ชายหนุ่มที่ทำเป็นเข้มแข็งเดินออกมาจากห้องได้ไม่กี่ก้าวก็เข่าทรุด นั่งร้องไห้อยู่ตรงทางเดินอย่างไม่อายใคร ในเมื่อเขาจะไม่มาที่นี่อีกแล้วก็ไม่ต้องสนใจสายตาของคนอื่น
พาลินสะอื้นไห้จนตัวโยน น้ำตาไหลพรากราวเขื่อนแตก ไม่คิดมาก่อนว่าตัวเองจะมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ โดนคนที่เป็นทุกอย่างในชีวิตหักหลังอย่างไม่น่าให้อภัย
ทั้งเสียใจ เสียดายเวลาและเสียดายความรู้สึกดีๆ ที่มีให้มาตลอด พาลินไม่คิดมาก่อนเลยว่าความรักของตัวเองจะจบลงอย่าง
เขาและกันต์ธีร์รู้จักกันมาปีกว่าจากนั้นก็ตกลงคบกันได้หกเดือน รวมเวลาทั้งหมดก็เกือบจะสองปีที่ได้รู้จักกัน พาลินคิดว่าตัวเองรู้จักคนรักของตัวเองดีแล้วถึงทุ่มเททั้งกายและใจให้ไปจนหมด ตั้งแต่คบกันเขาก็มีแต่กันต์ธีร์คนเดียวมาตลอด มีนาและพราวรุ้งเพื่อนสนิททั้งสองก็เคยบอกว่าให้เผื่อใจไว้บ้าง แต่เพราะตลอดเวลาที่คบกันชายหนุ่มทำตัวดีมาตลอด พาลินจึงไม่เคยคิดเผื่อใจเลย
แล้วอย่างนี้จะโทษใครได้ ต้องโทษตัวเองที่คิดว่าความรักจะรั้งให้เขาอยู่กับตัวเองได้ โทษตัวเองที่หัวอ่อนจนเกินไป เขาเป็นคนรักคนแรกของพาลิน รักแรกที่พังลงตรงหน้าในเวลาไม่ถึงปี
ยิ่งคิดก็ยิ่งเสียใจ พาลินไม่มีแรงจะลุกยืนด้วยซ้ำ ใบหน้าที่ก้มอยู่กับเข่าเต็มไปด้วยคราบน้ำตา
“คุณครับ เป็นอะไรหรือเปล่า” เสียงทุ้มถามขึ้นเมื่อออกจากลิฟต์แล้วเห็นว่ามีใครคนหนึ่งก้มหน้ากอดเข่าตัวสั่นอยู่ตรงทางเดิน
“ขอโทษที่รบกวนครับ” พาลินตอบ เขารีบเช็ดคราบน้ำตาด้วยแขนเสื้อก่อนจะเงยหน้าขึ้น
“พาลิน”
ดลธรรมตกใจที่เห็นพาลินในสภาพแบบนี้ พาลินที่เคยสดใสร่าเริง แต่ยามนี้ดวงตาของเขาแดงก่ำใบหน้าเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา ดูก็รู้ว่าคงร้องไห้อย่างหนัก
“พี่โดม” เสียงเรียกแผ่วเบานั้นทำให้หัวใจของดลธรรมอ่อนยวบเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนตรงหน้า เขาไม่อยากเห็นพาลินเป็นแบบนี้
“พาลินครับ ลุกขึ้นก่อน เป็นอะไร ใครทำอะไร บอกพี่ได้ไหม”
“พี่โดม” นอกจากจะไม่ตอบแล้วพาลินยังโถมตัวเข้ามากอดเขาแน่นและร้องไห้อย่างหนักขึ้นมาอีกครั้ง
“ไปคุยกันในห้องพี่นะครับ” เขาพยายามนุ่มนวลกับพาลินมากที่สุด รู้ว่ายามนี้น้องกำลังเสียใจ รู้ว่าถ้าเสียงดังไปคนอื่นอาจจะเข้าใจผิดและจะทำให้คนที่ร้องอยู่ในอ้อมกอดตกใจ
ดลธรรมให้พาลินนั่งบนโซฟาในห้องรับแขกแล้วดึงคนที่กำลังร้องไห้ราวกับคนเสียสติมากอดอีกครั้ง
