Share

บทที่ 4

Author: หูเทียนเสี่ยว
น้ำเสียงทุ้มต่ำของเฟิงเหยียนเต็มไปด้วยความเย็นชาและเสน่ห์"น่าอับอายเสียจริง เรื่องไร้สาระสิ้นดี"

จั๋วซือหรานเงยหน้ามองชายผู้นี้ด้วยความเจ็บปวดอย่างมาก

ใต้หล้ามีคนหน้าตาดีตั้งมากมาย

เฟิงเหยีนกลับมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ความหล่อเหลาของเขาผสมด้วยความกล้าหาญที่ฮึกเหิม

ทันทีที่จั๋วซือหรานเห็นใบหน้านี้ นางหายความเจ็บปวดทันที

แต่จั๋วซือหรานหายเจ็บปวด ไม่ใช่เป็นเพราะนางเห็นหน้าตาอันหล่อเหลา

แต่เป็นเพราะวินาทีที่ชายผู้นี้ปรากฏตัวอย่างรวดเร็ว เขาวางมือบนไหล่ฉินตวนหยาง

"อ๊าก ๆ——!“

ฉินตวนหยางกรีดร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง เสียงร้องนั้นดังเป็นสิบ ๆ เท่าเมื่อเทียบกับตอนที่เขาถูกหักขาในก่อนหน้านี้ และบัดนี้เขากำลังล้มบนพื้นและกระตุกไปทั้งตัว

สายเลือดของตระกูลเฟิงเป็นเช่นนี้ สายเลือดนี้เป็นธาตุไฟที่รุนแรงที่สุด ยิ่งเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์อันยอดเยี่ยม พลังทางจิตวิญญาณก็ยิ่งเผด็จการมาขึ้นเท่านั้น

หากถูกพลังทางจิตวิญญาณนั้นรุกราน จะมีความรู้สึกอย่างร่างกายกำลังถูกไฟเผา ซึ่งความเจ็บปวดนั้นพอ ๆ กันกับความเจ็บปวดที่เสน่ห์หนอนพิษกู่นำมา

ในขณะเดียวกัน ฉินตวนหยางหลั่งน้ำอย่างหนัก เขาดูน่าเกลียดอย่างมาก

เมื่อเผชิญนหน้ากับความเจ็บปวดที่ร้ายแรง เขาไร้ความอดทนและความสามารถในการสงบอารมณ์อย่างที่จั๋วซือหรานเคยทำ

ในขณะนี้ มีกล่องเครื่องเขินทรงกลมหลุดออกมาจากเสื้อผ้าของฉินตวนหยาง

กล่องเครื่องเขินนั้นมีสีเข้มและทำจากวัสดุหนา ลวดลายดูซับซ้อนและแปลกตา

กล่องกลิ้งไปกลิ่งมาบนพื้นครู่หนึ่ง จากนั้นสั่นสองสามครั้ง และฝาก็ถูกเปิดจากด้านใน

“นั่นคือ...กล่องหนอนพิษกู่มิใช่หรือ”

ผู้ที่มีความรู้ในด้านนี้มองออกนี่เป็นกล่องใด

ภายใต้สายตาของทุกคน ทุกคนเห็นหนอนที่มีลวดลายสีสันสดใสบิดตัวและคลานออกมาจากกล่อง หลังจากดิ้นอยู่ครู่หนึ่งหนอนตัวนั้นก็ได้หยุดเคลื่อนไหว

ทันทีที่แม่หนอนพิษกู่ตาย ความเจ็บปวดทั่วร่างกายของจั๋วซือหรานก็หายไปทันที

ขณะนี้ มีหลักฐานที่ไม่สามารถหักล้างได้ ไม่มีใครสงสัยเรื่องเสน่ห์หนอนพิษกู่อีกต่อไป

“แม่เจ้า นั่นหมายความว่า นางต้องทนความเจ็บปวดจากการโจมตีของหนอนพิษกู่แล้วหรือ”

