Home / รักโบราณ / ท่านโหวพ่ายรัก / ตอนที่2 ความกังวลของบิดา

Share

ตอนที่2 ความกังวลของบิดา

last update Last Updated: 2025-06-20 07:58:33

หลิวตงโผเข้ากอดบุตรสาวด้วยความรู้สึกผิด น้ำตาที่กลั้นไว้ไหลออกมาเป็นสาย หลิวหลิงลี่เองก็ไม่ต่างกัน น้ำใส ๆ ไหลเป็นทางอาบแก้ม สองพ่อลูกกอดกันร่ำไห้ หลิวตงถึงจะเหมือนได้ยกภูเขาออกจากอก แต่ทว่ากลับไม่รู้สึกสบายใจเลยแม้แต่น้อย เขาใช้มือปาดน้ำตาของตนเองก่อนจะผละบุตรสาวออก แล้วเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มของบุตรีอย่างเบามือ

“ลี่เอ๋อร์พ่อต้องขอโทษเจ้าด้วย ที่จำต้องส่งเจ้าไปแต่งงานยังเมืองอันหยางกับคนสกุลหลัว หลัวหยางโหว”

“ไยต้องขอโทษลูกด้วย ลูกต้องขอบคุณท่านพ่อด้วยซ้ำที่ให้ลูกได้แต่งกับหลัวหยางโหว ถึงลูกจะอยู่แต่ในจวน แต่ข่าวที่บุรุษผู้นี้ได้กระทำเป็นที่กล่าวขานไปทั่ว จนลูกเองก็เคยได้ยินข่าวของเขามาไม่น้อย”

ตั้งแต่หลิวหลิงลี่ถึงวัยปักปิ่นนางก็เก็บตัวอยู่แต่ในจวนเจ้าเมืองมาตลอด เพราะการออกจากจวนไปให้ผู้คนได้เห็นจนเป็นที่ร่ำลือถึงความงามของนาง ทำให้บิดาต้องปฏิเสธการสู่ขอหลายครั้ง บางคนก็ยอมรับในคำปฏิเสธได้ แต่บางคนก็แสดงออกชัดว่าไม่พอใจ หลายปีนี้นางจึงไม่ย่างเท้าออกจากจวนไปไหนเลย เพื่อจะได้ไม่ทำให้บิดาของนางต้องลำบากใจ

“แต่เจ้าก็รู้ดีว่าแต่ก่อนตระกูลหลิวกับตระกูลหลัวเคยเปิดศึกกันหลายครั้ง ปู่ของเขาฆ่าท่านลุงของเจ้า ต่อมาปู่ของเจ้าก็ได้ฆ่าปู่ของเขาเช่นกัน และศึกครั้งสุดท้ายท่านปู่ของเจ้ายังฆ่าบิดาของเขาอีก มิหนำซ้ำหลังจากฆ่าบิดาของเขาท่านปู่ของเจ้าก็ยังไล่ตามหมายจะฆ่าเขาอีก แต่หลัวหยางผู้นี้ยังโชคดีที่มีแม่ทัพใจกล้า ฝ่าวงล้อมมาช่วยจนหนีเข้าเมืองไปได้ หากท่านปู่ของเจ้าไม่เจ็บหนักจนถึงขั้นต้องรักษาตัวอยู่หลายวัน จนทัพจากเมืองเฉินมาถึงและช่วยหลัวหยางโหวต้านทัพท่านปู่ไว้ได้ ป่านี้หลัวหยางโหวคงตายไปในสงครามครั้งนั้นแล้ว ถึงบัดนี้สงครามนั้นจะผ่านมา7ปีแล้ว แต่ก็หารู้ใจเขาได้ไม่ว่าคิดแค้นสกุลเรามากเพียงใด”

“ท่านพ่ออย่าได้กังวล ในเมื่อวันนี้เขาตอบรับ ก็แสดงให้เห็นว่า เขาปล่อยวางความแค้นได้แล้วระดับหนึ่ง”

