Share

บทที่ 3

Author: ชาผลไม้
คงจะดีมากหากทุกสิ่งที่นางฝึกฝนมายังคงอยู่ หากเป็นเช่นนั้น การรักษาพิษออกจากร่างของเจ้าของร่างเดิมก็ไม่ใช่เรื่องยาก

หลังจากกำจัดพิษ หน้าของนางก็จะดีขึ้นอย่างแน่นอน

ฉู่เนี่ยนซีสัมผัสใบหน้าตัวเอง และทันใดนั้นก็นึกบางสิ่งขึ้นมาได้

“เสี่ยวเถา ให้คนเตรียมน้ำร้อนให้ข้าหน่อย ข้าอยากอาบน้ำ หากเตรียมน้ำเรียบร้อยแล้วค่อยเรียกข้า และอย่าให้ใครมารบกวนข้าในระหว่างนี้ ส่วนเจ้าก็ไปให้ท่านหมอจัดการแผลให้ซะ”

หลังจากสั่งการเสร็จ เสี่ยวเถาก็จากไป และฉู่เนี่ยนซีก็ปิดประตูอย่างรวดเร็ว

นางกำฝ่ามือแน่น รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยอยู่ข้างใน เมื่อนึกถึงเข็มเงิน จู่ ๆ เข็มก็ปรากฏขึ้นในมือ หรือว่ามิติในโลกอนาคตจะติดตามมาสู่โลกนี้ด้วยอย่างนั้นหรือ?

นางค่อย ๆ หลับตาลง และตามที่คาดไว้ โลกอีกใบค่อย ๆ ปรากฏขึ้นต่อหน้านาง

ฉู่เนี่ยนซีมีความสุขมากที่มันเป็นความจริง มิติยังคงอยู่!

แต่ไม่รู้ว่าทำไมมันถึงเป็นสีเทาไปทั้งหมด มีเพียงมุมเล็ก ๆ เท่านั้นที่ยังคงชัดเจน และมีบางสิ่งวางอยู่ตรงนั้นรวมถึงเข็มเงินพิเศษ อุปกรณ์ฆ่าเชื้อบางอย่าง เช่น แอลกอฮอล์ ผ้าก๊อซ ยาชา มีดผ่าตัด และเครื่องมือทางการแพทย์อื่น ๆ ที่มักใช้ในการรักษาพยาบาล น่าเสียดายที่ไม่มียาพิษ ยาแก้พิษ และอาวุธที่นางทำการวิจัยเอาไว้

ตอนแรกคิดว่าการที่มิติยังคงอยู่ ยาไป๋หลิงที่เธอใช้เวลาพัฒนามาห้าปีก็จะอยู่ที่นี่ด้วย ยาไป๋หลิงเป็นยาที่สามารถรักษาพิษทุกชนิดบนโลกนี้ได้

แต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลย ถ้ายังไม่ได้ผล งั้นเธอก็คงต้องค่อย ๆ รักษาใบหน้าของเธอไป ก่อนอื่นต้องลองใช้วิธีอื่นเพื่อทำให้มันจางลงไปเสียก่อน

“พระชายา น้ำพร้อมแล้วเพคะ”

เมื่อฉู่เนี่ยนซีได้ยินเสียงเรียกจากด้านนอกประตู เธอก็รีบเรียกสติกลับมาและไปที่ห้องอาบน้ำ

“ทำไมเจ้ายังไม่ไปทำแผลที่หน้าผากอีกล่ะ” นางเหลือบมองเสี่ยวเถาและขมวดคิ้วเล็กน้อย

เสี่ยวเถาแตะหน้าผากตัวเองด้วยความตื่นตระหนก และส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว “บาดแผลแค่นี้ สองวันก็หายดีแล้วเพคะ พระชายา โปรดทดสอบอุณหภูมิของน้ำดูก่อนเถิด”

