“ไอ้เฟยมึงจะทำบ้าอะไร ปล่อยกูนะโว้ย!!”
“อย่าดิ้นสิครับ...ขอผมดูหน่อยนะว่าด้านหลังของคุณ มันสวยมากขนาดไหน”
เฟยพูดแกมดุเล็กน้อยก่อนจะฉีกยิ้มยียวน ส่งให้คนที่นอนดิ้นร้องโวยวายว่าตัวเองอยู่ ก่อนจะก้มกลับลงมาสนใจสิ่งที่ยั่วยวนตรงหน้าต่อ ริมฝีปากบางค่อย ๆ อ้าออกแล้วส่งลิ้นร้อนของตัวเอง แตะเลียช่องทางรักที่ปิดสนิทอย่างอดใจไม่ไหว
“อึ้กก!...ไอ้เฟย! ไอ้เวร!...กูบอกให้หยุดไง อื้ออ!”
เอริคสะดุ้งเฮือกร่างกายเกร็งไปทั้งตัว เมื่อรับรู้ถึงริมฝีปากนุ่มและลิ้นร้อน ที่กำลังดูดเลียช่องทางด้านหลังของตัวเองอยู่ เอริคพยายามขยับดิ้นหลบหนีสัมผัสร้อน พร้อมร้องด่าเฟยไปด้วย
บาร์เทนเดอร์หนุ่มไม่สนใจเสียงร้อง จับขาทั้งสองข้างไว้แน่น ก่อนจะส่งลิ้นร้ายสอดลึกเข้าไปในรูรักตรงหน้า ดูดเลียภายในรูอย่างตะกละตะกลาม ทั้งยังจงใจขยับลิ้นเข้าออกไปมารัว ๆ จนทำให้คนที่ถูกปลุกเร้าช่องทางด้านหลังเป็นครั้งแรก ส่งเสียงร้องครางออกมาอย่างห้ามไม่ได้ เอริคจิกเท้าบิดเกร็งไปมา เพื่อระบายความทรมานที่อีกฝ่ายพยายามมอบให้อย่างทนไม่ไหว
เอริคนอนกัดฟันพร้อมส่ายหน้าไปมาอยู่บนเตียง เมื่ออยู่ ๆ ร่างกายมันก็ร้อนวูบวาบไปหมด นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของเขากันนะ ร่างกายของเขาคงไม่ได้มีอารมณ์ร่วมกับการกระทำบ้า ๆ ของไอ้จีนหื่นนี่หรอกนะ ความคิดในหัวของเอริคเวลานี้มันตีกันไปหมด แต่ยังไม่ทันหาคำตอบให้ตัวเองได้ เอริคก็ต้องสะดุ้งตกใจอีกครั้ง เมื่ออยู่ ๆ มือเรียวยาวของบาร์เทนเดอร์หนุ่ม ก็เอื้อมขึ้นมาลูบคลำแท่งเนื้อตรงหว่างขาของเขาแบบไม่ทันได้ตั้งตัว
“อื้ออ! เอามือของมึงออกไป ไอ้เฟย! อื้ออ!”
