LOGINสำหรับชมพูแพร... อองเดรคือเจ้าชายในฝัน และถึงแม้ว่าจะอยู่ใกล้กันเพียงแค่เอื้อมมือคว้า แต่ก็ไม่เคยสัมผัสถึงเขาได้เลยสักครั้ง จนกระทั่งเกิดความผิดพลาดขึ้น ทำให้หล่อนต้องขึ้นเตียงมีความสัมพันธ์กับท่านประธานหล่อเหี้ยมแทนผู้หญิงที่ถูกอองเดรชี้นิ้วเลือก ทุกอย่างมันควรจบคงแค่ค่ำคืนเดียว แต่อองเดรกลับทำให้ทุกอย่างมันยุ่งยากขึ้นอีกหลายเท่าตัว เมื่อท่านประธานหนุ่มมีคำสั่ง ให้หล่อนขึ้นเตียงกับเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า และไม่มีกำหนดสิ้นสุด
View Moreอองเดร มาร์แต็ง นักธุรกิจผู้ร่ำรวยและมีอิทธิพลมากระดับโลก ชายหนุ่มคือหนุ่มหล่อในฝันที่สาวๆ ทุกคนล้วนแต่อยากได้มาครอบครอง แต่อองเดรไม่ใช่สมบัติของใครทั้งนั้น เพราะในหัวของเขาเกลียดคำว่า ‘ครอบครัว’ ที่สุด
คำว่าครอบครัวไม่เคยเฉียดเข้าใกล้สมองของเขามาก่อน และเขาก็แทบไม่รู้จักกับคำนี้เลย คงเพราะฝันร้ายในวัยเยาว์ ทำให้เขาเลือกที่จะไม่สนใจคำนี้อีกเลย
บิดาของเขาร่ำรวย แต่ก็มีผู้หญิงมากหน้าหลายตา เขาต้องจมปลักอยู่กับความทุกข์เมื่อเห็นน้ำตาของมารดาไหลอาบแก้มทุกเมื่อเชื่อวัน จนกระทั่งวันที่มารดาจากโลกนี้ไป และทิ้งรอยแผลขนาดใหญ่เอาไว้ในใจของเด็กสิบขวบเช่นเขา
ความรักเหรอ... มันก็ไม่มีอยู่จริงเหมือนกับคำว่าครอบครัวนั่นแหละ
ดวงตาสีสนิมจ้องมองออกไปนอกหน้าต่างห้องทำงานหรูอย่างไร้จุดหมาย
ตอนนี้เขาอายุย่างเข้าสู่เลขสี่มาสิบสองวันแล้ว แต่ในหัวของเขาก็ยังคงว่างเปล่า ชีวิตในทุกวันคือการทำงาน ส่วนค่ำคืนก็คือการหลับนอนกับผู้หญิงมากหน้าหลายตา
เขาสนุกกับการมีเซ็กซ์โดยไร้การผูกมัด เงินในกระเป๋าจบปัญหากวนใจทุกอย่างได้เป็นอย่างดี แต่ก็มีบ้างที่เขาถูกคู่นอนตามตื้อ แต่มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร เพราะเขามีเลขาฯ คู่ใจผู้ที่จะจัดการกับผู้หญิงพวกนั้นจนไม่กลับมาตอแยกับเขาอีก
เรือนร่างสูงใหญ่เกือบหนึ่งร้อยเก้าสิบเซ็นติเมตรขยับเดินกลับมาหย่อนกายลงนั่งบนเก้าอี้หนังสีดำตัวโต
หลังจากที่บิดาตายคานมปลอมของนางแบบชุดชั้นในไปเมื่อสิบเอ็ดปีก่อน เขาก็รับช่วงต่อจากท่านดูแลธุรกิจน้ำมัน และพัฒนาจนมันรุ่งเรืองจนไม่มีคู่แข่งใดๆ กล้าเทียบเคียง
ชีวิตของเขาประสบความสำเร็จในทุกด้าน ทั้งงาน และความรื่นเริงในยามค่ำคืน แต่ทำไมนะ เขาถึงรู้สึกเหมือนขาดอะไรไปบางสิ่ง
มันไม่ใช่คำว่าครอบครัว และมันก็ไม่ใช่เรื่องของผู้หญิง แต่มันคือ...
ลูก...
