Share

บทที่ 5

last update Last Updated: 2025-05-15 22:50:10

"..." มินตราทำได้เพียงหัวเราะเสียงเจื่อนๆ จะให้กล้าบอกเพื่อนสนิทอย่างไรล่ะว่าตอนนี้เธอไม่ครองโสด...คานที่เคยรอรับจนใยแมงมุมทำรังออกใช้งานเป็นที่เรียบร้อยแล้วเพียงแค่ไม่มีสถานะคู่นอนของเจ้านาย...

"ไม่ต้องมาทำเป็นหัวเราะกลบเกลื่อนเลยนะยายมินตรา! ถ้าเกิดแกมัวชักช้าลีลาอยู่แบบนี้เนี่ยมีหวังได้ขึ้นคานทองจริงๆด้วย แก๊งเราก็มีแฟน มีผัวไปหมดแล้ว" พิมพ์พลอยเอ็ดเพื่อนเบาๆ

"มาแล้วครับ สุดหล่อประจำกลุ่มมาแล้วครับโผมม" พลกฤษณ์ลากเสียงยาวพร้อมกับเดินเข้ามาในร้านอาหารเจ้าประจำ ก่อนจะยกฝ่ามือขึ้นเสยผมแบบลวกๆเพื่อโอ้อวดความโก้จากการย้อมสีสไตล์ฝรั่งนั่นก็คือฟ้าบลูฮาวาย

"เชี้ย! มึงเอายาม่วงไปโกรกผมมาเหรอวะ" ฟ้าใสส่ายศีรษะไปมาให้กับความโก๊ะของเพื่อนสนิท ไม่แปลกเลยที่เมื่อก่อนจะไม่มีเพื่อนผู้ชายคบเพราะไอ้ความเว่อร์วังปัญญาอ่อนแบบนี้นี่แหละคือสาเหตุหลัก

"นี่มันสีฟ้าบลูฮาวายครับคุณพิมพ์พลอย ยาม่วงบ้านพ่อง ตาสวะใช้ได้ฮะ" พลกฤษณ์กระแทกเสียงอย่างประชดประชัน "ใครมันจะเหมือนคนพิมพ์พลอยล่ะครับ คงย้อมผมสีเอิกเกริกแบบนี้ไม่ได้หรอกเพราะต้องรักษาหน้าตาของพ่อผัวแม่ผัว"

"ไอ้พลกฤษณ์! เดี๋ยวแม่ตีปากแตก" และนี่คืออีกสิ่ง...พิมพ์พลอยกับพลกฤษณ์เป็นคู่กัดกันมาตั้งแต่สมัยเรียนยันโตอายุปูนนี้ก็ยังไม่เลิกแว้งประชดประชันเหน็บแนมกันเสียที จนเธอกับฟ้าใสเคยคิดว่าหากวันนึงมันทั้งสองคนตกแต่งออกเรือนไปด้วยกันมีหวังลูกดกหัวปีท้ายปีแน่ๆ...แต่ความฝันก็พังทลายเพราะตอนนี้พิมพ์พลอยของเราได้เป็นสะใภ้เศรษฐีพันล้านไปเสียแล้ว

"พอๆ เลิกทะเลาะกัน นี่! กินติ่มซำกันเถอะ เจ้าโปรดของพวกเราเลยนะ" ฟ้าใสเห็นถึงกับรีบห้ามปรามไม่เช่นนั้นทั้งสองคนคงได้ต่อปากต่อคำยาวเหยียดจนกระทั่งอาหารเย็นจืดชืดกันพอดี

"เป็นไงบ้างมินตรา สบายดีไหม" สุ้มเสียงที่พูดคุยกับมินตราต่างออกไปจากพิมพ์พลอยเมื่อครู่ พลกฤษณ์หย่อนสะโพกลงนั่งข้างๆเพื่อนสาวแล้วถามไถ่สารทุกข์สุขดิบตามประสาคนสนิทกัน

