“แกสทอน..”
ชื่อของเขายังถูกเรียกขานออกมาจากริมฝีปากของท่านหญิงนาทาเลียไม่หยุดเลย และยิ่งเธอเรียกชื่อเขาออกมาด้วยน้ำเสียงที่กะเซ่าเช่นนั้นมันยิ่งปลุกเร้าความต้องการในส่วนลึกของแกสทอนได้อย่างไม่น่าเชื่อ นาทาเลียสะดุ้งเฮือกใหญ่เมื่อแกสทอสจุมพิตลงมาบนสะโพกของเธอ สาบานได้เลยว่านี่มันไม่ได้อยู่ในข้อตกลงเลยสักนิดเดียว อีกทั้งความใกล้ชิดที่เกิดพอดีพวกนี้กำลังทำให้เธอรู้สึก..แปลกๆ อย่างบอกไม่ถูก “แกสทอน เจ้ากล่าวว่าตัวเองนั้นชื่นชอบความเท่าเทียมแต่ทว่าในยามนี้เจ้ากำลังเอาเปรียบข้าอยู่ไม่ใช่รึไง?” แกสทอนหัวเราะเบาๆ “เอาเปรียบอย่างนั้นหรือครับ? เช่นนั้นท่านต้องการที่จะกระทำเฉกเช่นที่ข้ากำลังทำอย่างนั้นหรือครับ แน่นอนว่ามันคงจะวิเศษไปเลย” นาทาเลียดึงผ้าห่มมาปกคลุมร่างกายของเธอเอาไว้พร้อมกับมองหน้าเขา “แกสทอน..ข้าคิดว่าท่านทำมากกว่าการฟาดแส้หนังนั้นบนก้นของข้าแล้ว เพราะอย่างนั้นวันนี้ท่านควร..พอเท่านี้” ทำไมมักน้อยจังล่ะ ทั้งๆ ที่เขาเครื่องติดแล้วแท้ๆ แต่เธอกลับบอกกล่าวให้ขอพอและหยุดยั้งเพียงเท่านั้น บ้าไปแล้วหรืออย่างไร “ข้ายินดีที่จะเป็นนายบำเรอของท่านครับ..ขอแค่เราจับมือแล้วผ่านค่ำคืนนี้ไปด้วยกัน ข้ายินยอมเป็นทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านหญิงต้องการ..” ไปกันใหญ่แล้ว เธอไม่ได้ต้องการให้เขาละทิ้งหน้าที่ของตัวเองแล้วมาเป็นนายบำเรอของเธอสักหน่อย “ข้า..ไม่ได้ต้องการให้เจ้ามาเป็นนายบำเรอ” “เช่นนั้นที่ท่านลงทุนบุกเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของข้าในยามวิกาลเช่นนี้จะบอกว่าท่านต้องการฟาดก้นของข้าแล้วก็จากไปอย่างนั้นหรือครับ” นาทาเลียกัดริมฝีปากของตัวเองอย่างแรง ก่อนที่เธอจะพยักหน้าเบาๆ แกสทอนหลับตาลงช้าๆ ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นมานวดที่หว่างคิ้ว “ท่านควรจะรู้ว่าความรู้สึกบางอย่างหากเกิดขึ้นมาแล้วมันหยุดไม่ได้..” เขากล่าวพร้อมกับมองหน้าเธอ และทุกอย่างมันคงจะปกติหากว่าเธอไม่เหลือบไปเห็นส่วนกลางกายของเขาที่มันตื่นตัวขึ้นมาจนดันผ้าขนหนูที่เขาใช้พันส่วนล่างเอาไว้ให้เห็นเป็นรูปเป็นร่าง นาทาเลียหน้าแดงอีกครั้ง เธอไม่คิดจะนอนกับเขาอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าเขาจะมีใบหน้าที่ตรงตามสเปคและความชอบของเธอแต่กับแกสทอนไม่ได้อย่างเด็ดขาด เขาคือผู้ช่วยที่ดีที่สุดของท่านพี่อลาโนเพราะอย่างนั้น..