ซ่าาา~!!
ค่ำคืนนั้น สายฝนโปรยปรายลงมาอย่างไม่ขาดสาย ท้องฟ้ามืดมิดไร้ดวงดาว ถูกบดบังด้วยม่านเมฆหนาทึบ เสมือนกำลังโอบอุ้มความลับดำมืดบางอย่างไว้ ณ ใจกลางเมืองที่เคยเต็มไปด้วยแสงสีและชีวิตชีวา บัดนี้กลับมีเพียงแสงไฟสลัวจากป้ายไฟนีออนเก่าๆ ของอาคารร้างขนาดมหึมาที่ตั้งตระหง่านอยู่ริมถนน
อควาเรียมไตรตัน
เสียงกระซิบอื้ออึงของลมที่พัดโหมกระหน่ำดูคล้ายกับเสียงร่ำไห้ของวิญญาณที่ถูกจองจำอยู่ภายใน ขณะที่ความเงียบงันปกคลุมพื้นที่โดยรอบ มีเพียงหยดน้ำฝนที่สาดซัดกระทบกระจกตู้ปลาขนาดยักษ์ที่แตกร้าว เผยให้เห็นเงามืดทะมึนของบางสิ่งบางอย่างที่เคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้าอยู่เบื้องหลัง กลิ่นอับชื้นของน้ำเค็มและสนิมเหล็กปะปนกับกลิ่นสาบของความตาย คล้ายจะเตือนให้ผู้ที่บังเอิญเดินผ่านได้รู้ว่า ที่แห่งนี้ไม่ใช่เพียงแค่ซากอดีตที่ถูกทิ้งร้าง หากแต่เป็นสุสานที่เต็มไปด้วยเรื่องราวอันน่าสะพรึงกลัว
ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ ไม่มีใครกล้าเอ่ยถึง อควาเรียมแห่งนี้เป็นเหมือน ‘กล่องดำ’ ที่เก็บงำความจริงอันน่าขนลุกไว้เบื้องหลังข่าวลือเรื่องการทดลองผิดจรรยาบรรณ และการหายตัวไปอย่างลึกลับของผู้คนในอดีต เสียงกระซิบเหล่านั้นไม่ใช่เพียงแค่เรื่องเล่าปรัมปรา แต่คือคำเตือนจากสิ่งที่ไม่มีใครมองเห็น และกำลังรอคอย ‘ผู้ถูกเลือก’ ให้ก้าวเข้าสู่กับดักที่ไม่มีวันหนีรอด
ท่ามกลางความมืดมิดและเสียงคำรามของพายุ บัตรเชิญสีดำสนิทใบหนึ่งถูกวางอยู่บนโต๊ะไม้เก่าๆ ภายในห้องที่ถูกทิ้งร้างของอควาเรียม ตัวอักษรสีเงินที่ส่องประกายเรืองรองเขียนไว้ว่า ‘งานพิเศษสำหรับบุคคลที่ถูกเลือก’ พร้อมคำมั่นสัญญาถึง ‘ของรางวัลล้ำค่า’ มันเป็นบัตรเชิญปริศนาที่กำลังจะเปลี่ยนชีวิตของใครบางคนไปตลอดกาล
ลมพัดหวีดหวิวเข้ามาจากหน้าต่างที่แตกหัก ทำให้บัตรเชิญใบนั้นปลิวพลิกไปมา เผยให้เห็นด้านหลังที่สลักคำเตือนเอาไว้
‘จงระวัง... ทุกย่างก้าวคือกฎเกณฑ์’
--------------------------------------------
#วิธีการเป็นผู้รอดชีวิตจาก13กฎเหล็กของอควาเรียมต้องห้าม
ความจริงอันน่าสะพรึงกลัวที่ฟ้าค้นพบเบื้องหลังประตูต้องห้ามที่มีร่างของมนุษย์จำนวนมากในสภาพแปลกประหลาดภายในตู้ปลา ยิ่งตอกย้ำความสิ้นหวังและความหวาดกลัวในกลุ่มคนที่ยังมีชีวิตอยู่ บัดนี้แสงสลัวจากตู้ปลาที่บรรจุสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดในโซนลับส่องกระทบใบหน้าของพวกเขา