เขาเคยเจอแต่ผู้หญิงมากประสบการณ์ ไม่ต้องสอน ไม่ต้องสั่งก็ปรนนิบัติเขาอย่างดีทั้งปากและลิ้น รวมถึงมือที่เข้ามาช่วยร่วมด้วย พอมาเจอณัฐรวีที่ไม่เป็นงาน ทำอะไรไม่ได้ดังใจ เขาอาจรำคาญในตอนแรก ทว่าตอนนี้เขาเสียวไปทั้งท่อนลำ อยากจะฝังกายผสานเป็นหนึ่งเดียวกับณัฐรวีเสียตอนนี้ ซึ่งเขาก็ทำตามความคิด ดึงเอ็นใหญ่ออกจากปากสาว ขยับตัวมานั่งกลางร่างเล็ก จับเรียวขาสวยแยกไปด้านข้าง ก้มมองดอกไม้งามสีชมพูแรกแย้มที่เห็นแล้วใจเต้นรัว แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความตั้งใจเขาลดลง
“เธอเตรียมตัวได้รับบทเรียนจากฉันได้เลย”
ไม่มีความปรานีในน้ำเสียง ใบหน้าเขาดูเรียบทว่ากลับแฝงไว้ซึ่งความร้ายกาจ โหดเหี้ยม ณัฐรวีที่ไม่ทันตั้งตัวส่งเสียงกรีดร้องเจ็บปวด เมื่อเขานำท่อนเนื้อใหญ่แทรกเข้ามาในกลีบกุหลาบงาม แม้ว่าจะมีน้ำหวานอาบอยู่ทั่ว ความที่ไม่เคยผ่านมือชาย แล้วยังถูกกระทำรุนแรง ดันความเป็นเอกบุรุษเข้าไปทีเดียวจนสุดทาง อัดกระแทกจนหล่อนรู้สึกร้าวระบม ราวกับว่าของสงวนสาวฉีกขาด
“กรี๊ด!” เสียงของหล่อนดังเข้าหูเมฆา ทว่าเขาเมินเฉยกับเสียงร้องเจ็บปวด เมฆาขยับเคลื่อนกายหนักหน่วง แรงทุกจังหวะการเข้าออก ไม่สนใจว่าดอกไม้ช่อนี้ไร้ราคี สมควรทะนุถนอมมากกว่าย่ำยี ไม่เลย ไม่มีคำว่าปรานีสักนิดเดียว เขากระแทกใส่หนักๆ ดึงออกมาจนเกือบหลุดแล้วสวนกลับเข้าไปใหม่ ณัฐรวีทั้งเจ็บและจุก “ฮือ...ฮือ”
เสียงสะอื้นดังไม่หยุด แต่ไม่ว่าจะดังมากแค่ไหนก็ไม่อาจหยุดการกระทำของเมฆาได้ มือใหญ่กอบกุมทรวงอกสาว ทั้งบีบและเคล้นลงน้ำหนักมือแรงๆ ดึงแล้วขยำ เวลานี้ณัฐรวดีเจ็บทั้งส่วนบนและส่วนล่าง ทว่าเขายังไม่หนำใจ ความเจ็บแค่นี้น้อยนิด หล่อนต้องเจ็บและทรมาน
ปากเขาจึงทำหน้าที่นั้น สร้างความเจ็บปวดด้วยการกัดและดูดไปทั่วเนินอกสาว เกิดรอยจ้ำแดงหลายจุด รอยฟันก็มีให้เห็น เป็นการกัดให้เกิดรอยประทับ
“พี่เมฆ...ฮือ...พอค่ะ...รวีเจ็บ” ณัฐรวีร้องบอก เวลานี้หล่อนเจ็บไปทั่วสรรพางค์กาย ร้อนฉ่ามากตรงบริเวณใจกลางร่างสาวที่ยังถูกท่อนเอ็นใหญ่สาดความโกรธอย่างบ้าคลั่ง บดเบียด ถาโถมใส่ดุดัน
“เจ็บสิดี...ฉันชอบเสียงเธอตอนนี้...สะใจชะมัด” เมฆาพูดตามความรู้สึกตัวเอง ช่องทางเล็กที่เขาพร่าพรหมจรรย์ ไม่ได้ทำให้เมฆาอิ่มใจ แต่กลับสะใจที่ได้ความบริสุทธิ์ของลูกสาวอดีตเมียน้อยบิดา ที่นับต่อจากนี้ ณัฐรวีคือนางบำเรอของตน นางบำเรอที่จะต้องแบกรับความหื่นกระหาย ความรุนแรง เป็นที่ระบายความรู้สึกต่างๆ ลงบนเรือนร่างหล่อน “มันดีสุดยอด”