เธอที่ไม่มีสถานะให้เขา และจะไม่ยอมล้อเล่นกับความรู้สึกของใครแน่นอน เธอไม่ใช่นาทาเลียคนเดิมที่คิดแค่ความสัมพันธ์ทางกายแต่เธอคือคนใหม่ที่เห็นความรู้สึกอยู่เหนือความต้องการเสมอ เพราะอย่างนั้นหากว่าเราไม่ได้รักกัน..เธอจะไม่นอนกับเขาอย่างเด็ดขาด “ต้องได้สิ เพราะว่าข้าจะกลับแล้ว” เธอกล่าวพร้อมกับจับกางเกงที่หลุดร่วงไปกองบนเข่าขึ้นมาสวมใส่เอาไว้ ภารกิจแรกของเธอจบลงแล้ว และ..เธอควรจะเอาเวลาไปจัดเตรียมการสำหรับภารกิจที่สองที่เธอไม่อยากทำมากที่สุดในชีวิต ลมหายใจของเขาร้อนผ่าว แกสทอนเดินเข้ามาสวมกอดเธอจากด้านหลัง เขาจุมพิตลงไปเบาๆ บนซอกคอขาวเนียน ก่อนที่ฝ่ามือหนาจะไล้ไปตามเอวที่คอดกิ่วของนาทาเลีย เขาวนเวียนไปมาอยู่ที่เอวก่อนจะค่อยๆ ไล้ขึ้นไปจนเกือบจะสัมผัสกับหน้าอกของเธอ และเพราะว่าเธอไม่ได้สวมเสื้อซับใน การสวมเสื้อตัวบางของเขามันเหมือนกับว่าเขากำลังสัมผัสเธอโดยตรงโดยที่ไม่มีเสื้อกั้นอยู่ ความวาบหวามแล่นริ้วขึ้นมาในทันทีที่เขาสัมผัสผิวกาย นี่ร่างกายเธอเป็นอะไรไปเนี่ย! เมื่อได้ยินเสียงหอบเหนื่อยของนาทาเลีย แกสทอนก็ไม่รอช้าเพราะว่าเขาถือวิสาสะสัมผัสเนินเนื้ออวบอิ่มของเธอทั้งสองข้างอย่างเบามือ “แกสทอน” “อย่าเรียกชื่อข้าอีก หากว่าท่านไม่ต้องการข้า” นาทาเลียหลับตาลงช้าๆ การยับยั้งชั่งใจไม่ใช่เรื่องง่ายแต่กับแกสทอนไม่ได้อย่างเด็ดขาด! เธอผลักเขาออกพร้อมกับหันหน้ามาประชันหน้ากับเขา “ข้าจะกลับแล้ว ขอบคุณสำหรับ..ทุกอย่างในวันนี้” นาทาเลียหยิบผ้าห่มของเขามาคลุมตัวก่อนจะวิ่งออกไปด้านนอกบ้านของแกสทอน แน่นอนว่าอากาศด้านนอกมันเหน็บหนาวมากพอสมควร แต่ทว่าอากาศเย็นๆ พวกนั้นทำให้ความร้อนจากร่างกายของเธอเบาบางลงอย่างไม่น่าเชื่อ หากเธออยู่ที่นั่น อยู่ด้านในบ้านหลังนั้นกับเขาอีกแม้แต่เสี้ยววินาทีรับรองได้เลยว่าเธอจะต้องเป็นฝ่ายกระโจนเข้าหาเขาอย่างแน่นอน เพราะอย่างนั้นการวิ่งออกมาเช่นนี้เธอคิดถูกแล้ว..