Beranda / วาย / นิยายรักสองภาพ / ผู้ชายก็เป็นเมียได้

Share

ผู้ชายก็เป็นเมียได้

last update Terakhir Diperbarui: 2024-11-17 16:56:38

             สองหนุ่มเพื่อนชี้ได้นั่งอ่านบทละครในห้องที่แสนอบอุ่น สองบทละครถูกเขื่อนและกัสอ่านจนหมดแต่ไม่จบเรื่อง

            “กัสชอบตัวละครไหน”เขื่อนเงยหน้าขึ้นปาดสายตามองกัส

            “ชอบทั้งสองบทเลยนะ บทแรกนี่ตรงข้ามกับเรามากเลย เป็นคนที่เข้มแข็งเด็ดเดี่ยว ตรงมาตรงไป ส่วนบทที่สองบทนิ่งๆเฉยๆเรียบๆนี่เราเลยนะ”

            “เราว่าบทที่สองเหมาะกับกัสนะ”

            “ใช่ เหมาะกับเรา แต่บทแรกก็เหมาะกับเขื่อนเหมือนกัน”

            “พวกเราจะเลือกบทที่เหมาะกับตัวเองหรือที่แตกต่างดีล่ะ”

            “เราว่าเลือกบทที่เหมาะกับตัวเองดีกว่า”กัสสบตาเขื่อนเพื่อนรัก

            “ถ้ากัสคิดว่าอย่างนั้น เราก็ไม่มีปัญหาอะไรนะ”

            “ตกลงตามนี่ก็แล้วกัน แต่พี่เกรซให้บทละครมาแค่หนึ่งส่วนสี่ของเรื่องเอง เรายังไม่รู้เลยว่าตัวละครจะไปทิศทางไหน”

            “ใช่ แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกเล่นไปตามบทเรื่อยๆ เราคิดว่าพวกพี่ๆอยากได้การแสดงแบบดิบๆมากกว่า เลยไม่อยากให้รู้การดำเนินเรื่องเป็นอย่างไร”

            “ฮือ ถ้าจะจริง แต่เราก็อยากรู้ว่าบทไหนจะร้ายหนอ”

            “ไม่อยากเล่นบทร้ายเหรอ”เขื่อนเอ่ยขึ้น

            “ไม่เชิงหรอก  เรากลัวว่าเราเล่นไม่ได้ไงบทร้ายๆนะ”

            “ไม่ต้องห่วงหรอก  ถ้าบทของกัสเล่นร้ายก็จะเป็นร้ายลึก ถ้าเป็นเราก็จะร้ายแบบเปิดเผย น่าจะประมาณนี้ ซึ่งตรงกับคาแร็กเตอร์ของเราทั้งสองนะ”

            “เขื่อนว่าแอบว่าเราร้ายลึกหรือเปล่า”

            “เปล่า เราพูดถึงบทละคร”เขื่อนพูดเสียงสูงทีเดียว เพราะกลัวกัสเข้าใจความคิด

            “เราล้อเล่นมันก็แค่การแสดง เมื่อตกลงกันได้แล้วเราขอไปเขียนนิยายต่อนะ”

            “เราอยากอ่านนิยายของกัสจังเลย ขอเราอ่านหน่อยได้ไหม”

            “ไม่ได้หรอก รอจบเรื่องก่อนค่อยอ่าน เราพึ่งเขียนได้สองตอนเอง”

            “โอเค ถ้างั้นเรานอนแล้วนะ อย่าเขียนจนดึกล่ะ พรุ่งนี้อาจได้ซ้อมละครเวทีด้วย”

            “ฮือ คืนละตอนแค่นั้นแหละ”

            กัสหันหน้าเข้าหาโน๊คบุ๊คพร้อมเปิดเครื่อง สายตามองแป้นพิมพ์และตั้งสติ ทำสมองให้ปลอดโปร่ง เพราะนิยายเรื่องนี้เขาจะเขียนแนวโรแมนติดย้อนยุค

