“ถ้ากูหลุดเข้าไปในนิยายเกย์ของยัยฝน มีหวังชักตายแน่!” ภีม เด็กหนุ่มมัธยมปลายผู้จริงจังกับชีวิต เตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยอย่างมุ่งมั่น แต่ดันมีเพื่อนสนิทเป็นสาววายตัวแม่ที่วันไหนไม่ได้พูดถึงโอเมก้ากับอัลฟ่าคือวันนั้นโลกคงหยุดหมุน วันหนึ่ง หลังเรียนพิเศษ ฝนปวดท้องจนฝากนิยายวายเล่มโปรดไว้กับเขาโดยไม่ทันได้คิด... และแน่นอน ความซวยก็บังเกิด คืนเดียวกัน ภีมดันหลุดเข้าไปอยู่ในโลกนิยายวายที่ฝนคลั่งรัก! ไม่พอ—เขายังกลายเป็น "วิคเตอร์ เฮด" ตัวประกอบอัลฟ่าที่มีชะตากรรมต้องตายอย่างอนาถในตอนต้นเรื่อง ...ศัตรูหัวใจของพระเอกผู้คลั่งรัก! มีแมวดำพูดได้มาคอยชี้โพรง มีระบบนิยายสุดกาว และเนื้อเรื่องที่ควรจะดำเนินไปตามบทกลับค่อยๆ วนเบี้ยว เพราะ “ธีโอ ล็อกวู้ด” พระเอกผู้เย็นชา กลับจ้องเขาเขม็งเหมือนจะกินหัว ไม่สิ... จะกินอย่างอื่นมากกว่า!? เมื่อภีมต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดในโลกที่ทุกคนหล่อ รวย กล้ามแน่น และคลั่งรักกันเป็นว่าเล่น ภารกิจไม่ตายซ้ำรอบสองจะยังพอไหวอยู่มั้ย ถ้าหัวใจเขากำลังจะพังเพราะ...พระเอกนิยายนั่น!?
View More“มึงลองอ่านตรงนี้! โอ๊ย อีพี่ธีโอแม่งโคตรนุ่มนวล แต่แซ่บแบบคิง! นี่ถ้านายเอกไม่เอา เดี๋ยวกูขอรับไว้เอง!” เสียงสาววายตัวแม่อย่าง ฝน ดังลั่นโต๊ะหลังเลิกเรียนพิเศษ
ภีมถอนหายใจ แล้วเลื่อนข้าวกล่องในมือหนีเพื่อนสาวตัวดีที่กำลังฟาดข้าวเข้าปาก กับเสพวายไปพร้อมกัน “ทุกวันนี้กูไม่รู้แล้วว่ามึงรักคนในนิยายมากกว่ากูรึเปล่า” “แน่นอนว่ามากกว่าดิ! แต่กูรักมึงแบบเพื่อนนะเว้ย อิภีมมม” เธอยิ้มหวานเหวี่ยงพลาสติกห่อหนังสือเล่มหนาไปให้ “นี่ อ่านซะ! นิยายวายเปลี่ยนชีวิต กูคอนเฟิร์ม!” “กูชอบผู้หญิง...” “ก็ในโลกความจริงไง! แต่นี่โลกนิยาย! เปิดใจดิภีม! เปิดใจ!” " เปิดใจมันได้ แต่พระเอกของมึงแม่งชอบคนง่ายเกิ๊นน เห็นน้ำตาเขาก็รักแล้วซะงั้น " ภีมถอนหายใจ " แล้วถ้าแบบนี้พระเอกมันเจอคนอื่นก่อนนายเอกมันจะไม่ชอบคนอื่นก่อนหรอ" ฝนทำหน้าตาเจ้าเล่ห์ " แหม~ แสดงว่าแอบมาอ่านแล้วอะดิ~ ใช่ม่ะๆ" " กูแค่ไปเจอสปอย! อย่ามาจิ้มดิ๊ " เขาทะหลึ่งตาใส่เพื่อนสาว