ในเมื่อไม่สนใจสิ่งใด เมฆาทะยานตัวตนชายชุดใหญ่ ระรัวเร็ว ถี่แรง อัดกระแทกแต่ละครั้งหญิงสาวจุกเข้าไปในท้อง เส้นทางสวาทเริ่มบวมจากการถูกกระทำรุนแรง ณัฐรวีทนรับความกักขฬะด้วยความร้าวระบมร่างกายและหัวใจ
ความเจ็บปวดของณัฐรวียังคงดำเนินต่อไป เมฆาก็เช่นกัน ไม่ผ่อนความเบาลงเลยสักนิดเดียว ความสะใจที่ได้เห็นหล่อนเสียใจ เสียน้ำตาและเจ็บปวด ยิ่งทำให้หัวใจเขาฮึกเหิม อยากให้หล่อนเจ็บมากกว่า ทรมานกับบทรักที่ไร้ซึ่งความสุขมากกว่านี้ เมฆาดึงแก่นกายใหญ่ออกจากรวงผึ้งบอบช้ำ จับร่างสาวนอนคว่ำ ก่อนดึงสะโพกกลมกลึงขึ้นสูง ใช้เข่าทั้งสองข้างของตนแยกโคนขาหล่อนให้เปิดกว้าง จากนั้นก็สอดใส่ความใหญ่โตเข้าไปในคูหารัก สะบั้นเอวใส่ชนิดที่ว่า ร่างงามขยับไปด้านหน้าตามแรงกระแทก
“โอ้...ดีชะมัด...สุดยอด...อา” คงมีเพียงเสียงครางแห่งความสุขของเขาที่ดังออกมา ส่วนเสียงของณัฐรวีคือเสียงแห่งความเจ็บปวด
“พี่มะ...เมฆ...จะ...เจ็บค่ะ...เจ็บ...ฮือ”
ณัฐรวีร้องเจ็บไม่หยุด เขาเองก็ไม่หยุดสาดใส่ความคลั่ง ตบแก้มก้นของหล่อนจนเกิดเสียงเผียะ บีบเคล้นหนักๆ เกิดรอยฝ่ามือขึ้นประทับทับซ้อน มือเล็กทั้งสองข้างที่ถูกรัดด้วยเข็มขัด ทำให้หล่อนไม่อาจยันตัวขึ้นมาได้ ใบหน้าสาวแนบลงบนที่นอน เสียดสีกับที่นอนตามจังหวะขับเคลื่อนจนรู้สึกร้อนไปทั้งแถบ
เมฆ่าคงคิดว่า ตนเองเป็นคนขี่ม้า เขาเอื้อมมือไปปลดเข็มขัดที่รัดข้อมือหล่อนออก ใช้มือดึงข้อมือของหล่อนด้วยมือทั้งสองข้างของตน ทำให้ร่างกายส่วนหน้าของสาวเจ้าลอยเหนือที่นอน จากนั้นก็ส่งแรงสวาทชุดใหญ่ใส่สาวร่างเล็ก เหมือนไม่หนำใจ เขาปล่อยข้อมือหล่อนเป็นอิสระข้างหนึ่ง ใช้มือของตัวเองจิกลงกลางหัวณัฐรวี เขาทำราวกับว่าตนเองกำลังบังคับม้า โยกเอวใส่ ดังข้อมือเล็ก พร้อมกับดึงศีรษะหล่อน บังคับทิศทางตามแต่ใจ
“อา...โคตรดีเลย...อูว์” เสียงเขาบ่งบอกถึงความสุข ความหฤหรรษ์กับเพลิงเสน่หาที่กำลังเสพสม เป็นครั้งแรกที่เขากระทำรุนแรงต่อสตรี ไม่มีความอ่อนโยน อ่อนนุ่มสักนิดเดียว
เวลาผ่านไปนานแค่ไหนณัฐรวีไม่รู้ รู้เพียงว่า ทุกวินาทีที่เมฆาอยู่เหนือร่างตน มันคือความทรมานอย่างสุดแสน เป็นความเจ็บปวดที่หล่อนเริ่มทนไม่ไหว อยากให้ทุกอย่างจบลงในวินาทีนี้ จบลงเสียที
สวรรค์เหมือนเมตตา เมฆากำลังเดินวิ่งเข้าเส้นชัย เขาขยับเอวรัวเร็ว ดึงหนอนใหญ่อ่อนนุ่มออกจากพุ่มดอกไม้
