Home / รักโบราณ / บุปผางามข้ามเวลามาทวงแค้น / ตอนที่ 11  งานเลี้ยงสกุลจาง 1

Share

ตอนที่ 11  งานเลี้ยงสกุลจาง 1

last update Last Updated: 2025-05-31 22:26:54

 

ท่านอ๋องหันไปมองหน้าองครักษ์ และรีบสลับกลับมาดึงจอกชาขึ้นมาดื่มอีกครั้ง

“เอาล่ะเจ้ายังไม่ค่อยแข็งแรง รีบกลับไปพักเถอะ”

“ท่านพี่เพคะ เรื่องข่าวลือนั่นท่านเชื่อมากน้อยแค่ไหนเพคะ”

“อีกสองวันที่สกุลจางจะมีงานเลี้ยง เอาไว้เมื่อถึงวันนั้นเจ้าก็ไปดูด้วยตัวเองเถอะ”

“เพคะ เช่นนั้นหม่อมฉันขอตัว”

ซ่งจินหรูลุกขึ้นโดยมีสาวใช้คอยพยุงให้เดินกลับไป ท่านอ๋องวางจอกชาลงพร้อมกับเรียกนางไว้อีกครั้ง

“จริงสิจินหรู”

“เพคะท่านพี่”

“ข้าคิดว่าในเมื่อเจ้าเริ่มแข็งแรงแล้ว หลังจากงานเลี้ยงสกุลจางก็น่าจะกลับเข้าวังไปอยู่กับพระสนมหลันเหมือนเดิมได้แล้ว”

ซ่งจินหรูทำสายตาเศร้าและหันมามองพักตร์ท่านอ๋องอีกครั้ง

“พี่เว่ยเซียวนี่ท่าน... รังเกียจข้าหรือเพคะ”

“ไม่ใช่เช่นนั้น บัดนี้เจ้าหาใช่น้องสาวตัวน้อยที่เอาแต่ตามข้า ตอนนี้เจ้าผ่านพิธีปักปิ่นมาหลายเดือนแล้ว อีกอย่างจวนนี้ก็เป็นจวนพักของข้านอกวังไม่เหมาะที่เจ้าซึ่งเป็นสตรียังไม่ออกเรือนมาพักอยู่ด้วย”

“แต่ว่าข้าอยากจะอยู่ที่นี่เพื่อดูแลท่าน”

“เจ้าดูแลตัวเองก่อนเถอะ ตอนนี้แม้แต่เดินยังต้องมีคนคอยพยุง กลับไปพักในตำหนักพระสนามหลันข้าจะได้ไม่ต้องกังวล อีกอย่างในวังมีการอารักขาเข้มงวดกว่าที่นี่มากนัก”

“หากท่านพี่ต้องการเช่นนั้น จินหรูก็จะเชื่อฟังเพคะ”

“อืม เจ้าไปพักผ่อนเถอะ”

“จินหรูทูลลา”

ซ่งจินหรูเดินออกไปพร้อมกับสายตาเศร้า เมื่อนางออกไปแล้วท่านอ๋องจึงได้ยกชาขึ้นมาจิบอีกครั้งและสั่งให้ตันฉินไปปิดประตูทันที องครักษ์หนุ่มหันมาถามด้วยความสนใจ

“ท่านอ๋องทรงตรัสเช่นนั้น ไม่กลัวว่าคุณหนูซ่งจะเสียใจหรือพ่ะย่ะค่ะ”

“เสียใจอันใดข้าคำนึงถึงความปลอดภัยของนางเป็นที่ตั้ง เหตุใดจะต้องเสียใจด้วย”

“แต่ว่าดูเหมือนว่าคุณหนูซ่งอยากจะอยู่กับพระองค์ที่นี่นะพ่ะย่ะค่ะ”

“ที่นี่ไม่ปลอดภัย อีกทั้งข้าก็คิดว่าไม่เหมาะเท่าใดนักเพราะนางยังมิได้ออกเรือน นางเป็นสตรีที่พระสนมหลันดูแลหลังจากเสด็จแม่ข้าสิ้นไปแล้ว ให้กลับไปอยู่ในวังจะเหมาะกับนางมากกว่า อย่าลืมเรื่องที่ข้าสั่ง”

“ท่านอ๋อง หรือว่าพระองค์… มิได้คิดอะไรกับคุณหนูซ่ง ทำเช่นนี้ไม่ต่างกับสงสัยนาง...”