“มิน่าแปลกใจเลยที่เมื่อครู่นี้ นางอาเจียนเป็นเลือด ข้ายังคิดว่าเป็นเพราะคุณหนูเฟิงสือตีนางเสียอีก”

แม้แต่เฟิงเหยีนเองก็เลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ

ฉินตวนหยางเป็นเพียงบัณฑิตที่ไร้ประโยชน์ เขาจะหาแมลงลัทธิกู่จากดินแดนทางใต้ใต้อย่างง่ายดายได้อย่างไร

เหตุผลที่เฟิงเหยียนลงมือ เดิมทีเขาอยากเปิดเผยหน้าตาตัวจริงของนาง

ทว่าเขาไม่เคยคิดเลยว่า จะมีเสน่ห์หนอนพิษกู่จริง ๆ ดังนั้นต้นกำเนิดของหนอนพิษกู่นี้จึงกลายเป็นเรื่องที่น่าสนใจและน่าวิเคราะห์

จั๋วซือหรานเงยหน้าขึ้นและกล่าวคำขอบคุณ "ขอบคุณความช่วยเหลือของท่านอ๋องมาก"

เฟิงเหยียนพูดอย่างเย็นชา "น้องสาวของข้ามีการกระทำบุ่มบ่าม ข้าต่างหากที่ต้องขอโทษ"

เขายื่นกระปุกลายดอกบัวที่ทำจากดินเผาให้จั๋วซือหราน "นี่คือยารักษาบาดแผล"

เมื่อเฟิงหร่านเห็นลวดลายของกระปุกที่ทำจากดินเผานั้น นางเริ่มวิตกกังวล “ท่านพี่ เป็นแผลเล็ก ๆ เท่านั้น สักพักก็จะค่อย ๆ จะหายเอง ไม่เห็นต้องใช้ยาน้ำค้างหยกเลย”

นำยาน้ำค้างหยกมารักษาแผลเล็ก ๆ ที่อยู่บนใบหน้าของจั๋วซือหราน เท่ากับว่านำดาบที่ฆ่าวัวไปฆ่าไก่ มันเกินไปเสียจริง

เฟิงเหยียน "หุบปาก"

เฟิงหร่านทำได้เพียงปิดปากของตนเอง แม้ว่านางจะหงุดหงิดมากเท่าใด

จั๋วซือหรานมีพรสวรรค์อย่างสูง นางมีความสามารถในการฟื้นตัวที่ดีเยี่ยมด้วย แผลบาดเจ็บบนใบหน้าของนางก็หยุดไหลเลือดแล้ว

แต่มีคนมอบยาที่ดีเช่นนี้ หากไม่รับ จั๋วซือหรานรู้สึกเสียดาย ดังนั้นนางจึงรับยาน้ำค้างหยกอย่างไม่ลังเลใจ

สมกับเป็นท่านอ๋องของตระกูลเฟิง ของที่มอบให้คนอื่นไม่ธรรมดาเสียจริง

เฟิงเหยียนคว้าหลังคอเสื้อของเฟิงหร่านแล้วพูดอย่างไร้อารมณ์ “ต้องขออภัยด้วยขอรับ ข้าขอลาตัวก่อนขอรับ”

ในขณะเดียวกัน มีเสียงหัวเราะเยาะดังจากประตู มีชายคนหนึ่งพูดด้วยการหยอกล้อ "เจ้าเพิ่งอย่าเพิ่งรีบไปสิ คุณหนูโจวจิ่วได้รับอันตรายจากเสน่ห์หนอนพิษกู่ และอวัยวะภายในของนางได้รับบาดเจ็บด้วย อย่างไรก็ตาม นางเคยเป็นคู่หมั้นของเจ้า และนางยังรักเจ้าด้วยความจริงใจอันลึกซึ้ง เจ้าจะทิ้งนางเช่นนี้หรือ”

