Home / วาย / นิยายรักสองภาพ / ว่าที่เมียท่านแม่ทัพ

Share

ว่าที่เมียท่านแม่ทัพ

last update Last Updated: 2024-11-17 16:57:27

             ช่วงเวลาดีๆของกัสกับเขื่อนก็มาถึง ทั้งสองได้มาที่ห้องประชุมชมรมละครเวที ซึ่งทุกคนต่างรอคอยว่าสองคนนี้จะเลือกบทละครตัวไหนกัน

            “น้องกัสกับน้องเขื่อนตกลงกันได้หรือยังครับ ว่าใครจะเล่นบทอะไร”พีคมองหน้าทั้งกัสและเขื่อนด้วยความอยากรู้

            “เราสองคนตกลงกันได้แล้วครับ เขื่อนจะเล่นบทของวิน ส่วนกัสจะเล่นบทของนิว ครับ”เขื่อนเป็นคนพูดส่วนกัสนั่งเฉยๆ ตามนิสัยที่เงียบนิ่งไม่ค่อยพูดเท่าไร

            “พี่ก็นึกไว้แบบนี้เหมือนกัน เพราะบทของวินจะเด็ดเดี่ยวเป็นคนตรงมาตรงไป ซึ่งก็เหมาะกับเขื่อน ส่วนบทของนิวจะนิ่งๆลึกน่าจะเหมาะกับกัส เอาล่ะซึ่งเป็นอะไรที่ลงตัวมากเลย ต่อไปให้พี่จีน่ากับพี่เกรซอธิบายบทละครให้ฟังนะ”พีคเอ่ยขึ้น

            “บทละครที่พี่ให้ไปนั้นเป็นแค่บางส่วน น้องๆก็จะรู้เรื่องราวแค่เบื้องต้นเท่านั้น ส่วนเนื้อเรื่องต่อจากนั้น ทั้งวินและนิวจะแตกหักกัน เพราะรักผู้ชายคนเดียวกัน หลังจากนั้นทั้งสองคนก็จะร้ายใส่กัน มันจะเริ่มสนุกกันตรงนี้แหละ เดี๋ยวพี่เกรซพูดต่อก็แล้วกัน”

            “คือบทของวินนั้นจะร้ายตรงๆ ส่วนบทของนิวจะร้ายลึก เบื้องหน้าจะดูเป็นคนดี ถูกกระทำ แต่ลึกๆร้ายเงียบ ซึ่งบทนี้จะเล่นยากกว่าบทของวินมากๆ เพราะต้องเล่นซ้อนอารมณ์ น้องกัสไหวไหม”เกรซหันมามองหน้ากัส เพียงเกรซเห็นหน้ากัสนั่งนิ่งๆ เธอก็มั่นใจทันทีว่ากัสเล่นได้แน่นอน

            “คิดว่าเล่นได้ครับ”กัสยิ้มนิดๆ

            “เขื่อนล่ะ”เกรซหันมองหน้าเขื่อนที่หน้าตาดุดูเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน

            “ได้ครับ”

            “พีคล่ะเล่นได้ไหม”เกรซหันมาถามพีคที่นั่งมองสองหนุ่มแล้วยิ้ม

            “ได้สิ สบายมาก”พีคยิ้มอย่างเบิกกว้าง

            “พี่พีคเขามือโปรอยู่แล้ว”จีน่าหันหน้ามาแซวเพื่อน

            “พูดไปนั่นอย่าไปเชื่อพี่จีน่าน่ะ พี่ก็ไม่เก่งขนาดนั้นหรอก”

            “พอๆอีกคนโดนอวย ส่วนคนโดนอวยก็ถ่อมตัว เอาเป็นว่าวันนี้พอก่อน เดี๋ยวพี่ให้บทเต็มไปอ่านน่ะ ซักสองสามวันค่อยมาซ้อมก็ได้ ตอนแรกพี่กะว่าจะให้ซ้อมวันนี้ แต่คิดอีกทีพวกน้องๆต้องไปทำความเข้าใจบทละครกันก่อน”เมื่อเกรซพูดจบก็นำบทละครเต็มเรื่องยื่นให้ทั้งเขื่อนและกัส

