินเล่นกับเรา อีกอย่างเป็นคำขอที่มากเกินไปด้วยขอโทษนะครับ” เด็กชายก้มหน้าลงต่ำไม่ว่าอย่างไรนี่คงเป็นเพียงแค่ความฝันของเขาที่อยากจะไปเที่ยวเล่นกับแม่

“เอาสิออกไปเที่ยวบ้างก็ดีอยู่แต่บ้านอึดอัด”

“จริงนะครับ คุณพ่อได้ยินมั้ยครับว่าคุณแม่จะไปเที่ยวกับเรา” ยั่วถงแปลกใจในคำตอบของเธอหากเป็นเมื่อสองวันก่อนเธอคงตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชาใบหน้าบึ้งตึงเบื่อหน่ายไม่ยอมไปกับเขาเป็นแน่ แต่เมื่อเธอพูดมาอย่างนี้เขาเองก็ดีใจไม่น้อย การที่เธอหลงลืมอะไรไปบ้างก็ทำให้ดีต่อตัวเขาเหมือนกัน

หลังจากนั้นยั่วถงก็ออกไปดูงานที่โรงงานบ้านของเขาเปิดโรงงานเย็บผ้าเป็นกิจการของตระกูลตั้งแต่รุ่นปู่จนถึงเขา ตอนนี้โรงงานของตระกูลหลี่ใหญ่โตกว่าเมื่อก่อนมาก หลังจากที่เสียผู้เป็นพ่อซืออี้ไม่สนใจงานโรงงานเท่าไหร่นัก ทำให้ยั่วถงต้องเข้าไปดูแลกิจการต่อ

เมื่อทุกคนไม่อยู่แล้วจื่อเหยาจึงชวนเจ้อหยูร์ลูกชายของเธอออกไปสวนหลังบ้านเด็กชายประหม่าเล็กน้อย สวนหลังบ้านมีคลองน้ำอยู่ไม่ใช่ว่าแม่ของเขาที่เหมือนจะใจดีแต่วางแผนจะจัดการเขาเพราะรำคาญหรอกใช่มั้ย?

“คะ..คุณแม่ครับ คุณแม่พาผมมาที่นี่ทำไมครับ” จื่อเหยาหยุดเดินหันกลับมาจ้องมองเด็กชายก่อนจะตอบคำถามเด็กชาย

“ที่นี่ทั้งเงียบทั้งสงบไม่ค่อยมีใครมา อย่างนี้ไม่ว่าฉันจะทำอะไรก็ไม่มีใครรู้และจับได้อย่างไรล่ะ” เหงื่อบนใบหน้าของเจ้อหยูร์เริ่มไหลออกมา ร่างเล็กเริ่มสั่นเทา

“คุณแม่ผมผิดไปแล้วที่ผมหวังสูงเกินไป อย่าทำอะไรผมเลยนะครับคุณแม่ไม่ต้องไปกับผมก็ได้” เจ้อหยูร์หลับตาสนิทยกมืออ้อนวอนไม่ให้จื่อเหยาทำร้ายเขา จื่อเหยาคิ้มขมวดเข้าหากันทำไมเด็กชายถึงมีปฏิกิริยากับเธออย่างนี้คงเป็นเพราะร่างเก่าเคยทำร้ายเด็กชายสินะ

‘โธ่ ๆ แม่ของเธอต้องใจร้ายขนาดไหนเด็กชายคนนี้ถึงได้หวาดกลัวจนจำฝังใจแบบนี้’ จื่อเหยาคิดในใจก่อนจะดึงตัวของเจ้อหยูร์มากอดด้วยความสงสาร

“ทำไมคิดว่าแม่จะตีลูกล่ะ ต่อไปนี้ลูกไม่ต้องกลัวแม่หรอกนะแม่จะไม่ลงไม้ลงมือหรือทำร้ายจิตใจลูกอีก ที่แม่พูดเมื่อครู่ไม่ได้หมายความว่าแม่จะทำอะไรเราสักหน่อย แม่แค่ชอบที่เงียบสงบเราจะได้คุยกันโดยที่คนอื่นไม่ต้องเข้ามาวุ่นวายอย่างไรล่ะ” เจ้อหยูร์ตกใจเบิกตาโพลงโตอ้อมกอดที่เขาเคยโหยหามาตลอดไม่คิดว่ามันจะอบอุ่นมากขนาดนี้น้ำตาของเด็กชายเริ่มเอ่อนองเต็มหน่วยตา มือน้อย ๆ ค่อยๆ เลื่อนไปโอบกอดแม่แน่น

