"รู้จักเหรอพี่ไทม์" ธิติมาเมื่อเห็นพี่ชายมีท่าทางแปลกๆ จึงเอ่ยปากถาม ไม่แน่ใจว่าพี่ชายรู้จักผู้หญิงคนนั้นรึเปล่า
"ก็ประมาณนั้น"
"อะไรคือประมาณนั้น"
"แล้วยุ่งอะไรฮะเรา นี่บอกกี่ทีแล้วว่าให้เลิกตามไอ้เจตน์มัน" คนที่โดนน้องซักไซ้เบี่ยงประเด็นมาดุน้องสาวแทน เมื่อยังไม่เลิกตามตื๊อเจตน์สักที
"ไม่ได้ตื๊อ...ก็แค่ชวนกินข้าว"
"นั่นแหละตื๊อ"
"อะไรเล่าพี่ไทม์อะ ไม่เคยเข้าข้างน้องเลย" ธิติมาหน้าบูดบึ้งบ่นพี่ชาย
"ก็เพราะเป็นน้องนี่ไงถึงต้องพูด" ธารณ์เอ่ยขึ้นน้ำเสียงจริงจัง "ไอ้เจตน์มันก็แสดงออกชัดเจนขนาดนั้นว่าไม่สนใจ เราจะไปตามอะไรนักหนา"
"ก็มันชอบนี่ให้ทำไง พี่ไม่เคยชอบใครมากๆ รึไง" เมื่อน้องสาวพูดแบบนั้น ตัวเขาเองก็ได้แต่นิ่งไป
ชอบใครมากๆ เหรอ? ความจริงก็เหมือนจะมีคนที่ถูกใจมากๆ อยู่เหมือนกัน แต่ถึงแม้เธอจะเพียรแสดงออกว่าสนใจเขายังไง ตัวเขาเองก็ไม่อยากข้ามกฎของตัวเองอยู่ดี เข็ดแล้วกับคนใกล้ตัว
ตั้งแต่ตอนเรียนมหาลัย จนตอนนี้.... เพียงเพราะไปต่อกันไม่ได้ เขาต้องสูญเสียคนใกล้ตัวไปมากทีเดียว
ธารณ์มองไปยังคนที่เขาเคยถูกใจ... คนที่ออกตัวว่าชอบเขามากๆ ซึ่งตอนนี้กำลังยิ้มหวานคุยกับหมอที่พยาบาลต่างลงความเห็นว่านิ่งเงียบ เย็นชา ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร แต่ตอนนี้มุมปากกับยกยิ้มน้อยๆ ตอบกลับเธอไปเช่นเดียวกัน
ดูท่าเธออาจจะมีคนที่ชอบมากๆ หลายคน...
"พี่เพ็ญสวัสดีค่าาา"
"อ้าวน้องเพ้นท์ มาตรงเวลาพอดีหมอไทม์เพิ่งได้พักเลย" รวีธารที่หลังๆ เริ่มมาส่งข้าว ส่งกาแฟบ่อยขึ้นจนสนิทกับพยาบาลประจำวอร์ด ส่งยิ้มประจบกลับไปทันที
"ดีจังเลย ออกมาเหนื่อยๆ จะได้กินข้าวเลย นี่เพ้นท์เอาขนมมาฝากพี่ๆ ด้วยน้าาา" เพ็ญนภาและอรดียิ้มเอ็นดูสาวหน้าหวานที่มักจะมีขนมติดไม้ติดมือมาฝากประจำ
"แหมมม! เป็นห่วงเกินลูกค้าเว่อร์" ไม่วายเอ่ยแซวคนที่เมื่อก่อนหิ้วกาแฟมาฝากไว้บ่อยๆ แต่หลังๆ ถึงขั้นมีกล่องอาหาร ทีแรกเธอยังคิดว่าหมอไทม์สั่งกาแฟทิ้งไว้ทุกเช้า หลังๆ เริ่มจะแน่ใจว่าสาวเจ้านี่แหละเป็นผู้สนับสนุนหลัก ตอนนี้น่าจะรู้กันทั่วโรงบาลแล้วมั้งว่าเจ้าของร้านกาแฟตรงข้ามโรงพยาบาล ตามจีบคุณหมอหนุ่มแผนกหัวใจอยู่
"ธรรมดาค่าาาา" ก็เป็นซะอย่างนี้ เจ้าตัวก็เล่นเปิดเผยไม่เกรงใจ ไหนจะแสดงออกชัดเจนถึงขั้นมาส่งข้าวกับกาแฟแค่แผนกนี้โดยเฉพาะด้วย แผนกอื่นให้อีกคนไปส่งแทน ชัดกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
"เดี๋ยวพี่เอาไปส่งให้นะ"
"ขอบคุณค่าาา" รวีธารยื่นถุงใส่อาหารพร้อมแก้วกาแฟ ตามด้วยบัตรสะสมแต้มที่มีตราปั๊มเพิ่มขึ้นเป็นหกช่อง เนื่องจากวันนี้สายเธอรายงานมาว่าหมอไทม์ยังไม่ได้ดื่มกาแฟ ซึ่งสายก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คนหน้าห้องที่เพิ่งเดินหิ้วถุงอาหารเธอเข้าไปนั่นแหละ
รวีธารเดินมานั่งรอโซนด้านนอกที่เป็นเก้าอี้สำหรับรอเรียกคิว เธอกะเวลาเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าน่าจะพอดีกับที่คิดไว้ จึงรีบเดินไปดักตรงหัวมุมทางเข้าห้องน้ำ
นั่นไง โป๊ะเชะ!