            “วันนี้น้องสองคนไปไหนหรือเปล่า”พีคเอ่ยถามขึ้น เพราะอยากจะไปสลายพฤติกรรม ทำให้สนิทกันมากขึ้น

            “เขื่อนต้องไปทำงานที่ห้างน่ะครับ”

            “ขยันจังเลย พี่ก็กำลังจะไปซื้อของที่ห้างเหมือนกัน น้องกัสล่ะจะไปไหนหรือเปล่า”พีคหันหน้ามามองกัส

            “กลับห้องครับ”

            “ไม่ไปเที่ยวห้างกับพี่เหรอ”

            “กัสต้องทำรายงานครับ”กัสไม่กล้าบอกว่ากำลังเขียนนิยาย เพราะเขายังไม่มั่นใจฝีมือตัวเอง ถ้าเกิดรุ่นพี่ขออ่านกัสคงปฏิเสธไม่ได้แน่นอน

            “เอาแบบนี้ก็แล้วกัน พีคก็ไปส่งเขื่อนที่ห้างส่วนเราจะไปส่งกัสที่ห้องเอง จะได้รู้จักที่พักของน้องๆด้วย”จีน่าหันมามองกัสแล้วยิ้มให้อย่างเอ็นดู

            “ตกลงตามนี้น่ะ”พีคเอ่ยขึ้น

            ใจจริงกัสก็อยากที่จะไปเที่ยวกับพีคในห้าง แต่เขายังติดพันเขียนนิยายอยู่ ถ้าเกิดกัสไปเที่ยวกับพีคอาจจะทำให้นิยายของเขาจบช้าลงไปอีก แต่กัสก็รู้สึกอิจฉาเขื่อนเล็กๆที่ได้ไปเที่ยวกับพีค แต่ด้วยความฝันใฝ่อยากมีนิยายเป็นของตัวเองสักเรื่อง เขาจึงเลือกที่ปฏิเสธและกลับห้องโดยมีเกรซไปส่ง

            เมื่อกัสมาถึงที่ห้องเขาก็รีบทำธุระเส่วนตัวทันที หลังจากนั้นเขาหยิบบทละครขึ้นดู แค่เห็นชื่อเรื่อง ฉันหรือเธอที่เผลอใจ กัสก็อยากจะอ่านทันที แต่ความต้องการเขียนนิยายมีมากกว่า กัสจึงวางบทละครทิ้งไว้ และหันไปที่แป้นพิมพ์เพื่อลงมือเขียนนิยายต่อทัน

            ยิวนั่งซึมและหวาดกลัวอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ หลังจากวิ่งตามแม่ทัพวิศรุฒจนหกล้มเท้าแพลง จึงทำให้ยิวไม่สามารถเดินตามแม่ทัพวิศรุฒทัน ยิวจึงทำได้แต่นั่งอยู่เพียงลำพัง ในค่ำคืนอันโหดร้ายสำหรับเขา

            ฟ้าเริ่มร้องฝนเริ่มโปรยปราย ยิวไม่สามารถเคลื่อนร่างกายไปไหนได้ ถึงเขาจะเดินได้แต่ก็ไม่รู้หนทางอันมืดมิดนี้ ไม่ว่ายิวจะตกอยู่ในสถานะอะไร เขาก็หมดหนทางเดินไปข้างหน้า ฝนเริ่มตกหนักขึ้นจนทำให้ร่างกายของยิว เปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝน พร้อมกับน้ำตาไหลรินรวมเป็นสายเดียวกัน ยิวไม่รู้จะทำอะไรต่อจากนี้ เขาได้แต่นั่งยกเข่าสูงและก้มหน้าชันเข่า