            ในห้องนอนที่เงียบสงัด มีเพียงแสงไฟสลัวๆที่เล็ดลอดเข้ามาจากนอกห้อง ซึ่งเป็นแสงพระจันทร์ที่สาดส่องลอดหน้าต่างที่เปิดกว้างไว้ ทว่าในความเงียบนั้นมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น

            เสียงทหารเหล่ากล้าต่างตะโกนเรียกแม่ทัพวิศรุฒ เพราะภายในวังแห่งนี้เกิดการจลาจลอีกครา บรรดากองโจรในคราบทหารเมืองโสรยา ที่หลีกหนีหายไปก่อนเมืองจะแตก ได้นำพาพรรคพวกกลับมาโจมตีเอาเมืองคืน

            แม่ทัพวิศรุฒและยิวนักศึกษาหนุ่มลุกขึ้นพรวด เมื่อได้ยินเสียงผู้คนมากมายส่งเสียงดัง พร้อมกับเสียงกระทบของดาบหลายเล่มปะทะกัน

            “เกิดอะไรขึ้น”ยิวมีสีหน้าที่หวั่นวิตกกลัวเหตุซ้ำรอยเดิม

            “จะอะไรซะอีก ก็ทหารขององค์ชายนั่นแหละ น่าจะมาตีเมืองคืน”

            “ทำไงดี เราต้องหนีซิ”

            “หนีทำไม”แม่ทัพวิศรุฒคว้าดาบข้างกายและจับมือของยิวเดินออกจากห้อง

            “นายจะดึงเราไปไหน”

            “ข้าจะดึงองค์ชายไปเป็นตัวประกัน”

            “ตัวประกันอะไร เราไม่ใช่องค์ชาย”

            “อะไรน่ะ”แม่ทัพวิศรุฒหันหน้ามามองยิว ด้วยความพิศวง

            “เราไม่ใช่องค์ชายเราโกหก เราเป็นคนอีกโลกหนึ่ง จะอธิบายอย่างไงดีล่ะ ง่ายๆก็แล้วกัน เราไม่ใช่คนที่นี่”

            ยิวรู้สึกหวั่นกลัวและพลางคิดไปว่าไม่น่าโกหกว่าเป็นองค์ชายเลย ทั้งที่ๆเขาเป็นนักศึกษาที่กำลังอ่านนิยายแล้วหลงเข้ามา

            “อย่ามาโกหก”แม่ทัพวิศรุฒไม่เชื่อสิ่งที่ยิวพูด เขาจึงพายิวออกไปนอกห้องบรรทมของเจ้าเมืององค์เก่า

            เพียงแม่ทัพวิศรุฒเปิดประตูออกไป สายตาที่กลมโตของยิวกลับขยายใหญ่ขึ้นกว่าเดิม เพราะภาพตรงหน้าคือเหล่าทหารกล้า กำลังต่อสู้สุดกำลังกับกองโจรแอบแฝงชนชั้นสูงแห่งเมืองโสรยา ที่ฝีมือการต่อสู้ไม่ได้ด้อยไปกว่าพลทหารของแม่ทัพวิศรุฒเลย

            “ท่านแม่ทัพเราคงต้านไว้ไม่ไหว ขืนเราต่อสู้คงจะเสืยเลือดเนื้อมากกว่านี้”

            “ข้ายอมตายดีกว่ายอมอดสูหลบหนี”

            “ทหารคนนั้นพูดถูกเราต้องหนี เพื่อไปตั้งหลักก่อน หลังจากนั้นเราค่อยมาแก้แค้นเอาคืนอย่างสาสม”ยิวพูดจบหลบอยู่หลังแม่ทัพวิศวรุฒทันที

            “องค์ชายท่านพูดอะไร พวกเราอยู่คนละฝ่ายไม่ใช่รึ”

            “อย่าพูดมากเลย โน้นมาทหารมาเป็นกองร้อยแล้วนั่น”

            “แต่ที่องค์ชายพูดก็ถูกนะขอรับ แล้วเราก็เอาตัวองค์ชายนี่แหละเป็นตัวประกัน”ทันทหารคนสนิทจ้องมองยิวไม่คาดสายตา