ชายหนุ่มไม่ได้ถามหรือพูดอะไร เขาแค่กอดและลูบไปบนศีรษะทุยและแผ่นหลังอย่างปลอบประโลม
พาลินยังคงร้องไห้สะอึกสะอื้น ยิ่งเห็นดลธรรมก็ยิ่งสงสาร ถ้าหากเขารู้ว่าใครทำให้พาลินเป็นแบบนี้เขาจะทำให้มันเจ็บกว่าที่พาลินเป็นอยู่ร้อยเท่า
“พาลินครับ พาลิน” เมื่อเห็นว่าอีกคนเงียบไปนาน เจ้าของห้องก็เรียกเบาๆ แต่ดูเหมือนคนที่ร้องไห้มาอย่างหนักจะหมดแรงและหลับลงไปแล้ว
เขาไม่ใจร้ายพอที่จะทิ้งให้พาลินนอนในห้องรับแขกคนเดียว ถึงแม้คอนโดจะมีห้องนอนสองห้องแต่อีกห้องก็ยังไม่ได้ทำความสะอาด จะพาไปนอนห้องตัวเองก็กลัวอีกคนตื่นมาแล้วจะตกใจ
ดลธรรมเลยตัดสินใจให้พาลินนอนอยู่ที่เดิม ส่วนเขาก็ไปเอาหมอนและผ้าห่มออกมานอนเป็นเพื่อน ชายหนุ่มเปิดไฟตรงส่วนครัวไว้พอให้ได้แสงสว่าง เขานั่งมองหน้าพาลินจนเผลอหลับอยู่บนโซฟาอีกตัว
พาลินหลับยาวจนถึงเช้า พอตื่นมาก็ตกใจเพราะตอนนี้ตัวเองนอนอยู่บนโซฟา ส่วนเจ้าของห้องที่จำได้ว่าเป็นคนพาเข้ามานั้นกำลังนั่งหลับอยู่บนโซฟาอีกตัวที่อยู่ไม่ไกลมาก
“พี่โดมครับ พี่โดม”
“หือ ตื่นแล้วเหรอ” คนตอบงัวเงียเพราะเพิ่งได้นอนไปไม่กี่ชั่วโมง
“ขอโทษนะครับที่รบกวน”
“ไม่เป็นไร ว่าแต่จะเล่าให้ฟังได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่ได้บังครับ ถ้าไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไร”
“ครับ”
พาลินไม่รู้จะเล่าดีหรือเปล่าเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวและมันก็ไม่ใช่เรื่องของเขาเพียงคนเดียว
“ครับ นี้คือเล่าหรือไม่เล่า”
“ก็แค่อกหักครับ”
“อกหัก ใครมันใจร้ายมาหักอกเราได้”
“ก็แค่คนใจร้ายครับ”
“เมื่อคืนยังร้องไห้จะเป็นจะตาย ทำไมตื่นเช้ามาเข้มแข็งขึ้นซะงั้น”
“ร้องให้ตายมันก็ไม่กลับไปเป็นเหมือนเดิมครับ” พาลินแกล้งทำใจแข็งแต่ข้างในยังคงน้ำตาตก
“ถ้าเขามาง้อ มาขอคืนดี” ดลธรรมหยั่งเชิง
“ถึงผมจะโง่ก็แค่ครั้งเดียวครับ ไม่มีโง่ซ้ำสองแน่”
“ก็ดี เห็นเราเป็นแบบนี้พี่ก็สบายใจ บอกตามตรงนะเมื่อคืนพี่ตกใจมากเลยไม่เคยเห็นเราเป็นแบบนี้มาก่อน”
“ขอบคุณนะครับ ที่พาเข้ามาในห้อง ตอนนั้นผมไม่ไหวจริงๆ ครับ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก”
“ตอนนี้โอเคแล้วใช่ไหมครับ” เขาจ้องหน้าจนพาลินต้องรีบหลบสายตา
“คิดว่าโอเคในระดับหนึ่งครับ”
“คงไม่มีใครตัดใจได้ภายในคืนเดียวหรอก ว่าแต่คนนี้รักมากเลยใช่ไหม”
“ครับ รักแรกของผม”
“เคยได้ยินไหมเขาบอกว่ารักแรกมักไม่สมหวัง แต่มันจะเป็นประสบการณ์ให้เรามีสติมากขึ้นในรักครั้งต่อไป”