“ข้าเห็นจินหรูเป็นน้องสาวแท้ ๆ มาโดยตลอด อีกอย่างในเวลานี้นางก็ได้เวลาที่จะออกเรือนแล้ว ข้าแม้มิใช่พี่ชายแท้ ๆ ของนางแต่ก็หวังว่าจะให้จินหรูได้แต่งงานกับคนดีและเหมาะสม หาากว่านาง... จะคิดได้”

“แต่ว่าคุณหนูซ่งไม่มองชายใดเลยนอกจากพระองค์”

“อย่าพูดจาเหลวไหล ข้าไม่เคยคิดกับนางเกินกว่าฐานะน้องสาวและไม่มีทางเป็นไปได้”

“หรือว่าพระองค์…ยังไม่ลืม... สตรีผู้นั้น”

ท่านอ่องนิ่งอึ้งไป เมื่อเห็นว่าพระองค์ไม่ตอบตันฉินจึงได้ถามอีกครั้ง

"หรือว่าพระองค์จะเลิกสงสัยคุณหนูกงเพราะ..."

“เจ้าเพ้อเจ้ออันใด ข้าน่ะหรือจะคิดถึงสตรี…”

เมื่อตรัสถึงตอนนี้ กลับมีใบหน้าของสตรีผู้หนึ่งผุดขึ้นมาโดยไม่ตั้งใจ สายตาที่เกรี้ยวกราด ดื้อดึงและไม่ยอมคนทำให้หัวใจของท่านอ๋องหนุ่มกระตุกขึ้นมาอย่างรุนแรงโดยไม่ทันรู้ตัว เขาไม่เคยมองนางเช่นนั้นมาก่อนแต่เหตุใดเมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้กลับไปนึกถึงนางได้

“หยุดเพ้อเจ้อแล้วสืบเรื่องนี้ต่อ เจ้าบอกว่านางรับสาวใช้มาใหม่คนหนึ่งที่มีวรยุทธ์ด้วยงั้นหรือ”

“พ่ะย่ะค่ะ ดูเหมือนว่าจะได้มาจากหอหลัวต๋า”

“หอหลัวต๋างั้นหรือ นี่นางรู้จักคนในยุทธภพงั้นหรือ”

“พ่ะย่ะค่ะ”

“นางไปหอหลัวต๋าที่มีแต่สายข่าวและนักฆ่า เรื่องนี้น่าสงสัยยิ่งนัก”

“ท่านอ๋อง! แต่ว่าพวกเราจับนางมาสอบสวนแล้ว แต่นางปฏิเสธอย่างแข็งขัน..”

“ข้ามิได้หมายถึงเรื่องเกี่ยวกับจินหรู แค่กำลังสงสัยว่าเหตุใดนางจึงไปที่หอหลัวต๋าเท่านั้น”

"เช่นนั้นพระองค์ก็ไม่คิดที่จะสงสัยนางแล้วงั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ เรื่องที่คุณหนูซ่งถูกปองร้ายในวัง..."

"ข้าบอกเจ้าแล้วว่าอย่าแหวกหญ้าให้งูตื่น ตอนนี้จำเป็นต้องแกล้งโง่ไปก่อน คนของเราเริ่มสืบไปถึงไหนแล้ว"

"หากเป็นเรื่องในวังกระหม่อมสั่งให้เริ่มทำการค้นหาเบาะแสแล้วพ่ะย่ะค่ะ"

"อืม ดีแล้ว ทางสกุลกงเล่า"

“นอกจากเรื่องที่รับสาวใช้คนใหม่ก็แทบจะไม่มีความเคลื่อนไหวอื่นเลย อีกอย่างนางก็แทบจะไม่ออกจากจวนสกุลกงเลย นี่นับว่าแปลกมากนะพ่ะย่ะค่ะ”

“ข้าเองก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน เอาเถอะอีกสองวันจะมีงานเลี้ยงที่สกุลจาง เจ้าคอยให้คนจับตาดูนางเอาไว้สักหน่อยก็แล้วกัน ข้าเองก็อยากจะรู้ว่านางจะก่อเรื่องอะไรขึ้นมาอีกหรือไม่”

“พ่ะย่ะค่ะ”

