เมื่อลุกขึ้นจากอ่างอาบน้ำ และเช็ดตัวเรียบร้อยแล้ว ไอรักจึงคิดได้ว่า ตัวเองไม่มีเสื้อผ้ามาเปลี่ยนเลยสักชุด แล้วที่สำคัญไม่มีชุดชั้นในเลย แล้วนี่จะใส่ชุดไหนล่ะ หญิงสาวคิดอย่างอารมณ์เสียอยู่คนเดียวในห้องน้ำ ก่อนจะคว้าเสื้อคลุมตัวใหญ่มาพันตัว แล้วเปิดประตูเดินออกจากห้องน้ำ แต่ก็ต้องรีบพาตัวเองเข้าไปอยู่ในห้องน้ำเหมือนเดิม
“พี่ธีร์เข้ามาทำไม แล้วป้าบัวล่ะ” ไอรักถามเสียงดัง แต่คนที่นอนเหยียดตัวยาวเอกเขนกอยู่บนเตียงกว้าง ไม่ได้ใส่ใจที่จะตอบเลยสักนิด ธีร์ภาณุพลิกตัวหันมามองไอรัก ที่ตอนนี้มีเพียงใบหน้าขาวนวลที่โผล่ออกมาจากห้องน้ำ
“จะยืนอยู่อย่างนั้นอีกนานไหม เดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก” ธีร์ภาณุลุกขึ้นจากเตียงแล้วก้าวยาวๆมาทางไอรัก หญิงสาวรีบดึงตัวเองกลับเข้าไปในห้องน้ำ และตั้งใจจะปิดประตู แต่ช้ากว่ามือของชายหนุ่มที่ดันประตูไว้ได้ทัน
“พี่ไม่ทำอะไรหรอก แค่จะมาบอกว่าให้รีบใส่เสื้อผ้า จะได้มาทานข้าวเย็นด้วยกัน”
“แล้วจะให้ใส่อะไรล่ะ ไม่ได้เอาเสื้อผ้ามาด้วยสักชุด อยู่ดีๆก็ถูกฉุดตัวมา” ธีร์ภาณุหัวเราะเบาๆ
“ไม่ได้ฉุดมาสักหน่อย ป๊ากับแม่ของหนูไอเต็มใจยกหนูไอให้มากับพี่เองนะ”
“แต่ป๊าให้พี่ธีร์พาไปหาคุณลุง แล้วนี่อะไร พามาที่ไหนก็ไม่รู้ อย่างนี้เขาเรียกลักพาตัว”
“คุณลุงของหนูไอน่ะรู้แล้วว่าหนูไออยู่ที่นี่ และป่านนี้ท่านก็คงติดต่อเจรจากับป๊าของหนูไอ เรื่องกำหนดการงานแต่งของเราเรียบร้อยแล้วล่ะ” ธีร์ภาณุพูดลอยหน้าลอยตาไม่ได้สนใจว่า ตอนนี้คนฟังแทบจะตาถลนออกมาด้วยความโมโห
“แล้วพี่ธีร์ทำแบบนี้ได้ยังไง” ไอรักตะคอกเสียงดัง ความโมโหทำให้เธอลืมตัวก้าวออกมาจากห้องน้ำ ยืนประจันหน้ากับชายหนุ่มในลักษณะเงยหน้าท้าทาย
“เราสองคนยังตกลงกันไม่ได้ แล้วเรื่องอะไรคุณลุงกับป๊าถึงจะต้องไปวางแผนงานแต่งบ้าบออะไรนั่น ถ้าอยากจัดงานแต่งกันนัก ก็แต่งกันไปเองเลยแล้วกัน ยังไงหนูไอก็ไม่แต่ง หนูไอขอพบคุณลุงค่ะ พี่ธีร์ช่วยพาไปหน่อยสิคะ” ธีร์ภาณุเงียบและยิ้ม เขาพยักหน้าเหมือนจะเข้าใจสิ่งที่ไอรักพูด แต่กลับยืนนิ่งไม่ทำอะไรสักอย่าง
“พี่ธีร์คะได้ยินที่หนูไอพูดไหมคะ เราจะต้องรีบติดต่อคุณลุงกับป๊า เพื่อที่จะได้แก้ไขสถานการณ์ต่างๆได้ทันนะคะ”