เผยให้เห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความพ่ายแพ้และไร้ซึ่งหนทาง ฟ้ายังคงยืนนิ่ง ดวงตาของเธอดูล่องลอยและเต็มไปด้วยความเข้าใจ ราวกับว่าเธอกำลังถูกพลังงานจากห้องนั้นกลืนกินไปอย่างช้าๆ“ฟ้า... เธอกำลังกลายเป็นเหมือนพวกเขาแล้ว” พลอยบอกด้วยน้ำเสียงของเธอสั่นเครือ รอยประทับบนฝ่ามือของเธอยังคงเรืองแสงอ่อนๆ อยู่พรึ่บ!!ทันใดนั้นไฟในห้องก็เริ่มติดๆ ดับๆ อีกครั้ง มันสร้างความน่ากลัวให้กับคนที่อยู่ในห้องนั้น โดยเฉพาะตู้ปลาที่บรรจุร่างทดลองประหลาดครึ่งมนุษย์ครึ่งสัตว์น้ำที่จะให้มองกี่ทีก็ชวนแหวะอยู่เสมอ อุณหภูมิก็เริ่มลดลงเรื่อยๆ จนพวกเขาเริ่มหนาวสั่น เงาของสิ่งมีชีวิตประหลาดที่บิดเบี้ยวและน่ากลัวมากขึ้นในสถานการณ์แบบนี้พรึ่บบ!! ตึง!!! ไฟทั้งหมดดับลง ทั้งห้องมืดมิดจนมองไม่เห็นอะไร จากนั้นอยู่ๆ ก็เหมือนมีลมลูกใหญ่พัดผ่านตัวพวกเขาวูบหนึ่งจนร่างกาย
ความตื่นตระหนกแผ่ซ่านไปทั่วกลุ่มคนที่เหลือรอดหลังจากหมอกหายตัวไปอย่างลึกลับ ทิ้งไว้เพียงความแตกแยกและการโทษกันเองว่าใครคือสาเหตุ ทั้งที่ในความเป็นจริงไม่จำเป็นต้องหาต้นตอเลยด้วยซ้ำ เพราะทุกคนที่มาที่นี่ก็เพราะถูกบัตรเชิญลึกลับใบนั้นหลอกลวงมาทั้งหมด หากจะกล่าวโทษใครก็คงต้องบอกว่าเป็นความผิดของคนที่อยู่เบื้องหลังอควาเรียมแห่งนี้นั่นแหละในขณะที่บรรยากาศระหว่างพวกเขาไม่ค่อยจะดี อยู่ๆ ฟ้าก็ก้าวเดินแยกออกไป ทุกคนหันมองตามไปอย่างไม่ไว้ใจ แต่ก็ไม่มีใครเอ่ยห้ามเพราะเข้าใจว่าฟ้าตกอยู่ในการควบคุมของอควาเรียมเธอเดินไปหยุดอยู่บริเวณหน้าทางเดินแคบๆ แห่งหนึ่งซึ่งนำไปสู่ส่วนที่มืดมิดยิ่งกว่าเดิม และที่น่าตกใจที่สุดคือ เธอเริ่มได้ยินเสียงเรียกที่ชัดเจนขึ้นกว่าเดิม เสียงนั้นไม่ใช่เสียงกระซิบ แต่เป็นเสียงที่เหมือนแม่ของเธอกำลังร้องขอความช่วยเหลือช่วยด้วย~“แม่... แม่ขา...” ฟ้าพึมพำ น้ำเสียงของเธอดูล่องลอยแต่ก็แฝงไว้ด้วยความทุกข์ทรมาน เธอหันไปมองกลุ่มคนที่เหลือด้วยแววตาที่ว่างเปล่า แต่ก็มีประกายบางอย่างที่บ่งบอกถึงความมุ่งมั่นที่จะเข้าไปช่วยแม่ของเธอ“ฟ้า! เธอเป็นอะไรไป!” พลอยกรีดร้องด้วยความหวาดกลัวส
ความตายของเจมส์จากการเปลี่ยนแปลงร่างกาย ทำให้ความตื่นตระหนกแผ่ซ่านไปทั่วกลุ่มคนที่เหลือรอด แสงไฟจากตู้ปลาที่ส่องสะท้อนใบหน้าพวกเขาเปิดเผยความกังวลให้เห็นได้ชัดเจน มันเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ลมหายใจหอบเหนื่อยไม่เป็นจังหวะ แม้อากาศภายในอาคารจะเย็นฉ่ำ แต่เม็ดเหงื่อก็ยังคงผุดขึ้นเต็มผิวกายไปหมด มันน่ากลัวไปเสียทุกอย่าง ไม่อาจล่วงรู้ได้เลยว่าพวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับอันตรายใดอีก“เขา...