“ช่วงนี้ไม่เห็นหน้าเห็นตาเลยนะมึง”คาเตอร์เอ่ยทักโซลทันทีที่เห็นหน้าเพื่อนสนิท ที่ช่วงนี้ได้ชื่อว่ามาเที่ยวผับ แต่มักชอบหายตัวไปบ่อย ๆ แบบเนียน ๆ
“กูมีธุระ” คาเตอร์ยกยิ้มมุมปาก เขาพอจะมองออกว่าธุระของเพื่อนคืออะไร คนแบบมันถ้าไม่ใช่เรื่องน้องสาวก็ต้องเป็นเรื่องผู้หญิงแน่ ๆ ที่ทำให้มันหายตัวไปแบบนี้ เมื่อก่อนอาจจะเป็นเรื่องของมิลลิได้ เพราะต้องคอยเฝ้าน้องสาวจากพวกผู้ชาย แต่ตอนนี้มิลลิมีแฟนไปแล้ว เพราะฉะนั้นก็เหลือเพียงอย่างเดียวที่ทำให้มันหายตัวได้คือเรื่องผู้หญิงเท่านั้น “อยากเห็นหน้าว่ะ คนที่มึงกำลังกก” “กกเหี้ยไร กูบอกว่ากูมีธุระ”โซลขึ้นเสียงใส่เพื่อนทันที ไม่ใช่ไม่พอใจที่เพื่อนหยอก แต่ขึ้นเสียงเพื่อกลบเกลื่อนเรื่องที่เพื่อนพูดต่างหาก แต่คาเตอร์ก็ไม่ได้สนใจ เขาชินเสียแล้วเวลาเพื่อนคนนี้ติดพันใคร มักไม่ค่อยบอกอะไรกับเพื่อนอยู่แล้ว ขอแค่ว่าไม่ไปกกเอาแฟนของเพื่อนคนไหนอีกเป็นพอ เพราะไม่อยากให้มีปัญหาตามมาทีหลังอีก “พอขึ้นปีสี่ สังเกตุไหมว่ากลุ่มเราเริ่มหายหัวกันหมด ยิ่งใกล้ฝึกงานแบบนี้กูไม่เห็นหัวใครสักคน” วันนี้ที่นัดกันมาผับ ก็นัดกันมาทุกคน แต่เลยเวลานัดมากว่าชั่วโมงกลับเห็นแค่เขากับโซลที่มา แต่ทว่ายีนส์กับตะวันเขาพอเข้าใจว่าสองคนนั้นติดแฟน แต่คีรินกับสกายก็หายเหมือนกัน เริ่มนึกแปลกใจว่าเหลือเพียงเขาคนเดียวหรือเปล่าที่ยังไม่ถูกใจใครและยังหาผู้หญิงที่ดีพอให้หยุดไม่ได้ “นี่ถ้ากูหายอีกคน มึงจะนั่งกินคนเดียวไหมว่ะ”โซลแกล้งเอ่ยถามเพื่อนออกไป ที่จริงวันนี้เขาก็ไม่ได้ว่างออกมา แต่ก็กลัวว่าเพื่อนจะต้องนั่งกินเหล้าคนเดียว เลยปลีกตัวออกมานั่งเป็นเพื่อนแปบหนึ่ง “ก็คงงั้น...แต่ถ้ามึงมีธุระก็ไปได้เลยนะ ตามสบาย” “สัด!!! ประชดเพื่อ?” “ไม่ได้ประชด กูพูดจริง เพื่อนไม่สำคัญเท่าเมียหรอก” “เมียพ่อง!!! มึงสิ กูบอกไม่ใช่” นั่นไง…แค่เขาล่อเหยื่อไปนิดเดียว คนแบบมันก็เผยไต๋ออกมาแล้ว บอกแล้วว่านอกจากเรื่องมิลลิก็มีแค่เรื่องผู้หญิงเท่านั้นที่ทำให้คนแบบไอ้โซลหายหัวบ่อย ๆ ได้ “แต่วันก่อนไอ้ตะวันบอกกูว่า มึงเทนัดมันเหมือนกันนิ ไม่ใช่ว่ามึงก็…” “ไม่ใช่...