ใช่แล้วล่ะ ชีวิตของเขายังขาดอีกหนึ่งสิ่งนั้นก็คือลูกที่จะมาสืบทอดธุรกิจทั้งหมด
ชายหนุ่มยกมือขึ้นบีบขมับอยู่ชั่วครู่ เพื่อให้สมองปลอดโปร่ง และสามารถคิดหาทางออกให้กับตัวเองได้
เขาคิดเรื่องการมีลูกมาเกือบสองอาทิตย์แล้ว ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องยากที่จะมีลูกสักคน แต่สิ่งที่ยากและยังหาทางออกไม่ได้นั่นก็คือ เขาจะไปหาผู้หญิงที่เพียบพร้อมพอจะเป็นแม่พันธุ์ให้กับตัวเองได้จากที่ไหนกัน
ผู้หญิงที่จะยอมรับเงื่อนไขร้ายๆ ทุกอย่างจากเขา และยอมจากไปเมื่อคลอดลูกน้อยให้กับเขาเรียบร้อยแล้ว
เขาไม่ไว้ใจใคร โดยเฉพาะผู้หญิง เพศที่ในหัวคิดถึงแต่เงิน
กรามแกร่งที่มีไรหนวดจางๆ ขับกันแน่น ก่อนที่ดวงตาสีสนิมน่าเกรงขามจะเลื่อนไปมองที่บานประตูห้องทำงานที่กำลังถูกเคาะเบาๆ
“เข้ามา”
น้ำเสียงของเขาทุ้มนุ่ม แต่มันก็อัดแน่นไปด้วยพลังอำนาจที่ทำให้คนฟังไม่กล้าที่จะปฏิเสธความต้องการได้เลย
“แพรเข้ามาเตือนท่านประธานน่ะค่ะว่าอีกสิบห้านาทีจะถึงเวลาประชุมผู้ถือหุ้นแล้วค่ะ”
ชมพูแพรหญิงสาววัยยี่สิบห้าปี ทำงานเก่งมาก รู้ใจเขาทุกอย่าง ไม่ว่าเขาจะต้องการอะไร แค่มองตาหล่อนก็พร้อมจะหามาประเคนให้ทุกอย่าง หล่อนเพียบพร้อม สมบูรณ์ แต่โคตรเชย
ใช่ โคตรเชย
ชมพูแพรแต่งตัวได้เชยระเบิด จนบางครั้งเขาอดคิดไม่ได้ว่าบริษัทฯ ยักษ์ใหญ่ของตัวเองคือโบสถ์ หรือไม่ก็วัดวาอาราม
เขาเคยทวงติงหลายครั้ง แต่ชมพูแพรแย้งกลับมาด้วยเหตุผลที่ทำให้เขาต้องหุบปากและเลิกยุ่งวุ่นวายกับการแต่งตัวของหล่อนอีก
‘แพรใช้สมองทำงานรับใช้ท่านประธานมาเกือบห้าปี มีงานไหนไหมคะที่แพรทำได้ไม่ยอดเยี่ยม’
เขาจำได้ว่าตัวเองส่ายหน้าไปมา เพราะนึกไม่ออกเลยว่าชมพูแพรเคยทำงานไม่ดีตอนไหน
‘ก็ในเมื่อแพรทำงานได้ดีทุกอย่าง ถูกใจท่านประธานทุกอย่าง ดังนั้นการแต่งกายของแพรก็ไม่จำเป็นต้องตามสมัยนิยม หรือเปิดเผยเนื้อตัวเหมือนกับสาวๆ สมัยนี้ได้ใช่ไหมคะ’
ซึ่งแน่นอนว่าเขาตอบว่า ‘ใช่’ และก็ไม่ก้าวก่ายการแต่งตัวที่เฉิ่มเชยของชมพูแพรอีกเลย ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
“โอเค”
ชมพูแพรมองใบหน้าหล่อจัดยิ่งกว่าเทพบุตรของนายจ้างผ่านแว่นหนา เก็บรายละเอียดของเครื่องหน้าสมบูรณ์แบบอย่างฉกฉวยโอกาส และไม่ต้องการให้อองเดรเห็น
เขาจะรู้ไม่ได้ว่าเลขาฯ เฉิ่มที่ตัวเองยกย่องว่าทำงานยอดเยี่ยมตกหลุมรักเขาจังเบ่อเร่อมาตั้งแต่วันแรกที่ก้าวเข้ามาทำงานที่นี่
เกือบห้าปีแล้วสินะที่หล่อนต้องเก็บซ่อนความรู้สึกที่แท้จริงของหัวใจเอาไว้ใต้แว่นหนา เจ็บปวดทุกครั้งที่เห็นเขาอยู่กับผู้หญิงคนอื่น และก็เจ็บปวดเสมอที่รู้อยู่เต็มอกว่าอองเดรไม่เคยมองหล่อนด้วยสายตาของผู้ชายคนหนึ่งเลย
ในสายตาของอองเดร หล่อนก็แค่เลขาผู้ทรงประสิทธิภาพ ทำงานยอดเยี่ยม แค่นี้... ใช่แล้วล่ะ สำหรับเขาแล้วหล่อนก็เป็นได้แค่นี้จริงๆ
