บทที่ 7
"อืมมม" สญามนลืมตาตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ด้วยความปวดเมือยไปทั้งร่าง เธอกระพริบตาถี่ปรับม่านตารับเเสงที่สาดเล็ดรอดเข้ามาภายในห้อง หญิงสาวนอนนิ่งไม่ขยับนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อคืนนั้น พวงแก้มก็เกิดร้อนผ่าวขึ้นมา สญามนค่อย ๆ หันหน้าไปมองคนข้าง ๆ ที่หลับอยู่ เธอจ้องมองใบหน้าหล่อของเขาก็รู้สึกเขินอายอย่างบอกไม่ถูก "จะจ้องอีกนานไหม" พายุพูดขึ้นขณะที่หลับตาอยู่ สญามนคิดว่าเขาหลับอยู่ เธอตกใจมากที่จู่ ๆ เขาก็เอ่ยขึ้น บวกกับความเขินอายถึงเรื่องเมื่อคืนนั้น หญิงสาวรีบเอามือปิดหน้าตนเอง เธอหมุนตัวหนีเขาโดยมีผ้าห่มคลุมร่างบางที่เปลือยเปล่า จนกลิ้งหล่นลงมาข้างเตียง ตุ๊บ! "โอ้ย!" "สญามน! เป็นไรไหม" พายุตกใจที่อยู่ ๆ เธอก็กลิ้งหนี้เขาจนตกเตียง เขารีบลุกขึ้นจะมาหาเธอ "หยุด ไม่ต้องมาฉันไม่ไปไร" พายุชะงักตามคำพูดของเธอ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะชโงกมองร่างเล็กที่นอนคว่ำหน้ามีผ้าห่มม้วนพันอยู่รอบตัว "ไม่เป็นไรได้ไง เสียงเธอตกดังขนาดนั้น ให้ฉันดูหน่อย" ชายหนุ่มกล่าวพร้อมขยับมายังอีกด้านของเตียงที่เธอหล่น พายุจับร่างบางที่นอนคว่ำหน้าอยู่เปลี่ยนมาเป็นนอนหงายกึ่งนั่ง ฝ่ามือทั้งสองจับไหล่เนียนนั้นไว้ เเล้วมองดูเธอมีก้มหน้าหลบสายตาเขา "ไม่ ฉันไม่เป็นไรจริง ๆ " เรียวมือเล็กกำผ้าห่มที่ปิกปิดร่างกายไว้แน่น ชายหนุ่มจับปอยผมด้านหน้าทัดใบหูหญิงสาวเอาไว้ มืออีกข้างแตะที่ปลายคางของเธอให้เงยขึ้นมา เเต่หญิงสาวกับหันหน้าหนี "ยะ อย่ามองได้ไหมฉันอาย" สญามนเอ่ยบอกเขาน้ำเสียงติดขัด ทำเอาชายหนุ่มขำออกมาเบา "ขำอะไร ฉันอายนะ นายออกไปก่อนเลย" "อายอะไรฉันเห็นหมดแล้ว" เธอตะลึงกับคำพูดของชายหนุ่มจนเผลอเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขา พายุส่งยิ้มหวานให้เธอ หญิงสาวเวลานี้นั้นหัวใจเธอเต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะ พยายามกลั้นยิ้มด้วยความเขินอาย "นะ นายอย่ามองแบบนี้สิ ฉันเขิน" "ทำไมจะมอง" พายุกล่าวพร้อมกับอุ้มหญิงสาวขึ้นมานอนบนเตียงอีกครั้ง "พายุ นายจะทำอะไร" "อย่างให้ทำอะไรล่ะ" ชายหนุ่มว่างเธอลงบนเตียงพร้อมกับนอนกอดหญิงสาวที่นอนเกร็งตัวเเข็ง "ชอบไหม" เขากระซิบเบา ๆ ที่ข้างหูหญิงสาว "หมายถึง…" เธอนึกไปถึงบทรักเมื่อคืน ขนก็ลุกซู่รู้สึกมวลอยู่บริเวณท้องน้อย "หมายถึงเธอชอบฉันไหม หรือคิดอะไรอยู่" " ปะ เปล่า แล้วนายล่ะ" "ฉัน…" สญามนหันหน้ามามองไปที่ดวงตาของชายหนุ่ม