เมื่อฉู่เนี่ยนซีเห็นเช่นนั้น ก็รู้สึกจนปัญญา

เด็กผู้หญิงคนนี้อยู่กับนางมาตั้งแต่จวนมหาเสนาบดี และภักดีต่อนางมากจริง ๆ แต่นิสัยของนางกลับไม่ต่างไปจากเจ้าของร่างเดิมที่ทั้งขี้ขลาดและอ่อนแอ

“รอข้าอยู่นี่สักประเดี๋ยว”

เมื่อพูดจบ ฉู่เนี่ยนซีก็กลับไปที่ห้องนอน จากนั้นไม่นานก็กลับออกมาพร้อมกล่อง ๆ หนึ่งพลางพูดขึ้นว่า "แม้ว่าบาดแผลจะไม่ใหญ่ แต่หากติดเชื้อขึ้นมาจะแย่เอาได้ มันจะทิ้งรอยแผลเป็นไว้ แล้วเจ้าก็จะน่าเกลียด และถูกคนหัวเราะเยาะเหมือนข้า"

“พระชายามิได้น่าเกลียดเลยเพคะ”

ฉู่เนี่ยนซีตกตะลึง มองดูใบหน้าจริงจังของเสี่ยวเถา แล้วจึงยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว

“เจ็บนิดหน่อย ทนหน่อยนะ”

ขณะที่พูด นางก็หยิบผ้าก๊อซ ไอโอดีน และขี้ผึ้งที่เอาไว้ใช้รักษารอยฟกช้ำออกมาจากกล่อง

เสี่ยวเถามองดูขวดรูปทรงประหลาดเหล่านี้ แม้ว่านางจะสงสัยแต่ก็ไม่ได้ถามอะไร

พระชายาเปลี่ยนไปมากหลังจากที่ฟื้นขึ้นมา แต่การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้นางรู้สึกมีความสุข

ฉู่เนี่ยนซีมองไปที่สีหน้าอยากรู้อยากเห็นของนาง แต่อดกลั้นเอาไว้ นัยน์ตาจึงแสดงความพึงพอใจออกมา

นางไม่อาจอาศัยอยู่ในวังนี้ได้ไปตลอด ดังนั้นการที่เสี่ยวเถาจะอยู่กับนางได้หรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับนิสัยของนาง

ความขี้ขลาดสามารถบรรเทาและเปลี่ยนแปลงได้ แต่ถ้าเป็นคนที่ไม่ควบคุมตัวเองและพูดจาเร็วเกินไป ก็อาจประสบปัญหาได้ง่าย

“แม่ของข้าทิ้งสิ่งนี้ไว้ให้ พอแต่งงานท่านพ่อจึงบอกให้ข้าแอบนำเข้ามา ท่านบอกว่าท่านแม่ได้รับมันมาตอนไปเที่ยวน่ะ”

ในความเป็นจริงสิ่งเหล่านี้อยู่ในอีกมิติหนึ่ง แต่สิ่งนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้

ส่วนมารดาของฉู่เนี่ยนซีนั้น ว่ากันว่านางเป็นคนลึกลับมาก และไม่มีใครรู้ว่านางมาจากที่ใด

มารดาของฉู่เนี่ยนซีเสียชีวิตจากการคลอดบุตร เมื่อนางให้กำเนิดฉู่เนี่ยนซี จึงหลงเหลือสิ่งแปลกประหลาดไว้ให้ลูกสาวมากมาย

“เอาล่ะ สองวันนี้อย่าให้แผลโดนน้ำ ไปพักผ่อนเถอะ”

“ให้เสี่ยวเถาพาพระชายาไปอาบน้ำเถิดนะเพคะ”