            “ทำไมไม่หาที่หลบฝน”เสียงเข้มๆห้วนๆ ดังขึ้นข้างหลังของยิว เขาจึงรีบหันไปมองซึ่งเป็นแม่ทัพวิศรุฒยืนเปียกน้ำฝนเช่นเดียวกับเขา

            “จะให้ไปไหนได้ล่ะ เราหกล้มจนเท้าแพลงเดินไม่ได้”

            “ไหนข้าขอดูหน่อยซิ”แม่ทัพวิศรุฒก้มลงดูเท้าของยิวที่บวมแดง

            “นายทำข้าเจ็บนายต้องรับผิดชอบด้วย”

            “ก็ได้ ขี่หลังข้าก็แล้วกัน”

            แม่ทัพวิศรุฒนั่งยองๆหันหลังให้ยิว เพื่อจะให้ยิวได้ขี่คอ เพราะเขารู้สึกผิดอย่างมาก ที่ทำรุนแรงและทิ้งยิวในครั้งนี้ ยิวขยับตัวเข้าใกล้แม่ทัพวิศรุฒและใช้สองแขนคล้องคอไว้ ส่วนแม่ทัพวิศรุฒจับสองขาของยิว หลังจากนั้นเขาพยุงตัวลุกขึ้นรีบเดินผ่ากลางสายฝน ไปยังสถานที่หลบฝนไม่ไกลจากป่าแห่งนี้

            แม่ทัพวิศรุฒพายิวมายังถ้ำอันมีแสงสว่างจากไฟ ที่ก่อจากกิ่งไม้หลายอันสุมวางทับกันจนเกิดประกายไฟเจิดจ้า แม่ทัพวิศรุฒวางร่างของยิวไว้ข้างๆกองไฟ

            “ข้าดูตีนอีกทีซิ”

            “อยากดูก็ดูซิ”ยิวแสร้งทำเป็นไม่สนใจ

            แม่ทัพวิศรุฒจับเท้าของยิวและค่อยๆลูบ เพราะเขามีแผนที่จะทำอะไรบางอย่าง โดยไม่ให้ยิวได้รู้ตัว

            “ตีนของเอ็งเล็กมากเลย”

            “ฮือ”

            เมื่อแม่ทัพวิศรุฒเห็นยิวเผลอ เขาจึงจับข้อเท้าที่พลิก  ทำการกระตุกให้เข้าที่อย่างเดิม จนเสียงดังเปาะ ยิวเจ็บสุดขีดตกใจจนหวีดร้องสุดเสียง

            “โอ๊ย นายจะฆ่าเราหรือไง”ยิวจับเท้าของตัวเอง

            “ไม่ได้ฆ่าเอ็ง แต่ช่วยเอ็ง ยังไม่สำนึกอีก”

            “ช่วยอย่างไง”

            “ก็ลองขยับตีนดูซิ”

            ยิวทำตามคำของแม่ทัพวิศรุฒ ขยับเท้าไปมาและลุกขึ้นยืนเดิน ยิวไม่รู้สึกเจ็บแม้แต่น้อย เขาดีใจมากจนทำอะไรไม่ถูก ได้แต่มองหน้าแม่ทัพวิศรุฒ

            “ขอบใจนายมากนะ นายเก่งจริงๆท่านแม่ทัพ”

            “ไม่ต้องมาขอบใจหรอก ข้าทำไปเพื่อมนุษยธรรมต่างหาก”

            “ก็นั่นแหละ จะเพื่ออะไรก็แล้วแต่ อย่างไงเราต้องขอบใจนายมากๆ”

            “แล้วแต่เอ็ง”

            ยิวยืนยิ้มสักพัก หลังจากนั้นเขาก็นั่งลงข้างๆแม่ทัพวิศรุฒที่เปลือยท่อนบน เผยเห็นมัดกล้ามชัดเจนจนยิวต้องหันสายตาไปทางอื่น

            “ถอดเสื้อนั้นทิ้งไปซะ มันขาดรุ่งริ่งไปหมดแล้ว”แม่ทัพวิศรุฒรำคาญนัยลูกตา เสื้อผ้าที่ฉีกขาดของยิว

