เข้ามาในห้องนอนแล้ว ธาราก็เดินกวาดสายตามองไปรอบห้อง ด้วยความตื่นตาตื่นใจ เมื่อเห็นระเบียง ก็เปิดประตูออกไปสูดอากาศด้านนอก นี่มันสวรรค์บนดินชัดๆ บนห้องนอนที่อยู่ชั้นบนสุดของตัวบ้านอย่างนี้ ทำให้สามารถมองเห็นวิวบริเวณโดยรอบ ได้กว้างไกลสุดลูกหูลูกตาเลยทีเดียว
“สดชื่นจัง” ธารายืนกางแขนสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าปอด หลับตาพริ้มด้วยความสบายใจ
“ทำอย่างกับไม่เคยมาที่นี่อย่างนั้นล่ะ” เหมันต์เดินเข้ามากอดหญิงสาวจากด้านหลัง ก่อนจะซุกใบหน้าคมลงที่ซอกคอขาว นัวเนียอยู่อย่างนั้น
“คุณ! ทำอะไรเนี่ย” ด้วยความลืมตัว ธาราจึงพยายามแกะมืออีกฝ่ายออกโดยเร็ว แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้เธอมีสถานะเมียเขาแล้ว จึงไม่ควรจะปฏิเสธการสัมผัสให้อีกฝ่ายระแคะระคายเด็ดขาด ดีไม่ดีถ้าโดนจับได้เธอเองก็จะโดนหางเลขไปด้วย
“ทำไมไม่ขัดขืนต่อล่ะ กำลังได้อารมณ์อยู่แล้วเชียว”
“ก็ฉันเป็นเมียพ่อเลี้ยงนี่คะ ทำไมจะต้องทำอย่างนั้นด้วย”
“แล้วทำไมตอนแรกถึงทำล่ะ” เหมันต์ยังกวนไม่เลิก เขาอยากรู้ว่าอีกฝ่ายจะไปต่อยังไง
“ก็ฉันตกใจนี่นา จู่ ๆ ก็เดินเข้ามาไม่ให้สุ้มให้เสียง”
“แสดงว่าตอนนี้ฉันจะทำอะไรก็ได้แล้วสิ” เสียงทุ้มเอ่ยเบาๆ ข้างใบหู ก่อนจะสูดกลิ่นหอมที่พวงแก้มขาวอย่างบรรจง มือหนาเริ่มเลื้อยเข้าไปใต้เสื้อตัวบาง
“ยะ...หยุดก่อนค่ะ นี่มันระเบียงนะคะพ่อเลี้ยง ฉันว่ามันไม่เหมาะสักเท่าไหร่” ธาราย่นคอ เอียงศีรษะหนีจากการถูกรุกราน
“ทำไมจะไม่เหมาะล่ะ ก่อนหน้าที่เธอมา เรายังเคยมีความสุขกันอยู่ตรงนี้เลย เธอเองก็ชอบไม่ใช่เหรอ” ชายหนุ่มแกล้งพูดหยอกให้อีกฝ่ายตกใจเล่น
“จะ...จริงเหรอคะ ฉันเคยทำอย่างนั้นด้วยเหรอไม่เห็นจะจำได้เลย” ธาราแกล้งทำเป็นจำไม่ได้
“มารอบนี้เธอดูเปลี่ยนไปนะ ดูหลงๆ ลืมๆ สงสัยต้องรื้อฟื้นความทรงจำซะแล้วสิ” ว่าแล้วก็ซุกไซร้ที่คอระหง สูดกลิ่นกายที่ยั่วเย้าอารมณ์ชายให้พลุ่งพล่านขึ้นทันที
“เปลืองตัวชะมัด” ธาราเผลอบ่นออกมาเบาเสียง เหมันต์ได้ยินไม่ถนัดหูจึงเอ่ยถามอีกครั้ง
“อะไรเปลืองๆ นะ”
“เปล่าค่ะพ่อเลี้ยง ไม่มีอะไร”
“เห็นพื้นที่สีเขียวตรงหน้านี้ไหม” เหมันต์เอ่ย ทั้งที่ยืนกอดอีกฝ่ายจากด้านหลังอยู่
“เห็น ทำไมคะ”
“พื้นที่ที่เธอเห็น เป็นของฉันหมดเลย”
“ออค่ะ” ธาราตอบสั้นๆ เธอยังคงไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องการจะสื่อถึงอะไรกันแน่
“ถ้าเธอมาช่วยฉันทำงาน ทุกอย่างทั้งหมดก็จะเป็นของเธอไปด้วยไงล่ะ”
“ฉันไม่ได้ต้องการอะไรเลยนะคะ ที่แต่งงานกับพ่อเลี้ยงก็เพราะ...”
