บทที่ 2
หลังจากที่รถจอดหน้าบ้านของนิตาธารามมาส่งเธอแต่ยังไม่ยอมลงรถ นิตาหันไปมองธารามแล้วพุ่งตัวกอดทันที ใบหน้าออดอ้อนซบลงที่แขนแกร่งเบาๆ
"นิตาอย่าทำแบบนี้" ธารามถอนหายใจจับแขนของนิตาออกจากคอตัวเอง ถึงแม้เธอคืออดีตคนรักแต่เขาไม่เลวพอที่จะมีอะไรกับคนผู้หญิงอื่นทั้งที่ยังไม่หย่า
"ทำไมคะธาราม เรารักกันไม่ใช่หรอคะตลอดระยะเวลาสี่ปีที่ผ่านมา นิตาเชื่อว่าคุณรักนิตามาโดยตลอด" ธารามยิ้มให้กับนิตาเขายกมือลูบหัวของหญิงสาวเบาๆ ใบหน้าของธารมที่ส่งยิ้มให้นั้นดูมีบางอย่างที่ไม่กล้าจะพูดกับเธอ
"ใช่ผมรักคุณมาโดยตลอด แต่ผมยังไม่ได้หย่ากับหลินหลินซึ่งผมไม่อยากบาป โดยการมีชู้เข้าใจผมนะนิตา จะเลวอย่างไงก็ไม่ควรสวมเขา" ธารามอ้างกับนิตาว่าตัวเองนั้นยังไม่ได้หย่ากับหลินหลินเพื่อปฏิเสธความสัมพันธ์ที่จะเกิด
"ก็ได้ค่ะ แล้วเมื่อไรคุณจะหย่ากับหลินหลินสักที ในเมื่อพ่อของเธอก็ตายไปแล้ว คุณได้ทุกอย่างมาแล้ว คุณรออะไรอีก" ใบหน้าน้อยจ้องมองด้วยสายตาที่เคร่งครัดรอคำตอบจากคนรักว่าเมื่อไร เขาจะหย่าเพื่อที่ตัวเองจะได้เข้าไปแทนที่
"หลินหลินเข้าโรงพยาบาลเพราะเป็นลม ผมจะต้องรีบกลับบ้านลูกของผมอยู่คนเดียว เอาไว้เราค่อยคุยกัน" นิตาจับมือของธารามกุมเอาไว้และใช้ใบหน้าแนบเข้าหลังมือของเขา ในสายตาของนิตาช่างดูน่าทนุถนอมต่างจากหลินหลินภรรยาของเขาซะจริง
"จำไว้นะคะคุณธาราม นิตารักคุณมากตลอดระยะเวลาสี่ปีที่ผ่านมา มันเป็นฝันร้ายสำหรับนิตากว่าจะผ่านมาได้คุณก็รู้ว่านิตาทุกข์ทรมานมากแค่ไหน"
"ผมบอกแล้วไงนิตา ว่าผมจะชดใช้ให้คุณทุกอย่างแต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ เพราะยังไงหลินหลินก็คือแม่ของลูกคงต้องให้เวลาเธอหน่อย"
"นิตาจะรอนะคะ" หลังจากที่ธารามพยักหน้าให้กับนิตาเธอลงจากรถได้เพียงแต่ยืนมองคนที่ตัวเองเฝ้ารอมาสี่ปี
"คุณหลงรักมันไปแล้วธาราม ที่คุณไม่ไล่มันออกจากบ้าน ไม่ไล่มันออกจากชีวิตคุณรักมันไปแล้วจริงๆ" ใบหน้าสวยขมวดคิ้วเคร่งเครียดกัดฟันเสียงดังกรวดมือทั้งสองข้างกำเข้าหากันและย้ำเท้าด้วยความโกรธที่ไม่ได้ดั่งใจหวัง
กลับมาทางด้านของหลินหลิน