ผู้ที่เดินมามีดวงตาที่สวยงาม ชายผู้นี้หัวเราะเย้ยหยัน ทำตัวเหมือนไม่กลัวคำพูดของเขาอาจทำให้คนอื่นเดือดร้อน ใช่เลย ชายผู้นี้คือเหยียนฉี คุณชายของตระกูลเหยียน

เฟิงเหยีนขมวดคิ้วและพูดว่า "เจ้าสร้างปัญหาเสียจริง เจ้ารู้สึกแค่นี้ยังวุ่นวายไม่พอหรืออย่างไร"

จั๋วซือหรานรู้สึกอัปยศอดสูอย่างมาก

คำพูดของเหยียนฉีในเมื่อครู่นี้กำลังทำให้นางเดือดร้อน

ภาพลักษณ์ที่นางรักเฟิงเหยียนอย่างลึกซึ้ง ห้ามถูกทำลายเด็ดขาด

จั๋วซือหรานทำได้เพียงอดความอับอายและพูดอย่างน้ำใสใจจริง “แม้ว่าข้ามิได้เป็นผู้ที่สร้างเรื่องของวันนี้ก็จริง แต่เรื่องของวันนี้ได้ทำให้ท่านอ๋องเดือดร้อนจริง ๆ ในภายภาคหน้าจั๋วจิ่วจะไปเยี่ยมเยือนและขอโทษอด้วยตัวเองย่างแน่นอน อาการบาดเจ็บภายในเพียงเล็กน้อย ข้ามิอาจรบกวนท่านอ๋องอีกต่อไปเจ้าค่ะ”

เฟิงหร่านเริ่มวิตกกังวลเมื่อได้ยินคำพูดของจั๋วซือหราน “เจ้ายังอยากเยี่ยมถึงบ้านอีกหรือ จั๋วจิ่ว ข้าขอเตือนเจ้านะ เจ้าอย่าได้คืบจะเอาศอก อาการบาดเจ็บภายในของเจ้านั่นก็เป็นสิ่งที่สมควรได้ เจ้าเองไปพัวพันกับไอ้สารเลวเช่นนี้”

เฟิงเหยีนมองเฟิงหร่านอย่างเย็นชา “กลับไปที่ห้องลงโทษแล้วคุกเข่าสำนึกผิดเอง ข้ากลับไปแล้วค่อยจัดการเจ้า”

เฟิงหร่านกลัวเฟิงเหยียนและเคารพเขาอย่างมาก นางไม่กล้าเถียงเขาเลย นางทำตามที่เฟิงเหยียนสั่งและกลับบ้าน

จากนั้นเฟิงเหยียนจึงมองไปที่หญิงสาวที่สวมชุดแต่งงาน

ใบหน้าของหญิงสาวผู้นี้ซีดเซียวอย่างมาก เห็นได้ชัดว่า อวัยวะภายในของนางได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส แนะความเจ็บนั้นมาจากพลังของเสน่ห์หนอนพิษกู่

เขามองไปที่หยานฉีแล้วพูดว่า "ส่วนเจ้ารักษานางที"

ตระกูลเหยียนมีฝีมือการรักษาโรคต่าง ๆ และตระกูลนี้ยังเชี่ยวชาญในการจ่ายยาด้วย และลูกหลานทุกคนของตระกูลเหยียนถนัดการแพทย์ ซึ่งเหยียนสามารถรักษาจั๋วซือหรานได้อยู่แล้ว

คนภายนอกหาทุกวิถีทางเพื่อได้รับการรักษาโรคจากตระกูลเหยียน ทว่าจั๋วซืนหรานกลับปฏิเสธ

"ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ขอบคุณเจ้าค่ะ"

ในชาติที่แล้ว นางได้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้อันลึกลับของโบราณและนางได้ฝึกฝนการแพทย์สายวิเศษด้วย เดิมทีนางมีทักษะทางการรักษายอดฝีอยู่

