หลังจากดื่มอยู่หลายรอบมญชุ์ชัญญาก็ตัดสินใจซื้อน้ำผึ้งเป็นของฝากสำหรับคุณปู่ จากนั้นทินภัทรก็พาหญิงสาวไปดูคอนโดมิเนียมของเขา
“ห้องกว้างมากเลยนะคะ มีกี่ห้องนอนคะพี่ทิน” เธอเดินไปรอบห้องก่อนจะถามขึ้น
“มีสองห้องนอนกับหนึ่งห้องทำงานเล็กๆ ถ้าเราแต่งงานกันแล้วชัญญ่าย้ายมาอยู่ที่นี่ก็ได้ไม่ต้องซื้อคอนโดหรอก”
“พี่ทินหมายถึงเราสองคนจะอยู่คอนโดห้องเดียวกันเหรอคะ”
“คอนโดห้องเดียวกันก็จริงแต่เรานอนกันคนละห้อง ชัญญ่าไม่ต้องซื้อคอนโดหรอกนะ เพราะหลังแต่งงานครบหนึ่งปีพี่ไม่แน่ใจเลยนะว่าชัญญ่าจะต้องกลับไปอยู่ที่บ้านหรือเปล่า เอาไว้ถึงตอนนั้นถ้าสนใจอยากจะได้คอนโดจริงๆ พี่จะช่วยหาห้องที่เหมาะสมกว่านี้ให้เองโอเคไหมครับ”
“ทำไมเราจะต้องอยู่คอนโดเดียวกันด้วยล่ะพี่ทิน เราอยู่แยกกันก็ได้ไม่มีใครรู้หรอกค่ะ”
“ผู้ใหญ่ของเราทั้งสองฝ่ายมีคนรู้จักเยอะแยะ ชัญญ่าคิดว่าถ้าหากเราอยู่กันคนละห้องหรือคนละคอนโดคอนโดจะไม่มีใครเอาเรื่องนี้ไปบอกท่านเหรอพี่ว่ามันเสี่ยงเกินไปถ้าหากเราจะต่างคนต่างอยู่แบบนั้นจริงๆ”
“แต่...”
“ถ้าเราอยู่ในห้องนี้เราจะนอนห้องเดียวกันหรือนอนคนละห้องก็ไม่มีใครรู้หรอกนะชัญญ่า” ทินภัทรอธิบายเพราะเขาไม่อยากให้เธอต้องเสียเงินซื้อคอนโดมิเนียมห้องใหม่อีกอย่างเขาก็คิดเอา ยังไงก็จะต้องกล่อมให้เธออยู่ที่บ้านของเขาให้ได้
“ที่พี่ทินพูดมันก็ถูกนะคะ ครอบครัวเรามีคนรู้จักเยอะจริงๆ ด้วยค่ะ”
“ชัญญ่าชอบห้องนี้ไหม ถ้าไม่ชอบพี่จะพาไปดูคอนโดของพี่อีกที่หนึ่ง”
“ชอบค่ะ”
“แล้วอยากตกแต่งอะไรเพิ่มหรือเปล่าบอกพี่ได้เลยนะพี่จะจัดการให้”
“ไม่เป็นไรค่ะ ชัญญ่าว่าแบบนี้ก็ดีแล้ว ที่นี่อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าและใกล้ร้านทองของคุณแม่ด้วยค่ะ การเดินทางสะดวกมากๆ เลย”
“พี่ว่าถ้าแต่งงานแล้วพี่จะขับรถรับส่งชัญญ่าเอง ไม่ต้องนั่งรถไฟฟ้าหลอก”
“ได้ยังไงกันคะรถในกรุงเทพติดมากๆ ถ้าพี่เอาแต่รับส่งชัญญ่าแล้วจะมีเวลาไปทำงานเหรอ”
“พี่เป็นผู้บริหารให้ชัญญ่าไม่ต้องเข้างานตรงเวลาก็ได้เรื่องการเดินทางเราค่อยคุยกันทีหลังหรือว่าชัญญ่าอยากได้รถไว้ใช้สักคันไหมเดี๋ยวพี่ซื้อให้”
