บรรยากาศใน THM Pub ร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ใช่เพราะแสงไฟหรือเสียงเพลง...แต่เพราะแรงอารมณ์ที่กำลังปะทุใต้พื้นผิวของผู้ชายคนหนึ่ง
ดวงตาคมของ เฉิงชิงอี (ไดออน) กำลังจับจ้องภาพตรงหน้า...ข้าวหอม ยืนพูดคุยกับชายผู้เป็นเจ้าของงานอย่าง พัคจองฮุน ระยะห่างระหว่างทั้งคู่แทบไม่มี ช่องว่างระหว่างร่างกายเหมือนแฝงความลับบางอย่าง เขาไม่รู้ว่าทั้งสองสนิทกันตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่แค่เห็นสายตาจองฮุนที่มองเธอ...เขาก็อยากจะพุ่งเข้าไปทันที
“จะเข้าไปเหรอ” เสียงเข้มของ บอมบอม เอ่ยเตือน ขณะที่คว้าข้อมือเพื่อนรักไว้
“ปล่อยกู”
“ใจเย็นดิ มึงรู้จักไอ้จองฮุนน้อยไปแล้วสินะ”
ไดออนเบี่ยงมือออก หายใจลึกพยายามกดอารมณ์ที่พุ่งพล่าน ‘เธอเป็นของเขาแล้วเหรอ…หรือแค่กูยังไม่พอ’
“ต้องขอบคุณคุณจริง ๆ ครับ” เสียงนุ่มทุ้มของจองฮุนกล่าวพร้อมยิ้มมุมปากให้ข้าวหอม
“คุณพูดเหมือนเรารู้จักกันมานาน” เธอหลบตาเล็กน้อย
“บางคนไม่ต้องใช้เวลาก็รู้ว่า...ควรค่าแก่การรู้จัก” คำพูดที่จงใจทิ้งนัยไว้ในอากาศ พร้อมจ้องลึกจนหญิงสาวต้องเบือนหน้า
ยังไม่ทันจะสนทนาต่อ ลูกน้องคนสนิทของเขาเข้ามากระซิบ เขาจึงหันมาบอกเธอ
“งั้นผมขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อก่อนนะครับ ไว้ค่อยคุยกันอีกที”
ชายหนุ่มผละออกไปอย่างน่าเสียดาย...แต่แววตาเขา—ยังทิ้งร่องรอยของความหมายไว้เต็มเปี่ยม
ขณะเดียวกันอีกมุมหนึ่งของผับ ไดออนยังคงยืนอยู่ที่เดิม ใบหน้าเรียบนิ่งแต่ในใจคล้ายพายุถล่ม
“ไงน้องเขารับเป็นแฟนรึยัง?” บอมบอมแซวเข้าเต็มแรง
“มึงหมายถึงไดออน...หรือหมายถึงมึงเองวะ?” คิมโฮแทรก
“แม่งโคตรสวย” คริสพูดขึ้นบ้าง ทั้งที่ปกติแทบไม่พูดอะไรเลย
“ทนได้ไงวะ”
“กูหมายถึง...น้องเขา ทนมึงได้ไง”
ไดออนถอนหายใจเฮือก...ก่อนทำเสียงกวน
“เออ กูแม่งทั้งหล่อ ทั้งเทพ เป็นที่หมายปองของสาว ๆ ทั่วโลก…โคตรน่าเบื่อเลยป่ะวะ”
ว่าแล้วก็เดินออกจากวงพวกเพื่อน หยิบแก้วบรั่นดีมากรอกปาก...แล้วแอบออกไปยืนอีกมุมของผับที่มองเห็นเธออย่างชัดเจน
ติ๊ง ติ๊ง ข้อความจาก ข้าวหอม เด้งขึ้นบนหน้าจอ
ข้าวหอม: /ขอโทษนะคะ ที่ไม่ได้ติดต่อมาหลายวัน วันนี้คุณมีงานต่อไหม/
ไดออนยืนนิ่ง เหมือนโดนช็อกไฟฟ้าเบา ๆ ในหัวใจ ‘เธอ...ส่งข้อความหากู?’ เขามองดูร่างบางที่หันรีหันขวาง ดูเหมือนกำลังมองหาใครบางคนอยู่
แม้จะมีชายหนุ่มเวียนมาทัก เธอก็เพียงยิ้มตอบอย่างมีมารยาท แล้วหันกลับไปมองโทรศัพท์อีกครั้ง