            ยิวยืนนิ่งตะลึงกับคำพูดของทันทหารคนสนิทของแม่ทัพวิศรุฒ  ซึ่งยิวก็ยืนนิ่งได้ไม่นานเพราะแม่ทัพวิศรุฒรีบจับร่างของเขามายืนตรงหน้า จ่อดาบไว้ที่คอพร้อมตะโกนเสียงดังลั่น

            “หยุดเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่หยุดข้าจะฆ่าองค์ชายโสพลของพวกเอ็ง”

            เหล่าทหารกองโจรแห่งเมืองโสรยา หยุดกะทันหันพร้อมมุ่งสายตามาที่แม่ทัพวิศรุฒแต่ สิ่งที่เหล่าทหารเห็นกลับสร้างความหึกเหิมขึ้นมาทวีคูณ

            “เมืองนี้ไม่มีองค์ชายแต่งตัวประหลาด ช่างน่าขันท่านแม่ทัพใหญ่ ไปเอาใครที่ไหนมาสมอ้างว่าเป็นองค์ชาย”หัวหน้าทหารกองโจรรายหนึ่งตะโกนขึ้น

            “เราบอกแล้วว่าไม่ใช่องค์ชาย”ยิวพูดอย่างเสียงแผ่วเบา

            แม่ทัพวิศรุฒปล่อยมือยิวทันที เมื่อความจริงปรากฏจากปากของทหารเมืองโสรยา หลังจากนั้นเขาผลักร่างยิวกระเด็นไปข้างหลัง ส่วนตัวของแม่ทัพวิศรุมก็ยกดาบฟาดไปยังกลุ่มกองโจร

            “หยุดก่อนท่านแม่ทัพเราถอยดีกว่า ทหารของพวกเรามีพ่อมีแม่มีลูกเมียนะ”ทันทหารคนสนิทตะโกนขึ้น

            “ได้ ถอย”แม่ทัพวิศรุฒตะโกนเสียงดัง

            ยิวที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่ เขามองไปยังสายตาของแม่ทัพวิศรุฒ ซึ่งเหมือนมีการส่งสัญญาณบางอย่างออกมา จึงทำให้ยิวนั้นต้องตัดสินใจทำอะไรบางอย่างต่อจากนี้

            “ขอรับ”ทันทหารคนสนิทพยักหน้า พร้อมส่งสัญญาณให้เหล่าทหารกล้าเมืองศิลานคร ที่ไม่ได้อยู่ในห้องแห่งนี้ ทำการเผาเมืองโสรยา

            ยิวรู้สึกหวาดกลัวเพราะแค่เพียงชั่วอึดใจไฟก็ลุกไหม้ลามอย่างรวดเร็ว เพราะบรรดาทหารที่แม่ทัพวิศรุฒให้ซ่อนตัวไว้ ได้ออกถือไฟที่ลุกโชนโยนลงทั่วห้องโถง จึงทำให้เกิดเวลาเแสนจะชุลมุนวุ่นวาย ยิวนักศึกษาหนุ่มจึงฉวยโอกาสทอง วิ่งหลบหนีแต่ไม่เล็ดลอดสายตาของแม่ทัพวิศรุฒไปได้  แม่ทัพวิศรุฒจึงวิ่งตามเพียงไม่กี่ก้าวก็ทันร่างบางของยิว

            “จะไปไหนองค์ชายปลอม”แม่ทัพวิศรุฒดึงคอเสื้อของยิวไว้จนขาดเป็นสองท่อน

            “ใครจะอยู่ให้โง่ล่ะ ขืนอยู่มีแต่ตายกับตาย”

            สิ้นเสียงของยิวเหล่าทหารเมืองโสรยา มุ่งพุ่งวิ่งเข้าหาร่างสูงใหญ่และร่างบางที่ยืนคู่กัน แม่ทัพวิศรุฒรู้ตัวเองดีว่า ไม่สามารถรับมือทหารร่วมร้อยพร้อมกันได้ เขาจึงดึงมือของยิววิ่งออกทางประตูเมือง ส่วนมือที่ถือดาบก็ฟาดฟันทหารบางส่วนที่จู่โจมตลอดทาง