ใครจะไปคิดว่าสัมผัสจากเขาจะเรียกความต้องการจากร่างกายของเธอได้มากขนาดนี้กัน ช่างน่าประหลาดใจจริงๆ แกสทอนมองท่านหญิงวิ่งออกไปในสภาพที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ เขาไม่ได้ตามไปส่งเพราะหากวิ่งตามไปเธอคงจะไม่ได้กลับเข้าไปในคฤหาสน์ที่แสนใหญ่โตของตัวเองอย่างแน่นอน เพราะเขาน่าจะอุ้มเธอขึ้นมาแล้ววางเธอลงบนเตียงนอนของเขาอีกครั้ง พร้อมกับกดร่างกายที่แสนงดงามของเธอในจมลงไปในเตียงนอนของเขา แกสทอนหยักยิ้มขึ้นมาจางๆ เขาหยิบเสื้อซับในตัวบางทีตอนนี้มันเริ่มแห้งแล้วในบางส่วนขึ้นมาสูดดมเบาๆ และแน่นอนมันยังคงหลงเหลือกลิ่นหอมที่แสนเย้ายวนของเธอเอาไว้อย่างชัดเจน ให้ตายเถอะนี่ไม่สมเป็นเขาเลย แกสทอนใช้ฝ่ามือของเขารูดรั้งส่วนที่แข็งตึงนั้นเบาๆ พร้อมกับหลับตาลงเขาสูดดมชุดซับในนั่นพร้อมกับหลับตาคิดถึงใบหน้างามที่ขยันเรียกชื่อของเขามากเหลือเกิน จะสุขสมมากเท่าไหนกันนะหากว่าเขาสามารถสอดแทรกแก่นกายเข้าไปในรูเล็กๆ ที่ฉ่ำวาวนั่นของเธอ เขาคงจะสุขสมจนแทบเป็นบ้าเลยละมั้ง “อา..” น้ำสีขาวขุ่นพวยพุ่งออกมาจากจุดอ่อนไหวพร้อมๆ กับเสียงร้องครางในลำคอของแกสทอนที่มันดังขึ้นมา เขาขบกรามแน่นเพื่อกลั้นอารมณ์ที่สะท้อนออกมาจากอก “แอ๊ดด..” “คือว่าข้าลืมของเอาไว้น่ะ..” นาทาเลียเปิดประตูเข้ามาอีกครั้งเพราะว่าเธอลืมชุดซับในของตัวเองเอาไว้และมันคงไม่ดีแน่ที่ลืมอะไรแบบนั้นเอาไว้ในบ้านของแกสทอน หากเรื่องนี้หลุดไปถึงหูของท่านพี่เธออาจจะถูกตำหนิได้ ทว่าเมื่อนาทาเลียเปิดประตูเข้ามาเธอกลับเห็นแกสทอนที่กำลัง..ทำบางอย่างในแบบที่เธอไม่สมควรจะมาเห็น มือของเขากำลังถือชุดซับในของเธออยู่ และชุดซับในสีงาช้างในบางส่วนกำลังเปื้อนไปด้วยคราบขาวขุ่นซึ่งกำลังรินไหลออกมาจาก..ส่วนนั้นของเขา นาทาเลียอ้าปากค้าง พร้อมกับปิดประตูเสียงดัง เธอวิ่งออกมาจากบ้านของแกสทอนอีกครั้งและครั้งนี้ความเหน็บหนาวในคืนนี้ไม่อาจทำให้ความร้อนในร่างกายของเธอลดน้อยลงเลยให้ตายเถอะ เธอไม่ควร..กลับไปที่นั่นอีกครั้งเลยเมื่อลูเซียนกลับมาที่ห้องของโรงแรมเขากลับไม่พบเจอใครเลยสักคนเดียว เขาตกใจเล็กน้อยที่อยู่ๆนาทาเลียก็หายไป เขากำลังจะวิ่งออกไปเพื่อตามหาเธอที่ด้านหน้าโรงแรมที่พัก ในระหว่างที่เขากำลังวิ่งตามหาเธอแสงสีทองก็ส่องสว่างอยู่บนแหวนที่เขาสวม นั่นหมายความว่านาทาเลียอยู่ในมิติเวทของเขาลูเซียนถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนที่เขาจะสัมผัสที่แหวนเบาๆเพื่อเข้าไปหาเธอในมิติเวท ที่นี่แตกต่างจากในมิติเวทที่เธอและเขาเคยอยู่ด้วยกันอย่างสิ้นเชิง ทะเลสาบอย่างนั้นหรือ?"