คนแบบกูไม่เอาใครนอกจากซื้อกินมึงก็รู้”เป็นสิ่งที่เขาตั้งใจกับตัวเองมาตลอด ว่าจะไม่เอาใครถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ขาย เพราะเขาไม่อยากให้มีปัญหาตามมาทีหลัง ได้แล้วก็แยกย้าย ไม่ต้องมาคอยแคร์ความรู้สึกกัน “เออ…กูก็เผื่อว่ามึงจะเจอใครที่ทำให้มึงเปลี่ยนความคิดได้” “ยากว่ะ”มือหนาหยิบแก้วเหล้ายกขึ้นดื่มรวดเดียวหมด ก่อนที่สายตาเขาจะเหลือบไปเห็นเด็กเสิร์ฟของผับกำลังบริการโต๊ะข้าง ๆ เขาพอดี ปกติเขาไม่ใช่คนชอบยุ่งเรื่องคนอื่นอยู่แล้ว แต่เพราะทันเห็นพอดีว่าผู้ชายโต๊ะนั้นกำลังเอามือจับก้นเด็กเสิร์ฟคนนั้นอยู่ ก่อนจะได้ยินเสียงโวยวายดังมา “พี่อย่ามาจับก้นฉันนะ”เสียงหวานของพายตวาดออกไปทันที เมื่อสัมผัสได้ถึงมือหยาบกระด้างของชายหนุ่มวัยกลางคนที่เรียกเธอเข้ามาชงเหล้า กำลังบีบก้นของเธออยู่ “ไม่ได้ขายเหรอ? ฉันจ่ายไม่อั้นนะ” “ถ้าฉันขาย จะมายืนชงเหล้าอยู่แบบนี้ทำไม คงไปนอนแบอยู่ที่ไหนสักที่แล้ว ไม่มาเหนื่อยให้พวกหื่นกามแบบพี่ลวนลามแบบนี้หรอกค่ะ” “อ้าวน้อง…พูดดี ๆ หน่อยสิ มึงคิดว่าตัวเองเป็นใคร เป็นแค่เด็กเสิร์ฟเสือกมาขึ้นเสียงใส่ลูกค้าแบบนี้ กูฟ้องเจ้าของผับไล่มึงออกได้นะ” พายยกตัวขึ้น ยืนเท้าสะเอวอย่างไม่กลัว เธอทำงานเด็กเสิร์ฟมานาน เจอสถานการณ์แบบนี้มานับไม่ถ้วน แต่ก็ไม่เคยเจอใครปากหมาเท่าผู้ชายตรงหน้าเธอ นอกจากหน้าตาจะเอาทำพันธุ์ไม่ได้แล้ว นิสัยหมายังไม่แดกอีกต่างหาก “อยากฟ้องก็ฟ้องไปสิ คิดว่าฉันกลัวหรือไง เป็นคนลวนลามฉันก่อนแท้ ๆ พอไม่ให้จับก้นทำมาเป็นขึ้นเสียงใส่ ผู้ชายแบบนี้สงสารเมียที่บ้านฉิบหาย” “สนใจเหรอว่ะ”โซลที่เห็นเพื่อนนั่งมองเหตุการณ์โต๊ะข้าง ๆ อยู่นานแล้ว เขาเองก็นั่งมองกับเพื่อนเหมือนกัน แต่ที่ไม่ปกติคือทุกครั้งคาเตอร์จะไม่สนใจเรื่องแบบนี้ แต่ตอนนี้กลับจ้องเหตุการณ์ตรงหน้าตาแทบไม่กระพริบ “เปล่า”คาเตอร์เอ่ยเสียงเรียบ ก่อนจะหันมานั่งดื่มเหล้าในแก้วต่อ แต่ทว่าหูก็ยังได้ยินเสียงผู้หญิงคนนั้นทะเลาะกับแขกโต๊ะนั้นอย่างชัดเจน และเหมือนเหตุการณ์จะบานปลายไปกันใหญ่ เมื่อผู้ชายสามสี่คนในโต๊ะรุมด่าเด็กเสิร์ฟคนนั้นคนเดียว “โทรหาพี่ธันดีไหม ลูกน้องพี่ธันนี่หว่า”พี่ธันที่โซลว่าคือธันเดอร์ ลูกชายคนโตของเฮียพายุเจ้าของผับนี้ ตอนนี้เป็นผู้ดูแลผับต่อจากคนเป็นพ่อ และพวกเขาสองคนก็สนิทกับธันเดอร์มาก “อย่ายุ่งเลยดีกว่า”ไม่ใช่ว่าเขาใจดำ แต่เขาไม่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่น อีกอย่างก็เหมือนผู้หญิงคนนั้นจะหัวรุนแรงไม่น้อย ขนาดว่าผู้ชายสามสี่คนรุมทึ้งอยู่ ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะสะทกสะท้านหรือกลัว หลังจากด่ากราดผู้ชายโต๊ะนั้นไปเกือบครึ่งชั่วโมง พายก็พาตัวเองกลับมาหลบมุมอยู่ในห้องพักเด็กเสิร์ฟ เหนื่อยเหลือเกินที่ต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้ทุกวัน แต่เธอก็ต้องทนทำงานนี้ เพราะได้เงินดี พอกับค่าเรียนหรือแม้แต่ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ของเธอ โดยที่ไม่ต้องเดือดร้อนขอจากยาย ชีวิตของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องดิ้นรนส่งตัวเองเรียนมาตลอด ตั้งแต่เริ่มทำงานได้ เธออาศัยอยู่กับยายแค่สองคน ยายเองก็แก่มากแล้ว ยายของเธอทำขนมขายตามตลาดนัด รายได้ไม่มากเท่าไหร่ หลัง ๆ ยายปวดตามเนื้อตัว โดยเฉพาะขา นี่ก็เพิ่งไปตรวจก้อนเนื้อมาเมื่อไม่กี่วันก่อน เลยทำขนมน้อยลงและไม่ได้ออกไปขายตามตลาดนัดแล้ว อาศัยขายที่หน้าบ้านเช่าแทน ทำให้รายได้ลดลง ไม่พอค่าใช้จ่ายต่าง ๆ พายเลยต้องหางานทำหลังเลิกเรียน จากเด็กเสิร์ฟร้านคาเฟ่สู่การเป็นเด็กเสิร์ฟที่ผับ เงินเดือนต่างกันหลายเท่า แต่เวลาทำน้อยกว่า ทำให้เธอต้องอดทนทำงานนี้ ไม่ว่าจะเจอเหตุการณ์อะไรก็ต้องผ่านไปให้ได้ แต่บางครั้งก็เหลืออดจริง ๆ กับพวกผู้ชายหื่นกามที่คอยแต่จะจ้องลวนลามเธอ ลวนลามทางสายตาบ้าง หนักสุดคือเมื่อกี้ เธอทนไม่ได้จริง ๆ เห็นเธอเป็นเด็กเสิร์ฟหน่อย ก็คิดว่าเธอขายตัว มาขอซื้อไม่เท่าไหร่ แต่พวกที่ลวนลามแบบนี้เธอไม่ชอบ “เมื่อกี้โดนอีกแล้วเหรอ”ปริมเพื่อนเด็กเสิร์ฟที่เรียนมหาลัยเดียวกันแต่คนละคณะ เดินเข้ามาถาม คงเพราะยืนเสิร์ฟโต๊ะใกล้กัน เลยได้ยินเหตุการณ์ทุกอย่าง “อืม...