            ยิวไม่สามารถที่จะปกป้องตัวเองได้ เขาทำได้เพียงแต่หลบอย่างข้างหลังแม่ทัพวิศรุฒ มีบางครั้งที่ตะโกนบอกแม่ทัพวิศรุฒยามทหารจู่โจมจากด้านหลัง ถึงแม้ทหารจะเข้าปะทะแม่ทัพวิศรุฒตลอดทาง ทว่ามาแค่ครั้งละคนสองคนจึงไม่คณามือของเขา

            ด้วยพละกำลังมีเหนือกว่าและชั้นเชิงการต่อสู้อันเป็นเลิศ แม่ทัพวิศรุฒสามารถพายิวออกจากประตูเมือง เร้นกลายหายเข้าไปภายในความมืด ที่รายล้อมด้วยไม้สูงใหญ่และต้นหญ้าที่หนาแน่นกลางป่าห่างไกลตัวเมืองโสรยา

            แม่ทัพวิศรุฒยืนนิ่งมองรอบๆตัวอย่างช้าๆสายตาสอดส่องมองทั่วบริเวณ จนเขาแน่ใจว่าไม่มีผู้ใดและใครตามมา แม่ทัพวิศรุฒจึงคลายมือที่หยาบกร้าน ออกจากฝ่ามือที่เรียวงามของยิว

            “นึกว่าไม่รอดซะแล้ว นายนี่เก่งมากเลยนะ สมกับเป็นแม่ทัพใหญ่”

            “เอ็งไม่ต้องมาพูดมาก  ความผิดเอ็งยังมีอยู่ ที่มาหลอกข้าว่าเป็นองค์ชาย”

            “เราขอโทษ เราต้องเอาตัวรอดใช่ไหม จำเป็นต้องโกหกนาย”

            “เอ็งนี่ช่างขี้ขลาดเสียจริง แต่ก็ช่างมันเถอะ ถ้างั้นเราแยกกันตรงนี้ เอ็งมาจากไหนก็ไปทางนั้น”แม่ทัพวิศรุฒหันหลังให้ยิวและเดินออกห่างไปทันที

            “เดี๋ยวก่อนท่านแม่ทัพ เราไปด้วย เอาเราไปเป็นคนรับใช้ก็ได้”

            “คนรับใช้ข้ามีเยอะแล้ว อย่างเอ็งจะเอาไปทำอะไรได้ รูปร่างก็บอบบาง เรียวแรงก็น้อยยิ่งกว่าผู้หญิงเสียอีก”แม่ทัพวิศรุฒยังเดินต่อไปเรื่อยๆ โดยมียิวเดินกึ่งวิ่งตามไปติดๆ

            “เราจะพยายามทำให้ได้ทุกอย่าง ที่คนเมืองนี้ทำได้ เอาเราไปด้วยนะ จะทิ้งเราไว้อย่างนี้ไม่ได้เรากลัว”

            “ทำไมจะทิ้งไม่ได้ เราไม่ได้เป็นอะไรกัน”

            “เป็นเพื่อนกันไง”

            “เอาไปเป็นเพื่อนก็อายเขา เอ็งเป็นผู้ชายที่อ่อนแอ เพื่อนๆของข้าล้วนเป็นแต่ทหาร”

            “แล้วนายยังขาดคนช่วยทำอะไร หรือว่าต้องการใครทำอะไรให้ เราทำแทนได้หมด เรามาจากโลกที่ทันสมัย เราช่วยนายได้นะ ขอให้นายพาเราไปด้วยนะ นะ นะ ท่านแม่พัพ”

            “สิ่งที่ข้าต้องการเอ็งให้ข้าไม่ได้หรอก”

            “ได้สิ ลองพูดมาเลย”

            “ข้าอยากมีเมีย”

            “เราเป็นเมียนายได้นะ”

