เมื่อเข้ามาถึงภายในบ้าน เธอจึงรู้ว่าประตูและหน้าต่างบานใหญ่แต่ละบานเป็นกระจกบานเลื่อน ผ้าม่านสีขาวนวลส่งผลให้ภายในบ้านแลดูสว่าง มีประตูด้านหนึ่งของบ้านเชื่อมต่อกับระเบียงกว้างๆที่มีโต๊ะกลมสีขาว พร้อมกับเก้าอี้อีกสองตัว มองเลยผ่านไปเห็นทิวเขาเป็นแนวอยู่ไกลๆ ไอรักเดินไปที่ระเบียงสูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆแล้วผ่อนออกช้าๆ หญิงสาวคิดทบทวนเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นกับชีวิตตัวเองในวันนี้ นี่เธอกำลังฝันอยู่หรือเปล่า เมื่อเช้าเธออยู่ที่บ้านของตนเอง แต่ตอนนี้เธอมาอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ แล้วทำไมเธอต้องมาที่นี่ด้วย เพราะอีตาธีร์ภาณุนั่นคนเดียว อยากจะร้องไห้เสียจริงๆ อยากจะบอกป๊าให้ได้รู้ว่า เจ้าบ่าวที่ป๊าเลือกให้ไม่ได้ถูกใจลูกสาวคนนี้เลยสักนิด
“นายหญิงคะ เชิญข้างในเถอะค่ะ ย่างเข้าหน้าหนาวอย่างนี้พอแดดร่มลมตกอากาศจะเย็นมาก วันนี้ลมหนาวพัดแรง เดี๋ยวจะไม่สบายได้นะคะ” ป้าบัวพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วง
“ค่ะป้าบัว” ไอรักเหนื่อยมาทั้งวันแล้วเธอไม่อยากจะพูดอะไร ตอนนี้เธออยากพักผ่อน
“ป้าเตรียมน้ำอุ่นให้แล้ว นายหญิงอาบน้ำก่อน แล้วค่อยมาทานข้าวนะคะ ป้าจะทำกับข้าวให้สุดฝีมือเลยค่ะ ห้องน้ำอยู่ทางด้านนี้นะคะ อยู่ในห้องนอนค่ะ”
ไอรักถอนหายใจแล้วเดินตามป้าบัวเข้าไปภายในตัวบ้าน ภายในบ้านมีชุดเก้าอี้ไม้โต๊ะกลมอีกชุดอยู่มุมห้อง ตั้งไว้ติดริมหน้าต่างกระจก และมีโซฟายาวสีน้ำตาลเข้มวางอยู่อีกมุมด้านหนึ่ง เมื่อเปิดประตูห้องนอนเข้าไป ที่ประตูด้านข้างเตียงนอนกว้าง มีระเบียงเชื่อมต่อออกไป มองเห็นทิวทัศน์ของทิวเขาที่สวยงามอีกมุมหนึ่ง แล้วเธอก็คิดอะไรบางอย่างได้
“ป้าบัวคะ บ้านหลังเล็กนี้มีกี่ห้องนอนคะ”
“มีห้องของนายเล็กห้องเดียวนี่แหละค่ะ” ไอรักชักสีหน้าไม่พอใจ แต่ป้าบัวก็พูดตัดบทก่อน
“นายหญิงอาบน้ำให้สดชื่นก่อนนะคะ ป้าขอตัวไปเตรียมอาหารเย็นให้” ป้าบัวพูดจบก็เดินเลี่ยงไป ปล่อยให้ไอรักถอนหายใจเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ในวันนี้ อย่างที่ป้าบัวบอกนั่นแหละ เธอขออาบน้ำให้สดชื่นก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที วันนี้นั่งรถมาทั้งวันเหนื่อยเหลือเกิน