เรือนร่างบางลืมตาตื่นขึ้น สายตาของเธอกวาดมองรอบๆ ที่นี่คือโรงพยาบาลและมันเป็นสิ่งที่หลินหลินไม่ชอบมากที่สุดก็คือโรงพยาบาล คนตัวเล็กเตรียมที่จะลุกขยับแต่หมอที่ยืนดูอาการอยู่นั้นรีบคว้าจับเอาไว้
"หลินหลินอย่าเพิ่งลุกสิ เธอเพิ่งฟื้นนะ" หลินหลินหันไปมองผู้ชายที่ใส่ชุดกาวน์สีขาวนั่นคือหมอเฝ้าไข้ของเธอ เเต่ คือความบังเอิญที่เขาคือรุ่นพี่ที่เคยเรียนมหาลัยเดียวกันที่ต่างประเทศ และความสัมพันธ์ที่สนิทกันมาก
"พี่คิม...ใช่จริงๆ ด้วย" ใบหน้าของคิมยิ้มให้กับหลินหลินและพยักหน้าให้เธอแทนคำตอบ
"พี่คิมอยู่ที่โรงพยาบาลนี้เหรอ" หมอคิมโน้มใบหน้าลงและใช้มือลูบหัวของหลินหลินเบาๆ
"อยู่ที่นี่เป็นปีแล้วแหละ แต่แค่คนบางคนไม่รู้เองใช่สิเธอมีสามีแล้วนี่ เธอจะมาสนใจพี่ทำไมใช่ม๊ะ" เมื่อก่อนนี้ตอนเรียนอยู่ต่างประเทศก็มีแต่พี่คิมที่คอยดูแลเอาใจใส่แต่ไม่ได้เป็นแฟนกันเป็นแค่พี่กับน้องหลังจากกลับมาอยู่ที่ไทยพ่อของหลินหลินให้แต่งงานกับธารามก็ไม่ได้ติดต่อกับเขาอีกเลยเพราะหลินหลินกลัวทำให้ธารามเสียความรู้สึกกลัวว่าจะเข้าใจผิดเรื่องเธอกับหมอคิม หลินหลินจึงตัดสินใจไม่ติดต่อกับหมอคิมอีก
"ขอโทษนะคะคือหลินแต่งงานแล้ว" หลินหลินก้มหน้าลงมือทั้งกุมเข้าหากันอยู่ไม่เป็นสุขแกะเล็บตัวเองเหมือนในใจของเธอนั้นมีเรื่องเครียด
"ไม่ว่าตอนนี้หลินหลินจะเจออะไรหรือเกิดอะไรขึ้นกับหลินหลิน พี่จะอยู่เคียงข้างและคอยให้คำปรึกษาเหมือนกับเมื่อก่อนนะ" หมอคิมนั่งลงด้านข้างของหลินหลินและยกมือลูบหัวเหมือนกับน้องสาวที่มีพี่ชายคอยดูแล หลินหลินยิ้มให้กับหมอคิมพร้อมกับแววตาที่มองหมอคิมจนน้ำตาคลอ
"ขอบคุณนะคะ ตอนนี้สามีของหลินเขาเปลี่ยนไปไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่เขาบอกกับหลินว่าเขามาเพื่อแก้แค้น ตลอดระยะเวลาที่แต่งงานกับหลินมาสี่ปี เขารังเกียจและขยะแขยงซึ่งมันต้องไม่ใช่แบบนั้น เขาคงโกรธที่หลินทำตัวไม่ดีแน่ๆเลย พี่คิมช่วยหลินหน่อยได้ไหมผู้ชายงอนหลินต้องทำยังไงถึงจะง้อเขาได้" หมอคิมได้เพียงแต่ยิ้มเจื่อนๆ ให้กับหลินหลิน
"ก็ง้อเขาสิ สามีภรรยาง้อกันง่ายนิดเดียวเอง ว่าแต่แผลที่เกิดขึ้นบนหน้าและเป็นลมนี่คงไม่ใช่ฝีมือของเขาใช่ไหม?"