“เข้าใจครับ พี่เข้าใจว่าเราจะต้องเรียนรู้กันอีกเยอะ แต่พี่ว่าพี่เรียนรู้เพิ่มอีกหนึ่งข้อนะ ว่าหนูไอขี้โมโห และเวลาโมโหก็จะลืมตัว” ธีร์ภาณุยิ้มอย่างมีความหมาย พร้อมกับกวาดสายตามองไอรักให้เธอรู้ตัวว่า ตอนนี้เธออยู่ในสภาพที่ไม่เรียบร้อยนัก
ไอรักนิ่งเงียบเหมือนจะคิดได้ เธอรีบใช้สองมือกระชับคอเสื้อคลุม แล้วหันหลังให้ชายหนุ่ม
“พี่ธีร์ออกไปได้แล้วค่ะ เดี๋ยวเราค่อยคุยกันก็ได้” ธีร์ภาณุไม่พูดอะไร เขาหัวเราะในลำคอ มองดูผู้หญิงตัวเล็กๆที่ยืนหันหลังให้ แล้วถอนหายใจ
“พี่ให้คนงานไปรับชุดมาให้หนูไอแล้ว พี่โทรสั่งร้านในเมืองให้ เดี๋ยวสักพักคงมา ว่าแต่หนูไอหิวหรือยัง ถ้าหิวแล้วใส่ชุดนั้นมากินเลยก็ได้นะ พี่ไม่รังเกียจหรอก”
“จะบ้าหรือไง ออกไปก่อนเลยค่ะพี่ธีร์ หนูไอขอพื้นที่ส่วนตัวค่ะ แต่งตัวเสร็จแล้วหนูไอจะออกไปเอง” ธีร์ภาณุหัวเราะเบาๆ
“ครับ...ถ้าอย่างนั้นพี่ขอตัวไปนั่งรอว่าที่เจ้าสาวที่ระเบียงด้านหลังนะครับ” ธีร์ภาณุพูดพร้อมเปิดประตูห้องนอนออกไป ไอรักได้ยินเสียงปิดประตู จึงรีบวิ่งไปที่บานประตูเพื่อปิดล็อกให้แน่นหนา เธอถอนหายใจยาว แล้วเดินไปนั่งลงบนเตียงกว้าง ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนหงายมองเพดานอย่างเหนื่อยใจ แล้วก็คิดว่าจะทำอย่างไรถึงจะติดต่อป๊าหรือคุณลุงธงได้ โทรศัพท์ก็ไม่ได้เอาติดตัวมาเพราะถูกจับตัวขึ้นรถมาโดยที่ยังไม่ได้ตั้งตัว แล้วถ้าจะขอความช่วยเหลือจากคนแถวนี้ล่ะ
ใช่แล้ว! เธอจะให้ค่าจ้างอย่างงามเลยล่ะ สำหรับคนที่พาเธอออกจากที่นี่ได้
“นายหญิงคะ” เสียงเรียกจากด้านนอกทำให้เธอสะดุ้งตื่นจากความคิด ไอรักลุกจากเตียงเดินไปที่ประตูเงี่ยหูฟัง
“นายหญิงคะ หนูเอาชุดมาให้ค่ะ” ไอรักเปิดประตูออกช้าๆ เห็นเด็กหญิงน้อยหน่าหอบถุงพะรุงพะรัง เธอเปิดประตูกว้างหลีกทางให้เด็กหญิงเดินเข้ามาในห้องแล้วปิดประตู
“น้อยหน่า พี่หนูไอวานอะไรอย่างหนึ่งสิ” เด็กหญิงวางของลงที่เตียงกว้างเสร็จ ก็หันกลับมามองไอรักทำหน้าสงสัย
“ค่ะ” เด็กหญิงรับคำ รอฟังอย่างตั้งใจ
“พี่หนูไออยากได้โทรศัพท์มือถือสักเครื่อง น้อยหน่าพอจะหาให้ได้ไหมจ๊ะ แค่ยืมแป๊บเดียวเอง พี่หนูไอให้ค่ายืมด้วย อยากได้เท่าไรว่ามาเลย” น้อยหน่านิ่งเงียบ ก่อนที่เด็กหญิงจะได้พูดอะไรโต้ตอบ ก็มีเสียงหนึ่งดังมาจากข้างหลังไอรัก
“น้อยหน่าคงทำตามที่นายหญิงขอร้องไม่ได้หรอกค่ะ เพราะนายเล็กสั่งห้ามไว้” ไอรักสะดุ้งเล็กน้อย เธอหมุนตัวกลับไปหาเจ้าของเสียง
“ป้าบัว” ไอรักอุทานแผ่วเบา
