Share

บทที่ 5

Author: หูเทียนเสี่ยว
ทันทีที่เฟิงเหยียนเดินออกจากจวนของจั๋วซือหราน หลังจากนั้นไม่นาน ข้างเฟิงเหยียนมีร่างสีดำสองร่างปรากฏตัวอย่างเงียบ ๆ

“ท่านอ๋องขอรับ” ชายที่สวมชุดดำทั้งสองแสดงความเคารพ

เฟิงเหยียนมีสีหน้าอย่างไม่มีอารมณ์ "ไปสืบมา ข้าต้องการรู้เสน่ห์หนอนพิษกู่ที่จั๋วจิ่วถูกวาง ใครเป็นคนสั่งการเบื้อหลัง"

ไม่มีใครเชื่อหรอกว่าบัณฑิตที่ไร้ประโยชน์ผู้นั้นจะเป็นผู้กระทำความผิดนี้

*

จั๋วซือหรานกำลังนั่งอยู่ในห้อง ฝูซางกังวลอย่างมาก และรีบเช็ดเลือดที่ริมฝีปากของคุณหนูของนาง "คุณหนูเจ้าคะ คุณหนูจะปล่อยเป็นเช่นนี้อีกต่อไปมิได้หรอกนะ ข้าน้อยว่า เราควรรีบไปตามคุณหมอมาตรวจเถิดนะ"

“ข้าแค่อาเจียนออกมาเป็นเลือดเพียงเท่านั้น กังวลอะไรล่ะ” จั๋วซือหรานดึงเข็มเงินที่นางสอดไว้ก่อนหน้านี้ออกมาอย่างใจเย็น “หากไม่บีบเลือดที่ติดพิษกู่ออกไป อาการบาดเจ็บภายในจะไม่มีทางหายหรอก”

ฝูซาง: “ว่าแต่คุณหนูไปเรียนทักษะการรักษามาโรคตั้งแต่เมื่อไรกัน"

จั๋วซือหรานยิ้มเบา ๆ และไม่ตอบ ”ยิ่งไปกว่านี้ ข้าอยากรู้ว่าใครกันแน่ที่เกลียดข้ามากจนใช้เสน่ห์หนอนพิษกู่ มิฉะนั้น ต่อให้ฉินตวนหยางมีความกล้าหาญมากเท่าไร เขาก็ไม่กล้าำเช่นนี้กับข้าหรอก แม้ว่าเขาจะกล้า เขาไม่มีปัญญาหาเสน่ห์หนอนพิษกู่ด้วยซ้ำ“

ฝูซูกล่าวว่า “จะเป็นใครได้อีก ต้องเป็นคุณหนูลิ่วทแน่ ๆ ”

ฝูซางดุฝูซูทันที "ฝูซู ระวังคำพูด เราจะนินทาเรื่องของผู้ใหญ่ได้อย่างไร"

ฝูซูเถียงกลับ"ข้าก็ไม่ได้พูดผิดอะไรสักหน่อย คุณหนูลิ่วอิจฉาคุณหนูของพวกเรา"

จั๋วซือหรานขวมดคิ้ว “เจ้าหมายถึงจั๋วหรูซินหรือ”

ตระกูลจั๋วเป็นครอบครัวขนาดใหญ่ ในตระกูลนี้มีเชื้อสายหลายสาย ซึ่งในระหว่างเชื้อสายต่าง ๆ มักมีการต่อสู้แบบเปิดเผยและเป็นความลับมากมายในตระกูล

บิดาของจั๋วซือหรานเสียชีวิตในสงครามเป็นเวลานานแล้ว และบิดาของจั๋วหรูซินก็ดำรงตำแหน่งสำคัญในครอบครัว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความสามารถของจั๋วหรูซินสู้ความสามารถของจั๋วซือหรานมิได้ นางพ่ายแพ้จั๋วซือหรานอยู่เสมอ ดังนั้นจั๋วหรูซินอิจฉาจั๋วซือหราน เรื่องนี้จึงกลายเป็นเรื่องปกติ

แม้ว่าฝูซูจะพูดอย่างหุนหันพลันแล่น แต่เห็นได้ชัดเจนว่า นางมองทะลุถึงจุดสำคัญของแต่ละเรื่อง

