Share

บทที่ 4

Author: หูเทียนเสี่ยว
น้ำเสียงทุ้มต่ำของเฟิงเหยียนเต็มไปด้วยความเย็นชาและเสน่ห์"น่าอับอายเสียจริง เรื่องไร้สาระสิ้นดี"

จั๋วซือหรานเงยหน้ามองชายผู้นี้ด้วยความเจ็บปวดอย่างมาก

ใต้หล้ามีคนหน้าตาดีตั้งมากมาย

เฟิงเหยีนกลับมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ความหล่อเหลาของเขาผสมด้วยความกล้าหาญที่ฮึกเหิม

ทันทีที่จั๋วซือหรานเห็นใบหน้านี้ นางหายความเจ็บปวดทันที

แต่จั๋วซือหรานหายเจ็บปวด ไม่ใช่เป็นเพราะนางเห็นหน้าตาอันหล่อเหลา

แต่เป็นเพราะวินาทีที่ชายผู้นี้ปรากฏตัวอย่างรวดเร็ว เขาวางมือบนไหล่ฉินตวนหยาง

"อ๊าก ๆ——!“

ฉินตวนหยางกรีดร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง เสียงร้องนั้นดังเป็นสิบ ๆ เท่าเมื่อเทียบกับตอนที่เขาถูกหักขาในก่อนหน้านี้ และบัดนี้เขากำลังล้มบนพื้นและกระตุกไปทั้งตัว

สายเลือดของตระกูลเฟิงเป็นเช่นนี้ สายเลือดนี้เป็นธาตุไฟที่รุนแรงที่สุด ยิ่งเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์อันยอดเยี่ยม พลังทางจิตวิญญาณก็ยิ่งเผด็จการมาขึ้นเท่านั้น

หากถูกพลังทางจิตวิญญาณนั้นรุกราน จะมีความรู้สึกอย่างร่างกายกำลังถูกไฟเผา ซึ่งความเจ็บปวดนั้นพอ ๆ กันกับความเจ็บปวดที่เสน่ห์หนอนพิษกู่นำมา

ในขณะเดียวกัน ฉินตวนหยางหลั่งน้ำอย่างหนัก เขาดูน่าเกลียดอย่างมาก

เมื่อเผชิญนหน้ากับความเจ็บปวดที่ร้ายแรง เขาไร้ความอดทนและความสามารถในการสงบอารมณ์อย่างที่จั๋วซือหรานเคยทำ

ในขณะนี้ มีกล่องเครื่องเขินทรงกลมหลุดออกมาจากเสื้อผ้าของฉินตวนหยาง

กล่องเครื่องเขินนั้นมีสีเข้มและทำจากวัสดุหนา ลวดลายดูซับซ้อนและแปลกตา

กล่องกลิ้งไปกลิ่งมาบนพื้นครู่หนึ่ง จากนั้นสั่นสองสามครั้ง และฝาก็ถูกเปิดจากด้านใน

“นั่นคือ...กล่องหนอนพิษกู่มิใช่หรือ”

ผู้ที่มีความรู้ในด้านนี้มองออกนี่เป็นกล่องใด

ภายใต้สายตาของทุกคน ทุกคนเห็นหนอนที่มีลวดลายสีสันสดใสบิดตัวและคลานออกมาจากกล่อง หลังจากดิ้นอยู่ครู่หนึ่งหนอนตัวนั้นก็ได้หยุดเคลื่อนไหว

ทันทีที่แม่หนอนพิษกู่ตาย ความเจ็บปวดทั่วร่างกายของจั๋วซือหรานก็หายไปทันที

ขณะนี้ มีหลักฐานที่ไม่สามารถหักล้างได้ ไม่มีใครสงสัยเรื่องเสน่ห์หนอนพิษกู่อีกต่อไป

“แม่เจ้า นั่นหมายความว่า นางต้องทนความเจ็บปวดจากการโจมตีของหนอนพิษกู่แล้วหรือ”