“คนที่ตอบรับหาใช่หลัวหยางโหวไม่ แต่เป็นมารดาของเขาหลัวฮูหยินที่ตอบรับกลับมา นั่นเพราะตอนที่ท่านทูตไปถึงเมืองอันหยาง หลัวหยางโหวได้ออกเดินทางไปปราบโจรกบฏแล้ว ทูตที่ส่งไปจึงได้สนทนากับหลัวฮูหยินแทน”

“ถ้าอย่างนั้นท่านพ่อก็ยิ่งไม่ต้องเป็นกังวล ลูกได้ข่าวว่าหลัวฮูหยินจิตใจกว้างขวาง มีเมตตา และรักษาคำพูด ในเมื่อหลัวฮูหยินตอบรับงานมงคลนี้ ก็ย่อมอยากประสานความสัมพันธ์อันดีของเราสองตระกูลเป็นแน่” หลิวหลิงลี่เอ่ยให้บิดาคลายกังวล ถึงจะไม่รู้ว่าความจริงแล้วที่หลัวฮูหยินตอบตกลงมานั้นมีเจตนาอันใดแอบแฝงอยู่ก็ตาม

“แต่บุตรชายของเขา..” ถึงจะได้ยินบุตรีเอ่ยปลอบ แต่หลิวตงก็ไม่อาจวางใจได้

“ท่านพ่ออย่าได้กังวลไป ตราบใดที่หลัวฮูหยินยังอยู่ บุตรชายของเขาย่อมไม่กล้าทำอันใดให้หลัวฮูหยินต้องเสียสัจจะ และข้าเชื่อว่าหลัวฮูหยินจะต้องมีอายุยืนยาว ดังนั้นนี่ก็จะกลายเป็นโอกาสของเรา ท่านพ่อตอนนี้อาลี่ก็โตมากแล้ว และชอบการต่อสู้ หลังจากนี้พวกเราควรปรับปรุงการทหารเสียใหม่ได้แล้ว เผื่อวันหน้าหากลูกไม่สามารถทำให้หลัวหยางโหวรักลูกได้ และยิ่งหากไม่สามารถละลายความแค้นระหว่างสองสกุลลงได้ อย่างน้อยเราก็ยังพอปกป้องตัวเองได้บ้าง”

“แต่เจ้าก็รู้ว่าพ่อ” น้ำเสียงของหลิวตงเจือไปด้วยความละอายใจ เพราะเขานั้นรู้ตัวดีว่าไม่มีความสามารถทางด้านการทหาร

หลิวตงยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยจบ ประตูที่ปิดอยู่ก็เปิดออก หนุ่มน้อยวัย15หนาวเดินเข้ามาในห้อง ถึงร่างกายจะไม่กำยำล่ำสันแต่ก็ไม่ดูอ่อนแอ่ปวกเปียก หน้าตาที่เนียนใสบวกกับรูปหน้าที่ได้รูป ทำให้เขากลายเป็นหนุ่มน้อยรูปงามคนหนึ่งทีเดียว

หลิวตงและหลิวหลิงลี่หันไปมองหนุ่มน้อยที่เปิดประตูเข้ามา คนทั้งสองไม่รู้เลยว่านานเท่าใดแล้ว ที่บุรุษอายุน้อยมาแอบฟังคนทั้งสองคุยกัน

“เจ้ามาได้อย่างไร ข้าให้แม่ทัพลี่หม่าพาเจ้าไปช่วยชาวบ้านที่ลี้ภัยน้ำท่วมที่อำเภอหาวหนานไม่ใช่หรือ?” บุรุษวัยกลางคนเอ่ยถามบุตรชาย

ตั้งแต่ที่พวกขุนนางเหล่านั้นร่วมกันกดดันให้หลิวตงส่งทูตไปเจรจา แม่ทัพที่อยู่ในที่ประชุม5คนก็คัดค้านไม่เห็นด้วยที่จะให้ส่งหลิวหลิงลี่ไปเพื่อแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ ถึงไม่ได้สู้รบกับกองทัพใหญ่มานาน แต่อย่างไรพวกเขาก็เคยร่วมทัพกับอดีตเจ้าเมืองสู้ศึกกับตระกูลหลัวมาหลายครั้ง ไหนเลยแม่ทัพทั้ง5จะยอมใช้สตรีเพื่อหลบหลีกศึกให้เสียเกียรติ