“ป้าว่านายหญิงรีบแต่งตัวไปทานข้าวเถอะค่ะ นายเล็กรออยู่ที่ระเบียงด้านนอกนะคะ...น้อยหน่ากลับบ้าน” เด็กหญิงเดินคอตกตามหลังป้าบัวออกไป เมื่อประตูห้องปิดลงไอรักทำสีหน้าผิดหวัง แต่ไม่เป็นไรในเมื่อยังมีลมหายใจเธอก็ยังมีหวัง ตอนนี้ต้องรีบแต่งตัวก่อนจะได้ไปเติมพลังให้ร่างกาย เพื่อต่อสู้กับผู้ชายที่ฉุดตัวเธอมา
“คุณภูขา น้ำทรมานจัง อย่าแกล้งกันแบบนี้สิคะ” เมื่อความเสียวแปลบปลาบก่อตัวอยู่ในความรู้สึก และยังคงวนเวียนอยู่เช่นนั้นราวกับหาทางออกไม่ได้ เพราะคนตัวใหญ่ไม่ใส่ใจที่จะส่งเธอให้ถึงที่สุดของเวิ้งฟ้าเสียที ภูชิตยังคงซุกไซ้อกอวบ ทำตัวเป็นแมลงน่ารักตัวผู้ ฝากฝังรอยรักไว้บนร่างภรรยาตัวเล็ก“อ๊ะ! คุณภูขา ช่วยน้ำด้วย อื้อ...” น่านน้ำแอ่นหยัดสะโพกขึ้น มือเล็กกดลงที่สะโพกแน่นตึงของสามี บังคับให้เขาเข้ามาในร่างกายตัวเองให้ลึกล้ำกว่านี้“ก็น้ำบอกว่าเหนื่อย เร่งเร็วเดี๋ยวก็หาว่าผมแกล้งอีก”“โอย...คุณภูขา น้ำ...น้ำ...” น่านน้ำครางแผ่วขาดห้วง จังหวะรักช้าเนิบแต่หนักแน่น ทำให้ทุกครั้งที่ลำรักแกร่งแทรกลึกสุดทางในร่องรักหวานฉ่ำ กายสาวจึงต้องสั่นสะท้านทุกครั้ง ภูชิตชะโงกหน้าอยู่เหนือร่างภรรยา เขายิ้มร้ายกาจ“คุณภูแกล้งน้ำ อ๊า! เร็วกว่านี้นะคะ อื้อ...น้ำทำเองก็ได้” เมื่อรู้ว่าถูกแกล้ง และเรียกร้องเท่าไรสามีก็ไม้ยอมเร่งจังหวะรักดั่งใจเสียที ร่างเล็กจึงออกแรงทั้งหมดพลิกร่างคนขี้แกล้งให้อยู่ใต้ร่างตน สมใจคนตัวโตเขาล่ะ“เอาเลยครับที่รัก ผมยอมพลีกายให้น้ำเชย
“เรายังไม่ได้ราตรีสวัสดิ์กันเลยนะครับ”“เราราตรีสวัสดิ์กันมาทั้งวันแล้วค่ะ” ไอรักรู้ว่าสามีหมายถึงอะไร ก็มันทั้งวันจริงๆนะ เขาขยันทำเรื่องหื่นๆเกินไปแล้ว“ไม่เอาๆ ไม่นับรวมกันสิครับ มันคนละเวลา” ไอรักขยับกายพลิกร่างหันหลังให้สามี ไม่อยากคุยกับมนุษย์หื่นแล้ว“หนูไอครับ” ธีร์ภาณุกระแซะร่างเบียดภรรยา กระโปรงชุดนอนถูกรั้งขึ้นไปกองที่เอวคอด ซับในตัวจิ๋วถูกดึงออกจากร่างงามอย่างรวดเร็ว แล้วจัดการสะบัดกางเกงนอนตัวเดียวออกจากร่างใหญ่ของตน“อ๊าย! พี่ธีร์” ไอรักตีมือใหญ่ของสามีสุดแรง ธีร์ภาณุไม่สะทกสะท้าน ใบหน้าหล่อเหลาซุกไซ้ไปตามลำคอระหงด้านหลัง ลำกายแกร่งเสียดสีอยู่ที่สะโพกหนั่นแน่น“ถ้าไม่ได้ราตรีสวัสดิ์ ไม่หลับแน่ๆ อืมมม”“พะ...พี่ธีร์ อ๊ะ! คะ...คนอะไร หน้ามึนที่สุด” คนถูกต่อว่าว่าหน้ามึนรุกเร็วรุกหนัก ธีร์ภาณุจับร่างภรรยาพลิกให้นอนหงายทับร่างของตนเอง สองมือใหญ่กอบกุมทรวงอกอวบได้ถนัดถนี่ เคล้นคลึงบีบเฟ้นเท่าที่พอใจ แล้วค่อยๆเลื่อนมือลงไปยังกลางกายสาว จับต้นขาขาวแยกกว้าง เสยสะโพกส่งความแข็งแกร่งเสียดสีกับกลีบดอกไม้งาม“อ๊า! พี่ธีร์” ไอร