จั๋วซือหราน "ฝูซู เจ้าพูดต่อสิ"

ฝูซู "ตระกูลจั๋วจัดการฝึกฝนแห่งตระกูลสองปีละครั้ง คุณหนูลิ่วมีอายุมากกว่าคุณหนูของข้าหนึ่งปี ดังนั้นนางพลาดการฝึกฝนครั้งก่อนแล้ว ครั้งนี้นางจึงต้องเข้าร่วมการฝึกฝนกับคุณหนู หากคุณหนูได้เข้าร่วมการฝึกฝนครั้งนี้ นางจะทำอะไรได้อีกล่ะ ดังนั้นนางอยากกำจัดคุณหนูแน่ ๆ เลยเจ้าค่ะ”

จั๋วซือหรานฟังคำพูดของฟูซูแล้วยิ้มทันที "นั่นก็สมเหตุสมผลแล้ว"

ฝูซู “คุณหนูเจ้าคะ หากคุณหนูลิ่วเป็นคนลงมือจริง ๆ คุณหนูจะทำอย่างไรต่อเจ้าคะ”

จั๋วซือหราน "ข้าต้องกลับบ้านสิ"

ฝูซางถอนหายใจ"แต่ตอนนี้เหล่าผู้อาวุโสกำลังโกรธมากอยู่เลยนะ"

จั๋วซือหรานจำได้ว่า ตอนนั้น นางตั้งใจยืนกรานที่จะแต่งงานกับฉินตวนหยาง ไม่ฟังข้อแนะนำของใคร ๆ ทั้งสิ้น ผู้อาวุโสของตระกูลต่างโกรธเป็นอย่างมาก ทั้งยังกล่าวว่า หากนางยืนกรานที่จะไปตามทางของตัวเอง ชาตินี้ก็อย่าได้กลับมาที่ตระกูลจั๋วอีก

“ต่อให้เหล่าผู้อาวุโสโกรธแค่ไหน ข้าก็ต้องกลับไป” จั๋วซือหรานยิ้มเยาะ “มิเช่นนั้น จะให้จั๋วหรูซินสมหวังหรือ”

ฝูซางพูดอย่างกังวลว่า "คุณหนูเจ้าคะ คุณหนูลืมเรื่องกฎตระกูลไปแล้วหรือ"

เมื่อได้ยินฝูซางพูดเช่นนั้น จั๋วซือหรานแข็งทื่อทันที นางหงุดหงิด

*

ห้องเก็บฝืนลานด้านหนัาของเรือน

หลิ่วเย่หลบตัวที่มุมกำแพง นางหวาดกลัวและตัวสั่ง นางมองไปที่จั๋วซือหราน "คุณ คุณหนูเจ้าคะ"

จั๋วซือหรานเม้มริมฝีปากของนางแล้วยิ้ม จากนั้นเอาปลายเท้ายกเก้าอี้ที่ขาหักไม่ดี ทว่านางกลับนั่งได้อย่างนิ่ง

“คุณหนู ข้าน้อยรู้ว่าตนผิด ข้าน้อยถูกผีสิง ข้าน้อยขอคุณหนูโปรดไว้ชีวิตข้าน้อยสักครั้ง” หลิ่วเย่รีบลุกขึ้นและคุกเข่าต่อหน้าจั๋วซือหราน

จั๋วซือหรานมองนางอย่างเฉยเมยและพูดว่า "ใบซื้อขายตัวของเจ้ายังอยู่กับข้า ตามหลัก เจ้าควรไม่กล้าทรยศข้า"

หลิ่วเย่เอาแต่พูดว่า "ข้าน้อยถูกผีสิงเจ้าค่ะ"

“ถูกผีสิงนั้นหรือ” จั๋วซือหรานพูดพร้อมเสาะยิ้ม “เจ้าเป็นคนขี้กลัวมาโดยตลอด หากไม่มีคนมาให้สัญญากับเจ้าว่า ข้าไม่สามารถรู้ได้ว่าเจ้าทำผิด เจ้าก็จะไม่มีวันกล้าทรยศข้า ที่เจ้าพูดว่าถูกผีสิง แล้วผู้ใดกัน…ทำให้เจ้าถูกผีสิง?”