ตันฉินเดินออกไปจากห้องแล้ว ท่านอ๋องจึงได้หันกลับมานั่งจิบชาอีกครั้ง เมื่อมองขนมและคิดถึงเรื่องที่ตันฉินมารายงานเขาเมื่อครู่นี้ก็เริ่มคิดอีกครั้ง

“พลิกวิกฤติที่เสียเปรียบกลับมาเอาคืนฝ่ายตรงข้ามได้ในทันที กลยุทธ์เช่นนี้นาน ๆ ทีจะได้เห็น เจ้าร้ายกาจไม่เบาเลยนี่กงเหรินซิน ข้าอยากจะดูสิว่าเจ้ายังซ่อนความร้ายกาจไว้อีกมากเพียงใดกันแน่ หวังว่าเจ้าจะไม่ก่อเรื่องอะไรขึ้นอีกนะ.... ซ่งจินหรู”

สองวันถัดมา / งานเลี้ยงสกุลจาง

ข่าวลือเท็จที่จางลี่เหมยเที่ยวปล่อยข่าวถูกกงเหรินซินจับได้ และบัดนี้เรื่องราวที่นางใช้เงินจ้างคนให้ร้ายกงเหรินซินเป็นที่รู้กันโดยทั่ว แต่ข่าวนั้นยังไม่ค่อยแพร่หลายเข้ามาในหมู่บรรดาขุนนาง ใต้เท้าจางรีบใช้เงินปิดข่าวเสียก่อน แต่ก็ยังมีซุบซิบกันในวงแคบ ๆ แม้ว่าวันนี้สกุลจางจะจัดงานเลี้ยงขึ้นแต่เรื่องข่าวที่บุตรสาวของเขากระทำไปก็ยังคงถูกพูดถึง

“ยินดีต้อนรับ เชิญด้านใน เชิญ ๆ”

“จางซื่อ” เจ้ากรมขุนนางออกมารับแขกด้วยตัวเอง เพียงเพราะป้องกันมิให้ผู้ที่มาร่วมงานเอ่ยถึงเรื่องอื้อฉาวของบุตรสาวก่อนหน้านี้ ซึ่งทุกคนที่มาร่วมงานต่างก็รู้และให้เกียรติเจ้าของงานเช่นกัน

“นายท่าน รถม้าสกุลกงมาแล้วขอรับ”

“เร็วเข้า ข้าจะต้องไปต้อนรับด้วยตัวเอง”

ใต้เท้าจางรีบเดินมาที่รถม้าของสกุลกง เมื่อคุณชายรองและคุณหนูสามพร้อมกับสาวใช้สองคนของนางเดินตามมา เขาก็รีบเข้ามาต้อนรับด้วยความนอบน้อม

“ท่านรองเจ้ากรมกงยินดีต้องรับ เชิญด้านในขอรับ”

“ใต้เท้าจางเกรงใจเกินไปแล้วผู้เยาว์มิอาจรับคารวะนี้ได้ ข้ามีของขวัญเล็กน้อยมามอบให้ขอท่านรับเอาไว้ด้วย”

“ขอบคุณมาก เช่นนั้นเชิญใต้เท้ากงและคุณหนูกงด้านในเลย”

“ขอบคุณ น้องสามไปกันเถอะ”

“เจ้าค่ะ ขอบคุณคำเชิญของใต้เท้าจางด้วยเจ้าค่ะ”

“ยินดี ๆ เชิญด้านในเลย”

เมื่อเดินเข้าไปนั่งในงาน กงอวี้หานก็แยกไปคุยกับเหล่าขุนนางที่เข้ามาทักทายเขา กงเหรินซินจึงนั่งอยู่ที่โต๊ะของเหล่าสตรีที่อยู่ด้านใน โดยมีสาวใช้ทั้งสองนั่งอยู่ด้วย ไม่นานก็ได้ยินเสียงประกาศดังขึ้นอีกครั้ง

ท่านอ๋องและซ่งจินหรูมาถึงที่งานแล้ว ผู้คนต่างรีบลุกขึ้นไปต้อนรับ บางคนก็ไม่ได้ไป เหรินซินพึ่งจะสังเกตเห็นว่าจางลี่เหมยวิ่งออกไปต้อนรับพร้อมกับจางฮูหยินด้วยท่าทางเร่งรีบ

“คุณหนูท่านไม่ไปรับเสด็จท่านอ๋องหรือเจ้าคะ”

