Share

ตอนที่ 9

last update Last Updated: 2024-10-20 02:43:29

เวลาสำหรับมื้ออาหารผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว เมื่อกินข้าวกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว นางหูและจางอี้หมิงจึงพาหลี่อ้ายกลับบ้าน เด็กน้อยบอกลาจางอี้เทาที่กำลังกลับไปทำงานตามปกติ พวกเขาเดินตามเส้นทางเดิม แต่เพราะขากลับมีคนป่วยมาด้วย การเดินทางจึงช้าลงไปเกือบเท่าตัว 

“หลี่อ้าย นอนพักตรงนี้ก่อน แม่จะไปเอาน้ำมาให้เจ้าดื่ม” หูไป๋หงเอ่ยกับลูกสะใภ้ นางให้หลี่อ้ายนั่งรอใต้ร่มไม้ก่อนจะเดินไปตักน้ำ พวกเขาเดินกันมาได้สักพักแล้ว จางอี้หมิงมองไปรอบ ๆ เมื่อไม่รู้ว่าตรงนี้คือที่ใดและเวลาใดจึงเอ่ยถาม

“ท่านย่าขอรับ ตอนนี้ยามไหนแล้วขอรับ”

“น่าจะยามเว่ย (13.00 – 14.59) นะหมิงเอ๋อร์ มีอะไรหรือ”

“ข้าอยากขึ้นเขาไปหาผักป่าหรือของกินขอรับ ถ้าเรารีบไปตอนนี้อาจจะหาอะไรมากินได้บ้างก่อนที่พระอาทิตย์จะตกดิน” 

“ไม่ได้นะหมิงเอ๋อร์ เจ้าเพิ่งฟื้นขึ้นมาวันนี้ เหตุใดจึงดื้อรั้นอยากออกไปเที่ยวเล่นข้างนอก รอให้บิดาของเจ้ากลับมาจากไร่เสียก่อน ถ้าบิดาเจ้าไม่อนุญาต ย่าก็ไม่อนุญาตเช่นกัน ตอนนี้มารดาเจ้าล้มป่วยอยู่คนหนึ่งแล้ว หากเจ้าต้องมาล้มป่วยอีกคน ครอบครัวเราคงรับไม่ไหวแน่” 

นางหูถึงกับปฏิเสธทันควัน สถานการณ์ตอนนี้เป็นดังคำที่นางว่า ครอบครัวนี้ไม่มีเงินเหลือแม้แต่อีแปะเดียว เงินก้อนสุดท้ายที่มีก็จ่ายค่ายาของจางอี้หมิงไปหมดแล้ว โชคดีที่ยังมีอาหารที่แลกมาจากการทำงานในไร่ให้พอประทังชีวิต 

“ท่านย่า ข้าขอโทษขอรับ” จางอี้หมิงหน้าหงอย เขาพยักหน้ารับรู้ “ข้าไม่ดื้อแล้วขอรับ” 

“หมิงเอ๋อร์ เข้าใจย่าใช่หรือไม่”

“ข้าเข้าใจขอรับ”

“ปล่อยให้แม่ของเจ้าพักผ่อนเถิด” นางมองใบหน้าสลดของหลานชายก่อนจะเอ่ยชวน “หมิงเอ๋อร์ ไปอาบน้ำกับย่าที่ลำธารกันเถอะ แล้วเดี๋ยวเจ้าพาย่าไปดูผักที่เจ้าว่ามันกินได้ เผื่อว่ามันจะเอามาทำอาหารได้” 

“ท่านย่า ไป ๆ ไปขอรับ” เขารีบพยักหน้า เด็กน้อยหันไปมองหน้ามารดาที่ซีดเซียวและรีบสาวเท้าก้าวตามท่านย่า

สองย่าหลานเดินไปที่ลำธารใหญ่ที่เดิม  จางอี้หมิงจูงมือท่านย่าไปดูบึงที่เต็มไปด้วยไข่น้ำ เรียวปากเล็กส่งเสียงเจื้อยแจ้วบอกถึงวิธีการคัดเลือกสำหรับนำมาทาน เขาหันไปมองตามแนวริมฝั่งแล้วพานางหูเดินไปดูผักบุ้ง พวกมันแผ่ขยายยาวไปตามบึงมีบางส่วนยื่นออกไปอยู่ในน้ำด้วย เขาอธิบายวิธีการเก็บและการทำอย่างดี

“หมิงเอ๋อร์ เหตุใดเจ้าจึงรู้เรื่องทั้งหมดนี่”

“เอ่อ...คือ คือว่าข้า...” 