“มิน่าแปลกใจเลยที่เมื่อครู่นี้ นางอาเจียนเป็นเลือด ข้ายังคิดว่าเป็นเพราะคุณหนูเฟิงสือตีนางเสียอีก”

แม้แต่เฟิงเหยีนเองก็เลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ

ฉินตวนหยางเป็นเพียงบัณฑิตที่ไร้ประโยชน์ เขาจะหาแมลงลัทธิกู่จากดินแดนทางใต้ใต้อย่างง่ายดายได้อย่างไร

เหตุผลที่เฟิงเหยียนลงมือ เดิมทีเขาอยากเปิดเผยหน้าตาตัวจริงของนาง

ทว่าเขาไม่เคยคิดเลยว่า จะมีเสน่ห์หนอนพิษกู่จริง ๆ ดังนั้นต้นกำเนิดของหนอนพิษกู่นี้จึงกลายเป็นเรื่องที่น่าสนใจและน่าวิเคราะห์

จั๋วซือหรานเงยหน้าขึ้นและกล่าวคำขอบคุณ "ขอบคุณความช่วยเหลือของท่านอ๋องมาก"

เฟิงเหยียนพูดอย่างเย็นชา "น้องสาวของข้ามีการกระทำบุ่มบ่าม ข้าต่างหากที่ต้องขอโทษ"

เขายื่นกระปุกลายดอกบัวที่ทำจากดินเผาให้จั๋วซือหราน "นี่คือยารักษาบาดแผล"

เมื่อเฟิงหร่านเห็นลวดลายของกระปุกที่ทำจากดินเผานั้น นางเริ่มวิตกกังวล “ท่านพี่ เป็นแผลเล็ก ๆ เท่านั้น สักพักก็จะค่อย ๆ จะหายเอง ไม่เห็นต้องใช้ยาน้ำค้างหยกเลย”

นำยาน้ำค้างหยกมารักษาแผลเล็ก ๆ ที่อยู่บนใบหน้าของจั๋วซือหราน เท่ากับว่านำดาบที่ฆ่าวัวไปฆ่าไก่ มันเกินไปเสียจริง

เฟิงเหยียน "หุบปาก"

เฟิงหร่านทำได้เพียงปิดปากของตนเอง แม้ว่านางจะหงุดหงิดมากเท่าใด

จั๋วซือหรานมีพรสวรรค์อย่างสูง นางมีความสามารถในการฟื้นตัวที่ดีเยี่ยมด้วย แผลบาดเจ็บบนใบหน้าของนางก็หยุดไหลเลือดแล้ว

แต่มีคนมอบยาที่ดีเช่นนี้ หากไม่รับ จั๋วซือหรานรู้สึกเสียดาย ดังนั้นนางจึงรับยาน้ำค้างหยกอย่างไม่ลังเลใจ

สมกับเป็นท่านอ๋องของตระกูลเฟิง ของที่มอบให้คนอื่นไม่ธรรมดาเสียจริง

เฟิงเหยียนคว้าหลังคอเสื้อของเฟิงหร่านแล้วพูดอย่างไร้อารมณ์ “ต้องขออภัยด้วยขอรับ ข้าขอลาตัวก่อนขอรับ”

ในขณะเดียวกัน มีเสียงหัวเราะเยาะดังจากประตู มีชายคนหนึ่งพูดด้วยการหยอกล้อ "เจ้าเพิ่งอย่าเพิ่งรีบไปสิ คุณหนูโจวจิ่วได้รับอันตรายจากเสน่ห์หนอนพิษกู่ และอวัยวะภายในของนางได้รับบาดเจ็บด้วย อย่างไรก็ตาม นางเคยเป็นคู่หมั้นของเจ้า และนางยังรักเจ้าด้วยความจริงใจอันลึกซึ้ง เจ้าจะทิ้งนางเช่นนี้หรือ”

ผู้ที่เดินมามีดวงตาที่สวยงาม ชายผู้นี้หัวเราะเย้ยหยัน ทำตัวเหมือนไม่กลัวคำพูดของเขาอาจทำให้คนอื่นเดือดร้อน ใช่เลย ชายผู้นี้คือเหยียนฉี คุณชายของตระกูลเหยียน

