Share

ตอนนี้ 7 ขอบวชเป็นพระดีกว่า

Aвтор: ฮวาฮวาน่งหยวี่
ซู่จื่อหังพูดอย่างเย็นชา "ในเมื่อพวกท่านปฏิเสธที่จะช่วยแม่ของข้า ต่อไปข้าก็จะไม่มอบเงินให้พวกท่านอีก"

แม่เฒ่าซูได้ยินดังนั้น ก็รีบเคาะไม้เท้าเสียงดัง ใบหน้าบิดเบี้ยวน่าเกลียด

"จื่อหัง เจ้าอยากแยกบ้านงั้นรึ?"

"เป็นเช่นนั้น" ซู่จื่อหังพยักหน้าโดยไม่ปฏิเสธ

ทันทีที่คำพูดออกจากปาก ไม่เพียงแต่คนอื่น ๆ ที่ตกตะลึง แม้แต่ถูซินเยว่ที่กำลังนั่งอยู่บนม้านั่งเนื้อคนก็ผงะไปเล็กน้อย

แยกครอบครัว?

เธอเงยหน้าขึ้นและครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง

หากจำไม่ผิด การแยกครอบครัวในชนบทสมัยโบราณถือเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย

คิดไม่ถึงว่าซูจื่อหังอายุยังน้อย จะมีความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวถึงเพียงนี้

ถูซินเยว่รู้สึกทึ่งไม่น้อย

ถูซินเยว่รู้สึกทึ่ง แต่แม่เฒ่าตระกูลซูนั้นถึงกับขนหัวลุกเลยทีเดียว

ที่ผ่านมานางเห็นว่าซูจื่อหังเป็นปัญญาชนที่มีการศึกษา แม่เฒ่าตระกูลซูจึงไม่กล้าใช้กำลังกับเขา แต่ทว่าตอนนี้นางยกไม้เท้าขึ้นในมือแล้วเหวี่ยงใส่ซูจื่อหังเต็มแรง

"เจ้าคนอกตัญญู ข้ากับปู่เจ้ายังไม่ตายก็คิดจะแยกบ้าน ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วรึ"

ไม้เท้าทำจากไม้มีน้ำหนักไม่น้อย เมื่อกระแทกเข้าใส่หัวของซูจื่อหังก็ส่งเสียงดังกึก

เสียงนั้น ถูซินเยว่ได้ยินแล้วยังรู้สึกเจ็บแทน

แต่ซูจื่อหังก็ไม่หลบ รอรับไม้เท้าของแม่เฒ่าตระกูลซูอย่างไม่ไหวติง จากนั้นจึงเดินไปหานางและจับมือนางลากออกไปจากห้อง

"ซินเยว่ มาช่วยข้าหน่อย"

เสียงนุ่มดังกังวานดังมาจากข้างนอก ด้วยระดับเสียงขนาดนี้ เดาได้ว่าถูซินเยว่ต้องได้ยินอย่างแน่นอน

"ได้!" ถูซินเยว่ตอบเสียงเฉียบ จากนั้นจึงขยับก้นของตนหิ้วซูเฟิ่งอี๋ขึ้นมาเหมือนกับหิ้วลูกเจี๊ยบ แล้วโยนนางออกไปนอกประตู

ต้องยอมรับว่าโครงสร้างร่างกายของเจ้าของร่างนี้ไม่ใช่คนอ้วนที่อ่อนแอเลย แต่เป็นหญิงแกร่งที่มีพลังเยอะจริง ๆ

เท่าที่จำได้ เจ้าของร่างเป็นคนสติไม่ดี ปกติไม่มีอะไรทำก็จะชอบไปจับกุ้งในแม่น้ำ ลักขโมยของ ทะเลาะเบาะแว้งกับเด็ก ๆ และบางทีก็ทะเลาะกับหมูในคอกหมูของตัวเอง เดาว่าพละกำลังที่มีก็คงฝึกมาจากพวกนี้นี่เอง

ถูซินเยว่บุ้ยปาก หลังจากที่โยนซูเฟิ่งอี๋ออกไปแล้ว ก็หาเก้าอี้มานั่งลงอย่างสงบเสงี่ยม

เนื้อบนร่างกายเยอะเกินไป ยืนนาน ๆ ก็เมื่อยเท้า

ซูจื่อหังงับประตูเข้าหากันเสียงดัง "ปัง" กันเอาเสียงด่าของแม่เฒ่าตระกูลซูและซูเฟิ่งอี๋ไว้ด้านนอก หันหลังเดินกลับไปที่ข้างเตียง มองดูอาการของนางหยูจึงถามหมอหลี่ขึ้นว่า "มือของแม่ข้าไม่มีทางหายดีจริง ๆ หรือ?"