หญิงชราเดินลงจากบ้านหลังเล็ก เธอไม่สนใจหรอกว่าผู้หญิงคนนี้คือใคร แต่รู้ว่าต้องเป็นคนสำคัญมากของผู้เป็นนายของไร่ เพราะตั้งแต่ธีร์ภาณุสร้างไร่แสงตะวันขึ้นมา บนเนื้อที่ส่วนตัวประมาณพันกว่าไร่ ที่เสี่ยธงชัยผู้เป็นพ่อโอนกรรมสิทธิ์ให้เพื่อทำไร่อ้อย และแบ่งพื้นที่ไร่บางส่วนจัดเป็นที่พักและสวนดอกไม้นานาพันธุ์ เพื่อเป็นที่พักผ่อนส่วนตัวสำหรับตนเองด้วย ป้าบัวก็ไม่เคยเห็นเขาพาใครมาพักด้วยเลย ธีร์ภาณุต้องการให้ที่นี่เป็นสถานที่ส่วนตัวจริงๆ จะมีก็แต่คนงานในไร่หลายสิบชีวิต ที่อาศัยอยู่บ้านพักคนงานอีกด้านหนึ่งของไร่ และป้าบัวกับเด็กหญิงน้อยหน่าที่คอยรับใช้อยู่บนบ้าน และพักอยู่บ้านหลังเล็กๆอีกหลัง ที่ปลูกไว้ห่างจากตัวบ้านของเจ้านายหนุ่มพอสมควร
เมื่อป้าบัวเดินลงจากบ้านหลังเล็กที่น่าอยู่ ก็ตรงไปทางบ้านของตนเอง ตั้งใจจะไปเตรียมอาหารให้เจ้านายหนุ่มและแขกคนสำคัญ
“ป้าบัว หนูไอเป็นยังไงบ้างครับ” ป้าบัวชะงักเท้าหันกลับมาตอบคำถาม
“นายหญิงกำลังอาบน้ำอยู่ค่ะ ป้าจะไปเตรียมอาหารเย็นให้นะคะ นายเล็กอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมคะ”
“อะไรก็ได้ครับ ป้าบัวทำอะไรก็อร่อยไปหมดทุกอย่างนั่นล่ะครับ” ป้าบัวมองสีหน้ายิ้มแย้มของชายหนุ่ม แล้วยิ้มตามแต่ไม่ได้พูดอะไรต่อ หญิงชรารีบเดินกลับบ้านเพื่อไปเตรียมอาหารเย็น
ธีร์ภาณุเดินขึ้นบ้านอย่างอารมณ์ดี หลายวันมาแล้วที่เขาไม่ได้มาพักที่บ้านหลังเล็กนี้ เพราะมัวแต่ยุ่งกับธุรกิจค้าข้าวของบิดา ยิ่งช่วงนี้เป็นฤดูเก็บเกี่ยว ธุรกิจครอบครัวก็ยิ่งรัดตัวเป็นทวีคูณ แต่เนื่องจากว่ามีภารกิจที่ยิ่งใหญ่กว่า ที่เขาได้รับคำสั่งมาคือ ให้เขาต้องไปทำความรู้จักกับว่าที่เจ้าสาวของตัวเอง นี่ถ้าพ่อรู้ว่าเขาทำตามคำสั่งของพ่ออย่างเคร่งครัด โดยการพาว่าที่เจ้าสาวมาเรียนรู้ถึงบ้านตนเองพ่อคงไม่ว่าอะไรนะ และคาดว่าน่าจะใช้เวลาทำความรู้จักกันสักสองหรือสามสัปดาห์ แต่เพื่อความบริสุทธิ์ใจของตนเอง ชายหนุ่มจึงชะงักเท้าที่จะก้าวเข้าบ้าน แล้วกดโทรศัพท์ติดต่อบิดาของตน เพื่อเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟัง
“ครับพ่อ ผมจะไม่ทำอะไรล่วงเกินน้องแน่นอนครับ” ชายหนุ่มรับคำผู้เป็นพ่อที่กำชับมาจากปลายสายว่า อย่าทำอะไรลูกสาวของเพื่อนพ่อให้ต้องเสื่อมเสีย
“ครับ...ฝากพี่ไทดูแลเรื่องงานทางนั้นแทนผมก่อนนะครับ สวัสดีครับ” ธีร์ภาณุยังเป็นห่วงเรื่องงานอยู่ แต่เขาก็วางใจเพราะยังมีพี่ชายดูแลกิจการช่วยบิดาอยู่ และเขาเองจะได้มีเวลาเรียนรู้กับว่าที่เจ้าสาวอย่างไม่ต้องกังวลเรื่องงาน เมื่อคิดถึงว่าที่เจ้าสาวเขายิ้มเล็กน้อย ก่อนที่จะเปิดประตูเดินเข้าบ้านไป