ดวงตาคู่นั้นจ้องมองรอคำตอบจากหลินหลิน เธอกลับส่ายหน้าให้กับเขาเพื่อปฏิเสธและปกป้องคนรัก
"ไม่ใช่ค่ะ...เขาไม่ได้ทำอะไรหลินเลยค่ะ แค่มีเรื่องที่บ้านนิดหน่อย" สายตาของหมอคิมที่มองหลินหลินซึ่งเขาไม่เชื่ออยู่แล้วยิ่งถ้าหลินหลินโกหกมือของเธอจะสั่นอยู่ไม่เป็นสุข แต่หมอคิมเลือกที่จะพยักหน้าให้กับหลินหลินเพื่อความสบายใจของคนตัวเล็ก
"โอเค...ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดีแล้ว รักษาตัวให้หายคืนนี้นอนที่โรงพยาบาลก่อนนะ" มือของหมอคิมจับเข้าที่ไหล่ของหลินหลินแต่ในขณะนั้นประตูห้องพักฟื้นเปิดเข้ามาพรวดพราด หมอคิมจึงลงจากเตียงและยืนมองไปที่หน้าประตู หลินหลินยิ้มกว้างเพราะคนที่เข้ามาคือธาราม เขาบอกว่าเกลียดแต่เขามาหาต้องไม่ใช่อย่างที่เขาพูดบอกกับเธอแน่ๆ
"คุณมาเฝ้าฉันเหรอ" ผู้เป็นภรรยานั้นดีใจรอยยิ้มที่เกิดขึ้นนั้นลืมความเจ็บปวดแต่คนตัวโตที่เดินเข้ามาไม่ได้ที่จะมาเฝ้า
"ผัวะ!" ธารามต่อยหมัดหนักเข้าหน้าของหมอคิมจนเลือดออกริมฝีปากและเขายังจับคอเสื้อของหมอคิมกระชากทั้งสองต่างพากันยื้อกันและผลักกันออก
"คุณเกิดอะไรขึ้น คุณทำร้ายหมอคิมทำไม" หลินหลินรีบลงมาห้ามเธอไม่ได้สนใจตัวเองที่เสียบสายน้ำเกลืออยู่กระชากแขนออกมาขวางกลางของผู้ชายทั้งสองคน หลินหลินหันมองหน้าธารามและเอ่ยถาม
"ชอบเป็นชู้กับเมียชาวบ้านนักหรือไง มึงเป็นถึงหมอหรือว่าไม่อยากมีงานทำแล้วจำเอาไว้ อย่ามายุ่งกับเมียกูอีก" มือหนาคว้าจับแขนหลินหลินข้างที่เลือดออกเพราะกระชากสายน้ำเกลือจนเข็มมันหลุด เขาดึงตัวเธอออกมาจากห้องพักฟื้น
"ฉันเจ็บนะคะ" หลินหลินหยุดเดินและยกมือขึ้นธารามกระชากเธอออกมาไม่สนใจความเจ็บของคนตัวเล็ก
"ร่านดีนี่ ฉันไม่เคยคิดเลยนะหลินหลินว่าเธอจะร่านขนาดนี้ ไอ้ที่ออกไปเที่ยวข้างนอกกับเพื่อนคงจะไปหาชู้ทุกๆ คืนสินะ ฉันนี่มันควายจริงๆ โง่งมเป็นสามีที่ดีของเธอมาตั้งสี่ปีให้เธอสวมเขาตลอด หึ" หลินหลินได้เพียงแต่ส่ายหน้าไปมาต่อให้เธอออกไปเที่ยวกลางคืนกับเพื่อนแต่หลินหลินหลินไม่เคยนอกลู่นอกทางและนอกใจสามีเลยสักครั้ง
"ขอโทษนะครับคุณธาราม คุณจะดูถูกคุณหนูมากเกินไปแล้ว" ลูกน้องคนสนิทของพ่อหลินหลินรีบเข้ามาห้าม