ถึงแม้จะได้ยินคำตอบของหมอหลี่มาแล้ว แต่ซูจื่อหังก็ยังไม่ยอมถอดใจ

พ่อของซูจื่อหังเสียชีวิตตั้งแต่เขายังเด็ก เป็นนางหยูที่เลี้ยงดูเขามาโดยลำพัง ดังนั้นนางหยูจึงสำคัญสำหรับเขามาก ไม่ว่าจะเป็นยังไง ซูจื่อหังก็ไม่มีทางจะทิ้งแม่ของตนได้

เมื่อเห็นแสงระยิบระยับในดวงตาของชายหนุ่ม หมอหลี่ก็ถอนหายใจและพูดว่า "มือที่บาดเจ็บนี้หากว่าเป็นคนในตระกูลที่ร่ำรวย ก็ไม่แน่ว่าจะรักษาให้หายดีได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหมู่บ้านเล็ก ๆ เช่นนี้ ศีรษะของนางหยูก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน ตอนนี้จะฟื้นขึ้นมาได้หรือไม่ก็ยังน่าห่วง"

ซูจื่อหังรีบถามต่อว่า "ท่านหมอ ค่ายาที่ท่านเพิ่งพูดถึง มันวันละเท่าไหร่กัน?"

"หกสิบอีแปะ" หมอหลี่โบกมือลูบเคราแล้วพูดว่า "วันละสามครั้ง ใช้ยาครั้งละหนึ่งแผ่น ยาแต่ละแผ่นมีราคายี่สิบอีแปะ บาดแผลนี้ต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองเดือนในการรักษา จื่อหัง ข้ารู้ว่าเจ้าลำบาก ดังนั้นข้าจึงไม่คิดกำไรอะไรจากเจ้า ที่ผ่านมาปกติยาชุดนี้ราคาเก้าสิบตำลึง"

ซูจื่อหังพยักหน้ากล่าวว่า "ท่านหมอหลี่ ข้าขอบคุณท่านมาก หากแม่ข้าหายดีในอนาคต ข้าจะไม่ลืมบุญคุณของท่านอย่างเด็ดขาด"

"เฮ้อ ไม่ต้องเกรงใจไป" หมอหลี่โบกมือแล้วพูดว่า "แม่นางซูเคราะห์ร้ายนัก เดี๋ยวข้าจะให้คนนำยามาส่ง ส่วนเงินเจ้ามีเมื่อไหร่ค่อยเอามาให้ก็แล้วกัน"

ซูจื่อหังส่งหมอหลี่กลับไป หัวหน้าหมู่บ้านก็เอ่ยให้กำลังใจ หยิบไข่สองฟองออกจากกระเป๋าแล้ววางลงบนโต๊ะ โบกมือแล้วจากไป

ซูจื่อหังนั่งลงข้างเตียง ได้ยินเสียงคนข้างนอกค่อย ๆ ห่างออกไป มองดูนางหยูที่หายใจแผ่วเบา ก็อดไม่ได้ที่จะทำหน้าเป็นกังวล

ถูซินเยว่ยกเก้าอี้นั่งตัวเล็กมานั่งข้างซูจื่อหัง เมื่อเห็นนางหยูในสภาพเช่นนี้ก็รู้สึกทุกข์ใจ

ต่างฝ่ายต่างเงียบงัน มีเพียงเสียงลมหายใจเบา ๆ ในห้อง

ครู่ใหญ่ต่อมา จู่ ๆ ซูจื่อหังก็เอ่ยว่า "ซินเยว่"

"หืม?" ถูซินเยว่เงยหน้าขึ้นตามสัญชาตญาณ แต่เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าปฏิกิริยาของเธอเหมือนคนปกติเกินไป เธอต้องเป็นคนสติไม่ดีถึงจะถูก กำลังจะแกล้งทำเป็นสติไม่ดี ซูจื่อหังก็ชิงพูดขึ้นว่า "อย่าเสแสร้งเลย ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ได้โง่"