“อึก อึก คุณแม่ผมไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย? นี่คุณแม่กอดผมเองทั้งที่ผมไม่ได้ขอใช่มั้ย มันดีมากเลยหากนี่คือความฝันผมขอไม่ตื่น” จื่อเหยายกมือลูกหลังเด็กชายเบา ๆ พร้อมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

“นี่ไม่ใช่ฝันและต่อจากนี้แม่จะชดใช้เวลาที่ผ่านมาที่แม่ไม่เคยสนใจใยดีและไม่เคยมอบความรักให้เจ้อหยูร์ของแม่ นีี่ไม่ใช่ความฝันแต่เป็นความจริง ในเมื่อลูกชอบแม่จะกอดลูกทุกวันเลยเอามั้ย แต่มีข้อแม้ลูกอย่าให้ใครในบ้านรู้ว่าตอนนี้แม่เปลี่ยนไปแล้ว”

“ได้ครับ ไม่ว่าคุณแม่ต้องการอะไรผมให้ได้ทั้งนั้น ขอแค่ผมได้อยู่ในอ้อมกอดคุณแม่อย่างนี้ตลอดไป” เด็กชายกอดจื่อเหยาร้องไห้สะอึกสะอื้น

หลังจากนั้นทั้งสองคนได้คุยกันมากมายและจื่อเหยาได้ถามถึงนิสัยของแต่ละคนในบ้านโดยบอกลูกชายเธอไปว่าตอนที่เธอฟื้นขึ้นมาความทรงจำบางอย่างหายไป แต่ไม่อยากให้ใครรู้เรื่องนี้จึงขอให้เจ้อหยูร์เก็บเอาไว้เป็นความลับ เจ้อหยูร์เป็นเด็กฉลาดเขาทั้งดีใจและเสียใจเล็กน้อยที่คุณแม่ความทรงจำหายไปแต่ก็ดีต่อตัวเขาตอนนี้เมื่อได้รับความรักจากผู้เป็นแม่

จื่อเหยาครุ่นคิดเรื่องในบ้านตระกูลหลี่ คนแรกที่เธอจะตัดออกคือเจ้อหยูร์เด็กตัวแค่นั้นคงไม่มีทางทำอะไรเธอได้แน่ และสามีของเธอยั่วถงที่เด็กชายเล่าให้ฟังว่าเขารักเธอมากขนาดไหน

“จะเป็นใครกันนะที่เป็นคนลงมือ หรือว่าไม่ใช่คนในบ้านแต่คงไม่ใช่หรอกเพราะคลองน้ำอยู่หลังบ้านต้องเป็นใครคนใดคนหนึ่งในบ้านหลังนี้แน่นอน แล้วจื่อเหยาไปทำอะไรให้หากไม่ใช่ว่านิสัยของเธอ” ยิ่งคิดยิ่งทำให้จื่อเหยาสงสัย

เวลาผ่านพ้นไปจนตะวันเริ่มคล้อยต่ำลง ตอนนี้แม่ของหลี่ยั่วถงกลับจากตลาดกำลังสั่งสาวใช้ในบ้านทำอาหารเย็นจื่อเหยาเธอไม่รู้จะทำอะไรหลังจากที่ส่งเจ้อหยูร์นอนกลางวันจึงเดินลงมาด้านล่าง

“ทำอะไรกันอยู่หรือคะ”

“สะใภ้เล็กเป็นอย่างไรบ้างอาการเธอดีแล้วใช่มั้ย? ยั่วถงได้พาเธอไปหาหมอตรวจร่างกายหรือยัง”

“ฉันดีขึ้นแล้วค่ะ ว่าแต่นี่กำลังทำอะไรกันอยู่คะ”

“ฉันไปเดินตลาดเลือกซื้อยาบำรุงมาให้สะใภ้ใหญ่ เผอิญเดินผ่านร้านเนื้อเลยซื้อติดไม้ติดมือมาให้สาวใช้ต้มซุปด้วยเลย” จื่อเหยาคอยสังเกตสายตาแววตาของแม่สามีไม่ว่าจะดูกี่ครั้งเธอก็ดูเหมือนไม่มีอะไรหรือว่าไม่ใช่ฝีมือของเธอ แต่จื่อเหยาก็ยังคงไม่วางใจอยู่ดี