“เพราะอะไรทำไมไม่พูดต่อ ฉันอยากฟัง”
“เพราะว่า...ฉันรักพ่อเลี้ยงไงคะ” เธอไม่น่าเปิดประเด็นนี้ขึ้นมาเลย อายชะมัดที่ต้องพูดคำนั้นออกไป
“รักมากแค่ไหน ไหนบอกมาซิ” เหมันต์อยากจะรู้ว่าเจ้าหล่อนจะเล่นละครได้เก่งสักแค่ไหนกันเชียว
“บอกไม่ถูกค่ะ รู้แค่ว่ารักมาก”
“ฉันเองก็รักเธอมากรู้ไหม ยอมเธอได้ทุกอย่างไม่ว่าเธอจะต้องการอะไร เพราะงั้นเธอจะต้องอยู่ที่นี่กับฉันไปตลอด ห้ามไปจากฉันเด็ดขาด วันไหนที่ฉันรู้ว่าเธอทรยศฉัน รับรองว่าเธอจะโดนฝังอยู่ที่นี่แน่นอน”
ได้ยินอย่างนั้นธาราก็กลืนน้ำลายลงคอด้วยความหวาดกลัว พอจะร้ายทำไมถึงได้น่ากลัวอย่างนี้นะ เธอคงจะยังไม่รู้จักผู้ชายคนนี้มากพอจริงๆ รู้แล้วว่าทำไมน้องสาวฝาแฝดถึงได้กลัวว่าผู้ชายคนนี้จะเอาเรื่อง หากรู้ความจริงเข้า กลายเป็นว่าตอนนี้เธอมารับความซวยแทนน้องสาวแท้ๆ
“ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ ฉันแค่ล้อเล่นเอง” เหมันต์ขำออกมา เมื่อแกล้งเจ้าหล่อนได้สำเร็จ ดีเหมือนกันอีกฝ่ายจะได้รู้ว่าเขาไม่ใช่ผู้ชายที่จะมาล้อเล่นได้ง่ายๆ
“จริงเหรอคะ ทำไมหน้าคุณดูจริงจังซะขนาดนั้น” ธารายังคงไม่เชื่อว่าเขาจะแค่ล้อเล่น
“ทำอย่างกับไม่เคยรู้จักฉันมาก่อน เวลาเราอยู่ด้วยกันสองต่อสองฉันก็เป็นคนขี้เล่นอย่างนี้ล่ะ แต่ถ้าอยู่ต่อหน้าคนงานในไร่ก็จะจริงจัง”
“อ๋อ...เข้าใจแล้วค่ะ” ธาราพยักหน้ายิ้มให้
“ถ้าเข้าใจแล้วเข้าไปต่อข้างในกันเถอะ ฉันอยากจะกินเธอเต็มทีแล้ว”
“กินฉัน? หมายความว่า..” นี่เธอต้องเสียตัวอีกแล้วงั้นเหรอเนี่ย ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้เซ็กซ์จัดขนาดนี้นะ
“ใช่...ฉันจะกินเธอไปทั้งตัวเลยล่ะ” ว่าแล้วชายหนุ่มก็อุ้มเธอขึ้นในท่าเจ้าสาว แล้วพาเดินเข้าไปในห้องนอน เปิดประตูระเบียงไว้อย่างนั้นเพื่อรับลมเย็นๆ
เมื่อวางเจ้าหล่อนลงบนเตียงแล้ว เหมันต์ก็จัดการเปลื้องผ้าออกจนตัวเปล่าเล่าเปลือย ความเป็นชายกระเด้งโดดขึ้นมาตั้งตระหง่าน บ่งบอกว่าตอนนี้เขาพร้อมรบแล้ว ธาราได้แต่นอนนิ่งอยู่บนเตียงด้วยท่าทีเขินอาย
