Share

บทที่ 4

last update Last Updated: 2025-06-12 02:25:15

บทที่ 4

ซ่งอวี้หลินเดินเข้าไปในจวนหลี่พร้อมผู้ติดตาม เมื่อได้พบกับคหบดีหลี่ นางก็เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสุภาพแต่ถึงกระนั้นก็แอบมองอีกฝ่ายด้วยสายตาคาดคั้น

“ข้ามาเพื่อไต่ถามเรื่องเวลาตกฟากของบุตรสาวคนเล็กของท่านคหบดีหลี่ ข้าทราบมาว่านางเกิดปีกระต่าย เดือนเจีย เพียงแต่วันนั้นคหบดีหลี่พอจะบอกความจริงแก่ข้าได้หรือไม่”

คหบดีหลี่หายใจยาว เขาคิดอยู่แล้วว่าอาจจะมีวันนี้ ตั้งแต่ได้ยินข่าวคนตามหาเด็กสาวที่เกิดปีและเดือนเดียวกับลูกสาวของเขา

ตอนแรกไม่รู้ว่าคนเหล่านั้นตามหาไปเพื่ออะไร และใครเป็นคนตามหา แต่ไม่ว่าจะเพราะอะไร

เขาก็หวังว่าคงจะมีเด็กสักคนที่มีวันเดือนปีเกิดใกล้เคียงกับบุตรีของเขาแล้วเดี๋ยวเรื่องมันก็คงจะซาไปเอง

แต่ดูเหมือนตอนนี้จะไม่เป็นอย่างนั้นแล้ว ชายมีอายุหันไปมองภรรยาของเขาที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ทั้งคู่สบตากันอย่างจำยอมก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ เพื่อตอบรับคำของฮูหยินของตระกูลโจว

“บุตรีคนเล็กของข้า เกิดปีเถาะ เดือนเจีย วันขึ้น 8 ค่ำ ยามเหม่าขอรับ”

ดวงตาของซ่งอวี้หลินสว่างวาบ นางยิ้มกว้างด้วยความดีใจ “เช่นนั้นข้าขอทำการสู่ขอและหมั้นหมายบุตรีของท่านกับบุตรชายของข้าโจวอี้หลงจะได้หรือไม่ อีกไม่เกินชั่วยามข้าจะกลับมาพร้อมกับสินสอดและแม่สื่อพร้อมหนังสือหมั้นหมายและเวลาตกฟากของอี้หลง หากสินสอดไม่พอเอาไว้คุยกันวันหลังได้ แต่งานหมั้นต้องจัดวันนี้เท่านั้น”

คหบดีหลี่อึ้งไปชั่วครู่ เขาหันมามองภรรยาและกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงค่อนข้างจะลังเล ถึงกระนั้นก็ไม่กล้าจะขัดตระกูลขุนนาง “เรื่องนี้...มิใช่ว่าควรคิดให้ดีเสียก่อน...”

“ข้าคิดดีแล้ว ต้องเป็นบุตรีของท่านเท่านั้น ข้าได้เตรียมสินสอดและหนังสือหมั้นหมายเอาไว้พร้อมแล้ว ท่านไม่ต้องกังวล ข้าจะจัดการทุกอย่างให้สมเกียรติอย่างแน่นอน ข้าขอตัวไปจัดการเรื่องราวต่าง ๆ ก่อน เวลามีไม่มาก อีกชั่วยามข้าจะมาพร้อมกับขบวนของหมั้นและแม่สื่อหวังว่าท่านจะให้การต้อนรับ” ซ่งอวี้หลินกล่าวจบก็เดินกลับออกไป นางจัดการทุกอย่างรวดเร็วราวกับซื้อผักซื้อปลา

โจวอี้หลงที่กำลังแต่งตัวด้วยชุดทหารเต็มยศเตรียมจะเดินทางกับบิดาก็ต้องตกใจเมื่อแม่ของเขาบอกกับทุกคนว่าก่อนจะเดินทางออกนอกเมืองจะต้องแวะจัดการทำพิธีสู่ขอคุณหนูตระกูลหลี่เสียก่อน

“ท่านแม่แน่ใจนะว่าไม่ได้ถูกใครหลอกเอา” แม้จะไม่อยากขัดมารดาแต่ก็อดคิดไม่ได้ว่านี่มันออกจะพอดิบพอดีไปหรือไม่ หากตระกูลคหบดีนั่นต้องการคนหนุนหลัง

“เชื่อแม่เถอะว่าเขาไม่ได้หลอกเราหรอก” ซ่งอวี้หลินพูดอย่างพอใจเพราะเป็นนางที่เรียกได้ว่าบังคับตระกูลหลี่ให้ทำตาม