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในยุค80   บทที่ 15 ผีหลอก

    บทที่ 15 ผีหลอกก๊อก ๆ เสียงประตูห้องของคุณแม่หลี่ดังขึ้นพร้อมเสียงของคนที่อยู่ด้านนอก“คุณแม่ครับผมขอเข้าไปในห้องนะครับ”“เข้ามาสิ มาที่นี่คงได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วสินะ” แม่หลี่กำลังเก็บสร้อยใส่กล่องไม้ลวดลายสวยงามล็อคกุญแจแน่นหนา“เป็นฝีมือใครครับ”“แม่คิดว่าน่าจะเป็นฝีมือสะใภ้ใหญ่ตอนแรกแม่ก็เอะใจทำไมเธอถึงได้เจาะจงที่จะให้เข้าไปค้นหาที่ห้องของสะใภ้เล็ก และก็ไปเจอของที่นั่นจริง ๆ แต่เจ้อหยูร์และท่าทีไม่ได้ตกอกตกใจของจื่อเหยาเพียงแค่มองก็รู้แล้วว่าไม่ใช่เธอแน่นอน แม่ไม่เข้าใจเลยทำไมสะใภ้ต้องทำแบบนั้นด้วย ตั้งหลายปีที่สะใภ้เล็กมาอยู่ที่นี่ไม่เคยด่าทอทำให้ผิดใจกันเลยไม่ใช่หรือไง”“เรื่องนี้ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ เอาไว้ผมจะจับตาดูพี่สะใภ้กับจื่อเหยา ไม่แน่ทั้งสองต้องมีเรื่องอะไรที่ขัดใจกัน ต่อจากนี้คุณแม่เก็บของมีค่าเอาไว้ให้ดีนะครับ แล้วนี่พี่ซืออี้ยังไม่กลับมาอีกหรือครับ”“นั่นสิ ไปข้างนอกทั้งวันหากว่าพูดเรื่องธุรกิจคงไม่น่าจะยืดยาวขนาดนี้ ไม่แน่ป่านนี้คงจะกลับมาแล้วเราลงไปข้างล่างกันเถอะป่านนี้สะใภ้เล็กกับเจ้อหยูร์คงรอนานแล้ว” ทั้งสองพากันเดินลงไปข้างล่างแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาข

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในยุค80   บทที่ 14 สร้อยคงไม่มีเท้าเดินเอง

    บทที่ 14 สร้อยคงไม่มีเท้าเดินเองแม่หลี่รีบเดินไปหาหลันเหย่ที่อยู่หน้าตู้ผ้าของจื่อเหยาเพื่อไปดูว่าของที่หลันเหย่บอกใช่ของเธอหรือไม่? เมื่ิอเห็นสร้อยที่อยู่ในมือของหลันเหย่ใบหน้าของแม่หลี่พลันเปลี่ยนสี ชะงักเล็กน้อยก่อนจะหันขวับมามองจื่อเหยาที่ยืนอยู่ด้านหลัง‘อะไรกันนี่ฉันพลาดตั้งแต่ตอนไหน ทำไมสร้อยของคุณแม่ถึงมาอยู่ที่นี่ได้หรือว่าช่วงที่ฉันออกไปซื้อของหรือว่าช่วงที่ฉันนอนกับเจ้อหยูร์เหรอ’“สะใภ้เล็กอธิบายมาสิว่าสร้อยของฉันมาอยู่ที่ตู้เสื้อผ้าของเธอได้ยังไงกัน”“คุณแม่คะเรื่องสร้อยมาอยู่ที่ตู้เสื้อผ้าของฉันได้ยังไงฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ตั้งแต่เช้ามาฉันออกไปตลาดพึ่งจะได้กลับเข้าห้องเมื่อครู่เพื่ออาบน้ำจะรู้ได้อย่างไรว่าสร้อยคุณแม่มาอยู่ในห้องฉัน เหมือนว่ามีคนจงใจนำมันมาใส่เอาไว้ แล้วทำไมที่อื่นคนอื่นหาไม่เจอแต่พี่สะใภ้มาเจอเข้าเหมือนรู้มาก่อนว่าสร้อยอยู่ตรงไหน ตั้งแต่เดินเข้ามาพี่สะใภ้เดินตรงเข้ามาหาตู้เสื้อผ้าเลย ปกติหากจะเก็บของมีค่าไม่ใช่เก็บไปตรงโต๊ะหัวเตียงหรอกหรือคะ” จื่อเหยาไม่ยอมเป็นแพะรับบาปและยอมอ่อนข้อให้คนอื่นใส่ร้ายแน่นอน ในเมื่อทำกันแบบนี้เธอก็จะร้ายสู้เหมือนกัน“นี่