สมกับที่แอบดูมาหลายวัน
สต๊อกเกอร์สาวจำเป็นโผล่หน้าออกไปทักทายคนที่เพิ่งเดินพ้นหัวมุมมาทันที
"หมอไทม์คะ!"
"เห้ย!" ธารณ์สะดุ้งโหยงตกใจเมื่ออยู่ๆ คนที่ไม่ได้เจอกันสองวันโผล่หน้ามาไม่ให้สุ้มให้เสียง
"อร่อยไหมคะ"
"อะไรเนี่ย?"
"อาหารไง อร่อยไหมคะ?" เธอยิ้มหวานตอบกลับ จ้องหน้าเขาตาแป๋ว
"ร้านนี้ถามฟีดแบคลูกค้าแบบนี้เหรอ"
"บริการหลังการขายเฉพาะหมอไทม์คนเดียว"
"ถ้าขนาดนี้ผมตอบไม่อร่อยได้รึไง" เขาตอบกลับเซ็งๆ เลิกคิ้วกวนๆ ส่งให้
"ได้สิคะ การไม่พูดกันตรงๆ คือบ่อเกิดของปัญหานะคะ คุณรู้ไหมความจริงแล้วคู่รักที่ทะเลาะกัน จนถึงเลิกหรือหย่าร้างสาเหตุไม่ได้เกิดจากทะเลาะกันนะ แต่เกิดจากคนสองคนไม่คุยกัน"
ไปกันใหญ่แล้ว! อยู่ดีๆ เลยเถิดไปถึงคู่รัก หรือการหย่าร้างกันได้ไง
"โอเค อร่อย" เขาตอบกลับเพื่อตัดจบปัญหา
"ขอบคุณค่ะ" เธอยิ้มกว้างรับคำชม
"แค่นี้ใช่ไหมที่อยากได้ยิน"
"มีอีกค่ะ เย็นนี้ไปทานข้าวกัน"
"ไม่ว่าง"
"พรุ่งนี้ก็ได้"
"ไม่ว่าง"
"งั้นมะ...."
"มะรืนก็ไม่ว่างครับ ยันเดือนหน้าปีหน้าก็ไม่ว่าง" คนตัวเล็กจากที่ยิ้มกว้างอยู่ใบหน้าเริ่มบูดบึ้ง มองเขาอย่างตัดพ้อ จนคุณหมอหนุ่มต้องเบือนหน้าหนี
"งั้นคุณไม่ไปกินข้าวที่ร้านบ้างล่ะ"
"ผมไม่สะดวก"
"ถ้างั้น..."
"ขอตัวครับ" เธอยังพูดไม่ทันจบเขาก็หันหลังเดินกลับไปทางเดิม ไม่เดินเข้าห้องน้ำเหมือนที่ทำเป็นประจำทุกวัน
"นู่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่เอา" รวีธารบ่นพึมพำ ส่งค้อนตามหลังอย่างงอนๆ ทีวันนั้นอะไรก็ได้ อะไรก็ยอม เหอะ!
ถ้าไม่ติดว่าชอบ ว่าอยากได้ คิดเหรอว่าจะมาตามแบบนี้!
