Beranda / รักโบราณ / พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่ / บทที่ 2 ไม่ใช่เรื่องจริงใช่หรือไม่ (1/4)

Share

บทที่ 2 ไม่ใช่เรื่องจริงใช่หรือไม่ (1/4)

last update Terakhir Diperbarui: 2024-11-23 18:34:38

2

ไม่ใช่เรื่องจริงใช่หรือไม่

            ภายในโรงเตี๊ยมแห่งนี้มีคนเข้ามานั่งกินอาหารไม่น้อยเนื่องจากราคาไม่สูงมากจนเกินไป แต่เนื่องจากที่นี่ไม่มีห้องส่วนตัวคุณหนูคุณชายส่วนใหญ่จึงไม่ค่อยนิยมนัก

            เพราะจะได้มองดูปาหี่ที่สาวใช้คนสนิทแหวกกลุ่มคนเข้าไปดู นางจึงเลือกที่จะนั่งบริเวณชั้นสอง ก่อนจะสั่งอาหารมาสามอย่างเพื่อกินระหว่างรอสาวใช้

            ‘นั่นมันคุณหนูซิว คนงามจากจวนราชครูไม่ใช่หรือ’ เป็นบุรุษผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นดึงความสนใจให้นางก้มลงไปมองเบื้องล่างตามพวกเขา

            ‘งดงามสมคำเล่าลือจริง ๆ’

            เมื่อมีโอกาสได้เพ่งพิศเช่นนี้ นางคิดว่าพี่ใหญ่งดงามกว่าสตรีผู้นี้มาก หากไม่ติดว่าเป็นบุรุษคงเป็นที่หมายปองของบุรุษในเมืองหลวง เผลอ ๆ ได้เข้าวังเป็นนางสนมของฮ่องเต้ แต่เอาเถิดหากกวาดสายตามองสตรีทั่วเมืองหลวงคุณหนูจวนราชครูผู้นี้ก็ถือว่าเป็นหญิงงามคนหนึ่ง

            ‘งดงามเช่นนี้คงมีคู่หมายแล้วกระมัง’

            ‘นางยังไม่มีคู่หมายหรอก’ เป็นบุรุษผู้หนึ่งตอบ

            ‘เพราะเหตุใดเจ้าถึงทราบ’

            ‘ก็จงเซ่อชื่นชอบคุณหนูซิวอย่างไรเล่า’

            ‘ใช่! ข้าเฝ้ามองนางมานานแล้ว นางงดงามและมีจิตใจอ่อนโยน’ น้ำเสียงเคลิบเคลิ้มหลงใหลของบัณฑิตผู้นั้นทำให้นางแทบจะสำลัก

            ‘จวนราชครูเคยไปทำโรงทานแจกจ่ายอาหารยามที่เมืองจินเซ่อประสบภัยแล้ง จงเซ่อที่เคยได้รับความช่วยเหลือจึงประทับใจคุณหนูผู้นั้น’ เพราะเช่นนี้พวกเขาที่สนิทกับอีกฝ่ายจึงพลอยได้รู้จักคุณหนูผู้จิตใจอ่อนโยนไปด้วย

            ‘แต่ก็ได้แค่ฝัน’ บัณฑิตที่นิ่งเงียบและมีสีหน้าเย็นชาแปลกแยกจากผู้อื่นเอ่ยขึ้นอย่างไม่คิดรักษาน้ำใจ

            ‘คุนต๋า เหตุใดเจ้าถึงได้กล่าววาจาทำร้ายจิตใจสหายเช่นนั้น’ เป็นมู่เฉียงฮุยกล่าว

            ‘ก็เมื่อครู่ข้าเห็นคุณหนูคนที่พวกเจ้ากล่าวถึงยืนสนทนากับบุรุษรูปงามในตรอกข้างร้านร้างไร้ผู้คนตรงนั้น ดูท่าทางนางจะชื่นชอบบุรุษผู้นั้นมาก’

            เอ๋...มีคนเห็นด้วยหรือ เช่นนั้นบัณฑิตผู้นั้นก็เห็นนางที่แอบฟังอยู่น่ะสิ

            ‘เจ้าโกหก’

            ‘ข้าจะโกหกให้ได้อันใด’

            ‘จู่ ๆ ข้าก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมา ขอตัวลาสหายทุกท่าน’ กล่าวจบบุรุษนามว่าจงเซ่อก็ลุกออกจากโต๊ะไป

            ‘คุนต๋า เจ้าคนปากเสีย เห็นหรือไม่จงเซ่อเสียใจจนรีบร้อนกลับไปแล้ว’