เอริคร้องห้ามออกไปเสียงดังลั่น ใบหน้าหล่อแดงร้อนด้วยความโกรธ เมื่อถูกมือร้ายลูกคลำแท่งเนื้อของตัวเองอย่างวิสาสะ
เฟยไม่สนใจคำพูดของเอริคจับลูบแท่งเนื้อใหญ่ของอีกฝ่ายไปมา ก่อนจะชักรูดขึ้นลงเป็นจังหวะ ส่วนปากและลิ้นก็ยังคงขยับทำงานกันอย่างต่อเนื่องไม่หยุด เอริคที่ถูกจู่โจมจุดอ่อนไหวทั้งด้านหน้าด้านหลัง ก็ดิ้นพล่านอยู่บนที่นอนด้วยความทรมาน เมื่อความรู้สึกเสียวซ่านที่เฟยมอบให้ มันได้แผ่กระจายไปทั่วทั้งร่างของเขา อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
สุดท้ายร่างกายที่ถูกปรนเปรอปลุกเร้าจนความเสียวซ่าน แผ่กระจายไปถึงขีดสุดก็ทนต่อไปไม่ไหว เอริคกระตุกเสร็จสมปล่อยน้ำสีขุ่นออกมา จนเลอะเปียกเต็มหน้าท้องของตัวเองในเวลาสั้น ๆ
"เวรเอ้ย!!" เสียงสถบดังออกมาจากปากของเอริคด้วยความรู้สึกเจ็บใจ เมื่อร่างกายของตัวเอง ถูกอีกฝ่ายปลุกเร้าจนปลดปล่อยออกมาอย่างง่ายดาย จนรู้สึกอับอายมากอย่างบอกไม่ถูก
“ชอบไหมครับ”
เฟยเงยหน้าขึ้นจากหว่างขา แล้วขยับตัวเข้าไปใกล้คนนอนหอบหายใจอยู่ ก่อนจะค่อย ๆ โน้มใบหน้าพูดกระซิบถามที่ข้างหูด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง
“กู จะ ฆ่า มึง”
เอริคที่นอนสูดอากาศเข้าปอดอยู่นั้น ก็พูดขึ้นอย่างอาฆาต ใบหน้าคมแดงก่ำเขาทั้งรู้สึกโกรธ ทั้งรู้สึกอับอาย
คอยดูนะถ้าเขาหลุดไปได้เมื่อไหร่ เขาจะทำให้ไอ้จีนบ้านี่ ทรมานมากกว่าเขาเป็นร้อนเท่าพันเท่าเลย
“ครับบบ...ผมรู้แล้ว” เฟยลากเสียงยาวตอบกลับอย่างไม่สะทกสะท้าน หึหึ ถ้าเขากลัวตายจริงก็คงจะไม่มาอยู่สภาพนี่หลอกจริงไหม
พอเฟยพูดจบก็ยกยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาอีกครั้ง ก่อนจะยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาลูบไล้ไปทั่วแผ่นอก แล้วค่อย ๆ เลื่อยลงต่ำมาทีละนิด จนมาถึงหน้าท้องลอดสวย ที่เปรอะเปื้อนเต็มไปด้วยน้ำรักเมื่อครู่ เฟยถูมือไปมาจนน้ำรักเปียกชุ่มไปทั่วทั้งฝ่ามือ เอริคชำเลืองตามองการกระทำเฟย ก็แทบจะหยุดหายใจร่างกายรู้สึกสั่นสะท้านไปหมด เพราะภาพตรงหน้ามันช่างดูคุ้นเคยราวกับเห็นตัวเองในอดีต แต่ครั้งนี้มันต่างออกไปเพราะคนที่ทำไม่ใช่เขา เอริครู้ดีว่าเฟยกำลังทำอะไร และจะทำอะไรต่อจากนี้
“ไอ้เฟย พวกเรามาคุยกันดี ๆ ก่อนไหม ฉันสัญญาถ้านายปล่อยฉันไปตอนนี้ ฉันจะไม่ทำอะไรนายก็ได้ ตกลงไหม”
เอริคพยายามปรับเสียงให้อ่อนลง แล้วเอ่ยพูดต่อรองกับคนตรงหน้าออกไปอีกครั้ง เพื่อให้เฟยหยุดทำเรื่องน่าอายสักที ตอนนี้เอริคไม่ขออะไรมาก ขอแค่ให้เฟยหยุดการกระทำทุกอย่างเพียงเท่านั้น ต่อจากนี้เขาก็จะยอมทำเป็นลืมเรื่องทั้งหมดก็ได้ ขอแค่อีกฝ่ายยอมหยุดก็พอ
“หึหึ เอาไงดีละครับ พอดีว่าผมอยากตายคาอกของคุณมากกว่านี่นา”
เฟยหัวเราะในลำคออย่างเยอะหยัน เมื่อได้ยินคำพูดของเอริค ก่อนจะเอ่ยพูดบอกกลับไปตามที่ตัวเองรู้สึกในเวลานี้
เรื่องทุกอย่างมันมาไกลเกินกว่าที่จะหยุดมานานแล้ว เฟยคิดว่าเรื่องนี้เอริคก็หน้าจะรู้ดีกว่าใคร อีกอย่างถึงเอริคจะบอกว่าจะไม่ฆ่าเขาในตอนนี้ แต่ใครจะรู้ว่าพอลงจากเรือไปแล้ว เจ้าของคาสิโนอย่างเอริคจะไม่ให้คนมาตามฆ่าเขาอีกครั้งจริงไหมล่ะ
เพราะฉะนั้น...