            “ถอดแล้วจะใส่อะไรล่ะ”

            “ก็ไม่ต้องใส่ไง ผิงไฟก็คลายหนาวได้ ถ้าเอ็งอยากใส่ก็ตามใจ ป่วยขึ้นมาข้าไม่พาไปรักษานะ จะปล่อยให้ตายอยู่ในถ้ำนี่แหละ”

            “ใจร้าย”

            “ถ้าข้าใจร้ายคงไม่พาเอ็งมาที่นี่หรอก”

            “เราอยากรู้จังทำไมนายกลับมารับเราอีก”ยิวถอดเสื้ออกตามคำของแม่ทัพวิศรุฒ

            “ก็ข้า คือเอ่อ”

            แม่ทัพวิศรุฒหันหน้ามาได้จังหวะพอดี ที่ยิวถอดเสื้อออกจนหมด เผยเห็นผิวขาวเนียนใสไร้ริ้วรอย มัดกล้ามที่แขนและหน้าอกก็ไม่มี  ส่วนหน้าท้องแบนราบหาพุงไม่เจอ แม่ทัพวิศรุฒมองขึ้นบนอีกครั้ง เขามองที่แผ่นอกของยิว เพื่อดูหัวนมสีชมพูอ่อนๆ เพียงแค่ได้เห็นใจของแม่ทัพวิศรุฒถึงกับเต้นไม่เป็นจังหวะ

            “มัวมองแต่เราอยู่นั่นแหล่ะ ยังไม่บอกเลยว่ามารับเราทำไม”

            “ข้าอยากรู้ว่าสถานที่เจ้ามา ผู้ชายมีเมียเป็นผู้ชายจริงเหรอ แล้วเขาทำกันอย่างไง”

            “มาถามแค่นี้น่ะเหรอ ก็นึกว่าอยากมีเมียซะอีก”ยิวอมยิ้ม

            “ก็ใช่น่ะสิ ข้าอยากมีเมียใจจะขาด เพราะตั้งแต่โตเป็นหนุ่มข้ายังไม่ได้สัมผัสผู้หญิงใดเลย เพราะมัวแต่ออกรบทำศึกสงคราม กลับไปครานี้แม่ของข้า เตรียมเมียไว้ให้ข้าได้สมรสแล้วด้วย”

            “ถ้าอย่างนั้นก็ดีนี่ ไม่ต้องมีหรอกเมียผู้ชาย”

            “ข้าอยากลองดู ลองแบบลับๆ ไม่ต้องบอกใคร”

            “ทำตรงนี้ไม่ได้มันกลางป่ากลางเขา”

            “ข้ายังไม่บอกเลยว่าจะทำที่นี่ เอ็งนี่คิดอุบาทว์ ข้าหมายถึงกลับไปถึงบ้านเมืองข้าก่อน”

            “อ่อ”ยิวโล่งใจ ถึงเขาจะชอบผู้ชายแต่จะให้มีความสัมพันธ์กับคนที่ไม่ได้รัก ยิวก็ไม่อยากจะทำ  แต่ถ้ามันจำเป็นจริงๆยิวก็พร้อมใจที่จะทำ เพื่อเอาตัวรอดจากเมืองสมมุติในนิยายที่เขาอ่าน

            “อีกไม่นานก็จะสว่าง ไม่ต้องนอนหรอก เพราะเราต้องรีบเดินทางออกไปจากที่นี่โดยเร็ว”

            “ไปที่ไหนเหรอ”

            “บ้านเมืองของข้าไง”

            “แล้วทหารของนายล่ะ”

            “ป่านนี้น่าจะเดินทางนำพวกเราไปแล้วแหละ”

            “ถ้าเราไปบ้านเมืองของนาย ให้เราไปในฐานะอะไรล่ะ”

            “เมียข้าไง”