            ‘เป็นถึงคุณหนูจวนราชครู อย่างไรวันหนึ่งก็ต้องแต่งไปกับบุรุษที่เหมาะสม ยกเว้นเขาจะกลายเป็นไท่จื่อ[1] หรือแท้จริงมีชาติกำเนิดเป็นถึงองค์ชาย จึงจะมีโอกาสที่สตรีผู้นั้นจะชายตามอง’

            ช่างเป็นบุรุษที่ไม่คิดรักษาน้ำใจผู้อื่นเลย ทำลายความหวังและความฝันของผู้อื่นในพริบตา

            ‘ที่เจ้าเอ่ยมามันก็ถูกต้อง แต่เจ้าก็ไม่ควรพูดออกมา’ สิ้นเสียงบัณฑิตอีกสามคนก็ลุกออกไป เหลือเพียงบุรุษที่ปากไม่ค่อยดีกับสหายอีกหนึ่งคน

            “ท่านช่างเก่งกาจเรื่องทำร้ายผู้อื่นด้วยวาจาไม่เปลี่ยน”

            “เป็นเพียงบัณฑิตหากทะเยอทะยานเกินไปจะนำภัยมาสู่ตัว”

            “ตามใจท่านเถิด”

            “แต่หากถามข้า ข้าว่าคุณหนูซิวผู้นั้นเป็นสตรีงดงามแต่มองนานไปก็น่าเบื่อหน่าย สู้สตรีที่ยืนแอบฟังอยู่ตรงหน้าร้านร้างก็ไม่ได้” วาจาของบัณฑิตผู้นั้นทำให้นางสะดุ้งไม่น้อย

            “เรื่องนี้ข้าตอบท่านไม่ได้เพราะข้าไม่ได้เห็นนางเช่นเดียวกับท่าน”

            “คุณหนู! บ่าวมาแล้วเจ้าค่ะ บ่าวได้เครื่องรางมาด้วย” เสียงที่ไม่เบาเลยของซูฉีทำให้นางแทบอยากจะมุดลงไปใต้โต๊ะ เพราะมันทำให้บัณฑิตทั้งสองคนนั้นหันมามองทางนาง เนื่องจากในตอนนี้ชั้นสองเหลือเพียงสองโต๊ะเท่านั้น

            “หึ!” บุรุษผู้นั้นเค้นเสียงในลำคอก่อนจะยกชาขึ้นจิบคล้ายกับเรื่องราวทั้งหมดไม่ได้ออกมาจากปากเขา

            “...” ส่วนบัณฑิตอีกคนก็เลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ

            “ที่นี่ไม่ใช่ในจวนนะซูฉี เจ้าอย่าได้ส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่นสิ”

            “ขออภัยเจ้าค่ะคุณชาย” สาวใช้คนสนิทของนางหันไปกล่าวกับบุรุษทั้งสองก่อนจะรีบเข้าไปหาคุณหนูของตนเอง

            “เจ้ามาก็ดีแล้ว เรารีบกลับกันเถิด ป่านนี้รองเท้าข้าที่ฝากให้เถ้าแก่เนี้ยแก้ให้คงเสร็จเรียบร้อยแล้ว”

            “แต่คุณหนูยังกินไปได้เพียงเล็กน้อย” ซูฉีเอ่ยพลางกวาดสายตามองอาหารบนโต๊ะ

            “ช่างเถิดน่า รีบกลับจวนได้แล้ว” นางเอ่ยก่อนจะรีบลากสาวใช้ให้เดินไปด้วยกัน ยามเดินผ่านโต๊ะของบัณฑิตผู้นั้นนางแสร้งหันไปสนทนากับสาวใช้เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเห็นใบหน้าของนางได้ชัดเจน

            ‘อับอายยิ่งนักที่ถูกจับได้ว่าลอบฟังคุณหนูซิวสนทนากับบุรุษ’ คิดว่าไม่มีใครเห็นท่าทางอยากรู้อยากเห็นของนางซะอีก

            เมื่อชั้นสองของโรงเตี๊ยมเหลือเพียงโต๊ะเดียว ความสงบก็กลับมาเยือนอีกครั้ง

            “เห็นหรือไม่สหาย ว่านางงดงามกว่าคุณหนูซิวผู้นั้น” บัณฑิตผู้มีสีหน้าเรียบเฉยกล่าวพลางมองไปที่ด้านล่างของโรงเตี๊ยม

            เพราะเมื่อครู่นางนั่งอยู่ในจุดที่อับสายตา บัณฑิตโง่เขลาพวกนั้นจึงไม่ทันได้เห็นว่าบนชั้นสองของโรงเตี๊ยมแห่งนี้ยังมีสตรีผู้มีใบหน้างามล้ำยิ่งกว่าคุณหนูซิว นั่งอยู่ด้วย

[1] องค์รัชทายาท หรือผู้สืบทอดตำแหน่งฮ่องเต้องค์ถัดไป

................................

