LOGINเมื่ออิสรภาพถูกริดรอนด้วยอำนาจแห่งขัตติยา เงินตราถูกนำมาต่อรองซื้อศักดิ์ศรีชาย ทวิภาคจึงเลือกใช้ความเย็นชาเข้าฟาดใส่ ตอบโต้ทุกวิถีทางอย่างซาตานไร้หัวใจ ราชาวดีจึงเป็นได้แค่เพียงเจ้าสาวที่แสนชัง… นิยายชุดนี้ มี 3 เรื่องนะคะ 1. เสน่หาอาญารัก 2. เจ้าบ่าวอสูร 3. มายาทมิฬ
View Moreพระราชวังสีทองอร่ามที่เด่นตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ทำให้ทวิภาคถึงกับลืมหายใจไปชั่วขณะ มันกว้างใหญ่ไพศาลหาใครเทียม แถมอาณาเขตโดยรอบเกือบทั้งหมดยังเป็นภูเขาซะส่วนใหญ่ และอานิสงส์ของผืนป่าที่ยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้เขียวขจีก็ทำให้ความรู้สึกขุ่นเคืองใจหายไปหมดสิ้น เหลือไว้แต่ความร่มเย็นผ่อนคลาย
ชายหนุ่มไม่อาจจะบรรยายสิ่งที่เห็นออกมาเป็นคำพูดได้เลยว่ามันงดงามมากเพียงใด เพราะคำใดๆ ในโลกนี้คงเทียบกับความประณีตวิจิตรบรรจงที่ได้พบเห็นไม่ได้อีกแล้ว
“เชิญคุณทางนี้ค่ะ”
เสียงใสๆ ของนางกำนัลในชุดคล้ายๆ กับชาวไทยวน คาดอกด้วยผ้าสีน้ำเงินเข้ม ไหล่เปลือยถูกคลุมทับด้วยผ้าคลุมสีฟ้าอ่อน และสวมผ้าซิ่นสีพื้น ขณะที่ทรงผมถูกเกล้ามวยไว้กลางศีรษะมีดอกเอื้องแซมพองาม ช่วยกระชากเขาให้ออกจากความงดงามตรงหน้า
ชายหนุ่มได้สติ รีบเดินตามนางกำนัลเข้าไปในพระราชวังโอ่อ่านั้นอย่างรวดเร็ว แต่ระหว่างที่ก้าวเดินก็ยังอดสอดส่ายสายตาไปรอบๆ วังนี้ไม่ได้ และก็ได้เห็นผู้ชายวัยฉกรรจ์เปลือยอก นุ่งผ้าฝ้ายสีน้ำเงินสีเดียวกับผ้าคาดอกของนางกำนัลที่เดินอยู่เบื้องหน้า มีผ้าสีขาวคาดที่หน้าผาก มือถือดาบเดินเป็นแถวไปมาเป็นระเบียบ
นี่คงเป็นลักษณะการแต่งกายของคนในวังเชียงรุ้งล่ะมั้ง ทวิภาคคิดอยู่ภายในใจ เดินตามไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็มาถึงห้องหนึ่งที่ถูกตกแต่งไว้อย่างวิจิตรงามตา บานประตูไม้ถูกแกะสลักด้วยลวดลายโบราณ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นลายที่เป็นเอกลักษณ์ประจำเมืองนี้ เพราะเขาเห็นลายนี้มาเกือบตลอดทางที่เดินผ่านมา
“เชิญคุณพักผ่อนตามสบาย ขาดเหลืออะไรให้บอกข้าน้อยได้ ข้าน้อยจะรีบจัดหามาให้...”
หญิงสาวคนนั้นพูดเสียงอ่อนหวาน ก้มหน้าให้ด้วยความเคารพ ก่อนจะค่อยๆ ถอยออกไปจากจุดที่เขายืนอยู่
ทวิภาคสำรวจภายในห้องพักของตนเองช้าๆ แล้วก็อดทึ่งไม่ได้ ห้องนี้กว้างขว้าง แถมถูกตกแต่งไว้อย่างงดงาม อ่อนช้อย ให้ความรู้สึกเหมือนกับหลงเข้าไปอยู่ในยุคของพวกไทลื้อไทยวนโบราณ แต่ในขณะเดียวกันเชียงรุ้งก็มีลักษณะเด่นของตัวเองไม่น้อย
“ฉันไม่ต้องการอะไรเพิ่มแล้ว เธอออกไปเถอะ”
“เพคะ...”