ถูซินเยว่ที่กำลังดูดนิ้วอยู่ชะงัก วางมือลงอย่างเก้อเขิน

ครู่ต่อมาเธอก็ถามขึ้นด้วยความงุนงง "เจ้ารู้ได้ยังไง?" หรือว่าก่อนหน้านี้ตนแสดงออกชัดเกินไป? เธอก็ดูดนิ้วทำน้ำลายไหลอยู่ตลอดนี่นา ไม่ต่างอะไรจากคนสติไม่ดี

"เจ้าหายสติไม่ดีเมื่อไหร่กัน?" ซูจื่อหังไม่ตอบพลางย้อนถาม

ตู่ซินเยว่เกาหัวแล้วพูดว่า "ข้าก็ไม่รู้ น่าจะตอนที่ถูกแบกกลับไปที่บ้านตระกูลถู หัวกระแทก แล้วจู่ ๆ ก็หาย"

เธอจำได้ว่าย้อนอดีตมาในตอนนั้น จึงบอกเวลานั้นไปซึ่งก็ดูมีที่มาที่ไป

ในขณะที่กำลังคิดอยู่ เมื่อเห็นว่าซูจื่อหังเอาแต่จ้องหน้าเธอ ถูซินเยว่ก็รู้สึกหน้าแดงและถามว่า "มี...มีอะไรหรือเปล่า?"

แหม ก็สาวแก่ที่โสดมาสามสิบปี ถูกหนุ่มน้อยหน้าหล่อจ้องเข้าให้แบบนี้ก็ต้องเขินเป็นธรรมดา

ถูซินเยว่กำลังจินตนาการอยู่ในภวัง ซูจื่อหังกลับยื่นมือออกมา ชี้ไปที่ฟันของตน แล้วพูดว่า "ตรงนี้ มีผักติดอยู่ ตรงฟันหน้า"

"!!!"

จินตนาการเมื่อครู่หายวับไปทันที เธออยากจะร้องไห้ รีบลุกขึ้นยืนมองหากระจกจากทุกทิศทาง คาดไม่ถึงว่าลุกเร็วไปหน่อย ทำเอาม้านั่งพลิกคว่ำ เกือบล้มคะมำลงกับพื้น

ร่างใหญ่เทอะทะจนเกินไป แค่จะหมุนตัวยังอึกทึกครึกโครมขนาดนี้

ถูซินเยว่เช็ดเหงื่อบนหน้าผาก มือเท้าพันกันยุ่งเหยิงพยายามจะลุกขึ้นมา

จนปัญญาจริง ๆ อ้วนเกินไป ล้มง่าย แต่ลุกยาก

กำลังพยายามสะกัดกั้นความอับอายเอาไว้ ทันใดนั้นซูจื่อหังก็ยื่นมือมาดึงมือของเธอ แล้วพูดว่า "มา ข้าช่วย"

ถูซินเยว่หน้าแดงก่ำ พยักหน้าอย่างอาย ๆ

ด้วยความช่วยเหลือของซูจื่อหัง ในที่สุดเธอก็ลุกขึ้นมาได้ และแอบเอาผักที่ติดฟันออกไปอย่างเงียบ ๆ

"ขอบใจ" ชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลา ไม่ต้องพูดถึงว่าถูซินเยว่กำลังรู้สึกอับอายขนาดไหน

ซูจื่อหังกลับบุ้ยปาก อย่าหาว่าเขาติเลย แต่ถูซินเยว่สภาพในตอนนี้ ใบหน้าอ้วนกลม ดวงตาเล็กหยีจนเกือบจะปิด ใบหน้าดำคล้ำปกคลุมไปด้วยแป้งสีแดงเลอะเทอะ และเนื่องจากไม่เคยแปรงฟัน พออ้าปากก็เห็นฟันเหลืองเต็มปากแถมมาพร้อมกับกลิ่นเหม็น เกือบทำให้เขาเป็นลมหมดสติเลยทีเดียว

แต่งภรรยาแบบนี้เข้ามา เฮ้อ...ช่างเถอะ ต่อไปนี้เขาขอไปบวชเป็นพระทำจิตใจให้บริสุทธิ์หลีกหนีจากกิเลสตัณหาทั้งปวงจะดีกว่า
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Комментарии (2)
goodnovel comment avatar
Aera Park
น่าสงสารพระเอก นางเอกปากเหม็น 555
goodnovel comment avatar
อรณี ผันพักตร์
ถ้าเข้ามาอ่านคนแปลจะเทคนอ่านอีกมั๊ยแพงแล้วยังไม่จบอีกอ่านค้างมา 3 เรื่องละ
ПРОСМОТР ВСЕХ КОММЕНТАРИЕВ