เอาแล้วไงไอ้นนท์ จะตอบยังไงล่ะที่นี่ ร่างนี้อายุแค่ห้าขวบเท่านั้นเอง ขืนพูดอะไรผิดไป มีหวังความแตกแน่ แต่เอ๊ะ! ในนิยายเขาใช้มุขนี้นี่หว่า แถมคนรอบข้างก็เชื่อด้วย เอาล่ะ มาลองใช้ในสถานการณ์จริงดีกว่า

“ท่านย่า ความจริงแล้ว ตอนที่ข้านอนหลับไม่ได้สติอยู่เกือบเดือนนั้น ข้าฝัน แล้วในฝัน ท่านเทพได้มารับข้าไปเที่ยวเมืองสวรรค์ขอรับ ท่านเทพสอนข้ามากมายเกี่ยวกับผักพวกนี้และยังบอกอีกว่าจะมาพาข้าไปเที่ยวบ่อย ๆ ท่านเทพเป็นคนมอบความรู้ทั้งหมดให้ข้าขอรับ” 

จางอี้หมิงเงยหน้าตอบนางหู เขาปั้นหน้าซื่อทำเหมือนกับเด็กน้อยที่ไม่รู้จักการตลบตะแลงหรือการโกหกแม้แต่น้อย หูไป๋หงได้ยินหลานชายตอบเช่นนั้นก็ตื่นตกใจ รีบคว้าเอาร่างเล็กมากอดไว้แน่น

“หมิงเอ๋อร์ เป็นความจริงหรือที่ท่านเทพมาพาเจ้าไป โธ่สวรรค์...ขอบคุณ ขอบคุณที่คืนหมิงเอ๋อร์หลานข้ากลับคืนมา ได้โปรด อย่าพรากหลานชายเพียงคนเดียวของข้าไปอีกเลย” 

นางหูรีบปล่อยหลานชายออกจากอ้อมแขน หันหน้าไปทั้งสี่ทิศและก้มกราบปลก ๆ เอ่ยขอบคุณสวรรค์ด้วยความปลาบปลื้ม นางรีบหันมาคว้าหลานชายพร้อมสวมกอดอีกครั้ง

“ท่านย่า ไม่เป็นไรแล้ว ข้าไม่เป็นไรจริง ๆ ตอนนี้ข้าแข็งแรงมากท่านย่าก็เห็น เพราะท่านเทพช่วยรักษาข้าน่ะขอรับ ต่อไปนี้ พวกเราจะมีความสุขแน่นอนขอรับ ท่านเทพได้บอกข้าไว้ในการพบกันครั้งก่อน” 

จางอี้หมิงเอ่ยกับย่าของตนเอง แต่มือข้างขวาก็แอบไขว้ไว้ด้านหลัง

ข้าขอโทษขอรับท่านย่า

“ดี ดีจริง ๆ งั้นพวกเรามาช่วยกันเก็บผักพวกนี้ไปกันเถอะ”

“ท่านย่า เก็บแค่ผักบุ้งก็พอนะขอรับ เพราะไข่น้ำถ้าไม่ปรุงด้วยเครื่องเทศ มันจะคาวและไม่อร่อย แต่ผักบุ้งพอกินได้ขอรับ” 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง   ตอนที่ 210