เธอเองก็อย่างรู้ความรู้สึกของเขาเช่นกัน พายุเองก็มองดวงตาของเธอด้วยความรู้สึกมากมาย มันเริ่มต้นเมื่อไรเขาเองก็ไม่รู้ตัว เขารู้แค่ว่าตอนนี้เขาชอบเธอเข้าแล้ว "ฉันชอบเธอ" พายุกล่าวออกมาจากใจ ความรู้สึกของเขาที่มีต่อเธอ ถึงแม้ว่าเขาและเธอจะรู้จักกันได้ไม่นาน "แล้วคุณล่ะ" "ฉัน…" "......" ชายหนุ่มจ้องมองไปที่หญิงสาวรอฟังความรู้สึกเธอเหมือนกัน "ฉันไม่รู้" สญามนตอบเขา แล้วพลิกตัวหอบผ้าห่มวิ่งหนีเข้าห้องน้ำไปโดยไม่ฟังเสียงเรียกของชายหนุ่ม "เดี๋ยว สญามน" ชายหนุ่มมองไปยังประตูห้องน้ำที่ปิดลงแล้วยิ้มออกมา "ฉัน….ใจง่ายไปไหมนะ" สญามนพึมพำกับตนเอง "เขาชอบฉันจริง ๆ เหรอ แล้ว…." เกิดคำถามภายในใจหญิงสาวมากมาย เธอยังคงสับสนกับความรู้สึกของตนเอง จู่ ๆ ก็ข้ามมิติเวลามาเจอเขาแถมยังใจง่ายสมยอมให้เขาอีก "แล้วถ้าฉันต้องกลับไปล่ะ…." เธอใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำนานพอสมควร พร้อมกับความคิดที่คิดไม่ตกสักที "ทำไมอาบน้ำนานจังครับ" พายุเอ่ยขึ้นเมื่อสญามนออกมาจากห้องน้ำ ซึ่งเขายืนรออยู่ก่อนแล้ว พายุเข้าไปสวมกอดเธอ กลิ่มหอมอ่อน ๆ ของสบู่ดึงดูดให้จมูกโด่งนั้นฝังลงที่ซอกคอซูดกลิ่นหอมจากกายสาว ตุ๊บ! เรียวมือเล็กทุบไปที่กลางอกชายหนุ่ม "พอได้แล้วฉันหิว" เธอเอ่ยทวงเขาเพราะดูท่าแล้วมันต้องไปจบที่เตียงอีกแน่ "ก็ได้ ฉันจะปล่อยเธอไปก่อน" ต่อมาทั้งสองมานั่งกินอาหารด้วย ต่างคนต่างเงียบ มองตากันแล้วก็รีบหลบสายตากันอย่างเลิ่กลั่ก "ฉัน… ต้องไปวิทยาลัย เธออยู่ได้ไหม" "ได้สิ ฉันอยู่คนเดียวมาตั้งหลายครั้งแล้ว ทำไมจะอยู่ไม่ได้" "อืม ใช่ฉันลืมไป แต่เธออยากให้ฉันอยู่เป็นเพื่อนไหม" "ไม่ต้อง นายไปเรียนเถอะ" "ไม่ ฉันอยากอยู่กับเธอ" "........" "........." จบบทสนทนาเมื่อครู่ ทั้งสองก็เงียบ ต่างมองหน้ากัน "ฉันแค่อยากอยู่กับเธอ" "ไม่ต้องหรอก ฉันไม่อยากให้นายเสียการเรียนเพราะฉัน รีบไปเถอะฉันไม่หายไปไหนหรอก" "......." พายุมองใบหน้าสวยคำว่าไม่หายไป ของเธอมาดังก้องอยู่ในหัวเขา ชายหนุ่มจึงรู้สึกกลัวคำนี้ขึ้นมา "ฉันจะรีบกลับนะ ไปส่งที่ประตูหน่อยสิ" "อะไรตัวใหญ่โตทำไมอ้อนเป็นเด็ก" เธอบ่นแต่ก็เดินไปส่งพายุที่หน้าประตู จุ๊บ!! "เอ๊ะ นายนี้" เธอยิ้มอย่างเขินอายที่อยู่ ๆ เขาก็จูบที่หน้าผากเธอและส่งยิ้มหล่อ ๆ ให้ก่อนเดินออกไป ทำเอาใจเธอเต้นแทบไม่เป็นจังหวะ ตลอดเวลาทั้งวัน ชายหนุ่มใช้เวลาอยู่ในมหาวิทยาลัย จนกระทั่งเย็น ระหว่างกำลังขับรถกลับคอนโดอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์จากมือถือยี่ห้อดัง