อาการบาดเจ็บจากเสน่ห์หนอนพิษกู่ นางไตร่ตรองด้วยตนเอง คงแก้ปัยหาได้

สิ่งสำคัญคือตอนนี้ต้องยุติสถานการณ์อันน่าอับอายนี้

แต่เฟิงเหยียนกลับไม่อยากไปจากนี่ เขาเยาะเย้ย “เมื่อครู่นี้เจ้ายังสารภาพว่า เจ้ารักข้าอย่างมากมิใช่หรือ ทำไมแค่นี้ก็ไม่ยอมแล้ว”

ปากของจั๋วซือหรานแข็งทื่อ"คือข้า ... " นางกัดฟันแล้วพูดต่อ "... ข้ารู้สึกตกใจ กังวลว่าจะสร้างปัญหาให้กับท่านอ๋อง"

“ข้าไม่ได้รักษาให้เสียหน่อย แล้วข้าจะเดือดร้อนด้วยเรื่องใด” เฟิงเหยียนหันไปมองเหยียนฉี “รบกวนอะไรเจ้าไหม”

“แค้ก ๆ” เหยียนฉียกมือขึ้นเพื่อบังรอยยิ้มของเขา เขาพูดอย่างจริงจัง “แค่เรื่องเล็กน้อย ไม่ได้รบกวนข้าหรอก”

เฟิงเหยียนพูดกับจั๋วซือหราน “เขาบอกว่าไม่รบกวนเขา ไปกันเถิด”

จั๋วซือหรานผู้ที่ ‘น้ำใสใจจริง’ จะปฏิเสธความเมตตาของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ไม่ได้

ไม่นานหลังจากนั้น พวกเขามาถึงห้องด้านในที่ถูกตกแต่งอย่างรื่นเริง

เฟิงเหยียนดื่มสุราไปหนึ่งจอกอย่างช้า ๆ จั๋วซือหรานมองไปยังมือของเฟิงเหยียน เขากำลังถือแก้วที่ที่มีลายมังกรและหงส์ และรอบข้างแก้วนั้นมีอักษร "ความสุข" ด้วย

เฟิงเหยียนรู้สึกถึงสายตาของจั๋วซือหราน เขามองกลับไป “ทำไม เจ้าก็อยากดื่มด้วยหรือ”

จั๋วซือหรานคิดในใจว่า ข้าอย่าทำลายภาพลักษณ์เด็กขาด

นางทำได้เพียงพูดอย่างเขินอายและแก้มแดงเล็กน้อย "ท่านอ๋องเจ้าคะ นั่นคือสุราสำหรับคู่หมั้นเจ้าค่ะ สุรานี้มีความหมายว่า อยู่กันอย่างมีความสุขชั่วนิจนิรันดร์เจ้าค่ะ"

แต่เมื่อถึงเวลาที่เขาควรจะร่วมมือแสดง เขากลับเหมือนมองไม่เห็น เขาไม่เพียงแต่เฉยเมย เขายังนำปลายนิ้วไปลูบที่แก้วอีกด้วย

คำว่า "ความสุข" ภายใต้การเคลือบด้วยสีแดงสดใสหายไปจากรอบแก้ว ราวกับว่าอักษรนั้นไม่เคยปรากฏมาก่อน

ไร้ความเมตตาอย่ามาก

เฟิงเหยียน "สุราสำหรับคู่มั่นหรือ อ้าว ตอนนี้ไม่ใช่แล้วนะ "

แม้แต่เหยียนฉีเองก็รู้สึกว่า เฟิงหเหยียนนั้นโหดเหี้ยมเกินไป เวลาผ่านไปไม่นาน เหยียนก็ตรวจชีพจรให้จั๋วซือหราน

เฟิงเหยียน "เป็นอย่างไร"

“แม้ว่าชีพจรของคุณหนูจั๋วจิ่วจะแข็งแกร่ง ทว่าพิษที่นางได้รับในครั้งนี้ทำลายอวัยวะภายในของนางเสียจริง”