นางกำนัลรับคำเสียงอ่อนหวาน ย่อตัวลงถอนสายบัวให้อย่างเคารพ ก่อนจะค่อยๆ เคลื่อนย้ายตัวเองออกไปจากห้องอย่างเงียบกริบ
ทวิภาควางกระเป๋าเดินทางของตนเองลงกับพื้น ขณะเดินไปทิ้งตัวนั่งบนเก้าอี้ไม้แกะสลักที่ตั้งอยู่ใกล้กับระเบียงที่ยื่นออกไปจากตัวห้อง สายตาคมกล้าจ้องมองผ่านระเบียงไม้ไปยังสวนสวยที่ถูกตัดแต่งอย่างดีด้วยความประณีต น้ำพุเล็กๆ ให้บรรยากาศเหมือนกำลังนั่งทอดอารมณ์อยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม
รอยยิ้มน้อยๆ ผุดขึ้นที่มุมปาก ขณะเอนกายพิงพนักเก้าอี้ช้าๆ ดวงตาเคลิ้บฝัน ลืมเรื่องทุกข์ร้อนไปจนหมดสิ้น ลืมไปแม้กระทั่งว่าตัวเองมาที่นี่ทำไม และมาเพื่อใคร
ดวงตาคมกล้าค่อยๆ ปรือลงคล้ายกับกำลังถูกถ่วงด้วยหินก้อนใหญ่หลายก้อน และในที่สุดจิตของทวิภาคก็หลุดหลงเข้าไปสู่ภวังค์อันแสนสุข ผ่อนคลายที่สุดในชีวิต
“เขาชอบห้องที่หญิงเลือกให้หรือเปล่ามาลา...”
เสียงสดใสที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นร้องถามนางกำนัลที่ตนส่งให้ไปรับทวิภาคที่หน้าวังไปส่งที่ห้องพักทันทีเมื่อเห็นเดินเข้ามา
“ข้าน้อยดูเขาไม่ออกจริงๆ เพคะ เขาไม่พูดอะไร หน้าตาก็เรียบเฉย มองนู่นมองนั่นไปทั่วเพคะ” มาลาเอ่ยเสียงอ่อนหวาน ซึ่งเป็นลักษณะการพูดกันของคนในวังนี้
หญิงสาวสูงศักดิ์ในชุดเครื่องแต่งกายที่มีผ้าคาดอกสีแดงพันรอบอกสาวขาวผ่องเอาไว้ คลุมทับด้วยผ้าคลุมไหล่สีชมพูอ่อนปักดิ้นทอง และสวมผ้าซิ่นไหมยกดอกลำพูน ซึ่งผ้าซิ่นชนิดนี้จะทอไว้เฉพาะเจ้านายผู้สูงศักดิ์แห่งเมืองนี้เท่านั้น ขณะที่เส้นผมสีดำขลับถูกเกล้าเป็นมวยไว้กลางศีรษะ ปักด้วยดอกไม้ไหวงดงาม อ่อนช้อย เดินกลับไปกลับมาอย่างร้อนใจ
“อย่างนั้นหรือ... หญิงกลัวว่าเขาจะไม่ถูกใจจังเลยรสา”
ราชาวดีพระราชธิดาเพียงพระองค์เดียวของพระราชาสุขเกษมกับเจ้านางดารารัศมี หันไปพูดกับรสาคนสนิทด้วยสีหน้าเป็นกังวล