“ไม่เป็นไรค่ะ ชัญญ่าก็มีรถของบ้านแล้ว แต่ขับไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่เพราะไม่ได้ขับรถที่เมืองไทยนาน”
“อยากขับรถเก่งๆ ไหมล่ะ”
“อยากสิคะ”
“เอาไว้วันหยุดเวลาออกไปข้างนอกพี่จะให้ชัญญ่าเป็นคนขับดีไหม ขับบ่อยๆ จะได้คุ้นกับถนนของกรุงเทพ”
“ก็น่าสนใจนะคะ”
“ถ้าอย่างนั้นชัญญ่าจะลองขับเย็นนี้เลยไหม ขับไปบ้านพี่”
“เอาไว้วันหลังเถอะค่ะวันนี้ชัญญ่ายังไม่ได้ทำใจและยังไม่ได้เอาใบขับขี่มา”
“ก็ได้งั้นเราไปหาคุณย่ากันเลยไหม อยากจะกินอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าพี่จะได้โทรสั่งแม่บ้านให้ทำให้”
“ไม่เป็นไรค่ะชัญญ่ากินอะไรก็ได้ไปกันเถอะค่ะ”
ออกจากคอนโดมิเนียมทินภัทรก็ขับรถพามญชุ์ชัญญามายังบ้านของเขาซึ่งใช้ระยะเวลาไม่ถึงสิบนาทีเท่านั้น
“บ้านพี่ทินกับคอนโดอยู่ไม่ไกลกันเลยนะ ชัญญ่าสงสัยจังว่าพี่ซื้อคอนโดไว้ทำไม”
“ก็คอนโดนั้นมันเป็นโครงการของบริษัทพี่เลยซื้อไว้”
“แล้วพี่ทินได้ไปพักที่คอนโดบ้างหรือเปล่า”
“นานๆ ครั้งน่ะถ้าวันไหนออกไปดื่มจนดึกก็แวะค้างที่นั่นเพราะกลัวว่าขับรถเข้ามาในบ้านดึกๆ แล้วคุณย่าจะตื่นน่ะ”
หญิงสาวพยักหน้าเข้าใจเพราะถ้าหากบ้านกับคอนโดมิเนียมไม่ได้ห่างกันแบบนี้การที่เธอกับเขาจะอยู่คอนโดมิเนียมและมาหาคุณย่าอรุณีที่บ้านก็ไม่ใช่เรื่องลำบากอะไร
เมื่อชายหนุ่มจอดรถที่หน้าบ้านหญิงสาวก็เปิดประตูและเดินเข้าไปในบ้านซึ่งตอนนี้คุณย่าอรุณีกับเด็กรับใช้กำลังนั่งทำอะไรกันอยู่ในห้องรับแขก
“สวัสดีค่ะคุณย่า”
“หนูชัญญ่าสวัสดีจ้ะ”
“คุณย่าทำอะไรคะ”
“ย่ากำลังเลือกแหวนน่ะ หนูมาก็ดีเลยมาช่วยลาเลือกแหวนหน่อย”
“เลือกแหวนอะไรคะคุณย่า”
“ก็แหวนแต่งงานไงหนูชอบวงไหนหนูเลือกได้เลย”
“คุณย่าคะเราแต่งงานตามพินัยกรรมนะคะ หนูรับของมีค่าแบบนี้ของคุณย่าหรอกค่ะ”
“ที่ไม่รับเพราะที่บ้านของหนูมีของพวกนี้เยอะแล้วใช่ไหมลูก ย่าลืมคิดเรื่องนี้เลย”
“ไม่ใช่แบบนั้นหรอกค่ะคุณย่า หนูแค่เกรงใจเราก็รู้กันอยู่ว่าเพราะอะไรหนูกับพี่ทินถึงแต่งงานกัน”
“ถึงแม้การแต่งงานจะเป็นเพราะตามพินัยกรรมแต่เราก็ต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามประเพณีนะ ชุดเครื่องเพชรพวกนี้ย่าเก็บไว้ก็ไม่ได้ใช้งาน”