"อ่า....พี่ไทม์ลืมที่เพ้นท์พูดไปเถอะค่ะ" คนที่ดีใจจนเผลอลืมตัวพูดเรื่องแฟนเก่ารีบตอบกลับเสียงอ่อยๆ"ลืมไม่ได้หรอก พูดมาสิ""...""เล่ามา" เมื่อเขาพูดย้ำอีกเสียงเรียบเธอจึงเริ่มเล่าเรื่องที่รู้มา"คือเพ้นท์เพิ่งรู้ว่าความจริงพี่พายไม่ได้แย่งพี่..เอ่อ เขาไป แต่พี่พายไปได้ยินว่าเขาพูดถึงเพ้นท์เสียๆ หายๆ แล้วจะหลอกพาเพ้นท์เข้าโรงแรม พี่พายเลยแกล้งไปตีสนิท จะได้พิสูจน์ด้วยถ้าเขารักเพ้นท์จริงจะต้องไม่สนใจพี่พาย แล้วก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆ เขาเลือกที่จะนอกใจเพ้นท์" เธอเอ่ยเล่ารวบรัด จะได้พูดถึงแฟนเก่าให้น้อยที่สุด"..." ธารณ์นิ่งฟัง ทดไว้ในใจถึงไอ้ที่ชื่อก้องภพ บังอาจจะมาลากเมียกูเข้าโรงแรม!"พี่ไทม์โกรธเหรอคะ" เธอเอ่ยถามคนรักเสียงอ่อย เมื่อเห็นเขานิ่งไป"พี่ไม่ได้โกรธเรา" แต่ไอ้เหี้ยนั่น! ได้เจอกันแน่"แล้วทำไมเงียบไป""พี่แค่ดีใจที่เพ้นท์มีพี่สาวที่ดี" เขาพอรู้มาบ้างว่าก่อนหน้านี้พวกเธอไม่ถูกกัน แต่การที่เรวิกาทำแบบนี้กับเพ้นท์ แปลว่าลึกๆ แล้วก็คงรักและเป็นห่วงน้องสาวอยู่เหมือนกัน"นั่นสิคะ วันนี้เพ้นท์ดีใจมาก เหมือนได้ครอบครัวกลับมาเลย รู้สึกตัวเองโชคดีชะมัด ที่มีครอบครัวที่ดี" เธอยกยิ้มก
"พี่ไทม์คะ ชุดนี้มาได้ยังไง" รวีธารคว้าชุดเดรสสีหวานที่แขวนอยู่ในตู้เสื้อผ้า เลิกคิ้วมองคนรักงงๆ"พี่สั่งมาให้ น่ารักดี""อีกแล้วเหรอคะ อาทิตย์นี้สามชุดแล้วนะ"ธารณ์เดินมาหาคนที่หน้ายู่ ฉุดแขนคนรักให้นั่งลงบนตัก หลังจากที่ตนเองทรุดนั่งลงบนเตียง โอบกอดคนตัวเล็กแน่น จมูกโด่งซุกไซ้จากทางด้านหลัง ในขณะที่มือเคลื่อนเข้าไปในเสื้อตัวหลวม"ก็พี่เห็นแล้วอยากให้เพ้นท์ใส่นี่""พี่จะเห็นอะไรแล้วซื้อทุกอย่างแบบนี้ไม่ได้ค่ะ" เธอปรามคนรักเสียงเข้มเพี๊ยะ!"โอ๊ย! เพ้นท์" เขาร้องลั่นทันทีเมื่ออยู่ๆ โดนคนตัวเล็กตีมือเสียงดัง"อย่าเนียนค่ะ""ไม่ได้เนียนสักหน่อย" เขาตอบกลับก่อนจะยื่นหน้าไปหอมแก้มร่างบาง"พี่ไทม์อะ! พอเลยมาคุยกันก่อน" เมื่อเห็นคนรักเริ่มโวยวาย เจ้าตัวจึงอุ้มคนตัวเล็กมานั่งข้างกัน หันหน้าเธอมาสบสายตา เอ่ยถามเธอ"ว่าไงครับ""เพ้นท์รู้สึกว่าของพี่ไทม์เริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ เสื้อผ้าก็จะเต็มตู้แล้ว" รวีธารชี้ไปยังตู้เสื้อผ้าที่นับวันของเขาจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆดูเหมือนจะเยอะกว่าครั้งก่อนที่เขาขนเสื้อผ้ามาอยู่กับเธออีกพอมาคิดๆ ดูก็น่าจะเป็นไปได้ เพราะหลังๆ ธารณ์มักจะเอาเสื้อผ้าใหม่ๆ มาใส่เสมอ ขนจาก
รวีธารสบตากับคนที่มองกันอยู่ทั้งน้ำเสียงและสายตาอ้อนวอน "พี่ไทม์...รักเพ้นท์จริงๆ เหรอคะ""พี่ไม่รู้ว่าสิ่งที่พูดจะทำให้เราเชื่อได้ไหม แต่พี่ยืนยันได้ว่าไม่เคยทำแบบนี้กับใคร พี่ไม่เคยพาใครไปบ้าน ไม่เคยเก็บเสื้อผ้าไปอยู่กับใครที่ไหน ไม่เคยมาตามง้อใครแบบนี้ด้วย" สิ่งที่เขาพูดมา มันก็คงจะเหมือนที่พี่ชากับพี่นาวบอก ว่าบางอย่างการกระทำอาจจะชัดเจนกว่าคำพูด"แล้ว...พี่ไทม์รู้เรื่องเกี่ยวกับเพ้นท์แล้วใช่ไหม" การที่เขาได้เปิดใจคุยกับเฮีย แปลว่าเขาน่าจะรู้เรื่องปูมหลังของเธอ "เพ้นท์ไม่ได้สมบูรณ์แบบ เป็นตัวอัปมงคลของบ้าน""เพ้นท์อย่าพูดแบบนี้" เขาดึงเธอเข้ามากอดแน่น "ทุกสิ่งทุกอย่างไม่เกี่ยวกับเราเลย สิ่งที่มันเกิดขึ้นไม่มีใครห้ามได้""แล้วพี่ไทม์ โอเคใช่ไหม""พี่รักเพ้นท์ ไม่ได้รักปัจจัยอะไรทั้งนั้น ของพวกนั้นไม่ได้ทำให้พี่รู้สึกว่าคุณค่าเราจะลดลงสักนิด" ไม่เกี่ยวเลยว่าเธอจะเป็นลูกเต้าใคร ใครจะเป็นเมียหลวงเมียน้อย เขารักที่เธอเป็นเธอแค่นั้น"พี่ไทม์...""เพ้นท์พี่รู้...ที่ผ่านมา พี่ไม่เคยพยายามอะไรให้เห็นเลย ขนาดจีบพี่ยังไม่เคยทำ แต่ถ้าจะให้พี่มาตามจีบเรากลับพี่คงทนไม่ไหว ไม่ใช่พี่จะอดทนเพื่อเ
"ตอนนี้คุณไทม์ยังโทรมาไม่หยุดเลยค่ะ" รวีธารหน้าเจื่อนโชว์หน้าจอให้พี่สาวทั้งสองคนดู ใบชาปรายตามองก่อนจะเอ่ยตอบกลับ"ไม่ต้องสนใจเพ้นท์ ใจแข็งไว้""ใช่ เราไม่ได้ทำอะไรผิด พวกนั้นนั่นแหละผิด" ตามด้วยลัลนาที่พูดขึ้นน้ำเสียงจริงจัง"พี่นาวกับพี่ชาโกรธมากเลยเหรอคะ ความจริงไม่ใช่ความผิดหมอพีร์กับหมอหมอกเลยนะคะ เป็นเพราะคุณไทม์ต่างหาก" คนที่คล้ายเป็นต้นเหตุพูดขึ้นอย่างรู้สึกผิด ที่ทำให้พวกเขาทะเลาะกัน"เพ้นท์อย่างพวกพี่จะไปโกรธอะไรพวกนั้น" ใบชาหัวเราะน้อยๆ ตอบกลับยิ้มๆ"อ้าว ก็เห็นพวกพี่ดูโกรธมาก แถมหนีกันมาอีก""พวกพี่ไม่ได้โกรธ แล้วก็ที่มานี่ไม่ได้หนี แต่อยากมา" ดาราสาวตอบกลับอย่างเอ็นดู"อยากมาเหรอคะ?""เห้อ! น้องน้อย เราซึมซับบรรยากาศเที่ยวแบบนี้ไว้นะ เพราะต่อไปเราจะไม่ได้มาอีก" ใบชาเอ่ยเตือน"ทำไมคะ?""ก็หมอไทม์ไม่มีทางปล่อยให้เรามา เหมือนกับหมอกแล้วก็คุณพีร์ไง""อ้าว แล้วที่เรามานี่คือ...""พวกพี่อยากมา เลยถือโอกาสแกล้งงอนไปเลย อย่างน้อยเที่ยวที่กรุงเทพฯ ไม่ได้ที่นี่ก็ไม่เลว" ลัลนายกตอบกลับยิ้มๆ ยกแก้วตรงหน้าขึ้นดื่ม"นี่เรื่องจริงเหรอคะเนี่ย""หมายถึงเรื่องไหน เรื่องที่พวกพี่แกล้งงอน ห