หลิ่วเย่กลอกตาไป ๆ มา ๆ และไม่ปริปากพูด

จั๋วซือหรานส่ายนิ้วแล้วพูดว่า "พ่อค้าทาสกำลังรออยู่ที่ประตูหลังอยู่แล้ว หลิ่วเย่ เจ้ามีโอกาสเพียงครั้งเดียว คิดให้รอบคอบแล้วค่อยตอบ"

เมื่อได้ยินคำว่า "พ่อค้าทาส" หลิ่วเย่ก็สั่นกลัวอย่างมาก นางเป็นทาส และสัญญาซื้อขายตัวอยู่กับจั๋วซือหราน ตราบใดที่จั๋วซือหรานเต็มใจขาย นางก็จะถูกจั๋วซือหรานขายอย่างง่ายดาย

หลิ่วเย่ตัวสั่นและรีบพูด "คุณหนูลิ่วเป็นผู้สั่งการเจ้าค่ะ นางบอกว่า ตราบใดที่ข้อน้อยเชื่อฟังคำสั่งของนาง หลังจากที่คุณหนูออกเรือน คุณท่านก็จะช่วยให้ข้าน้อยหลุดพ้นจากการเป็นทาสเจ้าค่ะ"

จั๋วซือหรานหัวเนาะเย้ยหยัน "จั๋วหรูซินวางแผนเก่งเสียจริง"

ในชะตากรรมของเจ้าของเดิม เจ้าของร่างนี้สละทรัพย์สินของครอบครัวทั้งหมดแล้ว และทรัพย์สินทั้งหมดเหล่านี้ตกเป็นของจั๋วหรูซิน

จั๋วซือหรานไม่ใช่เจ้าของเดิม นางจะไม่มีวันให้จั๋วหรูซินสมความปรารถนา

มีผู้คนมากมายในเมืองหลวง และเวลาผ่านคืนเดียว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันแต่งงานของลูกสาวคนที่เก้าของตระกูลจั๋วถูกแพร่ทั่วมือง

และยิ่งพวกเขาพูดถึงเรื่องนี้มากเท่าไรก็ยิ่งเกินจริงขึ้นเท่านั้น บางคนบอกว่า คุณหนูจั๋วจิ่วคายหนอนยาวเท่าแขนออกจากปากของนาง

“หนอนพิษกู่ยาวเท่าแขนหรือ หากเป็นเช่นนั้นจริง ข้ายังอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”เมื่อได้ยินฝูซูเล่าข่าวลือข้างนอก จั๋วซือหรานอดไม่ได้ที่ต้องหัวเราะ

นางเกิดมาสวยงาม และตอนนี้ในร่างนี้มีจิตวิญญาณของผู้อื่น บุคคลิกของนางดูมีความกล้าหาญเล็กน้อย ซึ่งทำให้นางงามอย่างน่าอัศจรรย์ยิ่งขึ้นไปอีก

เพียงว่าอาการบาดเจ็บภายในยังไม่หายดี และใบหน้าของนางยังซีดขาวเล็กน้อย

ฝูซูมองนางอย่างด้วยสายตาว่างเปล่า “คุณหนูเจ้าคะ สีหน้าของคุณหนูดูไม่ดีเลย มิเช่นนั้น... ให้ข้าทาแป้งที่แก้มให้หน่อยไหม”

จั๋วซือหรานยืนขึ้นแล้วพูดว่า "ต้องซีดขาวถึงจะมีคนเห็นใจ สีหน้าดูแย่ หน้าดูซีดเซียวน่ะถูกต้องแล้ว ข้าไปเปลี่ยนชุดสีขาว เดี๋ยวหากฝนตกอีกด้วยยิ่งดี ข้าจะคุกเข่าท่ามกลางสายฝน..."