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในยุค80   บทที่ 13 รู้ตัวคนทำ

    บทที่ 13 รู้ตัวคนทำแสงสว่างวาบผ่านเข้ามาในม่านหมอก หลินชิงเสียงลืมตาขึ้นมาในความมืดเดินตามแสงสว่างไปอย่างงวยงงเสมือนมีอันใดที่ดึงดูดให้เธอเดินตามแสงนั้นไป'ไม่ใช่ว่าฉันเผลอนอนหลับไปกับเจ้อหยูร์หรอกเหรอ แล้วนี่ที่ไหนกันมืดตั้งแต่เมื่อไหร่ นั่นใครข้างหน้านั่นคนไม่ใช่เหรอ' ร่างบางคิดในใจเดินไปหาคนที่ยืนอยู่ด้านหน้า เมื่อเดินเข้ามาใกล้ ๆ เธอกลับเห็นว่านั่นคือจื่อเหยากับชายและหญิงอีกหนึ่งคน เหมือนความฝันของเธอคืนก่อน‘นั่นจื่อเหยานี่น่า เหมือนความฝันครั้งก่อนเลยแล้วอีกสองคนนั่นใครกัน’ เธอเดินเข้าไปใกล้ ๆ ครั้งนี้เธอไม่เห็นเหมือนครั้งก่อนแต่เห็นชัดเจนและได้ยินเต็มสองหูว่าทั้งสามที่ยืนอยู่ตรงหน้านั้นเป็นใคร"เมื่อกี้เธอได้ยินพวกฉันพูดใช่มั้ย ? เธอแอบตามเรามาเพื่อจะเอาเรื่องที่ฉันกับพี่ซืออี้พูดกันไปบอกคุณแม่กับยั่วถงใช่มั้ย แกมันร้ายนักนะทำเป็นไม่สนใจคนในครอบครัว แต่ก็แอบซุ่มทำอะไรลับหลังคนอื่น ""ฮึ! ถึงฉันไม่สนใจคนในครอบครัวแต่ฉันไม่เคยคิดเรื่องชั่ว ๆ แบบพวกเศษสวะอย่างพวกแกหรอกนะ ขนาดมีแม่ที่แสนดีประเคนทุกอย่างให้แต่กลับคิดจะทำร้ายและจะเอาสมบัติเป็นของตัวเอง ชาติชั่วยิ่งกว่านรกส่งมาเกิดอี

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในยุค80   บทที่ 12 อิจฉา

    บทที่ 12 อิจฉาจื่อเหย่าไม่อยากโต้ตอบรีบเดินนำหน้ายั่วถงกลับบ้านไปหาเจ้อหยูณ์ เมื่อมาถึงแม่หลี่กับเจ้อหยูร์ต้องแปลกใจที่เห็นทั้งสองมาด้วยกัน“ทำไมถึงมาด้วยกันได้ล่ะตอนนี้ลูกน่าจะอยู่ที่โรงงานไม่ใช่หรือไง”“ผมพยายามเคลียร์งานแล้วออกมาครับ คิดว่าจะออกมาเลือกซื้อรองเท้าให้จื่อเหยาแต่เมื่อมาตลาดเห็นเธอเลือกซื้อรองเท้าอยู่ก่อนหน้าแล้วเลยกลับมาที่บ้านพร้อมกันครับ” “เป็นอย่างนี้นี่เอง เจ้อหยูร์รอเธอกลับมาอย่างตั้งหน้าตั้งตารอมาแล้วก็รีบพาไปทำเถอะเดี๋ยวจะถึงเวลานอนกลางวันแล้ว” “เจ้อหยูร์เราเข้าไปที่ครัวกันเถอะ ส่วนนี่รองเท้าคุณแม่ค่ะขอบคุณนะคะสวมใส่สบายมากฉันเลยซื้ออีกคู่มาเป็นของฝากให้คุณแม่ด้วย เจ้อหยูร์แม่เองก็มีของฝากมาให้ลูกเหมือนกันชอบมั้ย” จื่อเหยายื่นรองเท้าคืนให้แม่หลี่พร้อมรอเท้าใหม่ที่เธอตั้งใจซื้อมาให้แม่หลี่ก่อนจะยื่นของเล่นกับเจ้อหยูร์ เด็กชายเห็นของเล่นดวงตาเริ่มคลอแดงแต่รอยยิ้มบนใบหน้ายิ้มกว้างกว่าเดิม“คุณแม่ให้ผมจริง ๆ หรือครับ ผมรับมันได้ใช่มั้ย”“แม่ตั้งใจซื้อมาให้ทำไมจะไม่ได้ล่ะ หรือว่าลูกไม่ชอบ”“ไม่ครับ ผมชอบและชอบมันมาก ๆ เลย ขอบคุณนะครับคุณแม่” เด็กน้อยกระโดดกอดจื่อ