เขาตายแล้วจริงๆ เหรอ” พลอยเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงของเธอสั่นเครือ“ความตายของเขา...คือสัญญาณ” อิฐกล่าวขึ้นมาในระวห่างนั้น เสียงของเขาหนักแน่นและสงบ“ได้ยินอะไรกันไหม” หมอกเอ่ยทักขึ้นก่อนจะเดินไปหยุดยืนอยู่ที่หน้าตู้ปลาขนาดใหญ่ตู้หนึ่งที่ดูมืดมิดและมีตะไคร่น้ำเกาะหนาแน่น“เสียงอะไร” อิฐถามต่อก่อนจะมองตามไปยังทางที่หมอกยืนนิ่งอยู่“ฉันได้ยินมัน...ร้องเพลง” หมอกบอกเสียงนิ่งเธอเริ่มได้ยินเสียงเรียกที่ดังมาจากตู้ปลาที่เรียกชื่อเธออีกครั้ง เสียงนั้นไม่ใช่เสียงกระซิบธรรมดา แต่มันเป็นเสียงที่ดูเหมือนกำลังร้องเพลงด้วยเสียงเพลงที่ไพเราะและชวนฝัน แต่ก็แฝงไว้ด้วยความเศร้าโศกและอันตราย ราวกับกำลังเชื้อเชิญให้เธอเข้าไปใกล้ เสีย
เงาปริศนาที่เคลื่อนไหวไปมาในความมืด บิดเบือนการรับรู้และฉายภาพหลอนที่สะท้อนความกลัวลึกๆ ในใจของแต่ละคน ยิ่งทำให้ความหวาดกลัวเข้าปกคลุมกลุ่มคนที่เหลือรอดอย่างหนักหน่วง แสงสลัวจากตู้ปลาที่บรรจุสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดในโซนลับส่องกระทบใบหน้าของพวกเขา เผยให้เห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความหวาดผวาและความพ่ายแพ้ ภาพอนาคตอันน่าสะพรึงกลัวที่ฉายขึ้นในตู้ปลา ยิ่งตอกย้ำความสิ้นหวังให้ลึกซึ้งขึ้นในระหว่างนั้น ไม่มีใครทันได้สังเกตเห็นว่าดวงตาของเจมส์กลับกลายเป็นสีดำสนิท ไร้แววตาใดๆ และที่น่าตกใจที่สุดคือ ผิวหนังของเขาที่เคยซีดเผือด บัดนี้กลับมีลักษณะคล้ายเกล็ดสีเขียวอมดำปรากฏขึ้นอย่างชัดเจนไปทั่วทั้งร่างกาย และเสียงน้ำไหลแผ่วเบาที่ดังมาจากภายในร่างของเขาก็เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นเสียงโครมครามราวกับมีสายน้ำกำลังไหลเชี่ยวอยู่ข้างในตัวเขา“เจมส์!” พลอยกรีดร้องสุดเสียงด้วยความหวาดกลัว เธอเห็นภาพเงาสะท้อนในตู้ปลาที่แสดงว่าเจมส์จะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาด และบัดนี้มันก็กำลังเกิดขึ้นจริงเจมส์พยายามจะลุกขึ้นยืน ร่างกายของเขาสั่นเทาอย่างรุนแรง เขายื่นมือออกไปในอากาศ ราวกับกำลังควานหาบางสิ่งบางอย่าง
