“ปลาทู ยิ้ม นี้ปันปัน น้องรหัสพี่” มาวินแนะนำสาวน้อยหน้าตาน่ารักภายใต้แว่นกรอบหนาให้สองสาวรู้จัก ปลุกให้คนที่กำลังอยู่กับความคิดตัวเองได้สติ
“เราเรียนสาขาและห้องเดียวกันค่ะ” ยิ้มอธิบาย ขณะที่ปลาทูก็มีสีหน้าคล้ายคนที่พึ่งจะนึกออก
“ใช่ๆ จำได้ล่ะ” ปลาทูนั้นพอจะเคยเห็นปันปันอยู่บ้าง เพียงแต่อีกฝ่ายนั้นค่อยข้างเป็นคนที่เงียบขรึม เราเลยไม่ค่อยได้คุยกัน “งั้นยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการนะปันปัน”
“อึม” เจ้าของชื่อขานรับในรลำคอ พลางระบายยิ้มบางๆ ไม่ใช่ว่าหยิ่ง แต่เธอแค่เป็นประเภทที่ไม่ชอบเข้าสังคม ติดสันโดษ จะเรียกว่า Introvert ก็คงไม่ผิด นี่ถ้าพี่รหัสไม่ชวนมาเธอคงจะนั่งเขียนนิยายอยยู่ในห้อง
การินกับเพทายก็แนะนำหญิงสาวน้องรหัสของตัวเองให้ทั้งสามรู้จักบ้าง ทำให้ปลาทูเริ่มจะพูดมากขึ้นเพราะเป็นคนพูดไม่หยุดอยู่แล้ว
“งั้นวันนี้พวกเราอยากดื่มอะไรก็สั่งเลยนะ พวกพี่เลี้ยงเอง”
“เย้!” สาวๆรุ่นน้องชอบใจก่อนที่เพทายจะยกมือเรียกพนักงาน ทุกคนสั่งกันเรียบร้อยปลาทูก็เตรียมจะอ้าปาก
“คอสโม” อคิณสั่งแทน คอสโมโพลิแทนเป็นเครื่องดื่มที่มีเหล้าน้อย ดื่มง่าย น่าจะเหมาะที่สุดสำหรับคนที่ไม่เคยดื่มแอลกอฮอล์อย่างเธอ
“เดี๋ยวนะ” อาเธอร์ถึงกับต้องหันมาท้วง “ใจคอมึงจะให้น้องดื่มแค่น้ำผลไม้หรือไงวะ”
“เออ มาเที่ยวทั้งทีก็ต้องเอาให้สุด” การินเสริม
“สุดผ่อง” นี่ถ้าไม่เกรงใจเขาคงใช้คำแรงกว่านี้ ก่อนจะหันไปสั่งพนักงาน “ตามนั้นแหละ”
พนักงานเดินออกไปแต่ปลาทูยังชะเง้อคอมอง ที่จริงก่อนหน้านี้พอรู้ว่าต้องมาผับ เธอก็ลองค้นหาเครื่องดื่มแต่ละประเภทเช่นกัน แล้วอีที่พี่คิณสั่งเธอนั้นก็เหมือนจะใส่เหล้าไปแค่นิดเดียวเอง เลยอดไม่ได้ที่จะส่งสายตาใส่เขา
ใจคอพี่คิณคงจะไม่ยอมให้เธอได้เลือกอะไรเองเลยสินะ
“อะไร?” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามเมื่อเห็นคนตัวเล็กมองแรงใส่ แต่ความนุ่มนิ่มของเรียวขาขาวก็ทำเอาอดไม่ได้ที่จะเกลี่ยเบาๆด้วยนิ้วโป้ง ส่งผลให้ขนขาของปลาทูลุกขึ้นเกลียว แล้วประเด็นคือปัดออกไม่ได้ด้วยนะ พอบอกก็หันมาทำหน้าดุใส่อีก
ช่างไม่รู้เลย...ว่าคนโดนมันรู้สึกวูบวาบ
สองชั่วโมงต่อมา