“ป้าบัวคะ” ไอรักตะโกนเรียกมาจากในห้องน้ำ เมื่อได้ยินเสียงเปิดปิดประตูห้องนอน
“ป้าบัวคะ” ไอรักเรียกป้าบัวซ้ำ แต่ไม่ได้ยินเสียงขานรับ หญิงสาวรีบลุกออกจากอ่างอาบน้ำอุ่นที่เธอลงไปนอนแช่สักพักแล้ว ซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกสบายเนื้อตัวขึ้นมาหน่อย จากที่ต้องเมื่อยล้าจากการนั่งรถนานๆ ไม่ใช่สินอนหลับบนรถต่างหาก คิดแล้วก็น่าเจ็บใจ นี่ถ้าเธอไม่ได้นอนหลับ คงไม่ต้องมาติดกับดักของนายธีร์ภาณุอย่างนี้หรอก
“คุณภูขา น้ำทรมานจัง อย่าแกล้งกันแบบนี้สิคะ” เมื่อความเสียวแปลบปลาบก่อตัวอยู่ในความรู้สึก และยังคงวนเวียนอยู่เช่นนั้นราวกับหาทางออกไม่ได้ เพราะคนตัวใหญ่ไม่ใส่ใจที่จะส่งเธอให้ถึงที่สุดของเวิ้งฟ้าเสียที ภูชิตยังคงซุกไซ้อกอวบ ทำตัวเป็นแมลงน่ารักตัวผู้ ฝากฝังรอยรักไว้บนร่างภรรยาตัวเล็ก“อ๊ะ! คุณภูขา ช่วยน้ำด้วย อื้อ...” น่านน้ำแอ่นหยัดสะโพกขึ้น มือเล็กกดลงที่สะโพกแน่นตึงของสามี บังคับให้เขาเข้ามาในร่างกายตัวเองให้ลึกล้ำกว่านี้“ก็น้ำบอกว่าเหนื่อย เร่งเร็วเดี๋ยวก็หาว่าผมแกล้งอีก”“โอย...คุณภูขา น้ำ...น้ำ...” น่านน้ำครางแผ่วขาดห้วง จังหวะรักช้าเนิบแต่หนักแน่น ทำให้ทุกครั้งที่ลำรักแกร่งแทรกลึกสุดทางในร่องรักหวานฉ่ำ กายสาวจึงต้องสั่นสะท้านทุกครั้ง ภูชิตชะโงกหน้าอยู่เหนือร่างภรรยา เขายิ้มร้ายกาจ“คุณภูแกล้งน้ำ อ๊า! เร็วกว่านี้นะคะ อื้อ...น้ำทำเองก็ได้” เมื่อรู้ว่าถูกแกล้ง และเรียกร้องเท่าไรสามีก็ไม้ยอมเร่งจังหวะรักดั่งใจเสียที ร่างเล็กจึงออกแรงทั้งหมดพลิกร่างคนขี้แกล้งให้อยู่ใต้ร่างตน สมใจคนตัวโตเขาล่ะ“เอาเลยครับที่รัก ผมยอมพลีกายให้น้ำเชย
“เรายังไม่ได้ราตรีสวัสดิ์กันเลยนะครับ”“เราราตรีสวัสดิ์กันมาทั้งวันแล้วค่ะ” ไอรักรู้ว่าสามีหมายถึงอะไร ก็มันทั้งวันจริงๆนะ เขาขยันทำเรื่องหื่นๆเกินไปแล้ว“ไม่เอาๆ ไม่นับรวมกันสิครับ มันคนละเวลา” ไอรักขยับกายพลิกร่างหันหลังให้สามี ไม่อยากคุยกับมนุษย์หื่นแล้ว“หนูไอครับ” ธีร์ภาณุกระแซะร่างเบียดภรรยา กระโปรงชุดนอนถูกรั้งขึ้นไปกองที่เอวคอด ซับในตัวจิ๋วถูกดึงออกจากร่างงามอย่างรวดเร็ว แล้วจัดการสะบัดกางเกงนอนตัวเดียวออกจากร่างใหญ่ของตน“อ๊าย! พี่ธีร์” ไอรักตีมือใหญ่ของสามีสุดแรง ธีร์ภาณุไม่สะทกสะท้าน ใบหน้าหล่อเหลาซุกไซ้ไปตามลำคอระหงด้านหลัง ลำกายแกร่งเสียดสีอยู่ที่สะโพกหนั่นแน่น“ถ้าไม่ได้ราตรีสวัสดิ์ ไม่หลับแน่ๆ อืมมม”“พะ...