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในยุค80   บทที่ 11 พลาด

    บทที่ 11 พลาดอากาศเช้าวันนี้ลมพัดเย็นสบายหลังจากที่ฝนตกทั้งคืน จื่อเหยาสวมใส่รองเท้าของแม่หลี่ออกมาพร้อมกับสาวใช้สองคนที่เดินตามหลังอย่างกล้า ๆ กลัวจนทำให้เธออึดอัด"นี่...!! ซุบซิบอะไรกันอย่างคิดว่าฉันไม่ได้ยินนะ กลัวฉันนักหรือไงฉันไม่จับพวกเธอหักคอหรอกนะ""เอ่อ..ขอโทษด้วยนะคะที่เราสองคนทำให้คุณนายเล็กไม่สบายใจ และอึดอัดแต่ว่านี่เป็นครั้งแรกที่คุณนายเล็กออกมาจ่ายตลาดทำให้พวกเราไม่ชินตาต้องขอโทษด้วยนะคะ"จื่อเหยาหยุดเดินทันทีก่อนจะคิดอะไรออกและหันไปถามสาวใช้ทั้งสองที่เดินตามมา"ฉันมีเรื่องอะไรจะถามและมีค่าขนมให้เล็กน้อย พวกเธอจะต้องรับปากว่าไม่ปากโป้งบอกใครว่าฉันพูดคุยกับพวกเธอเรื่องอะไร หากเรื่องที่ฉันถามพวกเธอหลุดออกไปล่ะก็อย่าคิดว่าฉันจะปล่อยไปง่าย ๆ " ทั้งสองมองหน้ากันไปมาเริ่มวิตกกังวลในคำถามของจื่อเหยา"พวกฉันสัญญาจะไปปากโป้งพูดออกไปแน่นอกค่ะ แล้วเรื่องที่คุณนายเล็กอยากรู้คือเรื่องอะไรหรือคะ""พอดีช่วงนี้ฉันความทรงจำบางช่วงบางตอนขาดหายไป เลยอยากรู้ว่าก่อนหน้านี้ฉันเคยมีปากเสียงหรือทะเลาะกับใครมั้ย ""คุณนายเล็กไม่เคยทะเลาะกับใครเลยค่ะ จะมีเพียงแค่ความเย็นชาไม่สนใจคนอื่นไม่ว่าคน