ที่ทะเล้นจิ้มแขนเขาไม่เลิก " แอบเป็นหนุ่มวายก็บอก~ " ภีมที่ทำท่าจะเถียงกลับเพื่อนตัวดีที่ทำหน้าตากวนบาทาไม่เลิก แต่จู่ๆ ฝนก็เอามือกุมท้องแล้วตัวงอ “โอ๊ย... กูว่าข้าศึกแม่งบุกถึงประตูเมืองแล้ววะ! มึงช่วยถือหนังสือให้ก่อนนะ กูไปห้องน้ำแปบ—!” ยังไม่ทันได้ปฏิเสธ ฝนก็หายวับไปในอากาศเหมือนตัวละครที่วิ่งไปไกลสุดขอบโลก ราวกับจะอั้นไม่ไหวแล้ว เหลือภีมกับหนังสือนิยายวายเล่มหนา และโต๊ะของห้องเรียนพิเศษที่ภายในนี้เงียบเชียบ เนื่องจากนักเรียนที่เหลือพากันกลับหมดูแล้ว มีเพียงเสียงพัดลมดังครืด กับความเบื่อที่ไม่มีอะไรทำ เขาเปิดมือถือขึ้นกะจะเปิดเล่นฆ่าเวลา พอเลื่อนดูบนแอปฟ้า ก็ขึ้นแจ้งเตือนว่าคืนนี้จะมีฝนดาวตก ห้ามพลาด! เขาเลิกคิ้วแต่ก็กดเข้าไปอ่านในคอมเม้น " ว่ากันว่า ถ้าขอพรตอนที่ฝนดาวตกมา จะสมหวัง" แล้วเม้นนั้นก็ดันมียอดกดใจเกือบพันได้ แต่ในจังหวะที่กำลังจะไถ่อินเตอร์เน็ตต่อ ความซวยก็มาเยือน.. แบตหมด 0% “ชีวิตกูเหมือนจะตายง่ายเกินไปป่ะวะ...” เขาบ่นก่อนจะหยิบหนังสือของฝนขึ้นมา หน้าปกเป็นผู้ชายผมดำตาสีแดงเข้มสไตล์พระเอกเจ้าเล่ห์แววตายั่งกับจิ้งจอกที่หลอกคนอื่นให้มาติดกับ ยืนจ้องผู้ชายอีกคนที่หน้าเหมือนหวานละมุนตัวเล็กร่างบางราวกับถ้าแตะต้องแรงไปจะเกิดรอยได้ง่าย... “เชี่ย... มึงชอบอะไรแบบนี้จริงดิ?” เขาเปิดหน้าแรก อ่านแบบไม่หวังอะไรนัก แต่ยิ่งอ่านกลับยิ่งเกาหัวแรงขึ้นทุกบรรทัด —ธีโอ ล็อกวู้ด ค่อยๆ โน้มตัวลงมากระซิบข้างหูมาเอลด้วยเสียงทุ้มต่ำ “รู้มั้ยครับ ตอนคุณร้องไห้ ..มันสวยมากจน..ทำให้ผมตกหลุมรัก" ภีม “...เวร นี่กูเผลอเม้มปากตอนอ่านทำไมวะ” เขารีบละสายตาจากหนังสือ เหมือนกลัวตัวเองจะหลุดไปไกลกว่านี้ ก่อนจะสบถด้วยน้ำเสียงปนระอา “ถ้ากูหลุดเข้าไปในนิยายแบบนี้จริงๆ มีหวังชักตายตั้งแต่ฉากแรกแน่!” และนั่นคือคำพูดสุดท้าย...ก่อนฝนดาวตกจะพาดผ่านท้องฟ้า ซึ่งเหตุการณ์นี้จะทำให้โลกของภีมจะเปลี่ยนไปตลอดกาล “อิภีม!” “เหี้ยฝน!!” เสียงร้องหลงจากภีมดังลั่นห้องเรียน เมื่อ ฝน ที่หายไปนาน จนคิดว่าจะจมหายไปกับโถส้วมแล้ว เธอโผล่พรวดมาจากด้านหลังแล้วกระโดดเกาะหลังเต็มแรงแบบไม่ให้ภีมตั้งตัว เขาสะดุ้งโหยง