“อีกเดี๋ยวเขาก็เข้ามาข้างในเหมือนกัน เหตุใดข้าต้องเสียเวลาเดินไปเดินมาด้วยเล่า อาเจิงเจ้าชิมนี่สิ อร่อยใช้ได้เลย”

“คุณหนูเจ้าคะ พวกนางซุบซิบกันตั้งแต่ท่านเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะแล้วนะเจ้าคะ”

“อ่ะเจ้าก็ลองชิมดูสิอันเมี่ยน”

กงเหรินซินสังเกตเห็นตั้งแต่แรกแล้วก่อนที่อันเมี่ยนจะบอกนางเสียอีก เหล่าสตรีในเมืองหลวงเริ่มจับกลุ่มซุบซิบกันอย่างเปิดเผยและยังหันมามองนางเป็นครั้งคราว แต่นางก็ไม่ได้ใส่ใจคนเหล่านี้เท่าใดนักเพราะวันนี้คนที่นางอยากพบมากที่สุดไม่ใช่คนสกุลจาง แต่เป็นคู่กรณีที่เคยตกน้ำไปพร้อมกับนางต่างหาก

“คุณหนูเจ้าคะ ท่านอ๋องกับคุณหนูซ่งเข้ามาแล้วเจ้าค่ะ”

กงเหรินซินวางจอกชาลงและค่อย ๆ หันไปมอง ท่านอ๋องที่เดินนำสตรีตัวเล็กสวมชุดสีชมพูอ่อนที่ประดับตกแต่งด้วยมุกหรูหรา ใบหน้าของนางงดงามดุจบุปผาแรกแย้ม แต่เมื่อหันมาเห็นนางที่นั่งอยู่กลับรีบจับแขนท่านอ๋องเอาไว้แน่น

“ตายจริงเพียงแค่เห็นหน้าคุณหนูกงก็กลัวจนตัวสั่น น่าสงสารคุณหนูซ่งยิ่งนักพวกเจ้าว่าหรือไม่”

“นั่นสิคนอะไรหน้าด้านยิ่งนัก ยังกล้ามางานเลี้ยงอย่างเปิดเผย ไม่กลัวสิ่งชั่วร้ายที่ทำเอาไว้ถูกเปิดโปงหรืออย่างไรกัน”

“คุณหนูเจ้าคะ”

“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ข้ายังไม่รู้สึกอะไรพวกเจ้าก็อยู่เฉย ๆ เถอะ นี่น่ะหรือซ่งจินหรู ช่างดูบอบบางและน่าทะนุถนอมดั่งดอกบัวขาวในสระโคลนเสียจริง”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บุปผางามข้ามเวลามาทวงแค้น    ตอนพิเศษ 5 เยือนสำนักไป๋ซาน

    สามวันถัดมา“เสด็จแม่ ยังอีกไกลหรือไม่เพคะ”“ไหนว่าเจ้าจะไม่บ่นอย่างไรเล่าเซียนเอ๋อร์ นี่แค่ทางขึ้นเขาเองเจ้าก็บ่นเสียแล้ว”“ข้าแค่รู้สึกเวียนหัวเพราะรถม้ามันโยกนี่เพคะ”“มานั่งตักพ่อเถอะจะได้นิ่มหน่อย มาสิ”หมิงชิงเซียนขยับไปนั่งตักบิดาซึ่งทั้งกว้างและนิ่มเมื่อท่านอ๋องวางตำราลงและหันมามองหน้าพระชายาที่แง้มหน้าต่างและเริ่มมองออกไปข้างนอก“เจ้าคงไม่คิดที่จะอยู่ที่สำนักไป๋ซานนานนักหรอกนะ ถึงอย่างไรตอนนี้เจ้าก็เป็นพระชายาหมิงชินอ๋อง หาใช่สตรีอันดับหนึ่งในยุทธภพไม่”“ท่านกังวลเกินไปแล้ว ข้าแค่อยากจะมองดูรอบ ๆ เท่านั้นว่าต่างไปจากเดิมหรือไม่”“เสด็จพ่อ ลูกจะต้องมาฝึกที่นี่จริง ๆ หรือเพคะ”“เจ้าอยากจะมาหรือไม่เล่าเซียนเอ๋อร์”“ลูกเองก็ไม่รู้ แต่ลูกอยากจะเก่งเหมือนเสด็จแม่เพคะ”“เจ้าเป็นลูกของแม่ก็ต้องเก่งและยอดเยี่ยมเหมือนแม่เจ้าอยู่แล้ว ยอดหญิงอันดับหนึ่งในใต้หล้ามีเพียงเสด็จแม่ของเจ้าเท่านั้น”“แต่เหตุใดบางคืนข้าถึงได้ยินเสียงท่านแม่ร้องแปลก ๆ เล่าเพคะ”เหรินซินหันมามองพักตร์ท่านอ๋องในทันทีเมื่อได้ยินเสียงบุตรสาวกล่าวขึ้นมา ท่านอ๋องนึกขำเมื่อเห็นใบหน้าของพระชายาที่เริ่มแดงจัดจนถึงใบหู“เซ