"ก็สบายดี ว่าแต่พลกฤษณ์เถอะสบายดีนะช่วงนี้" พลกฤษณ์เป็นถึงหัวหน้าวิศวกรชื่อดังที่ต้องจองคิวยาวตั้งแต่ต้นปียันปลายปี...นับได้ว่างานล้นมือเลยเทียว

"สบายมาก มินสวยขึ้นนะเนี่ย รู้สึกว่าดูแลตัวเองดีเป็นพิเศษเหมือนคนกำลังมีความรักเลย" พลกฤษณ์แซว ตั้งแต่รู้จักกันมามินตราไม่ค่อยแต่งตัวเว้าหน้าเว้าหลังคอดเข้ารูปขนาดนี้ก่อน...อย่างมากออกมารับประทานอาหารตอนเย็นหรือยามเช้าตรู่ก็ใช้เป็นเสื้อโอเวอร์ไซส์ตัวโคร่งและกางเกงเจเจขาสั้นซะส่วนใหญ่

"เปล่าหรอก" ถึงแม้แค่ออกมารับประทานอาหารเจ้าประจำหลังมหาวิทยาลัยใกล้ๆ...แต่เจ้านายของเธออย่างภาคินก็กำชับนัก กำชับหนาว่าจำเป็นต้องดูดีอยู่ตลอดเวลา เพราะหากเจอกับผู้ค้าธุรกิจที่ร่วมด้วยจะได้ไม่ต้องก่อเรื่องขายหน้าไปจนถึงเขา...'เลขารองประธานบริษัทเดชาประวัติสกุลกรุ๊ป แต่งตัวมอซอเหมือนยายเพิ้งน่ะ'

"อะๆๆ อย่าพูดจาพร่ำเพรื่อ รีบๆกินกันเถอะ ฉันหิวจนไส้จะกิวแล้วเนี่ย" ฟ้าใสเร่งรัดจนเพื่อนๆทุกคนจำต้องกรอกตามองบน แล้วเริ่มลงมือรับประทานติ่มซำชิ้นเล็กชิ้นน้อยมากหน้าหลายชนิดที่วางเรียงรายอยู่บนโต๊ะ

นี่คงจะเป็นการพบปะสังสรรค์รวมตัวครบแก๊งครั้งแรกในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมาเลยก็ว่าได้ เพราะทั้ง 4 คนไม่ค่อยมีเวลาตรงกันสักเท่าไหร่นัก ต้องบากบั่นทำงานทำการมุ่งมั่นกับหน้าที่ของตนเอง...

ติ้ง! จู่ๆข้อความจาก application LINE ในมือถือของมินตราก็ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องคล้ายกับจุดประทัดสามารถเรียกความสนใจจากเพื่อนสนิททั้งสามคนหันมามองเป็นตาเดียวกัน

"อ่านข้อความก่อนไหม?" พิมพ์พลอยเป็นฝ่ายเบิกฤกษ์ถาม

"อื้อ"

"คุณภาคินเหรอ" คำถามของฟ้าใสทำเอาใจเธอกระตุกวูบ "คุณภาคินนี่ก็อะไรดี วันนี้เป็นวันอาทิตย์ซึ่งคือวันหยุดแท้ๆยังส่งข้อความมาสั่งงานเลขายิกๆ คิดจะไม่ให้พัก ไม่ให้ผ่อนกันเลยหรือไง แหมะ! ใช้งานจนคุ้มเงินเดือนจริงๆ"

มินตราถอนหายใจด้วยความโล่งอกที่เพื่อนสนิทของเธอคิดเห็นเป็นเช่นนั้น "ใช่ๆ ขอออกไปคุยงานแป๊บนึงนะพวกแกกินต่อได้เลย"

มินตราลุกขึ้นเดินออกมาจากร้านเจ้าประจำ เพื่อพิมพ์แชทส่งข้อความคุยกับภาคินที่เด้งเข้ามาเร็วระรัวจนโทรศัพท์เก่าซอมซ่อของเธอค้างเลื่อนแถบไม่ไป

phakin.nd

'อยู่ไหน'