"มึงไม่ต้องมายุ่ง ถ้ายังอยากอยู่รับใช้คนหนูของมึงก็หุบปากไปซะ พาคุณหนูกลับบ้านไม่ต้องอยู่โรงพยาบาลนี้" ธารามชี้น้าลูกน้องคนสนิทพ่อของหลินหลินและเอ่ยสั่งให้พาหลินหลินกลับบ้านโดยที่ไม่ให้รักษาตัวอยู่โรงพยาบาลนี้แล้ว
"คุณหนู" คนตัวเล็กยืนร้องไห้จนตัวสั่นเรือนร่างบางเงยหน้าขึ้นสูดลมหายใจเข้าและปล่อยออกพร้อมกับน้ำตาที่ไหลริน
"กลับบ้าน" เสียงสะอื้นพูดกับลูกน้องคนสนิทของพ่อเธอและเดินตามเขาออกมาลานจอดรถในโรงพยาบาลสามีของเธอขับรถกลับไปแล้วเขาไม่แม้แต่จะให้เธอนั่งไปด้วยซ้ำ
"หลินหลิน" หมอคิมวิ่งตามออกมาจนกระทั่งถึงลานจอดรถเขาเอ่ยเรียกจนหลินหลินหยุดชะงักและหันกลับไปมอง คนตัวเล็กเช็ดน้ำตาของตัวเองออกและฝืนยิ้ม
"ขอโทษนะคะพี่คิม ที่วันนี้สามีของหลินหลินไร้มารยาทคือเราทะเลาะกันยังไม่ได้ปรับความเข้าใจกันเอาไว้ปรับความเข้าใจกันแล้วหลินจะพาสามีมาขอโทษนะคะ" หมอคิมได้เพียงแต่มองหลินหลินขึ้นรถไป หลินหลินไม่อยากให้หมอคิมโกรธสามีจึงอ้างเหตุผลว่าจะพาเขามาขอโทษ
"ใครที่มันทำร้ายเธอและทำให้เธอไม่มีความสุขฉันจะจัดการมัน เด็กน้อยของฉันต้องมีความสุขเท่านั้นฉันจะมาทวงเธอคืนหลินหลิน" หมอคิมกำหมัดและใช้มืออีกข้างเช็ดเลือดริมฝีปากตัวเอง ในสายตาคู่นี้ได้เพียงมองแค่รถที่วิ่งออกไป
กดติดตามช่องไรท์ไว้ด้วยนะค้าบ
บทที่ 11 "นายครับเรื่องที่นายให้ผมไปจัดการผมไปสืบมาแล้ว คุณเฉินลู่เป็นแฟนเก่าสมัยมัธยมของคุณหลินหลิน และในวันนั้นที่คุณเฉินลู่พาคุณหลินหลินออกไป ทางคุณหลินหลินสมยอมไม่ได้มีการอุ้มหรือฉุดกระชากไปโดยเด็ดขาด" ธารามกำหมัดและทุบลงที่โต๊ะทำงานของตัวเองลูกน้องที่เขาไว้ใจที่คอยให้สืบเรื่องนั้นรายงานว่าหลินหลินเต็มใจไปกับเฉินลู่ "เธอนี่มันร่านจริงๆ" "และยังมีเรื่องเมื่อสามปีก่อน ทั้งคู่เคยพากันเข้ารีสอร์ทนี่คือหลักฐานครับ" ธารามก้มมองภาพถ่ายที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งมีผู้หญิงและผู้ชายยืนกอดคอกันซึ่งด้านหลังเหมือนกับหลินหลินจริงๆ และมันเป็นภาพถ่ายตอนกลางคืนซึ่งมองไม่ชัดแฟนเก่าอย่างนั้นเหรอ แล้วนัดเจอกันเมื่อสามปีก่อนก็ต้องหลังจากที่แต่งงานเป็นปีแล้วทำไมหลินหลินถึงยังไปเจอแฟนเก่า"ฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่าผู้หญิงคนนี้จะทำกับฉันได้" ยิ่งทำให้ธารามโกรธมาก ลูกน้องคนนั้นยังไม่พูดไม่จบเขาเอ่ยพูดขึ้นอีก"คุณธาราม ถ้าผมจะพูดอะไรบางอย่างคุณจะโกรธผมไหม" ธารามเงยหน้ามองลูกน้องคนนั้น เขาไว้ใจในตัวลูกน้องคนนี้ระดับหนึ่ง แต่ไม่ถึงกับไว้ใจทุกอย่างในทุกๆ ครั้งที่ต้องการให้ลูกน้องคนนี้สืบหาความจริง เขามักจะโทรไม่ค่อยใ
บทที่ 10นิตาเธอนัดเจอยศที่ร้านอาหารซึ่งไม่เข้าไปในบ้านไม่อยากไปเจอผู้หญิงอีกคนที่เป็นภรรยาของยศเพราะทั้งสองคนไม่ถูกกัน"ที่อารมณ์เสียแบบนี้ยังจัดการไอ้ธารามไม่ได้ใช่ไหม วิธีง่ายๆ แค่นี้ทำไมแกถึง...." นิตาถอนหายใจและวางแก้วน้ำลง ธารามไม่ใช่ผู้ชายทั่วไปที่จะคว้าเอาผู้หญิงไม่เลือกหน้าซึ่งนิตารู้ดี"คุณพ่อคะ คุณธารามไม่ใช่คนแบบนั้น เขาไม่เอาผู้หญิงที่ไหนก็ได้มาทำเมียหรือว่าคว้าผู้หญิงข้างทางมาบำเรอร่างกาย เขาให้เกียรติผู้หญิงด้วยซ้ำ นิตาไม่อยากพูดถึงตรงนั้นตอนนี้ธารามมีใจให้กับหลินหลินหลานสาวของคุณพ่อนั่นแหละ" นิตาที่อยู่กับพ่อตัวเองแตกต่างจากนิตาที่อยู่กับธารามน้ำเสียงที่เคยอ่อนโยนกลายเป็นน้ำเสียงแข็งกระด้างพูดด้วยความโมโห"เอาเถอะที่แกต้องการให้ฉันออกมาหาไม่มีอะไรจริงๆ แกเข้าไปหาฉันที่บ้านก็ได้นะ ทำเหมือนไม่เคยเข้าไป""ไม่เอาค่ะ ไม่อยากไปเจอเมียใหม่ของคุณพ่อ ที่นิตานัดเจอคุณพ่อในวันนี้ นิตามีเรื่องอยากให้คุณพ่อช่วย" ผู้ชายวัยกลางคนใบหน้าจ้องมองผู้เป็นลูกสาวฝั่งตรงข้ามของโต๊ะจนคิ้วขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัยที่ลูกสาวนั้นต้องการให้ตัว
บทที่ 9หลินหลินกลับมาที่บ้านในตอนเช้าเห็นลูกชายตัวเล็กซึ่งหลายวันที่เขาไม่ได้เห็นน้องณธีเลยมีแต่พี่เลี้ยงอยู่ดูแล ตัวเธอละเลยความเป็นแม่ขนาดนี้เลยเหรอ เธอทิ้งทุกอย่างและก้าวเดินตรงไปหาลูกชายวัยสองขวบที่นั่งทานข้าวบนโต๊ะอาหารสำหรับเด็ก พี่เลี้ยงที่ป้อนข้าวอยู่นั้นขยับออก"คุณผู้หญิง" หลินหลินพยักหน้าให้กับพี่เลี้ยงและรับถ้วยข้าวมา เพื่อที่จะป้อนข้าวลูกชายเองเด็กชายตัวเล็กวัยสองขวบกำลังหัดพูดยิ้มหวานให้ผู้เป็นแม่ด้วยความเป็นเด็กดีใจมากที่แม่ของตัวเองนั้นมาหา"หม่ามี๊ รักมี๊ คิดถึง" ในดวงตาคู่น้อยน้ำตาเอ่อล้นหลินหลินละเลยความเป็นแม่ให้แต่พี่เลี้ยงดูแลจนตัวเองนั้นไม่เคยได้เข้าใกล้ลูก เมื่อได้ฟังคำพูดของลูกบอกว่าคิดถึงมันรู้สึกจุกอกและพูดอะไรไม่ออกนอกจากน้ำตาที่ไหลออกมา"ฮึ๊บ มี๊ก็คิดถึงลูกมากๆ เลยนะ รู้ไหมมี๊จะไม่ไปไหน วันนี้หม่ามี๊จะอยู่ดูแลน้องณธีและเล่นกับน้องณธีนะลูก" มือของหลินหลินสั่นมากเธอยกมือลูบหัวของลูกชายและยิ้มทั้งน้ำตาเด็กชายตัวเล็กยิ้มหวานให้กับผู้เป็นแม่และจับมือตอบ"รักมี๊สุดๆ" ถ้วยข้าวในมือนั้นปกติแล้วพี่เลี้ยงบอกว่าน
บทที่ 8ในตอนที่ธารามนอนอยู่นั้นเขาได้ยินเสียงประตูมีคนมาเคาะและเรียกเสียงดังซึ่งธารามนอนในห้องทำงานตัวเองด้านล่างโดยที่หนีหลินหลินมานอนโซฟาในห้องทำงาน เขาลุกขึ้นจากโซฟาด้วยความหงุดหงิดแต่พอเปิดประตูออกมาเห็นนิตาเขาจึงปรับเปลี่ยนสีหน้าทันทีในตอนดึกขนาดนี้แล้วทำไมนิตาถึงยังไม่นอน"นิตามีอะไรหรือเปล่า ทำไมถึงยังไม่นอนนี่มันดึกมากแล้วนะ" ธารามก้มมองนาฬิกาที่แขนของตัวเองและเอ่ยถามหญิงสาวตรงหน้าเธอยืนนิ่งถือโทรศัพท์เอาไว้ใบหน้าสวยนั้นดูใสซื่อ"คุณธารามคะ คือนิตาไม่รู้ว่าจะบอกคุณดีหรือเปล่า แต่มันคงไม่ดีแน่ๆ เพราะจะทำให้สามีภรรยานั้นเกลียดกัน นิตากลับห้องดีกว่าค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ" นิตาเดินหันหลังกลับเหมือนสำนึกผิดที่เขาทั้งสองคนจะทะเลาะกัน แต่จริงๆ แล้วในใจของเธอรอวันที่เขาหย่ากันต่างหากเมื่อนิตาหันหลังธารามจึงคว้าจับแขนของนิตาเอาไว้ดึงให้หันกลับ"มีอะไรนิตามาเคาะประตูเรียกผมแล้วอยู่ๆ ก็กลับไปจะปล่อยให้ผมค้างคาใจหรือยังไง เกิดอะไรขึ้น" สายตาของธารามจ้องมองนิตาที่ดูกล้าๆ กลัวๆ ไม่กล้าที่จะบอก เขาขมวดคิ้วเพ่งมองไปยังใบหน้าน้อยเอ่ยถามย้ำอีกครั้งจนนิตายื่นโทรศั