“ไม่ต้อง ข้าจะไปเอง เจ้าออกไปได้แล้ว” ฉู่เนี่ยนซีโบกมือให้นางออกไป

เสี่ยวเถาลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วจากไปในที่สุด

หลังจากที่นางจากไป ฉู่เนี่ยนซีก็อาบน้ำและนอนลงบนเตียงอย่างรวดเร็ว

เมื่อนึกถึงทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ก็เผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว โดยไม่ทันสังเกตว่าในมุมมืดอีกมิติหนึ่ง หมอกหนาได้จางลงเล็กน้อยแล้ว

เช้าวันรุ่งขึ้น เสียงฆ้องรบกวนความฝันของผู้คน

ฉู่เนี่ยนซีขมวดคิ้วและลุกขึ้นนั่งอย่างไม่สบอารมณ์

ตอนนั้นเอง เสี่ยวเถาก็เดินถือกะละมังใส่น้ำเข้ามา

“พระชายา คุณหนูซ่างกวานเข้าวังมาแล้วเพคะ ท่านอ๋อง...บอกให้พระชายาเสด็จไปที่นั่นด้วย…” เสี่ยวเถาเหลือบมองนางอย่างเป็นกังวล และพูดอย่างระมัดระวัง

“ให้ข้าเข้าไปด้วยงั้นรึ? เขาเสียสติไปแล้วเหรอ!” ฉู่เนี่ยนซีอารมณ์ไม่ดี เพราะความฝันอันแสนหวานของถูกรบกวน เมื่อได้ยินว่าเย่เฟยหลีเรียก ก็ยิ่งรู้สึกโกรธมากขึ้นไปอีก

เขาจะแต่งตั้งนางสนมยังต้องให้นางไปดู ไม่กลัวว่านางจะก่อปัญหาหรือไง?

ในเมื่อเจ้าบ้าไปแล้ว เช่นนั้นก็อย่าโทษข้าก็แล้วกัน!

"ไปล้างหน้าล้างตา เสร็จแล้วเราจะไปดูกัน!"

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 550

    เมื่อได้ยินดังนั้น ฉู่เนี่ยนซีจึงฟาดไปที่ไหล่ของเขาหนึ่งที พลางมองดูสีหน้าเจ็บปวดของอีกฝ่าย “เช่นนั้นท่านก็ถอดเสื้อออก ข้าจะดูแผลให้”เดิมทีไม่รู้สึกอะไร แต่เมื่อเห็นเย่เฟยหลีถอดเสื้อผ้าทีละชิ้นตรงหน้า ฉู่เนี่ยนซีก็หันหน้าหนีด้วยความเขินอาย แม้ว่าเขาจะทำอย่างองอาจ แต่ก็ยังทำให้นางอายจนต้องเบือนหน้าหนี“เสร็จแล้ว”ฉู่เนี่ยนซีหันกลับมาจับแผ่นหลังกว้างของเย่เฟยหลีไว้ แต่นางก็ไม่เขินอายอีกต่อไป เพราะร่องรอยบาดแผลจากการสู้รบในอดีตทำให้ใจของนางสั่นสะท้านนางค่อย ๆ แกะผ้าพันแผลออกทีละชั้น เมื่อแกะชั้นสุดท้าย เย่เฟยหลีก็ทนต่อความเจ็บปวดจนตัวสั่นฉู่เนี่ยนซีรีบโรยผงยาลงบนผ้าผ้าพันแผลทันที ซึ่งไม่เพียงแต่บรรเทาความเจ็บปวดของเย่เฟยหลีเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ปลดผ้าพันแผลออกได้ง่ายขึ้นอีกด้วยผงยานำความเย็นแพร่ไปตามบาดแผลทั่วทั้งแผ่นหลัง เย่เฟยหลีจึงคลายคิ้วที่ขมวดอยู่ช้าๆฉู่เนี่ยนซีมองไปยังบาดแผลไฟไหม้ที่สภาพดูไม่ได้“นอนลงบนเตียง ข้าจะทายาให้ท่านใหม่”“ได้”เย่เฟยหลีทำตามอย่างเชื่อฟัง เขาคว่ำตัวเหยียดยาวอยู่บนเตียงฉู่เนี่ยนซีโรยผงยาอีกขวดบนแผลให้เสมอกัน ผงยานี้ให้ผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 549