'ทำไมยังไม่กลับบ้าน'

'มินตรา! กลับมาเดี๋ยวนี้เลยนะผมหิวข้าวจะแย่อยู่แล้ว'

'กล้าดียังไง ไปไหนมาไหนโดยไม่บอกกล่าวผมสักคำ'

'อย่าให้ผมรู้นะมิน ว่าคุณไปนัดเจอกับผู้ชายคนอื่น ไม่เช่นนั้นผมไม่เก็บคุณเอาไว้แน่'

ในสายตาของเขาเห็นเธอเป็นผู้หญิงประเภทไหนกันนะ...ถึงได้ด้อยค่าเหยียบย่ำเกียรติและศักดิ์ศรีคิดว่าเธอจะนอกกายนอกใจแล้วแอบไปเล่นสวาทกับผู้ชายคนอื่นควบคู่

แค่มีเขาคนเดียวเธอก็จะตายห่าอยู่แล้ว! หากเพิ่มมาอีกสองสามคน ใต้ขอบตาคงดำคล้ำ สภาพซูบเซียวจนต้องทรุดโทรมเข้าโรงพยาบาลแน่ๆ

และแล้วเมื่อเธออ่าน ไม่ทันได้ตอบข้อความ...สายโทรศัพท์เรียกเข้าจากเบอร์ที่ถูกเมมโมรี่ว่า คุณคีริน ก็ได้เด้งปรากฏโฉเด่นหราอยู่บนหน้าจอตัวโตๆ

(ทำไมอ่านแล้วไม่ตอบ? อยู่ที่ไหน กลับมาบ้านเดี๋ยวนี้ ผมหิวข้าวจะแย่อยู่แล้ว ในตู้เย็นก็มีแต่ของสดจะให้ผมทำกินเองหรือไง) พอเธอรับสายปุ๊บก็สาดคำถามใส่เข้ามาอย่างไม่ยั้ง จนสมองของมินตราแทบประมวลผลไม่ทันว่าควรเรียงจากคำตอบไหนไปคำตอบไหนก่อนดี

"มินเพิ่งเห็นข้อความเมื่อกี้กำลังจะพิมพ์ตอบพอดีแต่คุณคิรินก็โทรมาเสียก่อน ตอนนี้มินอยู่ที่ร้านติ่มซำหลังมหาวิทยาลัยค่ะ ออกมาพบปะเม้าท์มอยเล่าเรื่องสารทุกข์สุขดิบกับเพื่อนฝูงนิดหน่อย น่าจะกลับไม่เกินสองทุ่ม ที่สำคัญถ้าเกิดหิวในตู้เย็นมีข้าวที่มินซื้อมาจากเซเว่น คุณคีรินเอาอุ่นในไมโครเวฟทานก่อนได้เลยนะคะ" มินตราตอบอย่างใจเย็นที่สุด

(นี่มินกล้าให้ผมอุ่นอาหารในไมโครเวฟกินเองงั้นเหรอ? กลับมาเดี๋ยวนี้มินตรา ไม่เช่นนั้นอย่าหาว่าผมไม่เตือน) ภาคินสั่งเสียงเข้ม ถ้าเกิดตอนนี้เปิดวีดีโอคอลอยู่คงได้เห็นสีหน้าและใบหูของเขาแดงเถือกพร้อมกับลูกกะตาที่แทบจะถลนออกมานอกเบ้ากระมัง

"แต่...วันนี้มินขออยู่กับเพื่อนได้ไหมคะ มินกับเพื่อนแทบไม่ได้รวมกลุ่มครบคนแบบนี้มานานแล้ว..." มินตราร้องขอด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา รู้ทั้งรู้ว่าความหวังของมันคือศูนย์แต่เธอก็ยังอยากลองดูสักตั้งเผื่อเขาคิดเห็นใจ