“ไม่มีครั้งต่อไปแล้วครับ”
“หมายถึงอะไรไม่มีครั้งต่อไป”
“เข็ดแล้วครับไม่เอาแล้ว” พาลินส่ายหัวจนผมกระเจิง
“เฮ้ย อย่าปิดกันตัวเองแบบนั้นสิลิน” ก็ถ้าพาลินคิดแบบนั้นเขาจะจีบพาลินได้ยังไง
“ไม่ได้ปิดกั้นครับ แค่ไม่อยากมีความรักอีกแล้ว”
“ถ้ามีคนใหม่เข้ามาจะไม่ให้โอกาสเขาเลยเหรอ”
“คงไม่ใช่เร็วๆ นี้ครับ แผลเก่าเพิ่งเกิดยังไม่อยากสร้างแผลใหม่ครับ”
“อ้อ นึกว่าจะไม่มีไปตลอด”
“ไม่ซีเรียสครับ ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไรอยู่คนเดียวก็สบายดีออก”
“นั้นสิ พี่ก็ว่างั้นแหละ” เขาทำเป็นเห็นด้วยไปก่อน
“พี่ก็คิดเหมือนผมใช่ไหมล่ะ” พาลินหาพวก
“อือ ก็คงงั้น ว่าแต่ถ้ามีคนอื่นมาจีบก็ลองให้โอกาสเขาบ้าง เขาไม่ได้ผิดอะไรนะ อย่าเอาความรักครั้งแรกมาตัดสินความรักครั้งต่อไป”
“ขอบคุณครับ พี่โดมเป็นที่ปรึกษาที่ดีของผมเลย”
“พี่ยินดีให้เราปรึกษาตลอด ว่าแต่ตอนนี้ไปล้างหน้าหน่อยดีไหมจะได้ลงไปหาอะไรกินกัน”
“ผมขอให้ห้องน้ำหน่อยได้ไหม”
“ตามมาสิ”
ดลธรรมพาชายหนุ่มเข้ามาในห้อง ส่งผ้าเช็ดตัวผืนเล็กให้
“ใช้เสร็จโยนลงตะกร้าเลยนะ”
เขาอยากให้ความเป็นส่วนตัวกับพาลินเลยออกไปใช้ห้องน้ำอีกห้องที่อยู่ด้านนอก
ปกติแล้วดลธรรมไม่เคยให้ใครมาที่คอนโดของเขาเพราะถือเป็นพื้นที่ส่วนตัว แม้กระทั่งเพื่อนสนิท เขาก็นัดเจอแค่ด้านล่างเท่านั้น
แต่เพราะเมื่อคืนเป็นเหตุสุดวิสัยพาลินเลยเป็นคนแรกที่ได้ขึ้นมาบนห้องของเขา ดลธรรมก็คิดว่าเมื่อมีครั้งแรกแล้วก็อยากให้มีครั้งต่อไป เขาอยากให้พาลินรู้จักเขาให้มากขึ้น ไว้ใจเขาและปรึกษาเขาทุกเรื่อง
ชายหนุ่มอยากเข้าไปในชีวิตของพาลินอย่างช้าๆ ไม่อยากอีกคนรู้สึกอึดอัดเพราะรู้ว่าเพิ่งผ่านเรื่องเลวร้ายมา
ถึงแม้จะไม่รู้รายละเอียดมากแต่คิดว่าเรื่องราวคงหนักหนาเอาการ คนที่ร่าเริงและมองโลกในแง่ดีถึงได้เสียอาการขนาดนี้
ดลธรรมและพาลินมาทานอาหารเช้าที่ร้านหน้าคอนโดก่อนจะไปส่งชายหนุ่มที่หอพัก
“อยู่คนเดียวได้แน่นะ”
“ครับ”
“ให้พี่อยู่เป็นเพื่อนไหม”
“ไม่เป็นไรครับ พี่โดมไม่ต้องห่วงเรื่องเมื่อวานก็คืออดีตครับ”
“พี่ดีใจที่เห็นเราเข้มแข็งแบบนี้ มีอะไรให้ช่วยก็บอกได้นะ”
“ขอบคุณครับที่มาส่งและอยู่เป็นเพื่อนผมทั้งคืน พี่ก็ควรกลับไปพักผ่อนครับ”
“อือ ไปนะ อย่าลืมนะ มีอะไรให้โทรหาพี่”
“ครับ ไม่ลืมครับ”
พาลินลงจากรถแล้วเดินเข้าไปซอย พอถึงหอพักก็โบกมือให้ดลธรรม พอเห็นเขาขับรถออกไปก็เดินขึ้นไปบนหอพัก