แต่ทว่าแม่ทัพทั้ง5ก็ไม่อาจคัดค้านเสียงขุนนางที่มากกว่าได้ เหล่าแม่ทัพหัวเสียจึงมาดื่มสุราและตั้งวงสนทนากัน หลิวเลี่ยงลี่ที่ชอบไปคลุกคลีกับเหล่าทหารจึงได้ยินเข้า จึงมาเล่าให้หลิวหลิงลี่ฟัง หวังว่าจะให้นางไปพูดกับบิดา เพื่อให้บิดาเปลี่ยนใจ แต่พี่สาวกลับปฏิเสธ หลิวเลี่ยงลี่เลยไปพูดกับบิดาด้วยตนเอง

แต่การพูดคุยด้วยอารมณ์ระหว่างบิดาและบุตรชาย ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น คำบางคำที่เป็นแผลใจของผู้เป็นบิดา เมื่อถูกบุตรชายกล่าวออกมา ย่อมสร้างความเดือดดาลให้กับบิดาเป็นธรรมดา หลิวตงจึงสั่งให้หลิวเลี่ยงลี่ไปช่วยชาวบ้านที่กำลังลี้ภัย

หลิวเลี่ยงลี่ที่โดนบิดาและพี่สาวตามใจมาตั้งแต่เด็ก เมื่อโดนผู้เป็นบิดาตวาดใส่แถมโดนไล่มีหรือจะไม่รู้สึกโกรธ แต่ก็ยอมไปเพราะเป็นคำสั่งของเจ้าเมือง แต่ครั้นได้ไปช่วยชาวบ้านครั้งนี้ ทำให้เขาได้เข้าใจความรู้สึกของผู้เป็นบิดาและภาระหน้าที่ของผู้เป็นเจ้าเมืองมากยิ่งขึ้น

5วันก่อน ณ อำเภอหาวหนาน

เมื่อหลิวเลี่ยงลี่และเหล่าทหารนำเสบียงสำหรับผู้ลี้ภัยมาถึง หลิวเลี่ยงลี่ก็นั่งเกวียนขนเสบียงนำอาหารไปแจกให้ผู้อพยพที่เดินทางมาไม่ถึงตัวอำเภอ เมื่อเขามองไปเห็นหญิงชรากับเด็กสาวอายุราวเจ็ดแปดหนาวนั่งพักอยู่ท้ายแถวขบวน จึงสั่งให้คนขับเกวียนเข้าไปใกล้ ๆ สตรีทั้งสอง ก่อนที่หลิวเลี่ยงลี่จะลงเดินเข้าไปหาและพาสตรีทั้งสองมานั่งเกวียนด้วยกัน

ครั้นขึ้นเกวียนมาแล้วหลิวเลี่ยงลี่ก็ได้เอ่ยชวนหญิงชราพูดคุยระหว่างทาง

“ท่านย่า ท่านอยู่กับหลานเพียงสองคนอย่างนั้นหรือ?”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ท่านโหวพ่ายรัก   ตอนที่28 สตรีที่เคยหมั้นหมาย