เฟิงเหยีนขมวดคิ้วและพูดว่า "เจ้าสร้างปัญหาเสียจริง เจ้ารู้สึกแค่นี้ยังวุ่นวายไม่พอหรืออย่างไร"

จั๋วซือหรานรู้สึกอัปยศอดสูอย่างมาก

คำพูดของเหยียนฉีในเมื่อครู่นี้กำลังทำให้นางเดือดร้อน

ภาพลักษณ์ที่นางรักเฟิงเหยียนอย่างลึกซึ้ง ห้ามถูกทำลายเด็ดขาด

จั๋วซือหรานทำได้เพียงอดความอับอายและพูดอย่างน้ำใสใจจริง “แม้ว่าข้ามิได้เป็นผู้ที่สร้างเรื่องของวันนี้ก็จริง แต่เรื่องของวันนี้ได้ทำให้ท่านอ๋องเดือดร้อนจริง ๆ ในภายภาคหน้าจั๋วจิ่วจะไปเยี่ยมเยือนและขอโทษอด้วยตัวเองย่างแน่นอน อาการบาดเจ็บภายในเพียงเล็กน้อย ข้ามิอาจรบกวนท่านอ๋องอีกต่อไปเจ้าค่ะ”

เฟิงหร่านเริ่มวิตกกังวลเมื่อได้ยินคำพูดของจั๋วซือหราน “เจ้ายังอยากเยี่ยมถึงบ้านอีกหรือ จั๋วจิ่ว ข้าขอเตือนเจ้านะ เจ้าอย่าได้คืบจะเอาศอก อาการบาดเจ็บภายในของเจ้านั่นก็เป็นสิ่งที่สมควรได้ เจ้าเองไปพัวพันกับไอ้สารเลวเช่นนี้”

เฟิงเหยีนมองเฟิงหร่านอย่างเย็นชา “กลับไปที่ห้องลงโทษแล้วคุกเข่าสำนึกผิดเอง ข้ากลับไปแล้วค่อยจัดการเจ้า”

เฟิงหร่านกลัวเฟิงเหยียนและเคารพเขาอย่างมาก นางไม่กล้าเถียงเขาเลย นางทำตามที่เฟิงเหยียนสั่งและกลับบ้าน

จากนั้นเฟิงเหยียนจึงมองไปที่หญิงสาวที่สวมชุดแต่งงาน

ใบหน้าของหญิงสาวผู้นี้ซีดเซียวอย่างมาก เห็นได้ชัดว่า อวัยวะภายในของนางได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส แนะความเจ็บนั้นมาจากพลังของเสน่ห์หนอนพิษกู่

เขามองไปที่หยานฉีแล้วพูดว่า "ส่วนเจ้ารักษานางที"

ตระกูลเหยียนมีฝีมือการรักษาโรคต่าง ๆ และตระกูลนี้ยังเชี่ยวชาญในการจ่ายยาด้วย และลูกหลานทุกคนของตระกูลเหยียนถนัดการแพทย์ ซึ่งเหยียนสามารถรักษาจั๋วซือหรานได้อยู่แล้ว

คนภายนอกหาทุกวิถีทางเพื่อได้รับการรักษาโรคจากตระกูลเหยียน ทว่าจั๋วซืนหรานกลับปฏิเสธ

"ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ขอบคุณเจ้าค่ะ"

ในชาติที่แล้ว นางได้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้อันลึกลับของโบราณและนางได้ฝึกฝนการแพทย์สายวิเศษด้วย เดิมทีนางมีทักษะทางการรักษายอดฝีอยู่