ตอนนี้ขอเขาสนุกกับเรือนร่างตรงหน้านี้ให้เต็มที่ก่อนก็แล้วกันนะ
“ไอ้เฟ...อึ้กก!...จะ เจ็บ...อื้ออ!”
พอเอริคได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งโกรธมากขึ้นกว่าเดิม แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้พ้นคำด่าใส่อีกฝ่าย ก็ต้องกัดฟันกรอดเพื่อปิดเสียงร้องที่น่าอายของตัวเองไว้ซะก่อน เมื่ออยู่ ๆ เอริคก็รู้สึกเจ็บจี๊ดที่ช่องทางด้านหลัง จนสะดุ้งเฮือกดวงตาเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ
นิ้วเรียวสวยที่ชุ่มไปด้วยน้ำสีขุ่นของเฟย สอดกระแทกเข้ามาในรูเล็กทีเดียวจนสุดข้อ ทำให้ร่างกายของคนถูกกระแทกบิดเกร็งด้วยความเจ็บ ใบหน้าหล่อคมเหยเกแทบไม่เป็นรูป ดวงตาทั้งสองข้างมีน้ำตาเล็ดออกมา เพราะช่องทางด้านหลังของเอริคยังไม่เคยถูกใครรุกล้ำมาก่อน มันเลยทำให้รู้สึกอ่อนไหวกับสัมผัสพวกนี้มากกว่าปกติ
“ตรงนี้มันแน่นมากเลยนะครับ ใส่ไปแค่นิ้วเดียวเองนะเนี่ย”
เฟยสอดนิ้วแช่อยู่ในช่องคับแคบคาไว้ เพราะถูกด้านในรัดนิ้วของเขาจนขยับแทบไม่ได้ ก่อนจะก้มลงกระซิบหยอกล้อที่ข้างหูของเอริคไปด้วยน้ำเสียงยียวน
ริมฝีปากบางอ้าขบเม้มลงไปที่คอของอีกฝ่าย ก่อนจะเริ่มซุกไซร้ดูดกัดวนเวียนอยู่แถวซอกคออย่างเอาแต่ใจ ส่วนมืออีกข้างที่วางก็ไม่อยู่นิ่ง ลูบไล้ฟอนเฟ้นไปทั่วร่าง บีบเคล้นอกแน่นทั้งสองข้างเล่นไปมา เพื่อปลุกเร้าอารมณ์ช่วยให้ช่องทางรักที่ตอดแน่นผ่อนคลายเร็วขึ้น
หึหึ คอยดูนะ อะไรที่เอริคเคยสั่งห้ามไว้ คืนนี้เขาจะทำให้หมดเลย
“เวรเอ๊ย!...กูจะฆ่ามึง ได้ยินไหม กูจะฆ่ามึง ไอ้เฟย!”
เอริคตะโกนร้องขู่ออกมาเสียงดังลั่นห้อง ร่างกายก็พยายามดิ้นขัดขืนสุดแรง เมื่อรู้สึกเจ็บจี๊ดแถวคอหลายจุด ส่วนช่วงล่างก็ถูกนิ้วของเฟยสอดคาอยู่ จนรู้สึกอึดอัดไปหมด
“ครับบบ...ผมได้ยินแล้ว” ใบหน้ายิ้มระรื่นเงยขึ้นมองคนพูดขู่ ก่อนจะตอบกลับไปอย่างไม่สะทกสะท้านกับสิ่งที่ได้ยิน
เฟยเลื่อนริมฝีปากของตัวเองลงมาที่แผงอกหนา แล้วค่อย ๆ อ้าปากดูดดึงยอดอกตรงหน้าอย่างหิวกระหาย จนมันเป็นรอยแดงและเริ่มแข็งขึ้น ทำให้รู้ได้ทันทีว่าร่างกายของคนที่นอนอยู่ เริ่มตอบสนองและมีอารมณ์ร่วมกับตัวเองขึ้นมาบ้างแล้ว