รีบตะครุบหนังสือนิยายแล้วปิดปึ้ง! “อ้าววว~ สนุกล่ะสิ~ อ่านไปครึ่งเล่มแล้วมั้งน่ะ” ฝนยิ้มแซว เอียงคอมองเขาเหมือนจะจับโป๊ะ “ปะ เปล่า กูแค่เปิดดูว่าเขาเขียนยังไงเฉยๆ...” ภีมเบือนหน้าหลบ รีบลุกจากโต๊ะ “กลับกันเถอะ ฟ้ามืดแล้ว เดี๋ยวรถติด” ถึงปากจะบอกว่าไม่สนใจ แต่ใจมันยังแอบสั่นอยู่นิดๆ… ภาพฉากที่พระเอกไทป์จิ้งจอกนั้นหลอกลวงมาเอลไปบ้านตัวเอง..ก่อนที่จะ.... ไอ้ประโยค “ผมจะไม่ปล่อยคุณไปง่าย ๆ หรอกครับ” มันติดอยู่ในหัวอย่างกับติดบั๊ก ‘ชายแท้แบบกู... มึงจะอินทำไมวะ...’ ระหว่างทางกลับบ้าน ฝนยังคงแว้ดว้ายอะไรบางอย่าง แต่ภีมไม่ได้สนใจแล้ว แล้วจู่ๆด้วยความสงสัยนักเรียนชายตัวสูงเลยเอ่ยขึ้นมาดื้อๆ " มึงว่าพระเอกเบียวป่ะ " เสียงของภีมดังขึ้นขนาดที่ขายาวๆยังก้าวไปข้างหน้า " หืออ " ฝนเอียงคอ " สนใจแล้วอ๋อ~ กูแนะนำได้น้าาา! " เสียงพูดดี๊ด๊าดีใจทำเอาภีมต้องทำหน้ามุ่ย " บ้า..ไอสัสกูแค่ไม่เข้าใจ มึงแค่อยากแต่อ้างว่าตัวเองป่วย เพื่อไปเอามาเอลที่โคตรจะรักแหนเก่าตัวเองอยู่เนี้ยนะ ประสาทป่ะ" คำพูดที่ดูรุ่นแรงกับสีหน้าเอื้อมๆของภีม ถูกจ้องมองกลับมาด้วยสายตาอาฆาตข้างๆ " แบบนี้เขาเรียกว่าคุกคามทางเพศสุดๆไอเหี้ย" " เขาเรียกรัทค่ะ มึงกล้าว่าพี่ธีโอสุดหล่อแสนจะเพอร์เฟคของกูอ๋อ! " ในตะโกนใส่หูภีมแบบหงุดหงิด " แหมๆ ก็แค่พระเอกในนิยาย ตัวจริงอยู่นี้ครับ กูเนี้ยหล่อกว่าตั้งเยอะ แถมจับต้องได้ด้วย " ภีมชี้นิ้วมาที่ตัวเอง ก็จะยิ้มเยาะ " หน้าตาแบบมึงเนี่ยนะหล่อ? " หญิงสาวในชุดนักเรียน มองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า " หน้าตาธรรมดาๆก็เป็นได้แค่เบต้าละว่ะ " เธอหัวเราะลั่นพรางตบบ่าของเพื่อนชายเบาๆ " เบต้า? อะไรว่ะ เจนเบต้าอ่ะนะ " ฝนไม่ตอบแต่เธอยิ้มร่าแล้วเดินนำหน้าภีมไปอย่างลั่นลา จนกระทั่ง— “เห้ยฝน อย่าวิ่ง—!!” ฝนวิ่งพรวดลงทางม้าลายโดยไม่ดูรถเลยสักนิด ในเสี้ยววินาทีที่เห็นแสงไฟหน้ารถบรรทุกพุ่งมา ภีมไม่มีเวลาคิดอะไรอีกแล้ว เขาพุ่งเข้าไปกระชากเพื่อนออกจากกลางถนน ก่อนที่— “โครมมมมม!!!” ภาพแสงดาวตกด้านหน้านั้นช่างงดงาม แต่แล้วทุกอย่างดับวูบ เสียงลม เสียงเบรก เสียงตะโกน มันค่อยๆ จางหายไป เหลือแค่เสียงในหัวตัวเองที่ยังดังไม่หยุด " เรายังไม่ทันได้ใช้ชีวิตให้คุ้มเลยนะ..