“ฉันลืมบอกเธอไปว่า ฉันเป็นคนที่มีความต้องการสูงมาก สูงจนสามารถมีอะไรกับเธอได้ทุกชั่วโมงเลยล่ะ” เขาเอ่ยแค่นั้นก็โน้มใบหน้าคมเข้ามาประกบจูบ
มือหนาข้างหนึ่งบีบเคล้นที่เนินอกกลมแน่นเต่งตึงผ่านเสื้อตัวบาง ส่วนอีกข้างก็ปลดเปลื้องกระโปรงพลิ้วสั้นออกจนพ้นตัวหญิงสาว เหลือไว้เพียงชั้นในตัวจิ๋วลูกไม้สีขาว
“อื้อ..” ธาราจำต้องร้องครวญครางในลำคอ นั่นเพราะตอนนี้ของสงวนโดนฝ่ายชายล่วงล้ำเข้าไปด้วยนิ้วมือหนา ก่อนจะกระตุกมันอย่างถี่รัวราวกับต้องการแกล้งอีกฝ่าย
“เธอกำลังยั่วฉันมากเหลือเกินน้ำค้าง” เหมันต์เอ่ยเสียงกระเส่าข้างใบหู
ธาราได้แต่เหลือบตามองเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถเอ่ยอะไรออกมาได้ เพราะตอนนี้เจ้าหล่อนกำลังให้ความสนใจกับนิ้วที่ซุกซนอยู่นั่นเอง
“อ๊ะ...พะ...พ่อเลี้ยง” ธาราไม่อาจควบคุมความต้องการของตัวเองได้เลย ตอนนี้เจ้าหล่อนเปลือยกายล่อนจ้อน แอ่นอกรับสัมผัสจากชายหนุ่ม เขาโน้มใบหน้าคมลงมาใช้ลิ้นเย็น ตลัดเลียวนยอดอกที่ตั้งชูชันแข็งเป็นไต จนชื้นแฉะไปด้วยน้ำบ่อน้อย
ไม่นานเหมันต์ก็เปลี่ยนท่วงท่า นอนราบลงบนเตียง จับตัวหญิงสาวให้นั่งคร่อมตัวเองไว้ เขาจับมือธาราให้ไปสัมผัสแท่งร้อนที่กำลังแข็งได้ที่ ธารารู้งานรีบโน้มใบหน้าลงไป ใช้ปากครอบครองแก่นกายนั้นจนสุด ก่อนจะครูดขึ้นลงด้วยการเกร็งริมฝีปากบีบรัดไปด้วย
“ซี๊ดส์”
เหมันต์ชมลีลารักของภรรยาอย่างพอใจ แม้ว่าเธอคนนี้จะไม่ได้เร่าร้อนและลีลาเยี่ยมเหมือนน้ำค้างคนก่อน แต่เธอก็ทำให้เขามีอารมณ์ร่วมและสุขสมได้ไม่แพ้กัน
“เก่งมากครับเมียสุดที่รัก” เขาเอ่ยชมเพื่อให้เจ้าหล่อนมีความฮึกเหิมในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านี่คือครั้งที่สองของอีกฝ่าย ธาราสามารถทำให้เขาประทับใจกับลีลารักได้เพียงแค่ไม่กี่ครั้ง
เหมันต์กลัวว่าตัวเองจะถึงจุดสุดยอดไปเสียก่อน เขาจึงพลิกตัวภรรยาลงไปนอนบนเตียง แยกขาเรียวทั้งสองข้างออกจากกัน ก่อนจะดันแท่งร้อนเข้าไปรวดเดียวจนสุด ธาราพยายามเกร็งขาเข้าหากัน แต่กลับโดนชายหนุ่มยกมันขึ้นไปพาดบนบ่าหนา แล้วจัดการกระแทกกระทั้นแท่งร้อนเข้าไปอย่างรุนแรง ทำเอาเจ้าหล่อนถึงกับหน้าเหยเก ยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาบีบเคล้นที่หน้าอกคู่งามของตัวเองไปด้วย ขบริมฝีปากล่างเอาไว้แน่น