เฟยเห็นว่าร่างกายของเอริคเริ่มปรับตัวผ่อนคลายลงบ้างแล้ว ก็เลยค่อย ๆ ขยับนิ้วที่สอดคาไว้อย่างเนิบช้า ก่อนจะเริ่มขยับเร่งจังหวะเร็วขึ้นทีละนิด พร้อมเพิ่มจำนวนนิ้วจากหนึ่งเป็นสอง จากสองเพิ่มเป็นสาม เพื่อเบิกทางให้รูเล็ก เตรียมตัวรับศึกใหญ่ข้างหน้า
“อื้ออ...อื่ออ” เอริคส่งเสียงอื้ออึงในลำคอ ร่างกายบิดเกร็งขยับขึ้นลงตามแรงกระแทกของนิ้ว
ริมฝีปากหนาพยายามสูดลมหายใจเข้าออกถี่ ๆ มือทั้งสองข้างที่ถูกมัดไว้กำหมัดแน่นจนเจ็บ เพื่อระบายความรู้สึกเจ็บและทรมาน ที่มันกำลังก่อตัวขึ้นในร่างกายของเขาไม่หยุด
“ชอบไหมครับ ผมตั้งใจทำสุดความสามารถเลยนะเนี่ย”
เฟยเงยหน้ามองใบหน้าแดงก่ำ ที่บิดเบี้ยวอย่างพอใจกับผลงานของตัวเอง ก่อนจะพูดเย้าหยอกกลับไปอย่างไม่เกรงกลัว ส่วนมือก็กดกระแทกเร็วขึ้นอีกหนึ่งระดับ อย่างจงใจแกล้งอีกฝ่ายไปด้วย บอกเลยเวลานี้ยิ่งเฟยได้เห็นใบหน้าโกรธเกรี้ยวของเอริค เขาก็ยิ่งอยากแกล้งมากขึ้น ให้สมกับความเอาแต่ใจของเจ้าตัว ดูสิต่อไปยังจะกล้าบังคับให้ใครนอนเดียวอีกไหม
“ไป ตาย ซะ แล้วก็เอาปากกับนิ้วของมึงออกไปห่าง ๆ ตัวกูด้วย” พอเอริคได้ยินคำพูดของเฟยแบบนั้น ก็อดพูดว่ากลับไปไม่ได้
“พูดไม่เพราะอีกแล้วนะครับ”
เฟยกระตุกยิ้มร้ายขึ้น ก่อนจะกระแทกนิ้วเข้าไปในร่างของเอริคแรง ๆ แล้วจากนั้นก็ค่อย ๆ งอนิ้วกระทุ้งเสยแรง ๆ ไปอีกสองสามที เพื่อเป็นการลงโทษคนตรงหน้าที่ชอบด่าตัวเอง
“อ๊ะ!...อื้ออ...อ้าาส์ เวรเอ๊ย!”
เอริคสะดุ้งเฮือกกับแรงกระแทกที่ได้รับ มันเหมือนมีกระแสไฟฟ้าแล่นผ่านไปทั่วร่าง จนเขาอดส่งเสียงร้องครางออกมาไม่ได้ ร่างกายสั่นระริกร้อนวูบวาบขึ้นจนทนแทบไม่ไหว ไม่นานเขาก็กระตุกเกร็ง แล้วก็ฉีดน้ำขาวขุ่นออกมาอีกครั้งอย่างอดไม่อยู่
“อยากให้ผมเอานิ้วออก เพราะต้องการให้ผมเอาอย่างอื่นใส่แทนใช่ไหมครับ” เฟยชักนิ้วออกอย่างช้า ๆ ก่อนจะเอ่ยพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบพร่า แล้วยกยิ้มมุมปากขึ้นอย่างยียวน
เอริคนอนหอบหายใจอย่างหมดเรี่ยวแรง เมื่อตัวเองถูกทำให้เสร็จเป็นครั้งที่สอง ดวงตาคู่คมแอบชำเลืองมองคนด้านบนเล็กน้อย ก็เห็นว่าอีกฝ่ายก็กำลังจ้องมองมาทางตัวเองอยู่เหมือนกัน มันเป็นสายตาของสัตว์ป่าที่หิวกระหาย สายตาที่พร้อมกลืนกินเขาอยู่ตลอดเวลา เอริคเห็นแบบนั้นก็รีบเบือนหน้าหนีไปทางอื่นทันที
บ้าเอ๊ย!!...เขาไม่น่าไปยุ่งกับไอ้จีนบ้านี่ตั้งแต่แรกเลยจริง ๆ ไม่งั้นเขาคงไม่ต้องมาอยู่ในสภาพนี้...