การวินิจฉัยของเหยียนฉีไม่แตกต่างจากการคาดการณ์ของจั๋วซือหรานในก่อนหน้านี้ อวัยวะภายในของนางมีอาการปวดอย่างรุนแรง ดังนั้น อวัยวะภายในจึงต้องได้รับความเสียหาย แต่เนื่องจากร่างกายของนางต่างจากคนทั่วไป การบาดเจ็บภายในนั้นจึงไม่ร้ายแรงมาก

ด้วยทักษะทางการแพทย์ขั้นสูงของจั๋วซือหราน การรักษาอาการบาดเจ็บภายในจึงเป็นเรื่องง่าย ซึ่งไม่จำเป็นต้องรบกวนเหนียนฉี

จั๋วซือหราน "ขอบคุณสำหรับการวินิจฉัยของคุณชายเหยียนฉี"

“เจ้ารักษานาง” หลังจากที่เฟิงเหยียนพูดกับเหยียนฉีแล้ว เขาก็มองไปที่จั๋วซือหรานอย่างเย็นชา “หลังจากนี้ไป บุญคุณและความแค้นระหว่างเจ้ากับข้าถูกยกเลิกโดยสิ้นเชิง ต่อจากนี้ไป เจ้ากับข้าต่างก็ไม่ล้ำเส้นกัน”

จั๋วซือหราน "แต่ข้า..."

เฟิงเหยียนมองนางด้วยความเย็นชาอย่างมาก “และเจ้าก็อย่าพูดเรื่องอะไรที่ว่าน้ำใสใจจริงอีกเลย จั๋วจิ่ว เจ้าคิดว่าทุกคนต่างโง่เขลาหรือ”

เดิมทีจั๋วซือหรานยังอยากแสดงอีก แต่ในเมื่อเฟิงเหยียนพูดเช่นนั้น พอดีเลย นางขี้เกียจที่จะแสดงอีกแล้ว

“ในเมื่อท่านอ๋องเป็นคนที่ไร้ความเมตตาเช่นนี้ ข้ายิ่งไม่อยากรบกวนคุณชายเหยียนเห็นแก่หน้าของเจ้า เพื่อช่วยตรวจดูอาการและรักษาข้า” จั๋วซือหรานยืนขึ้น “แม้ว่าท่านทั้งจะมาโดยไม่ได้รับบัตรเชิญในวันนี้ แต่ข้าก็ยังอยากจะขอบคุณท่านอ๋องที่ช่วยข้าไว้ อาการบาดเจ็บของข้ายังรักษาไม่หาย ข้าขอไม่ส่งท่านทั้งสอง”
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Kerati Wu
แปลได้ทุเรศมาก
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1460

    จั๋วซือหรานคิดๆ เสริมเข้ามาอีกประโยคหนึ่ง "ไม่ว่าอย่างไร ต่อให้ต้องหนี ก็ต้องไปทำความเข้าใจสถานการณ์แบบรูปธรรมมาก่อน"รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งยิ่งไปกว่านั้นจั๋วซือหรานหลังจากที่รู้เป้าหมายของสภาผู้อาวุโส ในใจก็เกิดความคิดหนึ่งขึ้นรางๆอันที่จริงนางเองก็อยากรู้เหมือนกัน ว่ามิติในแหวนเสวียนเหยียนของตนเองมันคืออะไรกันแน่ไม่แน่ การเดินทางครั้งนี้อาจจะได้คำตอบเส้นทางไปยังเมืองโม่ ยาวไกลมากจริงๆ ระหว่างทางก็เจอสถานการณ์หลายอย่าง ทั้งคนปล้นกับสัตว์ประหลาด เจอมาหมดถ้านี่เป็นกลุ่มอื่นคงจะจบลงที่กลางทางแล้วแต่โจรพวกนี้ก็ดวงไม่ดี ดันมาเจอกับกลุ่มของพวกเขาขั้นตอนโดยพื้นฐานจะเป็นปันอวิ๋นกับถังฉือสองคน ซึ่งหารือกันอย่างเกียจคร้านถังฉือ: "เจ้าไปไหม?"ปันอวิ๋น: "ข้าขี้เกียจ เจ้าไปแล้วกัน"ถังฉือ: "ข้าเองก็ขี้เกียจ"ปันอวิ๋น: "คืนนี้ข้าจะให้ซือหรานย่างปลา น้ำจิ้มผลไม้ปลาย่างของนางนี่อย่างเด็ด"ถังฉือ: "ข้าจะไปจัดการเดี๋ยวนี้"จากนั้นถังฉือก็ออกไปไม่ถึงสองนาที การต่อสู้ก็สิ้นสุดลงจั๋วซือหรานบางครั้งตอนที่นอนกลางวันก็ไม่รู้เรื่องนี้เลย! เพิ่งมารู้เรื่องเอาตอนย่างปลาช่วง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1459