ปักๆ ๆ
“ร้องดังๆ เลยครับที่รัก ร้องมันออกมาผัวอยากได้ยิน” เหมันต์ออกคำสั่งด้วยเสียงที่แหบพร่า เขาอยากได้ยินเสียงร้องรัญจวนจากอีกฝ่าย เพราะมันช่วยเพิ่มอรรถรสให้เขาได้มากเลยทีเดียว
“อ๊ะ ๆ ๆ สะ...เสียว อื้อ” ในที่สุดธาราก็กลั้นเอาไว้ไม่ได้ เธอร้องออกมาสุดเสียงไม่สามารถกั๊กความรู้สึกเอาไว้เลย
เมื่อเห็นเจ้าหล่อนมีอารมณ์ร่วมในระดับหนึ่งแล้ว เหมันต์ก็ร่ายลีลารักอย่างชำนิชำนาญ พาเธอผจญภัยกับเส้นทางแห่งรสสวาทอย่างสนุกสนานและเร่าร้อน...จนถึงปลายทางในที่สุด
“อา!! แม่งโคตรเสียว ตอดอย่างนี้ไม่รักได้ไงล่ะครับ” เหมันต์เอ่ยกับเจ้าหล่อนพร้อมกับจ้องมองใบหน้าสวยอย่างหื่นกระหาย“แรงๆ ได้ไหมคะฉันไม่ไหวแล้ว”“ได้เลยครับที่รัก”เหมันต์ไม่รอช้าเริ่มเร่งจังหวะกระเด้า กระแทกดุ้นใหญ่หัวบานเข้าไปในร่องสวาทไม่ยั้ง ห่างเรื่องอย่างว่าไปนานเขาไม่นึกเลยว่าน้ำฟ้าจะมีความกล้ามากขึ้นอย่างนี้ นั่นทำให้เขายิ่งพอใจในตัวเธอมากขึ้นไปอีกปับ! ปับ! ปับ!“อ๊ะๆ ๆ ๆ”แรงกระแทกทำให้หน้าอกกลมโตกระเพื่อมไปตามจังหวะ เหมันต์จึงหยุดมันไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง บีบคลึงไปด้วยกระเด้าไปด้วยอย่างสบายอารมณ์กลีบสวาทอวบอูมทั้งสองข้างเริ่มแดงช้ำ เต็มไปด้วยน้ำหล่อลื่นอันฉ่ำแฉะเหนียวเป็นเส้น เจ้าหล่อนกระเด้งเอวรับจังหวะเด้าของเหมันต์ไปด้วยอย่างอัตโนมัติ“มะ...ไม่ไหวแล้วแม่งเอ้ย ซี๊ดดด” เหมันต์ทำหน้าเหยเกสูดปากเสียว บั้นท้ายยังคงกระเด้งเด้าไม่ยั้งจนคนที่อยู่ใต้ร่างแทบจะแหลกคาเตียง“พะ...พร้อมกันนะคะฉันก็ไม่ไหวแล้ว” น้ำฟ้าตอบรับสามีด้วยความรู้สึกไม่ต่างกันเมื่อใกล้ถึงจุดหมายปลายทางแล้วเหมันต์ก็กอดตัวภรรยาเอาไว้แน่น พรมจูบไปตามซอกคอขาวอย่างหื่นกระหาย พร้อมทั้งเร่งจังหวะกระเด้าให้แรงและเร็วขึ้น