อุตส่าห์ไปแอบดู ยังมีคนเห็นจนได้ น่าอับอายยิ่ง

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   ตอนพิเศษ : โปรดปรานจนวาระสุดท้าย (จบบริบูรณ์)

    โปรดปรานจนวาระสุดท้าย เวลาผ่านไปนานถึงยี่สิบห้าหนาว ฮ่องเต้คังเฟยหลงในวัยสี่สิบเจ็ด ป่วยและจากไปด้วยโรคประจำตัว แม้ในวังหลังจะมีสนมมากมาย แต่ทว่าฮ่องเต้กลับมีโอรสและธิดากับฮองเฮาเพียงสามพระองค์โดยสนมทุกคนจะถูกบังคับให้ดื่มน้ำแกงไร้บุตรก่อนที่จะเข้าถวายการรับใช้ ซึ่งฮ่องเต้จะเป็นผู้ยืนดูความเรียบร้อยด้วยตนเอง แม้จะมีฎีกาคัดค้านเรื่องนี้จากขุนนางมากมาย แต่ทว่าขุนนางเหล่านั้นก็จะโดนฮ่องเต้กล่าวหาว่ามักใหญ่ใฝ่สูงหวังอยากเป็นพระอัยกาของฮ่องเต้พระองค์ถัดไปทั้งคิดจะกลืนกินราชวงศ์ สุดท้ายจึงไม่มีใครกล้าโต้แย้งพระประสงค์ของฮ่องเต้ด้วยกลัวว่าจะต้องโทษกบฏ องค์ไท่จื่อที่ได้รับการแต่งตั้งจึงเป็นองค์ชายใหญ่ ส่วนองค์ชายรองก็รับหน้าที่ส่งเสริมพี่ชายโดยได้รับตำแหน่งอ๋อง และองค์หญิงก็ได้แต่งกับท่านราชบุตรเขยซึ่งเป็นแม่ทัพใหญ่ ทั้งสามพี่น้องรักใคร่เกื้อกูลกันเนื่องจากประสูติจากครรภ์ของฮองเฮา “ชินอ๋องซื่อจื่อแจ้งว่ายามได้รับทราบข่าวของพระองค์ ชินอ๋องและพระชายารีบเร่งเดินทางออกจากเมืองจิ่นเฟิงเพคะ” “อืม...แต่เจิ้นคงรอพวกเขาไม่ไหวหรอก อย่างไรฝากขอโทษพวกเขาด้ว

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   ตอนพิเศษ : หาคนรักให้มารดา (4/4)

    “อืม” คังซืออี้หน้าตึงไม่ค่อยพอใจอยู่บ้างที่เห็นพระชายาของตนส่งยิ้มให้โอรสสวรรค์ “ซีถิง อากลับก่อนนะ เอาไว้วันหน้าอาจะนำของเล่นมามอบให้” “พ่ะย่ะค่ะ” เด็กน้อยวัยห้าหนาวตอบรับเสียงอ่อน “ฟู่กงกง ส่งเสด็จฮ่องเต้” “เชิญพ่ะย่ะค่ะ” ฟู่กงกงรีบมาทำหน้าที่ พลางคิดว่าคงจะมีแต่ตำหนักนี้กระมังที่ให้ขันทีเป็นคนออกไปส่งฮ่องเต้ที่หน้าตำหนักหาใช่เจ้าของตำหนัก คล้อยหลังโอรสสวรรค์แล้ว พระชายาฟ่านก็หันหน้ามาจ้องหนึ่งบุรุษ หนึ่งเด็กน้อยที่หน้าตาคล้ายคลึงกันยิ่งนัก ไหนจะท่าทางก้มหน้าเล็กน้อยแล้วช้อนตาขึ้นมองเพื่อเรียกร้องความน่าสงสารนั่นอีก ‘สมแล้วที่เป็นพ่อลูกกัน’ นางเกือบเผลอยิ้มออกมาก่อนจะแสร้งทำหน้าเคร่งขรึม “ท่านแม่ขอรับ เรื่องนี้เป็นท่านพ่อที่ผิดนะขอรับ ลูกเพียงแต่น้อยใจ...” “บิดาเจ้าเพียงห่วงใยมารดา จึงไม่อยากให้เจ้าไปรบกวน พ่อผิดที่ใด” “หยุดเอ่ยวาจาเลยเจ้าค่ะ นับตั้งแต่นี้ชินอ๋องและชินอ๋องซื่อจื่อจะต้องย้ายไปอยู่เรือนท้ายตำหนักและถูกกักบริเวณเป็นเวลาสามวันห้ามก้าวเท้าออกจากเรือนท้