โจวอี้หลงมองสีหน้าแปลก ๆ ของแม่แล้วก็ได้แต่สงสัย แต่เมื่อพ่อของเขาไม่พูดอะไรอีกเพราะนี่ถือว่าแม่ของเขาได้ทำตามเงื่อนไขที่พ่อของเขาบอกแล้ว ตัวเขาเองก็คงจะปฏิเสธอะไรไม่ได้

ขบวนสินสอดจากตระกูลโจวเดินทางมาถึงจวนหลี่อย่างรวดเร็วในเช้าวันนั้น ชาวบ้านที่เห็นต่างพากันหยุดมองและกระซิบไต่ถามกันไปมาอย่างไม่คิดจะปิดบัง เพราะเรื่องนี้ดูไม่มีที่มาที่ไปและก็ไม่เคยได้ยินข่าวว่าสองตระกูลนี้คิดจะดองกันเลยแม้แต่นิด

“ได้ยินมาว่าแม่ทัพโจวจะมาหมั้นหมายกับบุตรีของตระกูลหลี่ให้บุตรชายจริง ๆ น่ะหรือ” เสียงหนึ่งดังขึ้นจากกลุ่มคนที่ยืนอยู่ข้างทาง ขบวนสินสอดเพิ่งผ่านไปเพียงหนึ่งเค่อทุกคนก็เอาแต่พูดถึงเรื่องนี้กันแล้ว

“คงจะจริง เห็นพวกเขากำลังมุ่งหน้าไปจวนตระกูลหลี่ แต่ดูเหมือนทุกอย่างจะดูเร่งรีบอย่างไรไม่รู้ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ก็ไม่ได้เห็นขบวนสินสอดใหญ่ขนาดนี้มานานแล้ว” อีกเสียงทักขึ้นซึ่งก็ดูจะสงสัยไม่ต่างจากคนแรก

“แปลกจริง ๆ ทำไมถึงรีบกันขนาดนี้ แล้ววันนี้ไม่ใช่ว่าแม่ทัพโจวกับบุตรชายทั้งสามจะเดินทางออกนอกเมืองไปค่ายทหารหรอกหรือ ลูกข้าก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหาร จะต้องไปรอบนี้ด้วยเหมือนกัน วันนี้เขาก็ให้ไปรวมตัวที่ค่ายนอกเมืองแล้ว”

ต่างคนต่างมองหน้ากันไปมา ยิ่งพูดคุยก็ยิ่งเกิดความสงสัย แต่เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของคนใหญ่คนโต สุดท้ายจึงได้แต่ออกความเห็นกันเพียงเล็กน้อยแล้วก็แยกย้าย ไม่มีใครกล้าพูดอะไรมากไปกว่านั้น

เพราะเอาเข้าจริงแม้แต่คนที่อยู่ในเนื้อเรื่องที่ทุกคนพูดคุยกันอยู่อย่างคหบดีหลี่และภรรยาก็ยังไม่กล้าที่จะพูดมากในเรื่องนี้เลย

ทั้งสองยืนรอขบวนสินสอดที่ฮูหยินโจวบอกว่าจะส่งมา แต่ผ่านมาเกือบชั่วยามแล้วก็ยังไม่มีวี่แวว มิใช่ทั้งคู่อยากให้ขบวนสินสอดมา พวกเขาอยากให้ทั้งหมดเป็นเรื่องเข้าใจผิดและล้อเล่นมากกว่า แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นอย่างนั้น เมื่อคนตระกูลโจวมาหยุดลงที่หน้าจวนหลี่

ในขณะที่ทุกคนในจวนหลี่กำลังเร่งรีบเตรียมการเพื่อทำพิธีหมั้นอย่างเร่งด่วน หลี่หว่านเอ๋อร์ที่ออกมาดูดอกไม้ในสวนข้างโถงใหญ่ทุกเช้าก็ยืนมองความวุ่นวายนั้นด้วยแววตาสงสัย

“เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นเหรอ” แม้สาวใช้คนสนิทจะรู้ แต่ก็ไม่กล้าบอกกับเด็กน้อยว่าหนึ่งในคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นคือว่าที่สามีในวันข้างหน้าของคุณหนูตัวน้อย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ยามเมื่อใจ เพรียกหาเพียงเจ้า   บทที่ 29