    “ฉินหลัน คารวะท่านป้าเจ้าค่ะ”หลิวหลิงลี่มองดูสตรีตรงหน้าก็ทำให้นางเข้าใจแล้วว่าเหตุใดที่ผ่านมาหลัวหยางโหวจึงไม่มีท่าทีสนใจนางเหมือนบุรุษคนอื่น ๆ ‘ที่แท้ท่านโหวก็เป็นบุรุษที่เจอดอกไม้งามสะพรั่งมามากนี่เอง ถึงได้หมางเมินข้าได้เช่นนี้ แล้วต่อไปข้าจะใช้กลยุทธ์หญิงงามได้อย่างไร’ หลิวหลิงลี่คิดแล้วก็เหนื่อยใจมากกว่าเก่า‘ไป๋ฉินหลัน’ คือบุตรสาวของเจ้าเมืองอันป๋อ รูปร่างบอบบางผิวขาวราวหยกเนื้อละเอียด ใบหน้าเล็กมนได้รูป จมูกโด่ง ริมฝีปากอวบอิ่ม ดูอ่อนหวานอ่อนโยนน่าทะนุถนอมหญิงสาวตระกูลหลิวก้มหน้าลงต่ำ เพราะยามนี้นางทำได้เพียงเรียกคะแนนความสงสารจากหลัวฮูหยินเท่านั้น เนื่องจากหญิงสาวดูจากสีหน้าของสตรีวัยกลางคนแล้ว ก็ดูเหมือนจะไม่พอใจที่บุตรชายพาสตรีผู้นี้มาอยู่ไม่น้อย ดังนั้นหญิงสาวจึงแสร้งทำเป็นน้อยเนื้อต่ำใจที่ถูกหลัวหยางโหวพาสตรีกลับมาหยามหน้ากันเช่นนี้สตรีวัยกลางคนหันมองลูกสะใภ้ โดยไม่สนใจจะตอบรับการทักทายของไป๋ฉินหลัน ครั้นเห็นสีหน้าเศร้าหมองของหลิวหลิงลี่ เฉินอี้เหรินจึงหันมาเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ“เหตุใดเจ้าจึงมากับอาหยางได้” เมื่อกล่าวกับไป๋ฉินหลันจบ เฉินอี้เหรินก็จ้องมองบุตรชายด้วยส

  • ท่านโหวพ่ายรัก   ตอนที่27 ท่านโหวพาสตรีกลับเมือง

    เมื่อการเจรจากับเยี่ยนป๋อหวายสำเร็จลุล่วง หลิวหลิงลี่ก็ไม่รอช้าที่จะเขียนจดหมายส่งไปให้ครอบครัวที่เมืองหลิวผิง หญิงสาวเขียนจดหมายขึ้นสองฉบับโดยฉบับแรกนั้นเขียนถามสารทุกข์สุกดิบทางบ้าน และเล่าเรื่องความเป็นอยู่ของตนเองในแง่ดีให้กับน้องชายและบิดาฟัง จดหมายฉบับนี้หญิงสาวมอบหมายให้ฟางเซียวเป็นผู้จัดหาคนส่งให้ส่วนจดหมายอีกฉบับหลิวหลิงลี่เขียนเตือนน้องชายในการตอบจดหมายที่จะส่งให้นางโดยการผ่านมาทางม้าเร็ว ว่าให้ระมัดระวังข้อความที่เขียนมา และหากมีเรื่องอันใดสำคัญที่เป็นความลับ ก็ให้น้องชายกับบิดาของนางส่งมาทางสำนักคุ้มกันสินค้าเยี่ยนได้ทุกเมื่อ2วันต่อมามีม้าเร็วจากกองทัพของหลัวหยางโหววิ่งมาแจ้งข่าว เพียงชาวเมืองเห็นม้าเร็วถือธงประจำกองทัพเข้าเมืองมาก็ต่างพากันหัวใจเต้นระทึก เพราะมีอยู่เพียงเหตุผลเดียวที่ม้าเร็วของกองทัพหลัวหยางโหวจะมา นั่นก็คือมาแจ้งผลการรบให้ชาวเมืองและหลัวฮูหยินได้ทราบถึงสามสี่ปีที่ผ่านมาม้าเร็วจากกองทัพของหลัวหยางโหวจะนำแต่ข่าวดีมาให้ ทว่าทุกครั้งที่มาชาวเมืองทุกคนก็อดที่จะรู้สึกหวั่นใจไม่ได้“ท่านโหวชนะศึกแล้ว บัดนี้เมืองฟางตงแตกแล้ว เสร็จศึกครั้งนี้ท่านโหวจะปลดเกราะให