ฉันล่ะเหนื่อย” “เหนื่อยก็หยุดบ้างไหม เธอทำงานติดกันไม่พักเลยนะ”ปริมเสนอทางเลือกที่รู้ว่าพายไม่ทำแน่นอน แต่ก็อยากเสี่ยงเอ่ยออกไป ตั้งแต่รู้จักกันมา เธอไม่เคยเห็นพายหยุดงานเลยสักวัน “หยุดไม่ได้หรอก เดือนนี้ยายหมอนัดด้วย”เพราะค่าใช้จ่ายที่มีตลอด ยิ่งเกี่ยวกับยาย เธอเลยต้องสำรองเงินเอาไว้เยอะ ๆ เผื่อวันไหนมีเหตุจำเป็น จะได้เอาเงินสำรองพวกนี้มาใช้ได้ “แต่ไอ้พวกนั้นน่ากลัวนะ เหมือนมันจะไม่ยอมด้วย” “ฉันไม่กลัวหรอก” “แต่ฉันว่า...ตอนเธอกลับบ้าน เลี่ยงไปทางอื่นก่อนดีไหม เผื่อพวกมันดักรอทำร้ายเธอ”เมื่อกี้ตอนยืนชงเหล้าอยู่ ปริมทันได้ยินกลุ่มผู้ชายที่มีเรื่องกับพาย พูดว่าจะออกไปจัดการเพื่อนเธอที่หน้าผับ ไม่รู้ว่าพูดจริงหรือพูดเล่น แต่เป็นผู้หญิงก็ควรระวังตัวไว้ก่อนจะดีกว่า “หลีกได้จะหลีกนะ”พายพูดอย่างเหนื่อยใจ ก่อนจะพากันออกไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อ เธอเลี่ยงเข้าไปใกล้โต๊ะของผู้ชายกลุ่มนั้น ที่เหมือนจะส่งสายตามองเธออยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งเวลาเลิกงาน เธอก็ลืมเรื่องที่ปริมเตือนไปเสียสนิท คงเป็นเพราะความเคยชิน เลยเดินกลับบ้านทางที่เดินประจำทุกคืน เพื่อไปขึ้นวินมอเตอร์ไซค์ที่อยู่ห่างจากผับไปประมาณ 300 เมตร “คิดว่าพวกกูจะปล่อยมึงไปง่าย ๆ เหรอ”“ดีใจสิ พี่ดีใจมากเลยพาย พี่กำลังจะมีลูก”เสียงทุ้มสั่นเครือพร้อมกับหยดน้ำตาแห่งความดีใจของว่าที่คุณพ่อไหลออกมา คบกันมาสามปี เธอเพิ่งเคยเห็นเขาร้องไห้อย่างไม่อายก็วันนี้ เขาคงจะดีใจมากเหมือนเธอตอนที่รู้ผล ตอนนั้นเธอเองก็มีหยดน้ำตาไหลออกมาเหมือนกัน “พายก็ดีใจมากนะคะ” มือหนาจับใบหน้าสวยเข้ามาจูบรัว ๆ นึกขอบคุณอะไรก็ตามในโลกนี้ที่ทำให้เขาได้เจอเธอและมีช่วงเวลาที่ดีร่วมกันแบบนี้ อีกไม่นานชีวิตเขาก็จะสมบูรณ์มีลูกออกมาเติมเต็มความรักของเขากับเธอ “ขอบใจเมียมากนะ สัญญาว่าพี่จะดูแลเมียอย่างดีที่สุด” “ทุกวันนี้พี่ก็ดูแลพายดีมากแล้วค่ะ พายอยากดูแลพี่บ้าง” “พี่ไม่เป็นไร พายต้องดูแลตัวเองให้ดีนะ อะไรที่ว่าดีในโลกนี้พี่จะหามาให้พายกับลูกหมดเลย ขอแค่พายบอกพี่ว่าอยากได้” พายหัวเราะคิกคักออกมากับท่าทางของสามีหนุ่ม มองดูเผิน ๆ ไม่เหมือนผู้บริหารแล้วตอนนี้ เหมือนจะหลุดมาดไปจากเดิมเยอะมาก“เว่อร์มากค่ะ” “เว่อร์อะไร พี่พูดจริง ๆ นะครับ” “พายไม่อยากได้อะไรทั้งนั้นค่ะ พายอยากอยู่ใกล้พี่ตลอดเวลา” “แค่นี้?” “ใช่ค่ะ พรุ่งนี้พี่พาพายไปทำงานด้วยได้ไหมคะ”เธอทิ้งตัวลงไปนอนบนตักแกร่งอีกครั้ง เอามือจับแก่นกา