Chapter 83“เคยหรือยัง” อากัปกิริยาของมะปรางที่เขาสัมผัสได้ ทำให้เขารู้ว่า หล่อนไม่เคยผ่านมือชาย แต่ที่ถามเพื่อความแน่ใจว่าตนคิดไม่ผิด“ไม่...ไม่เคย” หล่อนตอบเสียงเบา ไม่กล้าสบตาเขา“งั้นก็ดี ฉันจะได้ไม่ใส่ถุง” พูดจบก็บดจูบเรียวปากอิ่มอีกครั้ง ครั้งนี้ยาวนานหลายนาทีกว่าจะละห่าง “ทำความคุ้นเคยกับมันหน่อยสิ”มะปรางที่กำลังงวยงงกับรสจูบ ไม่เข้าใจคำพูดของเขา จนกระทั่งเขาใช้เข่าทั้งสองข้างรับน้ำหนักตัวเอง ขยับมาคร่อมช่วงลำคอสาว ตัวตนชายอยู่ตรงหน้ามะปรางในระยะไม่ถึงคืบ หล่อนมองความอ่อนนุ่มอันแข็งขึงตาลุกวาว ตื่นเต้นกับขนาดของมันที่พอๆ กับข้อมือตน แถมมีเม็ดคล้ายไข่มุกฝังอยู่ในนั้นหลายเม็ด“เอามือจับมัน” เขาสั่ง มะปรางกล้าๆ กลัวๆ กับคำสั่งนี้ แต่ก็ทำตามในเวลาต่อมา มืออันสั่นเทาของหล่อนยกขึ้นสูง ค่อยๆ จับสิ่งนั้นไว้ในมือ “รูดสิ รูดขึ้นรูดลง”มะปรางทำตามคำบอก ขยับมือช้าๆ ไม่รีบร้อน ใบหน้าก้องเกียรติเคลิบเคลิ้ม ตาหลับพริ้ม เกิดเสียงครางพอใจแผ่วเบาออกมา“มันอาจใหญ่ไปสักหน่อย แต่เชื่อเถอะว่า เธอจะสนุกกับมัน” เขาพูดขณะเอื้อมมือไปเปิดลิ้นชักหัวเตียง หยิบวาสลีนกระปุกเล็กที่เขาไว้ใช้ทาริมฝีปากเวลาแห้ง
Chapter 82“ผิวเธอสวยจัง” เขาชื่นชมจากใจ ผิวกายมะปรางนวลเนียนสีน้ำผึ้งเนียนนุ่ม ชายหนุ่มทั่วไปอาจชอบผู้หญิงผิวขาว สำหรับก้องเกียรติกลับชอบผู้หญิงสีผิวนี้ ดูมีเสน่ห์อยู่ในตัว ลำแขนแข็งแรงโอบร่างเล็กทางด้านหลัง เขาก้มหน้าจูบหัวไหล่ไล่มายังบ่า ไต่ไปเรื่อยๆ จนถึงลำคอ ฝ่ามือเขาลูบไปมาตรงหน้าท้องเนียนเรียบ ไล่มือขึ้นสูงไปถึงดอกบัวสองดอก “ว้าว...ซ่อนรูปซะด้วย ใหญ่เต็มมือดีจัง”คนถูกจูบตัวสั่น และสั่นหนักมากขึ้นเมื่อทรวงอกสาวถูกมือใหญ่เคล้นคลึงจากเบามือเป็นหนักมือขึ้นเรื่อยๆ มะปรางเริ่มรู้ชะตาตัวเองว่า เขาคงไม่ปล่อยให้ตนหลุดมือไปแน่ เป็นความจำยอมที่ตนต้องทำใจ และพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้รินไหลร่างเล็กถูกผ่อนให้นอนบนที่นอน ก้องเกียรติกวาดตามองร่างกายส่วนหน้าที่สวยงามตระการตา ดอกบัวสองดอกอวบใหญ่ ยอดถันสีน้ำตาลอ่อนเหมาะสมกับสีผิวเป็นสิ่งโดดเด่นจนเขาอยากนำปากไปลิ้มลอง ไล่สายตาต่ำลงมาจนพบเจอกับแพรไหมสีดำปกคลุมดอกไม้ช่องามที่เนินนูนสวยงาม จนเขาอยากกลายร่างเป็นภมรโบกโบยบินไปเกาะแล้วดูดเกสรชิมน้ำหวานก้องเกียรติไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปนาน เขาเอนตัวทาบทับเรือนร่างสาว ไม่ได้จูบปากหล่อนแต่กลับจูบทรวงอกคู่สวย