    ถังฉือน่าจะไม่ค่อยสนใจเรื่องนี้จริงๆ ดังนั้นจึงรู้เนื้อหาไม่ค่อยมากนักถ้าหากเป็นจั๋วซือหรานล่ะก็ คงจะตรวจสอบเป้าหมาย แผนการ ของอีกฝ่ายมาจนหมดแล้วยังดีที่ถึงแม้ข้อมูลของถังฉือจะไม่เยอะมาก แต่พอบวกกับข้อมูลที่ปันอวิ๋นรู้บางส่วนรวมส่วนต่างๆ เข้าด้วยกัน ก็พอปะติดปะต่อเรื่องราวออกมาได้จั๋วซือหรานรวบรวมข้อมูลคร่าวๆ แล้วจึงสรุปออกมา"สรุปก็คือ ในเรื่องที่สภาผู้อาวุโสลิ้มรสความหอมหวานจากเกาะลอยฟ้าด้วยพลังแห่งมังกรคราม เลยคิดอยากจะได้พลังแห่งสัตว์เทพที่มากกว่า หวังว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าเดิม ต้องการ...แดนอุดมคติบนโลกมนุษย์"พูดถึงจุดนี้ จั๋วซือหรานก็หัวเราะเบาๆ ขึ้นมาทีหนึ่ง ทั้งเหมือนประชดและเหมือนไม่มี นางเสริมขึ้นมาคำหนึ่ง "แดนอุดมคติบนโลกมนุษย์ที่เป็นของพวกเขาเท่านั้น"น่าจะประมาณนี้นั่นล่ะเพียงแต่ว่าล้มเหลวไปแล้ว เพราะพลังสัตว์เทพที่ได้รับมาจากการพันธนาการ มันไม่ได้ผลลัพธ์แบบที่พวกเขาคาดหวังเอาไว้"หลักๆ คือเจ้าเสียวหม่านี่รู้ข้อมูลมาน้อยเกินไปแล้ว" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้น "ดังนั้นพวกเรารีบไปที่เมืองโม่ดีกว่า ชิงตัวซงซีกับเยี่ยนเหวยมาก่อน ข้อมูลที่พวกเขารู้ต้องมากกว่านี้แน่นอน"จั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1458