อย่างน้อย ก็ขอมีความรักดีๆบ้างได้ป่ะล่ะชีวิตเฮงซวย" แต่ใครจะรู้ว่าคำอธิษฐานสุดท้ายของเด็กม.ปลาย จะกลายเป็นจริงขึ้นมา...ในโลกที่เขาไม่อยากอยู่ “อืมม...” เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น แทรกความมึนเบลอในหัวชายหนุ่มบนเตียง ภีมค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาช้าๆ มองเพดานห้องสีขาวสะอาดหรูหรา “อืม... โรงบาลเหรอ...” เขาพึมพำ... ก่อนจะชะงัก “...เดี๋ยว นี่ไม่ใช่โรงบาล!” เพดานสูง หรูหรา วิวด้านนอกหน้าต่างคือเมืองหลวงระดับฟิวเจอร์ลิสต์ “นี่มันคอนโดไฮเอนด์ระดับห้าดาวชัดๆ!!”ภีมดีดตัวขึ้นนั่ง... แล้วก็เบิกตากว้าง “แม่ง... กูไม่ได้ใส่เสื้อ... แล้วนี่กล้ามเหี้ยไรวะ?!” หน้าอกแน่นๆ กับซิกซ์แพ็กที่เหมือนหล่อหลอมมาจากประติมากรรมเทพเจ้ากรีก เขารีบยื่นมือไปแตะหน้าแข้งตัวเอง แล้วก็สะดุด...“เวร มือนี่ก็ไม่ใช่มือกูนิ! เส้นเลือดแน่นไป๊!” ก่อนจะตั้งสติได้ เสียงนาฬิกาปลุกก็ดังขึ้นอีกเขาคว้ามันมากด... แล้วเห็นโทรศัพท์ที่อยู่ข้างๆ “โห แอปเปิ้ลรุ่นล่าสุด... เหี้ย ของจริงเหรอ?” แต่ทันทีที่หน้าจอดับลง เขาก็เห็นเงาสะท้อนในจอเป็นผู้ชายผมขาว ตาสีทองนวล รูปหน้าหล่อคมเหมือนโมเดล ภีมเบิกตากว้าง “เชี้ยใครวะ!! ไม่ใช่กูแน่นอนอ่ะ!!” เขาโยนโทรศัพท์ทิ้งแบบสัญชาตญาณ แต่สุดท้ายก็ต้องคว้ามันกลับมาเปิดกล้องหน้าดูให้รู้ชัดๆ ไปเลย กล้องหน้าสะท้อนภาพใบหน้าเทพเจ้าที่มีผมสีเงิน ดวงตาสีทองล้ำลึก สันจมูกคมมีไฝเม็ดจิ๋ว “...โว๊ะ!! ฝนเล่นอะไรกับกูอีกแล้ววะเนี่ย!!!”ยังไม่ทันจะตั้งสติ แมวดำตัวอ้วนพุงปลิ้นตัวหนึ่งก็กระโดดขึ้นมาคลอเคลียขาเขา “โอ๋ จั้มมั้มน่ารักวะ มานี่ม๊าาา— อ้าว เฮ้ย!?” แมวตัวนั้นมีสีตาราสกับน้ำทะเลสีอำพัน ที่ทำเอาเขาอึ้งแล้ว มันก็ยังปรากฏแผงจอโปร่งแสงลอยขึ้นกลางอากาศซึ่งแบบนั้นยิ่งทำให้ภีมแทบช็อก เขาไม่อยากเชื่อที่ตาเห็นเลยสักนิด บนจอโปร่งแสง มีข้อมูลเต็มพรืด! ราวกับบอกประวัติของคนร้าย ชื่อ: วิคเตอร์ เฮด ตำแหน่ง: ตัวร้ายสายเลือดอัลฟ่ารุ่นที่ 3 ระดับอัลฟ่า: S บทบาท: ตัวประกอบรูปหล่อ และว่าที่ผัวในมุมมองคนอ่าน สถานะ: ยังไม่ตาย (แต่กำลังโดนเล่นงานในต้นเรื่อง) จากนั้นเจ้าแมวอ้วนก็พูดขึ้นด้วยเสียงกลมๆ นิ่มๆว่า " ฉันชื่อโคโค่ ต่อจากนี้นายเป็นเจ้านายฉัน"อุ้งมือขนฟูถูกยกขึ้นมาลูบปลายหนวดเล่น “โอ๊ะ! แล้วก็..