รวีธารมองคนที่นั่งอยู่บนโซฟากว้างกลางห้อง หลังจากที่กลับมาถึงรีสอร์ต เขาก็ขอเข้ามาพักในห้องเธอก่อนเนื่องจากตัวเขายังไม่ทันได้จองห้อง มาถึงก็ไปตามหาเธอเลย คนตัวสูงส่งยิ้มมาให้เมื่อเห็นเธอยังคงจ้องมองนิ่ง ปากก็บ่นว่าปวดขาปวดตัวอะไรสักอย่าง"คุณอยากได้อะไรไหม" เธอไม่รู้ว่าเขาอยากได้ยา หรือของกินอะไรไหม"พี่แค่อยากอยู่กับเพ้นท์" รวีธารไม่ตอบอะไร เดินไปหยิบขนมปังที่เธอซื้อตุนไว้เผื่อหิวช่วงกลางคืนเนื่องจากรีสอร์ตแห่งนี้ เน้นการพักผ่อนแบบธรรมชาติ จึงค่อนข้างห่างไกลในตัวเมืองหรือร้านค้าพอสมควร"กินนี่รองท้องก่อนค่ะ" คนตัวสูงหน้าเจื่อนเล็กน้อยเมื่อไม่ได้รับการตอบรับ ยื่นมือไปรับขนมปังจากเธอ แกะกินรองท้องอย่างที่คนตัวเล็กบอก เพิ่งคิดได้ว่าไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เช้า"ถ้าพี่จะรบกวนเพ้นท์สั่งข้าวให้พี่ได้ไหม พี่ยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้า" ร่างบางมองคนที่ขอร้องท่าทางน่าสงสาร ก่อนจะพยักหน้าตอบรับ จัดการสั่งอาหารตามที่เขาบอก"นั่งรออยู่นี่ค่ะ เดี๋ยวเขามาส่ง" เธอบอกเขาก่อนจะผุดลุกขึ้น เมื่อสั่งอาหารเรียบร้อย"เพ้นท์ไปไหน" คนตัวสูงละล้าละลังฉุดมือเธอเมื่อเห็นคนตัวเล็กทำท่าจะเดินหนี หัวใจร้อนรนไปหม
"เดี๋ยวจอดตรงนี้ให้กูก่อน กูจะเข้ารีสอร์ต" ธารณ์บอกเพื่อนที่ขับรถอยู่ให้จอด เมื่อกำลังจะผ่านรีสอร์ตของหมอพีร์ ที่ตากับยายมันเปิดทิ้งไว้ตั้งแต่ก่อนเริ่มทำโรงแรม"ไม่เข้าบ้านก่อนเหรอมึง" รพีภัทรเอ่ยถามเพื่อนเมื่อเห็นท่าทางเร่งรีบของมัน"คุณนาวครับตอนนี้เพ้นท์อยู่ไหนครับ""นาวก็ไม่รู้สิคะ น้องตัวคนเดียวคงไม่ต้องมาคอยบอกใครหรอกว่าไปไหน" ธารณ์หน้าเจื่อนๆ ลอบมองเพื่อนสนิททั้งสองคนที่นั่งเงียบอยู่บนรถเช่นเดียวกัน เรียกได้ว่านั่งเงียบตั้งแต่เจอกันที่สนามบินหลังจากที่เมื่อคืนเพื่อนสนิททั้งสองคนกลับบ้าน ตัวเขาที่นั่งรอฟังข่าวอย่างใจจดใจจ่อก็ได้รับข่าวดี ทั้งสองยอมบอกแล้วว่าเพ้นท์อยู่ที่ไหน ซึ่งไอ้หมอทั้งสองคนต้องบรรยายความน่าสงสารอย่างหนัก กว่าจะยอมบอกแต่ก็ต้องแลกมากับการที่พวกเขาสามคนโดนเมินกันหมด ถามคำก็ตอบคำ"ถ้ายังไงมีอะไรก็โทรมานะมึง" อวัศย์ยิ้มแหยๆ บอกเพื่อนก่อนจะหันหน้าหนีเมื่อเห็นคนรักปรายตาดุๆ มองมาหลักๆ คือพวกเขาสองคนโดนตึงๆ ใส่เพราะดื้อดึงจะตามมาด้วยนี่แหละเรื่องไอ้ไทม์ไม่ค่อยเท่าไหร่ ทีแรกพวกเธอแพลนกันจะเที่ยวกันตามประสาสาวๆ แต่เรื่องอะไรจะยอมเขากับไอ้พีร์ไม่ยอมลูกเดียว สุดท้ายก็