โบนัสติดธุระพึ่งมาถึง ตอนแรกเขาจะนั่งที่ว่างข้างปลาทูแต่เพทายก็ย้ายมานั่งตัดหน้า ทำให้ต้องนั่งลงข้างยิ้มแทน เป็นที่พึงใจเพื่อนตัวดีที่ยังวางลำแขนแกร่งบนขาน้อง ตั้งใจบังสายตาของใครหลายๆคนที่จงใจเหลือบมองเรียวขาขาว โดยเฉพาะไอ้เด็กเวรนั้น จ้องมาอยู่ได้ สายตาหื่นๆของมันนั้นเขาดูออก
ใบหน้าหวาน ระเรื่อขึ้นเรื่อยๆตามระดับแอลกอฮอล์ในเลือด ที่ดื่มไปไม่ต่ำกว่าสิบแก้ว จากที่พูดคุยไม่หยุดปาก ตอนนี้ได้แต่นั่งยิ้มมองทุกคนแล้วหัวเราะ
“ปลาทู เราอยากเข้าห้องน้ำ” ยิ้มเดินมากระซิบบอก ที่จริงเธอปวดนานแล้วแต่เห็นว่าปลาทูยังพูดคุยสนุกปากจึงไม่อยากขัด เธอเองก็พึ่งเคยมาเที่ยวครั้งแรกจึงไม่ชินกับสถานที่แบบนี้
“อ่า ไปสิ” นั่งนานเธอก็จะไม่ไหวเช่นกัน แต่เพราะว่าใครอีกคนยังวางแขนบนตักจึงต้องบอกกล่าวเขาก่อน “ปลาทูจะไปเข้าห้องน้ำค่ะพี่คิณ”
ไม่อยากจะเชื่อว่าพอแอลกอฮอล์เข้าปากแล้ว เธอจะสามารถคุยกับเขาได้บ้างอย่างไม่รู้สึกอึดอัดเหมือนหลายชั่วโมงก่อน
“อึม ฉันไปส่ง”
“ไม่ๆ” แตะแขนห้าม “ผู้หญิงไปกันเองน่าจะสะดวกกว่าค่ะ” ว่าจบก็ลุกขึ้นในทันที แต่แล้ว...
“เฮ้ย!/เฮ้ย!”
ราวกับโลกหมุนจนซวนเซเหมือนคนหมดแรง แทบจะล้มหน้าคว่ำ ทำเอาทั้งโต๊ะตกอกตกใจยกมือจะรับตัว แม้แต่เพทายที่ไม่ค่อยพูดยังร้องเสียงหลง อคิณจึงรวบเอวบางมานั่งลงกับตักตัวเอง
พรึบ!
“ไหวหรือเปล่า?” น้ำเสียงเป็นห่วง
“แผ่นดินไหวเหรอ สะเทือนแรงมาก” พอได้รับคำตอบทุกคนก็ระบายยิ้มบางๆ บ้างก็กลั้นขำในความคิดเด็ก
“กูว่าเมา”
สภาพนี้กูว่าอีกเดี๋ยวมีภาพตัด”
“มึงรีบพากลับบ้านเถอะ”
“งั้นผมไปส่งปลาทูเองครับ” โบนัสเสนอตัว เตรียมจะเข้ามาซ้อนร่างปลาทู แต่มีเหรอที่คนพี่จะยอม
“ไม่ต้อง” สายตาคมนิ่งงัน พร้อมสอดแขนช้อนคนเมาขึ้นไว้ในอ้อมแขนแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนจะเน้นย้ำในน้ำเสียง “คนของกู กูดูแลเองได้”
โบนัสอึ้งไปชั่วขณะกับประโยคที่ฟังแล้วรู้สึกตงิดๆ คล้ายว่าอีกฝ่ายกำลังจะสื่ออะไรบางอย่าง
“เดี๋ยวมึง” เพทายรั้งเพื่อน ถอดแจ๊คเกตแล้วคลุมขาเด็กน้อย อคิณจึงพยักหน้าเป็นการขอบคุณ หันไปบอกลายิ้มเพื่อนของเด็กน้อยแทนก่อนจะแยกออกมา
“พี่คิณ ปลาทูยังไม่เมา ยังไม่อยากกลับ” บนพึมพำน้ำเสียงยานคาง มึนหัวจนต้องซบหน้าลงกับอกแกร่ง