นางยังไม่ทันพูดจบ นอกห้องมีเมฆดำรวมตัวแล้ว

"เทพช่วยข้าไว้"

ขณะเดียวกัน ในบ้านแห่งหนึ่งทางตะวันออกของเมือง

ฉินตวนหยางนอนอยู่บนเตียง เพื่อให้กระดูกเข้ากันได้ดี มีคนนำไม้กระดานเกราะขาของเขาไว้

“คุณหนูลิ่ว คุณหนูจะปล่อยข้าเช่นนี้มิได้หรอกนะ”

จั๋วหรูซินดูเย็นชาและจ้องมองเขาด้วยความรังเกียจ "หุบปาก หากไม่ใช่เป็นเพราะไม่ได้เรื่อง... "

ฉินตวนหยางมองสีหน้าของนางและพูดว่า "คุณหนูลิ่ว ดูเหมือนจั๋วซือหรานไม่ได้ถูกเสน่ห์หนอนพิษกู่ควบคุม"

“เป็นไปไม่ได้” จั๋วหรูซินพูดอย่างโกรธ “ไม่มีใครสามารถหลุดพ้นจากการควบคุมของเสน่ห์หนอนพิษกู่ในเวลาอันสั้นเช่นนี้ได้”

ฉินตวนหยางทำได้แค่ยิ้ม "ใช่ ๆ ขอรับ แต่แม่หนอนกู่ตายแล้ว มิเช่นนั้น... ท่านไปหาอีกตัวมาสิ"

จั๋วหรูซินเหลือบตามองเขา "เจ้าคิดว่า ที่ลิทธิกู่ของดินแดนทางใต้เลี้ยงแม่หนอนกู่ง่ายมากหรือ เจ้ารู้ไหมว่าข้าเสียเงินไปตั้งเท่าไร"

นอกประตูมีเสียงคนรับใช้ของนางดังขึ้น“คุณหนูเจ้าคะ ได้ข่าวว่า คุณหนูจิ่วกลับบ้านเพื่อสารภาพผิดแล้ว”

“อะไรนะ” สีหน้าของจั๋วหรูซินเปลี่ยนทันที แลนางรีบลุกขึ้นและกลับบ้าน

ฉินรุ่ยหยางกังวลทันที "คุณหนูลิ่ว ข้าควรทำอย่างไรดี"

จั๋วหรูซินมองเขาอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า "รอก่อน ข้าจะขอฝ่าบาททรงถวายพระราชโองการการสมรสให้เจ้า แล้วเรามาดูกันว่า ถึงเวลานั้น นางจะปฏิเสธได้อย่างไร"
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (2)
goodnovel comment avatar
Bua Phimjirapa
ตัวร้ายชื่อ ฉินรุ่ยหยาง หรือ ฉินตวนหยางกันแน่คะ อ่านแล้วงง ค่ะ เนื้อเรื่องน่าสนใจมาก แนะนำเพิ่มเติมคือ ตรวจเช็คชื่อ แล้วก็คำผิด ก่อน จะน่าอ่านมากขึ้นค่ะ ขอบคุณค่ะ
goodnovel comment avatar
KingKaew Sueanoi
เนื้อเรื่องดีมากค่ะ แต่อยากให้เรียบเรียงแก้คำผิดอีกสักรอบค่อยลง ภาษาจะได้สลวยอ่านง่าย คนอ่านก็จะเยอะมากขึ้น พัฒนาต่อไปนะคะ
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1401