นาทาเลีย.."เขาพบเจอนาทาเลียนั่งอยู่กับบุรุษผู้หนึ่งที่ดูคุ้นตา..หมอนี่คือคนที่มาป้วนเปี้ยนหน้าห้องเมื่อตอนบ่ายนี่"ลูเซียน มานี่สิ..ข้าจะแนะนำให้ท่านรู้จักกับโลเวล"นี่คือบุรุษที่นาทาเลียกล่าวถึงให้เขาฟังบ่อยๆสินะ โลเวล บาทาซาร์"ยินดีที่ได้รู้จักครับท่านเจ้าของหอคอย"โลเวลลุกขึ้นมาแล้วก้มหน้าลงเพื่อเป็นฝ่ายทักทายก่อน อย่างที่เขาคิดเอาไว้จริงๆว่าออร่าพลังเวทของชายผู้นี้นั้นไม่ธรรมดาเลย ที่ไหนได้นี่คือจอมเวทกูเรียนในตำนาน เจ้าของหอคอยเวทผู้ยิ่งใหญ่"อืม..นาทาเลียพูดถึงเจ้าให้ข้าฟังบ่อยๆ แล้วเจ้ารู้ได้อย่างไรว่านางคือนาทาเลีย"ไม่บ่อยนักที่จะมีคนที่ส
กว่านาทาเลียจะลืมตาตื่นขึ้นมาก็เป็นในช่วงเย็นของอีกวัน เธอลุกขึ้นมานั่งบนเตียงพร้อมกับกวาดสายตามองไปรอบๆห้องนี้แต่ก็ไม่พบลูเซียนเลย นาทาเลียลุกขึ้นเพื่อเดินไปล้างหน้าล้างตา เธอแค่นหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อเห็นสภาพใบหน้าของตัวเองในกระจกเงาที่สะท้อนออกมา ดวงตาแดงก่ำที่ผ่านการร้องไห้ออกมาอย่างหนัก..ดูไม่ดีเท่าไหร่เลยเธอไม่รู้ว่าลูเซียนออกไปไหน แต่เขาน่าจะมีธุระของเขานั่นแหละ นาทาเลียนั่งลงที่โซฟา เธอรินน้ำชาในกาใส่ถ้วยเล็กๆก่อนจะยกขึ้นมาดื่ม คิดไม่ผิดเลยจริงๆที่เธอตามพี่ชายไปที่ลานประมูล เพราะอย่างนั้นเธอถึงได้ตาสว่างเรื่องของนาทาเลียในอดีต อีกทั้งสุราต้องคำสาปขวดนั้นหากเดาไม่ผิดเขาจะต้องใช้มันกับเธออย่างแน่นอน เช่นนั้นก็จะต้องหาทางรับมือกับคนสารเลวอย่างโอเว่นเอาไว้"ไม่เจอกันนานเลยนะครับ..ท่านหญิง"โลเวลปีนเข้ามาทางหน้าต่าง เขากระโดดเข้ามาหานาทาเลียในทันทีก่อนจะสวมกอดเธอเอาไว้ในอ้อมแขน"คิดถึง..จังเลยครับ แล้วไอ้สารเลวคนไหนมันทำให้ท่านหญิงของข้ามีสภาพเช่นนี้กัน?"เธอตกใจจนตาค้าง ทั้งๆที่เธอปลอมตัวอยู่ด้วยพลังเวทของลูเซียนแต่แล้วทำไม โลเวลถึงจำเธอได้กันล่ะ? เธอยื่นมือไปกอดเอวของเขาเอาไว้แน
ลูเซียนตกใจเล็กน้อยที่เขาเห็นหยาดน้ำตาแวววาวรินไหลลงมาจากดวงตาของนาทาเลียที่กำลังนั่งอยู่ข้างๆ เขา เขาไม่มั่นใจว่าเธอพบเจอกันอะไร แต่เขาก็ยังไม่อยากจะดึงจิตวิญญาณของเธอกลับมา เพราะในบางทีเธออาจจะกำลังพบเจอเรื่องราวที่ทำให้ตัวเองรับรู้ถึงเบื้องลึกเบื้องหลังของพี่ชายตัวเอง..