ข้าวหอม: /อืม...เจอเหยื่อ!?/
มินยอง: /แหะๆ...พรุ่งนี้เดี๋ยวพาไปร้านแม่ยูคยอม แม่เจบี คาเฟ่จินยอง ไปให้ครบเลย/
ไดออนมองการโต้ตอบของเธอทุกประโยค และทุกท่าทีที่แสดงออกมาว่า...เธอกำลังรอใครบางคนอยู่
‘เธอกำลังรอ...เราใช่ไหม’ แต่เขายังไม่ทันได้เดินเข้าไปหา...สายตาเขาก็สังเกตเห็นบางสิ่ง
ชายชุดดำ 2–3 คน เดินตามเธออย่างแนบเนียน
‘นั่นใคร...’ เขาสังหรณ์แปลก ๆ จึงเดินตามอย่างระมัดระวัง
“บอม ให้คนเอากุญแจรถมึงออกมาให้กูที”
“มึงจะทำไร”
“เออน่าด่วน”
ติ๊ดดด~ สายก็ตัดไป
“อะไรของมันวะ” บ่นแต่ก็ไม่วายเดินออกไปเพื่อเอากุญแจรถไปให้เพื่อน เพียงเพราะอยากรู้ด้วยว่าเพื่อนจะไปไหน
“มึงจะไปไหนวะ” พร้อมดึงกุญแจหนี ถ้าไม่บอกเขาไม่มีทางให้
“กูจะไปเอาคำตอบ กู…”
“เริ่มท้อว่างั้น อยากชัดเจน”
“…”
“เอ่อๆ ไปก็ระวังเป็นข่าวด้วยละกัน”
“ขอบใจวะ แล้วเจอกัน”
‘ไหนว่า อึดไงวะ แม่ง’ โอยองบอมเดินส่ายหัวให้กับคนเป็นเพื่อนพร้อมก้าวเท้ายาวกลับเข้างานไป
@ลานจอดรถด้านหลัง THM Pub – เวลากลางดึก
เอี๊ยดดดด!
เสียงยางบดกับพื้นคอนกรีตดังลั่นไปทั่วลานจอด เมื่อรถสปอร์ตสีดำพุ่งออกจากซองจอดด้วยความเร็ว ไฟหน้าเจาะตัดความมืด แสงสะท้อนจากเงาอาคารราวกับฉายฉากภาพยนตร์ระทึกขวัญ
หลังพวงมาลัย – ไดออน มือเรียวสวยบีบพวงมาลัยแน่น ดวงตาเต็มไปด้วยความตั้งใจจนเกือบเดือดระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ
‘เธออยู่คนเดียว…แล้วพวกนั้นคือใคร’
‘อย่าบอกนะว่าเธอกำลังตกอยู่ในอันตราย แล้วเรายังเอาแต่มองอยู่ตรงนั้นน่ะเหรอ’
ในใจเขาไม่มีพื้นที่ให้ความลังเลอีกต่อไปแล้ว
@ถนนด้านหลัง THM Pub
ข้าวหอมเดินเร่งฝีเท้าผ่านตรอกเล็ก ๆ ที่จะทะลุไปยังที่จอดรถได้ เสียงรองเท้าส้นเข็มกระทบพื้นปูนก้องกังวาน แสงจากโคมไฟถนนสลัว ๆ ส่องให้เห็นเงาคนตามหลังเธอห่าง ๆ
หนึ่ง…สอง…
‘เหมือนมีมากกว่าสองคนอีก’ เธอขมวดคิ้ว รู้สึกถึงแรงกดดันแปลก ๆ
ถึงจะบอกตัวเองว่าอาจเป็นบอดี้การ์ดที่พี่สาวส่งมา แต่เธอก็ไม่แน่ใจว่าทุกคนเป็นพวกเดียวกันหมดจริงหรือเปล่า
@มุมมืดใกล้ตรอก
เงาชายสูงใหญ่คนหนึ่งในชุดฮู้ดสีเข้ม กำลังหยิบบางอย่างจากกระเป๋า
“เฮ้!” เสียงทุ้มกระชากฟ้าผ่าเข้าใส่
ชายเหล่านั้นชะงัก หันขวับไปตามต้นเสียง รถสปอร์ตคันหรูเบรกเอี๊ยดลั่น สาดไฟสูงเข้าหน้า
ประตูรถเปิดออกพร้อมกับร่างสูงของไอดอนหนุ่มผู้ไม่เคยปล่อยให้ใครแตะคนที่เขารักได้แม้แต่ปลายเล็บ
“ข้าวหอม! เดินมาหาผม เดี๋ยวนี้!”