            “ฮ่ะ ท่านแม่ทัพพูดจริงเหรอ ท่านแม่ทัพไม่อายทหารและผู้คนใช่ไหม”

            “อายสิ”

            “อาย ยังจะเอาเราทำเมียอีกเหรอ”

            “อย่าพึ่งพูดเรื่องนี้เลย เอาไว้ถึงบ้านเมืองข้าก่อนค่อยว่ากันอีกที แต่ไม่ต้องกลัวหรอกข้าเอาเอ็งเป็นเมียแน่ๆ ข้าอยากรู้ใจจะขาดแล้วว่าเขาทำกันอย่างไร”

            “ถึงเวลาเดี๋ยวก็รู้เองนั่นแหละ แต่ตอนนี้หาเสื้อผ้าให้เราใส่ก่อนได้ไหม”

            “ใช่ เอ็งต้องใส่เสื้อผ้า เพราะผิวพรรณเอ็งยังกับผู้หญิง ถ้าถอดเสื้อเดินป่าคงลายเต็มตัว เมียข้าจะโดนอะไรกัดขีดข่วนไม่ได้ เดี๋ยวตอนเช้าข้าจะไปหาเสื้อมาให้เอ็งใส่”

            ยิวนั่งมองแม่ทัพวิศรุฒที่จริงจังกับการมีเมียมาก ซึ่งยิวก็เข้าใจดีเพราะแม่ทัพวิศรุฒมัวแต่ทำศึกสงครามจนลืมความสุขส่วนตัว เมื่อมีโอกาสที่จะได้รับสัมผัสแห่งสุข เขาคงไม่ปล่อยโอกาสนั้นทิ้งไป ถึงแม้โอกาสนั้นอาจจะได้เมียที่เป็นผู้ชาย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • นิยายรักสองภาพ   นิยายรักสองภพ จบ

    ศีรษะที่กระแทกลงบนโน๊ตบุ๊ค ทำให้ได้แรงกระเทือนสลบวูบไปชั่วครู่ เมื่อได้สติดวงตาคู่นี้จึงลืมขึ้นทันที พร้อมหันไปมองเสียงประตูที่เปิดออก ซึ่งเห็นชายหนุ่มที่คลับคล้ายคลับคลาเหมือนคนรู้จัก แต่แล้วเขาก็ไม่ได้คิดอะไรนาน เพราะผู้ชายตรงหน้าหันมามอง และรู้ได้ทันทีว่าเป็นเป็ก“ถึงเราจะโกรธนาย แต่สิ่งที่นายให้เราทำ เราก็จะทำให้นายเป็นครั้งสุดท้าย” เมื่อเป็กพูดจบเขาก็เดินออกจากประตูไปในทันใด พร้อมปิดประตูจนเสียงดังลั่นสนั่นมือน้อยๆ กำที่ศีรษะสายตามองไปรอบๆ ดวงตาคู่นั้นถึงกับเบิกโพลงทันใด เพราะสิ่งที่เห็นเป็นห้องนอนอันคุ้นเคย มือนั้นรีบมาจับศีรษะและบริเวณลำคอทันใด“เรายังไม่ตาย” ยิวพูดขึ้นลอยๆ แล้วความแปลกใจและตื่นตระหนกยิวคิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ตอนอยู่ลานประหาร สิ่งสุดท้ายที่จำได้คือแค่รับสัมผัสจากคมดาบเพียงชั่ววินาที หลังจากนั้นเขาก็จำอะไรไม่ได้แม้แต่นิด ยิวคิดวนมาวนไปหลายรอบพร้อมหันหน้าไปมา จนเห็นโน๊คบุ๊คเปิดอยู่เขาจึงจับเม้าท์คลิกเปิดดูทันใด และสิ่งที่เขาเห็นเป็นคลิปวีดีโอตัวเขาเองกับพีคกำลังนอนกอดกัน“อะไรกันนี่ มันไม่ใชเรานี่หน่า” ยิวปิดวีดีโอนั้นทันทีเมื่อปิดวีดีโอเสร็จเขาได้เห็นเว็บเขี