แต่
อยู่ ๆ ร่างของเอริคที่กำลังนอนด่าตัวเองนั้น ก็ถูกจับพลิกให้นอนคว่ำ พร้อมถูกจับสะโพกให้ยกลอยขึ้นเล็กน้อย แล้วก็มีเสียงกระซิบพูดดังอยู่ที่ข้างหูของตัวเอง
“ไม่ต้องกลัวนะครับ ผมสัญญาว่าจะทำเบา ๆ โอเคไหมครับ”
ร้านอาหารจีนร้านอาหารจีนชื่อดังกลางใจเมือง ที่ถูกตกแต่งเต็มไปด้วยสีแดงอย่างหรูหราสะดุดตา เป็นเสมือนศูนย์รวมผู้คนที่มีเชื้อสายจีน หรือบางคนที่รู้สึกเบื่ออาหารรสชาติจัดจ้าน ก็หันมานั่งกินเปลี่ยนรสชาติและบรรยากาศกัน โต๊ะอาหารมุมหนึ่งของร้านมีหนุ่มจีนใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว นั่งอยู่เพียงลำพัง บนโต๊ะมีแก้วน้ำเปล่าวางอยู่ข้าง ๆ นาฬิกาข้อมือเรือนหรูถูกยกขึ้นมาดูหลายครั้งติดต่อกัน ใบหน้าขาวซีดหันมองทางเข้าร้านเป็นระยะราวกับว่าเขากำลังนั่งรอใครบางคนอยู่และแล้วใบหน้าขาวซีดของหนุ่มจีนก็ค่อย ๆ ฉีกยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจ เมื่อเห็นคนที่ตัวเองรอคอยมานาน กำลังก้าวเดินเข้ามาในร้าน แต่รอยยิ้มก็อยู่บนใบหน้าของหนุ่มจีนได้เพียงครู่เดียว ก็ต้องละลายหายไปในที่สุด เมื่อสายตาของเขามองเห็นว่าคนที่ตัวเองกำลังนั่งรออยู่นั้น ไม่ได้เดินมาเพียงคนเดียวอย่างที่เขาคิดไว้“อ้าวเฟยมาแล้วเหรอ นั่งก่อนสิ” ชุนหนุ่มจีนที่นั่งอยู่ลุกขึ้นจากเก้าอี้ หันไปเอ่ยทักทายอดีตบอดี้การ์ดหนุ่ม ของตัวเองออกไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“ครับ” เสียงนุ่มทุ้มตอบ
ท้องทะเลสีคราม หาดทรายสีขาวสะอาดตา สายลมทะเลพัดเอื่อย ๆ พาเอาความสดชื่นเข้ามาปะทะใบหน้า บวกกับเสียงคลื่นกระทบเข้าฝั่ง ที่ไพเราะราวกับบทเพลงกล่อมให้ชวนหลับ ช่างเป็นภาพที่เห็นแล้วทำให้รู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก หลังจากจบศึกระลึกความหลังที่ยาวนานติดต่อกันเกือบสามวัน ในที่สุดเฟยก็ยอมปล่อยให้เอริค ได้พักผ่อนแบบจริงจังตามที่หวังเอริคนั่งจ้องมองวิวทิวทัศน์สุดลูกหูลูกตา เบื้องหน้าอย่างเคลิบเคลิ้มและหลงใหล นานเท่าไหร่แล้วนะที่เขามัวแต่หมกมุ่นทำแต่งาน จนแทบไม่มีเวลาได้พักผ่อนจริง ๆ จัง ๆ แบบนี้ เอริคนั่งคิดย้อนอดีตถึงเรื่องราวที่ผ่านมาของตัวเอง ถ้าคืนนั้นเขาไม่ได้เจอกับเฟย เวลานี้ชีวิตของเขาจะเป็นยังไง มันจะดีขึ้นหรือจะแย่ลงกันนะเอริคที่กำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความคิดอยู่นั้น ก็ต้องถูกเสียงสั่นของโทรศัพท์เครื่องหรูตัวเอง ปลุกให้ตื่นกลับมาสู่โลกแห่งความจริง เอริคหันมองโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้าง ๆ แล้วขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความสงสัย เมื่อเห็นว่าชื่อที่ขึ้นโชว์อยู่นั้นเป็นเบอร์ของเซ็นลูกน้องของตัวเองครืน ครืน ครืน!!“อืม มีอะไร&rd