  • บุปผางามข้ามเวลามาทวงแค้น   ตอนพิเศษ 4 รักล้นดวงใจ

    แปดปีต่อมา“ชิงเซียน ได้เวลาอาบน้ำแล้ว”“เพคะเสด็จแม่ แต่ว่าข้ายังอยากฝึกดาบอยู่”“วันนี้พอแค่นี้ก่อนเถอะ น้าอันเมี่ยนของเจ้าเหนื่อยแล้วอีกเดี๋ยวเสด็จพ่อเจ้าก็จะกลับมาจากในวัง จะถูกตำหนิเอาได้นะ”“ก็ได้เพคะ”“ข้าพานางไปเองเพคะ”“ฝากเจ้าด้วยนะอาเจิง”“เพคะพระชายา”อาเจิงพา “หมิงชิงเซียน” บุตรสาวของท่านอ๋องในวัยสี่ขวบครึ่งไปอาบน้ำตามคำสั่งของพระชายากงเหรินซิน ไม่นานเมื่อทั้งคู่เดินไปท่านอ๋องก็กลับเข้ามาในตำหนัก พระองค์เดินตรงมาหานางที่นั่งรออยู่ศาลาริมสวนซึ่งชิงเซียนใช้ฝึกดาบกับอันเมี่ยน“ท่านพี่”“เหตุใดเจ้าถึงได้มานั่งที่นี่คนเดียว เซียนเอ๋อร์เล่าไปไหนแล้ว”“ข้าให้อาเจิงพานางไปอาบน้ำแล้วเพคะ เหตุใดวันนี้ท่านพี่จึงกลับเร็วนักเล่าเพคะ”“รีบกลับมาหาเจ้าน่ะสิ เตรียมของทุกอย่างแล้วหรือ”“เสร็จเรียบร้อยแล้วเพคะ อากาศเริ่มเย็นลงอีกแล้วคิดว่าครั้งนี้คงไม่หนาวเท่าปีก่อน หยางเอ๋อร์จะได้ไม่ลำบากมาก”“เจ้าก็เอาแต่เป็นห่วงบุตรชายของเจ้า เขาไปฝึกที่สำนักไป๋ซานร่วมปีแล้วน่าจะชินกับอากาศแล้วกระมัง อีกอย่างยังมีอาจารย์อย่างเฉินกวนคอยส่งข่าวมาให้ไม่ขาด ยังเป็นห่วงอีกหรือ”“แต่หยางเอ๋อร์ยังเด็กนะเพคะ เส