บทที่ 7 คนตัวโตสวมใส่ชุดกาวน์หมอสีขาวนั่งเก้าอี้ด้านข้างของเตียงกุมมือของหญิงสาวที่ตนเองนั้นรักตั้งแต่ตอนเรียน ใบหน้าน้อยซีดเซียวจนดูน่ากลัวเขาช่วยให้เธอพ้นขีดอันตรายแต่ยังคงมีไข้อ่อนๆ "หลินหลินทำไมเธอถึงตกอยู่ในสภาพนั้น" เปลือกตาน้อยค่อยๆ ลืมตื่นขึ้นยังคงหวาดผวากับเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นกับตัวเองก่อนหน้านี้จนกลายเป็นเสียงละเมอร้องไห้ "หลินหลินเธอกำลังฝันร้าย" เรือนร่างบางลืมตาตื่นขึ้นตกใจผวากอดคนตรงหน้าด้วยความกลัว เมื่อเธอรู้ว่าตัวเองนั้นพ้นจากอันตรายยิ่งทำให้เธอร้องไห้หนัก"หมอคิม ฮื่อๆ" มือหนาของคนตัวโตนั้นลูบหัวของร่างบางเบาๆ และโอบกอดกระชับแน่น"ไม่เป็นอะไรแล้วนะ ไม่มีใครทำอะไรเธอแล้วค่อยๆ สูดลมหายใจเข้าและปล่อยออกตั้งสตินะหลินหลิน" หมอคิมจับไหล่ของหลินหลินทั้งสองข้างบอกให้เธอนั้นตั้งสติ คนตัวเล็กได้เพียงแต่ยกมือเช็ดน้ำตาตัวเองรู้สึกเจ็บที่หน้าอกแปลกๆ "เป็นอะไรเจ็บหน้าอกเหรอค่อยๆ สูดลมหายใจเข้าแล้วก็ปล่อยออกดูนะ นี่น้ำ" หมอคิมรีบคว้าหยิบแก้วน้ำมาให้กับหลินหลินดื่ม"หลินอยากกลับบ้านค่ะ" หมอคิมส่ายหน้าไปมาปฏิเสธในสิ่งที่หลินหลินต้องการ เธอต้องให้น้ำเกลืออยู่ที่โรงพยาบาลเพร
บทที่ 6เรือนร่างบางไร้สติบนเตียงโดยคนตัวโตอาบน้ำชำระร่างกายอยู่ในห้องน้ำ ล้างทำความสะอาดเพื่อที่จะมีความสุขกับคนที่ตัวเองนั้นเอามาใบหน้าน้อยที่หลับตาเริ่มขยับขมวดคิ้วเข้าหากัน เธอยกมือตบตรงช่วงศีรษะเบาๆ เพราะรู้สึกปวดหัวแต่พอลืมตาตื่นขึ้นพบว่าที่ตัวเองอยู่นั้นไม่คุ้นเคยมาก่อนและไม่ใช่ห้องของตัวเองอย่างแน่นอน เธอจึงดีดตัวเองลุกขึ้นนั่งและในช่วงขณะเดียวกันประตูห้องน้ำเปิดออกมา ด้วยที่มีผู้ชายตัวโตเดินออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูผืนเดียวพันเอวหลินหลินจ้องมองชายคนนั้นด้วยใบหน้าที่สงสัยจนคิ้วขมวดเข้าหากันแต่ยังคงประคองจับใบหน้าไว้เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ยังคงหลงเหลืออยู่"ตื่นแล้วเหรอ ดีตื่นแล้วจะได้ไม่เสียเวลาฉันกระแทกจะได้ครางดังๆ" อยู่ๆ ผู้ชายคนนั้นพุ่งตัวเข้ามาหาแล้วจับแขนของเธอกดลงลำตัวน้อยไม่สามารถสู้แรงของคนตัวโตได้"ปล่อยฉันนะ ปล่อยฉันนายเป็นใคร" ใบหน้าเขาที่อยู่ในระยะใกล้ชิดยกยิ้มด้วยความเจ้าเล่ห์นั่งกดทับหน้าท้องของหลินหลินเอาไว้มือทั้งสองข้างกดลงไม่ให้ขยับหนี"ฮ่าๆ จำแฟนเก่าอย่างฉันไม่ได้เหรอ" ไม่แปลกที่หลินหลินสงสัยและคลับคล้ายคลับ