    ซุนจื่อซีที่อยู่ข้าง ๆ ไทเฮา ครุ่นคิดแล้วพูดว่า “ท่านป้า เนื่องด้วยจื่อซีและพระชายาหลีอยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่งแล้วจึงได้รู้ว่าหากตระกูลไม่มีการอบรมสั่งสอนที่เข้มงวด พวกเขาก็จะไม่สามารถเลี้ยงดูบุตรีให้เติบโตมาอย่างดีเช่นนี้ได้ ฉู่กุ้ยเฟยต้องถูกใส่ร้ายแน่นอนเพคะ ได้โปรดทรงอย่าปล่อยให้คนบริสุทธิ์ต้องรับผิดอย่างไม่เป็นธรรมเลยนะเพคะ”องค์จักรพรรดิคิดว่าเขาไม่สามารถลงโทษสนมไป๋ได้เพียงเพราะการคาดเดาของหยางเหอ แต่สนมไป๋ ล่วงเกินฉู่กุ้ยเฟยซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งนั่นเป็นความจริงที่แน่ชัด จึงมีรับสั่งให้สนมไป๋ถูกปรับเงินเดือนครึ่งปีและถูกกักบริเวณในตำหนักเป็นเวลาหนึ่งเดือน และไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอกโดยพลการองค์จักรพรรดิมีรับสั่งให้เย่เหลียนและเย่เฟยหลีสืบเรื่องนี้ด้วยกัน หลังจากเหตุการณ์เลวร้ายพ้นผ่าน งานเลี้ยงในพระราชวังก็สูญเสียบรรยากาศที่สนุกสนานไป องค์จักรพรรดิทรงกังวลว่าไทเฮาจะทรงหวาดกลัว จึงประคองไทเฮาเสด็จกลับไปยังพระตำหนักอันชิ่งเพื่อพักผ่อนทุกคนที่หมดสนุกแล้วจึงหยุดทุกอย่างและรีบพากันกลับจวนช่องว่างเล็ก ๆ ของหน้าต่างหน้าต่างสีแดงลายมังกรถูกปิดลงอย่างเงียบ ๆ อย่างไม่มีใครสังเกตเผย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 548

    ฉู่เนี่ยนซีมาอยู่ข้างกายฉู่กุ้ยเฟยร่วมกับหยางเหอ หลังจากจับชีพจรและตรวจดูให้แน่ใจว่านางไม่เป็นอะไรแล้ว ก็สั่งให้คนรับใช้นำเบาะขนห่านมาวางไว้ด้านหลังฉู่กุ้ยเฟยหยางเหอดูเหมือนจะมีอะไรจะพูด แต่นางก็ไม่กล้าพูด ทว่าเมื่อเห็นฉู่กุ้ยเฟยเอนตัวอยู่บนเก้าอี้ หัวใจของนางก็เต้นรัวและสุดท้ายนางก็ลุกขึ้นยืนทันใดนั้นสายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่หยางเหอ นางหายใจเข้าลึก ๆ พลางมองตรงไปที่องค์จักรพรรดิ“โปรดทรงอภัยในความอวดดีของหม่อมฉัน แต่หม่อมฉันไม่สามารถทนเห็นกุ้ยเฟยถูกกล่าวหาอย่างผิด ๆ เช่นนี้ได้ แม้จะเสี่ยงต่อการถูกบั่นหัว แต่หม่อมฉันก็ต้องพูดอะไรบางอย่างเพคะ”“เกิดอะไรขึ้น?”องค์จักรพรรดิทรงโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยและหรี่ตามองไปยังหยางเหอที่กำลังคุกเข่าด้วยใบหน้าแห่งความยุติธรรม“สนมไป๋ที่เข้ามาใหม่ไม่มีความเคารพต่อกุ้ยเฟยเลย เมื่อใดก็ตามที่ได้พบกับกุ้ยเฟย นางมักจะใช้คำพูดที่แฝงเป็นนัยเสียดสีอยู่เสมอ ไม่ก็สาปแช่งให้กุ้ยเฟยรักษาพระโอรสไว้ไม่ได้หรือไม่ก็เสียดสีว่ากุ้ยเฟยไม่คู่ควรกับตำแหน่งสูง กุ้ยเฟยไม่ต้องการโต้เถียงกับสนมไป๋จึงลืมมันไปทุกครั้งเพคะ”“สาวใช้ต่ำช้า กล้าพูดจาว่าร้ายข้าอย่างนั้นห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 547