หญิงสาวงดงามล้ำเกินหญิงใดในแว่นแคว้นนี้ ความงามเลื่องลือระบือไกล เจ้าชายจากแคว้นต่างเมืองมาเจริญสัมพันธไมตรีด้วย แต่ก็ถูกองค์หญิงปฏิเสธอย่างไม่ใยดี เพราะในพระหทัยของราชาวดีแล้ว หล่อนผูกใจรักใคร่อยู่กับหนุ่มไทยนามว่า ‘ทวิภาค’ เพียงคนเดียว
“อย่าทรงคิดมากเลยเพคะองค์หญิง ผู้ชายคนนั้นจะต้องพอใจกับสิ่งที่องค์หญิงได้เตรียมไว้ให้อย่างแน่นอน เชื่อรสานะเพคะ”
ราชาวดีไม่ได้ตรัสออกมา แต่เดินไปเกาะขอบหน้าต่าง ชะเง้อมองไปยังตำหนักที่ตนเลือกให้กับทวิภาคตาละห้อย
อยากให้เขาพอใจจังเลย... สาวน้อยสูงศักดิ์รำพึงรำพันอยู่ภายในใจ
อุตส่าห์จัดห้องพักให้ตรงข้ามกัน เพื่อที่จะได้แอบมองยามที่เขาเดินออกมาสูดอากาศที่ระเบียงห้อง คิดว่าเขาจะชอบ แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ ทวิภาคไม่เอ่ยชม แถมยังไม่พูดอะไรทั้งนั้น
องค์หญิงสาวถอนใจออกมายืดยาว ก่อนจะหันมามองคนสนิท
“รสาจ๊ะ แล้วเย็นนี้หญิงจะทำยังไงดี เขาต้องมาทานข้าวกับหญิงในห้องอาหาร หญิงกลัวเขาโกรธจังเลย กลัวเขาจะมองหญิงไม่ดี... แต่หญิงอยากเจอเขา...”
รสามองเด็กสาวที่ตนเลี้ยงมากับมือด้วยความเห็นใจ ราชาวดีมอบใจให้กับทวิภาคมาตั้งแต่ตอนที่พ่อหนุ่มคนนั้นช่วยเหลือหล่อนครั้งที่ถูกลอบทำร้ายในเมืองไทย และตั้งแต่นั้นมาดวงตาขององค์หญิงผู้งดงามก็ไม่เคยมองใคร
“ถ้ายังไม่พร้อม เราก็เลื่อนการเผชิญหน้าออกไปก่อนดีไหมเพคะ องค์หญิงจะได้มีเวลาเตรียมใจ จะได้ไม่ทรงกังวล”
คำแนะนำของรสาก็ดีอยู่หรอก แต่มันเสียอยู่นิดเดียวก็คือ หล่อนจะไม่ได้เห็นหน้าทวิภาคอย่างที่ใจต้องการน่ะสิ
ไม่ได้ต้องคิดหาทางออก... คิดๆ ๆ ๆ คิดให้ออกนะราชาวดี หญิงสาวร้องสั่งตัวเองอยู่ภายในใจ เดินกลับไปกลับมาครั้งแล้วครั้งเล่า นานทีเดียว... ก่อนที่เจ้าหญิงคนงามจะฉีกยิ้ม และดีดนิ้วอย่างถูกใจออกมา
“หญิงคิดออกแล้ว...”
“องค์หญิงจะทำยังไงหรือเพคะ”
มาลาบังอาจถามด้วยน้ำเสียงอยากรู้ แต่ก็ถูกรสามองตาดุๆ จนต้องก้มหน้ามองพื้น มาลีผู้เป็นเพื่อนสนิทที่ยืนอยู่ข้างๆ หัวเราะเบาๆ
“หญิงจะปลอมตัวเป็นมาลี แล้วให้มาลีมาเป็นหญิงแทน...”