    บทที่ 29ในเรือนเก่าของหว่านเอ๋อร์ แสงแดดยามบ่ายส่องลอดผ่านหน้าต่างไม้เก่าที่เปิดไว้ให้ลมพัดผ่าน อี้หลงเดินสำรวจรอบ ๆ ด้วยความสนใจ เขาลูบมือไปตามกรอบหน้าต่างที่มีรอยถลอกเล็ก ๆ ก่อนจะหันไปมองหว่านเอ๋อร์ที่กำลังหยิบจับของบางอย่างอยู่กลางห้อง “นี่หรือ...คือที่ที่เจ้าคุ้นเคยตั้งแต่เด็ก” หว่านเอ๋อร์พยักหน้า “ข้ามักชอบนั่งมองออกไปที่นอกหน้าต่างในยามค่ำ กลางวันก็มักจะอ่านหนังสือที่ตรงนี้ หรือไม่ก็ออกไปนั่งอ่านที่ศาลากลางสวน” หว่านเอ๋อร์บอกพร้อมทั้งลูบมือไปตามขอบหน้าต่างเก่าที่บางวันนางก็สะกิดมันเบา ๆ เมื่อความรู้สึกล่องลอยไปแสนไกล “เจ้าคงคิดถึงที่นี่มาก” หว่านเอ๋อร์พยักหน้า “ข้าอยู่มาตั้งแต่เด็ก จะไม่คิดถึงได้อย่างไร ที่นี่มีความทรงจำมากมาย ล้วนเป็นเรื่องดี ๆ ทั้งนั้น”อี้หลงยิ้มและขยับตัวเข้าไปใกล้หญิงสาว เขาเอื้อมมือไปแตะแก้มของอีกฝ่ายเบา ๆ ก่อนจะมองเข้าไปในดวงตาสวยราวกับจะบอกใบ้อะไรบางอย่าง "หว่านเอ๋อร์ หากที่นี่มีแต่ความทรงจำดี ๆ ของเจ้า เช่นนั้นข้าขอเป็นอีกหนึ่งความทรงจำดี ๆ ของเจ้าที่นี่จะได้หรือไม่" หว่านเอ๋อร์มองชายหนุ่มด้วยสายตาสงสัย แต่เพียงไม่นานนางก็ต้องเริ่มขืนตัวเมื่อรู้สึก

  • ยามเมื่อใจ เพรียกหาเพียงเจ้า   บทที่ 28

    บทที่ 28"อาเฟยหลง ช้า ๆ หน่อยสิหลานยาย ยายแก่แล้ว วิ่งตามเจ้าไม่ทันหรอกนะ" หว่านเอ๋อร์ที่พาบุตรชายมาเยี่ยมพ่อแม่ของนางอดยิ้มออกมาไม่ได้เมื่อเห็นเฟยหลงที่อายุกำลังย่างเข้าขวบที่สามวิ่งเล่นหยอกล้อกับตายายของเขา "แต่ข้ายังตามเฟยหลงทันนะ” คหบดีหลี่รีบเอ่ยแย้งภรรยา พร้อมทั้งกึ่งเดินกึ่งวิ่งและพยายามไล่ตามจับหลานชายที่ดูเหมือนจะอยากเล่นไล่จับ เฟยหลงหัวเราะคิกคักก่อนจะซุกหน้ากับอกของท่านยายของเขา "ท่านตาช้า จับข้าไม่ทันหรอกขอรับ" ทุกคนในสวนของจวนหลี่หัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ รวมถึงมารดาของอี้หลงที่นั่งมองหลานชายตัวเองด้วยสายตาเอ็นดู "เด็กคนนี้ ช่างเจื้อยแจ้วเหมือนแม่ของเขาไม่มีผิด" ซ่งอวี้หลินเองก็พยักหน้าเห็นด้วยกับคำของมารดาของหว่านเอ๋อร์ “แต่ข้าไม่เห็นรู้สึกว่าหว่านเอ๋อร์จะเจื้อยแจ้วเลยนะท่านแม่” อี้หลงเอ่ยออกมา“นั่นเพราะนางยังไม่ค่อยอ้อนเจ้าน่ะสิ ใช่หรือไม่หว่านเอ๋อร์” หญิงสาวที่เป็นแม่คนแล้วแต่ก็ยังเขินอายก้มหน้านิ่งเพราะเป็นอย่างที่ว่าจริง ๆ เวลาที่นางอยู่กับอี้หลงจะค่อนข้างเก็บปากเก็บคำไม่เหมือนเวลาอยู่กับบรรดาพ่อแม่ทั้งหลาย“จริงหรือหว่านเอ๋อร์” อี้หลงหันมาถามภรรยาและก็ได้คำตอ