สัมผัสที่เร่าร้อนของเรียวปากหยักจูบแลกลิ้นกันอยู่อย่างนั้น พาลินหลงใหลไปกับรสจูบที่คนรักมอบให้ สองมือดันผนังห้องน้ำเอี้ยวคอมาจูบ สะโพกกลมขาวกดแนบชิดกับท่อนเอ็นร้อนเสียงคนพี่ครางในลำคอ เขาอยากกลืนกินคนช่างยั่วตั้งแต่เห็นรูปที่ส่งไปให้ ดลธรรมไม่ลังเลเลยที่จะรีบขับรถกลับมาที่คอนโด แล้วเขาก็ไม่ผิดหวังเมื่อรู้ว่าพาลินกับเขาต่างมีความต้องการเหมือนกัน“พาลินยั่วพี่เองนะครับ”“ถ้าน้องยั่วแล้วพี่ไม่อยากพี่จะกลับมาเหรอ”“นั่นยั่วอีกแล้ว”“น้องยั่วแล้วพี่อยากไหม”“ไม่ยั่วก็อยากครับ ยันผนังไว้นะครับพี่จะลงโทษคนยั่วแล้ว”ดลธรรมจูบไซร้ไปตามท้ายทอยและซอกคอ กัดติ่งหูคนด้านหน้าเบาๆ เพราะเป็นจุดอ่อน แค่นั้นพาลินก็ร้อนวูบวาบไปทั่วทั้งตัวฝ่ามือร้อนไล้ไปทั้งแผงอกบีบคลึงเบาๆ บนยอดสีสวย สะโพกก็กดลงไปยังบั้นท้าย เสียงหวานครางแผ่วเบา สะโพกแอ่นโค้งเด่นคนตัวโตกดครีมอาบน้ำสูตรอ่อนโยนลงบนปลายนิ้วกลางจากนั้นลากไปตามช่องทางสีสวยกดลงไปช้าๆ ค่อยเพิ่มจำนวนนิ้วเป็นสองและสาม พาลินครางสะท้านรู้สึกถึงความคับแน่นที่กำลังนวดผนังด้านใน“อื้อ...พี่”เขาสะดุ้งเมื่อจุดอ่อนไหวด้านในถูกกระตุ้นเพียงแค่นั้นตัวตนของเขาก็ปวดหนึบ ม
หลังจากตรวจเสร็จและรับยาแล้วรถกระบะคันเดิมก็มาส่งดลธรรมและพาลินที่สนามบิน“พี่หน้าผมยังมีผื่นอยู่ไหม”“ยังมีอีกนิดหน่อย ใส่มาสก์ไปก่อน”“หมอบอกว่าเดี๋ยวมันก็หายไงครับ”“มันต้องใช้เวลาไง เดี๋ยวกลับถึงกรุงเทพถ้าผื่นยังไม่ยุบลงพี่จะพาไปหาหมออีกรอบ”“ไม่เอาแล้วไม่หาแล้ว ไปอีกก็โดนฉีดยาอีก”พาลินทานยาแก้แพ้ตั้งแต่อยู่บนเขาแต่พอมาถึงโรงพยาบาลผื่นก็ยังไม่หายและดูเหมือนจะขึ้นมากกว่าเดิมหมอเลยต้องฉีดยาเพราะมันได้ผลเร็วกว่า รวมถึงให้ยาทาแก้คันมาด้วยตอนนี้พาลินเลยสีชมพูไปทั้งตัว ยังดีที่เขามีเสื้อคลุมแขนยาวเลยไม่ค่อยอายคนเท่าไหร่แต่ที่ต้องอายก็คงจะเป็นคนที่นั่งอยู่ข้างเพราะเขาเป็นคนทายาให้กับตนเองทั้งตัว“ยามันง่วงเดี๋ยวขึ้นเครื่องเราจะหลับเลยก็ได้ ถึงแล้วพี่จะปลุกเอง”“บินนานไหมครับ” เพราะขามาเขานั่งรถมาเพื่อนๆ เลยไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่“ไม่นานครับ ประมาณชั่วโมงหนึ่งครับ หลับแป๊บเดียวก็ถึงกรุงเทพแล้ว”“ผมหวังว่าถึงกรุงเทพแล้วผมจะหายนะ”“แต่พี่ว่าอย่าเพิ่งหายเลย ชมพูไปทั้งตัวแบบนี้ก็น่ารักดี”“ไม่ตลกนะครับพี่ มันคันไปทั้งตัวเลย”“อดทนอีกนิดนะครับ ถึงคอนโดจะเอาน้ำเย็นเช็ดให้”พอขึ้นเครื่อง