เมื่อเคลียร์ทุกอย่างที่กรุงเทพเสร็จแล้วทั้งสามคนก็บินกลับเชียงรายทันที ตอนนี้ทุกคนต่างก็ตั้งตารอที่จะได้เห็นหน้าแม่เลี้ยงของไร่อีกครั้ง เหมันต์รับสาวใช้คนใหม่มาแทนคำปองแล้ว เธอเป็นสาวเหนืออายุราวสี่สิบปี สามารถเข้ากับป้าบัวคลี่ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว ความสุขของคนในบ้านหลังนี้ได้กลับคืนมาสมบูรณ์แบบอีกครั้งแล้ว“ป้าบัวครับทำไมคุณพ่อยังไม่มาอีก” คิมหันต์เอ่ยด้วยสีหน้าเศร้าเพราะนั่งรอผู้เป็นพ่อมานานหลายชั่วโมงแล้ว“อีกแปบนึงค่ะคุณหนูเดี๋ยวคุณพ่อก็มา”“คุณแม่จะกลับมาด้วยไหมครับ”“ป้ามั่นใจว่าคุณแม่ต้องกลับมาด้วยแน่นอนค่ะ”พูดยังไม่ทันขาดคำทั้งหมดก็ได้ยินเสียงรถขับเข้ามาจอดหน้าบ้าน ทุกคนจึงรีบวิ่งออกไปรอต้อนรับผู้มาใหม่ทันที“คณแม่กลับมาแล้วเย้!!!”“น้องคิมลูกแม่”เมื่อเห็นเด็กชายที่เธอรักราวกับลูกแท้ๆ น้ำฟ้าก็รีบวิ่งเข้ามากอดทันที เจ้าหล่อนหอมแก้มนุ่มๆ ทั้งสองข้างด้วยความคิดถึง“น้องคิมคิดถึงคุณแม่ทุกวันเลยครับ”“แม่ก็คิดถึงหนูครับ ต่อไปนี้แม่จะไม่จากหนูไปไหนแล้วนะ”“เย้! น้องคิมดีใจที่สุดในโลกเลย”“อย่ามัวแต่ดีใจจนลืมไหว้เพื่อนแม่สิครับน้องคิม” เหมันต์เอ่ยกับลูกชาย“สวัสดีครับ”“สวัสดีค่
น้ำฟ้ากลับเข้ามาทำงานที่ภัตตาคารแห่งเดิม ส่วนเรื่องที่หลับที่นอนก็กลับมาพักอยู่กับมะเหมี่ยวเพื่อนรัก แต่ทว่าการกลับมาครั้งนี้ของเธอกลับลืมของสำคัญบางอย่างไว้ที่เชียงราย นั่นคือหัวใจและทำให้การใช้ชีวิตที่กรุงเทพไม่ได้มีความสุขเหมือนแต่ก่อน เธอเอาแต่นั่งเหม่อลอยคิดถึงชายหนุ่มผู้เป็นที่รักยิ่งอยู่ทุกวันเวลา จนมะเหมี่ยวเองก็สังเกตเห็นและพยายามถามไถ่ เธอจึงยอมเล่าความจริงทุกอย่างให้เพื่อนฟัง อย่างน้อยการได้ระบายให้ใครสักคนฟังมันก็รู้สึกดีขึ้นมากอยู่ไม่น้อยเมื่อลงจากรถเมล์สายประจำแล้วสองสาวก็เดินตรงไปยังที่ทำงาน ซึ่งเดินไปตามถนนเส้นนี้อีกไม่ไกลนัก“เร็วๆ แกเดี๋ยวเข้างานสายกันพอดี” มะเหมี่ยวเอ่ยกับเพื่อนรักขณะเร่งฝีเท้าเดินไปอย่างเร่งรีบ“ไม่สายหรอกน่าไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้แก” น้ำฟ้าบ่นให้เพื่อนขณะที่เจ้าหล่อนเดินเอ้อระเหอลอยชายอย่างไร้ชีวิตชีวา“ไม่รีบมีหวังนางยักษ์ขมูขีชี้หน้าด่าเราแน่” ที่พูดถึงนั่นคือหัวหน้าเชฟสาวใหญ่เจ้าระเบียบที่ใครๆ ต่างก็หวาดผวาเมื่อได้อยู่ใกล้“เออๆ รีบก็รีบวะ” น้ำฟ้าเอ่ยเสียงเอื่อยก่อนจะถูกเพื่อนดึงมือให้เดินตามไปเดินมาถึงหน้าภัตตาคารแล้วก็พบว่า มีชายหนุ่มหล่อสว
“ขอบคุณจ้ะป้า”เมื่อสาวใช้ทั้งสองเดินออกไปแล้ว ประจวบเหมาะว่าภูวดลก็เดินเข้ามาในบ้านพอดี“อ้าว! นึกว่าขึ้นข้างบนกันหมดแล้วซะอีก” ภูวดลเลิกคิ้วมองทุกคนก่อนจะเดินเข้ามานั่งข้างคิมหันต์ พร้อมทั้งกอดคอเอาไว้“รอมึงนั่นล่ะไปไหนมาวะ”“กู...ไปเดินเล่นในสวนมา” จริงๆ แล้วเขาคุยสายกับน้ำฟ้าต่างหาก รายงานให้เธอรู้ว่าตอนนี้เหมันต์ปลอดภัยดีและกลับมาที่บ้านเรียบร้อยแล้ว เธอจะได้สบายใจ“ยังมีอารมณ์สุนทรีย์อีกนะมึงอะ”“นิดหน่อยว่ะ” ภูวดลแค่นยิ้มออกมาเล็กน้อย“เอ่อ...เดี๋ยวฉันขึ้นไปข้างบนก่อนนะคะ คุยกันตามสบายค่ะ” น้ำค้างรู้สึกว่าทั้งสองคงอยากมีอะไรคุยกันเป็นการส่วนตัว“ไว้ค่อยคุยกันนะครับ” ภูวดลเอ่ยกับหญิงสาว“ค่ะ” น้ำค้างส่งยิ้มให้ ก่อนจะหันไปเอ่ยกับเด็กชายที่นั่งอยู่ข้างภูวดล “น้องคิมขึ้นไปดูการ์ตูนข้างบนกันดีกว่าครับ”“ครับคุณแม่” คิมหันต์ตอบรับแล้วก็หันไปเอ่ยกับคนที่นั่งอยู่ข้างกัน “น้องคิมขึ้นไปข้างบนก่อนนะครับอาภู”“ครับผม” ภูวดลเอื้อมมือไปจับแก้มลูกชายเพื่อนอย่างเอ็นดูหลังจากทั้งสองคนเดินไปแล้วภูวดลก็หันไปสนใจเพื่อนต่อทันที เขาอยากให้เพื่อนถามไถ่เรื่องน้ำฟ้าซะเหลือเกิน แต่ทว่าเหมันต์กลับนิ่งเ
ปัง!“คุณฉัตรชัย!”ลูกตะกั่วพุ่งจากปลายกระบอกปืนของเหมันต์เข้าไปที่กลางหลังฉัตรชัย ก่อนที่เขาจะลั่นไกฆ่าลูกเมียตนเอง เหมันต์ไม่อยากให้เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นเลยสักนิด หากย้อนเวลากลับไปได้จะไม่มีทางทำให้พ่อกับแม่ของฉัตรชัยต้องตายเด็ดขาด เพราะเขาเองก็ไม่อยากได้ขึ้นชื่อว่าเป็นฆาตกร แต่ครั้งนี้เขาตั้งใจทำเพื่อให้เด็กในท้องคำปองได้เกิดขึ้นมาลืมตาดูโลกคำปองรีบวิ่งเข้าไปพยุงตัวฉัตรชัยขึ้นไว้บนตักตนเอง แม้ว่าเธอจะไม่ได้รักฉัตรชัยแม้แต่น้อย แต่ทว่าเขาก็คือพ่อของลูก เธอเองก็อยากให้ลูกเกิดขึ้นมาแล้วมีพ่อเหมือนคนอื่น ๆ“คุณฉัตรชัย ฮือ ๆ”“ฉะ...