    ชิ่งหมิงได้ยินคำนี้ สายตาก็ชะงักไปตอนที่เงยหน้าขึ้นมองปันอวิ๋น ก็ไม่ได้รู้สึกตกตะลึงอะไร ดูสงบนิ่งมาก "ฝีมือก็ดีขึ้นมากจริงๆ เพียงแต่ว่า...ข้ากับเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกันมากมายนัก"ปันอวิ๋นไม่ใส่ใจกับเรื่องนี้ เขาโบกไม้โบกมือ "ไม่เป็นไร ถึงยังไงพวกเราก็ไม่ได้มีพ่อที่ดีกันนักหรอก"จั๋วซือหรานขมวดคิ้วมองเขา "เจ้ามองออกตั้งแต่เมื่อไรกัน?""ข้าไม่ได้ตาบอดนะ เหล่าจวงเองก็แอบมองจวงชิ่งหมิงอยู่ตลอด ทั้งสองคนสกุลจวงเหมือนกัน ยิ่งไปกว่านั้นในแววตาของเหล่าจวงกับจวงชิ่งหมิงก็คล้ายคลึงกันด้วย แค่มองเฉยๆ อาจไม่รู้สึก แต่ถ้าสองคนอยู่ในภาพเดียวกัน ก็จะสัมผัสได้เลย"ปันอวิ๋นบางครั้งดูแล้วก้เหมือนเป็นคนขี้เกียจที่เหมือนไม่ใส่ใจกับอะไรเลยแต่อันที่จริง เขาเป็นคนละเอียดอ่อนและเฉียบแหลมมากมีหลายเรื่อง ที่แม้เขาจะไม่พูด แต่อันที่จริงในใจก็รู้แจ้งเห็นจริงทุกอย่างปันอวิ๋นเอ่ยต่อ "ไม่เป็นไร ถ้าไม่ชอบฟังคราวหลังจะไม่พูดอีก"แต่เขาคิดๆ จากนั้นก็เสริมมาอีกคำหนึ่ง "น่าจะเพราะว่า ข้ากับเฟิงเหยียนแต่ก่อนรู้ว่าตนเองต้องแบกภาระโชคชะตาแบบไหนไว้ ดังนั้นจึงค่อยๆ ปรับความเข้าใจกับตนเอง จะพูดถึงยังไงก็ได้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1400

    ถึงยังไงการทำงานในโรงคณิกา บ่อยครั้งที่จะตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอกแม่เล้ากลอกตาไปมา "ทั้งสามท่านมาที่นี่เพื่อหาความสำราญแบบใดหรือ? เคาะประตูดีดีก็พอนี่นา ไม่เห็นต้องพังประตูใหญ่แบบนี้..."นางจ้องปันอวิ๋นไม่วางตา "แขกท่านนี้ต้องการจะฟังดนตรี หรือจะค้างคืนกันล่ะ? ต้องการแม่นาง...หรือว่าต้องการชายหนุ่ม?"ปันอวิ๋นฟังครึ่งประโยคแรก ก็ขมวดคิ้วแล้ว พอได้ยินครึ่งประโยคหลังก็หนักเลย "อะไรนะ?"แม่เล้าเห็นความเย็นชาในสายตาเขา ก็รู้สึกสันหลังวาบ สั่นเทาไปทั้งตัวจั๋วซือหรานที่อยู่ข้างๆ ฟังแล้วอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ ปันอวิ๋นหน้าตาดี ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นความงามเฉพาะตัวด้วย บุคลิกเย้ายวนชวนหลงใหลแต่กำเนิดนั่น ก็ไม่น่าแปลกใจที่ผู้คนจะอดคิดไม่ได้ว่าเขาจะต้องการแม่นาง...หรือว่าต้องการชายหนุ่มกันแน่...จั๋วซือหรานกระแอมแล้วอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ เอ่ยขึ้นว่า "...แค่ก พวกเรามากินข้าวน่ะ พวกเจ้าที่นี่มีกับข้าวและสุราอะไรที่อร่อยก็ยกมาให้หมดเลย"หลังจากที่แม่เล้าได้ยิน เดิมทียังคิดจะถามอยู่ว่าพวกเขาต้องการแม่นางหรือชายหนุ่มไหม แต่ก็รู้สึกว่าถ้าทำแบบนั้นมันจะเหมือนว่าตนเองเบื่อชีวิตแล้วก็เลยอ้าปากพะ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1399