  • ท่านโหวพ่ายรัก   ตอนที่26 ท่าทีที่คุ้นเคย

    หลังจากหลิวหลิงลี่เข้ามาอยู่ในจวนหลัวโหวได้10วัน หญิงสาวก็เริ่มคุ้นชินกับเฉินอี้เหรินมากยิ่งขึ้น อาจเป็นเพราะนางเสียมารดาไปตั้งแต่ยังเด็ก บวกกับสตรีคุมจวนหลัวโหวมิมีบุตรสาว ทั้งสองจึงเติมเต็มซึ่งกันและกันได้อย่างดี จนกลายเป็นความรักความเอ็นดูเกิดขึ้นภายในระยะเวลาสั้น ๆเฉินอี้เหรินที่อยู่ดูแลจวนหลัวโหวมานาน ตอนนี้นางเพิ่งรู้สึกว่าภายในจวนมิได้เงียบเหงาน่าเบื่อเหมือนดังแต่ก่อน เพราะที่ผ่านมาถึงนางจะมีบุตรชาย แต่ทว่าบุตรชายของนางคิดแต่จะออกรบทำศึกเพื่อแก้แค้น ทุกวันบุตรของนางจึงได้แต่อยู่ในค่ายทหารเพื่อฝึกฝนฝีมือตนเอง บางครั้งวันทั้งวันหญิงวัยกลางคนมิได้เห็นใบหน้าของบุตรชายเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นมิต้องพูดถึงว่าจะได้ยินเสียงของบุตรชายบ้างหรือไม่แต่ยามนี้เช้าจรดค่ำมีคนคอยเอาอกเอาใจพูดคุยกับนาง และที่สำคัญเฉินอี้เหรินมิต้องทานข้าวเพียงลำพังอีกแล้ว ดังนั้นมีหรือนางจะไม่รู้สึกชอบลูกสะใภ้คนนี้เช้าวันนี้หลังจากหลิวหลิงลี่ทานอาหารกับเฉินอี้เหรินเสร็จแล้ว หญิงสาวจึงชวนแม่สามีของตนออกไปเดินเล่นในเมืองอันหยาง หญิงสาวเอ่ยอย่างไม่คิดปิดบังว่านางนั้นอยากไปหาซื้อของพร้อมกระดาษเขียน

  • ท่านโหวพ่ายรัก   ตอนที่25 ชดเชยให้ลูกสะใภ้

    ความจริงเรื่องที่ขบวนรถม้าของเฉินอี้เหรินมาถึงเมืองอันหยางพร้อมกับขบวนรถม้าของหลิวหลิงลี่นั้นหาใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นเพราะหลัวฮูหยินตั้งใจจะให้ขบวนของนางมาถึงพร้อมกับขบวนรถม้าของลูกสะใภ้เมื่อรถม้าของหลัวฮูหยินผ่านกำแพงเมืองอันหยางเข้ามา ก็พบกับเหล่าขุนนางของเมืองอันหยางมายืนรออยู่ อีกทั้งสองข้างทางยังเต็มไปด้วยชาวเมืองอันหยางอีกด้วยเฉินอี้เหรินเดินนำหน้าหลิวหลิงลี่ลงมาจากรถม้า เพียงสตรีทั้งสองคนยืนบนพื้นอย่างมั่นคง เหล่าขุนนางและเหล่าชาวเมืองก็พากันโค้งตัวลงพลางเอ่ยพร้อมกัน“คารวะหลัวฮูหยิน ยินดีต้อนรับฮูหยินกลับเมืองขอรับ/เจ้าค่ะ”“คารวะนายหญิง ยินดีต้อนรับนายหญิงสู่เมืองอันหยางขอรับ/เจ้าค่ะ”การที่ขุนนางและชาวเมืองอันหยางออกมาต้อนรับหลัวฮูหยินนั้นอาจเป็นเรื่องปกติ แต่ทว่าการที่ผู้คนของเมืองอันหยางเอ่ยคำยินดีต้อนรับหลิวหลิงลี่นั้นหาใช่เรื่องปกติไม่แต่ที่ทุกคนทำเช่นนี้เป็นเพราะก่อนหน้านี้สองวัน เฉินอี้เหรินได้ส่งจดหมายมายังผู้ดูแลเมืองอันหยางว่าให้ติดประกาศคำพูดของนางให้ทั่วเมือง‘เดิมทีเมืองหลิว