“ไม่ได้นะเพคะ”
รสาร้องลั่น พอๆ กับมาลีที่เบิกตากว้างด้วยความตกใจกับความคิดแผลงๆ ของเจ้าหญิงสูงศักดิ์ที่ยืนทำหน้าตาจริงจังอยู่ตรงหน้า
“ได้สิจ๊ะรสา หญิงจะเป็นนางกำนัลไปดูแลเขาเอง...” ราชาวดียิ้มกริ่มกับความคิดที่ตัวเองคิดว่าเข้าท่าที่สุดของตนเอง
“ถ้าพระราชากับพระมเหสีทรงทราบเข้ามีหวังทั้งข้าน้อย ทั้งมาลีได้ถูกประหารชีวิตเจ็ดชั่วโคตรแน่ๆ เลยเพคะ” รสาพยายามอธิบาย ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัวต่ออาญาบ้านเมือง
ราชาวดีเดินเข้ามาโอบกอดรสาอย่างประจบประแจง ก่อนจะเอ่ยเสียงหวานเชื่อม จนคนแก่อย่างรสาอดใจอ่อนไม่ได้
“เจ้าพ่อกับเจ้าแม่ไม่อยู่สักหน่อย อีกตั้งเป็นอาทิตย์กว่าจะเสด็จกลับ น่านะ...รสา หญิงขอแค่ไม่กี่วันเอง ส่วนมาลีก็ให้แต่งเป็นหญิงยามที่ทวิภาคต้องการพบองค์หญิงราชาวดีแค่นั้นเอง ไม่มีปัญหาอะไรหรอกน่า เชื่อหญิงนะจ๊ะ...”
“แต่มาลีกลัวอาญาเพคะ เปลี่ยนเป็นมาลาไม่ได้หรือเพคะ” มาลีรีบโยนให้กับมาลา จนถูกเพื่อนตีแขนเบาๆ อย่างไม่ยอมเช่นกัน
“อย่าเอาฉันไปเกี่ยวข้องด้วยสิ มาลี...”
ราชาวดีระบายยิ้ม “ทวิภาคเห็นมาลาแล้วนี่จ๊ะ มาลีนั่นแหละเหมาะที่สุด นะถือว่าช่วยหญิงก็แล้วกัน นะจ๊ะ...” ยามที่เจ้าหญิงทรงออดอ้อนแบบนี้ทีไรไม่มีใครใจแข็งกับนางได้แม้แต่คนเดียว
มาลีสาวน้อยหน้าแป้นขาวเนียนนัยน์ตาเรียวเล็กจำต้องก้มหน้ารับคำบัญชาขององค์หญิงราชาวดีด้วยภาวะจำยอม
“องค์หญิงไม่ทรงมอบทางเลือกให้ข้าน้อยเลยนี่เพคะ”
“ขอบใจมาลีมากจ้ะ งั้นมาลีช่วยไปหาชุดนางกำนัลใหม่ๆ มาให้หญิงสักสองสามชุดนะจ๊ะ หญิงจะไปหาเขาในคราบนางกำนัลวันนี้เลย...”
“เพคะ องค์หญิง” มาลีก้มตัวถอนสายบัวงดงาม ก่อนจะรีบไปทำตามคำสั่งของเจ้านายทันที
ตอนที่ 47.คำลือระบายยิ้ม “พระสวามีขององค์หญิงราชาวดีกำลังจะเสด็จกลับไปทำธุระที่เมืองไทย ข้าน้อยคิดว่านี่คือโอกาสที่เราจะกำจัดเสี้ยนหนามให้สิ้นซาก...”เจ้าสมถวิลหัวเราะอย่างพออกพอใจ “เจ้านี่ฉลาดไม่ใช่เล่นนี่ สมแล้วที่เป็นคนสนิทของเรา...”“ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ” อมาตย์คำลือยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ขณะที่เจ้าสมถวิลลุกจากเก้าอี้และเดินลงมา“ส่งทหารฝีมือดีที่สุดไปเด็ดหัวมันมาให้เราให้ได้... ดูสิว่านังหลานหัวดื้อจะทำยังไง จะแก้เกมนี้ยังไง” สมถวิลหัวเราะดังกึกก้อง โดยมีคำลือร่วมผสานเสียงด้วย“ข้าน้อยน้อมรับคำสั่งพ่ะย่ะค่ะ”เจ้าสมถวิลแสยะยิ้มร้ายกาจ ดวงตาที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานอยากได้ใคร่มีมองตามร่างของอมาตย์คนสนิทไปด้วยความกระหยิ่มยิ้มย่องใจ“แล้วจะได้รู้ว่าแกกำลังเล่นอยู่กับใคร ราชาวดี...”ราชาวดีนั่งไม่ติดอยู่ในตำหนักของตนเอง เสียใจที่เขาตัดสินใจจากหล่อนไปแบบไร้เยื่อใยแบบนั้น แต่กระนั้นก็ยังอดห่วงความปลอดภัยของเขาไม่ได้“เป็นไงบ้างรสา เรียบร้อยหรือเปล่า...” เมื่อคนสนิทวิ่งเข้ามาในตำหนัก หญิงสาวจึงร้องถามขึ้นด้วยความร้อนใจ“เรียบร้อยเพคะ แต่เห็นท่านนายพลบอกว่าเจ้าสมถวิลก็รับสั่งขอกำลังทหารไปเมื่อ
ตอนที่ 46.ทวิภาคกระชากชุดแต่งงานออกจากกายด้วยความเกรี้ยวกราด ทิ้งกายลงนั่งบนเตียงในห้องพักของตนเองแรงๆ อย่างระบายอารมณ์แม้จะพิศวาสแม่ดอกเอื้องมากมายแค่ไหน แต่การที่รู้ว่าตัวเองถูกเจ้าหล่อนใส่เขาให้บนหัวมานานนั้น มันก็ทำให้เขาทนมองหน้าหล่อนไม่ได้อีกต่อไป“เธอมันคนหลอกลวงราชาวดี แม่องค์หญิงแพศยา...!” มือใหญ่กำเข้าหากันแน่น ก่อนจะทุบลงบนที่นอนอย่างรุนแรง“ระยำ! ฉันอยากจะฆ่าเธอให้ตายคามือนัก...”ชายหนุ่มสบถออกมาด้วยความเดือดดาล ลุกขึ้นยืน เดินกลับไปกลับมาในห้องพักอย่างหลายอึดใจ ก่อนจะถลันเข้าไปชกกำแพงห้องจนนิ้วแกร่งแตกเลือดไหลย้อย“ฉันเกลียดเธอ! ฉันเกลียดเธอ! เกลียดที่สุด...!”ยกมือที่เปื้อนเลือดสดๆ ขึ้นมามองนิ่ง กรามแกร่งขบเข้าหากันแน่นจนเนื้อข้างแก้มกระตุกด้วยโทสะร้าย พรุ่งนี้เขาจะกลับเมืองไทย จะไปจากเมืองนรกที่มีผู้หญิงนรกนี่สักทีและก็หวังว่าเจ้าหล่อนจะไม่ไปราวีเขาที่เมืองไทยอีก แค่นี้ก็น่าสยดสยองเต็มทนแล้ว... ราชาวดีก้าวเข้ามาในท้องพระโรงด้วยใบหน้าเศร้าหมองตามลำพัง โดยหล่อนตอบคำถามข้าราชบริพารชั้นผู้ใหญ่ว่าทวิภาคไม่ค่อยสบายจึงมาว่าราชการไม่ได้ หล่อนจึงจะทำหน้าที่แทน
ตอนที่ 45.“เอ่อ... คุณ...”“คิดจะหลอกอะไรฉันอีกล่ะ คงเห็นฉันโง่เหมือนไอ้ตัวที่ชาวนาเอาไว้ไถนาใช่ไหม ถึงได้หลอกระยำอย่างนี้...” เสียงหัวเราะคล้ายเยาะหยันตัวเองดังขึ้น ก่อนที่เขาจะระเบิดอารมณ์ใส่อีกไม่ยั้ง“แกล้งปลอมเป็นนางกำนัล แกล้งกุเรื่องทุกอย่าง นี่ถามจริงๆ เถอะ หากไม่ได้ฉันเป็นผัวของเธอ เธอจะคลั่งหรือไงฮะ แม่เจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์”ทวิภาคไม่รู้ว่าตัวเองจะสามารถลืมวินาทีที่ได้เห็นเจ้าสาวที่ใช้วิธีแสนสกปรกเพื่อให้ได้เขามาเป็นสามีได้หรือไม่...