  • นิยายรักสองภาพ   วันประหาร

    ข่าวทำสงครามของแม่ทัพวิศรุฒรบชนะดังไปทั่วแคว้นแดนดิน ทั้งสองเมืองต่างเฉลิมฉลองอึกทึกครึกโครม เพราะในช่วงเวลานี้ได้เป็นพันธมิตรกัน หลังจากงานอันเป็นมงคลได้ผ่านไป แม่ทัพวิศรุฒซึ่งในเวลานี้เป็นราชาวิศรุฒ ได้ทราบข่าวร้ายในทันใด เมื่อจอมได้รีบมาบอกข่าวนี้ทันทีเมื่อได้ยินเรื่องราวไม่ดี“พระองค์ ราชาศิลาจะประหารชีวิตองค์ชายเมธีพระเจ้าค่ะ” จอมหน้านิ่วคิ้วขมวด“ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เพราะเหตุผลใดเล่า” แม่ทัพวิศรุฒมีสีหน้าวิตกกังวลยิ่งนัก“ได้ข่าวมาองค์ชายเมธีได้ฆ่าองค์ชายศิธาตายพระเจ้าค่ะ”“ไม่น่าใช่ อ่อนแอขนาดนั้น”“กระหม่อมก็ไม่รู้ แต่สายรายงานข่าวมาเช่นนี้พระเจ้าค่ะ พระองค์จะทำเช่นไรข้าอดเป็นห่วงองค์ชายเมธีไม่ได้ ถึงแม้จะไม่ใช่ตัวจริงอย่างน้อยพระองค์ท่านก็มีบุญแก่กระหม่อม”“ไม่ต้องห่วงข้าจะกลับเมืองศิลานคร แต่ข้าจะขี่ม้าไปคนเดียว เพราะจะได้ไวขึ้นกว่าไปเป็นกองทัพ”“กระหม่อมขอเสด็จตามไปด้วยนะพระเจ้าค่ะ”“ได้ ออกเดินทางวันนี้เลยเดี๋ยวไม่ทันการณ์” ราชาวิศรุฒถอนหายใจเฮือกใหญ่“พระเจ้าค่ะ กระหม่อมไปเตรียมม้าและข้าวของจำเป็นก่อนนะพระเจ้าค่ะ”“อืม”“กระหม่อมทูลลา”ราชาวิศรุฒยืนนิ่งครุ่นคิดและหวาดหวั่

  • นิยายรักสองภาพ   แผนการครั้งสำคัญ

    กัสหยุดเขียนนิยายไปหลายวัน และเริ่มตีตัวออกห่างเป็กแล้วเข้าหาพีคในช่วงเวลาเดียวกัน ค่ำคืนนี้จึงเป็นแผนเผด็จศึกและเสร็จศึกให้จบสิ้น เขาจึงรีบโทรหาพีคในทันใด“ฮัลโหลมีอะไรหรือเปล่าน้องกัส”“พี่พีค” กัสร้องสะอื้นไห้ออกมา“เป็นอะไรบอกพี่มา”“เป็กเขาทิ้งกัสไปแล้ว เขาบอกเบื่อกัสไม่อยากคบเป็นแฟนอีกต่อไป”มีแต่เสียงสะอื้นไห้ของกัสแต่ไร้เสียงใดๆ ของพีค จนกัสรู้สึกใจหายและผิดหวังในสิ่งที่ทำลงไปไม่เกิดผล“ใจเย็นๆ ในเมื่อเขาไม่รักเราแล้ว ก็ปล่อยเขาไปเหมือนอย่างพี่กับเขื่อนไง อย่าเสียใจไปเลย”“แต่ อืม กัสยังคิดอดไม่ได้ครับ” กัสกลับมาดีใจอีกครั้ง“ไม่ต้องคิดอะไรมาก เอาอย่างนี้พี่จะไปอยู่เป็นเพื่อนก็แล้วกัน ในเมื่อเป็กเลิกกับกัสกันไปแล้ว พี่ไปอยู่ด้วยคงไม่เป็นปัญหาอะไรหรอก ถ้างั้นรอพี่อยู่ที่ห้องนะอย่าคิดอะไรมาก พี่จะรีบไปเดี่ยวนี้ ทำใจดีๆ ไว้นะน้องกัส”“ครับ ขอบใจพี่พีคมากที่คอยดูแลกัสตลอดมา”“อืม ไม่เป็นไร”เมื่อพีคได้วางหูโทรศัพท์มือถือ กัสถึงกับอมยิ้มและเตรียมแผนการต่อไว้อย่างดี หลังจากนั้นกัสนิ่งรอพีคมายังห้องอย่างใจจดใจจ่ออย่างมีความหวัง และคาดฝันในสิ่งที่วางแผนไว้ ซึ่งเวลาที่เฝ้ารอไม่ได้นานมา