“คุณย่าก็เก็บไว้ให้ลูกหลานคนอื่นได้นี่คะ”
“ลูกหลานคนอื่นแต่งงานมีครอบครัวกันไปหมดแล้วและย่าก็ให้ของเหล่านี้กับทุกคน ที่เหลือตรงนี้ย่าก็เก็บไว้ให้ทินเขาน่ะ หนูชัญญ่าชอบชุดไหนก็เลือกไปได้เลยหรือถ้าไม่ชอบจะสั่งแบบใหม่ก็ได้บอกย่ามาได้เลยนะ”
“คุณย่าหนูขอบคุณคุณย่ามากๆ นะคะที่เมตตาแต่มันมากเกินไปจริงๆ”
“พี่ว่าชัญญ่าลองเลือกดูนะเผื่อมีวงไหนที่ถูกใจหรือถ้าไม่ถูกใจเอาไปให้ที่ร้านขึ้นตัวเรือนใหม่ก็ได้”
หญิงสาวมองเครื่องเพชรตรงหน้าอย่างใช้ความคิดเธอที่บ้านของเธอค้าขายอัญมณีทั้งทองเพชรแล้วทับทิมก็เลยพอจะรู้ราคาว่าแต่ละชิ้นนั้นราคามันไม่น้อยเลย
“คุณย่าคะหนูว่าให้คุณย่าเป็นคนเลือกให้ดีกว่านะคะ”
“ทำไมล่ะลูก ไม่กลัวว่าย่าเลือกไม่ถูกใจเหรอ”
“ถูกใจสิคะ หนูเชื่อว่าคุณย่าจะต้องเลือกได้ถูกใจหนูนอนค่ะคุณย่า”
“เอาเป็นแหวนวงนี้ดีไหม” คุณอรุณีหยิบแหวนเพชรที่เธอเคยได้รับจากสามีให้ในวันแต่งงานส่งให้กับมญชุ์ชัญญา แหวนวงนี้เธอห่วงมากแม้กระทั่งลูกสะใภ้หรือหลานสะใภ้คนอื่นเธอก็ไม่ให้ใครเลยแต่วันนี้กลับรู้สึกถูกชะตากับมญชุ์ชัญญาและอยากจะให้แหวนของตนเองเป็นแหวนแต่งงานของหลานสะใภ้
“สวยจังเลยค่ะคุณย่า” มญชุ์ชัญญามองแหวนที่คุณย่าอรุณีส่งให้แล้วยิ้มอย่างถูกใจ
“ย่าว่าแบบมันดูโบราณไปหรือเปล่า”
“ไม่นะคะเพชรน้ำงามมากค่ะคุณย่าแบบอาจจะไม่ทันสมัยเท่าไหร่แต่โดยรวมแล้วหนูว่ามันสวยมากค่ะ”
“หนูชัญญ่าอยากได้แค่เพชรแล้วเอาไปขึ้นตัวเรือนใหม่ก็ได้นะลูก”
“ไม่ค่ะคุณย่าหนูว่ามันลงตัวแล้วถ้าอย่างงั้นตกลงหนูเลือกแหวนวงนี้ค่ะ”
“ส่วนเครื่องเพชรชุดอื่นเดี๋ยวย่าจะเป็นคนจัดการให้เอง”
“คุณย่าขาหนูขอแค่แหวนวงเดียวได้ไหม เครื่องเพชรชุดอื่นให้คุณย่าเก็บไว้เถอะค่ะ”
“แต่ย่าอยากยกให้หนูนะ”
“เอาอย่างนี้ดีมั๊ยคะ หนูให้คุณย่าเก็บไว้ทั้งหมดนี่แหละหนูเอาแค่แหวนแต่ถ้าวันไหนหนูจำเป็นต้องใส่เครื่องเพชรเพื่อออกงานหนูจะมายืมคุณย่าตกลงไหมคะ”
“หนูจะเอาแบบนั้นแน่นะ”
“แน่ค่ะคุณย่า นะคะเพราะหนูไม่อยากจะเอาไปเก็บไว้ที่บ้านหรอกค่ะ ที่บ้านหนูคนเยอะแยะหนูกลัวมันไม่ปลอดภัย” มญชุ์ชัญญาให้เหตุผลแต่อันที่จริงแล้วเธอไม่อยากได้เครื่องเพชรพวกนี้เลย
