หกเดือนต่อมา
หลังจากที่จดทะเบียนสมรสกันในวันนั้น พจีพัฒน์ได้แอบมาคุยและทำสัญญาข้อตกลงกัน โดยที่พจีพัฒน์สั่งห้ามไม่ให้พีรดาแสดงตนต่อหน้าคนอื่นเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ หรือด้านนอกว่าเป็นสามี-ภรรยากัน ตลอดในระยะเวลาของ 5 ปี ที่ยังจดทะเบียนสมรสกัน
ซึ่งพีรดาเองก็ยอมรับข้อเสนอนี้โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ เพราะตั้งแต่ที่เธอท้อง แล้วหยุดพักการเรียน ก็ไม่ได้ออกไปไหนเลย แถมยังขาดการติดต่อจากไลลา เพื่อนสนิทของเธออีกเพราะไม่อยากให้เพื่อนรับรู้ เรื่องราวของเธอด้วย
และตั้งแต่ที่พีรดาท้อง นิษฐาก็ไม่ได้ติดต่อหรือพานัชชามาที่นี่อีกเลย เพราะกลัวว่าหญิงสาวจะเจอกับพีรดาเข้าแล้วความแตกเสียก่อน จึงได้แต่รอให้พีรดาคลอดก่อน หลังจากนั้นจะโกหกว่ารับเด็กมาเลี้ยงก็ไม่มีใครทราบ
ส่วนทางด้านของพงศกร ที่เห็นพีรดาเป็นเหมือนน้องสาวแท้ๆ อีกคน นับตั้งแต่ที่เธอเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ใหม่ๆ โดยทุกๆเย็นหลังเลิกงาน ชายหนุ่มจะหิ้วของกินมาให้เธอตลอด เพราะน้องชายไม่ยอมดูแลพีรดาในเรื่องนี้เลย
ส่วนทางพีรดาเองที่ตอนนี้ท้องโตมากแล้ว ใกล้จะถึงกำหนดคลอดในไม่กี่วันนี้เอง ร่างอุ้ยอ้ายเดินเหินไม่ค่อยสะดวก พักหลังๆมานี้เธอเอาแต่เก็บตัวอยู่แต่ในห้องพักของเธอตลอดไม่ค่อยไปสุงสิงกับใครเลย
หลังจากวันนั้น พัฒน์พงษ์อนุญาตให้เธอพักที่บ้านหลังใหญ่หรือว่าพักที่ห้องของพจีพัฒน์หรืออยู่ด้วยกันได้ แต่หญิงสาวปฏิเสธเพื่ออยากให้พจีพัฒน์และนิษฐาสบายใจ โดยให้เหตุผลกับทางผู้อาวุโสของบ้านว่า เธอท้องอาจจะขึ้นลงบันไดไม่ค่อยสะดวกนัก เลยขอพักที่เดิมของเธอแทน ซึ่งก็คือบ้านพักของแม่บ้านนั้นเอง
ปัง ปัง ปัง
เสียงทุบประตูห้องพักของพีรดาดังขึ้นมาสองสามครั้ง จากทางด้านนอก ด้วยกำปั้นของพจีพัฒน์เอง แถมดังขึ้นมาเรื่อยๆ เมื่อคนด้านในไม่ยอมเปิดประตู
“ยัยเปีย เปิดประตู นี้จะล็อคห้องทำไม รู้ว่าตัวเองท้องแก่อยู่” เสียงบ่นของพจีพัฒน์พ่นออกมาอย่างหัวเสีย เมื่อทั้งทุบทั้งเคาะหญิงสาวด้านในก็ไม่ยอมเปิดประตู
“คุณพีทมีอะไรให้ป้าช่วยไหมค่ะ” พิมพาเดินมาเห็นเข้าพอดี จึงถามขึ้น
“ผมเรียก ยัยเปียไม่ยอมเปิดประตูเลยครับป้าพิมพ์” พจีพัฒน์ตอบออกไป
“ท่าจะหลับลึกนะค่ะ...เดี๋ยวป้าลองเรียกดูก่อนนะค่ะ” พิมพาพูดขึ้น พร้อมกับเคาะประตูห้องของหญิงสาวทันที
ก็อก ก็อก ก็อก
“หริ่ง...ไอ้หริ่ง” พิมพาตะโกนเสียงดังจากทางด้านนอกเรียกอยู่หลายต่อหลายครั้ง แต่คนด้านในก็ยังคงเงียบสนิทอยู่