    ทั้งซื่อหนานล้วนเป็นขอบเขตขั้วอำนาจของเนี่ยคุน ดังนั้นข่าวของบ่อนพนัน ไม่นานนักก็ส่งไปถึงหูของเนี่ยคุนแล้วเขาโมโหจนแทบกระอักเลือด!ใครจะคิดว่าหญิงสาวคนนี้ เอาจวนของเขาไปแล้วก็ยังไม่พอตอนนี้ยังคิดจะทำลายกิจการของเขาอีก!เนี่ยคุนทำได้แค่รีบกำชับออกไป "หญิงสาวคนนี้น่าจะจงใจเล่นงานข้า เร็ว กำชับออกไป ให้โรงคณิกาทางนั้นวันนี้ปิดประตูไม่รับแขก จะได้ไม่ให้นังมารร้ายนั่นพอเบื่อบ่อนพนันแล้วหันไปเล่นทางโรงคณิกาต่อ"คนใช้รู้สึกว่าเนี่ยคุนจะคิดมากเกินไป "ท่านเจ้าเมือง คงไม่หรอกกระมัง? นางเป็นหญิงสาวนะ จะไปโรงคณิกาทำไมกัน..."นั่นมันที่ที่ชายหนุ่มไปเล่นกับหญิงสาวนะ!เนี่ยคุนหัวเราะเย็นชา "นางเป็นโหว ขนาดบ่อนพนันยังไปได้ ยังมีเรื่องอะไรที่นางไม่กล้าทำอีกกัน...?"ตอนนี้ต่อให้มีคนมาบอกเขาว่า หญิงสาวคนนี้บินได้!เนี่ยคุนก็อาจจะรู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรด้วยซ้ำ!ส่วนอีกด้านหนึ่ง จั๋วซือหรานก็พาปันอวิ๋นกับชิ่งหมิงมาอยู่หน้าประตูโรงคณิกาอย่างสบายอารมณ์"เจ้ามาจริงๆ ด้วยแฮะ" ปันอวิ๋นขมวดคิ้ว จมูกก็ย่นลง เหมือนได้กลิ่นเครื่องประทินเข้มข้นลอยออกมาจากในโรงคณิกา"เจ้าเด็กนี่ยังเด็กอยู่เลยนะ" ป

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1398

    "ได้"จั๋วซือหรานมองเขา ถามขึ้นว่า "ถ้างั้น ใครจะมาเขย่าล่ะ?"ผู้ดูแลเอ่ยขึ้น "ข้า ข้าเอง ข้าเขย่าเอง...ข้าเขย่าเสร็จจะปล่อยมือทันที ไม่มีโอกาสทำอะไรแน่นอน!"จั๋วซือหรานพยักหน้ายิ้มๆ "ได้ได้ งั้นเจ้าเขย่าเลย"ผู้ดูแลให้คนเอากระบอกเขย่าลูกเต๋ามาด้านในมีลูกเต๋าไม้สามลูกวิธีการก็เหมือนกับกติกาในชาติที่แล้วของจั๋วซือหราน เป็นวิธีเล่นที่ง่ายที่สุดจริงๆจั๋วซือหรานไม่ได้ติดใจที่จะเล่นกับเขาสักตา ยิ่งไปกว่านั้นถ้าหากเขามือสะอาดจริง ชนะก็ชนะแพ้ก็แพ้ นางก็ไม่ใช่จะเล่นไม่ได้แต่ใครจะรู้ ว่าก็ยังมีวิะีการโกงอยู่จริงๆคนผู้นี้น่าจะรู้สึกว่าตัวเขามั่นในใจในแรงควบคุมลูกเต๋าเป็นพิเศษ ดังนั้นพริบตาที่นางตอบตกลงให้เขามาเขย่าลูกเต๋า บนหน้าเขาก็มีสีหน้าถอนใจโล่งออกมาอย่างชัดเจนมันชัดเสียจนทำให้จั๋วซือหรานมองข้ามไปไม่ได้เลยจั๋วซือหรานดูท่าทางเขย่าลูกเต๋าของเขา น่าจะเป็นท่าทางบวกกับการสร้างขึ้นเป็นพิเศษของลูกเต๋า ดังั้นพอรวมกับการเคลื่อนไหวที่พิเศษของเขา สามารถหมุนไปตามที่เขาคิดได้และสามารถทำให้เขาได้แต้มที่เขาต้องการแม้จั๋วจะไม่ได้ดูล้ำสมัยเหมือนพวกอุปกรณ์การพนันที่จั๋วซือหรานรู้ในชาติ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1397