“ถ้าหนูอยากให้ย่าทำแบบนั้นก็ได้แต่อย่าลืมนะว่าหนูมีสิทธิ์ในสมบัติทุกอย่างของย่า”
“ทำไมคุณย่าใจดีกับหนูจังคะ”
“ก็หนูเป็นหลานของเพื่อนรักคุณปู่นี่แล้วตอนนี้หนูก็กำลังจะมาเป็นหลานสะใภ้ของย่า”
คุณอรุณีรู้สึกเอ็นดูว่าที่หลานสะใภ้คนนี้มากๆ ถึงแม้จะเจอกันไม่กี่ครั้งแต่ก็รู้สึกผูกพันและอยากให้เธอแต่งงานกับหลานชายของตนเองและได้แต่หวังว่าความใกล้ชิดของหลานทั้งสองจะทำให้พวกเขารักกันและ และใช้ชีวิตร่วมกันไปตลอด
“ขอบคุณค่ะคุณย่า คุณย่าค่ะหนูลืมไปเลยหนูซื้อผ้าพันคอมาให้คุณย่าด้วยนะคะ” หญิงสาวหยิบผ้าพันคอสีชมพูกลีบบัวทำจากผ้าไหมมาให้กับคุณย่าอรุณี
“สวยถูกใจย่ามากเลยลูก หนูรู้ได้ยังไงว่ายายชอบสีนี้พี่ทินบอกเหรอ”
“เปล่าหรอกค่ะ แต่หนูคิดว่ามันเหมาะกับคุณย่ามากๆ คุณเยอะจะได้เอาไปไว้ห่มเวลาไปวัดหรือไปทำบุญตอนอากาศเย็นๆ ค่ะ”
“หนูชัญญ่ารู้ใจย่ามากที่สุดเลย ขอบใจมากนะลูก” ย่าอรุณีรู้สึกเอ็นดูมญชุ์ชัญญามาดขึ้นอีกหลายเท่าเพราะหญิงสาวช่างพูดและเอาใจจนคนที่ไม่เคยมีหลานสาวหลงรักอย่างถอนตัวไม่ขึ้น
ทินภัทรถอนหายใจอย่างหนักเมื่อสายจากบ้านยังคงโทรเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ชายหนุ่มจึงตัดสินใจกดรับ“พี่ทินอยู่ไหนคะ” เสียงหวานที่ดังมาจากปลายสายทำให้เขารู้สึกตกใจจนตัวชา“ชัญญ่าเหรอ”“ค่ะ พี่ทินอยู่ที่ไหนทำไมไม่กลับบ้านมีประชุมด่วนหรือออกไปกับลูกค้าคะ” หญิงสาวถามเขาออกมาเป็นชุดด้วยความเป็นห่วงเพราะวันนี้เธอกับเขาไม่ได้คุยกันเลยตลอดทั้งวัน“ชัญญ่าจริงๆ ใช่ไหม”“พี่ทินถามอะไรแปลกๆ คะหรือจำเสียงชัญญ่าไม่ได้ น่าน้อยใจจังเลยนะคะ”“เกิดอะไรขึ้นกันแน่ชัญญ่าแล้วโทรศัพท์ของชัญญ่าไปไหน”“ชัญญ่าลืมกระเป๋าไว้บนรถเมล์ค่ะ รู้ตัวอีกทีก็ลงมาจากรถเมล์แล้ว พอกลับมาที่บ้านคุณย่ากับพี่ทินก็ไม่อยู่ นี่ก็เพิ่งจัดการโทรอายัดบัตรเครดิตและเปลี่ยนรหัสผ่านพวก Facebook กับไอจีเพิ่งเสร็จ แล้วพี่ทินล่ะคะอยู่ไหนทำอะไรอยู่”“ชัญญ่าพี่ดีใจมากๆ เลยพี่ขอโทษนะ ขอโทษที่ไม่ไปตามนัดขอโทษจริงๆ”“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ชัญญ่ารู้ว่าพี่ทินอาจจะงานยุ่ง”“โกรธพี่หรือเปล่า”“ไม่โกรธหรอกค่ะแค่น้อยใจนิดหน่อยที่พี่เงียบหายไปไม่โทรมาบอกชัญญ่าเลยว่าตัวเองไม่ว่าง พี่ทินตอบชัญญ่ามาก่อนได้ไหมว่าตอนนี้พี่ทินอยู่ที่ไหน”“พี่อยู่ที่โรงพยาบาล”“อะไรนะ พ