อาการบาดเจ็บจากเสน่ห์หนอนพิษกู่ นางไตร่ตรองด้วยตนเอง คงแก้ปัยหาได้

สิ่งสำคัญคือตอนนี้ต้องยุติสถานการณ์อันน่าอับอายนี้

แต่เฟิงเหยียนกลับไม่อยากไปจากนี่ เขาเยาะเย้ย “เมื่อครู่นี้เจ้ายังสารภาพว่า เจ้ารักข้าอย่างมากมิใช่หรือ ทำไมแค่นี้ก็ไม่ยอมแล้ว”

ปากของจั๋วซือหรานแข็งทื่อ"คือข้า ... " นางกัดฟันแล้วพูดต่อ "... ข้ารู้สึกตกใจ กังวลว่าจะสร้างปัญหาให้กับท่านอ๋อง"

“ข้าไม่ได้รักษาให้เสียหน่อย แล้วข้าจะเดือดร้อนด้วยเรื่องใด” เฟิงเหยียนหันไปมองเหยียนฉี “รบกวนอะไรเจ้าไหม”

“แค้ก ๆ” เหยียนฉียกมือขึ้นเพื่อบังรอยยิ้มของเขา เขาพูดอย่างจริงจัง “แค่เรื่องเล็กน้อย ไม่ได้รบกวนข้าหรอก”

เฟิงเหยียนพูดกับจั๋วซือหราน “เขาบอกว่าไม่รบกวนเขา ไปกันเถิด”

จั๋วซือหรานผู้ที่ ‘น้ำใสใจจริง’ จะปฏิเสธความเมตตาของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ไม่ได้

ไม่นานหลังจากนั้น พวกเขามาถึงห้องด้านในที่ถูกตกแต่งอย่างรื่นเริง

เฟิงเหยียนดื่มสุราไปหนึ่งจอกอย่างช้า ๆ จั๋วซือหรานมองไปยังมือของเฟิงเหยียน เขากำลังถือแก้วที่ที่มีลายมังกรและหงส์ และรอบข้างแก้วนั้นมีอักษร "ความสุข" ด้วย

เฟิงเหยียนรู้สึกถึงสายตาของจั๋วซือหราน เขามองกลับไป “ทำไม เจ้าก็อยากดื่มด้วยหรือ”

จั๋วซือหรานคิดในใจว่า ข้าอย่าทำลายภาพลักษณ์เด็กขาด

นางทำได้เพียงพูดอย่างเขินอายและแก้มแดงเล็กน้อย "ท่านอ๋องเจ้าคะ นั่นคือสุราสำหรับคู่หมั้นเจ้าค่ะ สุรานี้มีความหมายว่า อยู่กันอย่างมีความสุขชั่วนิจนิรันดร์เจ้าค่ะ"

แต่เมื่อถึงเวลาที่เขาควรจะร่วมมือแสดง เขากลับเหมือนมองไม่เห็น เขาไม่เพียงแต่เฉยเมย เขายังนำปลายนิ้วไปลูบที่แก้วอีกด้วย

คำว่า "ความสุข" ภายใต้การเคลือบด้วยสีแดงสดใสหายไปจากรอบแก้ว ราวกับว่าอักษรนั้นไม่เคยปรากฏมาก่อน

ไร้ความเมตตาอย่ามาก

เฟิงเหยียน "สุราสำหรับคู่มั่นหรือ อ้าว ตอนนี้ไม่ใช่แล้วนะ "

แม้แต่เหยียนฉีเองก็รู้สึกว่า เฟิงหเหยียนนั้นโหดเหี้ยมเกินไป เวลาผ่านไปไม่นาน เหยียนก็ตรวจชีพจรให้จั๋วซือหราน

เฟิงเหยียน "เป็นอย่างไร"

“แม้ว่าชีพจรของคุณหนูจั๋วจิ่วจะแข็งแกร่ง ทว่าพิษที่นางได้รับในครั้งนี้ทำลายอวัยวะภายในของนางเสียจริง”

การวินิจฉัยของเหยียนฉีไม่แตกต่างจากการคาดการณ์ของจั๋วซือหรานในก่อนหน้านี้ อวัยวะภายในของนางมีอาการปวดอย่างรุนแรง ดังนั้น อวัยวะภายในจึงต้องได้รับความเสียหาย แต่เนื่องจากร่างกายของนางต่างจากคนทั่วไป การบาดเจ็บภายในนั้นจึงไม่ร้ายแรงมาก