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   ตอนพิเศษ : หาคนรักให้มารดา (3/4)

    “ข้าคิดดีแล้วขอรับ ท่านอามาเป็นสามีใหม่ของมารดาข้าเถิด ข้ายินดีจะเรียกท่านว่าบิดาอย่างไม่อิดออด” “หน๊อย! เจ้าเด็กนี่ เฟยหลงเจ้าปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นะ” ชินอ๋องร้องโวยวายเมื่อถูกน้องชายจับตัวไว้หวังช่วยเหลือเจ้าเด็กมากมารยา “ท่านพี่ใจเย็น ๆ ก่อนเถิด ซีถิงยังเยาว์วัยนักท่านอย่าได้ถือสาเขาเลย” “ท่านพ่อคนใหม่ ช่วยข้าด้วยขอรับ เห็นหรือไม่ บิดาคนเก่าของข้าใจร้ายเพียงใด” ท่าทางก้มหน้าเล็กน้อยพลางตอบเสียงอ่อน ทำให้ผู้ใหญ่เอ็นดูได้ไม่อยาก แต่ยกเว้นบุรุษที่เจ้ามารยาไม่แพ้กันเช่นชินอ๋อง “หยุดเอ่ยเรียกผู้อื่นว่าบิดาได้แล้ว มิเช่นนั้นข้าจะลงโทษเจ้า” คังซืออี้รู้สึกอยากลงโทษบุตรชายก็คราวนี้ จะมารยาเรียกร้องความสนใจเช่นไรเขาไม่นึกถือสา แต่หากคิดจะหาบุรุษมาให้ชายาของเขา เขามีหรือจะยอม “จะลงโทษซีถิงด้วยเรื่องอันใดหรือเจ้าคะ” ฟ่านซีอิ๋งเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าจริงจัง นางถูกสาวใช้คนสนิทปลุกให้ตื่นหวังให้มาห้ามทัพระหว่างบุรุษทั้งสอง ด้วยกลัวว่าท่านอ๋องน้อยจะถูกลงโทษเพราะไปยั่วโทสะบิดาเข้า เรื่องที่แตะเกล็ดมังกรย้อนของชินอ๋องผู้นี้เห

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   ตอนพิเศษ : หาคนรักให้มารดา (2/4)

    “ท่านอ๋องสั่งไว้ว่าไม่ว่าใครก็ห้ามรบกวนขอรับ” “บังอาจ! พวกเจ้าไม่เห็นข้าเป็นนายหรือ” เด็กน้อยวัยห้าหนาวยืนกอดอกจ้องทหารยามด้วยสายตาดุ แต่ในสายตาผู้อื่นกลับดูน่ารักไปเสียได้ “ย่อมเห็นขอรับจึงไม่อยากให้ท่านอ๋องน้อยต้องถูกท่านอ๋องลงโทษที่ขัดคำสั่ง” “ปล่อย...” ชินอ๋องซื่อจื่อตัวน้อยยังส่งเสียงร้องโวยวายไม่ทันจบก็ถูกบุรุษตัวโตปิดปากแล้วอุ้มให้ออกห่างจากเรือน “ชายาข้ากำลังพักผ่อน เจ้าอย่าได้ส่งเสียงรบกวนนาง” เรียกได้ว่าเพิ่งได้นอนเมื่อตะวันฉายแสงจะดีกว่า ทำอย่างไรได้ในเมื่อเขาทั้งรักและโปรดปรานนางยิ่งนัก ทันทีที่ร่างเล็กถูกปล่อยให้เป็นอิสระ เจ้าตัวน้อยก็กอดอกแล้วต่อว่าผู้เป็นบิดาทันที “ท่านพ่อใจร้าย ไม่ยอมให้ข้าเจอท่านแม่เลย” “ซีถิง เจ้าโตแล้ว เป็นบุรุษจะทำตัวเป็นลูกแง่เกาะติดมารดาตลอดไปไม่ได้ ในภายหน้าเจ้าจะได้เป็นชินอ๋องที่น่าเกรงขาม เห็นหรือไม่ บิดาทำไปเพื่อฝึกฝนเจ้า” คังซืออี้กล่าวพลางตีหน้าเคร่งขรึมหวังหลอกล่อบุตรชายให้หลงเชื่อ ทั้งที่จริงแล้วยามเดินทางเขาไม่ได้ใกล้ชิดนางดั่งใจต้องการ