“ป้าถอยออกมาครับ...ผมจัดการเอง” พจีพัฒน์ เมื่อเห็นว่าคนด้านในยังไม่ยอมตอบโตหรือเปิดประตูออกมา จึงบอกให้พิมพาถอยออกมาให้ห่างจากประตู
“คุณพีทจะทำอะไรค่ะ” พิมพาตาเบิกกว้างขึ้นมาทันที เมื่อเห็นว่าพจีพัฒน์กำลังจะทำอะไร
“ผมรับผิดชอบเองครับ ป้าถอยไปห่างๆดีกว่า” พจีพัฒน์ไม่รอช้า
ร่างสูงกระโดดถีบเข้าที่ประตูห้องของพีรดาอย่างแรง ทำให้ประตูเปิดกว้างทันที
ปัง
“โห่...นี้หลับหรือซ้อมตายว่ะ” พจีพัฒน์สบถออกมาทันที เมื่อเดินเข้าไปที่ห้องของพีรดา ที่ตอนนี้ยังคงหลับสนิทอยู่บนที่นอน โดยไม่ได้รู้สึกถึงผู้มาเยือนเลยแม้แต่น้อย
ร่างสูงยืนจ้องมองหญิงสาวที่ยังคงหลับสนิทบนที่นอนอยู่นาน พร้อมกับสายตาที่สำรวจกวาดมองไปทั่วห้อง และเห็นสมุดโน๊ตเล่มหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะ จึงเดินเข้าไปหยิบเปิดดู
หญิงสาวที่ตอนนี้เริ่มรู้สึกบิดร่างกายไปมาอยู่บนที่นอน พร้อมกับพยายามที่จะลืมตาขึ้นมา
“อื้ิม...หาว อ้าว...คุณพีทเข้ามาที่ห้องหริ่งได้ยังไงกัน” หญิงสาวถามออกมา เมื่อเห็นพจีพัฒน์นั่งอยู่ที่เก้าอี้แล้วจ้องมองมาที่เธอ
“พังเข้ามา...” เสียงเข้มตอบออกมาตามตรง
“ห๊า...” พีรดาเบิกตากว้างขึ้นมาทันที ที่ได้ยินพร้อมกับมองไปที่ประตูที่ตอนนี้เปิดอ้ากว้างอยู่
ร่างสูงลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินเข้าไปใกล้หญิงสาวที่นั่งบนเตียงทันที พร้อมกับยกมือแตะไปที่หน้าผากของหญิงสาว แล้วถามขึ้น
“เป็นอะไร...ไม่สบายหรือเปล่า เรียกตั้งนาน แล้วใครบอกให้ล็อคประตู” พจีพัฒน์ตั้งคำถามขึ้นมาทันที
“แค่เพลียๆ วันนี้รู้สึกว่าจะง่วงมากเป็นพิเศษยังไงไม่รู้” พีรดาตอบออกไปตามตรง
“ลุกขึ้นมากินข้าวได้แล้ว จะได้กินยา...” ร่างสูงเอ่ยบอก พร้อมกับสลัดผ้าห่มออกจากตัวของหญิงสาว
“โอ้ยยย...” พีรดาร้องขึ้นมาทันที ที่เท้าเหยียบพื้น พร้อมกับกุมท้องเอาไว้
“เป็นอะไร...น้ำ นี้เธอ...” พจีพัฒน์ถามออกมา พร้อมกับเข้าไปช่วยพยุงหญิงสาวไว้ แต่ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นคราบน้ำที่เปียกชุ่มชุดของหญิงสาว
“...โอ้ยยย ท้องปั้นยังไงไม่รู้” หญิงสาวเอาแต่ส่ายหน้าพูด พร้อมกับมือที่ประคองท้องเอาไว้
“หริ่ง...นี้แกจะคลอดเหรอ” พิมพาถามขึ้น เมื่อเดินกลับมาอีกครั้ง
“...แล้วผมต้องทำยังไงครับป้า” พจีพัฒน์ยืนตัวชาไปสักพักเพราะทำอะไรไม่ถูก และเมื่อตั้งสติได้ ถามพิมพากลับไปทันที
“เดี๋ยวป้าโทรแจ้งให้รถพยาบาลมารับค่ะ คุณพีทพานังหริ่งออกไปรอที่หน้าตึกใหญ่ได้เลยค่ะ” พิมพาพูดขึ้นมา แล้วรีบไปโทรศัพท์ทันที
“เดินไหวไหม” พจีพัฒน์หันมาถามทางหญิงสาว ที่ตอนนี้แทบจะยืนทรงตัวแทบไม่อยู่
“โอ้ยยย...”