  • ยามเมื่อใจ เพรียกหาเพียงเจ้า   บทที่ 27

    บทที่ 27"เอาไว้หาโอกาสพาลูกของเราไปให้ซินแสตรวจดวงชะตาดีหรือไม่” อี้หลงพูดขึ้นด้วยสีหน้ายิ้ม ๆ พลางอุ้มเฟยหลงที่กำลังหัวเราะอย่างสดใส หว่านเอ๋อร์เหลือบมองสามีอย่างขบขัน คิ้วเรียวเลิกขึ้นเล็กน้อยราวกับถามว่านี่พูดจริงหรือ “ท่านพี่คิดจะทำเช่นนั้นจริง ๆ หรือเจ้าคะ ข้าคิดว่าท่านพี่ล้อเล่นเสียอีก มิใช่ว่าท่านพี่ไม่เชื่อเรื่องดวงชะตาหรอกหรือ" อี้หลงยิ้มแล้วขยับเข้ามาใกล้คนรัก "ก็ไม่เชื่อทั้งหมด ยิ่งก่อนหน้านี้ยิ่งไม่เชื่อ แต่เมื่อมาเจอเจ้า" อี้หลงตอบแล้วก็ยิ้มออกมา “ตอนนี้เรียกว่าข้างมงายกว่าท่านแม่อีก ลองดูก็ไม่เสียหายอะไรไม่ใช่หรือ เผื่อซินแสจะทำนายอะไรดี ๆ ให้เฟยหลง แล้วก็...บางทีข้าก็อยากรู้เรื่องของเราเหมือนกัน"หว่านเอ๋อร์ส่ายหน้าอย่างเอ็นดูพลางหัวเราะเบา ๆ กับท่าทางของสามีนักรบที่ครั้งหนึ่งนางเคยคิดว่าเขาเป็นคนที่ดูจะจริงจังกว่านี้ "ข้าว่าท่านพี่คงอยากได้คำยืนยันจากฟ้าเบื้องบนว่าข้าคือภรรยาที่ถูกกำหนดมาแล้วมากกว่าใช่หรือไม่”“ข้าจะต้องให้ใครมายืนยันอีก ต่อให้ตอนนี้ฟ้าบอกว่าข้ากับเจ้าไม่เหมาะสมข้าก็ไม่เชื่อแล้ว แต่ข้าก็แค่คิดว่าคำทำนายก็เป็นการนำทางที่ดีไม่ใช่น้อย เพราะมันทำให้ข้าม

  • ยามเมื่อใจ เพรียกหาเพียงเจ้า   บทที่ 26

    บทที่ 26"กังวลเรื่องอะไรอยู่หรือ" หว่านเอ๋อร์เงียบไปก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นน้อย ๆ "ท่านพี่จะไม่ต้องไปจริง ๆ ใช่หรือไม่" อี้หลงพยักหน้า “ข้าไปขอกับฝ่าบาทแล้ว พระองค์เข้าใจดี อีกอย่างคงคิดจะหาตำแหน่งให้ท่านพี่รองอยู่กระมัง เจ้ามิต้องกังวลใจไป” “พี่รองจะไม่โกรธใช่หรือไม่” อี้หลงส่ายหน้า “ไม่หรอก พี่รองไม่โกรธหรอก เขาได้เป็นหัวหน้าราชองครักษ์แล้ว บางทีคงอยากได้ตำแหน่งอะไรที่ใหญ่กว่านั้น บรรดาทหารก็รักท่านพี่ หากครั้งก่อนไม่ต้องติดตามมาอารักขาท่านพ่อบางทีคนที่ได้ตำแหน่งแม่ทัพครานั้นอาจจะเป็นท่านพี่ก็ได้” หว่านเอ๋อร์ได้ฟังก็รู้สึกสบายใจขึ้น “เป็นเช่นนั้นก็ดี เพราะหากท่านพี่ไปจริง ๆ กลับมาลูกของเราคงโตไปแล้ว หรือไม่...ถ้าข้าเกิดเป็นอะไรระหว่างคลอด..." ไม่ทันที่หว่านเอ๋อร์จะพูดจบ อี้หลงก็ยื่นหน้าเข้ามาจูบเบา ๆ ที่ริมฝีปากของนาง เขาหยุดหญิงสาวจากคำพูดที่ไม่เป็นมงคล "อย่าพูดอะไรแบบนั้น ข้าไม่มีวันปล่อยให้เจ้าหรือบุตรของเราต้องเจอกับอะไรที่เลวร้ายเด็ดขาด มิใช่ว่ากว่าจะมีเขาพวกเราต้องผ่านอะไรมามากมาย”“ท่านพี่ ข้ารักท่าน” อยู่ ๆ หว่านเอ๋อร์ก็พูดออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำเอาคนฟังอ

  • ยามเมื่อใจ เพรียกหาเพียงเจ้า   บทที่ 25

    บทที่ 25วันเวลาผ่านไปนานนับปี ทั้งสองใช้ชีวิตแบบสามีภรรยาทั่วไป อี้หลงยังคงดูแลหว่านเอ๋อร์เป็นอย่างดี เขาเป็นสามีที่ซื่อสัตย์และมั่นคงต่อหญิงสาว ส่วนหว่านเอ๋อร์ก็ทำหน้าที่ภรรยาอย่างไม่บกพร่อง ทั้งคู่ต่างเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน แม้หว่านเอ๋อร์จะไม่ได้เอ่ยถึงความรู้สึกให้ชัดเจน แต่อี้หลงก็ยังคงชัดเจนกับความรู้สึกของตัวเองเสมอมา ส่วนหว่านเอ๋อร์นั้นดูเหมือนจะมีความสุขกับชีวิตตอนนี้จนไม่ได้เอ่ยบอกกับชายหนุ่มถึงความรู้สึกที่เปลี่ยนไปในใจของตน หญิงสาวไม่ได้คิดถึงเรื่องที่อยากจะเอาคืนอีกฝ่ายอีกแล้ว เพราะมันไม่ได้รบกวนจิตใจอีกแล้ว“ท่านแม่สอนให้ข้าทำอาหารที่ท่านพี่ชอบ” หว่านเอ๋อร์ยกจานอาหารมาให้กับสามีของตนด้วยรอยยิ้ม “ข้าไม่ยักรู้มาก่อนว่าท่านแม่จำได้ว่าข้าชอบอะไร” หญิงสาวมองหน้าชายหนุ่มอย่างไม่พอใจ“แม่ทุกคนย่อมจำได้อยู่แล้วว่าลูกของตัวเองชอบอะไร ลองชิมดูหน่อยไหมเจ้าคะ แต่ข้าไม่รับประกันว่ามันจะอร่อยนะ ข้าไม่ค่อยได้ทำอาหารมากนัก แม้ท่านแม่จะสอนแต่ข้าชอบอ่านตำรามากกว่า”พออยู่ด้วยกันนานวันทั้งสองก็สนิทสนมกลายเป็นคู่ชีวิตที่สมบูรณ์แบบในสายตาของทุกคน ความผูกพันและความเข้าใจค่อย ๆ สั่งสมและเพ

  • ยามเมื่อใจ เพรียกหาเพียงเจ้า   บทที่ 24

    บทที่ 24เสียงประตูเรือนเปิดออกในยามดึก พร้อมกับเงาร่างของโจวอี้หลงที่เดินเข้ามา แม้จะเป็นการปะทะที่หนักหน่วงแต่ก็จบอย่างรวดเร็วเพราะมันเกิดขึ้นเพียงแค่เพราะความไม่พอใจจากคนกลุ่มหนึ่งที่เสียเปรียบทางการค้าก็เท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นก็ทำให้บรรดาคนที่ออกไปจัดการบาดเจ็บกันเล็กน้อย รวมถึงตัวของอี้หลงด้วย ใบหน้าของเขามีร่องรอยของการปะทะ และแขนข้างหนึ่งของเขาก็มีคราบเลือดจาง ๆ รวมถึงที่หน้าอกแกร่งด้วยหว่านเอ๋อร์ที่นั่งรออยู่รีบลุกขึ้นทันทีที่เห็นชายหนุ่ม "ท่านบาดเจ็บ เกิดอะไรขึ้นหรือ เป็นอะไรมากหรือเปล่า ให้ข้าเรียกหมอหรือไม่" หว่านเอ๋อร์เร่งตรวจดูร่างกายของสามีและพาอีกฝ่ายมานั่งอยู่บนเตียง ใบหน้าของนางซีดเผือดด้วยความกังวล"ข้าไม่เป็นไร แค่รอยข่วนเล็กน้อยเท่านั้น" อี้หลงพยายามยิ้มปลอบ แต่เขากลับสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อมือของหว่านเอ๋อร์จับไปโดนตรงที่เป็นแผล หว่านเอ๋อร์เร่งถอดเสื้อของชายหนุ่มออก "เล็กน้อยอะไร ท่านมีเลือดออกขนาดนี้!" แม้ปากจะบ่นแต่ในตากลับมีน้ำใสคลออยู่ มือที่ค่อย ๆ ถอดเสื้อออกเริ่มสั่นไหว แต่หญิงสาวก็พยายามควบคุมมันเมื่อเสื้อหลุดออกก็เผยให้เห็นบาดแผลที่ไหล่พาดลงมาถึงหน้าอกและ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status