“ขนาดนี้แล้ว ยังจะบอกว่าไม่เมาอีก” ส่ายหัวเบาๆ ลืมไป คนเมาที่ไหนจะบอกว่าตัวเองเมาวะ
อคิณอุ้มคนตัวเล็กมาจนถึงรถก็ค่อยๆวางร่างบอบบางลงกับเบาะ รัดเข็มขัดให้เรียบร้อยก็กลับไปนั่งฝั่งตัวเอง มองความเรียบร้อยของคนข้างๆก็เอาเสื้อของเพื่อนมาปิดเรียวขาไว้ดีๆ กลัวตัวเองจะจิตใจวอกแวก
คนเมาหลับตลอดทางกลับบ้าน เลยไม่รู้ว่าใครอีกคนเอาแต่ลอบมองตัวเองเป็นระยะ
พอถึงที่หมายอคิณก็เป็นฝ่ายอุ้มคนตัวเล็กเข้าบ้าน ตรงขึ้นไปยังชั้นสองห้องของคนไม่ได้สติ ไม่คิดจะเปิดไฟเพราะจำพื้นที่ภายในบ้านหลังนี้ได้ทุกตารางนิ้ว บวกกับแสงไฟจากด้านนอกที่ส่องเข้ามา พอให้ได้เห็นทาง
บนเตียงกว้างขนาดคิงไซส์เต็มไปด้วยตุ๊กตาเป็ดเหลือง ส่วนใหญ่ขะเป็นเขาที่ซื้อให้ แอบงงว่าน้องชอบสีชมพูแต่เห็นเป็ดสีเหลืองทีไรเป็นต้องอ้อนให้ซื้อให้ทุกครั้ง แล้วไม่มีสักครั้งที่เขาจะปฏิเสธ
อคิณเลือกวางคนหลับสนิทตรงที่ว่าง คาดว่าคงเป็นที่ประจำของเธอ มือหนาจัดการถอดรองเท้าถุงเท้าให้เสร็จสรรพ เอาผ้าห่มคลุมให้ถึงอก ดูแลประดุจแฟน ทั้งที่ผ่านมายังไม่เคยทำให้ใครแบบนี้มาก่อน
ก่อนออกไปก็มานั่งคุกเข่าลงข้างเตียง ลอบมองใบหน้าหวานอย่างที่ไม่คิดจะทำแต่วันนี้ไม่รู้ว่าเป็นอะไร “ฝีนดีนะ ยัยตัวแสบ” มุมปากจุดรอยยิ้มบางๆ ขณะเกลี่ยปอยผมทัดหูให้อย่างเบามือ
อยากให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิม
“รู้ไหมว่าพวกพ่อๆกับแม่ๆเป็นห่วงมากแค่ไหน?”“ทำไมไปไหนไม่บอกไม่กล่าว?”“โทรไปก็ไม่ติด แม่เป็นห่วงจนจะบ้าแล้วลูกเอ้ย”ทั้งอคิณและปลาทูต่างก็ก้มหน้ารับฟังคำด่า เหตุเพราะหายไปกันทั้งคืนแล้วไม่ติดต่อใคร เวลานี้เอกภพกับปราณีก็บินมาด้วย ทำให้ทั้งคู่โดนสองต่อ จนหูแทบชา และด้วยความที่เป็นเด็กขี้อ้อน ร่างเล็กจึงเดินเข้าไปสวมกอดแม่ของสามี กอดแม่ตัวเองไม่ได้เดี๋ยวโดนเพิ่มข้อหา“แม่ณีขา อย่าโกรธเลยนะคะ คือพี่คิณขาเขาแค่อยากชวนหนูไปดูพระอาทิตย์ขึ้นเองค่ะ” ไหนๆก็ไหนๆ รู้วิธีเอาตัวรอดเป็นยอดดี โยนขี้ให้พี่แม่งเลย!“หึ?” ชายหนุ่มได้แต่ขมวดคิ้วมองภรรยาตัวน้อยด้วยความกล้ำกลืน แล้วใครมันบอกว่ามีอารมณ์วะ แม่ง!