            แม่ทัพวิศรุฒหยุดเดินทันทีและหันมามองยิวที่กำลังยิ้มหวานอยู่ตรงหน้า ยิวพยายามคิดหาหนทางที่จะติดตามแม่ทัพวิศรุฒ เพราะคือหนทางเดียวที่เขาจะรอดจากเหตุการณ์ร้ายนี้ได้

            “เอ็งเป็นผู้ชายจะมาเป็นเมียข้าได้อย่างไง ถึงหน้าตาเอ็งจะคล้ายผู้หญิง แต่เอ็งก็เป็นผู้ชาย เอ็งมีทุกอย่างเหมือนข้า แล้วจะมาเป็นเมียข้าไม่ได้”

            “ที่โลกของเรานะ ผู้ชายกับผู้ชายกินกันเองเยอะแยะ บางคนสักเต็มตัวกล้ามอย่างบึกมีแฟนเป็นผู้ชายเหมือนกัน”

            “แฟนอะไร”

            “แฟนก็คือเมีย”

            “ฟ้าไม่ผ่าตายรึ”

            “ไม่ผ่าหรอก มันส์จะตาย”ยิวเกาะแขนแม่ทัพวิศรุฒไว้แน่น

            “ปล่อยข้า เอ็งช่างทำตัวน่ารังเกียจ”แม่ทัพวิศรุฒแกะมือยิวออกจากแขนของเขา

            ยิวไม่ยอมแพ้จับแขนแม่ทัพวิศรุฒอีกครั้ง คราวนี้แม่ทัพวิศรุฒสลัดและผลักร่างของยิว จนกระเด็นล้มลง ยิวพยายามลุกขึ้นยืนและวิ่งตามแม่ทัพวิศรุฒ แต่เขาก็ไม่สามารถที่จะตามแม่ทัพวิศรุฒทัน เพราะยิวได้สะดุดกิ่งไม้จนหกล้มลุกไม่ขึ้นทำให้เท้าของเขาแพลง ยิวจึงขยับตัวเข้าไปใต้ต้นไม่ใหญ่ แล้วมองไปรอบๆซึ่งมีแต่ความมืดที่เงียบสงัด แม้แต่เสียงจักจั่นเรไรก็ไม่มีให้ได้ยิน

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • นิยายรักสองภาพ   นิยายรักสองภพ จบ

    ศีรษะที่กระแทกลงบนโน๊ตบุ๊ค ทำให้ได้แรงกระเทือนสลบวูบไปชั่วครู่ เมื่อได้สติดวงตาคู่นี้จึงลืมขึ้นทันที พร้อมหันไปมองเสียงประตูที่เปิดออก ซึ่งเห็นชายหนุ่มที่คลับคล้ายคลับคลาเหมือนคนรู้จัก แต่แล้วเขาก็ไม่ได้คิดอะไรนาน เพราะผู้ชายตรงหน้าหันมามอง และรู้ได้ทันทีว่าเป็นเป็ก“ถึงเราจะโกรธนาย แต่สิ่งที่นายให้เราทำ เราก็จะทำให้นายเป็นครั้งสุดท้าย” เมื่อเป็กพูดจบเขาก็เดินออกจากประตูไปในทันใด พร้อมปิดประตูจนเสียงดังลั่นสนั่นมือน้อยๆ กำที่ศีรษะสายตามองไปรอบๆ ดวงตาคู่นั้นถึงกับเบิกโพลงทันใด เพราะสิ่งที่เห็นเป็นห้องนอนอันคุ้นเคย มือนั้นรีบมาจับศีรษะและบริเวณลำคอทันใด“เรายังไม่ตาย” ยิวพูดขึ้นลอยๆ แล้วความแปลกใจและตื่นตระหนกยิวคิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ตอนอยู่ลานประหาร สิ่งสุดท้ายที่จำได้คือแค่รับสัมผัสจากคมดาบเพียงชั่ววินาที หลังจากนั้นเขาก็จำอะไรไม่ได้แม้แต่นิด ยิวคิดวนมาวนไปหลายรอบพร้อมหันหน้าไปมา จนเห็นโน๊คบุ๊คเปิดอยู่เขาจึงจับเม้าท์คลิกเปิดดูทันใด และสิ่งที่เขาเห็นเป็นคลิปวีดีโอตัวเขาเองกับพีคกำลังนอนกอดกัน“อะไรกันนี่ มันไม่ใชเรานี่หน่า” ยิวปิดวีดีโอนั้นทันทีเมื่อปิดวีดีโอเสร็จเขาได้เห็นเว็บเขี