เสียงหวอของรถกู้ภัยดังมาก่อนที่ตัวรถจะมาถึงหน้าโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เมื่อรถจอดสนิทพนักงานของโรงพยาบาลก็รีบตรงไปเปิดประตูด้านหลังด้านในเป็นร่างของผู้หญิงคนหนึ่งเนื้อตัวและเสื้อผ้าเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดถูกเข็นลงมาจากรถกู้ภัย จากนั้นร่างของเธอก็ถูกเข็นเข้าไปในห้องฉุกเฉิน จากนั้นก็ถูกย้ายขึ้นไปบนเตียงของโรงพยาบาล พนักงานที่มากับรถกู้ภัยก็รายงานอาการเบื้องต้นให้กับคุณหมอประจำห้องฉุกเฉินอย่างคร่าวๆ ก่อนจะขอตัวออกมา“ชีพจรอ่อนมากหายใจลำบากเตรียมอุปกรณ์สอดท่อและแจ้งห้องผ่าตัดให้เตรียมเลือดไว้ด้วยนะ คนเจ็บเสียเลือดมาก เรียกเอกซเรย์เคลื่อนที่มาด้วยบริเวณขาน่าจะหักมีหมอออร์โธฯไหมเรียกให้เขาตามไปดูคนไข้ที่ห้องผ่าตัดด้วยนะ” คุณหมอประจำแผนกสั่งงานกับทั้งพยาบาลและหมอรุ่นน้องอีกให้ “ครับ / ค่ะ”“คนเจ็บมีญาติไหม”“ไม่มีเลยค่ะกู้ ภัยบอกว่าข้างตัวเธอมีแต่กระเป๋าใบนี้ตกอยู่”“ค้นกระเป๋าหาหาหลักฐานแล้วประสานงานกับญาติด่วนนะ”“ค่ะหมอ”“หมอคะตอนนี้คลำชีพจรไม่ได้แล้วค่ะ”“ขึ้นปั๊มเลย” คุณหมอหันมาสั่งหมอรุ่นน้องให้ขึ้นไปปั๊มหัวใจคนเจ็บส่วนตัวเขาเองกำลังสอดท่อช่วยหายใจอยู่ขณะที่กำลังปั๊มหัวใจยื้อชีวิตหญิ
การได้อยู่กับคนรักในทุกๆ วันมันทำให้เวลาผ่านไปเร็วมากตอนนี้ก็ครบหนึ่งปีแล้วที่มญชุ์ชัญญาและทินภัทรจดทะเบียนสมรสกัน ก่อนหน้านี้หนึ่งสัปดาห์หญิงสาวได้ให้ทนายเตรียมเอกสารการหย่าไว้ให้เรียบร้อยเธอเซ็นชื่อลงในทะเบียนหย่าใส่ซองสีน้ำตาลและจะส่งให้ทินภัทร์เซ็นที่บริษัทหลังจากไปทำงานที่บริษัทของสามีได้ห้าเดือนมญชุ์ชัญญาก็กลับมาช่วยงานมารดาที่ร้านทองเหมือนอย่างเคยเนื่องจากเลขาของเขากลับมาทำงานได้ตามปกติแล้วเรื่องที่เธอจะหย่ากับทินภัทรหญิงสาวไม่ได้ปรึกษาเขาก่อนเพราะคิดว่าเขาคงไม่ยอม