ฉันขอโทษที่จะทำร้ายเธอ” ฉัตรชัยเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาราวกับลมหายใจใกล้จะหมดลงในอีกไม่ช้า“ฉันอภัยให้คุณทุกอย่าง ฮือๆ อย่าเป็นอะไรไปนะคะคุณต้องอยู่เพื่อลูกของเรา”เมื่อได้ยินอย่างนั้นฉัตรชัยก็ยิ้มน้อยๆ ออกมา อย่างน้อยเขาก็ได้รู้ว่าตนเองยังมีลูกชายไว้สืบสกุลก่อนจะตายไปจากโลกใบนี้“ลูก...ฉันกำลังจะมีลูก เฮือก!”“ใช่ค่ะเรากำลังจะมีลูกด้วยกัน คุณต้องไม่เป็นไรนะ”“ดูแลลูกแทนฉันด้วยนะ อย่าให้ลูกรู้ว่ามีพ่อเลวๆ อย่างฉัน”“คุณคือพ่อของลูกฉันนะ คุณฉัตรชัย ฮือๆ ๆ” คำ
ทุกคนถูกนำตัวมานั่งรวมกันที่หน้าบ้าน ฉัตรชัยรอให้เหมันต์กลับมาที่นี่ หลังจากนั้นเขาจะจัดการฆ่าทุกคนให้ตายอย่างทรมาน“คุณแม่ครับน้องคิมกลัวฮือๆ ๆ”“ไม่ต้องกลัวนะลูกเดี๋ยวคุณพ่อก็มาช่วยเราแล้ว” น้ำฟ้ากอดปลอบใจคิมหันต์“ใช่! เดี๋ยวพ่อมึงก็จะมาช่วย กูจะได้จัดการพวกมึงไปพร้อมๆ กันยังไงล่ะฮ่าๆ ๆ” ฉัตรชัยเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะดึงตัวคิมหันต์ออกจากอ้อมกอดของน้ำฟ้า“ไม่เอาน้องคิมไม่ไปด้วย น้องคิมเกลียดคนใจร้ายฮือๆ ๆ”“ปล่อยลูกฉันเดี๋ยวนี้นะไอ้สารเลว”“ปล่อยแน่แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้โว้ย!”“คุณแม่ช่วยน้องคิมด้วยฮือๆ ๆ” ตอนนี้ฉัตรชัยล็อกตัวคิมหันต์เอาไว้ ก่อนจะยิงปืนขึ้นบนฟ้าหนึ่งนัดเพื่อประกาศชัยชนะที่มีต่อเหมันต์“คุณฉัตรชัยปล่อยคุณหนูเถอะนะคะ” คำปองเอ่ยขอร้องด้วยน้ำตา“หุบปาก! เธอไม่มีสิทธิ์มาขอร้องอะไรทั้งนั้น สิทธิ์ของเธอหมดตั้งแต่ไม่ไปตามนัดฉันแล้ว” ฉัตรชัยหันมาตวาดใส่หน้าทันที คำปองกำลังจะเอ่ยปากบอกความจริงว่าเธอกำลังท้อง แต่ทว่าเหมันต์กลับเข้ามาถึงเสียก่อน“ปล่อยลูกกูเดี๋ยวนี้” เหมันต์เดินเข้ามาเพียงลำพัง ส่วนภูวดลและลูกน้องแอบซุ่มอยู่บริเวณรอบบ้านไม่ให้คนของฉัตรชัยเห็น เพื่อรอเข้าโจมตีเมื่อถึงเ