Home / วาย / อลินตคีรัน / บทที่ 3 ทางกลับบ้าน

Share

บทที่ 3 ทางกลับบ้าน

Author: Jaokai
last update Last Updated: 2025-04-03 20:00:56

ผลั๊ว!!

“อึ่ก! ถุ๊ย!” ใบหน้าของชายหนุ่มหันไปตามแรงของหมัดที่ต่อยลงมาที่ใบหน้าของตัวเองก่อนจะพ่นของเหลวสีแดงออกมาจากริมฝีปาก ก่อนจะเงยหน้ามองเจ้านายของพวกมันที่นั่งอยู่เก้าอี้ตรงหน้ามองมาที่ตัวเอง

“ซ้อมกูให้ตายแม่มึงก็ไม่มีทางฟื้นกลับมาหามึงได้หรอกนะไอ้รัน หึหึ” ราเชนพูดขึ้นอย่างไม่แยแสว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในสถานะที่จะตายอยู่รอมร่อ

“ปากดีไอสัตว์! เดี๋ยวมึงจะได้ตายตามแม่กูไป”

“ก็เอาสิถ้ากูตายไปแก๊งมึงก็คงจะได้ตายตามกูไปด้วย หึ”

“แล้วมึงคิดว่าคนอย่างกูจะยอมตายตามมึงไปมั้ยละ คนอย่างมึงก็เก่งแต่เห่าขู่คนนั้นคนนี้ไปทั่วแต่เดี๋ยวมึงก็จะไม่ได้เห่าขู่ใครไปตลอดชีวิตแล้วล่ะ” ราเชนที่ได้ยินแบบนั้นก็ทำหน้าหวั่นเล็กน้อยเมื่อเห็นลูกน้องของคีรันเดินมาพร้อมอุปกรณ์อะไรสักอย่างบนถาดสเตนเลส

“ง้างปากแล้วดึงลิ้นมันออกมา” คีรันบอกลูกน้องด้วยน้ำเสียงจริงจังก่อนจะเดินเข้าไปยืนตรงหน้าราเชน

“อื๊อๆ อ่อยอู๊!!” (ปล่อยกู) ราเชนมีสีหน้าอาการหวาดกลัวเมื่อลูกน้องของคีรันเดินเข้ามาจับใบหน้าของตัวเอง

มือของลูกน้องรันบีบที่แก้มทั้งสองข้างให้ราเชนอ้าปากออกกว้างๆ ก่อนจะใช้คีมหนีบลิ้นของราเชนอย่างแรงแล้วดึงให้มันยืดออกมา

“มึงจะบอกกูได้หรือยังว่ามึงไปรู้เรื่องของแม่กูมาจากใคร” มือหนาจิกที่เส้นผมของราเชนพร้อมออกแรงดึงให้มันเงยหน้าขึ้นมาสบตากับตัวเองทั้งๆ ที่ลูกน้องของคีรันยังใช้คีมก็ยังหนีบลิ้นของมันให้ยื่นออกมาอยู่อย่างนั้น

ราเชนเบ้หน้าออกมาด้วยความเจ็บปวดตรงที่คีรันจิกผมที่หัว และลิ้นที่ลูกน้องของมันดึงยืดออกมา

“ถ้ามึงพูดกูจะพามึงไปส่งถึงบ้าน อ้อ ถึงห้องทำงานพ่อมึงด้วยเลยดีมั้ย” ลิ้นของราเชนถูกปล่อยให้เป็นอิสระเมื่อรันสั่งให้ลูกน้องปล่อย

“กูรู้มาจากพ่อกูว่าคนที่ฆ่าแม่มึงคือคนของแก๊งสิงห์” ตระกูลสิงห์เจ้าของบ่อนทางใต้ เกี่ยวอะไรกับการตายของแม่เขากัน

“กูรู้มาแค่นั้น” ดวงตาคมคล้ายเหยี่ยวจ้องไปที่ราเชนก่อนจะพยักหน้าบอกให้ลูกน้องพามันไปส่งที่บ้าน คีรันบอกให้บิคที่เป็นมือขวาของตัวเองติดต่อหามือขวาของพ่อทันที เพื่อบอกว่าเขาจะบินไปหาในอีก 2 วัน

#อลินตคีรัน

อลินตาเข้ามาที่บริษัทเพื่อเตรียมตัวเข้าประชุมโปรเจกต์กับผู้ถือหุ้น ซึ่งถ้าเขาเลี่ยงได้เขาก็อยากจะเลี่ยงไปตลอดเพราะไม่อยากเจอหน้าคนที่เขาเพิ่งเจอไปเมื่อวันก่อน

ระหว่างการประชุมคนตัวสูงก็ถามนั่นถามนี่ขึ้นมาจนอลินตาอยากจะหาอะไรไปอุดปากเขาเอาไว้ เพราะเขารู้เจตนาของคนตัวสูงดีที่ถามนั่นนี่เยอะๆ เพื่อที่จะให้เขาหงุดหงิดและหาเรื่องให้ลินคุยกับเขา หลังจบการประชุมก็ยังเป็นลินกับอีตาบ้านั่นที่ออกจากห้องเป็นสองคนสุดท้าย

“รีบไปไหนหรือเปล่า” คีรันเอ่ยถามขึ้นขณะที่กำลังเดินออกจากห้องประชุมพร้อมกับจับแขนรั้งอลินตาเอาไว้ ก่อนที่คนตัวเล็กจะหยุดยืนคุยกับรันอยู่หน้าห้องประชุม

“ปล่อยแขนผมด้วยครับ” คีรันปล่อยมือออกจากแขนเล็กตามที่เจ้าตัวบอก

“พี่อยากชวนไปกินข้าวข้างนอก”

“แล้วทำไมผมต้องไปกับคุณด้วย” อลินตาถามด้วยน้ำเสียงนิ่งพร้อมทำหน้าเชิดเล็กน้อย

“นี่ก็ใกล้จะค่ำแล้วถือว่ากินมื้อเย็นไปเลยโอเคมั้ยครับ” คีรันมองเวลาบนข้อมือก่อนจะพูดกับคนตัวเล็กตรงหน้า ร่างบางทำหน้าคิดอยู่สักพักก่อนจะเหลือบมองมาที่คีรัน

“ร้านไหน” เพราะรู้ถึงจะปฏิเสธไปยังไงคนอย่างคีรันก็ต้องตามตื๊อจนลินใจอ่อน สู้ตอบตกลงรีบกินรีบกลับคอนโดเสียยังดีกว่า เพราะจะได้ไม่ต้องทนเห็นหน้าอีกคน

“งั้นเดี๋ยวลินขับตามพี่ไปแล้วกัน” อลินตาพยักหน้าส่งให้คนตัวสูงก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องทำงาน ซึ่งก็มีคีรันเดินตามเข้าไปด้วย

พอถึงเวลาขับรถมาถึงร้านอาหารคีรันก็พาลินเดินไปที่โต๊ะที่เขาเป็นคนโทรมาจองเอาไว้ ระหว่างที่นั่งรออาหารลินก็ทำทีมองนั่นดูนี่ไปเรื่องเพราะไม่อยากสนใจสายตาของคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับตัวเอง

“ลินดูโตขึ้นเยอะเลยนะ” แถมยังดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นผิดกับตอนที่อยู่กับเขาเมื่อก่อนไปมาก แต่ถ้าถามว่าเป็นเพราะอะไรก็น่าจะเดาได้ไม่ยาก

“เพราะมีเวลาอยู่กับตัวเองเยอะมั้งครับ” ลินตอบกลับคนตรงหน้าพร้อมกับแฝงไปด้วยคำพูดแซะคนตรงหน้า

“นั่นสินะ” คีรันหัวเราะในลำคอและไม่ได้ถามอะไรคนตรงหน้าออกมาอีกเพราะกลัวอีกฝ่ายจะอึดอัด

“พี่ขอโท……”

“ถ้าคุณจะพูดเรื่องนั้นกับผม งั้นผมจะกลับ”

"โอเคพี่ไม่พูดแล้ว" ร่างสูงยอมเงียบไม่ชวนเขาคุยอีก

ลินไม่อยากจะต้องมานั่งฟังอีกฝ่ายพูดขอโทษเขาโดยไม่อธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นหรอกนะ เพราะมันเสียเวลา ถ้าเกิดเขายกโทษแล้วมันสามารถกลับไปแก้ไขอดีตได้หรือยังไง

นั่งรอไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟ ทั้งสองคนนั่งกินข้าวด้วยกันเงียบๆ โดยที่ต่างฝ่ายต่างก็นั่งกินไปไม่มีใครพูดอะไรออกมา