ด้วยทักษะทางการแพทย์ขั้นสูงของจั๋วซือหราน การรักษาอาการบาดเจ็บภายในจึงเป็นเรื่องง่าย ซึ่งไม่จำเป็นต้องรบกวนเหนียนฉี

จั๋วซือหราน "ขอบคุณสำหรับการวินิจฉัยของคุณชายเหยียนฉี"

“เจ้ารักษานาง” หลังจากที่เฟิงเหยียนพูดกับเหยียนฉีแล้ว เขาก็มองไปที่จั๋วซือหรานอย่างเย็นชา “หลังจากนี้ไป บุญคุณและความแค้นระหว่างเจ้ากับข้าถูกยกเลิกโดยสิ้นเชิง ต่อจากนี้ไป เจ้ากับข้าต่างก็ไม่ล้ำเส้นกัน”

จั๋วซือหราน "แต่ข้า..."

เฟิงเหยียนมองนางด้วยความเย็นชาอย่างมาก “และเจ้าก็อย่าพูดเรื่องอะไรที่ว่าน้ำใสใจจริงอีกเลย จั๋วจิ่ว เจ้าคิดว่าทุกคนต่างโง่เขลาหรือ”

เดิมทีจั๋วซือหรานยังอยากแสดงอีก แต่ในเมื่อเฟิงเหยียนพูดเช่นนั้น พอดีเลย นางขี้เกียจที่จะแสดงอีกแล้ว

“ในเมื่อท่านอ๋องเป็นคนที่ไร้ความเมตตาเช่นนี้ ข้ายิ่งไม่อยากรบกวนคุณชายเหยียนเห็นแก่หน้าของเจ้า เพื่อช่วยตรวจดูอาการและรักษาข้า” จั๋วซือหรานยืนขึ้น “แม้ว่าท่านทั้งจะมาโดยไม่ได้รับบัตรเชิญในวันนี้ แต่ข้าก็ยังอยากจะขอบคุณท่านอ๋องที่ช่วยข้าไว้ อาการบาดเจ็บของข้ายังรักษาไม่หาย ข้าขอไม่ส่งท่านทั้งสอง”
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Kerati Wu
แปลได้ทุเรศมาก
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1367

    พอได้ยินเสียงนี้ จั๋วซือหรานก็รู้ว่าเจ้าของเสียงน่าจะเป็นแม่ทัพทหารประจำการเมืองลั่วหม่า...แม่ทัพเย่เจิงคนนั้นจั๋วซือหรานมุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม "แม่ทัพดูแลเมืองลั่วหม่าได้สงบจริงๆ ข้าก็เลยรู้สึกสบายๆ น่ะ""ถ้าหากสงบจริง ใต้เท้าคงไม่โดนโจรปล้นที่ด้านนอกนั่นหรอก" เสียงของเย่เจิงดังลอดออกมาจากด้านในฟังเนื้อหาแล้ว เห็นได้ชัดว่ารู้เรื่องที่จั๋วซือหรานถูกปล้นแล้วจั๋วซือหรานเดินเข้าไปในโถง และเห็นแม่ทัพเย่ที่นั่งอยู่แล้วเทียบกับฉีฮ่าวที่ดูกักขฬะแล้วยังสง่างามกว่าหน่อย แต่ก็ยังดูดุดันกว่าอิงเซ่าที่สง่างามทรงภูมินิดๆ"แม่ทัพเย่" จั๋วซือหรานยิ้มๆสายตาของเย่เจิง พิจารณาอยู่บนตัวหญิงสาวตรงหน้าคนนี้ในสายตาก็มีการสำรวจตรวจสอบอย่างไม่มีปิดบังเขาปักหลักอยู่ในเมืองลั่วหม่ามาหลายปี ถือได้ว่าเป็นการประจำการอยู่แนวหน้าตลอดทั้งปีคนแบบเขาจะเป็นพวกกระดูกแข็งและรับมือยากถ้าจะให้เขามาประจบสอพลออะไรแบบนั้น คงจะทำไม่ได้แน่สำหรับเรื่องนี้ พวกขุนนางใต้เท้าที่มาจากเมืองหลวง ส่วนใหญ่ก็ไม่เต็มใจจะยอมรับเท่าไร กระทั่งรู้สึกขี้เกียจจะออกมาพบเสียด้วยซ้ำแต่สำหรับจั๋วซือหราน กลับโผล่หน้าออกมาด้วยต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1366