Latest chapter

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 381 ช่างคล้ายคลึงนัก

    ทั้งคู่เดินถึงหน้าประตู ปะเหมาะเวลานี้ จวนแม่ทัพหลิ่วก็มีคนเดินออกมาเช่นกัน"คนนี้ก็คือใต้เท้าซูที่เจ้าชอบอย่างงั้นหรือ" ฮูหยินหลิ่วเหลียวมองบุตรีซึ่งอยู่ข้างกาย สื่อเป็นนัยให้อีกฝ่ายอย่าได้วู่วามทุกวันนี้คราใดที่หลิ่วโหรวโหรวเห็นถูซินเยว่กับซูจื่อหังเดินมาด้วยกัน ด้วยท่าทีรักใคร่ปรองดอง นางจะรู้สึกเดือดดาลในใจ ราวกับภูเขาไฟที่ใกล้ระเบิดกระนั้นนางทำเสียงฮึดฮัด "ถูซินเยว่มีวันนี้ได้ ก็เพราะอาศัยบารมีซูจื่อหัง แต่คอยดูไปเถิด หญิงบ้านนอกเช่นนาง ใหม่ ๆ ยังพอทำให้ซูจื่อหังพอใจได้บ้าง แต่พอนานวันเข้า ได้เห็นสาวงามในเมืองหลวงมากมาย ความรักของพวกเขายังมั่นคงเหมือนแต่ก่อนได้อีก ก็แสดงว่าผิดมนุษย์แล้ว"ฮูหยินหลิ่วแสดงท่าทีนิ่งเฉยแต่บุตรีพูดก็มีเหตุผล ผู้ชายในโลกนี้น้อยนักที่จะไม่คิดได้ใหม่ลืมเก่า ยกตัวอย่างเช่นสามีของนาง ในอดีตก็เคยให้คำมั่นสัญญา ว่าแม้เป็นหรือตายก็จะขอรักอดีตคนรักเพียงผู้เดียว แต่พอบ้านเขาประสบภาวะเดือดร้อน สุดท้ายก็มาเลือกแต่งงานกับตน จนบัดนี้ลืมหน้านังคนแพศยานั่นไปถึงไหนต่อไหนแล้วแสดงว่าความจริงใจของผู้ชายคือสิ่งที่ไร้ประโยชน์ปกติเสแสร้งทำเป็นรักมั่นจริงใจ แต่พอเอ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 380 ลูกสาวจอมโง่เขลา

    หากซูจื่อหังไม่รังเกียจถูซินเยว่แล้วล่ะก็ งั้นต่อให้หลิ่วโหรวโหรววทุ่มเทแรงกายแรงใจมากแค่ไหนก็ตาม เกรงว่าก็คงไม่สามารถเข้าไปในจวนสกุลซูได้ดั่งใจปรารถนาหรอกแต่น่าขําที่ลูกสาวคนนี้ของนางกลับไม่รู้ต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้เลย รู้แต่ไปเหยียดหยามถูซินเยว่อย่างโง่เขลาเท่านั้นนี่ถ้าทําให้ถูซินเยว่อับอายต่อหน้าทุกคนก็ว่าไปอย่าง แต่นี่กลับยังโดนถูซินเย่วตอบโต้กลับมาจนขายหน้า นี่ไม่ใช่เป็นการตบหน้าตัวเองหรือไง?เมื่อคิดถึงตรงนี้ ฮูหยินหลิ่วก็ไม่อยากเห็นหน้าลูกสาวคนนี้แม้แต่นิดนางขมวดคิ้ว จู่ ๆ ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า "ใช่แล้ว เรื่องนี้ข้ายังไม่ได้บอกพ่อเจ้า ถ้าพ่อเจ้ารู้ ดูสิว่าเขาจะสั่งสอนเจ้ายังไง เจ้าระวังตัวหน่อย"ภายใต้การเกลี้ยกล่อมและคําเตือนของฮูหยินหลิ่ว ในที่สุดหลิ่วโหรวโหรวก็หลับตาลง นางนั่งอยู่บนที่นั่งของตัวเองอย่างเซ็ง ๆ ทั้งหน้ามีแค่อารมณ์เดียวนั่นก็คือ นางไม่มีความสุขฮูหยินหลิ่วถอนหายใจอย่างจนใจ แล้วเงยหน้ามองฝั่งตรงข้าม ตําแหน่งของนาง มีเพิงดอกไม้อยู่ตรงกลางบดบังร่างของถูซินเยว่พอดี ดังนั้นนางจึงเห็นเพียงโครงร่างผ่านเถาวัลย์อย่างคลุมเครือเท่