ชมพูแพรระบายยิ้มปั้นแต่งเพื่อกลบเกลื่อนความทุกข์โศกในหัวใจ ซึ่งแน่นอนว่าหล่อนทำมันได้อย่างยอดเยี่ยมมาตลอด เพราะอองเดรไม่เคยสงสัยเลย
“งั้นแพรขอตัวออกไปเตรียมเอกสารประชุมต่อนะคะ”
“เดี๋ยวก่อน”
คำพูดของท่านประธานสุดหล่อ ทำให้เท้าขาวสะอาดในรองเท้าส้นเตี้ยสีดำชะงักกึก หล่อนหันกลับมาจ้องมองผู้เป็นนายจ้างอีกครั้ง
“มีอะไรเหรอคะท่านประธาน”
ท่าทางของอองเดรในตอนนี้เต็มไปด้วยความอึดอัด และก็แปลกไปจากทุกครั้ง นั่นทำให้หล่อนอดที่จะคาดเดาไม่ได้
“หรือว่าผู้หญิงที่แพรจัดส่งไปให้เมื่อคืน ทำตัวไม่ดีคะ”
มือใหญ่ยกขึ้นโบกไปมา เป็นเชิงปฏิเสธว่าสิ่งที่หล่อนคิดมันไม่ถูกต้อง
“ลินเซ่ถูกใจผมมาก”
ทำไมหัวใจของหล่อนต้องเจ็บแปลบรุนแรงขนาดนี้ด้วยนะ ทั้งๆ ที่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้ยินเขาเอ่ยชมผู้หญิงต่อหน้า
“แล้วท่านประธานมีอะไรไม่สบายใจคะ”
ตอนที่ 28. ตอนอวสาน “ท่านประธาน... จะทำอะไรคะ” หล่อนกระซิบกระซาบถามเขาเบาๆ แต่อองเดรเพียงแค่ยิ้มหวานตอบมาเท่านั้น “ผมมีเรื่องจะประกาศให้ทุกคนทราบ” น้ำเสียงของอองเดรทรงพลัง มีอำนาจ และเต็มไปด้วยความเป็นผู้นำ ชมพูแพรมองเหล่าพนักงานที่นั่งนิ่งบนเก้าอี้สีน้ำเงินที่ตั้งเรียงรายเบื้องหน้าด้วยความหวาดหวั่นไม่น้อย “ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ชมพูแพรจะสิ้นสุดหน้าที่ในตำแหน่งเลขาฯ ของผม” ชมพูแพรเงยหน้าขึ้นมองคนที่สูงกว่ามากด้วยดวงตาที่เบิ่งกว้างตกใจ เสียงฮือฮาเซ่งแซ่ดังกังวานในกลุ่มของพนักงานเหล่านั้น แต่ไม่ช้าก็ต้องเงียบกริบลง เมื่ออองเดรพูดออกมาอีก “แต่เธอจะถูกเลื่อนขั้นให้ขึ้นมาเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของผมแทน” คราวนี้เสียงเซ่งแซ่ดังกังวานยิ่งกว่าเดิม ทุกคนคงตกใจ แปลกใจ และเหลือเชื่อ ซึ่งก็ไม่ต่างจากหล่อนเลยสักนิด “ท่าน... ประธานพูดอะไรคะเนี่ย” อองเดรมองหน้าหล่อน เขาล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วก็หยิบแหวนเพชรออกมา “แต่งงานกับผมนะ ชมพูแพร” คราวนี้เสียงเซ่งแซ่เปลี่ยนเป็นเสียง
ตอนที่ 27. “ไม่ใช่แค่เลขาฯ แต่คุณเป็นมากกว่านั้น” “ท่านประธาน... พูดอะไรคะ...” หล่อนถามกลับเสียงเบาหวิว หัวใจเต้นโครมครามลั่นอก “แม้ผมจะรู้ตัวช้าไปสักนิดว่าคุณมีค่ากับผมแค่ไหน แต่มันก็ไม่ได้สายเกินไป จริงไหม...” คราวนี้เป้าหมายของอองเดรคือปากของหล่อน เขาจูบอย่างดูดดื่ม จูบราวกับต้องการถ่ายทอดความรู้สึกที่มีอยู่ล้นอกให้หล่อนรู้ “อย่าแม้แต่จะคิดไปจากผม... จำเอาไว้นะชมพูแพร ตั้งแต่วันแรกที่คุณเข้ามาทำงานกับผม ชีวิตของคุณก็เป็นของผมแล้ว...” “ท่านประธาน...” นี่เขากำลังทำให้หล่อนหัวใจเต้นแรงมาก และก็ทำให้หล่อนคาดหวังในสิ่งที่ยากจะเป็นไปได้ “ผมจะไม่มีวันปล่อยคุณไปไหน เพราะคุณเป็นของผม ผู้หญิงของผม...” “ถึงท่านประธานไม่พูดแบบนี้ แพร... ก็จะทำหน้าที่อุ้มบุญให้ดีที่สุดค่ะ” “มันไม่เกี่ยวกับเรื่องนั้นเลย เพราะสิ่งที่ผมกำลังพูด มันคือความรู้สึกที่อยู่นอกเหนือจากหน้าที่ใดๆ ทั้งปวง” หัวใจของหล่อนเต้นแรงมากจนแทบจะทะลุออกมาจากอกอยู่แล้ว “ผมพูดขนาดนี้แล้ว คุณยังต้องให้ผมพูดอะไรต่ออีกไหม”