แต่เธอปรึกษากับคุณย่าอรุณีแล้วเพราะเธออยากจะคืนสมบัติทุกอย่างให้กับชายหนุ่ม แต่หลังจากนั้นจะจดทะเบียนสมรสกับเขาอีกครั้ง เรื่องนี้คุณย่าอรุณีไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ แต่มญชุ์ชัญญาก็ยืนยันว่าอยากจะทำแบบนั้นเพราะอยากคืนทุกสิ่งทุกอย่างให้กับทินภัทรเธออยากใช้ชีวิตกับเขาเหมือนคู่สามีภรรยาที่รักกันจริงๆ ไม่ได้รั้งกันไว้ด้วยพินัยกรรม ถึงแม้ที่ผ่านมาเขาได้เธอจะเปิดใจและยอมรับว่าต่างฝ่ายต่างก็มีความรักให้แก่กันด้วยใจจริง แต่เรื่องนี้มันก็ยังคาใจหญิงสาวอยู่ หญิงสาวคิดว่าหลังจากหย่าจากเขาและจดทะเบียนกับเขาครั้งใหม่เธอกับเขาจะใ
ทินภัทรขับรถพามญชุ์ชัญญามายังคอนโดมิเนียมของเขาซึ่งตั้งแต่แต่งงานเขาก็เคยพาเธอมาค้างที่นี่อยู่สองสามครั้งเมื่อประตูห้องปิดลงทินภัทรก็รวบตัวภรรยาเข้ามาจูบอย่างเร่าร้อนมือก็รีบถอดชุดของหญิงสาวออก มือเล็กของมญชุ์ชัญญาก็แกะกระดุมเสื้อของเขาออกเช่นกัน ร่างเปลือยเปลาสกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่หน้าประตูห้องก่อนที่ผู้เป็นสามีจะอุ้มเธอมาวางบนโซฟาเขาผละจูบออกจากริมฝีปากอิ่มแล้วจูบพรมไปทั้งซอกคอขาวเนียน สูดกลิ่นกายหอมเข้าเต็มปอด มือใหญ่ฟอนเฟ้นเคล้นคลึงหน้าอกอวบอิ่มอย่างไม่ปรานี เสียงหวานครางอยู่ในลำคอกับการจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัวของคนรัก เธอก็ตอบสนองไปตามสัญชาตญาณอกอิ่มแอ่นเข้าหาริมฝีปากร้อน กายสาวเบียดเข้าหากายแกร่ง เสียงหวานครางฮืออยู่ในลำคอเมื่อทินภัทรใชฟันครูดเบาๆ บนเนินอกอิ่มสร้างความวาบหวามเสียวซ่านจนหญิงสาวรู้สึกปั่นป่วนไปทั่วท้องน้อยแอลกอฮอล์ที่อยู่ในร่างกายของทั้งสองเป็นตัวกระตุ้นให้สัญชาตญาณดิบเถื่อนที่ซ่อนอยู่ตื่นตัวขึ้นมา เขาดูดดุนเม็ดเชอร์รี่สีสดเข้าปากจนพอใจก็จับเท้าของหญิงสาวไปวางบนโซฟาแยกเข่าทั้งสองข้างแยกจากกันจนกว้าง“อื้อ.....”มญชุ์ชัญญาครางกระเส่าเมื่อปากก้มลงดูดรวบกลีบกุหล