    สายตาของปันอวิ๋นก็มองมาทางเขา รู้สึกทอดถอนใจหน่อยๆถังฉือไม่พูดต่อ แต่ปันอวิ๋นก็เห็นได้ชัดว่ารู้เรื่องราวหลังจากนั้นจึงหันมาบอกกับจั๋วซือหรานว่า "พยัคฆ์ขาวนั่นตอนนั้นก็เป็นเขานี่ล่ะที่จับไป""..." จั๋วซือหรานเข้าใจความหมายความเงียบงันของถังฉือเมื่อครู่ทันทีมิน่า น่าจะตอนนั้นสินะ เขาถึงได้เข้าใจต่อเรื่องนี้ขึ้นมาบ้าง"สรุปคือ..." ถังฉือเนื่องจากมีนิสัยแบบนั้น ดังนั้นต่อให้รู้สึกเชิงขอโทษอยู่บ้าง แต่มันก็เพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้นเขาพูดต่อว่า "สรุปคือ หลังจากข้าพาเขาไป พวกเขาก็หาวิธีคิดจะใช้พลังแห่งพยัคฆ์ขาว ข้าเข้าใจไม่มากนัก จำได้ลางๆ ว่า พวกเขาหวังจะมีพลังแห่งสัตว์เทพ แล้วจะสร้างปาฏิหาริย์เหมือนเกาะลอยฟ้าขึ้นมา"ฟังถึงตรงนี้ จั๋วซือหรานรู้สึกประหลาดใจหน่อยๆ แต่ก็พอเข้าใจได้ถึงอย่างไร คนที่เคยลิ้มรสความหอมหวานมาแล้ว ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่อยากจะลิ้มรสความหอมหวานมากขึ้นเรื่อยๆ นี่เป็นเรื่องปกติของมนุษย์เพียงแต่ว่า จั๋วซือหรานเพิ่งจะคิดแบบนี้ ก็เห็นถังฉือขมวดคิ้ว เหมือนจะดูไม่ค่อยพอใจกับเนื้อหาคำพูดของตัวเองราวกับว่า รู้สึกว่าคำพูดของตัวเอง ยังแสดงความหมายที่อยากจะบอกออกมาไ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1457

    จั๋วซือหรานพูดถึงตรงนี้ ก็หัวเราะขึ้นมา แต่ไม่ใช่หัวเราะใส่เฟิงเหยียนหรือปันอวิ๋นถ้าให้พูดจริงๆ น่าจะเป็นเจ้าสภาผู้อาวุโสสมควรตายนั่นมากกว่าจั๋วซือหรานหัวเราะเสียงเย็นชา "พวกเขาพอได้ลิ้มลองของดีแล้ว ต้องไม่ยอมปล่อยวางพลังสัตว์เทพไปแน่นอน"พลังแห่งมังกรครามสามารถทำให้เกาะมังกรลอยบนท้องฟ้าได้ ทำให้ฐานที่มั่นพวกเขาดูราวกับเป็นปาฏิหาริย์แห่งทวยเทพได้อย่าว่าแต่สภาผู้อาวุโสพวกนี้เลยจั๋วซือหรานลองสมมติว่าถ้าตนเองเป็นแบบนั้น ก็คงรู้สึกอยากจะรู้ว่าพลังของสัตว์เทพอื่นๆ จะเป็นเช่นไร"ใช่เลย" ปันอวิ๋นถอนหายใจ "เพียงแต่ว่า พลังสัตว์เทพมันหาได้ง่ายๆ เสียที่ไหนกัน"ถังฉือที่อยู่ข้างๆ ก็พูดต่อมาว่า "พวกเราหามาตั้งหลายปี ไอ้ที่หาเจอจริงๆ ก็มีแค่หงส์แดงกับพยัคฆ์ขาวเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นแค่พวกน้ำไร้รากด้วย"จั๋วซือหรานรู้สึกสนใจกับคำพูดนี้ของถังฉือ"น้ำไร้ราก..."ประหลาด จั๋วซือหรานเข้าใจความหมายคำนี้ของถังฉือขึ้นทันทีพลังแห่งพยัคฆ์ขาวที่ถังฉือพูดถึงเป็นอย่างไร จั๋วซือหรานไม่รู้แต่ที่นางรู้คือบนตัวเฟิงเหยียน หรือก็คือพลังหงส์แดงที่สืบทอดมาของตระกูลเฟิงมันก็ดูเป็นน้ำไร้รากจริงๆ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1456