รีสอร์ตติดทะเลสุดหรูรีสอร์ตสุดหรูที่เป็นห้องพักติดทะเล มีดีไซน์สวยงามทุกมุมเหมาะสมกับคู่รักที่พากันมาสวีท เพื่อเพิ่มความหวานให้แก่กันเป็นอย่างมาก ส่วนด้านหลังก็สามารถนั่งชมวิวพระอาทิตย์ตกดิน สุดแสนโรแมนติกได้แบบใกล้ชิดหาดทรายสีขาวท้องทะเลสีคราม กับท้องฟ้าสีสดใสไร้เมฆ มองไปสุดลูกหูลูกตา เป็นภาพที่เห็นแล้วชวนให้ผ่อนคลาย รู้สึกมีความสุขและจิตใจสงบอย่างบอกไม่ถูกแต่!!สองหนุ่มในห้องนอนรีสอร์ตสุดหรูห้องหนึ่ง ตอนนี้กับอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียดแบบสุด ๆ“คุณเอริคจะอยู่ท่านั่นอีกนานไหมครับ”“หนวกหู ขอทำใจหน่อยไม่ได้หรือไง”เสียงพูดของสองหนุ่มโต้เถียงกันดังอยู่บนที่นอน คนหนึ่งนั่งหลังพิงหัวเตียง ส่วนอีกคนก็กำลังนั่งคร่อมอยู่บนตัก ร่างกายของทั้งคู่เปลือยเปล่าไร้เสื้อผ้าสวมใส่หลังจากที่พูดเคลียร์เรื่องของเรนจบลงในคืนนั้น เอริคกลัวว่าเด็กหนุ่มยังจะมาวุ่นวายกับคนของตัวเองไม่เลิกอีก เขาเลยลากเฟยหนีออกมาเที่ยวไกลกันสองคน และถือโอกาสมาเปลี่ยนบรรยากาศ มานั่งรับลมทะเล ดื่มด่ำกับธรรมชาติ
“ฮัลโหล”(เฮียเฟย)“เรน!”พอโทรศัพท์เครื่องหรูถูกกดรับ เสียงที่คุ้นเคยจากปลายสาย ก็ร้องเรียกชื่อเจ้าของโทรศัพท์ดังลอดออกมาเฟยที่ได้ยินน้ำเสียงหวานหยดย้อยนั้นเรียกชื่อตัวเอง ก็รู้ได้ทันทีว่าใครกำลังอยู่ในสาย เลยพูดชื่อของอีกฝ่ายออกไปด้วยความตกใจ เพราะเขาไม่คิดว่าคนในสายจะมีเบอร์ติดต่อของตัวเองด้วยตั้งแต่ที่เฟยเลิกเป็นบอดี้การ์ด เขาก็ได้ตัดสินใจทิ้งอดีตไว้ด้านหลัง รวมถึงได้เปลี่ยนเบอร์ติดต่อทุกอย่างด้วย เพื่อที่จะได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง เบอร์โทรที่เฟยใช้อยู่ตอนนี้เลยมีแต่เพื่อนสนิท กับเพื่อนที่เป็นบาร์เทนเดอร์ด้วยกันเท่านั้นที่รู้ พอเฟยได้ยินเสียงของเรนในสายเลยตกใจมาก เขาไม่คิดว่าเด็กหนุ่มจะรู้เบอร์ของตัวเองได้(เรนไม่สบาย เฮียมาหาเรนหน่อยได้ไหม เรนลุกไม่ไหว) เสียงแหบแห้งราวกับคนไร้เรี่ยวแรง ดังลอดออกมาจากปลายสายอีกครั้งเรนที่ยังไม่ยอมตัดใจเรื่องของเฟยง่าย ๆ เลยโทรมาเพื่อเรียกร้องความสงสารจากอีกฝ่าย เพราะเขารู้จักนิสัยของอดีตแฟนหนุ่มดี ว่าเป็นคนขี้สงสารและเอ็นดูตัวเองมาก ถ้าเฟยรู้ว่าเขานอนโทรมไม่สบายอยู่บนเตียงค