ยินดีต้อนรับสู่โลก Omegaverse นายได้รับสิทธิ์พิเศษจากพรกับดาวตกที่นายอธิษฐานไว้ตอนก่อนตายไงล่ะ~” ภีมอึ้ง ก่อนจะพูดอย่างตะกุกตะกัก “นี่กูฝะ...ฝันอยู่ใช่มั้ย...?” แมวยิ้ม กวาดหางเหมือนจะกลั้วหัวเราะ “ก็แค่ฝันที่นายอาจจะไม่ได้ตื่นอีกต่อไปแล้ว~ ยังไงก็ขอให้ใช้ชีวิตใหม่ให้คุ้ม...อย่าตายรอบสองละ อิอิ” “เชี่ย...! มึงเป็นเอไอแบบตัวร้ายในเกมจีบหนุ่มแน่ๆ!!!” นิ้วชี้ถูก จิ้มซ้ำๆ ไปที่จมูกของแมวดำตัวนั้น " เสียมารยาทนะ.. งับ! " ทันทีที่พูดแบบนั้นไปความรู้สึกเจ็บปวดก็แล่นขึ้นมา เขี้ยวแมวคมๆฝังลงบนนิ้ว " อ้ากก!!? โอ้ยๆๆ ทำบ้าอะไรไอแมวอ้วนนี่! " เขาสะบัดมือออก ก่อนจะเป่ามันซ้ำๆ " ฉันชื่อโคโค่! นายต้องเรียกฉันแบบนั้น แล้วก็ห้ามพูดคำหยาบ กับแมว!! เข้าใจมั้ยห้ะ! " โคโค่ตะหวาดลั่น พร้อมกับเหยียบอยู่บนหัวภีม " แล้วนี่มันคืออะไร ก- ..ผมยังไม่เข้าใจเลยนะ อธิบายทีได้มั้ย.." " หึ..ได้อยู่แล้วเจ้าทาส เพราะนั้นแหละคือหน้าที่ของโคโค่ละ! " " หน้าที่? " ภีมเลิกคิ้ว " หน้าที่ในการดูแลชีวิตของตัวประกอบที่แม่ยายรักมากๆ อย่างเจ้ายังไงละ! " " ห้ะ....""ดูหนังกันมั้ยครับ " ธีโอพูดขึ้นเชิญชวนวิคเตอร์ผู้เป็นเจ้าของบ้านทันทีที่เขาเห็นจอทีวี" เอ่อ..นี่มันก็น่าจะดึกแล้ว ให้ผมไปส่งคุณที่บ้านไม่ดีกว่าหรอครับ " วิคเตอร์พยายามพูดเพื่อให้แขกยอมกลับบ้าน ทั้งกินมื้อค่ำแล้วยังเดินเล่นในบ้านของเขาราวกับเป็นสนามเด็กเล่นวิคเตอร์เห็นทีว่าต้องส่งแขก แต่ดูเหมือนแขกคนนี้ค่อนข้างดื้อและมึนสุดๆ จนสุดท้ายก็...ทีวีจอใหญ่ระดับ IMAX ขนาดเกือบเท่าฝาบ้านฉายแสงสีนวลอุ่นๆ วิคเตอร์นั่งตัวตรงราวกับเป็นบอดี้การ์ด ไม่ได้เอนหลังพิงโซฟาแม้แต่นิด ขณะที่ธีโอนั่งข้างๆ ด้วยท่าทีที่ "ไม่รู้เลยว่านี่นั่งดูหนังหรือจะดูเจ้าของบ้านมากกว่า"ผมเรียกวิคเตอร์ ว่าพี่ได้มั้ยครับ เราน่าจะสนิทกันแล้วนี่น่า~" ธีโอพูดเล่นพร้อมยิ้มกริ่ม ก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบรีโมต “พี่เองก็เรียกผมธีโอจะได้แฟร์ๆกัน”“อ่า ได้สิ…” วิคเตอร์ตอบช้าๆ แอบกลืนน้ำลายเล็กน้อยเมื่อธีโอทิ้งตัวลงนั่งข้างเขาอีกครั้ง แบบใกล้เกินระยะปลอดภัยของชาวอัลฟ่าจนหนังเริ่มฉาย...