  • นิยายรักสองภาพ   วันประหาร

    ข่าวทำสงครามของแม่ทัพวิศรุฒรบชนะดังไปทั่วแคว้นแดนดิน ทั้งสองเมืองต่างเฉลิมฉลองอึกทึกครึกโครม เพราะในช่วงเวลานี้ได้เป็นพันธมิตรกัน หลังจากงานอันเป็นมงคลได้ผ่านไป แม่ทัพวิศรุฒซึ่งในเวลานี้เป็นราชาวิศรุฒ ได้ทราบข่าวร้ายในทันใด เมื่อจอมได้รีบมาบอกข่าวนี้ทันทีเมื่อได้ยินเรื่องราวไม่ดี“พระองค์ ราชาศิลาจะประหารชีวิตองค์ชายเมธีพระเจ้าค่ะ” จอมหน้านิ่วคิ้วขมวด“ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เพราะเหตุผลใดเล่า” แม่ทัพวิศรุฒมีสีหน้าวิตกกังวลยิ่งนัก“ได้ข่าวมาองค์ชายเมธีได้ฆ่าองค์ชายศิธาตายพระเจ้าค่ะ”“ไม่น่าใช่ อ่อนแอขนาดนั้น”“กระหม่อมก็ไม่รู้ แต่สายรายงานข่าวมาเช่นนี้พระเจ้าค่ะ พระองค์จะทำเช่นไรข้าอดเป็นห่วงองค์ชายเมธีไม่ได้ ถึงแม้จะไม่ใช่ตัวจริงอย่างน้อยพระองค์ท่านก็มีบุญแก่กระหม่อม”“ไม่ต้องห่วงข้าจะกลับเมืองศิลานคร แต่ข้าจะขี่ม้าไปคนเดียว เพราะจะได้ไวขึ้นกว่าไปเป็นกองทัพ”“กระหม่อมขอเสด็จตามไปด้วยนะพระเจ้าค่ะ”“ได้ ออกเดินทางวันนี้เลยเดี๋ยวไม่ทันการณ์” ราชาวิศรุฒถอนหายใจเฮือกใหญ่“พระเจ้าค่ะ กระหม่อมไปเตรียมม้าและข้าวของจำเป็นก่อนนะพระเจ้าค่ะ”“อืม”“กระหม่อมทูลลา”ราชาวิศรุฒยืนนิ่งครุ่นคิดและหวาดหวั่

  • นิยายรักสองภาพ   แผนการครั้งสำคัญ

    กัสหยุดเขียนนิยายไปหลายวัน และเริ่มตีตัวออกห่างเป็กแล้วเข้าหาพีคในช่วงเวลาเดียวกัน ค่ำคืนนี้จึงเป็นแผนเผด็จศึกและเสร็จศึกให้จบสิ้น เขาจึงรีบโทรหาพีคในทันใด“ฮัลโหลมีอะไรหรือเปล่าน้องกัส”“พี่พีค” กัสร้องสะอื้นไห้ออกมา“เป็นอะไรบอกพี่มา”“เป็กเขาทิ้งกัสไปแล้ว เขาบอกเบื่อกัสไม่อยากคบเป็นแฟนอีกต่อไป”มีแต่เสียงสะอื้นไห้ของกัสแต่ไร้เสียงใดๆ ของพีค จนกัสรู้สึกใจหายและผิดหวังในสิ่งที่ทำลงไปไม่เกิดผล“ใจเย็นๆ ในเมื่อเขาไม่รักเราแล้ว ก็ปล่อยเขาไปเหมือนอย่างพี่กับเขื่อนไง อย่าเสียใจไปเลย”“แต่ อืม กัสยังคิดอดไม่ได้ครับ” กัสกลับมาดีใจอีกครั้ง“ไม่ต้องคิดอะไรมาก เอาอย่างนี้พี่จะไปอยู่เป็นเพื่อนก็แล้วกัน ในเมื่อเป็กเลิกกับกัสกันไปแล้ว พี่ไปอยู่ด้วยคงไม่เป็นปัญหาอะไรหรอก ถ้างั้นรอพี่อยู่ที่ห้องนะอย่าคิดอะไรมาก พี่จะรีบไปเดี่ยวนี้ ทำใจดีๆ ไว้นะน้องกัส”“ครับ ขอบใจพี่พีคมากที่คอยดูแลกัสตลอดมา”“อืม ไม่เป็นไร”เมื่อพีคได้วางหูโทรศัพท์มือถือ กัสถึงกับอมยิ้มและเตรียมแผนการต่อไว้อย่างดี หลังจากนั้นกัสนิ่งรอพีคมายังห้องอย่างใจจดใจจ่ออย่างมีความหวัง และคาดฝันในสิ่งที่วางแผนไว้ ซึ่งเวลาที่เฝ้ารอไม่ได้นานมา