Chapter 81“ฉันจะเปลี่ยนเสียงด่าให้เป็นเสียงคราง อยากรู้นักว่า เสียงครางเธอจะดังแค่ไหน”คำพูดก้องเกียรติทำให้มะปรางใจสั่นและเต้นรัว ตอนนี้หล่อนเสียเปรียบเขาทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นทางร่างกายที่ตัวหล่อนเล็กกว่าเขาหลายเท่า ด้านเรี่ยวแรงที่น้อยนิดไม่อาจต้านทานแรงพลังของเขาได้มะปรางตกใจมากขึ้น เมื่อเขาประกบปากลงมาอย่างรวดเร็วราวกับงูฉก เขาสอดลิ้นเข้าไปในช่องปากสาวที่อ้าปากค้างตามความรู้สึกเจ้าตัว เป็นโอกาสอันดีที่ก้องเกียรติได้สำรวจความหอมหวาน กระหวัดลิ้นพันรัดลิ้นเล็กที่ส่ายหนีด้วยความประหม่ากึ่งกลัวก้องเกียรติรู้สึกเพลินกับจุมพิตครั้งนี้ โพรงปากสาวทั้งหอมทั้งหวาน ประหนึ่งเขากำลังดื่มน้ำที่โรยด้วยดอกมะลิ กลิ่นสัมผัสกระตุ้นโฮโมนเพศในกาย ร่างกายเขาตื่นตัวขึ้นมาทันทีทันใด ส่วนใจกลางร่างลุกโชนอวดตัวภายในกางเกงชั้นในในยามวิกฤตมะปรางตั้งสติ แม้ว่าหัวหล่อนจะรู้สึกหมุนเคว้งกับจุมพิตแรกในชีวิตที่ถูกชิงไปด้วยน้ำมือของชายหนุ่มที่ตนเกลียดชัง หาหล่อนไม่หยุดการกระทำของเขา ความสาวมีอันต้องสูญสลายไม่เหลือไว้ให้คนที่ตนรัก มะปรางจะแก้ไขสถานการณ์นี้ได้อย่างไร หล่อนกำลังใช้สติเพื่อหาทางออก ซึ่งมันยากเหลือเก
Chapter 80มะปรางเดินหน้างอออกมาจากไซต์งาน หล่อนตั้งใจว่าจะอยู่ให้กำลังใจเมฆาสักชั่วโมง เติมกำลังใจให้ตัวเองก่อนกลับไปทำงาน แต่ดันมาเจอก้องเกียรติ เจ้านายจอมวายร้ายที่ใครๆ ก็ไม่ชอบหน้า แม้ว่านิสัยเขาเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ทว่าเรื่องที่หล่อนรับรู้มา มันยังฝังอยู่ในหัว เกลียดก็คือเกลียด เรื่องที่ว่านั้นคือเรื่องที่ก้องเกียรติ ฉุดพี่สาวเพื่อนไปข่มเหงรังแกแล้วไม่รับผิดชอบ ทำให้พี่สาวเพื่อนหนีความอับอายไปอยู่จังหวัดอื่น และไม่มีใครเอาผิดก้องเกียรติได้แม้แต่กฎหมายบ้านเมือง “คนบ้าเอ๊ย ไม่น่ามาเลย” มะปรางบ่นอุบ เดินไปที่จักรยานของตน พอเห็นล้อหลังแบนติดพื้น มะปรางยิ่งหัวเสียหนัก “อะไรวะ ยางแบน โอ๊ย! กูจะบ้า” ยางแบนก็เท่ากับว่า มะปรางต้องเดินกลับไปทำงาน ซึ่งทางค่อนข้างไกล หนำซ้ำต้องเข็นจักรยานไปด้วย “เพราะเจอตัวซวยแท้ๆ เลยมีแต่เรื่องซวยๆ” หล่อนบ่นค่อนข้างดัง ดังพอที่คนเดินตามหลังมาได้ยิน “ใครตัวซวยของเธอมิทราบ” มะปรางกลอกตาขึ้นบนเมื่อได้ยินเสียง ‘ตัวซวย’ “ใครอยากรับก็รับไปสิ” มะปรางโต้กลับ กำลังจะเข็นจักรยานกลับไปทำงานที่ไร่ “จะไปไหน