พี่ธีร์ อ๊ะ! คะ...คนอะไร หน้ามึนที่สุด” คนถูกต่อว่าว่าหน้ามึนรุกเร็วรุกหนัก ธีร์ภาณุจับร่างภรรยาพลิกให้นอนหงายทับร่างของตนเอง สองมือใหญ่กอบกุมทรวงอกอวบได้ถนัดถนี่ เคล้นคลึงบีบเฟ้นเท่าที่พอใจ แล้วค่อยๆเลื่อนมือลงไปยังกลางกายสาว จับต้นขาขาวแยกกว้าง เสยสะโพกส่งความแข็งแกร่งเสียดสีกับกลีบดอกไม้งาม“อ๊า! พี่ธีร์” ไอร
“ก็บอกว่าจะนอนกอดเฉยๆไง นอนได้แล้วครับ” ปลัดเมฆาเอื้อมมือปิดสวิตซ์ไฟ กอดกระชับร่างบางแนบอก จุมพิตหนักๆที่หน้าผากมน เขาไม่ทำอะไรมากกว่านั้นตามสัญญาที่ให้กับภรรยา ความอุ่นจากเรือนร่างกำยำแผ่ซ่านมายังร่างเล็กในอ้อมกอด ความละมุนหวานอบอวลอยู่รอบกายจนพิมพ์รพีพรรู้สึกอบอุ่นถึงหัวใจ“พี่รักพิมพ์นะครับ” เสียงทุ้มเอื้อนเอ่ยเบาๆ พิมพ์รพีพรยิ้มอยู่กับอกกว้างของสามี หญิงสาวขยับตัวบดเบียดหาความอบอุ่นจากร่างใหญ่“พิมพ์ก็รักพี่เมฆค่ะ” มือซุกซนของพิมพ์รพีพรลูบไล้แผ่นอกกำยำ หญิงสาวผงกศีรษะขึ้นจุมพิตปลายคางสากของสามีเบาๆ“ราตรีสวัสดิ์นะคะ” เธอไม่ได้โกรธอะไรสามีมากมายนักหรอก แต่รู้สึกระอาใจกับความหื่นของสามีมากกว่า เขาทำให้เธอเสพติดความรู้สึกดีๆจากตัวเขา จนไม่เคยที่จะปฏิเสธความต้องการของเขาได้สักครั้ง แต่คืนนี้ปลัดเมฆาทำตัวเป็นสามีที่ดี ทำตามข้อตกลงไม่รบกวนเธอ คนตัวใหญ่เลยดูน่ารักในสายตาภรรยาตัวเล็กขึ้นมาทันทียุบหนอ ยุบหนอ ยุบหนอก็อะไรๆมันร่ำร้องอยากจะพองใจจะขาดอยู่แล้ว แล้วมันก็ไม่ค่อยเชื่อฟังคำสั่งของเขาเอาเสียเลย ปลัดเมฆาโก่งสะโพกออกจากร่างภรรยา ป้องกันไ
“พี่เมฆ! คอเป็นอะไรคะ ดูสิแดงเป็นจ้ำตั้งหลายจุด หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก เจ็ด โอ้โห! โดนอะไรกัดหรือแพ้อะไรหรือเปล่าคะ” ปลัดเมฆาแทบจะสำลักอาหารที่เพิ่งตักเข้าปาก ก็ไอ้ที่น่านน้ำกำลังสงสัยนั่นแหละคือสาเหตุการงอนของภรรยา ภูชิตมองตามนิ้วเล็กของภรรยาที่ชี้ไปยังลำคอหนาของปลัดเมฆา แล้วยิ้มอย่างรู้ทัน“เอ่อ...โดนแมลงกัดน่ะครับ” ปลัดเมฆาอ้อมแอ้มตอบ ด้วยความหวาดกลัวต่อรังสีอำมหิตของภรรยาที่นั่งเคียงข้างกัน“แมลงอะไรคะ กัดเฉพาะที่คอ” น่านน้ำเอียงคอสงสัยหนัก พิมพ์รพีพรแทบจะมุดลงใต้โต๊ะ เพราะทั้งภูชิต ธีร์ภาณุ และไอรักมองมายิ้มๆ ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนพอจะเดาได้ว่าเกิดจากเธอแน่ๆ แต่ยายน่านน้ำ ยายเพื่อนโก๊ะ...แกจะทักทำไม“แมลงน่ารักครับคุณน้ำ” ปลัดเมฆาบอกยิ้มๆ น่านน้ำงงเข้าไปใหญ่“แมลงน่ารัก!? แมลงอะไรคะ ไม่เห็นจะเ