ตอนที่ 26.“มันไม่มีทางเป็นไปได้ ผมเอาคุณแทบจะครบร้อยครั้งแล้วมั้ง ถ้ายังไม่ท้อง ไม่คุณก็ผมคงมีใครเป็นหมันแน่ๆ”“แพร... คิดว่า... แพรจะหาผู้หญิงคนใหม่มาอุ้มบุญให้กับท่านประธาน”“โน หยุดพูดเรื่องนี้เลย เพราะผมไม่ต้องการใครนอกจากคุณ”“แต่คุณแววดาวเธอยังพร้อมจะทำงานอยู่นะคะ แพรเพิ่งคุยกับเธอไป...”หล่อนยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกอองเดรเค้นเสียงเหี้ยมเกรียมใส่“ผมบอกแล้วไง ว่านอกจากคุณแล้วผมไม่ต้องการใครอีก”เพราะดวงตาของเขาดุมาก และน้ำเสียงก็เดือดดาล ทำให้ชมพูแพรไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีกอองเดรสูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ ข่มโทสะ ก่อนจะพูดออกมา“เจอกันเย็นนี้นะ”“ค่ะ”อองเดรเดินจากไปโดยไม่จูบล่ำลาใดๆ คงเพราะเขาโมโหกับคำพูดของหล่อนนั่นเองชมพูแพรขยับตัวลุกขึ้นนั่ง รู้สึกทรมานเหลือเกิน น้ำตาเอ่อล้นขอบตา“แพร... ไม่คู่ควรกับท่านประธานหรอกค่ะ”หล่อนก้าวลงจากเตียง เดินไปหยุดที่หน้าต่างห้อง มองท้ายรถหรูของอองเดรที่หายวับออกไปนอกรั้วใหญ่ผ่านม่านน้ำตา บริษัทที่หล่อนถูกเรียกมาสัมภาษณ์เป็นบริษัทเล็กหากเทียบกับบริษัทของอองเดร ชมพูแพรก้าวเดินตรงเข้าไปในห้องประชุม ซึ่งมีผู้ชายวัยใกล้เคียงกันกับอองเด
ตอนที่ 25. “ไม่... เป็นไรค่ะ แพรค่อยยังชั่วแล้ว” หล่อนเดินไปหย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้ทำงาน โดยมีเขาเดินตามมาประชิดตัว “อย่าทำหน้าเศร้าแบบนี้สิ” มือใหญ่ดึงแว่นหนาออกจากใบหน้าของหล่อน และจ้องมองเข้ามาในดวงตาอย่างพิจารณา “ยิ้มให้ผมหน่อยสิ ผมจะได้มีแรงทำงานต่อ” หล่อนฝืนยิ้มให้กับอองเดร พยายามที่จะยิ้มให้เป็นธรรมชาติที่สุด และก็ทำได้เยี่ยมเลยทีเดียว อองเดรระบายยิ้ม เอามือหนาสอดใต้ท้ายทอยของหล่อน ก่อนจะประกบปากลงมาหา บดจูบอย่างดูดดื่มเต็มไปด้วยอารมณ์หวาม ความเศร้าใจค่อยๆ จางหายไป เมื่อถูกความหวานฉ่ำของอองเดรเติมเต็มเข้ามาในความรู้สึก มือเล็กยกขึ้นโอบลำคอแกร่ง และหล่อนก็ลุกขึ้นยืน เผยอปากจูบตอบเขาด้วยอารมณ์เดียวกัน “อืมมม...” อองเดรจูบจนปากหล่อนบวมช้ำ ก็ผละออกห่าง ก่อนจะพูดเสียงพร่า “ต้องแบบนี้สิ ถึงจะเป็นเลขาคนเก่งของผม” หล่อนแก้มแดงก่ำ เม้มปากเบาๆ กำลังจะนั่งลง แต่ก็ถูกอองเดรเอื้อมมือมากุมเอวคอดเอาไว้ พร้อมกับยกหล่อนลอยข้ามโต๊ะทำงานไปเลยทีเดียว “อ๊ะ... ท่านประธาน” เขา