แจ้งเตือนมีสายเรียกเข้า "ครับแม่" "ยุ พรุ่งนี้ว่างไหม" "ว่างทั้งวันครับ แม่มีอะไรหรือเปล่าครับ" "แม่จะให้เราเข้าไปวัด เอาของให้หลวงตาหน่อย" "ได้ครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ ผมเข้าไปถึงแล้วโทรหานะครับ" "อืม แล้วช่วงนี้เป็นไงบ้างลูก เรียนหนักไหม" "ก็นิดนึงครับแม่ ใกล้จะจบแล้ว" "ขับรถอยู่หรือเปล่าลูก" "ใช่ครับผมกำลังกลับคอนโด" "งั้นแม่ไม่กวนแล้วนะ ขับรถดีนะลูก กินข้าวให้ตรงเวลาด้วยนะ" "ครับ รักแม่นะครับ" เป็นเวลาเกือบหกโมงเย็น พายุขับรถกลับมาถึงคอนโด เขาจอดรถและรีบขึ้นลิฟท์เพื่อให้ถึงห้องพัก ระหว่างทางเดินชายหนุ่มนึกไปถึงใบหน้าสวยดวงตากลมโตก็รู้สึกมีความสุขขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ติ๊ด ๆ ติ๊ด ๆ ติ๊ก เสียงกดรหัสประตูเข้าห้องพักดังขึ้นตามมาด้วยเสีงปลดล็อก พายุเปิดประตูเข้ามายังห้องพักเขากวาดสายตามองหา ร่างบางที่ควรจะนั่งรอเขาอยู่หน้าทีวีเหมือนเช่นเคย แต่กับพบแต่ความว่างเปล่า "สญามน หรือจะอยู่ในห้อง" พายุรีบก้าวยาว ๆ เปิดประตูห้องนอนดูก็ไม่พบ เขาเปิดประตูห้องก็ไม่พบเธออีกเช่นกันเธออีกเช่นกัน ชายหนุ่มเดินมานั่งที่โซฟา ด้วยหัวใจที่โหวงเหวงและหวาดกลัวอย่างบอกไม่ถูก "เธอหายไปไหนนะสญามน หรือเธอจะข้ามมิติเวลากลับไป ไม่ ๆ เธอคงเดินไปข้างนอก" คิดได้ดังนี้น พายุรีบวิ่งออกจากห้องอย่างรงดเร็วแรง เขาพยายามมองหาหญิงวาวตามที่ต่าง ๆ แต่ยังไร้วี่แวว "เธออยู่ไหน…สญามน" เสียงพึมพำอย่างร้อนรน ในขณะที่เท้าก็ยังก้าวไปข้างหน้าไม่หยุด พายุพยายามอธิบายรูปลักษณ์ภายนอกของสญามน แก่นิติและรปภ.หน้าคอนโดอย่างละเอียดเพื่อให้ทุกคนช่วยตามหาเธออีกแรง ในใจชายหนุ่มคิดไปต่าง ๆ นา ๆ กลัวจะเกิดอันตรายกับเธอ จนฟ้าเริ่มมืด แต่ชายหนุ่มยังคงหาเธอไม่เจอ พายุนั่งพักเหนื่อยใต้ต้นลั่นทมข้างคอนโด หลังจากวิ่งตามหาเธอไปทั่ว จิตใจสบสนวุ่ยวายพะวงเป็นห่วงแต่หญิงสาวที่หายตัวไป พลันสายตาทอดมองไปเห็นดอกลั่นทมที่ร่วงหล้นอยู่ตามพื้น นึกไปถึงเหตุการณ์ที่วัดป่าวันนั้น วันที่เจอกับเธอครั้งแรก พายุนั่งลงหยิบดอกลั่นทมสีขาวดอกนึงขึ้นมาพินิจ "หรือเธอจะข้ามมิติเวลากับไปที่ที่เธอมาแล้วจริง" ฝ่ามืออีกข้างกำแน่น "ฉันจะไม่ได้เจอเธออีกแล้วเหรอสญามน มันไม่จริงใช่ไหม ไหนเธอบอกจะไม่หายไปไง " ชายหนุ่มได้ยินเสียงฝีเท้าของคนมาหยุดอยู่ตรงหน้า แต่เขาไม่มีอารมณ์จะสนใจอะไรทั้งนั้น พายุยังคงก้มหน้ามองดอกไม้ในมือด้วยความเสียใจ "นายตามหาฉันอยู่เหรอ"พายุกลับมาถึงบ้านของพ่อและแม่ เขาทิ้งตัวลงบนที่นอน อารมณ์เศร้าหมองพาความรู้สึกเขาดิ่งลงจนน้ำใส ๆ เอ่อล้นไหลผ่านหางตาไป ไม่มีสิ่งใดสามารถปลอบประโลมความรู้สึกเจ็บช้ำที่จิตใจเขาได้ในขณะนี้ภาพทุกอิริยาบถต่าง ๆ ของหญิงสาวไหลผ่านคลื่นสมองผุดเป็นภาพต่าง ๆ ห้วนให้ชายหนุ่มยิ่งคิดถึง ชายหนุ่มพลิกตะแคงงอตัวกำผ้าปูที่นอนไว้แน่ซุกหน้าร้องไห้โฮไปกับที่นอนใหญ่ ด้วยความอ่อนล้าจากการอดนอนมาหลายวันจนร่างกายไม่สามารถจะทานทนได้ ในที่สุดเขาก็หลับไปเพราะความเหนื่อยอ่อนในห้วนฝันของชายหนุ่มขณะที่เขาหลับไหล ในนั้นเขาได้อยู่กับสญามนได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในบ้านหลังใหญ่ เมื่อมองออกไปยังสนามหน้าบ้านมีเด็กผู้หญิงที่กำลังนั่งเล่นขายของบนเสื่อ แล้วยังมีเด็กผู้ชายที่ดูโตกว่าไม่กี่ปีปั่นจักรยานเล่นอยู่ใกล้ ๆ กัน ส่วนเขากับเธอนั่งอยู่ที่โต๊ะค่อยมองดู ๆ เด็กสองคนนั้นอย่างมีความสุขชายหนุ่มสะดุ้งตัวตื่นขึ้นมาก็สายของอีกวัน เขายังคงนอนนิ่งไม่ไหวติง คิดทบทวนความฝันเมื่อคืนนี้แล้วมันทำให้เขาไม่อยากที่จะตื่นขึ้นมาเลยสักนิดเสียงถอนลมหายใจออกมาอย่างยาวเหยียด ชายหนุ่มชันกายลุกขึ้นในท่านั่ง มองไปยังรูปพ่อแม่และเขาเองเมื่อครั้
“ยุ..”“มีอะไรเหรอครับแม่น้ำเสียงดูจริงจัง”“หลวงตาลูกเขาบอกกับแม่ว่า”“ว่าอะไรหรอครับ”“ประตูมิติเวลามันจะเปิดขึ้นอีกครั้ง”เมื่อได้ยินคำที่ประโยคที่ไม่อยากจะได้ยิน หัวใจของชายหนุ่มไหววูบ เขาหันกลับเข้ามามองยังภายในห้องก็เจอกับหญิงสาวยืนส่งยิ้มหวานให้เขาอยู่เบื้องหน้า"ยุ.. ยุยังฟังแม่อยู่ไหม" ปลายสายเห็นเงียบไปเลยเอ่ยเรียกขึ้น"ครับผมฟังอยู่" เขาพยายามปรับน้ำเสียงให้ปกติที่สุดแล้วตอบกลับไป หญิงสาวเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มยังคุยต่อเธอจึงเดินกลับมานั่งที่โซฟาหน้าทีวีปล่อยให้เขาคุยโทรศัพท์ไป"เมื่อไรครับ หลวงตาได้บอกไหม"พายุเอื้อมมือไปปิดประตูกระจกแล้วกลับมาคุยโทรศัพท์กับแม่ของตนต่อ"ไม่ได้บอกอะไรต่อลูก ท่านบอกมาแค่นี้แล้วก็หลับไป ท่านอ่อนแรงมากเลยลูก"“.........” ชายหนุ่มกลับมาเงียบอีกครั้ง“ยุ ค่อย ๆ คิดนะลูก มีอะไรมาปรึกษาพ่อกับแม่ได้ตลอด”“ครับ” เขากดปิดสายโทรศัพท์ และกำมันไว้จนแนน่นแทบจะแหลกค้างมือ ด้วยหัวใจที่เต้นระส่ำมันสบสนไปหมด ดวงตาชายหนุ่มเหม่อมองเข้ามาในห้อง มองหญิงสาวที่เขารักเธอก็หันมาส่งยิ้มให้เขาอีกเช่นกัน แต่เมื่อเธอเห็นใบหน้าที่กำลังเคร่งเครียดของชายหนุ่ม เธอจึงหุบยิ้มแล