(กลับมาเดี๋ยวนี้) ภาคินเริ่มกดเสียงต่ำแสดงออกมาทำให้มินตราได้รู้ซึ้งถึงความรู้สึกที่กำลังคุกรุ่นอยู่ภายในอกจนแทบปะทุ ไม่อยากจะนึกสภาพของตัวเองเลยว่าทันใดที่ย่างก้าวเข้าไปใน ห้องเชือด หลังนั้นเธอจะต้องประสบพบเจอกับอะไรบ้าง

ปกติกว่าเขาจะกลับมาถึงบ้านจัดสรรที่ซื้อเอาไว้ให้เธออยู่...ก็ประมาณสามทุ่ม...เธอจึงเผื่อเวลาและได้ออกมาพบปะสังสรรค์กับเพื่อนสนิทโดยกำหนดเวลาก่อนหน้านั้นสองชั่วโมง แต่ไม่รู้ว่าวันนี้โชคชะตาหรืออะไรเล่นตลกถึงได้ทำกับเธอแบบนี้

"ค่ะ มินจะกลับไปเดี๋ยวนี้" มินตราไม่มีทางเลือก เธอจะกล้าฮึกเหิมทำให้เขาไม่พึงพอใจได้อย่างไรล่ะ ยิ่งตอนที่เขาโมโห อารมณ์ร้าย ไม่เคยฟังใครทั้งสิ้น ทั้งทำลายข้าวของ...แล้วค่อยมาพูดจาอ่อนออเซาะเธอทีหลังเมื่ออารมณ์เย็นลง

"ผมให้เวลา 10 นาที ถ้ามินยังไม่ถึงเราได้เจอดีกันแน่" ว่าจบคีรินกดตัดสาย

มินตรากำโทรศัพท์แน่นก้าวขาหนักเข้าไปในร้านอาหารเจ้าประจำ หยุดการเคลื่อนไหวด้านหน้าโต๊ะของกลุ่มเพื่อนฝูงแล้วขบเม้มริมฝีปากเข้าหากันเบาๆเพราะไม่รู้ว่าจะสรรหาคำใดมาพูดเพื่อให้ตัวเองดูน่าเกลียดน้อยลง

"เอ่อ...คะ...คือ"

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 45

    @2 เดือนผ่านไป พิธีวิวาห์สมรสของทั้งคู่ถูกจัดขึ้นอย่างรวดเร็วท่ามกลางความตื่นตะลึงและเสียงเห่ร้องตกใจจากพนักงานในบริษัทญาติสนิทมิตรสหายเพื่อนฝูงและคู่ค้าทางธุรกิจต่างๆ แต่รับรองได้เลยว่าไม่น้อยหน้าผู้ใด ระดับออแกไนซ์มืออาชีพอันดับต้นๆ ของเมืองไทยเนรมิตเองตั้งแต่ประตูงานยันอาหารการกิน ทรงผม ชุดเจ้าสาวเอย รองเท้าเอย แก้วเอย ผ้าปูโต๊ะเอยหรือแม้กระทั่งทิชชู่ที่หยิบใช้ก็เป็นของแบรนด์ของมีคุณภาพทั้งนั้น...ทำให้มินตราตกเป็นเป้าสนใจและเป็นที่อิจฉาของเหล่าสาวๆ ทั้งน้อยทั้งใหญ่ที่หมายปองปรารถนาอยากจะเข้ามาเป็นสะใภ้เศรษฐีหมื่นล้านตระกูลเดชาบวรสกุล...ตอนนี้คงเหลือแต่พี่คนโตไว้ให้เป็นเป้าหมายใหม่สำหรับใช้ยิงธนูแล้วเล็งไปยังจุดกึ่งกลางเขา ทว่าความเป็นไปได้ช่างน้อยแสนน้อยเหลือเกินเพราะแอบมีข่าวลือหลุดมาว่ากำลังกิ๊กกั๊กอยู่กับลูกนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังคนหนึ่ง......แล้ววันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่ค่อนข้างสำคัญเป็นอย่างมากนั่นก็คือมินตราและภาคินจะได้รู้เพศลูกตัวเอง ซึ่งถูกจัดขึ้นตามสไตล์ของพวกชนชาติทางฝั่งตะวันตกฝั่งตะวันออกที่นิยมให้พ่อแม่มาลุ้นเพศลูกโดยจะมีเพียงหนึ่งคนเท่านั้นที่รับรู้นั่น