หลังจากแต่งงานกันได้สามเดือน พายกับยายก็ย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังใหญ่ของคาเตอร์ทันที โดยชายหนุ่มให้เหตุผลว่าต้องการกลับมาอยู่กับพ่อแม่ ตอนนี้คาเทียร์น้องสาวของเขาก็ย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดกับสามีถาวรแล้ว "อุ๊บ! แหว๊ะ! อื้อ"พายรีบเอามืออุดปากตัวเองแล้ววิ่งเข้าไปโก่งคออ้วกในห้องน้ำทันที ทุกวันช่วงเช้าเธอจะมีอาการผิดปกติแบบนี้ บวกกับอาการปวดหัวอย่างรุนแรง และระหว่างวันเธอจะรู้สึกอ่อนเพลียเหมือนคนนอนเท่าไหร่ก็ไม่พอ มันรู้สึกเหนื่อยทั้งที่เธอนอนอยู่บ้านอย่างเดียว ไม่ได้ทำอะไร แม้แต่งานบ้าน "ยายว่าอาการเรามันแปลกนะพาย" ยายวรรณที่เห็นหลานสาวเป็นแบบนี้มาเกือบอาทิตย์แล้วเอ่ยขึ้น ตอนแรกเธอก็คิดไปว่าหลานจะมีอาการโรคกระเพาะอาหาร เพราะนิสัยกินข้าวไม่ตรงเวลา แต่ทว่าอาการหลายอย่างก็คล้ายกับอาการเฉพาะของผู้หญิง ซึ่งเธอเองก็เคยผ่านมาก่อน “โทรหาคาเตอร์ไหมลูก” “พายไม่เป็นไรค่ะยาย แค่มึนหัวนิดหน่อย”เมื่อล้างหน้าล้างตาเสร็จ เธอก็ฝืนตัวเองลงมาชั้นล่างของบ้าน ที่ตอนนี้มีพ่อแม่ของคาเตอร์นั่งอยู่ที่ห้องนั่งเล่น “ทำไมหน้าซีดแบบนั้นล่ะลูก”ขวัญตาเอ่ยทักลูกสะใภ้ทันทีเมื่อเห็นหน้า “อ้วกตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ”ยายว
พายเริ่มลังเลกับคำพูดของลลิล เหตุการณ์ในรถเมื่อเช้าลอยเข้ามาในความทรงจำอีกครั้ง เธอจำได้ว่าหลังจากที่เธอพูดว่าอึดอัดที่เขาคอยตามติดเธอ แววตาคมของเขาก็เปลี่ยนไป ตอนที่เขาบอกให้เธอลงจากรถ น้ำเสียงของเขาเย็นชาเหมือนตอนที่เราสองคนยังไม่ได้เป็นแฟนกันไม่มีผิด เพิ่งรู้ว่าตัวเองพูดแรงและทำพลาดไปก็ตอนนี้ เขาคงจะเสียใจและเสียความรู้สึกมากที่เธอพูดแบบนั้นกับเขา ปกติแล้วเขาต้องโทรหาเธอแล้วตอนนี้ หรือไม่ก็ต้องมารับเธอแล้ว แต่นี่เขาหายไปเลยแบบนี้ มันทำให้เธอรู้สึกไม่ดี อยากจะเอามือตบปากของตัวเองสักพันครั้ง เอาเลือดชั่วที่ปากออกเสียบ้าง เธอควรจะคิดได้ว่าเขารักและเป็นห่วงเธอขนาดไหน ทำไมถึงพูดอะไรไม่คิดไปแบบนั้น “มึงร้องไห้?”