แต่วิคเตอร์ไม่ได้ดูหนังเล เพราะทุกๆ ครั้งที่เขาขยับตัว หรือเงยหน้าขึ้นมองจอ ก็จะเห็นธีโอนั่งหันมาทางเขาแบบ...จ้องจ้องแบบลึก จ้องแบบอยากขอข้อมูลพันธุกร
กลิ่นหอมละมุนแบบกาแฟคั่วสดกับคาราเมลหอมกลิ่นไหม้อ่อนๆ ลอยฟุ้งกลางอากาศ ราวกับเรียกร้องให้ใครบางคนตามมันไปธีโอ หยุดยืนกลางโถง สูดหายใจลึกอีกครั้ง ดวงตาทอประกายสว่างขึ้นในทันที “เขาออกไปแล้ว...แต่กลิ่นยังไม่หาย”เสียงฝีเท้าเขาดังชัดในทางเดินที่ไร้ผู้คน กลิ่นของวิคเตอร์ไม่ชัดเจนเหมือนตอนอยู่ใกล้ แต่มันก็ชัดพอจะพาเขาเดินเลี้ยวออกจากตัวอาคาร มุ่งหน้าสู่โรงจอดรถลมเย็นภายนอกตีกลิ่นจางๆ กระจายไปทั่ว แต่ธีโอกลับตามมันได้อย่างแม่นยำอย่างเหลือเชื่อ“คุณวิคเตอร์...หนีผมไม่พ้นหรอกครับ” เสียงกระซิบของเขาดังแผ่วเบาเหมือนคำสัญญาในเงามืดในโรงจอดรถ ไฟบางส่วนยังเปิดอยู่ และในความเงียบที่ปกคลุม รถหรูคันหนึ่งจอดนิ่งอยู่ข้างใน ประตูด้านคนขับปิดไม่สนิทดีนัก ราวกับมีใครบางคนรีบหนีเข้าไป ธีโอหยุดยืนตรงหน้า ยกมือแตะฝากระโปรงเบาๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้น ดวงตาเยือกเย็นกลับกลายเป็นร้อนแรงเขายื่นหน้าเข้าไปใกล้หน้าต่างรถ สูดลมหายใจลึกอีกครั้ง กลิ่นวิคเตอร์เข้มข้นราวกับเพิ่งปล่อยออกมาเมื่อครู่“นั่นแหละ… นี่แหละกลิ่นของคุณ” เขาพึมพำภายในรถ วิคเตอร์นั่งนิ่งอยู่ในเบาะหลัง ดวงตาเบิกกว้างเมื่อเห็นเงาร่างของธีโอเคลื่อนใ
กลางวันแสกๆ ของห้องทำงานชั้นบนสุด ที่ควรจะสงบเงียบ…แต่กลับมีเสียงพึมพำของโคโค่เจ้าแมวอ้วนลอยมาก่อนใครเพื่อน "นายเห็นไหม พระเอกจ้องจะเล่นนาย… เอ็งหนีไม่พ้นหรอกเว้ย วิคเตอร์"บนโต๊ะทำงานหรูดีไซน์มินิมอลของวิคเตอร์ มีทั้งกาแฟดำที่ใกล้เย็นสนิท กับแผ่นโปร่งแสงของ AI ที่ลอยอยู่เหนือพื้นโต๊ะ แสดงค่าพารามิเตอร์ความนิยมของตัวละครชื่อ “วิคเตอร์” กำลังขึ้นสูงแบบผิดคาด“นี่มันบ้าไปแล้ว… ตัวละครประกอบอย่างผมควรจะตายตั้งแต่บทที่ 3” วิคเตอร์บ่นพลางจ้องตัวเลขด้วยสีหน้าปลงๆ แต่โคโค่กลับขำแห้งๆ แล้วพ่นออกมาหนึ่งประโยค “นายโดนระบบเรือใหญ่เลือกไปแล้วอะดิ”วิคเตอร์กำลังจะเถียงอะไรกลับ แต่จู่ๆ โคโค่เงียบกริบ ดวงตาเรืองแสงของแมวอ้วนเบิกกว้างขึ้นอย่างระแวดระวัง “เดี๋ยว มีคนกำลังเดินมา...”