น้ำเสียงเด็ดขาดทำเอาทุกคนหยุดนิ่ง แม้แต่หญิงสาวเองก็ตกใจที่เห็นเขาโผล่มาในจังหวะที่เธอกำลังรู้สึกไม่มั่นคงที่สุด
“ทำไมคุณมา...”
“ผมจะถามคำนี้กับคุณมากกว่าว่าทำไมไม่รอผม” เขาก้าวฉับเข้ามา บังเธอไว้ด้านหลังอย่างรวดเร็ว
“คนพวกนี้คือใคร” เขาถามเสียงต่ำ สายตาไม่ละจากกลุ่มชายชุดดำที่ยังไม่เคลื่อนไหว
ข้าวหอมจับแขนเสื้อเขาเบา ๆ “ไม่เป็นไรค่ะ…พวกเขาเป็นคนของพี่สาวฉัน”
“…คุณแน่ใจ?” เสียงเขายังเย็นจัด แต่เบาลงเล็กน้อย
“แน่ใจค่ะ” เธอยิ้มอ่อน ดึงแขนเสื้อเขาเบา ๆ เหมือนจะบอกว่า ‘พอเถอะ’
หลังจากที่มั่นใจแล้วว่าข้าวหอมปลอดภัย ไดออนหันกลับไปเปิดประตูรถให้เธอ
“ขึ้นรถ”
“คุณจะพาฉันไปไหน”
“ไปคุยกันให้ชัดเจน”
สายตาเขายังมืดเข้มด้วยความหึงหวงและอารมณ์คั่งค้าง แต่มีประกายบางอย่างที่ทำให้เธอไม่กล้าปฏิเสธ
ข้าวหอมชะงักเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็พยักหน้าเบา ๆ แล้วก้าวขึ้นรถไปกับเขาโดยดี
ค่ำคืนงานเลี้ยงเล็ก ๆ หลังพิธีแต่งงานที่มิลาน สวนดาดฟ้าถูกแต่งแต้มด้วยไฟประดับสีอุ่น แสงจากโคมไฟระย้าสะท้อนแก้วแชมเปญบนโต๊ะกลม เสียงดนตรีแจ๊สคลอเบา ๆ เคล้ากับเสียงหัวเราะของแขกผู้ร่วมงานในบรรยากาศที่อบอวลด้วยความสุขข้าวหอมในชุดเดรสผ้าซาตินสีงาช้าง สะบัดชายกระโปรงเบา ๆ เดินออกมายังระเบียงที่ตกแต่งด้วยไม้เลื้อยและเทียนหอม ลมเย็นพัดปะทะใบหน้าเบา ๆ พร้อมกลิ่นดอกมะลิจากกระถางใกล้ตัวเธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ข้อความใหม่เพิ่งถูกส่งเข้ามาไม่กี่นาที“พี่ขอโทษที่ไม่ได้ไปงานของน้อง...แต่เจี่ยเจียสัญญาว่า จะกลับไปมองรอยยิ้มที่สดใสของเธอในเร็วๆนี้นะ”ข้าวหอมอ่านจบก็เงียบงันไปครู่หนึ่ง ดวงตาเริ่มรื้นน้ำใส ๆ โดยไม่รู้ตัว เธอยิ้มบาง ๆ เหมือนต้องการซ่อนความรู้สึกไว้เพียงคนเดียว‘เจี่ยเจีย’ — สวีอิงหราน พี่สาวต่างแม่ของเธอ ผู้หญิงที่เคยทำให้เธอร้องไห้มากที่สุด…แต่ก็เป็นคนเดียวที่พร้อมเสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้องเธอที่สุดเช่นกันเสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังขึ้นด้านหลัง ก่อนที่วงแขนอบอุ่นจะโอบเอวเธอไว้แน่น กลิ่นโคโลญจ์อ่อน ๆ แบบเฉพาะของเขาแตะจมูกในทันที“พี่สาว...ส่งข้อความมาเหรอ?”เสียงทุ้มนุ่มของไดออนกระซิบถามเบา ๆ ใ