    และขี้เกียจจะกลับไปบนรถม้าแล้ว จึงขึ้นไปนั่งอยู่บนหลังม้าตัวที่นำอยู่ เตรียมจะตรงไปยังจวนแม่ทัพเมืองลั่วหม่าตามที่ทหารชี้ทางไว้แต่ก่อนหน้าที่จะไป นางก็ยังไม่ลืมกำชับกับหัวหนาทหารว่า "คนพวกนี้ ถ้าออกมาจากในคุกก็จะมีใบรับรองความภักดีแล้ว พวกเขาคงจะไปช่วยพวกคนชั่วในเมืองซื่อหนานก่อเรื่องไม่ดีแน่ ดังนั้นห้ามปล่อยพวกเขาออกมาเด็ดขาด"ดวงตาของเหล่าโจรก็ถลึงโตขึ้นมา มองไปทางจั๋วซือหรานและหญิงสาวชุดแดงบนหลังม้านั้น ใบหน้าเล็กที่ไม่ได้แต่งแต้มเครื่องประทิน งดงามหาใดเปรียบก็ยิ้มขึ้นมาจนเจิดจ้ายิ่งกว่าดวงตะวัน แต่ในแววตานั้นกลับไม่มีความอบอุ่นใดอยู่เลย ราวกับจะเย็นเยียบยิ่งกว่าน้ำแข็งเสียอีกสายตาที่ไม่มีความอบอุ่นใดของนางตกมาอยู่บนตัวพวกเขา จ้องมองมาเรียบๆ "พวกเจ้าคิดว่ากฏหมายใช้กับคนหมู่มากไม่ได้ พอปล้นชิงแล้วขอแค่ไปยังเมืองซื่อหนานได้ กฏหมายก็จะเอาผิดพวกเจ้าไม่ได้สินะ"นางจ้องพวกเขา "แต่ข้าเอาผิดพวกเจ้าได้ ทนรับเอาไว้ก็แล้วกัน"พูดคำนี้จบ จั๋วซือหรานก็คีบท้องม้า ติดตามทหารที่นำทาง ตรงไปยังจวนแม่ทัพทหารประจำการของเมืองลั่วหม่า เป็นส่วนหนึ่งของกองพันพยัคฆ์ทมิฬแห่งกองทัพสยบแดนใต้แม่ท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1365