ดลธรรมไม่อยากให้พาลินพลาดการเข้าค่ายอาสาซึ่งเป็นกิจกรรมที่ชายหนุ่มทำมาทุกปีตั้งแต่เข้าเรียนมหาวิทยาลัย และถ้าปีสุดท้ายมาได้เข้าร่วมคงจะเป็นอะไรที่น่าเสียดายมากถึงแม้จะทั้งหวงทั้งห่วงแต่เขาก็ไม่อยากพรากความทรงจำในวัยเรียนของคนรัก และนั่นก็คือเหตุผลที่ตอนนี้เขามานั่งอยู่ข้างคนขับรถกระบะสีประตูขับเคลื่อนสี่ล้อซึ่งกำลังมุ่งหน้าไปยังจุดที่นักศึกษามาออกค่ายเดิมทีก็ตกลงจะมาด้วยกัน แต่เพราะเขามีงานที่ยังเคลียร์ไม่เรียบร้อยจึงต้องยอมปล่อยให้คนน้องมาเข้าค่ายกับเพื่อนพาลินงอนนิดหน่อยที่เขาไม่ทำตามที่พูด แต่ก็ตัดสินใจมากับเพื่อน เพราะอยากใช้ชีวิตในช่วงเรียนมหาวิทยาลัยให้คุ้มค่าที่สุด ส่วนตัวเขาก็รีบเคลียร์งานแล้วตามมาทีหลังโดยไม่ได้บอกพาลินแค่สองสามที่ต้องนอนอยู่คนเดียวเขาก็ทรมานเกินไปแล้ว“อันที่จริงมันก็ไม่ไกลหรอกนะครับ แต่ทางมันค่อนข้างลำบากมันเลยดูเหมือนไกล” เสียงคนขับรถกระบะทำให้เขาหลุดออกจากภวังค์“ครับ”ดลธรรมให้ลูกน้องที่บริษัทซึ่งบังเอิญเป็นคนพื้นที่ช่วยติดต่อเช่ารถพร้อมคนขับไปส่งที่หมู่บ้านบนเขาชายหนุ่มนั่งเครื่องมาลงที่สนามบินพิษณุโลกตั้งแต่เช้าจากนั้นก็ให้คนขับรถพาไปซื้อไก่ทอด โด
ดลธรรมและพาลินย้ายกลับมาอยู่ที่คอนโดเพราะอยากให้มารดาได้ทำความรู้จักและปรับตัวกับเบจิงได้มากขึ้นแต่เขากับพาลินก็ยังแวะไปทานอาหารเย็นด้วยอยู่บ่อยๆ ดูเหมือนว่าเบจิงจะเข้ากันได้ดีกับคุณยายของตนเองแม้พาลินจะมีรถเป็นของตัวเองแล้ว แต่ดลธรรมก็ยังมารับส่งที่มหาวิทยาลัยเป็นบางวัน“พี่โดม ขอโทษทีครับคุยกับเพื่อนนานไปหน่อย”“ไม่เป็นไร แล้วตกลงเอาไงเราจะไปค่ายกับเพื่อนไหม” ช่วงวันหยุดยาวติดกันชมรมค่ายอาสาจะพากันไปออกค่ายที่พิษณุโลก“กำลังตัดสินใจอยู่ครับ”“ทำไมดูตัดสินใจยากจัง แต่ก่อนเห็นตื่นเต้นจะไป”“ก็ตอนนั้นยังไม่มีแฟน ตอนนี้มีแฟนแล้วติดแฟนครับ”“ฟังคำตอบแล้วชื่นใจจัง”“ถ้าผมไปพี่จะคิดถึงผมไหม”“ถ้าเราไปพี่ก็ไปด้วยครับ ไม่อยากนอนคนเดียว”“ถ้าผมไม่ไปก็เหมือนจะเอาเปรียบคนอื่นอยู่ที่ไม่ช่วยออกแรงอะไรเลย”“แต่พี่ก็ช่วยเรื่องคอมไปตั้ง 10 ชุดแล้วนะครับ”“นั้นมันส่วนของพี่ แต่ผมไม่ได้ทำอะไรเลย”“ถ้าอยากรู้สึกมีส่วนร่วมกับคอมห้าชุดนั่นก็แค่..”“แค่อะไรครับ” พาลินหันมามองคนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัย พอเห็นหน้าเขาก็เดาออกทันทีว่าตอนนี้สิ่งที่คนพี่ต้องการคืออะไร เพียงแค่คิดพาลินก็หน้าแดงขึ้นมาทันที“นานเ