  • นิยายรักสองภาพ   สงครามสองผู้

    เวลาที่แม่ทัพวิศรุฒรอคอยได้มาถึง เมื่อถึงเวลาเขาบุกเข้าไปในเมืองเมฆาบุรีทันที แต่ยังไปไม่ถึงป้อมปราการ ทัพเสือเข้มวิ่งกรู่เข้ามาอย่างรวดเร็ว สองกองทัพต่างวิ่งถือดาบธนูเข้าหากัน เหมือนกับเคืองแค้นกันมาหลายภพหลายชาติเหล่าทหารกองทัพเมืองศิลานครนำทัพโดย แม่ทัพวิศรุฒนั้นร่างกายค่อนข้างแกร่งฝีมือดี เพราะผ่านศึกสงครามและฝึกฝนอย่างหนัก ในทางกลับกันฝีมือของกองทัพเสือเข้มร่างกายได้หาแข็งแกร่งไม่ ฝีมือใช่ว่าจะดีมากมาย แต่ที่ชนะกองทัพของราชาวิหคเพราะรบแบบกองโจร และแผนการอันแยบยล ในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ถึงแม้จะมีทหารโดยแท้ปะปนมาด้วย แต่หาเทียบเหล่าทหารแม่ทัพวิศรุฒได้ โดยการครั้งนี้มีเสือเข้มนำกองทัพออกรบ แต่บรรดาทหารไม่ได้ออกมาทั้งหมดแม่ทัพวิศรุฒก็รู้ดีเช่นกัน เพราะทราบข่าวจากการสู้รบของเสือเข้มจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา เขาจึงเตรียมการไว้อย่างดี เมื่อเขาได้นำทัพมาถึงกลางสนามรบ แต่ไม่สามารถฝ่าเข้าไปได้ในทันที เพราะเสือเข้มออกมาสู้ประจันหน้า และพร้อมกับสองข้างฝั่งมีกองโจรดักอยู่ คอยยิ่งธนูไม่ขาดสายถึงเป็นเช่นนั้นแม่ทัพวิศรุฒหากลัวไม่ เพราะสองฝั่งเขาให้จอมและทันเดินทัพออกห่างออกไปไกล เมื่อถึงเวลารบจ