  • ท่านโหวพ่ายรัก   ตอนที่24 การเจอกันของแม่สามีกับลูกสะใภ้

    วันต่อมาข้าวของที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้เมื่อวาน ถูกเหล่าทหารนำขึ้นเกวียนรถม้าบรรทุกของแต่เช้า ยามนี้รอเพียงหลิวหลิงลี่มาก็สามารถออกเดินทางได้ทันทีเวลาผ่านไปไม่ถึงหนึ่งเค่อ [1] หลิวหลิงลี่กับหญิงรับใช้ทั้งสองก็เดินออกมาหน้าประตูจวน เพียงหญิงสาวก้าวเท้าออกมาก็ต้องตกใจ เพราะไม่เพียงแค่ฟางเซียวกับเหล่าทหารที่ยืนรออยู่ ทว่ารองแม่ทัพที่หลัวหยางโหวทิ้งไว้ กับเหล่าขุนนางของเมืองหนานเหลียนก็ต่างมายืนรอส่งนางหลิวหลิงลี่ยอบกายลงเล็กน้อยเพื่อให้เกียรติผู้อาวุโสกว่า ทว่าเมื่อเหล่าคนที่มายืนรออยู่เห็นก็รีบโค้งตัวรับอย่างรวดเร็วด้วยความเกร็งใจ ทุกคนที่มาไม่คิดจะพูดอันใดกับหลิวหลิงลี่ให้มากความ พวกเขาแค่อวยพรไม่กี่คำเท่านั้น เพราะหากจะไม่มาเลยก็กลัวว่าหลัวหยางโหวรู้เข้า จะหาว่าไม่ให้เกียรติฮูหยินของเขา ดังนั้นจึงมาส่งพอเป็นพิธีส่วนแม่ทัพอีกสองคนที่หลัวหยางโหวให้อยู่ประจำการที่เมืองหนานเหลียน ตั้งใจมาส่งหลิวหลิงลี่จากใจ เพราะในเมื่อหลัวหยางโหวมีท่าทีเปลี่ยนไปกับสตรีตระกูลหลิวแล้ว พวกเขาก็ต้องให้เกียรตินางในฐานะนายหญิงให้ดีเมื่อหญิงสาวขึ้นรถม้าจนก

  • ท่านโหวพ่ายรัก   ตอนที่23 บุรุษชุดขาว

    เดิมทีฟางเซียวจะให้ทหารกลับไปเอารถม้ามารับหลิวหลิงลี่ แต่ทว่าหญิงสาวกลับอยากเดินย่อยอาหารที่ทานไปเมื่อครู่จึงได้เอ่ยปฏิเสธ ส่วนจงเอ่าก็ไม่คิดขัดเพราะอย่างไรนายหญิงของนางก็สวมชุดคลุมหนาอยู่แล้ว ดังนั้นเดินย่อยเสียหน่อยก็ถือเป็นเรื่องดีในขณะที่กำลังเดินกลับไปยังจวนเจ้าเมือง หลิวหลิงลี่ได้พบเด็กน้อยสองคนหน้าตามอมแมมเสื้อผ้าเปรอะเปื้อน แบ่งหมั่นโถวกันกินด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม จึงรู้สึกเอ็นดูในความไร้เดียงสา นางจึงเดินเข้าไปนำขนมที่ซื้อมายื่นให้ เด็กน้อยทั้งสองมองหน้ากันไปมา ก่อนจะรับขนมไว้แล้วโค้งตัวขอบคุณพลางยิ้มกว้าง‘เป็นเด็กนี่ช่างดีเสียจริง เพียงขนมเล็กน้อยก็ทำให้ยิ้มได้’ หลิวหลิงลี่คิดในใจครั้นเดินจากเด็กน้อยทั้งสองมาได้ไม่ไกลนัก หญิงสาวเห็นบุรุษชุดขาวกำลังแจกจ่ายหมั่นโถวให้กับคนยากไร้ จึงนึกถึงหมั่นโถวในมือของเด็กน้อยเมื่อครู่ขึ้นมาได้ นางจึงคิดอยากจะช่วยสมทบทุนให้บุรุษชุดขาว หลิวหลิงลี่จึงได้ให้จงเอ่านำตั๋วเงินไปมอบให้บุรุษที่แจกจ่ายหมั่นโถวอยู่“คุณชาย นายหญิงของข้าพรุ่งนี้ต้องออกเดินทางแล้ว จึงไม่สะดวกทำของมาแจกจ่ายให้ชาวบ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status