เมื่อเห็นว่าพีรดายืนประคองตัวเองแทบจะไม่ไหว พจีพัฒน์จึงตัดสินใจอุ้มเธอขึ้นมาทันที ในท่าเจ้าสาว อย่างอยากลำบากเพราะเธอตัวหนักขึ้นมามาก แล้วรีบพาหญิงสาวออกจากห้องพักไปทันทีอย่างรีบร้อน
“ตาพีท หนูหริ่งเป็นอะไร” พัฒน์พงษ์ที่พึ่งจะลงจากรถมาถามขึ้นทันที ที่เห็นลูกชายคนเล็กอุ้มหญิงสาวท้องโตมา
“น่าจะเจ็บท้องคลอดนะครับพ่อ น้ำเดินแล้วด้วย” พจีพัฒน์ตอบพ่อออกมา พร้อมกับใบหน้าที่เริ่มดูเป็นกังวล
“แล้วพิมพ์ล่ะ...” พัฒน์พงษ์ถามหาป้าของหญิงสาวทันที
“โทรเรียกรถพยาบาลอยู่ครับ...” พจีพัฒน์ตอบพ่ออกไปตามตรง
“ฮึก...ไม่ไหวแล้วหริ่งเจ็บ โอ้ยยย” พีรดาที่เริ่มทนต่อความเจ็บปวดไม่ไหว ร้องออกมาอย่างห้ามไม่ได้
“ไม่ทันการแล้ว...พาเมียไปขึ้นรถ พ่อขับเอง” พัฒน์พงษ์สั่งการลูกชายทันที อย่างเร่งรีบ เมื่อทนมองดูสภาพที่เจ็บปวดของหญิงสาวไม่ไหว
บนรถ
“รถมาติดอะไรอะไรตอนนี้ว่ะ” พัฒน์พงษ์สบถออกมาอย่างโมโหอยู่ไม่น้อย แต่ต้องควบคุมสติเอาไว้เพราะว่าทำหน้าที่เป็นคนขับรถอยู่
“หริ่ง...ไม่ไหวแล้ว เจ็บ ฮึกกก...” หญิงสาวที่นั่งอยู่บนตักของชายหนุ่มร้องโอดโอยออกมาด้วยความเจ็บปวด พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้
“หริ่ง...หายใจเข้าลึกๆ ใกล้จะถึงแล้ว อดทนน่ะเพื่อลูก...” พจีพัฒน์พยายามเอ่ยปลอบ พร้อมกับมืออีกข้างที่ว่างยกขึ้นมาเช็ดน้ำตาให้แก่หญิงสาว
“...หริ่งจะอดทน เพื่อลูก ลูกของเรา” หญิงสาวพูดออกมาอย่างเหนื่อยหอบเพราะความเจ็บปวด แต่ต้องกัดฟันฝืนยิ้มสู้
และไม่นานนักรถ พัฒน์พงษ์ก็ขับรถพาหญิงสาวมาถึงยังโรงพยาบาล และพีรดาก็ถูกนำตัวส่งเข้าไปที่ห้องคลอดอย่างเร่งด่วน
สารภาพรัก“หรีดหริ่ง...มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้คนเดียว ข้างนอกมีแต่กลิ่นบุหรี่ทั้งนั้นเลยน่ะ” ชนาภัทรที่ตามพีรดาออกมาจนถึง ถามขึ้นเมื่อเห็นหญิงสาวมานั่งลงข้างๆกับรถของพจีพัฒน์“ภัทร...มีอะไรเหรอ?” พีรดาถามขึ้น เมื่อเห็นว่าเสียงร่างสูงนั้นเป็นใคร แล้วลุกขึ้นยืนทันที“ฟู่ว์...