  • นิยายรักสองภาพ   ร่างให้ตัวร้ายใจให้พระเอก

    กัสยังไม่ได้เริ่มเขียนนิยายแม้แต่คำเดียว เป็กก็มาถึงยังห้องนอนอย่างรวดเร็ว จึงมีความจำเป็นต้องหยุดทุกอย่างไว้แค่นั้น“เราทำให้นายทุกอย่างเลยนะ ว่าแต่นายจะทำอะไรให้เราบ้างล่ะในคืนนี้” เป็กกอดร่างของยิวไว้แน่นพร้อมบรรจงจูบทั่วใบหน้า ไม่ว่างเว้นแม้แต่ส่วนเดียว“ไปอดอยากมาจากไหน” กัสยังนิ่งเฉยไม่ขัดขืนแต่อย่างใด“ใช่ อดอยาก อมให้หน่อย” เป็กหยุดสัมผัสเรือนกายของกัสและปลดอาภรณ์ทุกชิ้นออกไม่มีเหลือ พร้อมกับล้มตัวลงนอนข้างๆ กัสที่นั่งยิ้มแต่ใจนั้นแสนเบื่อหน่ายกัสไม่สามารถที่จะปฏิเสธการนี้ได้ เขาจึงจับท่อนเอ็นของเป็กที่กำลังแข็งตั้งตระหง่าชูชัน พร้อมกับก้มใบหน้า ใช้ริมฝีปากสัมผัสท่อนเอ็นส่วนปลายสีชมพูอ่อนๆ จากทีแรกรู้สึกเบื่อหน่ายแต่เมื่อเห็นท่อนเอ็น ทำให้มีอารมณ์ร่วมมากขึ้นกัสจึงใช้ปลายลิ้นสัมผัสไล้เลียวนมาวนไปอย่างใคร่กระหาย“อืม อืม อืม” เป็กครางออกมาด้วยความเสียวซ่านอย่างถึงใจ“จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ” เสียงอมรูดท่อนเอ็นดังอย่างต่อเนื่องริมฝีปากอันเล็กรูดท่อนเอ็นขึ้นลงอย่างช้าๆ และใช้ปลายลิ้นตวัดเลียไปมา พร้อมกับเร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนร่างของเป็กสั่นสะท้าน ความรู้สึกสยิวท่อนเอ็นอย่างต่อเนื่อง

  • นิยายรักสองภาพ   แค้นที่ต้องชำระ

    ยิวนั่งหมดอะไรตายอยากในห้องบรรทมอย่างเงียบเหงา ด้วยไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อจากนี้ หมดสิ้นหนทางอย่างไร้ที่หมาย เขาถึงกับถอนหายใจถี่ก้มมองลงพื้นด้วยความกลัดกลุ้มในใจอย่างรวดร้าว แต่แล้วเมื่อเขาได้ยินเสียงประตูเปิดออก ความรู้สึกนั้นได้จางหายไปในทันที เมื่อร่างขององค์ชายศิธาปรากฏ“นั่งเหงาเลยนะองค์ชายเมธี”“ถ้ามาพูดแค่นี้ไม่น่าต้องเสด็จมาก็ได้”“ข้ามีเรื่องจะบอกองค์ชายถึงมานี่ เรื่องนี้ข้าเท่านั้นที่ต้องบอก จะได้สมน้ำสมเนื้อกับองค์ชาย”“เรื่องอะไร” ยิวให้ไปทั้งใบหน้ามององค์ชายศิธาที่ยืนยิ้มอย่างเย้ยหยัน“แม่ทัพวิศรุฒออกเดินทางไปยังเมืองเมฆาบุรีแล้ว”ยิวไม่ได้ตอบโต้อะไร เพราะเขารู้สึกใจหายหวั่นๆ อยู่เหมือนกัน เพราะนั่นเท่ากับเขาอยู่ที่นี่อย่างไร้ความหมาย“รู้ไหม ทำไมแม่ทัพวิศรุฒถึงไปยังเมฆาบุรี”“ข้าไม่รู้”“เพราะที่เมฆาบุรีเกิดการกบฏอีกครั้ง และคนก่อกบฏก็เป็นเสือเข้ม องครักษ์ขององค์ชายนี่ใช่ไหม”ดวงตาของยิวเบิกโตตื่นเต้นไม่คาดคิดว่าเสือเข้มจะทำได้จริงๆ และนั่นเขาก็หวั่นๆ ว่าจะเกิดร้ายไม่ดีกับแม่ทัพวิศรุฒ“เพลานี้เมืองเมฆาบุรีกำลังวุ่นวาย เสด็จพ่อของข้าจึงสั่งจัดการให้สิ้นซาก”“บอกข้าทำไม” ยิว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status