  • นิยายรักสองภาพ   สงครามสองผู้

    เวลาที่แม่ทัพวิศรุฒรอคอยได้มาถึง เมื่อถึงเวลาเขาบุกเข้าไปในเมืองเมฆาบุรีทันที แต่ยังไปไม่ถึงป้อมปราการ ทัพเสือเข้มวิ่งกรู่เข้ามาอย่างรวดเร็ว สองกองทัพต่างวิ่งถือดาบธนูเข้าหากัน เหมือนกับเคืองแค้นกันมาหลายภพหลายชาติเหล่าทหารกองทัพเมืองศิลานครนำทัพโดย แม่ทัพวิศรุฒนั้นร่างกายค่อนข้างแกร่งฝีมือดี เพราะผ่านศึกสงครามและฝึกฝนอย่างหนัก ในทางกลับกันฝีมือของกองทัพเสือเข้มร่างกายได้หาแข็งแกร่งไม่ ฝีมือใช่ว่าจะดีมากมาย แต่ที่ชนะกองทัพของราชาวิหคเพราะรบแบบกองโจร และแผนการอันแยบยล ในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ถึงแม้จะมีทหารโดยแท้ปะปนมาด้วย แต่หาเทียบเหล่าทหารแม่ทัพวิศรุฒได้ โดยการครั้งนี้มีเสือเข้มนำกองทัพออกรบ แต่บรรดาทหารไม่ได้ออกมาทั้งหมดแม่ทัพวิศรุฒก็รู้ดีเช่นกัน เพราะทราบข่าวจากการสู้รบของเสือเข้มจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา เขาจึงเตรียมการไว้อย่างดี เมื่อเขาได้นำทัพมาถึงกลางสนามรบ แต่ไม่สามารถฝ่าเข้าไปได้ในทันที เพราะเสือเข้มออกมาสู้ประจันหน้า และพร้อมกับสองข้างฝั่งมีกองโจรดักอยู่ คอยยิ่งธนูไม่ขาดสายถึงเป็นเช่นนั้นแม่ทัพวิศรุฒหากลัวไม่ เพราะสองฝั่งเขาให้จอมและทันเดินทัพออกห่างออกไปไกล เมื่อถึงเวลารบจ