อลาโน่ อาโมรี เมื่อไหร่กันนะที่เขาจะได้พบเจอพี่เขยอย่างเป็นทางการ อดใจรอไม่ไหวแล้วละสิ“สิ่งที่กระหม่อมต้องการ คือทำให้นาทาเลียเป็นของพระองค์ให้ได้พ่ะย่ะค่ะ ทำให้นางกลับมาหากระหม่อมที่อาโมรีไม่ได้อีก..”ข้อแลกเปลี่ยนกับสุราต้องคำสาปของแกรนด์ดยุคดูเหมือนจะแปลกมากทีเดียวในความคิดของโอเว่น“แกรนด์ดยุคต้องการแค่นั้น?”ชั่วขณะหนึ่งความเศร้าหมองปรากฏให้เห็นในดวงตาของอลาโน่“พ่ะย่ะค่ะ แค่นั้นก็พอ แค่ให้น้องสาวของกระหม่อมได้นั่งในตำแหน่งของจักรพรรดินี”โอเวนพยักหน้า“เช่นนั้นก็หมายความว่าความคิดของเราทั้งคู่มันตรงกัน ข้ารัก นาทาเลียจากใจจริง และข้าจะดูแลนางให้ดี แกรนด์ดยุคไม่ต้องเป็นห่วง”เมื่อกล่าวจบโอเว่นก็เดินออกไปจากห้องนี้พร้อมกับสุราต้องคำสาป ส่วนอลาโน่ เขาเอนหลังพิงเก้าอี้ด้วยท่าทีหมดแรงก่อนจะยกแขนขึ้นมาก่ายหน้าผากเ
ถึงแม้ว่าลูเซียนจะบอกกล่าวกับเธอว่าไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ แต่การที่เขาพาเธอเข้ามาในงานประมูลโดยการใช้เทเลพอทเข้ามานั้นมันคือเรื่องที่น่าตื่นตาตื่นใจมากทีเดียว“ข้าคิดว่าท่านจะทำบัตรเชิญปลอมมาซะอีก”“จะทำแบบนั้นให้ยุ่งยากทำไมกัน ในเมื่อผลลัพธ์ก็ออกมาเหมือนเดิมคือเราได้เข้ามาอยู่ในงานนี้แล้ว”นาทาเลียอยากจะกรีดร้องดังๆ ออกมาซะเหลือเกิน หากไม่ติดว่าในยามนี้เราทั้งคู่กำลังยืนอยู่ในงานนี้เธอนั่งลงยังที่นั่งที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้ นาทาเลียเลือกที่นั่งที่ไม่ค่อยสะดุดตาสักเท่าไหร่เพราะว่าเธอไม่ได้คิดมาประมูลอะไรทั้งนั้น เธอแค่ต้องการจับตาดูท่าทีของท่านพี่..ทว่าที่นี่คือโรงละครโอเปร่าเก่า เพราะอย่างนั้นจึงมีที่นั่งด้านบนอีกหลายสิบห้องที่ปิดม่านและปิดบังตัวตนเอาไว้ หมายความว่าพี่ชายของเธออาจจะนั่งอยู่ด้านบนและแอบประมูลบางอย่างลับๆ หรือแม้กระทั่งเขาอาจจะคุยงานกับผู้อื่นแบบที่ไม่มีคนเห็น เพราะห้องที่อยู่ชั้นบนไล่ขึ้นไปเป็นขั้นบันไดเช่นนี้ ทำให้เป็นส่วนตัวและสะดวกในการพูดคุยบางอย่างที่ไม่อยากให้มีผู้อื่นรู้“อยากขึ้นไปข้างบนไหม”นาทาเลียพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ เธออาจจะแค่สงสัยไปเองก็ได้เพราะอย่างนั้