“โอ๊ย! มันเจ็บนะ”เสียงร้องโอดโอยดังขึ้นด้วยความเจ็บปวด เมื่อร่างเล็กถูกเหวี่ยงติดผนังอย่างแรง จนล้มพับไปกองอยู่กับพื้น เรนชักสีหน้าไม่พอใจใส่เอริคที่ยืนกอดอกมองตัวเองอยู่อย่างไม่เกร็งกลัว“แค่นี้มันยังน้อยไป ถ้ามึงยังไม่เลิกมาตอแยเมียกูอีก มึงได้เจ็บตัวมากกว่านี้แน่” เอริคยืนกอดอกดูผลงานตัวเองอย่างชอบใจ ก่อนจะพูดขู่ออกไปอีกครั้ง ทำแค่นี้ทำมาเป็นร้องโวยวายสำออยจริง ๆ“อย่ามาโกหกซะให้ยากเลย ผมไม่เชื่อหลอกว่าเฮียเฟยเป็นเมียของคุณจริง ๆ” เรนยันตัวเองลุกขึ้นยืนประจันหน้า แล้วพูดเถียงกลับอย่างไม่ยอมเรนรู้จักนิสัยของเฟยดีว่าเป็นคนยังไง ในอดีตเพราะหน้าตาสวยราวกับผู้หญิง เลยทำให้มีผู้ชายมากมายมาสนใจในตัวของเฟย แต่ไม่ว่าคนพวกนั้นจะเอาเงินหรือของมาให้มากเท่าไหร่ เฟยก็ไม่เคยสนใจและมีความคิดเปลี่ยนมาเป็นรับ เพื่อสนองอารมณ์ของผู้ชายพวกนั้นเลยสักครั้ง แล้วตอนนี้จะมาบอกว่าเฟยเป็นเมีย ใครมันจะเชื่อลง“แล้วทำไมกูจะต้องโกหกมึงด้วย” เอริคชักสีหน้าใส่คนเถียง เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีทีท่าจะเชื่อคำพูดของตัวเองเลยสักนิด“คนอย่างเฮียเฟย ให้ตายก็ไม่มีทางจะเปลี่ยนใจมาเป็นรับหลอก” เรนพูดขึ้นอย่างมั่นใจ เขารู้จ
ตุบ!เสียงกำปั้นทุบลงโต๊ะทำงานด้วยความโกรธเกรี้ยว จนคนที่ยืนพูดรายงานอยู่ สะดุ้งตกใจรีบก้าวถอยหนีคนโมโหอย่างงง ๆ แซมไม่เข้าใจว่าเอริคโกรธตัวเองเรื่องอะไร เขาแค่มารายงานตามปกติเองนี่นา“ไอ้เด็กบ้า เดี๋ยวมึงได้เจอดีแน่” เอริคสถบด่าออกอย่างไม่พอใจ กล้ามาหาผู้ชายของเขาถึงที่นี่เลยเหรอ“เออ…” แซมยืนนิ่งค้างทำตัวไม่ถูก เมื่ออยู่ ๆ เจ้านายตัวเองก็แสดงท่าทีฉุนเฉียวขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ“แล้วเฟยล่ะ ตอนนี้อยู่ที่ไหน” เอริคถามขึ้นเสียงแข็ง เมื่อนึกถึงตัวต้นเหตุของเรื่องขึ้นมาได้“อ๋อ พึ่งเดินลงไปหาเด็กคนนั้นเมื่อกี้เองครับ” แซมตอบกลับไปตรง ๆ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มอย่างไม่ได้คิดอะไร“ใครบอกมัน”เอริคถามต่ออย่างสงสัย เพราะตามปกติแล้วเฟยจะอยู่แต่ชั้นบน ไม่ห้องพักก็จะมาช่วยงานเขาที่ห้องนี้เท่านั้น เฟยไม่มีทางรู้ได้เลยว่ามีคนมาหา ถ้าไม่มีใครขึ้นมาบอก“ผมบอกเองครับ”แซมชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง แล้วพูดบอกเอริคออกไปตรง ๆ พร้อมปั้นหน้ายิ้มแป้นรอรับคำชมจากอีกฝ่าย เมื่อคิดว่าตัวเองพึ่งทำเรื่องดี ๆ ไปแต่…สิ่งที่ได้มากับไม่ใช่คำชมเชย แต่กลับเป็นแฟ้มเอกสารเล่มหนา ปามาทางเขาแทน“ไอ้แซม มึงนี่มัน” เอริคตะคอกว่าลูกน้อ