  • บุปผางามข้ามเวลามาทวงแค้น    ตอนพิเศษ 3 รักที่เร่าร้อน

    “อ๊าา…. อ๊าา ไม่ไหวแล้ว มันจุกมาก อื้อ….”เหรินซินทั้งกัดฟัน ทั้งอ้าปากระบายความเสียวออกมาเมื่อท่านอ๋องจับบั้นท้ายนางกระแทกลงมาถี่ ๆ เพื่อรับมังกรยักษ์ที่สอดอยู่ด้านใน ไม่นานร่างเล็กก็ถูกเขาจับพลิกให้นอนตะแคง ขาข้างหนึ่งถูกยกขึ้นมา อ้อมกอดของพระสวามีกระชับเข้ามาจนชิดและถูกเขากระแทกอีกครั้ง พร้อมกับหน้าอกที่ถูกนิ้วสากหนานั้นบดขยี้ที่ยอดจนแตะทางสวรรค์ไปอีกครั้ง“อ๊าา….”ครึ่งชั่วยามถัดมา“ท่านพี่เพคะ พอแล้วได้หรือไม่ข้าขอพัก อ๊าา!!”หน้าต่างทุกบาน รวมถึงประตูถูกลงกลอนจนหมดสิ้น บัดนี้เหรินซินได้หลงกลท่านอ๋องเพราะคำพูดหวาน ๆ นั่นเสียแล้ว ใครจะคิดว่าหลังจากที่เปิดประตูให้พระสวามีเข้ามา นางจะไม่ได้พักและแทบจะหายใจไม่ทันอยู่แล้วกับศึกรักที่โหมกระหน่ำ จนเผาไหม้ทุกอย่างที่ขวางหน้าเช่นนี้“อ๊าา ท่านพี่ อย่าเลียนะ! เราพึ่งจะ อ๊าา….”แต่ท่านอ๋องมิได้ใส่ใจ ลิ้นของเขายังคงซอกซอนเข้าไปยังร่องรักที่เปียกชื้นทั้งน้ำของเขาและนาง เหรินซินเหงื่อไหลท่วมและแทบจะสิ้นเรี่ยวแรงแต่ก็มิอาจทัดทานความปรารถนาของท่านอ๋องที่มีต่อนางได้“อ๊าา….”เป็นอีกครั้งที่นางถึงฝั่งสวรรค์ แต่ท่านอ๋องก็มิได้เว้นช่วงให้นางพักเลยจร

  • บุปผางามข้ามเวลามาทวงแค้น   ตอนพิเศษ 2 โอบกอดด้วยรักแท้

    ท่านอ๋องเดินไปยังเรือนหลังที่ตอนนี้เริ่มเงียบลงแล้วหลังจากที่รอสาวใช้ของเหรินซินเดินออกมา เว่ยเซียวที่หลบอยู่ด้านหลังก็ค่อย ๆ ไปที่ประตูแต่ปรากฏว่าประตูถูกลงกลอนเอาไว้“อะไรเนี่ย ปิดประตูงั้นหรือ”“ท่านคิดว่าจะเข้ามาในห้องข้าได้ง่าย ๆ งั้นหรือ”“เจ้า! ร้ายนักนะอาซิน”เสียงของเหรินซินดังออกมาจากด้านในเขาจึงรู้ว่าติดกับเข้าแล้ว พระชายาของเขามิใช่คนโง่ที่จะไม่รู้แผนการตื้นเขินเช่นนี้ แต่ในเมื่อพ่อตาสอนมาแล้วทุกอย่าง เช่นนั้นคืนนี้เขาจะไม่มีทางยอมแพ้เป็นอันขาด“อาซิน… เปิดประตูให้ข้าเข้าไปหน่อยสิ ข้าอยากจะคุยกับเจ้าจริง ๆ นะ อีกอย่าง…”“ท่านกลับไปดื่มสุรากับพี่ใหญ่และท่านพ่อจะดีกว่า มายืนอยู่ตรงนี้ก็ไม่มีความหมาย หม่อมฉันไม่มีทางเปิดประตูให้พระองค์”“เจ้ากลายเป็นคนใจร้ายเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน เจ้าจะยอมให้สามีของตัวเองถูกยุงกัดตายอยู่ตรงนี้งั้นหรือ หากเจ้าไม่เปิดข้าก็จะยืนเฝ้าอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหนทั้งนั้น คอยดูสิว่าข้าจะตายก่อนหรือว่าเจ้าจะใจอ่อนก่อน”“เช่นนั้นก็เชิญท่านอ๋องยืนเฝ้ายามหน้าประตูต่อไปนะเพคะ จะได้รู้ว่าเหล่าองครักษ์ต้องลำบากเพียงใด”“เดี๋ยวสิ! นี่กงเหรินซินมันจะเกินไปแล้ว อย่าใ