ลลิลส่งกระดาษทิชชู่ให้เพื่อนทันที“กูเข้าใจมึงนะ แต่บอกตรง ๆ กูเข้าใจพี่เขามากกว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาเป็นห่วงมึงมาตลอดนะพาย มึงเองก็มีความสุขมากที่อยู่กับเขา กูไม่เข้าใจว่าวันนี้มึงพูดจาแบบนั้นกับพี่เขาทำไม” พายรับกระดาษทิชชู่มาเช็ดน้ำตา แต่น้ำตาก็ยังคงไหลออกมาไม่หยุด เธอเป็นคนผิดเองที่พูดแบบนั้นออกไป แต่มาคิดได้ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าเขาจะให้อภัยคำพูดของเธอหรือเปล่า ด้านคาเตอ
กว่าพายจะขับรถมาถึงบ้านอย่างปลอดภัย ก็ทำเอาคนนั่งข้างที่กลั้นหายใจอยู่นาน ถอนหายใจออกมาทันที“พี่ไม่ไว้ใจพาย” “ไม่ใช่เลย พี่รู้ว่าเธอขับได้ แต่พี่อยากเป็นคนขับให้เธอนั่งมากกว่า” “พายรู้หรอก ไม่ต้องมาปลอบใจ พี่นั่งเหงื่อตกขนาดนั้น” “พี่เมาต่างหาก”เมื่อเห็นใบหน้าเธององุ้มของแฟนสาว ก็เข้าไปโอบกอดเธอทันที แต่ทว่าเธอก็สะบัดหน้าหนีเขา ไม่ยอมสบตา “โธ่…พี่แค่เป็นห่วงเธอนะครับ เดี๋ยวพี่จะพาเธอไปขับให้เก่งกว่านี้ดีไหม” “จริงนะคะ” “จริงสิครับ ไปพรุ่งนี้เลยนะ” หญิงสาวพยักหน้าหงึกหงัก เธอเองก็อยากขับรถให้เก่งกว่านี้เหมือนกัน ต่อไปเวลาเขาเหนื่อย ๆ เธอจะได้ขับให้เขานั่งบ้าง ถึงแม้จะรู้ว่าเขาไม่มีวันให้เธอเป็นคนขับแน่นอน แต่เผื่อมีเหตุการณ์ฉุกเฉินเหมือนวันนี้ เขาจะได้ไม่กลัวที่เธอต้องขับรถให้เขานั่ง “รู้หรือเปล่าคะว่าพายรักพี่” ถึงจะงงที่อยู่ ๆ เธอก็พาเข้าโหมดหนังรักโรแมนติกเฉย ทั้งที่ก่อนหน้าสำหรับเขาคือโหมดหนังหวาดเสียว แต่เขาก็พยักหน้าและยิ้มให้เธอตามสัญชาตญาณทันที “รู้สิ เพราะพี่ก็รักพาย”ชายหนุ่มดึงหญิงสาวเข้าไปกอด ความรู้สึกเต็มตื้นอยู่ในใจ วันเวลาล่วงเลยมาจนถึงมหาลัยเปิด ตั้งแต่ย้ายม