Chapter 79 “ลุงเมฆฮะ ลุงเมฆ” เมฆินทร์กระโดดลงจากรถมอเตอร์ไซค์ทันทีที่ก้องเกียรติจอดรถ ก่อนที่เด็กชายจะวิ่งเข้าไปในไซต์งานก่อสร้างที่เริ่มเป็นรูปเป็นร่างรีสอร์ต ก้องเกียรติมองหลานรักที่ดีใจวิ่งเข้าไปด้านในแล้วถอนหายใจ “ลุงเมฆฮะ ลุงเมฆ” เจ้าของชื่อกำลังนั่งก่ออิฐบล็อกอยู่ด้านในจำได้แม่นว่าเจ้าของเสียงนี้คือใคร เขาหยุดทำงานเงี่ยหูฟังเพราะคิดว่าตนอาจหูฟาด เป็นไปไม่ได้ที่เมฆินทร์จะมาที่นี่ ทว่าคำพูดของโหน่งทำให้ความคิดที่ว่า หูฟาดเปลี่ยนไป “พี่เมฆ ใครเรียกพี่น่ะ เรียกว่าลุงเมฆด้วย” โหน่งที่ได้ยินเช่นกันเอ่ยถาม “นายได้ยินเหรอ” “ได้ยินสิพี่ เรียกเสียงเบาซะที่ไหน” โหน่งตอบ “นี่ไง ดังอีกแล้ว” “ลุงเมฆอยู่ไหนฮะ น้องคีย์มาหาลุงเมฆฮะ”เมฆาทิ้งทุกอย่างในมือ รีบวิ่งไปหาต้นเสียงที่วิ่งเข้ามาด้านใน โหน่งเกาหัวเมื่อเห็นท่าทางรีบร้อนของเมฆา จึงเดินตามไปดูเพื่อให้หายสงสัย“น้องคีย์” เมฆาเรียกชื่อเล่นบุตรชาย อ้าแขนรับร่างเล็กที่โผเข้าหา“ลุงเมฆ” เมฆินทร์กอดเมฆาแน่น ราวกับว่าอยากซึมซับความอบอุ่นจากกายหนา ความอบอุ่นที่อยากสัมผัสมาหลายวันเมฆากอดตอ
Chapter 78หลายวันที่เมฆาทำงาน ใจเขาคิดถึงณัฐรวีกับเมฆินทร์มาก เฝ้ารอว่าวันใดจะได้พบเจอ เขาอยากกอด อยากหอมและอยากเล่นกับลูกชายใจแทบขาด ทำงานอย่างมีความหวังว่า ณัฐรวีจะพาเมฆินทร์มาไล่กอบกุล ตามที่อนันต์บอกกับตนว่า เดือนหนึ่งจะมาสองถึงสามครั้ง และค้างคืนครั้งหนึ่งต่างกันไป สองวันบ้าง สามวันบ้าง ยาวเป็นสัปดาห์ก็มี หากสองแม่ลูกมาที่นี่ แค่เขาแอบมองอยู่ห่างๆ แค่นี้ก็สุขใจแล้ว เปรียบเสมือนเติมพลังกำลังใจให้เมฆาก็ว่าได้ “เป็นอะไรพี่เมฆ หน้าตาเหมือนคิดถึงใครเลย” โหน่งเพื่อนร่วมงานก่อสร้างถามเมฆา “หน้าพี่บอกอย่างนั้นเหรอ” เมฆาอดสงสัยไม่ได้ที่โหน่งดูหน้าตนออก “ก็หน้าพี่เหมือนไอ้แมนไง หน้ามันตอนคิดถึงลูกเมียก็แบบนี้แหละ เศร้า ตาละห้อย หน้าตาเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่” โหน่งตอบ “ฉันพูดถูกไหมล่ะ” “เออถูก” เมฆาตอบ “พี่กำลังคิดถึงลูกคิดถึงเมีย คิดถึงมากด้วย” “วันหยุดก็กลับไปหาสิ หรือไม่ก็โทรไปหาจะได้หายคิดถึง ไอ้แมนมันก็ทำบ่อยๆ” “ถ้าโทรไปหาได้ก็ดีสิ” เมฆาพูดขึ้น หน้าเครียดขึ้นมาทันใด “เมียพี่โกรธเกลียดพี่มาก โทรไปคงไม่รับหรอก แล้วก็คงไม่ให้พี่เ