[เช้าวันต่อมา]แสงแดดยามเช้าเกลี่ยตัวบนผ้าห่มสีอุ่น อากาศในห้องไม่ได้หนาว แต่หัวใจสองดวงที่ซ่อนอยู่ใต้ผ้าห่มนั้น…ร้อนกว่าอะไรทั้งหมดข้าวหอมค่อย ๆ ลืมตา เปลือกตาเธอกะพริบช้า ๆ รับกับแสงธรรมชาติที่สาดผ่านผ้าม่านเข้ามาอย่างนุ่มนวล เธอรู้สึกถึงไออุ่นจากคนที่อยู่ข้างหลัง วงแขนแข็งแรงที่กอดเธอไว้แน่นไม่ปล่อย ผิวของเขาแนบชิดหลังเธออย่างไม่มีช่องว่าง เสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอ ขับกล่อมให้หัวใจเธอสงบราวกับบทเพลงกล่อมนอนเธอยิ้มบาง ๆ พลางขยับตัวเล็กน้อย แต่ยังไม่ทันขยับได้เต็มที่ เสียงทุ้มแหบจากด้านหลังก็ดังขึ้นอย่างแผ่วเบา"อย่าขยับสิคะ..."เสียงนั้นทำให้เธอชะงัก หัวเราะออกมาเบา ๆ อย่างเขินอาย “ข้าวจะปลุกเฮีย…”"เมื่อคืนเฮียยังไม่พอเลย..."คำพูดที่ดังเบาข้างหูทำให้ใบหน้าข้าวหอมแดงก่ำ เธอพยายามขยับหนีด้วยความเขิน แต่ยิ่งเธอขยับ วงแขนของเขาก็ยิ่งกระชับแน่น"เฮีย…" เธอเรียกเสียงเบา"ข้าวเจ็บนะคะ..."เสียงหัวเราะต่ำ ๆ ดังจากลำคอของเขา กึ่งเอ็นดูกึ่งขี้เล่น เขาเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ กระซิบที่ข้างหูเธออย่างนุ่มนวลแต่ลึกซึ้ง"แล้วเมื่อคืนร้องทำไมคะ..."คำถามที่ไม่มีเจตนาเย้าแหย่ แต่เต็มไปด้วยความรู้สึก
[หน้าห้องพักโรงแรม ที่จัดเป็นเรือนหอชั่วคราว– มิลาน เวลา 20:45 น.]ไดออนเปิดประตูห้องพักหรูบนชั้นดาดฟ้า ข้าวหอมในชุดเดรสยาวหลังเปลี่ยนออกจากชุดเจ้าสาวเดินเข้ามาอย่างระมัดระวัง“คืนนี้…” เธอพูดเสียงเบา“ไม่ต้องมีอะไรหวานมากก็ได้นะคะ แค่เราอยู่ด้วยกันก็พอแล้ว”ไดออนยิ้มบาง“ถ้าเฮียบอกว่าเตรียมเทียน หอม กลีบกุหลาบ และไวน์ไว้หมดแล้วล่ะ…”“เฮีย—!” ข้าวหอมเขินจนหูแดง แต่ยังไม่ทันได้ดุจริง ๆ —ตึง! ตึง! ตึง!เสียงเคาะประตูดังลั่น พร้อมเสียงเจื้อยแจ้วโหวกเหวกคุ้นหู“เปิดเร็ว! เพื่อนเจ้าสาวขอเข้าตรวจห้อง!”