เอาตรงๆเลยนะ เราชอบหริ่งน่ะ มาเป็นแฟนกับเราได้ไหม” ชนาภัทรเป่าลมออกทางทันที เพื่อรวบรวมความกล้าที่จะพูดออกมา“ภัทร” หญิงสาวทำตัวไม่ถูกขึ้นมา หันหน้ามองไปมาทางอื่น เพราะไม่คิดว่าชนาภัทรจะพูดอะไรแบบนี้ออกมา“เดิมทีเราให้ไอ้พีทมันช่วย เพราะเห็นว่าหริ่งกับมันสนิทกัน แถมอยู่บ้านหลังเดียวกันอีก แต่มันไม่ยอมทำอะไรเลย แม้แต่เบอร์โทร ที่เราเคยขอเบอร์หริ่งไปกับมันตั้งนานแล้ว แต่มันก็ไม่ยอมให้อ้างเหตุผลตลอด วันนี้ถือว่าเป็นโอกาสที่ดี และตรงกับวันเกิดเราด้วย เราเลยอยากจะขอโอกาสกับหริ่งดูสักครั้ง” ชนาภัทรร่ายยาวออกมาอธิบายถึงถึงความในใจของเขา ที่มีต่อหญิงสาวอย่างจริงใจ“ภัทร...เราบอกตรงๆน่ะ เราไม่อยากให้ภัทรหรือใครมาเสียเวลากับเราเลย...” พีรดาพูดออกมาตามตรง เพราะตอนนี้ชีวิตเธอไม่ได้ตัวคนเดียว“หริ่งยังไม่ต้องตอบ หรือปฏิเสธเราตอนน
พ่อสื่อ(รัก)ทุกคนยังคงนั่งดื่ม และคุยกันอย่างเพลิดเพลิน บางคนก็ลุกขึ้นไปโยกเต้นบ้าง เพราะนานๆที ที่จะได้ออกมาปลดปล่อยแบบนี้ และก็มารวมตัวกันต่ออยู่ที่เดิม จวบจนถึงเวลเดินทางมาถึงเกือบเที่ยงคืน“เวลานี้ เรามาฉลองกันน่ะภัทร ไม่ใช่เวลามาถามแต่เรื่องเรียนกัน อยู่ข้างนอกเราไม่คุยเรื่องเรียนกันน่ะ เข้าใจนะทุกคน” อารยาขัดขึ้นมาเสียก่อน เมื่อชนาภัทรเอาแต่พูดเรื่องเกี่ยวกับแต่การเรียน และสังเกตุเห็นท่าทีอ้ำอึ้งของพีรดาที่ลำบากใจด้วย“ใช่แล้ว หนึ่งพูดถูก สุขสันต์วันเกิดกับเพื่อนทั้งสองด้วยน่ะ มีความสุขมากๆน่ะสุดหล่อทั้งสองของฉัน” เอกณัฐเอ่ยชมเพื่อนสาวทันที แล้วหันไปทางเจ้าของวันเกิดทั้งสอง“ขอโทษด้วยน่ะทุกคน เต็มที่ได้เลยไม่ต้องเกรงใจ คืนนี้เรากับไอ้พีทเป็นเจ้าภาพเอง” ชนาภัทรพูดขึ้นมา พร้อมกับชูแก้วเครื่องดื่มขึ้นด้านณิชาที่แอบมาตามหลัง เพราะพึ่งทราบว่าวันนี้เป็นวันเกิดของพจีพัฒน์ และทราบว่าทุกคนฉลองกันที่ไหน จึงรีบตามมา ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครเชิญมาก็ตามเมื่อทุกคนต่างกินดื่มกันอย่างสนุกสนาน แต่เจ้าของวันเกิดกลับไม่ยอมดื่ม เอาแต่สั่งการกัน เพราะวันนี้เป็นวันที่ชนาภัทรทวงคำตอบจากพจีพัฒน์ ที่เคยให
For Youตกเย็นร่างบางอันเปลือยเปล่ายังคงหลับสนิทอยู่แนบอกแกร่งของร่างสูง โทรศัพท์มือถือของเธอและเขาดังขึ้นมาหลายต่อหลายครั้ง แต่ร่างสูงไม่กล้ารับ เพราะเป็นเพื่อนๆที่โทรฯมา คงจะโทรฯมาถามว่าทำไมพวกเขาถึงไม่เข้าเรียนละสิสายตาคมจ้องมองสำรวจใบหน้าหวานที่หลับสนิทอยู่แนบอกอย่างพิจารณา เพราะนี้ก็ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ได้สำรวจทุกรูขุมขนบนใบหน้าของเธอเป็นครั้งแรก มือสากลูบแก้มนวลเบาๆ พร้อมกับสายตาที่สื่อถึงความห่วงใยออกมาอย่างเห็นได้ชัดและเมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้ ร่างสูงดึงลิ้นชักที่หัวเตียงออกมา พร้อมกับหยิบกล่องกำมะหยี่สีแดงสดไม่ใหญ่มากออกมา ซึ่งภายในประกอบไปด้วย สร้อยข้อมือที่ผลิตจากทองคำขาวที่เขาสั่งทำเป็นพิเศษ มีจี้ประดับตกแต่ง ซึ่งมีตัวอักษรภาษาอังกฤษในจี้ระบุว่า ‘For you’ ซึ่งเป็นชื่อเล่นของลูกชายของเขาและเธอนั้นเอง มือหนาหยิบขึ้นมามองสำรวจอีกที แล้วจึงบรรจงสวมให้แก่ข้อมือด้านซ้ายของร่างบาง โดยที่เธอยังคงหลับสนิท ไม่รับรู้อะไรเลย“อื้อพีท...” เสียงอู้อี้ดังออกมาจากร่างบาง เมื่อถูกรบกวนการนอน“อื้ม...คิดว่าเป็นใครล่ะ” เสียงนุ่มตอบรับกลับไป แล้วถามร่างบางตรงหน้าที่ยังนอนแนบอยู่กับอกแกร่ง“
บทลงโทษ NCคอนโดฯหรูกลางเมืองกรุงเมื่อลากหญิงสาวออกมาจากมหาวิทยาลัยได้แล้ว พจีพัฒน์ขับรถตรงมายังคอนโดหรูสูงเสียดฟ้าของพวกเขาทันที เพราะไม่รู้ว่าจะพาหญิงสาวไปที่ใด เพราะทั้งคู่ก็ยังสวมใส่ชุดนักศึกษากันทั้งคู่“พากลับมาที่คอนโดฯทำไม” หญิงสาวถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจ เมื่อร่างสูงพาเธอกลับมาที่คอนโดฯคืน แทนที่จะพาไปที่อื่น“แล้วจะให้ไปไหนละ...ชุดก็ยังเป็นชุดนักศึกษาอยู่” ร่างสูงเปิดประตูเข้ามาตามหลังร่างบาง แล้วพูดขึ้นพร้อมกับเปลี่ยนรองเท้า“...” หญิงสาวไม่เอ่ยตอบกลับมา เอาแต่เดินไปทางห้องของเธออย่างเบื่อหน่ายร่างสูงรีบก้าวเท้ายาวตามหญิงสาวไปอย่างเร่งรีบ แล้วเอาตัวเขามาขวางทางหญิงสาวเอาไว้ทันที ไม่ให้เธอได้เข้าห้องของตัวเอง แล้วจับแขนเธอไว้“เดี๋ยว...ใครอนุญาตให้เข้าห้องนี้” พร้อมกลับถามขึ้น“อ้าว...ก็นี้มันห้องหริ่งนะ ว้ายยยย” ร่างบางไม่ทันที่จะได้ถามอะไรให้มากความ ก็ต้องร้องออกมาอย่างตกใจ เมื่อร่างสูงอุ้มเธอขึ้นมาในท่าเจ้าสาวโดยไม่พูดอะไร“จะ จะทำอะไร” หญิงสาวถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ติดขัดอยู่ในลำคอ“ทำโทษ...” เสียงเข้มตอบกลับเพียงแค่สั้นๆพจีพัฒน์อุ้มหญิงสาวเดินไปทางห้องนอนของเขาต่อทันที โ