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 44

    ผ่านไปประมาณเกือบครึ่งชั่วโมง ประตูที่เคยถูกล็อคก็เปิดง้างออกเผยให้เห็นเรือนร่างแกร่งกำยำของชายหนุ่มที่มีชื่อว่าภาคินัย เดชาบวรสกุล สายตาของเขาซึ่งฉายมองทีเดิมช่างคลับคล้ายคับคลาเป็นดั่งพญาราชสีห์ สิงห์ เสือที่มีพละกำลังมาก ดูดุ ดูน่าเกรงขาม มิหวาดกลัวต่อใคร ทว่าตอนนี้กลับมีแต่แววรักฝังลึกอยู่เต็มเปี่ยม ความหวานเยิ้มดุจน้ำผึ้งเดือนห้าปรากฏชัด ค่อยๆ เดินเรียบแล้วหย่อนสะโพกนั่งท่าเทพบุตรลงบนพื้นตรงหน้าหญิงสาวที่เขาพึงใจรัก "ผมขอโทษ ผมขอโทษที่ผมทำแย่ๆ กับมินมาโดยตลอด ผมรู้ว่าคำขอโทษของผมมันไม่ได้ผล และมันไม่สามารถชดเชยชดใช้กับสิ่งที่ผมทำกับมินได้ แต่ผมอยากจะให้มินรู้ว่าผู้ชายคนนี้มันสำนึกผิดแล้วจริงๆ มันพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อไถ่โทษให้กับมิน" ภาคินก้มหน้างุดก่อนที่หยดน้ำจะเริ่มเอ่อล้นอาบสองพวงแก้วจรดบนพื้นกระเบื้องจนกลายเป็นคราบกว้าง "..." "ผมรู้ว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาผมไม่เคยดีกับมินเลย ผมเป็นผู้ชายร้ายๆ เป็นผู้ชายห่วยแตกที่ปากจัด อารมณ์ร้าย หัวร้อนไม่ฟังใคร รุนแรงในสายตาของมิน แต่ผมอยากจะขอโอกาสมินสักครั้งได้ไหม ขอโอกาสให้ผมได้ดูแลลูก ให้ผมได้ดูแลมิน ให้ผมได้ทำหน้าที่ของพ่อและหน้า

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 43

    แล้วจะให้เธอทำเช่นไรล่ะ ในเมื่อนี่คือความสัตย์จริงที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เธอพูดถึงหลักความเป็นจริง หลักความเป็นไปของชีวิตที่คนทุกคนล้วนได้พบเจอเธอเห็นมานัดต่อนัดแล้วล่ะ ทั้งคนรอบตัว รอบกาย ญาติสนิทมิตรสหาย เพื่อนฝูงหลายต่อหลายเหล่า ยามที่คนรู้จักกลับไปกินของเก่า กลับไปกินขี้ที่ตัวเองพยายามตะเกียกตะกายฉุดรั้งขึ้นมาเพื่อให้หลุดพ้นก็มักจะถูกหัวเราะเยาะถูกว่ากล่าวซ้ำเติมสารพัดสาระเพ"แต่นี่แม่ แม่ไม่ใช่คนพันนั้น แม่ไม่ใช่พวกที่จะมานั่งหัวเราะเยาะลูก มินไม่จำเป็นต้องอาย แม่บอกมินเสมอว่าเวลาที่มินมีอะไรมินสามารถพูดคุย มินสามารถบอกแม่ได้ ถึงแม่จะให้ความปรึกษา ให้ความช่วยเหลือมิได้ไม่มากพอแต่แม่คนนี้ก็พร้อมรับฟังลูกเสมอ" คุณกลิ่นแก้วเลื่อนแขนเรียวบางขึ้นไปจับบ่าของลูกสาว "มินไม่ผิดเลยลูกที่มินจะยังรักคุณภาคินและมินอยากตัดสินใจให้โอกาสคุณภาคินอีกครั้ง มินไม่ได้เป็นคนโง่แต่เพราะมินรักเขา เพราะเขาคือผู้ชายที่มินรักต่างหากล่ะ ข้อนี้ที่มินควรจะสนใจมากที่สุด แม่ขอถามหน่อยคนพวกนั้นที่มินคิดว่าเขาจะมาหัวเราะเยาะมิน เขาได้หากับข้าวหุงข้าวหุงปลา หาเงินทำให้มินมีความสุขเหมือนตอนนี้ได้หรือเปล่า คนที่