“แค่มาเช็คว่าไม่มีพิธีแปลก ๆ แบบคล้องประตูอะไรเท่านั้นเอง!”“เฮียไดออนซ่อนกุหลาบใต้เตียงรึเปล่า เราขอดู!”ข้าวหอมเบิกตากว้าง ไดออนถอนหายใจแล้วหันไปกระซิบ“…ดวงใจกับมินยงมาแน่”ประตูเปิดออก —ดวงใจ, มินยง, และ คิมโฮ ยืนถือกล่องของขวัญ กับไวน์คนละขวด เดินเข้ามาแบบไม่รอเชิญ“อ๊ะ! บรรยากาศดีอยู่นะ” ดวงใจ หันไปรอบ ๆ“เฮียจัดได้มินิมอล ไม่เว่อร์นะ…ไม่เหมือนตอนขอแต่งงาน!”คิมโฮ ยกไวน์ขึ้นมา“เราเอาแชมเปญมาฉลองให้คืนแรกครับ!”“เฮียไดออน คนป๊อปปูลาร์อันดับหนึ่ง…ผู้ไม่เคยเป็นสามีใครมาก่อน!”ข้าวหอมเอามื
[โบสถ์หินเก่ากลางมิลาน – เวลา 11:11 น.]ไม่มีพรมแดง ไม่มีสื่อ ไม่มีเวทีระดับโลก มีแค่ห้องโถงแคบ ๆ ที่ประดับด้วยดอกลาเวนเดอร์แห้งบนแท่นไม้เรียงราย ผ้าม่านสีขาวบางปลิวเบา ๆ ตามแรงลมจากช่องหน้าต่าง เสียงเปียโนบรรเลงคลอด้วยท่วงทำนองเรียบง่าย แต่ทุกโน้ตชัดเจนราวกับสะท้อนอารมณ์ของวันพิเศษนี้หน้าประตูโบสถ์ —“ข้าวหอม…อย่าพึ่งเดินเข้าพิธีนะยะ!!”เสียงแหลมตื่นของหญิงสาวคนหนึ่งดังมาก่อนตัวจะปรากฏ ดวงใจในชุดเดรสโทนชมพูนู้ดวิ่งจ้ำพรวดมาด้วยรองเท้าส้นสูง กระแทกพื้นหินตึก ๆ จนแขกบางคนหันมามองเธอพุ่งเข้าประตูโดยไม่ทันชะลอ—โครม!“ว้าย!”ร่างของเธอกระแทกเข้ากับชายหนุ่มร่างสูงในสูทดำสนิทเต็มแรง จนถุงของฝากในมือกระเด็นหล่นพื้น ขนมกล่องเล็ก ๆ กลิ้งออกมาอย่างอนาถ“ขอโทษค่ะ! ขอโทษจริง ๆ!” ดวงใจรีบย่อตัวลงเก็บของก่อนจะเงยหน้าขึ้น…แล้วก็ชะงักใบหน้าที่เธอเห็นคือ คริส — หนุ่มมาดนิ่งแห่ง BBOOM Entertainment ผู้มีออร่าระยะห่างแบบคนที่ไม่เคยมีใครเข้าถึงง่ายเขาแค่ก้มเก็บของให้เธออย่างนิ่ง ๆ แล้วเอ่ยเบา ๆ น้ำเสียงต่ำ เรียบ ไม่เร่งเร้า“...รีบเหรอ”“ค่ะ รีบ…แต่ตอนนี้รีบเขินมากกว่า…” ดวงใจหลบสายตาทันที เสียงเธอเบา
[หน้าห้องพักผู้ป่วย – เวลา 10:10 น. วันถัดมา]เสียงเคาะประตูดังขึ้น พร้อมเสียงเจื้อยแจ้วที่แค่ได้ยินก็น่าปวดหัว“เปิดเร็วๆ แม่หญิงฟ่านเฉียน! นี่ข้าหอบของกินมาจากร้านดังนะยะ!”