แล้วมันก็ทำตามสัญชาตญาณของแมวทันทีกระโดดกลับไปนอนกลมบนโต๊ะ เสมือนว่าไม่เคยพูดอะไรเลยแม้แต่น้อย ก่อนจะยกอุ้งมือขึ้นมาเลียราวกับแมวบ้านธรรมดาแกร๊ก ประตูเปิดออกพร้อมเสียงฝีเท้านุ่มนวล และกลิ่นหอมของอาหารโฮมเมด วิคเตอร์เงยหน้าขึ้นก่อนจะชะงัก “มาเอล…?”คนที่ปรากฏตัวคือนายเอกของเรื่องในร่างบางผิวขาวนวล สวมเชิ้ตแขนยาวสีขาวสะอาด
เสียงประตูล็อกดังแกร๊ก ทำเอาวิคเตอร์กลืนน้ำลายอึกใหญ่ กลิ่นหอมบางของน้ำหอมในบ้านผสานกลิ่นไวน์แดง ทำให้เขารู้ทันทีว่า...เกมนี้ไม่ใช่แค่ดื่มธรรมดา ใช่แล้วสุดท้ายเขาก็จำยอมมากับพระเอกทั้งที่รู้ว่าไม่น่าไว้ใจเลยแท้ๆบ้านของธีโอหรูเกินกว่าจะเรียกว่าบ้าน แถมเป็นมากกว่านั้น...เหมือนพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีเจ้าของเป็นจิ้งจอกแสนร้าย“เดินดูรอบ ๆ ก่อนสิครับคุณวิคเตอร์” ธีโอเอ่ยอย่างใจดีเกินเบอร์ มือเรียวโบกไปทางห้องรับแขก เปิดไฟอุ่น ๆ ที่ทำให้บ้านยิ่งดูอบอุ่นแบบน่าระแวงวิคเตอร์เดินตามอย่างเสียไม่ได้ รองเท้าหนังสะท้อนกับพื้นไม้ขัดมัน แววตาเขากวาดไปทั่วบ้านแบบคนกำลังหาทางหนี ก่อนจะจบลงที่โซฟาหนังวัวนุ่มลึกกลางบ้าน ธีโอลากไวน์ขวดละหลายพันขึ้นมาเทช้า ๆ ก่อนยื่นแก้วให้เขาด้วยรอยยิ้ม“เชิญครับ แขกพิเศษของคืนนี้”วิคเตอร์กลืนน้ำลายอึกใหญ่ ขณะรับแก้วมา มือเย็นเฉียบเพราะเขากำลังคิดถึงแมวบางตัวที่ควรจะโผล่มาช่วยในเวลานี้แทนที่จะปล่อยให้เขาเผชิญด่านบอส“วันนี้ผม...ต้องขอโทษเรื่องมื้อเย็นด้วยจริงๆนะครับ” ธีโอเปิดบทสนทนา เสียงทุ้มนุ่มมีน้ำหนักวิคเตอร์เอียงคอ “หืม.. ครับ?”“ที่ผมอาจจะทำตัวเสียมารยาทน่ะครับ...แ