ตอนที่ 15ร่างบางเปลือยเปล่าใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ ค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาในเช้าของวันใหม่ หญิงสาวยกแขนขึ้นบิดตัวไปมาด้วยความปวดเมื่อยร่างกาย "หายไปไหนของเขานะ" สญามนชันกายลุกขึ้นนั่ง มองหาชายหนุ่มจนทั่วห้องนอนแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา ร่างบางก้าวลงจากเตียงคว้าผ้าขนหนูมาพันรอบตัวไว้ เปิดประตูห้องนอกชะโงกหน้าออกมามองหาชายหนุ่ม ก็เห็นแผ่นหลังของเขายืนอยู่บริเวณระเบียบห้องพร้อมกับควันบางอย่างที่ลอยขึ้นมาสญามนขมวดคิ้วด้วยความสงสัย เธอเดินตรงมาที่ระเบียบและเปิดกระจกออก กลิ่นควันบุหรี่ก็ลอยเข้าจมูกเธอทันที"ฉันไม่เคยรู้ว่านายก็สูบบุหรี่ด้วย" เมื่อได้ยินเสียงเธอชายหนุ่มก็กดบุหรี่ลงยังที่รองเพื่อดับมัน "ฉันมีเรื่องให้คิดนะ" เขาตอบกลับเธออกไป"นายคิดเรื่องอะไร ไหนเราคุยกันแล้วไงถ้ามีปัญหาอะไรให้บอกกัน นายก็บอกฉันมาสิฉันจะได้ช่วยแบ่งเบาความคิดให้นายได้บาง" ชายหนุ่มมองใบหน้าหญิง สายตาเลือนลงมองผ้าขนหนูที่เธอพันร่างกายอยู่ก็ยิ้มออกมา"แค่เรื่องเรียนนะ""จริงหรอ""จริง""แล้วให้ฉันช่วยอะไรไหม""มากอดหน่อย" พายุอ้าแขนรอ สญามนจึงเดินเข้ามาชิดร่างใหญ่ให้เขาได้กอด เธอเองก็กอดเข้าตอบเช่นกัน "นายอย่าสูบมั
"แม่ฉันโทรมาบอกว่าหลวงตาฟื้นแล้ว" ชายหนุ่มเอ่ยบอกเธอ เมื่อวางสายหลังจากคุยกับแม่ไป"ดีจัง แล้วท่านเป็นไงบ้าง""แม่บอกว่า ท่านพอพูดคุยด้วยแต่ยังไม่ค่อยมีแรงเท่าไรนัก""แล้วเราจะเข้าไปหาท่านกันไหม ไม่สิ ๆ นายไปคนเดียวก่อนดีกว่า เพื่อเห็นฉันแล้วเกิดท่านตกใจขึ้นมาล่ะ""งั้นฉันไปคนเดียวก่อน วันหลังค่อยพาเธอไปนะ""โอเค"ทั้งสองตกลงกันเรียบร้อย ชายหนุ่มจึงขับรถมุ่งหน้าต่อเพื่อกลับคอนโด(โรงพยาบาล)ช่วงสายวันต่อมา พายุเดินทางมาที่โรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมหลวงตา เมื่อมาถึงห้องผู้ป่วย ก็พบเจอพ่อและแม่ของตนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว พวกท่านยืนอยู่ข้างเตียงผู้ป่วยที่มีหลวงตากึ่งนอนกึ่งนั่งอยู่"หลานสุดที่รักมาแล้วค่ะหลวงพ่อ" ผู้เป็นแม่รีบเอ่ยบอกเมื่อเห็นลูกชายเดินเข้ามา เธอมองเลยพายุไปแต่ก็ไร้เงาของสญามน ตอนแรกกะจะเอ่ยถามแต่ก็เลือกที่ยังจะไม่ถามดีกว่าพายุกล่าวสวัสดีทุกคน แล้วเดินตรงมายังข้างเตียง ชายหนุ่มโน้มตัวลงกราบไปที่มือที่เหี่ยวไปตามวัย นั้นของพระชราหลวงตาเองก็ค่อย ๆ ยกมืออันสั่นเทาขึ้นมาลูบหัวหลานชายสุดที่รัก พายุพงกหัวรีบประคองมือของหลวงตาไว้ทันที"หลวงตาครับ….""ว่ายังไง" น้ำเสียงแหบต่ำของ