    เย่เฟยหลีอาศัยโอกาสนี้จับมือนาง รู้สึกดีกับการตรวจดูอย่างละเอียดของอีกฝ่ายพลางพูดเสียงอ่อน “ข้าไม่เป็นไร แค่เป็นแผลนิดหน่อย หมอหลวงจ่ายยาให้ข้าเรียบร้อยแล้ว”“เจ้ามาดูสิ นี่มันคืออะไร?”เย่เฟยหลีพาฉู่เนี่ยนซีไปยังจุดที่เพิ่งเกิดเพลิงไหม้ พื้นถูกไฟไหม้และมีรอยดำเต็มไปหมด เก้าอี้เอียงตะแคงโดยมีขาหักไปฉู่เนี่ยนซีนั่งยอง ๆ พลางใช้นิ้วชี้ขวาสัมผัสพื้น จากนั้นยกมาที่ปลายจมูกสูดดมเบาๆ ก่อนพูดด้วยความตกใจ “มันคือดินปืน แต่ไม่ใช่ดินปืนบริสุทธิ์ มันจึงไม่ทำให้เกิดการระเบิด แค่ติดไฟเร็วเท่านั้น”“ใช่ มีคนโปรยดินปืนประเภทนี้ไว้ตั้งแต่แรก แต่ท้องฟ้ามืดจนมองไม่เห็น คนจึงคิดว่ามันดูเหมือนฝุ่นกรวดทั่วไป”เย่เฟยหลีเหยียดแขนออกไปประคองให้ฉู่เนี่ยนซียืนขึ้นฉู่เนี่ยนซีขึ้นไปที่ลานถงฮวาอีกครั้งและมองไปที่เครื่องมือที่ฉู่กุ้ยเฟยใช้ในการจุดไฟ มันปนเปื้อนด้วยเศษสะเก็ดไฟบางส่วน แม้จะเผาไหม้ได้ แต่มันก็อยู่ได้ไม่นานและเปลวไฟก็ไม่ลุกลามมากเท่ากับดินปืนโดยทั่วไปนางยืนอยู่บนลานพลางมองไปที่เย่เฟยหลี ดวงตาของนางก็ค่อย ๆ ดูน่ากลัวมากขึ้น น้ำเสียงของนางก็เยือกเย็นลงตามลมหนาว“รู้หรือไม่ว่าใครมาที่นี่บ้างก่อ