“ตาคิณ นี่แกพาน้องไปเกเรมาเหรอ?” เอกภพหันไปเท้าสะเอวใส่ลูกชาย โมโหจริงๆ เขากับภรรยาบินมาถึงตั้งแต่เช้ามืด ไม่ได้พงไม่ได้พักอะไรเลย ก็ต้องมากังวนใจเพราะไอ้ลูกตัวดี“แต่จริงๆ อคิณตามใจยัยตัวแสบตลอดนะ ไม่มีทางที่อคิณจะพาน้องไปเอง” ดารีรู้จักลูกสาวดีจึงค้าน “ดาว่ามันต้องมีอะ...”“มันจะมีอะไรล่ะน้องดา เจ้าคิณน่ะฟังใครที่ไหน” ปราณีขัดจังหวะ พลางลูบหัวลูกสะใภ้อย่างรักใคร่ ประหนึ่งว่าเด็กน้อยไม่ผิด “นี่ก็คง
อึก!อคิณถึงกับลอบกลืนน้ำลาย คำพูดคำจาของเด็กน้อยมันชวนให้หัวใจซาบซ่านเหลือเกิน“สนองมันหน่อยสิครับคนดี ซี๊ด” เป็นต้องซูดปากแรงๆ กำเบาะแน่นระบายความเสียดเสียว เด็กน้อยอ้าปากครอบเข้าไปเกือบครึ่งลำ ไม่รีรอใดๆผงกหัวขึ้นลง แรกๆก็เนิบนาบแต่สักพักก็เร่งจังหวะ โดยใช้มือสาวตรงโคนไปด้วยจ๊วบ!ปากเล็กดูดดุนจนแก้มตอบ ราวกับแท่งเอ็นร้อนคือไอศกรีมรสช็อคโกแลตชิปกับชาเขียว ที่กินเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อไม่อิ่ม รัญจวนหัวใจดวงโตจนต้องขบกรามแน่น ครางเสียงเร้าร้อนดังระงมทั้งคันรถใบหน้าหวานก็ช้อนขึ้นมามองสบตาคม มันยิ่งเป็นเชื้อเพลิงปลุกกำหนัดให้เตลิด เผลอกลั้นหายใจตอนที่น้องดูดหัวเห็ดแล้วส่งยิ้มให้กันทางสายตา เล่นเอาเกร็งหน้าขาจนปวด“อ่า อย่าดูดหัว พี่เสียวค่ะ”“แล้วไม่ชอบเหรอคะ?”โห เสียงหวานขนาดนี้ กะจะไม่ยอมให้ได้เกิดกันเลยดิ“ชะ ชอบครับ อ่า” คนเสียวจัดแทบทนไม่ไหว รู้สึกทรมานเหมือนคนใจจะขาด รวบผมสลวยเอาไว้ในมือแล้วกำแน่น ขณะเดียวกันก็จ้องมองแก่นกายที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดผลุบเข้าออกไวๆคับปากอุ่นชื้น น้ำลายไหลเลอะไปทั้งท่อนเอ็น กระสันจนต้องร้องขอชีวิต “เธอครับ เบาๆ เดี๋ยวพี่แตก อือ ปลาทู หนู ที่รักพี่จะตายค่
หน้าร้านยุ่งวุ่นวายเมื่อลูกค้ามาราวกับงานลดแลกแจกแถม ปลาทูเห็นว่าพี่ๆคนอื่นรับออเดอร์ไม่ทัน จากที่กำลังช่วยเช็ดแก้ว มือเล็กจึงหยิบเอาไอแพดที่ว่างอยู่ไปรับลูกค้าแทนหลังจากรับออร์เดอร์เรียบร้อยแล้วก็วิ่งไปดูที่หลังร้าน ถึงจะเคยทำมาก่อนแต่ก็ใช่ว่าจะจำได้หมดทุกอย่าง ที่เข้ามาก็เพื่อจะอธิบายกับพ่ออีกทีว่าลูกค้าไม่เอาอันนั้น ไม่เอาอันนี้ ก่อนจะถืออาหารลูกค้าออกไปด้วย ทว่ายังไม่ทันจะผ่านพ้นประตู“ที่รักครับ” เสียงอ้อนแบบนี้รู้เลย คนรู้งานเดินกลับไปหาสามีหนุ่มแล้วยื่นแก้มให้ ขณะที่เขาก็ก้มลงมาหอมแก้มเธอโดยไม่นึกจะสนใจสายตาของคนอื่นๆ ขอให้ได้ชื่นใจ ไม่กี่วินาทีก็เอา จนถูกพ่อแซว“วิทย์ ผัดไทยไม่ต้องเติมน้ำตาลนะ” ทั้งสองต่างหันมามองหน้ากันแล้วหัวเราะ ก่อนจะแยกกันไปทำหน้าที่ใครหน้าที่มัน เวลาผ่านไปจนถึงสามทุ่มกว่า ใบสั่งอาหารก็เริ่มน้อยลง อคิณจึงออกมาดูหน้าร้าน ดันตาไฟเห็นเมียเด็กกำลังถูกลูกค้าชายส่งสายตาลวนลาม ไม่พอยังยื่นโทรศัพท์มาให้เธออีก จึงก้าวขายาวๆเดินผ่านโต๊ะที่พ่อตาแม่ยายนั่งอยู่ใกล้ๆหมับ!ฝ่ามือหนารวบเอวบางเข้ามาประชิดตัว ประคองดวงหน้าหวานละมุนแล้วก้มลงทาบริมฝีปากกับเรียวปากอมชมพู
วันต่อมาหลังจากที่กึ่งหลับกึ่งตื่นมาค่อนคืน เพราะร่างกายยังปรับเวลาไม่ทัน ทำให้ช่วงเช้าปลาทูเกิดอาการสะลึมสะลือ เผลอนอนลากยาว ตื่นอีกทีก็บ่าย ไม่ทันได้เจอพ่อกับแม่ที่ออกไปทำงานตั้งแต่แปดโมงเช้า“ตื่นแล้วเหรอคะ?” เห็นร่างบางเดินออกจากห้องนอนมา อคิณจึงละจากงานขึ้นมองน้อง สีหน้าอ่อนล้า มันช่างต่างกับเมื่อวานลิบลับ “นอนต่อไหม หน้าเมียพี่ดูง่วงจัด”“ง่วงค่ะ” ว่าแล้วก็เดินมาหา คนเป็นพี่จึงวางโน๊ตไว้บนโต๊ะแล้วตบหน้าขา คนตัวเล็กเข้าใจก็ขึ้นไปนั่งบนตักแล้วยกมือขึ้นโอบรอบลำคอหนา “หิวหรือเปล่า อยากกินไรไหม?” ก้มลงจุมพิตขมับน้อย ซึ่งน้องก็พยักหน้า “งั้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าค่ะ ไปหาพ่อทินกับแม่ดากัน”“ค่ะ” น้ำเสียงงัวเงีย เสียงทุ้มหัวเราะในลำคอก่อนจะสอดแขนเข้าใต้ข้อพับแล้วอุ้มคนตัวเล็กไปส่งที่ห้องน้ำ จัดเตรียมข้าวของเสื้อผ้าให้เสร็จก็ออกมาทำงานต่อรอไม่นานน้องก็ออกมาด้วยชุดเดรสกระโปร่งแขนตุ๊กตาน่ารัก ข้างนอกอากาศเย็นจึงมีเสื้อแขนยาวใส่ทับไปอีกตัว ในขณะที่เขาแต่งตัวด้วยเสื้อยืดกางเกงสแล็กและตามด้วยเสื้อโค๊ทอีกที“รถสวยจังค่ะ” ปลาทูตาโตกับรถยนต์คันใหม่ของพี่ที่ผู้เป็นพ่อซื้อให้ ใบหน้าหล่อเหลาฉีก