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   ตอนพิเศษ : หาคนรักให้มารดา (1/4)

    หาคนรักให้มารดา เสียงร้องโวยวายของเจ้าก้อนแป้งวัยห้าหนาวดังลั่นเรือนพร้อมเจ้าตัวที่กำลังดีดดิ้นและพยายามช่วยเหลือตนเองจากการถูกหิ้วคอเสื้อจากทางด้านหลัง “ท่านพ่อ ปล่อยข้านะขอรับ ข้าจะไปหาท่านแม่” เด็กน้อยเอื้อมแขนสั้น ๆ ของตนพยายามแกะมือที่จับยึดคออาภรณ์ของเขา “ท่านแม่เจ้ากำลังพักผ่อนให้คลายจากความเหน็ดเหนื่อยเจ้าอย่าได้ไปรบกวน” “นี่มันยามโหย่ว (17.00-18.59) แล้วนะขอรับ” “แล้วอย่างไร มีกฎข้อใดไม่ให้ชายาข้าพักผ่อนในยามโหย่ว (17.00-18.59)” “ก็มันใกล้จะมืดค่ำแล้วขอรับ” ประเดี๋ยวอีกหนึ่งชั่วยามก็ต้องเตรียมตัวเข้านอนอีก “เจ้ายังเด็กนัก บิดาจึงไม่อาจบอกได้ว่าแท้จริงยามค่ำคืนคนที่เติบโตแล้ว ไม่ต้องเข้านอนก็ได้” “ท่านพ่อกำลังโกหกข้า อีกอย่างหากท่านแม่ทราบว่าข้ากำลังร้องเรียกหา ท่านแม่หรือจะเมินเฉย” “ที่เจ้ากล่าวมาก็ไม่ผิด ด้วยเหตุนี้พ่อจึงได้พาเจ้ากลับมาที่เรือนแยก แม่นม จือไห่ จือซวน จือหม่า จือหมิง” “เพคะ/พ่ะย่ะค่ะ” คนที่รออยู่ด้านนอกรีบวิ่งเข้ามาพลางโค้งตัวรอรับคำส

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่    ตอนพิเศษ : การยั่วยวนฮูหยินของฟ่านไห่ถิง (5/5)

    “ในเมื่อพี่ตกลงกราบไหว้ฟ้าดินกับเจ้าแล้ว ชั่วชีวิตไม่ว่าจะทุกข์หรือสุขพี่ย่อมมีเจ้าเป็นสตรีเพียงคนเดียวในเรือนหลัง หากเจ้าลองสังเกตดี ๆ เจ้าจะพบว่านอกจากบิดาของพี่จะมีฮูหยินเพียงคนเดียวแล้ว สหายของพี่ที่เป็นถึงชินอ๋อง ก็ยังแต่งพระชายาคือน้องสาวของพี่เพียงคนเดียว ไร้อนุฯ หรือสาวใช้อุ่นเตียง บ่งบอกว่าพวกเราคนตระกูลฟ่านต้องการมีรักเดียวชั่วชีวิต” “นี่ท่าน!” หูเซียงเฟยตกใจยิ่งนัก มิคิดว่าเขาจะคิดเช่นนั้นมาโดยตลอด “เช่นนั้นเจ้าอย่าได้เอ่ยถึงเรื่องข้อเสนอนั่นอีกเลย ในเมื่อการกราบไหว้ฟ้าดินของเราเกิดขึ้นเพราะความเต็มใจ” สิ้นเสียงเขาก็เชยคางมนขึ้นก่อนจะกดริมฝีปากทาบทับลงบนกลีบปากสีอ่อน ลิ้นร้อนบุกรุกโพรงปากนุ่มเป็นครั้งแรก ก่อนหน้านี้เขาจงใจทำให้นางคุ้นเคยกับสัมผัสของเขาจึงทำเพียงกินเต้าหู้นางเล็ก ๆ น้อย ๆ ลิ้นร้อนลิ้มรสความหวานจากโพรงปากนุ่ม ลิ้นเรียวเล็กของนางพยายามตอบรับสัมผัสของเขาอย่างเก้ ๆ กัง ๆ ยิ่งทำให้เข้าปรารถนาอยากจะกดนางลงบนเตียงแล้วทำให้นางกลายเป็นฮูหยินของเขาเต็มตัว “เซียงเซียง เจ้าหวานเหลือเกิน” เขากล่าวพลางจ้องมองนางด้ว

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status