“หิ้วว!!! มันพามาเปิดตัวว่ะ“เสียงโห่ของกลุ่มเพื่อนดังขึ้นทันที เมื่อคาเตอร์เปิดประตูเดินเคียงคู่เข้ามากับพาย วันนี้เพื่อนในกลุ่มรวมตัวกันเลี้ยงฉลองวันเกิดยีนส์ ทั้งกลุ่มมากันครบขาดเพียงตะวันที่ยังไม่กลับมาจากต่างจังหวัด “ฝากน้องด้วยนะมิลลิ”คาเตอร์พาพายเดินมานั่งใกล้กับมิลลิที่นั่งอยู่อีกฝั่ง ห่างจากวงของกลุ่มผู้ชายที่นั่งล้อมวงกินเบียร์กันไม่เท่าไหร่ “ได้ค่ะพี่เตอร์ มิลจะดูแลให้อย่างดีเลย” “สัดเตอร์ หน้าบานเลยนะมึง”เจ้าของวันเกิดแซว พร้อมกับส่งกระป๋องเบียร์ให้ ที่ต้องมาเลี้ยงกันที่คอนโดเพราะแฟนสาวของเขาไม่อนุญาตให้ไปผับ อีกอย่างก็ไม่อยากนั่งจนดึกเพราะตอนนี้ต่างคนต่างมีเวลาส่วนตัวกันแล้ว จะนัดเจอกันทีก็ลำบาก นี่ถ้าไม่ใช่จัดที่คอนโด วันนี้ไม่มีทางมาพร้อมกันขนาดนี้ได้ “เสือยิ้มยากของคณะวิศวะ เสียชื่อแล้วว่ะ แม่ง!!! มึงหุบยิ้มบ้างดิว่ะ” “สัด!!! พวกมึงหยุด ไม่เห็นหรือไงแฟนกูเขิน” “หูย...แฟนว่ะ ขนลุกฉิบหาย มึงได้ยินไอ้เตอร์พูดไหมว่ะไอ้โซล มึงแพ้มันแล้วนะ” สกายเอ่ยหยอกเพื่อนอีกคนที่หายบ่อยช่วงนี้ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่พาคนที่มันแอบกกมาเปิดตัวกับเพื่อนสักที “แพ้ก็แพ้ดิว่ะ มึงต้องยินดีกับ
"ที่จริงก็ยังต้องพัฒนาอีกเยอะ" พายกรอกตามองบนทันที เธอไม่ได้กำลังชมเขาว่าทำดีแล้ว แต่กำลังประชดต่างหาก "หลงตัวเอง" "พี่ไม่ได้หลง เธอต่างหากที่หลงพี่" "เอามาจากไหนคะ พายเคยพูดสักคำเหรอ มีแต่พี่ต่างหากที่คอยจัดแจงนู่นนี่ให้พาย ที่ทำไปทั้งหมด ไม่ใช่เพราะหลงพายมากกว่าเหรอคะ" เธอยักคิ้วล้อเลียนเขาอย่างเหนือกว่า เขาเองก็ยิ้มออกมาไม่ได้ปฏิเสธคำพูดของเธอ แต่กดริมฝีปากหนัก ๆ ลงมาบนกลีบปากอวบอิ่มของเธอหนึ่งที "หลงสิ พี่หลงเธอมากอยู่แล้ว ผู้ชายคนนี้ขี้หึง ขี้เอา เธอรับได้หรือเปล่า" "รับไม่ได้จะตกลงเป็นแฟนแต่แรกทำไมคะ พี่ก็เหมือนกัน..."มือบางลูบไล้แผ่นหลังหนาของเขาลงไปจนถึงบั้นท้ายแน่น ที่เธอออกแรงบีบหนัก ๆ อย่างยั่วเย้า"รับได้ไหมคะ เพราะฉันก็ชอบให้พี่หึง ชอบให้พี่เอาเหมือนกัน" "อ่า...เธอยั่วพี่อีกแล้วนะพาย" หญิงสาวลากมือบางจากสะโพกหนามาด้านหน้าตรงกลางกายของเขาที่เธอออกแรงบีบเค้นเหมือนบีบสะโพกเขาไม่มีผิด แต่ต่างกันตรงที่ว่าความอ่อนตัวของมันค่อย ๆ แผ่ขยายเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาทันที "อากาศมันร้อน...พายอยากกินไอติมอีกแล้ว" ชายหนุ่มยิ้มออกมาอย่างถูกใจ ไม่ปฏิเสธคำขอของเธอ เขาลุกขึ้นนั่งตรงห