บทที่ 13พายุลงมาที่ชั้นล่างเพื่อตามหาหญิงสาว เมื่อก้าวเช้ามาในบริเวณร้านกาแฟ ชายหนุ่มเห็นร่างบางที่คุ้นเคยนั้นทันที ถึงแม้ว่าเธอจะหันหลังอยู่ก็ตาม พายุเดินอ้อมมานั่งยังเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามของหญิงสาว ตอนนี้เธอมีสีหน้าเรียบเฉย ทั้งสองสบตากันไปมา“ฉันขอโทษที่คำพูดของฉันทำให้เธอคิดมาก”“...................” เธอยังคงมองชายหนุ่มนิ่ง“สญามน” เขาเอ่ยเรียกชื่อเธอด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด“ฉันรู้แล้ว ไม่ได้โกรธอะไรนายหรอก ฉันเข้าใจ นายแค่ไม่อยากให้ฉันเป็นกังวล”“ตอนนี้ฉันก็เข้าใจเธอ เธอไม่ต้องคิดมากนะ ไม่ว่าเธอจะเป็นใครมาจากไหน ฉันก็ยังคงรักเธอ ไม่รู้ว่ามันเริ่มเมื่อไร แต่ตอนนี้รักมากบอกเลย” พายุกล่าวความรู้สึกออกมาจากใจทั้งหมด จนทำให้หญิงสาวยิ้มออกอย่างเขินอาย“เรากับขึ้นไปบนห้องกันเถอะ”“อืม” ทั้งสองจึงเดินกลับขึ้นมาเพื่อหาหลวงตาอีกครั้ง“ตอนที่ฉันนั่งกินกาแฟอยู่เมื่อกี้ฉันมาคิด ๆ ดูแล้ว เราไม่รู้ว่ามิติเวลามันจะเปิดขึ้นอีกเมื่อไรตอนไหน ฉันเลยอยากใช้เวลาอยูกับนายให้นานที่สุด” สญามนก้มหน้าพยายามเก็บความรู้กลัวจนอยากจะร้องไห้ออกมา “ไม่ ไม่มีทางฉันจะไม่ยอมให้เธอไปไหนทั้งนั้นเธอจะอยู่กับฉัน เราจะต้อง
"วันนี้นายไม่มีเรียนเหรอ"ร่างเปลือยเปล่าของหนุ่มสาว ที่นอนกอดก่ายกันอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ มือเรียวเกลี่ยไรผมที่ปิดใบหน้าหล่อของชายหนุ่มที่เปลือกตายังปิดสนิท"อืมมม" เสียงต่ำครางอยู่ในลำคอ ลำแขนใหญ่เริ่มขยับ และเกี่ยวเอาคนตัวเล็กที่เอ่ยคำถามเมื่อครู่เอามากอดไว้แน่น"พายุ.. ฉันถามว่าวันนี้นายไม่มีเรียนเหรอ" เธอเอ่ยถามย้ำชายหนุ่มปรือตามอง ร่างบางในอ้อมกอด ก่อนจะกดจูบลงที่หน้าผากเธออย่างแผ่วเบา"ยังเช้าอยู่เลยนอนต่ออีกนิดนะ" กล่าวจบจมูกโด่ง ก็หอมฟอดใหญ่ไปที่แก้มเนียน ก่อนจะเลื่อนลงซุกไซร้ที่ซอกคอหญิงสาว"คริ คริ คริ ฮ่า ฮ่า พอได้แล้ว " สญามนหดคอ หัวเราะคิกคักก่อนจะดิ้น ลุกออกจากเตียงเดินมานอกห้องนอนพายุมองตามแผ่นหลังบางนั้นจดลับสายตา ชายหนุ่มก็ได้ลุกจากที่นอน เพื่อเตรียมตัวไปมหาลัยวันนี้ไม่นานชายหนุ่มเดินออกมาจากห้อง ด้วยชุดนักศึกษา รูปร่างสูงผิวที่ดูขาวสะอาดใบหน้าหล่อเหลาออกไปทางแนวเกาหลี มันทำให้หญิงสาวต้องมองจนตาค้างพายุก็จ้องตาเธอกลับเช่นกัน แถมยังหมุนตัวโชว์หญิงสาวไปหนึ่งรอบ พร้อมกลับเดินมาหยุดอยู่เบื้องหน้าเธอ เขาโน้มตัวลงมาให้ใบหน้าตรงกับใบหน้าของเธอหญิงสาวหรี่ตามอง และทำหน้าสง