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในยุค80   บทที่ 10  ลงทุน

    บทที่ 10 ลงทุนฝั่งด้านซืออี้กับหลันเหย่มื้อคืนนี้กว่าเขาจะกลับเข้ามาบ้านก็จนจะสว่าง เมื่อตื่นขึ้นมาหลันเหย่พูดคุยหารือเรื่องของจื่อเหยากับสามีของเธอ“พี่ซืออี้มื้อวานนี้ฉันลองเข้าไปพูดคุยกับนังจื่อเหยา แต่ดูเหมือนว่าเธอพูดอะไรแปลก ๆ ออกมาด้วย หรือว่าเธอจะแกล้งทำเป็นจำไม่ได้ว่าเราเป็นคนที่ผลักเธอตกน้ำ และวางแผนปั่นหัวพวกเรารอวันเอาคืน”“หลันเยว่เธอคิดไปเองหรือเปล่า ทำไมฉันรู้สึกว่าจื่อเหยาสายตาเปลี่ยนไปไม่เหมือนเมื่อก่อน เราอย่าพึ่งด่วนสรุปตีโพยตีพายไปก่อน ต้องรอดูอีกสักนิดหากจื่อเหยาเป็นอย่างที่เธอบอกเราค่อยวางแผนจัดการก็แล้วกัน จริงสิวันนี้เงินกงสีออกนี่น่าเรารีบลงไปด้านล่างกันเถอะ ฉันจะได้มีเงินเอาไปลงทุนสำหรับวันนี้เพื่อเอาคืนเงินที่เสียไปมื้อวาน วันนี้พี่ขอเงินในส่วนของที่รักด้วยได้มั้ย วันนี้พี่มั่นใจยังไงวันนี้ต้องดวงดีแน่ ๆ” ซืออี้ออดอ้อนภรรยาของตัวเองเอาอกเอาใจเพราะเขาเสียจนหมดตัววันนี้จึงคิดจะไปเอาเงินที่เสียไปคืนมา หลันเหย่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะตอบกลับซืออี้อย่างเหนื่อยใจ“พี่ซืออี้ ช่วงนี้พี่เล่นหนักมากเลยรู้ตัวหรือเปล่าเงินเก็บของฉัน ฉันก็เอาให้พี่ไปจนหมดอีกไม่กี่เดือนล

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในยุค80   บทที่ 9 ความฝัน

    บทที่ 9 ความฝันตึกตัก ตึกตัก‘ไม่ว่าจะกี่ปีผู้หญิงคนนี้ยังคงงดงามไม่เปลี่ยน หัวใจฉันเองก็เหมือนกันยังคงเต้นแรงเสมือนครั้งแรกที่ได้พบเจอกัน นานเท่าไหร่แล้วนะที่ไม่ได้เข้าใกล้เธอขนาดนี้แถมครั้งนี้เธอไม่แม้จะต่อว่ากลับกลายเป็นใบหน้าที่เขินอายแดงระเรื่อแทน หรือว่าตอนนี้เธอเริ่มมีใจให้ฉันบ้างแล้ว เวลาที่ฉันรอคอยจะเข้ามาใกล้แล้วสินะหัวใจที่เป็นดั่งหินผาฉันจะทำลายมันเอง’ ยั่วถงมองหญิงสาวในอ้อมกอดหัวใจของเขาเต้นแรงตึกตักตลอดทาง วันนี้เธอช่างงดงามที่สุดในสายตาของเขาจริง ๆ และเหมือนโชคชะตาจะเข้าข้างเขาให้เขาได้ใกล้ชิดกับจื่อเหยาและมีเวลาร่วมกัน แม้แต่เจ้อหยูร์ยังเปิดโอกาสให้เขาได้อยู่กับเธอ เขาค่อย ๆ อุ้มเธอวางลงบนเตียงนอนในห้องของเธอร่างเล็กใบหน้าแดงระเรื่อราวมะเขือเทศยังไม่จาง เขายื่นมือไปถอดรองเท้าให้เธออย่างเบามือ“ข้อเท้าคุณบวมแดงมากเลย เดี๋ยวผมจะไปเอายามาให้กินยาแล้วนอนพักเถอะพรุ่งนี้น่าจะดีขึ้นอย่าเดินมากนักเข้าใจมั้ย” จื่อเหยาทำตัวไม่ถูกตอบเขากลับอย่างขัดเขิน“อะ..อืม…” เขาเดินออกไปจากห้องของเธอเพื่อไปเอายาไม่นานเขากลับเข้ามาพร้อมน้ำเปล่า นั่งลงบนเตียงยื่นยาให้เธอกินก่อนจะลุกเดินออกไป