กลับมาจากฮันนีมูนครั้งนี้โลกทั้งใบของมญชุ์ชัญญากลายเป็นสีชมพู หญิงสาวเข้ามาช่วยงานที่บริษัทในตำแหน่งผู้ช่วยเลขาของทินภัทร แม้จะทำงานยังไม่ค่อยคล่องแต่เธอก็พยายามเรียนรู้จากพี่กัญญาหรือพี่แก้วที่ตอนนี้กำลังตั้งครรภ์ได้หกเดือนหญิงสาวต้องเรียนรู้ทุกอย่างก่อนที่เลขาของเขาจะลาคลอด“พี่แก้วคะเอกสารตรงนี้ชัญญ่าเรียงถูกแล้วหรือเปล่าคะ”“ถูกแล้วน้องชัญญ่าเรียนรู้งานได้เร็วมากๆ แบบนี้พี่น่าจะลาคลอดได้อย่างสบายใจ”“พี่แก้วแค่ลาคลอดนะคะไม่ใช่ว่าเลี้ยงลูกเพลินแล้วไม่กลับมาทำงานล่ะ” มญชุ์ชัญญารีบบอกเพราะกลัวว่าเธอจะไม่มาทำงานเป็นเลขาของทินภัทรอีก“ถ้าพี่ไม่กลับมาจริงๆ ล่ะ” กัญญาถามภรรยาของเจ้านายที่สอนงานจนตอนนี้เริ่มสนิทกันมากแล้ว“ไม่ได้นะคะพี่แก้ว ชัญญ่าไม่ถนัดงานแบบนี้เลย”“แต่พี่ว่าชัญญ่าก็ทำได้ดีนะ”“พี่แก้วแกล้งชมชัญญ่าเพราะรู้ว่าชัญญ่าเป็นภรรยาพี่ทินหรือเปล่า”“เปล่าเลยพี่ไม่ได้แกล้งชมพี่พูดทุกอย่างไปตามเนื้อผ้า”“พี่แก้วรำคาญไหมคะที่ชัญญ่าชอบถามพี่แก้วบ่อยๆ” หญิงสาวรู้สึกเกรงใจมากแต่ถ้าไม่ถามก็กลัวว่าจะทำงานไม่เรียบร้อยและปัญหาจะตามมาถ้าหากพี่กัญญาลาคลอดไปแล้ว“ไม่หรอกที่ชัญญ่าถามพี่เพราะช
คำสารภาพรับที่ออกมาจากปากของทั้งสองมันเหมือนเชื้อไฟที่โหมกระหน่ำลงบนกองเพลิงแห่งตัณหาทินภัทรก้มลงจูบเธออย่างเร่าร้อนก่อนจะใช้เข่าดันเรียวขาของหญิงสาวให้แยกออกจากกัน มือใหญ่จับท่อนเอ็นร้อนลากลงบนกลีบกุหลาบให้น้ำหวานอาบทั่วปลายหยักแล้วกดแก่นกายเข้ามาหาเธอทีเดียวจนสุดความยาว“อ๊ะ!....”หญิงสาวสะดุ้งตกใจเพราะไม่คิดว่าทินภัทรจะกระแทกเข้ามาพรวดเดียว แต่เธอก็รับความใหญ่โตของเขาไว้ได้ทั้งหมด“อ่า...ตอดแน่นจัง”“ก็ชัญญ่าเสียวของพี่ทินทั้งใหญ่ทั้งยาว”“ชอบหรือเปล่า”“ถ้าตอบว่าชอบมันจะน่าเกลียดเกินไปไหม”“ไม่น่าเกลียดเลยพี่ชอบกินของชัญญ่าพี่ยังพูดตรงๆ พี่ก็อยากรู้ว่าชัญญ่าชอบน้องชายของพี่บ้างหรือเปล่า”“ชอบค่ะพี่ทิน พี่ทินสัญญากับชัญญ่าได้ไหมว่าจากนี้จะมีแค่ชัญญ่าคนเดียวจะไม่ไปนอนกับผู้หญิงอื่น”“พี่ไม่สัญญาแต่พี่สาบานเลยนะว่าจากนี้พี่จะมีชัญญ่าเป็นเมียคนเดียว จะทำให้ชัญญ่ามีความสุขแบบนี้คนเดียว”ชายหนุ่มพูดขณะที่สะโพกก็เริ่มปรับจังหวะให้เร็วขึ้นไปตามอารมณ์ มือใหญ่ฟอนเฟ้นอกอิ่ม หญิงสาวแอ่นโค้งเข้าหาอย่างห้ามไม่อยู่ เสียงหวานครางชื่อเขาไม่ขาดปากเมื่อปลายท่อนเอ็นกระแทกกระทั้นเข้าหาจุดอ่อนไหว ปากร