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 379 จางเยียนหรัน

    วันนี้ตระกูลจางเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงเชิญตระกูลที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง ก่อนมาซูจื่อหังเคยพูดกับนางว่า เขากับตระกูลจางเข้ากันได้ดีในราชสํานัก ดังนั้นวันนี้ ถูซินเยว่ก็ไม่อยากสร้างปัญหาอะไรให้กับตระกูลจาง เพื่อไม่ให้คนอื่นรู้สึกว่าพวกเขาไม่มีมารยาทเห็นเหล่าฮูหยินกับหลิ่วโหรวโหรวเพิ่งเยาะเย้ยเธอเมื่อครู่ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ถูซินเยว่ก็สบายใจไม่น้อย ก้มหน้าก้มตากินอาหารด้วยตัวเองไม่สนใจใครทั้งนั้นในขณะที่เธอกําลังกินอย่างมีความสุข จู่ ๆ ก็มีคนผลักแขนของเธอเบา ๆถูซินเยว่นิ่งงันไปพักหนึ่ง หันหน้ากลับไปอย่างสงสัยใคร่รู้ เห็นหญิงสาวในชุดสีเหลืองคนหนึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ ตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ กําลังใช้ดวงตากลมโตจ้องมองเธออย่างอยากรู้อยากเห็นดวงตาของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและไร้เดียงสา แต่กลับไม่มีเจตนาร้ายเลยแม้แต่น้อยถูซินเยว่เคยเห็นคนมามากมาย เรื่องเหล่านี้เธอยังพอสามารถมองออกได้ตั้งแต่แรกเห็นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีเจตนาร้าย ท่าทีของเธอก็อ่อนโยนลงมาก"ไม่ทราบว่าแม่นางมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?"ถ้าเธอจําไม่ผิด คนที่นั่งข้างเธอเมื่อกี้น่าจะเป็นผู้หญิงที่เยาะเย้ยเธ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 378 หน้าแตก

    ถูซินเยว่ชะงัก และรู้สึกตลก เมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายก็รู้สึกประหลาดใจ ตอนที่ออกจากมาตอนเช้า เธอได้สวมใส่เครื่องประดับมาหลายชิ้นจริงๆแต่ระหว่างทาง ถูซินเยว่รู้สึกว่าต่างหูระเกะระกะเกินไป จึงแอบถอดมันออกและวางไว้บนรถม้าคาดไม่ถึงจริงๆ ว่าในงานเลี้ยงจะมีคนไม่กินไม่ดื่ม แต่หันมาจับจ้องที่เครื่องหัวของตนเองแทนถูซินเยว่ยื่นมือไปจับที่ผมของตนเองอัตโนมัติ จากนั้นก็พูดเสียงราบเรียบว่า "ในเมื่อวันนี้ตระกูลจางเป็นเจ้าภาพ แขกสำคัญจึงเป็นตระกูลจาง แล้วเหตุใดข้าจักต้องแต่งตัวให้ดูดีขนาดนั้น""จนก็ยอมรับว่าจนเถอะ จะหาเหตุผลอะไรมาอ้างมากมายไปทำไม ในที่นี้ใครไม่รู้บ้างว่าพวกเจ้ามาจากบ้านนอก ข้าเองก็แค่รู้สึกเสียดายแทนใตเท้าซูเท่านั้น ทั้งที่มีมีอนาคตอันดี หากแต่งงานกับบุตรสาวขุนนางสักคน ก็คงยิ่งช่วยส่งเสริมให้เจริญก้าวหน้า แต่กลับเลือกจะเฝ้าอยู่แค่หญิงชาวบ้านเฉกเช่นเจ้า..."ประโยคหลังแม้ว่าจะไม่ได้พูดต่อจนจบ แต่ก็สามารถเข้าใจได้ถึงแม้บนใบหน้าของถูซินเยว่จะแสดงสีหน้าใดๆ แต่สาวรับใช้ที่อยู่ข้างๆ สีหน้าย่ำแย่มากแล้วนางอาศัยอยู่ที่ตระกูลซูมานาน ก็พอจะรู้ว่าถูซินเยว่ไม่ได้ไม่มีเงิน และเงินส่วนใ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 377 ดูถูก

