เสี้ยวพริบตาที่กู้เจาย่วนเห็นเจียงเย่ แววตาพลันฉายประกายซับซ้อนวูบออกมา “ขออภัย วันนี้ข้านัดกับฮวนเอ๋อร์แล้ว เกรงว่าจะไปไม่ได้” เจียงเย่มองไปทางกู้ฮวนเอ๋อร์อย่างอดไม่ได้ กู้ฮวนเอ๋อร์เองก็รู้สึกปวดหัวจี๊ด ๆ ขึ้นมาทันที ได้แต่เอ่ยด้วยสีหน้ารู้สึกผิด “คุณชายเจียง ต้องขออภัยอย่างยิ่งเจ้าค่ะ ท่านเองก็รู้ว่าอีกไม่นานข้าจะต้องออกเรือนแล้ว เจาย่วนเองก็เป็น พี่น้องที่ข้าสนิทสนม ดังนั้นข้าก็เลยอยากให้นางช่วยข้าเลือกของบางอย่าง” ได้ยินเช่นนี้ เจียงเย่ก็กระจ่างแจ้ง เอ่ยยิ้ม ๆ ว่า “ข้าเข้าใจแล้ว เรื่องนี้ข้าเองก็ทราบมาบ้าง ยินดีด้วยจริง ๆ เช่นนั้นวันหน้าข้าจะมาใหม่” “ได้ ๆ” กู้ฮวนเอ๋อร์ผงกศีรษะรัว กระทั่งอีกฝ่ายออกไปแล้ว ก็หันมองกู้เจาย่วนอย่างเหลืออด “เจาย่วน ก่อนหน้านี้เจ้ากับคุณชายเจียงยังดี ๆ กันอยู่มิใช่หรือ? ก่อนหน้านี้ท่านป้าเองก็คิดจะให้พวกเจ้าหมั้นหมายกันไว้ ตอนนั้นเจ้าเองก็มิได้คัดค้าน?” คู่หมั้นของเจาย่วนแม้จะมิได้ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการแต่อันที่จริงก็ถือเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายเข้าใจตรงกัน นางกับเจียงเย่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก สองครอบครัวก็ไปมาหาสู่กันหลายต่อหลายครั้ง หากใ
ซ่งรั่วเจินฟังคำอธิบายของสวี่เหราแล้วก็คิดว่าเห็นทีคุณชายเจียงผู้นี้คงเพียงแต่ตอบแทนผู้มีพระคุณจากใจจริง ไม่ได้มีความคิดเป็นอื่น“ป้าสะใภ้ใหญ่ เรื่องที่ท่านพูดมีความเป็นไปได้จริงๆ เจ้าค่ะ ข้าจะสังเกตดู ถ้าเป็นเรื่องที่แม่นางถงผู้นี้ก่อขึ้นจริง พวกข้าจะไม่ปล่อยให้ญาติผู้น้องได้รับความไม่เป็นธรรมเปล่าๆ แน่”“คืนวานข้ากับฮวนเอ๋อร์ตัดสินใจกันแล้วว่าจะเกลี้ยกล่อมให้เจาย่วนหาโอกาสพาพวกข้าไปพบฉวีเซินนอกเมือง”“ขอเพียงได้ไป คนผู้นั้นจะต้องปิดบังต่อหน้าข้าไม่ได้แน่นอน ถึงยามนั้นเจาย่วนทราบว่าทุกอย่างล้วนเป็นคำลวงย่อมหมดใจไปเป็นธรรมดา”“สิ่งที่พวกเราต้องทำตอนนี้ก็คือสนับสนุนเจาย่วน ทำให้นางมั่นใจว่าพวกเรายินดียอมรับฉวีเซิน การขัดขวางก่อนนี้เป็นเพราะกลัวว่านางออกเรือนไปแล้วจะลำบาก”“ยิ่งพวกเรามีท่าทียอมรับมากเท่าไร เจาย่วนก็จะไม่ปิดบังเรื่องใดๆ จากพวกเราอีก”“เมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้าหมอนั่นย่อมหาข้ออ้างมาบ่ายเบี่ยงไม่ได้ กระทั่งว่าไม่จำเป็นต้องให้พวกเราเปิดโปง เจาย่วนย่อมจะค้นพบปัญหาด้วยตัวเอง”แม้ก่อนหน้านี้ซ่งรั่วเจินจะได้พบเจอเจาย่วนไม่กี่ครั้ง แต่การพบหน้าไม่กี่ครั้งนั้น นางก็ดูออกว่าเจาย