    ถ้าถูกจับเข้าห้องขัง พวกเขาไม่ใช่ยังต้องคิดหาวิธีแหกคุกออกมาอีกถึงจะหลบเข้าไปใช้ชีวิตอย่างสงบในซื่อหนานได้รึไงกัน?จากนั้น พวกเขาก็ได้ยินจั๋วซือหรานหัวเราะขึ้นมา ไม่รู้เพราะอะไร ตอนที่พวกเขาได้ยินเสียงนี้ ในใจก็รู้สึกตึกตักขึ้นมาอย่างประหลาด...น่าจะเพราะ...เป็นลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดีกระมัง?สรุปคือ หลังจากเสียงหัวเราะเบาๆ ของนาง พวกเขาก็ได้ยินจั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นว่า "โอ้ พวกเขาน่ะ..."สายตานางหรี่ลง แววตาเจ้าเล่ห์ชั่วร้ายแล่นวาบในดวงตาพญาหงส์ของนาง"พวกเขาเป็นคนที่คิดจะมาปล้นขบวนรถข้าที่ด้านนอกเมืองลั่วหม่าน่ะ"พอคำนี้ออกไป เหล่าโจรต่อให้เดาได้ถึงความเป็นไปได้นี่ แต่ก็ยังรู้สึกตกตะลึงอยู่และเหล่าทหารเองก็ตกตะลึงด้วยเช่นกัน ร้อนรนขึ้นมาทันที"มีเรื่องแบบนี้ด้วยหรือ? กำเริบเสิบสานเสียจริง!"ในดวงตาของหัวหน้าทหารมีความโกรธอยู่ตรงหน้าคนนี้คือว่าที่โหวหลวนหนานนะ ทั่วทั้งหลวนหนานล้วนเป็นพื้นที่ศักดินาของนาง ยิ่งไปกว่านั้นได้ยินว่านางไม่ใช่หญิงสาวที่อ่อนแออะไรเลยอีกด้วยชื่อเสียงของคนผู้นี้ลือไปทั่วเมืองหลวงแล้ว เป็นตัวตนที่ค่อนข้างร้ายกาจเลยทีเดียว...ในอนาคตจะต้องมีเรื่องที่ต้อ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1364

    จั๋วซือหรานส่งป้ายผ่านด่านให้กับทหารทหารประตูเมืองหยิบป้ายผ่านด่านของนาง ขึ้นมามองไปมองมาอย่างละเอียดจากนั้นก็ขมวดคิ้วแน่นขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อจั๋วซือหรานรู้สึกว่าปกติดี แม้ว่านางจะถูกอวยยศเป็นโหวแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นยังถูกแต่งตั้งพื้นที่ศักดินาเป็นหลวนหนานด้วยแต่การสื่อสารที่ยังไม่พัฒนานัก ทำเลที่ตั้งของเมืองลั่วหม่าเองก็ค่อนข้างห่างไกลอีกด้วยต่อให้แม่ทัพทีประจำการอยู่ในเมืองลั่วหม่าจะรู้ข่าวแล้ว แต่ก็อาจจะไม่ได้แจ้งลงมาขุนพลกับทหารด้านล่างยังไม่รู้ ก็ดูเป็นเรื่องปกติดังนั้นทหารจึงเห็นว่านางเป็นหญิงสาวคนหนึ่ง ที่หยิบเอา 'ป้ายตราปลอม' ที่มีตราประทับโหวออกมาหลอกลวงฉับพลัน สีหน้าก็ปั้นยากขึ้นมาทันทีหัวเราะเย็นชาขึ้นเสียงหนึ่ง "เจ้านี่บังอาจนักนะ! เจ้าคิดจะล้อเล่นกับเมืองลั่วหม่ารึ? ตาสีตาสาที่ไหนแค่ถือป้ายผ่านทางมั่วๆ มา ก็คิดว่าจะเนียนเข้าไปในเมืองลั่วหม่าได้รึไงกัน?"จั๋วซือหรานครุ่นคิดสาเหตุปัญหาอยู่ครู่หนึ่ง ก็รู้สึกว่าน่าจะเพราะเนื้อหาในป้ายผ่านทางไม่ตรงกับข่าวที่พวกเขารู้มากระมังจะทำอะไรได้ล่ะ ป้ายผ่านทางสมัยนี้ก็ไม่มีเครื่องหมายป้องกันการปลอมแปลงอย่างพวกตราเลเซอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1363