    น่าจะเพราะกลุ่มของหญิงสาวคนนี้ พอเข้ามาถึงก็มีแรงคุกคามมหาศาลกระทั่งท่าทีของผู้ดูแลที่มีต่อพวกเขาก็ยังหวาดหวั่นมากเขาเป็นแค่คนแจกไพ่ แน่นอนว่าไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามแต่ก็ไม่กล้ามองสายตาของผู้ดูแลด้วย จึงทำได้แค่เปิดไพ่อย่างว่าง่ายไปจั๋วซือหรานจึงชนะสองตาของผู้ดูแลดำเมี่ยมไปแล้ว ถ้าปล่อยให้นางชนะต่อไป...แล้วยังมีสหายที่เก่งกาจเรื่องพนันของนางกวาดเรียบที่โต๊ะอื่นด้วยแบบนี้ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ต่อให้พวกนางไม่เอาชีวิตเขา หลัจากนี้เนี่ยคุนก็เล่นเขาตายอยู่ดีดังนั้นสีหน้าผู้ดูแลจึงบิดเบี้ยวขึ้นเรื่อยๆ มากขึ้นเรื่อยๆ ราวกับกำลังกลัดกลุ้มกับเรื่องที่ตัดสินใจได้ยากมากมองออกว่าค่อนข้างลำบากใจแล้วจั๋วซือหรานยืนขึ้นมา เดินไปทางโต๊ะของปันอวิ๋น บอกกับเขาว่า "เอาล่ะ พอจบตาของเจ้าแล้ว พวกเราก็พอเถอะ"ปันอวิ๋นมองตั๋วทองบนมือจั๋วซือหราน ตาก็เป็นประกาย "ถ้างั้นข้าก็ชนะแล้วสิ?"จั๋วซือหรานยิ้มๆ "ได้ได้ ข้ายอมแพ้แล้ว"เดิมทีนางก็ไม่คิดจะเอาชนะปันอวิ๋นอยู่แล้ว ก็แค่ให้เขาได้เป็นพ่อทูนหัวอย่างสมใจอยากก็เท่านั้นเห็นท่าทางนี้ของเขา จั๋วซือหรานรู้สึกว่าเขาน่าจะไม่คิดมีลูกหลานสืบทอดอะไรแล้วเห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1396

    "เอาล่ะไม่พูดแล้ว ข้าต้องรีบหน่อย ไม่งั้นเดี๋ยวปันอวิ๋นได้ชนะพอดี เขาดูแล้วก็ไม่ใช่พวกเคี้ยวง่ายด้วยนี่สิ"ไม่นานนักบรรยากาศในบ่อนพนันก็ผิดปกติไปแล้วโต๊ะที่ปันอวิ๋นอยู่ อารมณ์ของทุกคนก็เหมือนจะไม่ไหวแล้ว...ไม่มีใครรู้ว่าชายหนุ่มหน้าตางดงามคนนี้ทำอะไรกันแน่ ทำไมถึงราวกับมีเนตรสวรรค์อย่างไรอย่างนั้น ไม่แพ้เลยสักตาเดียว?ส่วนหญิงสาวที่อยู่อีกโต๊ะคนนั้นเองก็สุดยอดมาก...ไม่แพ้เลยสักครั้งเดียวเหมือนกันแต่พวกเขาก็ดูเป็นแค่นักพนันเท่านั้น...มาขลุกอยู่แต่ในบ่อนพนันคับแคบแบบนี้ ไม่ได้เข้าใจและไม่คิดจะไปทำความเข้าใจโลกภายนอกเลยว่าเป็นอย่างไรบ้าง...ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้ตัวตนฐานะของจั๋วซือหรานกับปันอวิ๋นและคนอีกหลายคนก็ไม่ค่อยจะรู้ ว่าพวกเขาเป็นคนแบบไหน สังหารคนที่ประตูเมืองไปแล้วเท่าไร...และผู้ดูแลบ่อนพนันที่ถูกตั๋วทองทำให้เคลิ้มก่อนหน้าคนนั้น ตอนนี้ก็คลายลงมาจากสภาพนั้นแล้วเสียใจ ตอนนี้คือความสำนึกเสียใจขีดสุดเขารีบตรงไปข้างโต๊ะของจั๋วซือหราน เอ่ยอย่างอ้อนวอนว่า "แม่นาง เอ่อไม่ใช่สิ ใต้เท้า...ใต้เท้า! กิจการของเราเล็กๆ มีทุนน้อย ไม่ทราบว่าท่าน..."เขาชูตั๋วทองขึ้นมาสองใบ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status