เมื่อผ้าแดงถูกเปิดออกโดยผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง และนั่นก็ทำให้เขารู้สึกเหมือนกับถูกชกเข้าที่ปลายคางจนหงาย เพราะใบหน้าหวานละมุนที่เฝ้าคิดถึงตลอดเวลาปรากฏอยู่ตรงหน้าหากเป็นในเวลาอื่นเขาคงจะดีใจไม่น้อยที่ได้พบแม่ดอกเอื้องแสนสวยของเขา...แต่นี่มันไม่ใช่... เพราะทุกสิ่งทุกอย่างมันเปิดเผยออกมาต่างหาก มันไม่ต่างจากกระจกบานใหญ่ที่ถูกยื่นลงมาตรงหน้า และมันก็ทำให้เห็นเขาทั้งสองข้างบนศีรษะของตนเองชัดเต็มสองตา...ที่แท้... องค์หญิงราชาวดีกับแม่นางกำนัลดอกเอื้องก็คือคนๆ เดียวกัน...และเขาก็โง่พอที่จะเชื่อสนิทใจ แต่พอยามนี้ ยามที่ได้รับรู้ความจริงทั้งหมด แล้วย้อนกลั
ตอนที่ 44.“ท่านพ่อ... ลูก...”“ไปซะ ก่อนที่เราจะเปลี่ยนใจบั่นศีรษะของเจ้าแทน...”อินทรายุธรู้สึกเหมือนกับถูกเหยียบให้จมดิน รักและเคารพผู้ชายตรงหน้ายิ่งนัก แต่กลับถูกตัดรอนอย่างไร้หัวใจ“ท่านพ่อทรงรักษาพระวรกายด้วย ลูกทูลลา...”ชายหนุ่มก้มหน้าทำความเคารพ ก่อนจะค่อยๆ ก้าวขึ้นรถ และเคลื่อนมันออกไปจากวังหลวงมุ่งหน้ากลับไปยังตำหนักเอื้องผึ้งอย่างรวดเร็วเจ้าสมถวิลมองตามรถคันหรูของอินทรายุธไปจนสุดสายตา เลี้ยงดูมาก็อดผูกพันไม่ได้ ก็คงเป็นเพราะสาเหตุนี้แหละ เขาถึงได้ไม่ฆ่าอินทรายุธคนที่ร่วมมือกับราชาวดีหักหลังเขา“ถึงเราไม่ฆ่าเจ้า แต่เจ้าก็ต้องเจ็บปวดยิ่งกว่าตายทั้งเป็นเสียอีก อินทรายุธ...”เจ้าสมถวิลดวงตาเป็นประกายชั่วร้าย ขณะค่อยๆ หมุนตัวเดินกลับเข้าไปในตำหนักของตนเองช้าๆ ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยความครุ่นคิดเขาจะไม่ยอมหยุดอยู่แค่นี้อย่างแน่นอน...ในเมื่อแผนการแรกล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่าเพราะความย่ามใจคิดว่าไม่มีใครกล้าขัดคำสั่ง ดังนั้นแผนที่สองต้องรัดกุมที่สุดราชาวดีจะไม่มีทางเอาชนะเขาไปได้...อินทรายุธรีบก้าวลงจากรถด้วยความตกใจสุดขีด เมื่อมาถึงตำหนักเอื้องผึ้งแล้วเห็นศพทหารเกลื่อนลานหน้าตำหน