ออกอาการหึงทั้งคู่นั่งทานอยู่ที่ห้องจนเสร็จเป็นที่เรียบร้อย แล้ว พีรดาก็ไม่ลืมที่จะทานยาที่ร่างสูงออกไปซื้อมาให้ อย่างเลี่ยงไม่ได้เพราะเธอไม่อยากจะท้องตอนนี้อีก“ต่อไปพีทจะป้องกันเอง หริ่งหริ่งจะได้ไม่ต้องกินยา” เสียงเอ่ยบอกเมื่อช่วยเธอทำความสะอาดเก็บของเข้าที่เดิมทีพจีพัฒน์ไม่เคยทำอะไรพวกนี้มาก่อน เพราะการที่ได้เป็นลูกชายคนเล็กของบ้าน ชายหนุ่มแทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย อยากได้อะไรต้องการอะไร ทุกคนในบ้านพร้อมจะประเคนถวายให้ทุกอย่าง ข้อเสียคือนิสัยที่เอาแต่ใจตัวเอง ทำอะไรไม่เป็นเลยนอกจากที่มีหน้าที่เรียนอย่างเดียว ส่วนข้อดีของเขาก็คือเชื่อฟังพ่อแม่แต่นิสัยที่เอาแต่ใจตัวเอง ชอบให้คนอื่นตามใจ ก็เริ่มถอดถอยเมื่อได้ใช้ชีวิตกับหญิงสาว เมื่อก่อนอะไรที่ทำไม่เป็นก็จะไม่ยอมทำ แต่ทุกวันนี้เริ่มเปลี่ยนแปลง เรียนรู้จากหญิงสาวมาบ้างแล้ว“พีท พีทเอาใจใส่หริ่งแบบนี้ มันทำให้หริ่งลำบากใจนะรู้ไหม” หญิงสาวพูดขึ้นมา เมื่อเห็นว่าร่างคอยเอาใจใส่ดูแลเธอดีกว่าเมื่อก่อนมาก“ลำบากใจอะไร พีทก็ทำหน้าที่ของพีทตรงนี้อยู่ไงไม่ดีเหรอ เป็นพ่อให้ฟอร์ยู และเป็นสามีให้กับหริ่งหริ่งยังไงล่ะ” ร่างสูงหยุดทุกการกระทำแล้วหันมา
ดูแลเอาใจใส่ทางด้านของพีรดาเองที่พาลูกชายขึ้นมานอนอยู่บนห้องของเธอ ใช้เวลาไม่เพียงไม่นานนักลูกชายของเธอก็หลับ หญิงสาวเลยมานั่งลงที่เก้าอี้ตรงหน้าต่างทอดสายตามองออกไปยังด้านนอก เห็นรถที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี เลี้ยวเข้ามาภายในบ้านพจีพัฒน์ที่ออกไปซื้อของข้างนอกมากลับมา ถือถุงพะรุงพะรังเต็มไม้เต็มมือไปหมด เดินเข้ามาภายในบ้าน พิมพาจะเข้าไปช่วยถือก็ไม่ยอมให้ช่วย แล้วเดินขึ้นมาหาหญิงสาวที่อยู่ภายในห้องของเธอกับลูกชายทันทีร่างสูงเปิดประตูเข้ามาภายในห้องของหญิงสาวอย่างเงียบๆ กลับต้องพบกับความเงียบ มีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศที่กำลังทำงาน สายตาคมมองไปยังลูกชายตัวน้อยของเขาที่นอนหลับปุ๋ยอยู่บนฟูนุ่มบนที่นอนกว้างนั้น แต่กลับไม่พบหญิงสาวแม่ของลูกชายเขาเลย สายตาคมกวาดมองไปรอบๆห้อง แล้วสายตามองไปเห็นร่างบางนั่งอยู่บนเก้าอี้ตรงหน้าต่างจึงเดินเอาของที่ซื้อมาไปวางไว้ที่โต๊ะ แล้วเดินเข้าไปหาหญิงสาวที่นั่งเหม่ออยู่ที่ริมหน้าต่างของห้องทันที“มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้...เงียบๆ” เสียงนุ่มเอ่ยขึ้นเบาๆที่ข้างหูของหญิงสาว“พะ พีท...” หญิงสาวสะดุ้งตื่นจากภวังค์ทันที แล้วหันไปตามเสียงนั้น ทำให้ปลายจมูกชนเข้าก