ภาพอนาคตอันน่าสะพรึงกลัวที่ฉายขึ้นในตู้ปลาเพื่อให้เห็นถึงชะตากรรมของพวกเขาแต่ละคนที่จะถูกอควาเรียมกลืนกิน สิ่งนั้นยิ่งตอกย้ำความสิ้นหวังให้ลึกซึ้งขึ้น บัดนี้แสงสลัวจากตู้ปลาที่บรรจุสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดในโซนลับส่องกระทบใบหน้าของพวกเขา เผยให้เห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความหวาดผวาและไร้ซึ่งหนทาง แต่ก็ยังคงมีความมุ่งมั่นบางอย่างที่ริบหรี่ให้เห็นถึงความต้องการที่จะต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด“ภาพที่เราเห็นมันคือการแสดงถึงพลังของอควาเรียม” อิฐเอ่ยด้วยน้ำเสียงและท่าทีที่มุ่งมั่น “มันกำลังพยายามทำลายขวัญกำลังใจพวกเรา”“เรายังมีหวังใช่ไหม” พลอยถามในขณะที่น้ำตาไหลอาบทั้งสองแก้ม“ต้องมีสิ” อิฐย้ำชัด “ฉันจะพาทุกคนออกไปให้ได้ ฉันจะไม่ยอมตายอยู่ที่นี่หรอก”ทันทีที่อิฐพูดจบ อุณหภูมิในโซนที่พวกเขากำลังยืนอยู่ก็ลดต่ำลงอย่างกะทันหัน ความมืดที่เคยสลัวบัดนี้กลับมืดลงเข้าไปอีก ราวกับว่าแสงทั้งหมดถูกดูดกลืนหายไป พร้อมกับเสียงกระซิบที่ดังขึ้นเป็นทวีคูณ ไม่ใช่แค่เสียงกระซิบจากตู้ปลา แต่เป็นเสียงกระซิบที่มาจากทุกทิศทาง รอบตัวพวกเขา ราวกับมีลมหายใจเย็นยะเยือกพัดผ่านเงาปริศนาขนาดใหญ่เริ่มปรากฏขึ้นในทุกมุมของอควาเรียม
ความจริงอันน่าสะพรึงกลัวที่กวินค้นพบในสมุดบันทึกของนักวิทยาศาสตร์ เรื่องรายละเอียดของการทดลองมนุษย์ที่โหดร้าย และการบังคับให้เหยื่อเข้าร่วม ยิ่งทำให้ความสิ้นหวังทวีคูณพลอยทิ้งตัวลงนั่งคุดคู้อยู่กับพื้น สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัว “มันโหดร้ายเกินไปแล้ว... เราจะทำยังไงกันดี”“สมุดบันทึกเล่มนี้อาจมีแผนผังที่จะนำเราไปสู่แกนพลังงาน และวิธีที่หยุดมัน” อิฐพูดพลางมองไปยังคนที่เหลือ “นี่คือทางเดียวที่เราจะรอด”“แน่ใจใช่ไหมว่านี่คือหนทางที่จะพาเรากลับบ้านได้” พลอยถามย้ำอย่างไม่มั่นใจ“แต่เราไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว” ลุงแดงกล่าวเสริมไม่ทันที่จะได้พูดคุยกันต่อทุกคนก็เริ่มสังเกตเห็นบางสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวปรากฏขึ้นในตู้ปลาที่เรียงรายอยู่รอบตัวพวกเขา มันไม่ใช่ปลา ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตประหลาดที่พวกเขาเคยเจอ แต่เป็นเงาสะท้อนของตัวเองที่ปรากฏขึ้นบนผิวน้ำในตู้ปลาที่ว่างเปล่า ราวกับเป็นภาพหลอนที่ฉายมาจากมิติอื่นแต่เงาสะท้อนเหล่านั้นไม่ได้นิ่งเหมือนกระจกเงา มันกลับเคลื่อนไหว และแสดงภาพอนาคตที่น่าสะพรึงกลัวของแต่ละคนเงาสะท้อนของฟ้าในตู้ปลาที่กำลังจมดิ่งลงสู่ความมืดมิดของน้ำ ร่างกายของเธอบิดเบี้ยว และค่