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในยุค80   บทที่ 8 ใจสั่น

    บทที่ 8 ใจสั่นเดินเล่นมาได้สักพักเจ้อหยูร์ไม่มีความเหนื่อยเลยสักนิดแต่เป็นจื่อเหยามากกว่าที่เดินแทบขาลาก“เจ้อหยูร์ แม่ขอนั่งตรงนี่สักครู่ได้มั้ย จู่ ๆ ก็รู้สึกปวดข้อเท้าขึ้นมา” คงเป็นเพราะรองเท้าที่ใส่มาหรือเพราะความคับแคบของรองเท้าทำให้เธอเริ่มเจ็บขึ้นมาและแดงระเรื่อขึ้น“คุณแม่เหนื่อยนั่งพักก่อนก็ได้ครับ โอ๊ะ..นั่นคุณย่า คุณย่าครับผมอยู่ทางนี้ คุณแม่อย่างนั้นผมขอไปเดินเล่นกับคุณย่านะครับ คุณพ่อผมฝากคุณแม่ด้วยนะครับ” เจ้อหยูร์นักวางแผนตัวน้อยขยิบตาให้พ่อ เสมือนส่งสัญญาณยั่วถงยิ้มรับเล็กน้อยก่อนจะหันมาบอกกับจื่อเหยาให้นั่งคอยอยู่ตรงนี้สักครู่“คุณนั่งพักอยู่ตรงนี้ก่อนนะครับ ผมจะพาเจ้อหยูร์ไปหาคุณแม่ก่อน กลัวจะวิ่งไปแล้วพลัดหลงได้”“ไปเถอะฉันจะนั่งคอยอยู่ตรงนี้ดีขึ้นแล้วจะเดินตามไป” จื่อเหยาย่อนตัวนั่งลงบนม้านั่ง มองผู้คนเดินเล่นอย่างสนุกสนาน“คงเป็นเพราะไม่ค่อยได้ออกมานอกบ้านหรือเปล่านะรองเท้าถึงได้คับแบบนี้ เมื่อก่อนเธอใช้ชีวิตที่ผ่านมาแบบไหนกันนะจื่อเหยา น่าเสียดายเวลาจริง ๆ เลย” เธอบ่นพึมพำเมื่อนั่งอยู่คนเดียวเมื่อยั่วถงพาเจ้อหยูร์ไปส่งแม่หลี่ ไม่นานนักเขาก็เดินกลับมาหาเธอ นั่งลง

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในยุค80   บทที่ 7 เดินเล่น

    บทที่ 7 เดินเล่นจื่อเหยายืนเลือกเสื้อผ้าที่อยู่ในตู้ไม่นานนักก็ได้ชุดที่ถูกใจ โชคดีที่จื่อเหยาเจ้าของร่างชอบแต่งตัวอยู่แล้วจึงมีทั้งเสื้อผ้าสวยงามและเครื่องประดับอยู่พอสมควร“การแต่งตัวในยุคนี้ก็น่าสนุกดี งานเทศกาลในยุคนี้จะเป็นอย่างไรนะ อย่าว่าแต่เจ้อหยูร์ตื่นเต้นเลย ขนาดฉันยังตื่นเต้นขนาดนี้” จื่อเหยาหยิบต่างหูคู่งามที่เข้ากับชุดมาสวมใส่พร้อมหยิบกระเป๋าถือมาหนึ่งใบและเดินออกไปข้างนอก แม้เธอจะออกไปเที่ยวก็ไม่ลืมที่จะคิดถึงเรื่องความปลอดภัย เธอนำมีดเล็กสวมปลอกพกพาไปด้วยไม่รู้เลยว่านาทีไหนที่เธอจะถูกพรากลมหายใจไปอีก“แต่งตัวสวยจังเลยนะ ฉันนี่สิต้องนอนทนเหงาอยู่ที่บ้านอยากแต่งตัวสวย ๆ เหมือนน้องสะใภ้จัง” จื่อเหยาตกใจเล็กน้อยที่จู่ ๆ เห็นสะใภ้ใหญ่อย่างหลันเหย่มายืนอยู่หน้าห้อง ทั้ง ๆ ที่เมื่อครู่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่พอใจด้วยซ้ำ ที่ไม่ได้ออกไปเที่ยวแต่ทำไมต้องนี้สีหน้าถึงเปลี่ยนไปจื่อเหยาเริ่มระวังตัวแต่ก็ทำตัวให้เป็นปกติไม่ให้อีกฝ่ายระแคะระคายได้“พี่สะใภ้ใหญ่อยากแต่งตัวสวยก็แต่งอยู่บ้านก็ได้นี่ ไม่เห็นต้องอิจฉา มาที่หน้าห้องของฉันมีอะไรกันแน่”“อะไรกันทำไมพูดเย็นชากับฉันแบบนี้ล่ะ น่าน้อย

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status