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 42

    โคร้ม!!"คุณ!!!" วินาทีแรกที่ภาพเขากำลังหล่นร่วงจากต้นไม้ฉายเข้ามาในแววตา โสตประสาทการรับรู้ของมินตราเธอก็รีบลุกขึ้นพรวดพราดเข้าไปประคองเขาอย่างอัตโนมัติราวกับหัวใจกดรีโมทคอนโทรลสั่งมาเสียกระนั้น"โอ๊ย!! ผมเจ็บมากเลยครับมิน" ใจหนึ่งก็เจ็บปวดรวดร้าวไปทั้งเรือนร่างจริงๆ นั่นแหละ แต่ก็อาจใส่จริตใส่มารยาสาไถของเพศหญิงที่มักจะชอบใช้กับพวกผู้ชายด้วยหน่อยเพื่อออดอ้อนออเซาะเรียกร้องความเห็นใจจะได้อยู่ใกล้ชิดกับมินตรามากยิ่งๆ ขึ้นไปอีก"เจ็บมากไหม" สีหน้าของหญิงสาวดูเป็นกังวลและแสดงออกถึงความห่วงใยอย่างเห็นได้ชัดเจนแจ่มแจ้งจนรู้สึกว่ามันค่อนข้างตรงข้ามกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอเคยพยายามปฏิเสธเขาสารพัด ทว่าแท้จริงแล้วในใจไม่ได้คิดหรือไม่ได้รู้สึกเช่นนั้นเลยด้วยซ้ำ "เจ็บมากเลยครับ..." ชายหนุ่มซบลงบนเนินหน้าอกของมินตราแล้วโอบกอดเรือนร่างเธอเอาไว้ "กล้าไปเอารถออกแล้วก็ช่วยตามคนงานมาซัก 2-3 คนด้วย ฉันจะพาคุณภาคินไปโรงพยาบาล" "ครับ""มินเป็นห่วงผมเหรอครับ ดีใจจังเลยมีคนเป็นห่วงด้วย" เขาแอบยิ้มเล็กยิ้มน้อย"อย่าสำคัญตัวเองผิดไปหน่อยเลย ฉันไม่ได้เป็นห่วงเป็นใยอะไรคุณสักนิด แต่ที่ฉันทำลงไปทั้งหมดก็เพร