คุณแพรเพ็ญและจอห์นสามีใหม่บินกลับมาทันทีหลังจากดลธรรมโทรไปบอกว่าย่าของเบจิงจะพาเบจิงไปอยู่ด้วยเธอเสียลูกสาวไปคนหนึ่งแล้วจึงไม่อยากจะเสียหลานชายไปอีกคน เพราะรู้ว่าที่ฝ่ายนั้นอยากพาเบจิงไปก็เพื่อต่อรองกับดลธรรมให้รับผิดชอบเด็กในท้องของปณิชญาเท่านั้น“คุณยายครับ ตาจอห์นบอกว่าที่บ้านตามีหิมะด้วยจริงไหมครับ”“จริงสิ เบจิงอยากไปดูหิมะไหม”“อยากไปครับ แต่เบจิงต้องไปโรงเรียนคงไปกับคุณยายไม่ได้”“ที่นั่นก็มีโรงเรียนครับ เดี๋ยวยายจะให้เบจิงดูนะครับว่าโรงเรียนที่นั่นเป็นยังไงบ้าง อยากดูไหมครับ”“อยากดูครับ พี่ลินมาดูด้วยกันไหม” เบจิงเรียกพาลินที่กำลังเดินถือผลไม้จานใหญ่ให้มาดูด้วยกันอีกคนแพรเพ็ญเปิดคลิปแนะนำโรงเรียนประถมในประเทศออสเตรียให้กับหลานชายดู เพราะเธอกับสามีคุยกันแล้วว่าจะรับเบจิงไปอยู่ที่นั่นในฐานะลูกชายของทั้งสองคนดลธรรมก็เห็นด้วยกันมารดาเพราะอยากให้เบจิงมีอนาคตที่ดี ลำพังเขากับพาลินคนดูแลเด็กชายได้ไม่ดีพอแต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับเบจิงว่าอยากจะย้ายไปอยู่ที่นั่นไหม ตอนนี้ทั้งมาลีและป้าสายก็เริ่มฝึกภาษาอังกฤษกับจอห์นเพราะแพรเพ็ญอยากให้สองนั้นย้ายไปอยู่ด้วยกันทุกคนที่นี่เตรียมวางแผนก
สามเดือนแล้วที่แพรรดาจากไปและเบจิงอยู่กับดลธรรมและพาลินในบ้านหลังใหญ่ ชีวิตของเด็กชายกลับมาสดใสอีกครั้ง เสียงหัวเราะดังออกมานอกบ้านจนคนที่เพิ่งมาถึงยิ้มอย่างพอใจ“สวัสดีครับคุณย่า” เบจิงยกมือทักทายผู้เป็นย่าที่เจอกันครั้งสุดท้ายในงานศพของผู้เป็นมารดา“น้าชายเราไปอยู่ไหนแล้วล่ะ”“มีธุระอะไรกับผมเหรอครับแม่” ดลธรรมยังเรียกเธอว่าแม่อย่างเดิมเพราะอยากให้เกียรติในฐานะที่เธอเป็นย่าของเบจิงเขาค่อนข้างแปลกใจที่คุณปราณีมาหาถึงที่บ้าน เพราะตลอดหลายเดือนมานี้ท่านไม่เคยแวะมาที่นี่เลยสักครั้ง“แม่เรากลับไปแล้วใช่ไหม” คุณปราณีถามถึงแพรเพ็ญ“เพิ่งบินกลับไปสองวันก่อนมีธุระอะไรกับท่านหรือเปล่าครับ”“เปล่า แม่แค่อยากคุยกับโดมสักหน่อย”“ได้ครับ เบจิงไปหาพี่ลินก่อนนะครับน้าขอไปคุยธุระกับคุณย่าก่อน”“ครับน้าโดม”ชายหนุ่มพาคุณปราณีมายังห้องทำงานของตนเองที่ครั้งหนึ่งมันเคยเป็นของพี่สาวและพี่เขย“โดม แม่จะคุยกับเราเรื่องเบจิง”“มีอะไรเหรอครับ“แม่จะพาเบจิงไปอยู่ด้วย”“แต่เบจิงอยู่กับผมก็มีความสุขดี แม่ก็เห็นว่าเขากลับมาร่าเริงแล้ว”“แต่แม่อยากให้หลานไปอยู่กับแม่”“ผมว่าแม่ไม่มีสิทธิ์จะทำแบบนั้นนะครับ“มีสิ