    พอได้ยินคำของจั๋วซือหราน เฟิงเหยียนก็ขมวดคิ้วจากนั้นก็ถามปันอวิ๋นขึ้นคำหนึ่ง "เป็นแบบนี้หรือ?""แปลกใหม่ดีใช่ไหมล่ะ?" ปันอวิ๋นเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้มเอ่ยขึ้นเฟิงเหยียนแม้จะค่อนข้างไม่พอใจกับเรื่องนี้ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรแค่รอการตัดสินใจของจั๋วซือหรานเขารู้สึกว่า ไม่ว่านางจะตัดสินใจยังไง เขาก็จะไม่มีความเห็นทั้งนั้นเนื่องจากนางนั้นเฉลียวฉลาดมาแต่ไหนแต่ไร ความคิดของนางมักจะมั่นคงและมีเหตุผลแต่จั๋วซือหรานก็หัวเราะถามขึ้นมาว่า "ท่านอ๋องน้อยมีความคิดอะไรไหม?"ท่านอ๋องน้อยคิดในใจว่าข้าจะมีความคิดอะไรได้ ข้าอยู่กับไก่แล้วก็ต้องตามใจไก่ไปสิ...เขาชะงักไปครู่แล้วเอ่ยขึ้นว่า "ฟังเจ้านั่นล่ะ"ปันอวิ๋นหัวเราะอยู่ข้างๆ น่าจะเพราะชอบและพอใจที่ได้เห็นท่าทางเชื่อฟังและทำตามของเฟิงเหยียนแบบนี้หลังจากจั๋วซือหรานได้ยินคำนี้ ก็ยกมุมปากขึ้นยิ้ม "ถ้างั้น...พวกเราก็คิดหาวิธีเนียนเข้าไปในเมืองซื่อหนานก่อนค่อยว่ากันแล้วกัน?"สำหรับเรื่องนี้ เฟิงเหยียนกับปันอวิ๋นไม่มีความเห็นใดอย่าว่าแต่เนียนเข้าไปในเมืองซื่อหนานเลย ต่อให้จะเนียนเข้าไปในสภาผู้อาวุโส ถ้าพวกเขาคิดหาวิธี ก็น่าจะพอทำได้อยู่ปันอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1362

    จั๋วซือหรานเองก็ไม่มีอะไรต้องไต่สวนพวกเขาอีกแล้ว จึงเอียงหน้าไปทางแมงมุมของนางโจรพวกนั้นก็ขนลุกชูชันขึ้นทันที!เพราะครั้งที่แล้วตอนนางเอียงหน้าไปทางแมงมุมแมงมุมตัวนั้นก็เฉือนเนื้อของคนคนนั้นออกมา!อารมณ์หวาดกลัวของพวกเขา ก็เริ่มแผ่ซ่านขึ้นมาในใจอีกครั้งแต่คิดไม่ถึงว่า แมงมุมยักษ์ตัวนั้นจะไม่ได้กรีดเนื้อหนังพวกเขาเพียงแค่ขยับตัวนิดหน่อย ก็พ่นใยออกมาอีกสองสามก้อนทำให้พวกเขาอยู่ในสภาพถูกห่อเหมือนดักแด้อีกครั้ง ขยับตัวไม่ได้ ปากก็พูดไม่ได้...เหลือแค่จมูกที่ยังหายใจกับดวงตาที่ยังมองวัตถุเห็นคนที่ถูกกรีดจนกรีดร้องไม่หยุดก่อนหน้าคนนั้น ตอนนี้เองก็เงียบเสียงไปแล้วด้วยตอนแรกเขายังอัดอั้นหน้าดำหน้าแดงอยู่ แต่เขาก็ค่อยๆ สงบลงมาแล้วเพราะหลังจากที่ใยแมงมุมของแมงมุมตัวนี้พันเข้ามา...บาดแผลก็เหมือนจะไม่ค่อยเจ็บแล้ว...?จั๋วซือหรานขี้เกียจจะสนใจพวกเขาเดินตามปันอวิ๋นขึ้นมาด้านหน้าปันอวิ๋นยังจุ๊ปาก เอียงตามองโจรพวกนั้น เบ้ปากเอ่ยขึ้นว่า "เจ้านี่ก็เมตตาเกินไป"ใยของแมงมุมหน้าผีมีฤทธิ์ทำให้ชาอยู่สินะ ยังไม่ทันได้สั่งสอนพวกเขาจนหนำใจเลยนี่? ดันหยุดความเจ็บปวดให้พวกเขาเสียแล้ว?แล

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status