ไดออนสะดุ้งเฮือกจากที่กำลังหั่นแอปเปิล ข้าวหอมที่นั่งกินข้าวต้มอยู่บนเตียงถึงกับยิ้มกลั้นหัวเราะ“เสียงแบบนี้…ไม่ต้องเดาเลยว่าใคร”ประตูเปิดออก—ปรากฏร่าง เพื่อนสาวตัวแสบประจำแก๊ง Rice Design Group ใส่แว่นกันแดดตัวใหญ่ กระเป๋าสะพายสองใบ มือหิ้วถุงอาหารเกือบสิบถุงเหมือนจะมาปิกนิก“แก๊สสส! ยัยข้าว! ทำไมโทรหาแกไม่ได้เลยยะ!”เพื่อนเดินเข้ามาจุ๊บหน้าผากข้าวหอมแรงจนเธอเซไปข้าง“แม่! แกผอมไปนะ ห้ามอดข้าวอดน้ำเข้าใจมั้ย ช่วงนี้แฟนดารากำลังแรง อย่าเพิ่งอกหัก!”ไดออนสำลักน้ำอยู่ข้างเตียง ข้าวหอมหัวเราะกลั้นเสียง“ไม่มีอกหักค่ะ…แค่หัวใจบวมนิดหน่อย”“ว้ายยยยยยย!!!” เสียงเพื่อนแสบลากยาว “นี่ยังกล้าเล่นมุกอีกเหรอ!?”เธอวางถุงอาหารลงจนเต็มโต๊ะ “พวกเราเป็นห่วงจะตายห่า คิดว่าแกไปติดเกาะหรือโดนลักพาตัวไป!”ข้าวหอมกับไดออนสบตากันเงียบ ๆ ไม่ได้พูดอะไร…แค่ยิ้มจาง ๆ ที่มีความหมายเกินคำอธิบาย[อีกมุม – โทรศัพท์ของข้าวหอมสั่นเบา ๆ]เธอหย
เสียงเคาะประตูเบา ๆ ดังขึ้นสองครั้ง ไดออนที่ยังยืนอยู่ใกล้เตียงข้าวหอม หันไปมอง ก่อนจะเดินไปเปิดประตูอย่างเงียบ ๆชายหนุ่มหน้าตาอ่อนโยนในเสื้อคลุมสีเทาเรียบ เดินเข้ามาหน้าตามีแววกังวล — แต่เมื่อก้าวพ้นประตูมาเพียงไม่ก้าวเดียว เขาก็ชะงักดวงตาของเขามองตรงไปที่เตียง เห็นร่างของข้าวหอมนอนพิงหมอนอยู่ เส้นผมยุ่งนิดหน่อยจากการนอนนาน แต่ใบหน้าอ่อนแรงนั้นกำลังยิ้มให้เขา“เก๊อ…เกอ…” เสียงเธอเบาเหมือนสายลม กระซิบแผ่วราวกับกลัวมันจะหายไปสวีเฉียนเกอไม่พูดอะไรในทันที แววตาเขาไหววูบ เหมือนภาพในอดีตไหลย้อนกลับมาพร้อมกัน — เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่เคยจับชายเสื้อเขาไว้แน่นในคืนที่ฝนตกแต่ที่ทำให้เขาชะงักจริง ๆ…ไม่ใช่แค่ข้าวหอมเขาหันไปมองผู้หญิงอีกคนที่นั่งหันหลังให้ข้างเตียง — ผมยาวรวบหลวมๆและไหล่ผอมบางนั้น ทำให้เขารู้สึกคุ้นอย่างประหลาด แม้จะมองไม่เห็นใบหน้า แต่ลางสังหรณ์บางอย่างกลับเต้นแรงขึ้นในใจเขาโดยไม่รู้สาเหตุ“…คุณคือ…” เขาถามออกมาเบา ๆ ด้วยความลังเลหญิงสาวคนนั้นค่อย ๆ หันหน้ากลับมาช้า ๆทันทีที่สายตาทั้งสองสบกัน — แม้จะไม่เหมือนในความทรงจำแม้จะไม่มีรอยยิ้มแบบที่เขาเคยจำได้แต่ดวงตาคู่นั้น…แวว