ตอนที่ 43.ดวงตากร้าวจ้องมองบุรุษใบหน้าบึ้งตึงในชุดเครื่องทรงที่ค่อยๆ ก้าวเข้ามาในท้องพระโรงด้วยความตื่นตกใจ“นี่มันอะไรกัน!” หันไปตะคอกถามคำลือที่มีสีหน้าไม่ต่างจากเจ้านายนักด้วยความเดือดดาลนี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน มันเรื่องบ้าอะไรกัน... ทำไมเจ้าบ่าวไม่ใช่อินทรายุธ... ทำไมถึงเป็นเจ้าหมอนั่นไปได้ แล้วบุตรชายของเขาหายหัวไปไหน“เป็นมันไปได้ยังไง แล้วเจ้าน้อยมันไปไหน!”“ข้าน้อยไม่ทราบพ่ะย่ะค่ะว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อช่วงเช้า ข้าน้อยยังเห็นเจ้าน้อยทรงฉลองพระองค์ด้วยชุดนี้อยู่เลย...”เจ้าสมถวิลขบกรามจนเป็นสันด้วยโทสะร้าย มือหนากำเข้าหาแน่นจนจนแทบละเอียด ก่อนจะตวัดตามองไปยังร่างของราชาวดีที่ยืนอยู่บนแท่นพิธีด้วยความแค้นเคือง เข้าใจทุกอย่างแจ่มแจ้งทีเดียว...“แผนสูงนักนะ นังหลานไม่รักดี... ฝันไปเถอะว่าฉันจะหยุดแค่นี้...”ความเกรี้ยวกราดทำให้ใบหน้าที่แต้มรอยยิ้มของเจ้าสมถวิลสลายลงในทันที ความเจ็บแค้นกดทับหัวใจจนแน่น เขาจึงหันไปสั่งคนสนิทเสียงกระด้าง“คำลือทหารของเรายังอยู่ที่ตำหนักเอื้องผึ้งหรือเปล่า”คำลือส่ายหน้า “กลับมาตั้งแต่ตอนรุ่งสางแล้วพ่ะย่ะค่ะ ก็นายท่านทรงรับสั่งไว้เช่นนั้น...”ใช่
ตอนที่ 42.เจ้าชายอินทรายุธมีสีหน้าที่ผ่อนคลายขึ้น เดินเข้ามาใกล้น้องสาวต่างสายเลือดของตนเอง ก่อนจะเชื้อเชิญให้หล่อนนั่งคุยกับเขาที่เก้าอี้ใกล้ๆราชาวดีไม่ขัดข้อง “ที่หญิงมานี่ก็เพราะอยากจะมาถามเจ้าพี่ว่า เจ้าพี่เต็มใจอภิเษกกับน้องหรือเพคะ”“แน่นอนพี่ต้องไม่เต็มใจอยู่แล้ว แต่ท่านพ่อบอกพี่ว่าน้องหญิงเต็มใจ... ซึ่งพี่ก็ไม่ได้รังเกียจน้องหญิงหรอกนะ แต่พี่ไม่เคยคิดกับน้องหญิงในเชิงชู้สาวเลย...”อินทรายุธคิดว่าจะได้เห็นความไม่พอใจจากราชาวดีบ้าง แต่เปล่าเลย เจ้าหล่อนกลับยิ้มตอบกลับมาอย่างดีใจสุดซึ้ง“ท่านอาโกหกเพคะ หญิงไม่ได้เต็มใจเลย เพราะหญิงก็ไม่เคยคิดกับเจ้าพี่แบบนั้นเหมือนกัน แต่หญิงไม่มีทางเลือก ท่านอาขู่หญิง...”กรามแกร่งที่มีไรหนวดขึ้นน้อยๆ ขบกันแน่น ดวงตาวาวโรจน์ไม่ชอบใจกับการกระทำของบิดาเลย ด้วยความจงรักภักดีเขาจึงมองข้ามความหมายแห่งการกระทำในครั้งนี้ แต่พอได้ยินราชาวดีเอ่ยขึ้นมา พฤติกรรมของบิดาก็ยิ่งชัดเจนท่านพ่อต้องการความยิ่งใหญ่...“พี่ต้องขอโทษน้องหญิงแทนเจ้าพ่อด้วย...”“เจ้าพี่ไม่เกี่ยวข้องหรอกเพคะ ท่านอาคนเดียวที่คิดมักใหญ่ใฝ่สูง ความจริงหญิงไม่เคยคิดแบบนี้มาก่อน จนเมื่อถู






Comments