  • บุปผางามข้ามเวลามาทวงแค้น   ตอนพิเศษ 1พระชายาโกรธ

    สองเดือนถัดมา“ยอดไปเลย ข้าพึ่งจะเคยเห็นกระบวนท่าของ “กระบี่วารีพิสุทธิ์” เต็มตาก็วันนี้เอง เว่ยเซียวท่านเริ่มสงสัยตั้งแต่เมื่อใดว่านางมิใช่ซินเอ๋อร์แต่เป็นเยว่ชิงชิง"“ครั้งแรกที่ข้าเห็นนางแอบฝึกที่โรงฝึกของพวกเจ้าข้าก็เริ่มสงสัยว่านางมิใช่กงเหรินซิน ยอดไปเลยใช่ไหมเล่า”“เรื่องอัศจรรย์เช่นนี้ ไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะเกิดขึ้นจริง ๆ”“นั่นสิ ว่าแต่เจ้าเถอะตอนที่ไปสำนักไป๋ซาน ไม่เห็นเคยบอกข้าเลยว่านางคือใคร”“ตอนนั้นข้ารับปากท่านพ่อแล้วว่าจะไม่เปิดเผยฐานะของนาง และจะไม่บอกว่าตัวเองเป็นใคร ได้แต่เฝ้ามองนางห่าง ๆ และคอยช่วยเหลือในสิ่งที่ข้าพอจะช่วยได้ ทั้งกระบี่ที่ท่านพ่อสั่งทำแล้วมอบให้และเงินที่ฝากเอาไว้กับอาจารย์โดยไม่บอกให้นางรู้”“ข้านับถือเจ้านะที่ปกปิดความลับมาได้นานขนาดนี้ หากเป็นข้าก็คงอยากจะเผยตัวตนตั้งแต่แรก”“ใช่ว่าข้าไม่อยาก เพียงแต่ว่า…”“เพราะกงเหรินซินสินะ ปากเจ้าพร่ำบ่นนางและด่านางเป็นประจำแต่ก็รักนางมากไม่ต่างกังกงอวี้หาน”“นั่นเป็นสิ่งที่ข้าเสียใจมากที่สุดในฐานะพี่ชาย ข้าควรจะดีกับนางเหมือนที่อวี้หานทำ”ท่านอ๋องตบไหล่ของจ้าวหนาน สหายและเพื่อนร่วมสำนักของเขา ท่านอ๋องพอจะรู้

  • บุปผางามข้ามเวลามาทวงแค้น   ตอนที่ 67  สัญญาชั่วนิรันดร์ (ตอนจบ)

    สามวันถัดมา / สุสานสกุลกง “ซินเอ๋อร์ เนี่ยเอ๋อร์ พวกเจ้าคงจะได้พบกันแล้วสินะ ฝากดูแลนางด้วยนะ”“ซินเอ๋อร์ พี่ใหญ่ไม่เคยอยากจะทะเลาะกับเจ้าเลยสักครั้ง พี่ทำผิดต่อเจ้าที่คอยเปรียบเทียบเจ้ากับคนอื่น ชาติหน้าหากมีจริงขอให้พี่ได้มีโอกาสเป็นพี่ชายที่ดีของเจ้าอีกสักครั้งเถอะนะ”ตุ๊กตาไม้ที่แกะด้วยมือของกงจ้าวหนานวางลงที่หน้าป้ายวิญญาณน้องสาวผู้ล่วงลับ เขาทำมันขึ้นมาระหว่างออกศึกและเก็บเอาไว้นานกว่าสิบปีแต่ไม่มีโอกาสได้ให้กงเหรินซิน เพียงเพราะนางเอาแต่โวยวายและโมโหทุกคนที่ไม่เข้าข้างนาง เขาจึงเก็บตุ๊กตาไม้นี้เอาไว้ตลอด กงอวี้หานเดินมาตบไหล่ของพี่ใหญ่ที่ยืนอยู่หน้าป้ายวิญญาณของน้องสาวที่ทำขึ้นมาในสุสานของสกุลกง“พี่ใหญ่ท่านอย่าคิดมากเลย ซินเอ๋อร์เองก็มิได้โกรธท่านจริง ๆ หรอก ที่นางเอาแต่ใจก็แค่อยากให้ท่านหันไปสนใจนางเท่านั้นเอง”“ข้าไม่เคยได้มีโอกาสขอโทษ หรือทำดีกับซินเอ๋อร์เลยสักครั้ง จนกระทั่ง…”“พี่ใหญ่ ตอนนี้คนร้ายก็ได้ชดใช้ให้กับน้องเล็กแล้ว ท่านอย่าได้โทษตัวเองอีกเลยนะเจ้าคะ”“เจ้าพูดถูก แม้ว่านางจะไม่อยู่แล้วแต่ตอนนี้เจ้าเองก็อยู่ในร่างของนาง ทำดีกับเจ้าก็ไม่ต่างกับทำดีกับนาง”“ใช่แล้ว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status