“ก็บอกว่าจะนอนกอดเฉยๆไง นอนได้แล้วครับ” ปลัดเมฆาเอื้อมมือปิดสวิตซ์ไฟ กอดกระชับร่างบางแนบอก จุมพิตหนักๆที่หน้าผากมน เขาไม่ทำอะไรมากกว่านั้นตามสัญญาที่ให้กับภรรยา ความอุ่นจากเรือนร่างกำยำแผ่ซ่านมายังร่างเล็กในอ้อมกอด ความละมุนหวานอบอวลอยู่รอบกายจนพิมพ์รพีพรรู้สึกอบอุ่นถึงหัวใจ“พี่รักพิมพ์นะครับ” เสียงทุ้มเอื้อนเอ่ยเบาๆ พิมพ์รพีพรยิ้มอยู่กับอกกว้างของสามี หญิงสาวขยับตัวบดเบียดหาความอบอุ่นจากร่างใหญ่“พิมพ์ก็รักพี่เมฆค่ะ” มือซุกซนของพิมพ์รพีพรลูบไล้แผ่นอกกำยำ หญิงสาวผงกศีรษะขึ้นจุมพิตปลายคางสากของสามีเบาๆ“ราตรีสวัสดิ์นะคะ” เธอไม่ได้โกรธอะไรสามีมากมายนักหรอก แต่รู้สึกระอาใจกับความหื่นของสามีมากกว่า เขาทำให้เธอเสพติดความรู้สึกดีๆจากตัวเขา จนไม่เคยที่จะปฏิเสธความต้องการของเขาได้สักครั้ง แต่คืนนี้ปลัดเมฆาทำตัวเป็นสามีที่ดี ทำตามข้อตกลงไม่รบกวนเธอ คนตัวใหญ่เลยดูน่ารักในสายตาภรรยาตัวเล็กขึ้นมาทันทียุบหนอ ยุบหนอ ยุบหนอก็อะไรๆมันร่ำร้องอยากจะพองใจจะขาดอยู่แล้ว แล้วมันก็ไม่ค่อยเชื่อฟังคำสั่งของเขาเอาเสียเลย ปลัดเมฆาโก่งสะโพกออกจากร่างภรรยา ป้องกันไ
“พี่เมฆ! คอเป็นอะไรคะ ดูสิแดงเป็นจ้ำตั้งหลายจุด หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก เจ็ด โอ้โห! โดนอะไรกัดหรือแพ้อะไรหรือเปล่าคะ” ปลัดเมฆาแทบจะสำลักอาหารที่เพิ่งตักเข้าปาก ก็ไอ้ที่น่านน้ำกำลังสงสัยนั่นแหละคือสาเหตุการงอนของภรรยา ภูชิตมองตามนิ้วเล็กของภรรยาที่ชี้ไปยังลำคอหนาของปลัดเมฆา แล้วยิ้มอย่างรู้ทัน“เอ่อ...โดนแมลงกัดน่ะครับ” ปลัดเมฆาอ้อมแอ้มตอบ ด้วยความหวาดกลัวต่อรังสีอำมหิตของภรรยาที่นั่งเคียงข้างกัน“แมลงอะไรคะ กัดเฉพาะที่คอ” น่านน้ำเอียงคอสงสัยหนัก พิมพ์รพีพรแทบจะมุดลงใต้โต๊ะ เพราะทั้งภูชิต ธีร์ภาณุ และไอรักมองมายิ้มๆ ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนพอจะเดาได้ว่าเกิดจากเธอแน่ๆ แต่ยายน่านน้ำ ยายเพื่อนโก๊ะ...แกจะทักทำไม“แมลงน่ารักครับคุณน้ำ” ปลัดเมฆาบอกยิ้มๆ น่านน้ำงงเข้าไปใหญ่“แมลงน่ารัก!? แมลงอะไรคะ ไม่เห็นจะเ