กลิ่นหอมของเนื้อย่างและไวน์ชั้นดีลอยฟุ้งปะทะประสาทรับรู้ แต่สิ่งที่กระแทกอารมณ์มากกว่านั้นคือสงครามเย็นระหว่างสองชายหนุ่มที่นั่งขนาบซ้ายขวาของวิคเตอร์หลังคำจิกกัดเผ็ดร้อนแบบมีดโกนของมิเอลกับธีโอ ภีมหรือวิคเตอร์ ก็แทบไม่กล้าขยับตัว กลัวว่าจะกลายเป็นเหมือนลูกโซ่ที่ทำให้ระเบิดลูกต่อไปทำงานใส่ตัวเอง“ว่าแต่…” ธีโอเลิกคิ้ว มองวิคเตอร์ด้วยสายตาสนอกสนใจแบบจงใจ “คุณวิคเตอร์นี่แปลกตาดีนะครับ ผมขาว ตาสีทองอร่าม…เหมือนลูกแก้วเลย งดงามแบบไม่เหมือนใคร”คำพูดนั้นเหมือนลูกศรที่พุ่งเข้ากลางใจมาเอลทันที เขาขยับคิ้วขึ้นนิดหนึ่งแต่ไม่พูดอะไร สายตากลับหันไปมองวิคเตอร์แทน“อ๋อ พอดีผมเป็นลูกเสี้ยวหลายเชื้อชาติน่ะครับ” วิคเตอร์หัวเราะแหะ ๆ มือกำชายเสื้อแน่น “คงได้มารวมกันเยอะไปหน่อย”“ตอนคบกัน นายชอบใส่แว่นไม่ใช่เหรอ?” เสียงเรียบของมิเอลแทรกเข้ามากลางวงอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย “ทำไมตอนนี้ถึงถอดมันล่ะ?”“แว่นมันเกะกะน่ะ” วิคเตอร์ยิ้มแหย “ถอดแล้วมองอะไรชัดขึ้นเยอะเลย”“แต่นายก็ดูดีมากเลยนะตอนนี้” มิเอลยิ้มบาง แต่ดวงตานั้นกลับทอดเงาลึกชวนสงสัย “ใช่มั้ย…เพื่อน(รัก)?”คำว่า เพื่อนรัก ถูกเน้นหนักจนวิคเตอร์รู้สึกได้ถ
เสียงเพลงป๊อปแดนซ์จังหวะกระชากใจดังลั่นไปทั่วคอนโดหรู วิคเตอร์ หรือ ภีม ในชื่อเดิมของเขากำลังสวมเสื้อกล้าม กางเกงขาสั้น เดินเต้นลั้ลลาแบบไม่สนโลก ราวกับว่าชีวิตในจักรวาลโอเมก้าเวิร์สนี้ไม่มีอะไรร้ายแรงไปกว่าการเลือกว่าจะกินข้าวหรือกาแฟก่อนดี"ถ้าให้เธอเป็นเสื้อ..คงเป็นเบบี้ที~” เขาหมุนตัวเองหน้าโซฟาอย่างภาคภูมิ ก่อนจะชี้นิ้วฟาดจังหวะเข้ากับเสียงเพลงที่ดังสนั่น…จนกระทั่ง...ปึ้ง! เพลงเงียบลงทันใดวิคเตอร์กะพริบตาปริบ ๆ หันขวับไปมองต้นเสียง แมวดำตัวอ้วนกลมที่ชื่อว่า โคโค่ นั่งกอดอกอยู่บนโต๊ะกาแฟกลางห้อง แพขนฟู ๆ ยกหูรีโมตขึ้นแล้ววางอย่างช้า ๆ แบบโคตรมีเจตนา“โอ้ย โคโค่! เพลงกำลังมันส์ ทำไมปิดอะ!”“เพลงไม่สำคัญเท่า ‘เนื้อเรื่อง’ นะยะ” โคโค่หรี่ตาเหมือนจะกลืนเขาเข้าไปทั้งตัว “นายรู้มั้ยว่า คะแนนความชอบของแม่ยก ที่ให้กับตัวละคร ‘วิคเตอร์’ ตอนนี้มันหยุดนิ่ง! นาน! แล้ว! เพราะอะไร? เพราะคุณลูกชายเอาแต่นอนเป็นส้มในคอนโด ไม่ไปเข้าเนื้อเรื่องหลักไงล่ะ!”วิคเตอร์ทำท่าจะโวยแต่ก็กลายเป็นแค่ถอนหายใจ ก่อนจะเดินลากสลิปเปอร์กลับไปที่โซฟาแล้วหยิบหมอนมาฟาดหน้าตัวเองอย่างเซ็ง ๆ “พูดอีกละ พูดทุกวัน หูผมชา
Comments