“ทว่าสามปีก่อนคนตระกูลเจียงติดตามใต้เท้าเจียงไปรับตำแหน่งที่เมืองอื่น เพิ่งกลับมาได้ไม่นาน แต่ตอนกลับมาคราวนี้ได้พาผู้มีพระคุณคนหนึ่งกลับมาด้วย”สวี่เหราเอ่ยถึงเรื่องนี้ก็อดจะถอนหายใจไม่ได้ เดิมนั้นควรเป็นบุพเพอันประเสริฐแท้ๆ คิดไม่ถึงเลยว่าจะเกิดเหตุไม่คาดฝันติดต่อกันเช่นนี้“ผู้มีพระคุณ? เป็นแม่นางผู้หนึ่งหรือเจ้าคะ?”ซ่งรั่วเจินเลิกคิ้ว แบบนี้เรียกว่าเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นกลางคัน คู่รักวัยเด็กโคจรมาเจอผู้มีพระคุณงั้นสินะ?“ใช่แล้ว ก่อนหน้านี้ขณะที่เจียงเย่เร่งเดินทางกลับไปเจอคนร้ายเข้าพอดี ทำให้เขาตกเขาจนเกือบเสียชีวิต”“โชคดีที่แม่นางถงซูช่วยชีวิตเขาไว้ หลังจากนั้นแม่นางผู้นี้ก็บอกว่าตนเองอยากมาหาญาติที่เมืองหลวงจึงเดินทางมาด้วยกันกับเจียงเย่”สวี่เหราถอนหายใจ “พูดเรื่องนี้ขึ้นมาแล้วข้าก็อ่อนใจนัก หลายปีที่ผ่านมาสกุลเจียงมีความสัมพันธ์อันดีกับพวกเราตลอดมา ข้ายังรู้จักเจียงฮูหยินมานานปี”“หากมิใช่เพราะเหตุนี้ พวกเราสองบ้านก็คงไม่มีความคิดจะเป็นดองกันแล้ว แม้ว่าแม่นางผู้นั้นจะแลดูอ่อนโยนมาก แต่ข้าเป็นหญิงเหมือนกัน ดูจากสายตาที่นางมองเจียงเย่ก็รู้แล้วว่าในใจนางมีเขาอยู่”“เดิมท
คืนวันนั้น สวี่เหราหาข้ออ้างมอบยันต์คุ้มภัยให้กู้เจาย่วนพกเอาไว้“ก่อนหน้านี้ท่าทีของแม่แข็งกระด้างเกินไป แม่ทำไปเพราะหวังดีต่อเจ้า หวังว่าเจ้าจะเข้าใจแม่” สวี่เหราผ่อนปรนท่าทีแล้วเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนโยนกู้เจาย่วนเองก็รู้สึกไม่ดีเช่นกัน “ท่านแม่ ข้าไม่ได้โทษท่าน ข้าเพียงแต่ชอบเขาจริงๆ เจ้าค่ะ”เห็นท่าทางทุ่มเทหมดใจของลูกสาวแล้ว สวี่เหราก็อดถอนหายใจไม่ได้ จู่ๆ นางชอบคนคนหนึ่งปานนี้ ใครเลยจะคาดคิดว่าจะลงเอยเช่นนี้ตอนนี้นางเลิกโกรธแล้ว เพียงสงสารเจาย่วน หวังแค่นางแคล้วคลาดปลอดภัยก็พอ“ช่างเถอะ ตอนนี้แม่หวังแค่ว่าเจ้าปลอดภัยไร้อันตราย นี่คือยันต์คุ้มภัยที่แม่หามาให้เจ้าโดยเฉพาะ หวังว่าเจ้าจะปลอดภัยราบรื่น”กู้เจาย่วนมองยันต์คุ้มภัยที่มารดาส่งให้ ดวงตาแดงเรื่อโดยไม่รู้ตัว คิดถึงว่าช่วงนี้ตนเองมักทำให้มารดาไม่พอใจอยู่เรื่อยจึงกล่าวว่า “ท่านแม่ ขอโทษนะเจ้าคะ”สวี่เหราลูบกู้เจาย่วนเบาๆ “อย่าคิดมาก ทุกเรื่องมีทางออกเสมอ พ่อกับแม่ยังอยู่ตรงนี้”กู้เจาย่วนได้ยินดังนั้นก็อดสงสัยไม่ได้ เหตุใดจึงรู้สึกว่ามารดาพูดจาแปลกชอบกลกันนะ?……วันรุ่งขึ้น ซ่งรั่วเจินได้เจอสวี่เหราแต่เช้าตรู่“รั่วเ