“อ๊าย...พี่ธีร์” ไอรักร้องเสียงหลง ความรุ่มร้อนแข็งแกร่งถูไถไปกับกลีบดอกไม้งาม และยังบดบี้เกสรกลางกายสาว ทำเอาเธอขนลุกเกรียว แขนเล็กต้องค้ำยันไปด้านหลัง ผ้าขนหนูหลุดจากมือ อกอวบแอ่นขึ้นอัตโนมัติเพราะต้องทรงตัวรับน้ำหนักสามีที่จู่โจมโดยไม่ทันระวังตัว เปิดโอกาสให้ใบหน้าหล่อเหลาของสามีซุกซบลงดูดดึงอกนุ่มหยุ่นทันที ลิ้นสากตวัดรัวเร่งบนเม็ดลูกกวาดสีสวย อีกด้านถูกบีบบี้คีบดึงด้วนสัมผัสเร้าอารมณ์“อ๊า...พี่ธีร์หยุดก่อนค่ะ อื๊อ!...พี่ธีร์” เสียงห้ามปรามของคนแรงน้อยหรือจะสู้การรุกเร้าของคนแรงเยอะกว่าได้ ที่สุดแล้วไอรักก็ยกแขนทั้งสองขึ้นมาโอบร่างสามีเพื่อทรงตัวแทน เพราะคนตัวโตเริ่มรุกแรงรุกเร็วเป็นจริงเป็นจังกลิ่นหอมอบอวลอยู่ทั่วห้อง ไม่ได้หอมเท่าร่างเล็กที่อยู่ในอ้อมกอดสักนิด ธีร์ภาณุซุกไซ้ใบหน้าไปตามร่างขาวเนียนหอมกรุ่น คนตัวโตย่อตัวลงนั่งคุกเข่า ใบหน้าหล่อเข้มอยู่ตรงกลางกายสาวพอดี สะโพกสวยนั่งอยู่ขอบเตียงหมิ่นเหม่ ขาเรียวถูกจับแยกกว้าง ธีร์ภาณุใช้สองมือประคองยกต้นขาอวบขาวทั้งสองข้างไว้ ปลายเท้าของไอรักจึงลอยสูงอยู่กลางอากาศ ส่งผลให้กลีบกุหลาบงามสีสดฉ่ำเยิ้มเบ่งบานอยู่ตรงหน้า
“อ๊ะ! พี่เมฆ!” แล้วจะเอาแรงที่ไหนไปต่อต้าน ก็ในเมื่อร่างสอดติดตรึงค้างคากันอยู่ คนที่กำลังเหนือกว่าจึงเริ่มขยับโยก พร้อมกับก้มหน้าลงนัวเนียกับอกอวบอย่างเอาแต่ใจ“พิมพ์จ๋า พี่รักพิมพ์ รักๆๆ” คำบอกรักมาพร้อมกับจังหวะกระแทกรุนแรงตามอารมณ์ร้อน พิมพ์รพีพรกอดเกี่ยวร่างสามีแน่น“อื้อ...พะ...พี่เมฆ พิมพ์...มะ...ไม่ไหวแล้วนะ อื้อ” เสียงหวานครางประท้วงกระท่อนกระแท่น เพราะแรงรุกจากสามีทำให้ภรรยาตัวเล็กสั่นคลอนไปทั้งร่าง พิมพ์รพีพรถูกส่งไปยังวิมานแสงดาวพรายพร่างครั้งแล้วครั้งเล่า แต่สามีจอมหื่นกลับบรรเลงเพลงรักต่อเนื่องไม่ยอมหยุด ทุกครั้งที่ถึงที่สุดของความสุขสม เธอเลือกวิธีขบเม้มลำคอหนาเพื่อเก็บเสียงกรีดร้องไว้ แต่หากหญิงสาวฉุกคิดได้สักนิด เธอจะรู้ว่าไม่น่าเลือกวิธีเก็บเสียงแบบนี้เลย เพราะมันกลายเป็นหลักฐานความภูมิใจสำหรับสามีตัวใหญ่ แต่เป็นหลักฐานที่น่าเขินอายสำหรับภรรยาตัวเล็ก“เสร็จหรือยังคะพี่ธีร์”“เสร็จแล้วครับ” คนตัวสูงเดินยิ้มกว้างออกมาจากห้องน้ำ ภรรยาสาวของเขาอยากใช้บริการสปาอบสมุนไพรของรีสอร์ต คนเป็นสามีจึงต้องตามใจ ทั้งสองเดินออกจากห้องไปยัง