  • นิยายรักสองภาพ   ร่างให้ตัวร้ายใจให้พระเอก

    กัสยังไม่ได้เริ่มเขียนนิยายแม้แต่คำเดียว เป็กก็มาถึงยังห้องนอนอย่างรวดเร็ว จึงมีความจำเป็นต้องหยุดทุกอย่างไว้แค่นั้น“เราทำให้นายทุกอย่างเลยนะ ว่าแต่นายจะทำอะไรให้เราบ้างล่ะในคืนนี้” เป็กกอดร่างของยิวไว้แน่นพร้อมบรรจงจูบทั่วใบหน้า ไม่ว่างเว้นแม้แต่ส่วนเดียว“ไปอดอยากมาจากไหน” กัสยังนิ่งเฉยไม่ขัดขืนแต่อย่างใด“ใช่ อดอยาก อมให้หน่อย” เป็กหยุดสัมผัสเรือนกายของกัสและปลดอาภรณ์ทุกชิ้นออกไม่มีเหลือ พร้อมกับล้มตัวลงนอนข้างๆ กัสที่นั่งยิ้มแต่ใจนั้นแสนเบื่อหน่ายกัสไม่สามารถที่จะปฏิเสธการนี้ได้ เขาจึงจับท่อนเอ็นของเป็กที่กำลังแข็งตั้งตระหง่าชูชัน พร้อมกับก้มใบหน้า ใช้ริมฝีปากสัมผัสท่อนเอ็นส่วนปลายสีชมพูอ่อนๆ จากทีแรกรู้สึกเบื่อหน่ายแต่เมื่อเห็นท่อนเอ็น ทำให้มีอารมณ์ร่วมมากขึ้นกัสจึงใช้ปลายลิ้นสัมผัสไล้เลียวนมาวนไปอย่างใคร่กระหาย“อืม อืม อืม” เป็กครางออกมาด้วยความเสียวซ่านอย่างถึงใจ“จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ” เสียงอมรูดท่อนเอ็นดังอย่างต่อเนื่องริมฝีปากอันเล็กรูดท่อนเอ็นขึ้นลงอย่างช้าๆ และใช้ปลายลิ้นตวัดเลียไปมา พร้อมกับเร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนร่างของเป็กสั่นสะท้าน ความรู้สึกสยิวท่อนเอ็นอย่างต่อเนื่อง

  • นิยายรักสองภาพ   แค้นที่ต้องชำระ

    ยิวนั่งหมดอะไรตายอยากในห้องบรรทมอย่างเงียบเหงา ด้วยไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อจากนี้ หมดสิ้นหนทางอย่างไร้ที่หมาย เขาถึงกับถอนหายใจถี่ก้มมองลงพื้นด้วยความกลัดกลุ้มในใจอย่างรวดร้าว แต่แล้วเมื่อเขาได้ยินเสียงประตูเปิดออก ความรู้สึกนั้นได้จางหายไปในทันที เมื่อร่างขององค์ชายศิธาปรากฏ“นั่งเหงาเลยนะองค์ชายเมธี”“ถ้ามาพูดแค่นี้ไม่น่าต้องเสด็จมาก็ได้”“ข้ามีเรื่องจะบอกองค์ชายถึงมานี่ เรื่องนี้ข้าเท่านั้นที่ต้องบอก จะได้สมน้ำสมเนื้อกับองค์ชาย”“เรื่องอะไร” ยิวให้ไปทั้งใบหน้ามององค์ชายศิธาที่ยืนยิ้มอย่างเย้ยหยัน“แม่ทัพวิศรุฒออกเดินทางไปยังเมืองเมฆาบุรีแล้ว”ยิวไม่ได้ตอบโต้อะไร เพราะเขารู้สึกใจหายหวั่นๆ อยู่เหมือนกัน เพราะนั่นเท่ากับเขาอยู่ที่นี่อย่างไร้ความหมาย“รู้ไหม ทำไมแม่ทัพวิศรุฒถึงไปยังเมฆาบุรี”“ข้าไม่รู้”“เพราะที่เมฆาบุรีเกิดการกบฏอีกครั้ง และคนก่อกบฏก็เป็นเสือเข้ม องครักษ์ขององค์ชายนี่ใช่ไหม”ดวงตาของยิวเบิกโตตื่นเต้นไม่คาดคิดว่าเสือเข้มจะทำได้จริงๆ และนั่นเขาก็หวั่นๆ ว่าจะเกิดร้ายไม่ดีกับแม่ทัพวิศรุฒ“เพลานี้เมืองเมฆาบุรีกำลังวุ่นวาย เสด็จพ่อของข้าจึงสั่งจัดการให้สิ้นซาก”“บอกข้าทำไม” ยิว

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status