    เขาพยักหน้า "พวกเขาสะสมมานานหลายปี มีทรัพยากรที่ดีที่สุด มีเส้นสายที่ดีที่สุดกับสำนักต่างๆ"ถังฉือพูดต่อไปและเพราะมีทรัพยากรเช่นนี้ พวกเขาจึงมีสายข่าวที่เยอะถึงเยอะมากๆสัตว์เทพเอย สัตว์ชั่วร้ายเอย สิ่งที่คนปรารถนาแต่ไม่อาจเอื้อมถึง แค่คิดก็ยังไม่กล้าจะคิด ทว่าสำหรับพวกเขาแล้ว กลับเป็นสิ่งที่ได้มาง่ายดายและเพราะได้มาง่ายดาย จึงไม่ได้ดูมีคุณค่าขนาดนั้นดังนั้น จึงมีทะเลทรายทางเหนือขึ้นมาทะเลทรายทางเหนือก็เหมือนกับเป็นศูนย์พักพิงแห่งหนึ่งของสภาผู้อาวุโส รวบรวมตัวตนอันตรายจำนวนมากไว้ เป็นตัวตนที่สภาผู้อาวุโสรู้สึกว่าเก็บไว้ก็ไม่ได้ประโยชน์ แต่จะทิ้งก็เสียดายถ้าบอกว่าให้ทิ้งไป พวกเขาก็ยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง แต่ถ้าจะบอกว่ามีค่า...ก็เหมือนไม่ได้ไปถึงขนาดนั้นดังนั้นจึงให้พวกเขาอยู่กันที่ทะเลทรายทางเหนือ อยู่ในเมืองโม่ทั้งใช้งานต่อได้ และไม่ส่งผลกระทบกับชีวิตของสภาผู้อาวุโสด้วยจั๋วซือหรานฟังออกถึงความหมายในคำพูดนี้"ดังนั้นก็คือ...ที่พวกเขาเอาคนเหล่านี้มาทำงานในเมืองโม่ อันที่จริงก็เพื่อไม่ให้พวกเขาไปยังฐานที่มั่นสภาผู้อาวุโส แต่ยังสามารถใช้ประโยชน์จากพลังของพวกเขาต่อไปได้"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1455

    ถังฉือชอบจั๋วซือหราน ไม่ใช่ความรู้สึกชอบแบบหนุ่มสาว แต่เป็นความชอบแบบบริสุทธิ์ใจดังนั้น ขอแค่จั๋วซือหรานอยากรู้ ถังฉือก็จะตอบสิ่งที่รู้ออกมาทั้งหมดดังนั้นจั๋วซือหรานจึงมีความเข้าใจต่อสภาผู้อาวุโส และทะเลทรายทางเหนือพอควรแล้วสภาผู้อาวุโส ตอนแรกสุดที่ก่อตั้ง ไม่ได้มีเจตนาไม่ดี และไม่มีการกดขี่ข่มเหงตอนนั้น แผ่นดินใหญ่แตกแยกล่มสลายแคว้นเล็กต่างๆ สับสนวุ่นวายไม่พัก สู้กันไปสู้กันมาตอนนั้นลัทธิยังไม่เรียกเป็นลัทธิ แต่ยังเรียกเป็นแค่กลุ่มสำนัก และกลุ่มสำนักภูเขาหรือกลุ่มสำนักริมน้ำก็ผุดขึ้นมาไม่ขาดสายและก็มีการช่วงชิงระหว่างกันทั้งที่ลับที่แจ้งอยู่ไม่น้อยพูดแบบนี้ดีกว่า เป็นยุคสมัยที่ค่อนข้างวุ่นวายเลยทีเดียวระหว่างแคว้นรบราต่อสู้กัน วุ่นวายไม่หยุดหย่อนระหว่างสำนักเองก็ต่อสู้กัน มีคนตายไปไม่น้อยสถานการณ์เช่นนี้ยืดยาวต่อมาเป็นเวลานาน กินเวลาหลายสิบปีเลยทีเดียวต่อมาไม่รู้เนื่องจากโอกาสอะไร โดยรวมคือ มีสำนักอันดับแรกที่ก่อตั้งขึ้นจากการร่วมตัวเป็นพันธมิตรพลังของสำนักเช่นนี้แน่นอนว่าไม่ใช่ธรรมดา ดีกว่ากลุ่มสำนักแต่ก่อนมากมายดังนั้น เพื่อจะต่อสู้กับสำนักนี้ สำนักอื่นๆ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status