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 41

    รุ่งเช้าวันถัดมา...ยามนี้พระอาทิตย์ทอแสงจ้าสว่างไสวมีสายลมพัดปลิวให้ความร่มเย็นใต้โคนต้นทุเรียนหมอนทองของจังหวัดจันทบุรี ซ้ำเห็นคนงานชาวสวนทั้งลูกเด็กเล็กแดง เพศสตรีและเพศบุรุษมาทำงานกันอย่างขะมักเขม้นไม่ให้แคล้วคลาดหรือเสียเวลาสักนาทีเดียว...ภาคินยังคงลุกขึ้นทำอาหารตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อคอยเอาอกเอาใจดูแลปรนนิบัติพัดวีมินตราและเจ้าตัวเล็กที่กำลังต้องการสารอาหารอย่างครบถ้วนอยู่ในครรภ์...เขาแทบจะกลายเป็นลูกเขย กลายเป็นคนรับใช้และกลายเป็นแม่ครัวคนหนึ่งของบ้านหลังนี้ไปเสียแล้ว ทั้งๆ ที่ปกติไม่เคยแม้กระทั่งเหยียบย่างเข้ามาในห้องสี่เหลี่ยมแล้วลงมือหั่นผัก หั่นหมู หั่นเนื้อ หั่นไก่ด้วยตนเองสักครั้ง"ข้าวต้มไก่ไข่พร้อมกับตับครับ อาหารพวกนี้จะช่วยบำรุงมินและลูกให้แข็งแรง" "เอาวางไว้ตรงนั้นแหละ มีธุระอะไรทำก็ไปทำเสีย อย่ามายืนหัวโด่เกะกะรกหูรกตาอยู่ตรงนี้ สุขภาพทัศนวิสัยการมองเห็นฉันจะเสียเอาเปล่าๆ" แม้นพูดจาถากถางน้ำใจแต่ก็ไม่กล้าสบหน้ากับเขาเพราะกลัวใจตัวเองหวั่นไหวจึงจำเป็นต้องเบี่ยงเบนศีรษะเอนเอียงไปทางอื่นหลบหลีกให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้"ครับ" ภาคินทำได้เพียงกล้ำกลืนฝืนทนยอมรับกับชะตา

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 40

    ภาคินไม่รู้จะทำเช่นไรจึงนำอาหารที่ตนเองปรุงเสร็จเรียบร้อยแล้ววางไว้ด้านหน้าห้องพร้อมกับเขียนโปสการ์ดบนกระดาษโพสอิทแผ่นเล็กๆ ไว้ว่า'กินข้าวเย็นเยอะๆ นะครับ สุขภาพร่างกายจะได้แข็งแรง ผมไม่ได้เป็นห่วงแค่ลูกแต่ผมเป็นห่วงมินด้วย' แต่ก็ไม่รู้เลยว่าเธอจะกินหรือเอาไปเททิ้งให้หมา...มินตราใจแข็งชะมัดยาก หากตามงอนง้อขอคืนดีเห็นทีคงใช้เวลานานพอสมควร ถ้าเป็นเช่นนั้นเขาคงต้องรีบเร่งรวบรัดจับหัวจับท้ายกินกลางตลอดตัว ไม่ให้ดิ้นหลุดด้วยวิธีการของตนเอง!บรรยากาศแห่งค่ำคืนนี้ค่อนข้างเงียบสงัดได้ยินเพียงเสียงจั๊กจั่นเรไรร้องแซ่ซ้องก้องกังวาลเมื่ออาศัยช่วงจังหวะดีแท้แลแล้วว่ามิมีผู้ใดพลุกพล่าน ภาคินลุกย่องออกจากเต็นท์ซึ่งกางอยู่บริเวณชานระเบียงหน้าบ้านค่อยๆ ย่องเลียบผ่านด้านข้าง ก่อนใช้ราวบันไดที่ตนเองเสาะเล็งเอาไว้พาดลงบนระเบียงด้านบนตรงกับห้องของมินตรา ชายหนุ่มรูปร่างแกร่งกำยำก้าวขาฉับ ส่วนสองมือนั้นไซร้กำลังจับราวบันไดปีนป่ายขึ้นไปคล้ายกับพวกโจร 500 อย่างมุ่งมั่นและมีจิตใจแน่วแน่ในการกระทำเรื่องสิ้นคิดเช่นนี้... มินตราคงชะล่าใจ บวกกับนี่เป็นชนบทแถวจังหวัดจันทบุรีเหตุไม่ค่อยพลุกพล่าน ชาวบ้านส่วนใหญ่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status