ความเย็นสบาย ทำให้ดูการ์ตูนยังไม่ทันจะถึงครึ่งเรื่อง คนตัวเล็กก็นอนหลับซบอยู่กับอกแกร่ง ตื่นมาก็ตอนที่ใกล้จบเรื่องแล้ว ดวงตาคู่น้อยเปิดสนิท ท้องไส้ทำงานเมื่อเห็นอาหารและของหวานมารอพร้อม“พี่คิณขากลับที่ได้แล้วค่ะ” “ตื่นมาก็ไล่ผัวนี่คือไร?” “ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ” เห็นพี่ชักสีหน้าใส่ก็รีบอธิบาย “หนูหิว พื้นที่วางมันนิดเดียวเอง แค่ส่วนของหนูก็เต็มโต๊ะแล้วค่ะ”“ออ...นี่เห็นแก่กินจนไม่สนใจผัวคนนี้แล้ว?” กอดอกสะบัดหน้าหนีอย่างแง่งอน “ไม่ใช่นะคะ หนูแค่กลัวว่าพี่คิณจะนั่งกินไม่สะดวก ที่มันแคบเนี่ยเห็นหรือเปล่า?” มีการทำไม้ทำมือวัดพื้นที่ให้พี่ดู แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดี เพราะเขาอยากนั่งอยู่ตรงนี้ อยากนั่งกับเธอ อยากนั่งติดกับเธอ สุดท้ายเธอก็ต้องเป็นฝ่ายยอม “โอเคค่ะ ถ้าพี่คิณขาไม่ลำบาก เรานั่งด้วยกันก็ได้ค่ะ”คนพึงใจผุดรอยยิ้มหวาน สอดมือเข้าใต้รักแร้ของคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ตรงระหว่างขา ยกขึ้นให้มานั่งกับขาข้างหนึ่งของตัวเอง ให้ใบหน้าเราเสมอกัน แล้วนั่งทานข้าวด้วยกันทั้งแบบนั้นมีบ้างที่คนตัวเล็กเขินอายกับสายตาของผู้โดยสารบางท่านที่เดินไปเดินมากับพนักงานของสายการบิน แต่หัวใจก็เต็มเป
1เดือนต่อมาบนเครื่องบินชั้น First Class เครื่องขึ้นได้ไม่นาน อคิณก็ปลดเข็มนิรภัยแล้วเดินไปยังที่นั่งของภรรยาตัวน้อยข้างๆ เธอกำลังตาตื่นกับการหยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปท้องฟ้าและตึกอาคารข้างล่างพื้นดินไม่ว่าจะขึ้นเครื่องมากี่ครั้งต่อกี่ครั้งเธอก็ยังคงเป็นเด็กน้อยเหมือนเช่นวันวานเด็กน้อยปลาทูของพี่อคิณ มันอดไม่ได้ที่จะไม่ล้วงเอามือถือขึ้นมาถ่ายรูปคนตัวเล็กจากทางด้านหลัง พลางเรียกเสียงหวาน “ที่รักครับ” “คะ?” ดวงหน้าละมุนหันมา ปลายนิ้วโป้งก็กดถ่ายทันที ความน่ารักของน้องมันเย้ายวนจนไม่อาจยั้งมือถ่ายแค่หนึ่งรูป ก่อนจะเข้าไปอยู่ใกล้ๆแล้วถ่ายรูปร่วมกัน ก่อเกิดความสุขเล็กๆน้อยๆให้หัวใจได้ชุ่มช่ำ ก่อนจะถูกขัดจังหวะแอร์โฮสเตสสาวสวยมาเสริฟ Welcome Drink “ของผมเอามาไว้ตรงนั้น” ใช้สายตาชี้ไปตรงแท่นวางของ “ที่เดียวกับเมียผมเลยนะครับ” หญิงสาวเหวอไปเล็กน้อย แต่เพียงอึดใจก็ระบายยิ้มบางๆแล้ววางแก้วในส่วนของชายหนุ่มไว้คู่กันกับของเด็กสาวที่เน้นย้ำเพราะเขาเห็นนานแล้วว่าอีกฝ่ายนั้นแอบหันมาส่งสายให้บ่อยๆ ถึงเขาจะไม่เล่นด้วยแต่อย่างน้อยก็ควรออกตัว ไม่อยากให้เรื่องราวมันซ้ำรอยเดิม ก่อนจะขอให้เธอปรั