    ตั้งแต่ตอนที่อยู่ในหมู่บ้านต้าเย่ เพราะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ หรือเพราะผลประโยชน์อันน้อยนิด แม้เป็นครอบครัวเดียวกัน ก็ยังสามารถโกรธแค้นกันจนตัดญาติขาดมิตรไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นใด แค่ในตระกูลถู เพียงเพื่อสินสอดของตระกูลเหลียง ถูชิวหลานก็ดันทุรังจะสับเปลี่ยนตัวเธอกับลูกสาว ภายหลังยังไม่ยอมรับด้วย แถมยังผลักไสความผิดทุกอย่างไปที่เจ้าของร่างหากเธอไม่ได้ข้ามิติมาอยู่ในร่างของเจ้าของร่างซื่อบื้อคนนั้น นางจะใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลซูอย่างไร เกรงว่าคงเหลือแต่เสี้ยววิญญาณแล้วอย่างด้านซูเฟิ่งอี๋ในตระกูลซู ตอนนั้นพวกเขาเองก็หวงแหนเงินเล็กๆ น้อยๆ เห็นชีวิตนางหยูกำลังตกอยู่ในอันตรายก็ยังไม่ยอมรักษาให้นางเรื่องราวของญาติสนิทมิตรสหายที่ทำร้ายคนใกล้ตัวเพียงเพื่อผลประโยชน์และเงินทองมีมากมายเกินกว่าจะพูด ขนาดบ้านเธอยังเป็นเช่นนี้ แล้วต้าฉีที่มีบ้านสกุลมากมายขนาดนี้ล่ะชาวบ้านธรรมดาทั่วไป อาจทำไปเพื่อเงินทอง แต่องค์ชายสามกับองค์ชายใหญ่ กลับทำเพื่อแก่งแย่งแผ่นดิน ขนาดที่เป็นการต่อสู้เพื่อความเป็นความตาย และไม่มีใครยอมอ่อนข้อให้ใคร ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้"ชีวิตคนเรามีหลายเรื่องที่มักไม่เป็นดังที่หวัง ข

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 376 อิจฉา

    "วันนี้เป็นงานเลี้ยงของตระกูลจาง ข้าก็นึกว่าเจ้าจะพูดคุยเรื่องอะไรกับข้า คาดไม่ถึงว่าจะใช้เรื่องนี้มาข่มขู่ข้าในที่ๆ ไม่มีคนเช่นนี้?"ชายผู้นั้นหัวคิ้วกระตุก รีบก้มศรีษะลงแล้วพูดว่า "กระหม่อมมิบังอาจพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่กระหม่อมทราบว่าองค์ชายสามเป็นคนเฉลียวฉลาด แต่ไหนแต่ไรมา การที่บุตรสายตรงรับสืบราชบัลลลังก์ต่อก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล แล้วไฉนองค์ชายสามจึงมิตั้งใจเป็นข้าราชบริพานบริสุทธิ์ คอยค้ำจุนเสด็จพี่ของพระองค์เล่าพ่ะย่ะค่ะ?"ฉีหวานหัวดราะเสียงดัง น้ำเสียงเย็นเยือกลงฉับพลัน เขาสะบัดแขนเสื้อ พร้อมสีหน้าเย็นชา "แม่ทัพหลิ่วพูดเช่นนี้ ช่างไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย ตอนที่ข้าพบกับมือสังหารไล่เอาชีวิตตอนที่รีบเดินทางกลับมาจากเป่ยเจียงอันไกล แม้วันนี้ข้าไม่พูด เชื่อว่าท่านแม่ทัพเองก็คงทราบดีว่าเป็นฝีมือของใคร?"ถูซินเยว่ที่นั่งอยู่ในศาลาชะงักงัน ที่แท้คนที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับฉีหวานก็คือแม่ทัพหลิ่วนี่เอง หากนางจำไม่ผิดละก็ ก่อนหน้านี้ที่หน้าประตูตระกูลจาง ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ หลิ่วโหรวโหรวก็คือแม่ทัพหลิ่วผู้นี้สินะ?เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ถูซินเยว่ก็รู้สึกเซ็งขึ้นมา ถ้ารู้แต่แรกว่าพวกเขาจะคุยกันเรื่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status