“นอกจากนี้ ข้าเชื่อหรอกว่าเจาย่วนเป็นคนมีเหตุมีผล สาเหตุที่นางดึงดันเช่นนี้ก็เพราะนางไม่รู้ความจริง”“เมื่อครู่ข้าพูดกับฮวนเอ๋อร์แล้วว่าให้นางหาโอกาสให้พวกข้าไปเจอฉวีเซินสักครั้ง”“ถึงยามนั้นถ้าพวกเราไปแล้วย่อมจะเปิดโปงโฉมหน้าที่แท้จริงของเขาได้แน่นอน แต่เจ้าหมอนั่นคงไม่กล้ามาเจอพวกเรา คงจะปฏิเสธบ่ายเบี่ยงด้วยเหตุผลต่างๆ นานา เชื่อว่าถึงยามนั้นเจาย่วนคงจะดูออกว่าไม่ปกติ”“เจ้าพูดถูก” สวี่เหราพยักหน้าแล้วกล่าวมาอีกว่า “เช่นนั้นยันต์นี้ก็ต้องให้เจาย่วนพกไว้ด้วยใช่หรือไม่?”ซ่งรั่วเจินพยักหน้าน้อยๆ “หาโอกาสให้นางพกติดตัวเอาไว้นะเจ้าคะ”“ได้ ข้าจะทำตามที่เจ้าบอก!”เมื่อซ่งรั่วเจินออกมา ฉู่จวินถิงก็มารอนางอยู่ข้างนอกแล้ว“เกลี้ยกล่อมได้หรือไม่?”ฉู่จวินถิงทราบว่าซ่งรั่วเจินและกู้ฮวนเอ๋อร์จากมาก่อนเพราะไปเกลี้ยกล่อมกู้เจาย่วน แต่เขารู้สึกว่าด้วยท่าทางของกู้เจาย่วนในตอนนั้นแล้วเกรงว่าคงเกลี้ยกล่อมได้ยากซ่งรั่วเจินเลิกคิ้วงาม “ท่านคิดว่าอย่างไรเล่า?”“คงเกลี้ยกล่อมได้ไม่ง่ายนัก” ฉู่จวินถิงส่ายศีรษะ “แต่ข้าคิดว่าคนผู้นี้ไม่มีกระทั่งความกล้ามาพบหน้า หาใช่คู่ครองที่ดีไม่”ดวงตางามของซ
“อยู่ดีๆ เจาย่วนไปเจอผีได้อย่างไร? ถ้านางครองคู่กับคนผู้นี้จริงมิเท่ากับต้องตายหรอกรึ?”สวี่เหราร้อนใจเสียแล้ว ก่อนนี้อย่างมากก็เพียงกังวลว่าหากแต่งงานกับบัณฑิตยากจนไร้ความสามารถ เจาย่วนจะต้องลำบากในวันหน้าความจริงหากถึงขั้นนั้นจริง มีตระกูลกู้ของพวกตนอยู่ เพียงให้การดูแลสักหน่อย เจาย่วนก็สามารถมีชีวิตที่ไม่เลวได้เหมือนกัน แต่ถ้าเจอผี นั่นกลับพัวพันถึงชีวิตแล้ว!โชคดีที่วันนี้รั่วเจินมาที่นี่ หากมิได้มา ผลลัพธ์คงเลวร้ายสุดคาดคิด!ซ่งรั่วเจินพยักหน้าน้อยๆ “วันนี้ตอนที่ข้าเห็นเจาย่วนก็รู้สึกว่านางมีบางอย่างแปลกๆ บนร่างแฝงไว้ซึ่งไอมรณะ”“พวกท่านไม่จำเป็นต้องกังวลจนเกินไป ตอนนี้ค้นพบเร็ว ผลกระทบไม่ได้น่ากลัวปานนั้น”สวี่เหราค่อยถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก “ถ้าอย่างนั้นก็ดีจริงๆ!”ประสบเรื่องราวมามากขนาดนี้ นางรับทราบความสามารถของรั่วเจินเป็นอย่างดี ขอเพียงเป็นคำพูดของนาง นางไม่สงสัยเลยสักนิด“ต่อจากนี้พวกเราควรทำอย่างไรดี? ต้องฝังอะไรหรือไม่ หรือว่าเป็นเพราะฮวงจุ้ยของที่บ้านไม่ดี ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรหรือเปล่า?”สวี่เหราอดร้อนใจไม่ได้ นางจำได้ว่าตอนนั้นตระกูลซ่งประสบปัญหาติดต่อกันเป็น