“อ๊าย...พี่ธีร์” ไอรักร้องเสียงหลง ความรุ่มร้อนแข็งแกร่งถูไถไปกับกลีบดอกไม้งาม และยังบดบี้เกสรกลางกายสาว ทำเอาเธอขนลุกเกรียว แขนเล็กต้องค้ำยันไปด้านหลัง ผ้าขนหนูหลุดจากมือ อกอวบแอ่นขึ้นอัตโนมัติเพราะต้องทรงตัวรับน้ำหนักสามีที่จู่โจมโดยไม่ทันระวังตัว เปิดโอกาสให้ใบหน้าหล่อเหลาของสามีซุกซบลงดูดดึงอกนุ่มหยุ่นทันที ลิ้นสากตวัดรัวเร่งบนเม็ดลูกกวาดสีสวย อีกด้านถูกบีบบี้คีบดึงด้วนสัมผัสเร้าอารมณ์“อ๊า...พี่ธีร์หยุดก่อนค่ะ อื๊อ!...พี่ธีร์” เสียงห้ามปรามของคนแรงน้อยหรือจะสู้การรุกเร้าของคนแรงเยอะกว่าได้ ที่สุดแล้วไอรักก็ยกแขนทั้งสองขึ้นมาโอบร่างสามีเพื่อทรงตัวแทน เพราะคนตัวโตเริ่มรุกแรงรุกเร็วเป็นจริงเป็นจังกลิ่นหอมอบอวลอยู่ทั่วห้อง ไม่ได้หอมเท่าร่างเล็กที่อยู่ในอ้อมกอดสักนิด ธีร์ภาณุซุกไซ้ใบหน้าไปตามร่างขาวเนียนหอมกรุ่น คนตัวโตย่อตัวลงนั่งคุกเข่า ใบหน้าหล่อเข้มอยู่ตรงกลางกายสาวพอดี สะโพกสวยนั่งอยู่ขอบเตียงหมิ่นเหม่ ขาเรียวถูกจับแยกกว้าง ธีร์ภาณุใช้สองมือประคองยกต้นขาอวบขาวทั้งสองข้างไว้ ปลายเท้าของไอรักจึงลอยสูงอยู่กลางอากาศ ส่งผลให้กลีบกุหลาบงามสีสดฉ่ำเยิ้มเบ่งบานอยู่ตรงหน้า
“อ๊ะ! พี่เมฆ!” แล้วจะเอาแรงที่ไหนไปต่อต้าน ก็ในเมื่อร่างสอดติดตรึงค้างคากันอยู่ คนที่กำลังเหนือกว่าจึงเริ่มขยับโยก พร้อมกับก้มหน้าลงนัวเนียกับอกอวบอย่างเอาแต่ใจ“พิมพ์จ๋า พี่รักพิมพ์ รักๆๆ” คำบอกรักมาพร้อมกับจังหวะกระแทกรุนแรงตามอารมณ์ร้อน พิมพ์รพีพรกอดเกี่ยวร่างสามีแน่น“อื้อ...พะ...พี่เมฆ พิมพ์...มะ...ไม่ไหวแล้วนะ อื้อ” เสียงหวานครางประท้วงกระท่อนกระแท่น เพราะแรงรุกจากสามีทำให้ภรรยาตัวเล็กสั่นคลอนไปทั้งร่าง พิมพ์รพีพรถูกส่งไปยังวิมานแสงดาวพรายพร่างครั้งแล้วครั้งเล่า แต่สามีจอมหื่นกลับบรรเลงเพลงรักต่อเนื่องไม่ยอมหยุด ทุกครั้งที่ถึงที่สุดของความสุขสม เธอเลือกวิธีขบเม้มลำคอหนาเพื่อเก็บเสียงกรีดร้องไว้ แต่หากหญิงสาวฉุกคิดได้สักนิด เธอจะรู้ว่าไม่น่าเลือกวิธีเก็บเสียงแบบนี้เลย เพราะมันกลายเป็นหลักฐานความภูมิใจสำหรับสามีตัวใหญ่ แต่เป็นหลักฐานที่น่าเขินอายสำหรับภรรยาตัวเล็ก“เสร็จหรือยังคะพี่ธีร์”“เสร็จแล้วครับ” คนตัวสูงเดินยิ้มกว้างออกมาจากห้องน้ำ ภรรยาสาวของเขาอยากใช้บริการสปาอบสมุนไพรของรีสอร์ต คนเป็นสามีจึงต้องตามใจ ทั้งสองเดินออกจากห้องไปยัง