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 546

    เหล่าขันทีและนางกำนัลที่รีบรุดมาพร้อมกับอ่างน้ำเย็น นำมาราดลงบนเปลวไฟที่อยู่บริเวณรอบ ๆ องค์จักรพรรดิและเย่เฟยหลี ทำให้เกิดเสียงน้ำสาดกระเซ็นเย่เฟยหลีไม่รู้สึกถึงความรู้สึกแสบร้อนที่แผ่นหลัง เขาจึงประคององค์จักรพรรดิลุกขึ้นยืนไทเฮาถูกนางกำนัลอาวุโสซิวเหลียงประคองมา ทว่าพระนางยังไม่หายตกใจ องค์จักรพรรดิทอดพระเนตรเห็นคิ้วคมเข้มของเย่เฟยหลีที่ขมวดเล็กน้อยเพราะความเจ็บปวด จึงทอดพระเนตรมองไปยังแผ่นหลังของเขา พบว่าอาภรณ์สีดำของเขาถูกไฟไหม้เป็นวงกว้าง และร่างกายที่แข็งแกร่งของเขาถูกเปลวเพลิงเผาจนเป็นสีแดงเข้ม เลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผลยิ่งเพิ่มความเจ็บปวดขึ้นไปอีก“ฝ่าบาท” ฉู่กุ้ยเฟยเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ รีบคุกเข่าคำนับด้วยความตื่นตระหนกเย่เหลียนตะโกนทันที “ฉู่กุ้ยเฟย นี่ท่านคิดลอบปลงพระชนม์หรือ? ท่านจงใจล่อลวงทุกคนมาที่นี่เพื่อวางแผนลอบปลงพระชนม์เสด็จพ่อหรือ เอาคนมา จับฉู่กุ้ยเฟยไว้!”“ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่ได้ทำ! หม่อมฉันไม่มีทางทำเช่นนั้นเด็ดขาด! ขอฝ่าบาทโปรดทรงพิจารณาด้วยเพคะ!”เมื่อเห็นเหล่าราชองครักษ์ในชุดเกราะเข้ามาใกล้ ฉู่กุ้ยเฟยก็ตะโกนทูลต่อองค์จักรพรรดิด้วยความตื่นกลัว“โอหัง!

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 545

    ทุกคนเดินไปที่ลานถงฮวาและเห็นว่ามีโต๊ะและเก้าอี้ตั้งอยู่ด้านล่าง อีกทั้งยังมีน้ำชากับผลไม้ที่จัดอย่างประณีตวางไว้ด้วยบนเวทีมีเสาไม้ห้าต้นสูงประมาณหกศอก ติดตั้งล้อมรอบมุมทั้งสี่และด้านบนตรงกลาง เสาไม้ทั้งหมดนั้นถูกพันด้วยเชือกหากมองลงมาจากหลังคาตำหนักที่อยู่ใกล้ ๆ จะรู้สึกว่าเชือกนั้นเปรียบเสมือนใยแมงมุมขนาดใหญ่ที่ปกคลุมเสาไม้ไว้แม้องค์จักรพรรดิจะทรงสับสน แต่พระองค์ก็ไม่ได้ตรัสถามอะไรมากนัก เพียงแค่ทรงยิ้มมุมปากแล้วตรัสกับไทเฮา “ดูเหมือนว่าฉู่กุ้ยเฟยจะมีอะไรใหม่ ๆ มานำเสนอ เสด็จแม่ทรงนั่งลงก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ”เหล่าขันทีและนางกำนัลมาช่วยบรรดาผู้เป็นนายหาที่นั่งเพื่อไม่ให้ทุกคนพากันสับสนวุ่นวายนางกำนัลผู้น้อยจัดให้เย่เฟยหลีและฉู่เนี่ยนซีนั่งด้วยกันที่ฝั่งหนึ่ง ทว่ายังไม่ทันจะได้นั่งลง ก็เห็นหลานชุ่ยที่อยู่ข้าง ๆ เย่หลิงเอ๋อร์เดินมาเชิญฉู่เนี่ยนซีไปพูดคุยหลานชุ่ยมาเชิญนางด้วยตนเอง คงจะไม่มีเรื่องหลอกลวง ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่เฟยหลีอย่างสบายใจ หลังจากทำความเคารพองค์จักรพรรดิและไทเฮา นางก็ตามหลานชุ่ยไปทันใดนั้น ลานถงฮวาก็สว่างขึ้นมาก ทุกคนเงยหน้าเห็นเด็กผู้หญิงอายุราวเจ็ดแปดขวบห

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status