ดูจากสีหน้าของแกสทอนหลังจากที่เปิดจดหมายในมืออ่าน แสดงว่าท่านหญิงของเขานั้นส่งจดหมายเพื่อบอกว่าท่านหญิงจะกลับมาที่นี่ในเร็วๆ นี้สินะ โลเวลเองก็ไม่รอช้า เขาเปิดจดหมายออกมาอ่านเช่นกัน“โลเวล ขอบคุณในทุกอย่างที่เจ้าให้ความช่วยเหลือข้ามาโดยตลอด เหนื่อยมากเลยใช่ไหมกับการเปิดตัวที่แสนยิ่งใหญ่ในฐานะของเจ้าของกิลล์ข้อมูล อดทนอีกนิดนะ เพราะว่าข้ากำลังจะกลับไปหาเจ้าในเร็ววันนี้ หวังว่าจะได้พบกันในเร็ววันนะโลเวล”ข้างล่างจดหมายท่านหญิงนาทาเลียเขียนชื่อของบุคคลหนึ่งเอาไว้“ฝากเจ้าตามสืบเรื่องของบุรุษที่ชื่อว่า ไคเลอร์ให้ข้าด้วย ข้าไม่มีข้อมูลอะไรให้นอกจากว่าเขาคือบุรุษที่สูงโปร่งและไม่ได้เป็นขุนนาง ข้าเองก็ไม่รู้รายละเอียดของเขาเหมือนกัน เพียงแต่เขาสำคัญมากๆ และเป็นคนที่ข้าจะต้องตามหาให้เจอ”ไคเลอร์ อย่างนั้นหรือ?โลเวลเงยหน้าขึ้นมาจากกระดาษก่อนจะสั่งการกับฮอลี่“เอาข้อมูลของบุรุษที่ชื่อไคเลอร์มาให้ข้าหน่อยสิ คนที่มีชื่อว่าไคเลอร์ทุกคนของจักรวรรดิแห่งนี้”ฮอลี่พยักหน้า“รับทราบค่ะนายท่าน ข้าจะหาข้อมูลของชายที่ชื่อว่าไคเลอร์มาให้ท่านแบบไม่ให้ตกหล่นเลยแม้แต่คนเดียว”แกสทอนมองท่าทีเคร่งเครียดของโลเว
“ข้าต้องการปรับปรุงคฤหาสน์หลังนี้ และให้พวกชาวเมืองทั้งหมดย้ายเข้ามาอยู่ที่คฤหาสน์แห่งนี้ในช่วงที่พายุหิมะพัดแรงขึ้น..”สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดเกินขึ้นในช่วงเช้าของวันที่พายุหิมะพัดผ่านเข้ามาที่ดินแดงทางเหนือ องค์รัชทายาทโอเว่นนั้นทรงตื่นจากบรรทมตั้งแต่เช้า พระองค์เรียกประชุมทหารมากมายเพื่อหารือและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นและนี่คือครั้งแรกที่สายตาของอาเธอร์นั้นมององค์รัชทายาทเปลี่ยนไป เหมือนกับว่าเขามองเห็นประกายไฟในสายพระเนตรของพระองค์ได้อย่างชัดเจน“เรามีเสบียงที่สามารถเลี้ยงคนได้ราวสามร้อยคนในหนึ่งวัน แต่ทว่าประชากรของแดนเหนือรวมกันแล้วมีไม่ถึงสองร้อยคนด้วยซ้ำ เพราะอย่างนั้นหากพาพวกเขามาอยู่ที่นี่เป็นการชั่วคราวจนกว่าพายุหิมะจะสงบลง น่าจะเป็นหาทางออกที่ดีที่สุด”“กระหม่อมเห็นด้วยนะพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาททรงพระปรีชาสามารถยิ่งแล้ว”อาเธอร์กล่าวชมออกมาจากใจจริง“ข้ารู้เซอร์อาเธอร์ เพียงแต่ที่ดินแดนเล็กๆ แห่งนี้จำเป็นที่จะต้องมีเจ้าเมืองเพราะในอีกสามสัปดาห์ข้าจะต้องเดินทางกลับไปที่พระราชวังแล้ว ข้าจึงให้โอกาสพวกเจ้าในการอาสาที่จะอยู่ที่นี่เพื่อเป็นเจ้าเมืองปกครองดูแลดินแดนเหนือ