    เหตุการณ์เช่นนี้เป็นไปตามการคาดการณ์ของจางอี้หมิงทุกอย่าง กลยุทธ์นี้จางอี้หมิงอ่านเจอในนิทานพื้นบ้านท้องถิ่นของภาคอีสาน เขาจึงนำมาปรับใช้ในการแข่งขันในครั้งนี้ ด้วยลักษณะนิสัยของพ่อครัวหลวงนั้นเย่อหยิ่งและเขาจะต้องเร่งทำอาหารให้เสร็จโดยไว แล้วก็เป็นไปตามที่จางอี้ หมิงคาดไว้ เหลาอาหารเฟิงฟู่ทำปักษาล่องลมเสร็จตั้งแต่ต้นยามอู่ (11.00 – 12.59) ซึ่งคณะผู้ตัดสินต่างก็อิ่มอาหารจากที่บ้านมาก่อนแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงชิมเพียงเล็กน้อยเท่านั้นจางอี้หมิงจึงให้พ่อครัวเหลาอาหารซิ่งฝูเตรียมวัตถุดิบทุกอย่างให้พร้อมในช่วงเวลานั้น คล้ายกับการขยับเวลาออกไป เมื่อเหลือเวลาหนึ่งชั่วยามสุดท้าย พวกเขาจึงเริ่มลงมือทำอาหาร ในชาติก่อนแค่เพียงไข่เจียวธรรมดา ถ้าต้องมาได้กลิ่นในยามที่หิวจัด กลิ่นของไข่เจียวก็หอม กระตุ้นต่อมอยากอาหารได้มากโข จางอี้หมิงจึงใช้ความจริงข้อนี้มาทำให้เกิดข้อได้เปรียบของเหลาซิ่งฝูแม้แต่แขกผู้สูงศักดิ์ที่ไม่เคยได้ลิ้มลองกับความอดอยาก พวกเขากินข้าววันละสามมื้อ แต่เมื่อเวลาล่วงเลยมานานเสียจนเลยเวลามื้ออาหารกลางวันมาถึงยามเว่ยแล้ว ความหิวจึงมาเยือนได้ง่าย พอถูกกระตุ้นด้วยกลิ่นไข่เจียวร้อ

  • บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง   ตอนที่ 209

    เมื่อเหลือเวลาอีกหนึ่งชั่วยาม จางอี้หมิงจึงพยักหน้าส่งสัญญาณให้ท่านลุงอู๋เจ๋อเริ่มทำการปรุงอาหารของเหลาอาหารซิ่งฝูทันที โดยรายการอาหารที่จางอี้หมิงเลือกใช้ในการแข่งขันนี้คือไข่ม้วนข้าวผัดกุ้ง เนื่องจากอู๋เจ๋อฝึกการทำไข่ม้วนข้าวผัดกุ้งมาตลอดหนึ่งเดือนนี้จึงมั่นใจว่าตนทำได้ดี แต่เมื่อต้องมาทำต่อหน้าเหล่าชาวบ้านชาวเมือง เขาก็ได้แต่สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อเรียกกำลังใจให้กับตนเอง จางอี้หมิงเห็นดังนั้นจึงเอ่ยให้กำลังใจท่านลุงอู๋อีกที“ท่านลุงอู๋ ไม่ต้องตื่นเต้นนะขอรับ ทำตามที่เราฝึกกันมา ท่านลุงอู๋เก่งอยู่แล้ว ท่านทำได้แน่นอน”“หมิงหมิงน้อย การทำอาหารชนิดนี้มันยังไม่เคยมีมาก่อนนะ ข้ากลัวว่ามันจะสู้รายการอาหารของเหลาเฟิงฟู่ไม่ได้ ฝ่ายนั้นทำปักษาล่องลมเชียวนะ แล้วไข่ม้วนของเราจะสู้ได้หรือไม่”อู๋เจ๋อเปรยออกมาเบา ๆ หากเขาเป็นกรรมการก็คงให้รายการอาหารของเหลาเฟิงฟู่ชนะเช่นกัน“ท่านลุงอู๋มิเชื่อฝีมือข้าหรือขอรับ พวกเราต้องชนะแน่นอนขอรับ” จางอี้หมิงเอ่ยทั้งปลอบใจและให้กำลังใจไปด้วยในคราเดียวในการทำไข่ม้วนสิ่งสำคัญคือการม้วนไข่ไม่ให้ขาดและไม่ติดหม้อ หากเป็นในยุคปัจจุบันอี้หมิงจะไม่มีความกังวลเ

  • บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง   ตอนที่ 208

    ผ่านไปครึ่งชั่วยามไก่นึ่งของทางเหลาอาหารเฟิ่งฟูก็สุกได้ที่ เล่อหยุนจึงทำการรมชาเป็นขั้นตอนสุดท้าย เมื่อคำนวณเวลาโดยประมาณแล้ว ฝั่งของเขาจะเสร็จก่อนเวลาที่กำหนดถึงหนึ่งชั่วยามการรมชาทำได้ไม่ยาก เพียงแต่ก่อนทำการรมชา เล่อหยุนนำน้ำผึ้งผสมด้วยซีอิ๊วมาทาลงไปบนตัวไก่ที่นึ่งสุกแล้วเพื่อให้ตัวไก่มีสีสันสวยงาม หลังจากนั้นจึงนำข้าวสาร น้ำตาล และใบชาชั้นดีลงไปคั่วในหม้อจนน้ำตาลเริ่มละลาย เมื่อควันเริ่มลอยออกมาจึงนำหม้อนึ่งไก่ลงไปอบด้วย เขาใช้เวลาประมาณ 60 ลมหายใจ ก่อนจะยกหม้อลงจากเตาและทำการรมควันแบบนั้นไปอีกหนึ่งเค่อ เพียงเท่านี้ก็จะได้ปักษาล่องลมที่มีสีสันน่ากินและรสชาติล้ำเลิศแล้วเล่อหยุนตกแต่งอีกเพียงเล็กน้อย เขาทำการตัดชิ้นส่วนของปักษาล่องลมให้พอดีคำ ง่ายต่อการชิมของคณะผู้ตัดสิน นอกจากนำไปส่งให้กับคณะผู้ตัดสินแล้ว อาหารอีกหนึ่งชุดถูกนำไปขึ้นโต๊ะให้กับแขกผู้สูงศักดิ์ทั้งหลายได้ทดลองชิมเช่นกัน“ไก่ชิ้นนี้อร่อย นุ่ม หอมกลิ่นชาเมื่อกินกับข้าวร้อน ๆ เข้ากันได้อย่างลงตัว”“ในเมืองหน้าด่านเช่นนี้ เพียงอาหารที่อร่อยและใช้วัตถุดิบน้อย ก็เป็นสิ่งที่พ่อครัวต้องคิดถึงเช่นกัน ปักษาล่องลม ถือว่าได้คุ

  • บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง   ตอนที่ 207

    การแข่งขันเริ่มต้นขึ้นทันทีที่เสียงประกาศจบลง บรรดาชาวบ้านที่มามุงดูการแข่งขันของสองเหลาอาหารชื่อดังต่างพากันเงียบเสียงเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนการปรุงอาหารของผู้แข่งขัน หนิงอ๋องแย้มรอยยิ้มให้กำลังใจจางอี้หมิงเมื่อเด็กน้อยเพียงหนึ่งเดียวก้มศีรษะคารวะทำความเคารพไปยังที่นั่งของแขกผู้สูงศักดิ์ทั้งหลายอดีตพ่อครัวหลวงอย่างเล่อหยุนเองก็ยิ้มย่อง รายการอาหารที่เขาเลือกนำมาปรุงในวันนี้คือ ปักษาล่องลม หรือ ไก่รมชา นั่นเอง ขั้นตอนการปรุงปักษาล่องลมนั้นก็ไม่ยุ่งยากวัตถุดิบน้อยอย่างแต่กลับมีรสชาติที่น่าทึ่ง เล่อหยุนใช้ไก่ทั้งตัว ล้างทำความสะอาดและใช้ผ้าขาวซับน้ำให้ตัวไก่แห้งสนิท ตามด้วยสมุนไพรฮวาเจียว ขิง ต้นหอม ใส่ลงไปในตัวไก่เสร็จแล้วจึงกลัดด้วยไม้เสี้ยนเพื่อให้เครื่องเทศอยู่ในตัวไก่ไม่หลุดออกมาหลังจากนั้นใช้เกลือเม็ดมาทาทั่วทั้งตัวไก่แล้วตามด้วยพริกหอมฮวาเจียวอีกครั้ง ก่อนนำไปพักไว้ให้ตัวไก่ได้ดูดซับเอาเครื่องเทศเข้าไป ทางเหลาอาหารเฟิงฟู่ทำปักษาล่องลมทั้งหมด 5 ตัว ในระหว่างที่รอหมักไก่ให้เข้าที่ พ่อครัวหลายคนของเหลาเฟิงฟู่ก็เดินมายืนชมพ่อครัวเหลาอาหารซิ่งฝูพลางส่งเสียงเยาะเย้ยถากถางไม่หยุด“อา

  • บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง   ตอนที่ 206

    ดั่งสายลมพัดผ่าน สายน้ำมิเคยไหลกลับ กาลเวลาเคลื่อนคล้อยตามที่ควรจะเป็น เช้าวันนี้ในเมืองไห่ถังต่างคราคร่ำไปด้วยผู้คนทั้งชาวบ้าน คหบดี หรือข้าราชสำนัก ไม่ว่าจะเป็นชาวเมืองไห่ถังเองหรือชาวเมืองใกล้เคียงบรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนาน สมกับเป็นงานรื่นเริงประจำเมืองที่จะจัดขึ้นในทุกๆ ปีมีกลุ่มคนบางคนรับทายผลการพนันว่าเหลาอาหารไหนจะได้ตำแหน่งไปครอบครอง ถึงแม้ว่าจะมีการรับพนันแบบลับๆ ก็ตาม โดยเหลาอาหารเฟิงฟู่ยังคงเป็นที่นิยมของชาวเมือง เนื่องจากข่าวที่เหลาอาหารเฟิงฟู่ได้อดีตพ่อครัวหลวงมาเป็นพ่อครัวในการลงแข่งขันนั้นถูกกระพือออกไปให้รู้กันถ้วนหน้า ในส่วนของเหลาอาหารซิ่งฝูถึงแม้ว่าระยะเวลาหนึ่งปีมานี้จะมีลูกค้าหนาแน่น อาหารน่ากินและแปลกใหม่ก็ตาม แต่ก็เหมือนการแบ่งแยกชนชั้นว่าเป็นเหลาอาหารของชาวบ้านมากกว่า จึงยังคงเป็นรองเหลาอาหารเฟิงฟู่อยู่ขั้นหนึ่งณ ลานกลางเมือง ซึ่งเป็นสถานที่ในการจัดการแข่งขันการทำอาหาร บัดนี้ถูกแบ่งพื้นที่เป็นสองฝั่ง เจ้าเมืองได้เดินทางมาเป็นประจักษ์พยาน นอกจากนั้นยังมีหนิงอ๋อง อ๋องน้อยหนิงเทียน อาจารย์เทียน และพ่อครัวหลวงบางคนที่ท่านเจ้าเมืองได้เชิญมาเพื่อเป็นเกียรติแก่

  • บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง   ตอนที่ 205

    วันเวลาผันผ่านไปอย่างรวดเร็วสำหรับครอบครัวจางที่มีงานรัดตัว อีกเพียงสามวันก็จะถึงวันแข่งขันทำอาหารเพื่อชิงตำแหน่งเหลาอาหารอันดับหนึ่ง บรรดาเหลาอาหารเล็กๆต่างพากันถอนตัวออกไปมาก ด้วยพวกเขาทราบกันว่าพ่อครัวของเหลาอาหารเฟิงฟู่เป็นถึงอดีตพ่อครัวหลวง ผู้ซึ่งเคยประกอบสำรับถวายฮ่องเต้แคว้นฉินมาแล้ว หากดึงดันลงแข่งไปก็หาทางเอาชนะได้ยาก ดังนั้นตอนนี้จึงเหลือเพียงเหลาอาหารเฟิงฟู่และเหลาอาหารซิ่งฝูเท่านั้นในการจับไม้สั้นไม้ยาว เหลาอาหารเฟิงฟู่จะได้ทำอาหารก่อนและตามด้วยเหลาอาหารซิ่งฝู ผลการแข่งขันจะมาจากการให้คะแนนของชาวเมืองไห่ถังหนึ่งส่วน โดยให้ชาวเมืองนำเงินไปหย่อนลงในกล่อง หนึ่งอีแปะเท่ากับหนึ่งคะแนน เมื่อสิ้นสุดการแข่งขันแล้ว เงินจำนวนนี้จะนำไปช่วยเหลือชาวบ้านที่เจ็บป่วยไม่มีเงินหาหมอต่อไปและอีกหนึ่งส่วนเป็นการให้คะแนนจากพ่อครัวจากเหลาอาหารในเมืองหลวง จำนวน 5 ท่าน เมื่อนำคะแนนมารวมกันแล้วเหลาอาหารใดได้คะแนนมากที่สุด จะได้ขึ้นป้ายเป็นเหลาอาหารอันดับหนึ่งของเมืองไห่ถังต่อไปเกณฑ์การนับคะแนน สถานที่แข่งขัน และวันเวลาในการแข่งขัน ล้วนถูกประกาศออกไปทั้งหมดแล้ว ชาวเมืองต่างพากันอดใจรอไม่ไหวที่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status