กินข้าวด้วยกันเสร็จคีรันก็เป็นฝ่ายจ่ายค่าอาหารแม้ลินจะแย้งว่าให้หารกันเพราะไม่อยากติดค้างอะไรกับรัน แต่คนตัวสูงก็ไม่ยอมสุดท้ายลินก็ไม่ได้จ่าย

หลังจากนั้นลินก็ขับรถกลับคอนโด ระหว่างที่ขับรถกลับไปที่คอนโดรถของลินก็ดันมาดับไปเสียดื้อๆ อีก แถมเส้นทางที่เขาขับมายังเปลี่ยวเพราะเป็นทางลัดที่นานๆ ทีถึงจะมารถผ่านไปมา 

โทรหาลูกน้องก็ไม่มีใครรับสักคนสงสัยประชุมกับทางแด๊ดอยู่แน่ๆ

แต่ไม่รู้จะเรียกว่าโชคดีหรือโชคร้ายเพราะตอนนี้มีรถคันหนึ่งขับมาจอดเทียบกับรถของเขา อีกฝ่ายลดกระจกลงเผยให้เห็นใบหน้าเจ้าของรถพอเห็นว่าเป็นใครลินก็อยากจะกัดลิ้นตัวเองตาย มันจะบังเอิญเกินไปมั้ยเนี่ย

“รถเป็นอะไรหรือเปล่า” คนตัวสูงลดกระจกรถลงก่อนจะเอ่ยถาม

“ไม่รู้ครับ เมื่อกี้ยังขับมาดีๆ อยู่เลย ตอนนี้ดันมาดับเสียนี่มันน่าเอาไปเผาทิ้งนัก” ลินพูดขึ้นเสียงเบาในตอนท้ายพร้อมด่าเจ้ารถเฮงซวยนี่ไปด้วย

“งั้นเดี๋ยวพี่ไปส่ง ส่วนรถเดี๋ยวพี่โทรบอกให้ช่างมาเอาไปเข้าอู่ให้”

“ไม่เป็นไรครับเดี๋ยวผมโทรบอกให้คนมารับเอง คุณกลับไปเถ…..”

ครื้นน~

และความซวยซ้ำสองเพราะเสียงฟ้าร้องพร้อมกับฟ้าแลบเมื่อกี้บ่งบอกว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าพายุฝนลูกใหญ่คงจะเทลงมาตรงนี้แน่ๆ 

“ตกลงจะไปมั้ย”

“....” เอายังไงดีวะ

“มาเร็ว ฝนตกแล้วเนี่ย หรือจะต้องให้ลงไปอุ้มขึ้นรถ” ฝนตกปรอยๆ อย่างที่คนตัวสูงว่าก่อนอีกฝ่ายจะเร่งให้เขาวิ่งไปขึ้นรถของตัวเอง

“เออๆ ไปก็ได้” ร่างบางเก็บของก่อนจะเปิดประตูลงรถกดล็อกรถเฮงซวยแล้วเดินรีบไปขึ้นรถของคีรันทันที และหลังจากนั้นฝนห่าใหญ่ก็กระหน่ำตกลงมาอย่างหนักเหมือนแกล้งกันยังไงอย่างนั้น

“ยิ้มอะไร รีบขับไปสิ” 

“อารมณ์ดีก็เลยยิ้ม” คีรันหันกลับไปมองทางตรงหน้าก่อนจะขับรถออกไป ระหว่างทางสายฝนก็เทลงมาเหมือนที่คีรันคิดเอาไว้ รถจอดคิดไฟแดงเขาหันไปมองคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆ ตอนนี้กำลังนั่งหันหน้าออกไปมองวิวข้างนอก

“หนาวหรือเปล่า”

พรึ่บ!

“ไม่ครั.." เสื้อสูทตัวนอกสีดำถูกคนตัวสูงนำมันมาคลุมตัวของอลินตาเอาไว้ เมื่ออุณหภูมิภายในรถเริ่มเย็นมากขึ้น

“ขอบคุณครับ” ลินกระชับเสื้อเข้าหาตัวก่อนจะเอ่ยขอบคุณคนตัวสูง

รถเริ่มออกตัวเมื่อไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียว คีรันหันไปมองกระจกหลังก่อนจะสังเกตเห็นว่ามีรถที่น่าสงสัยขับตามรถของตัวเองมาตั้งแต่ที่ตัวเองจอดรับคนตัวเล็ก พอขับเปลี่ยนเลนอีกคันก็ยังขับตามรันมาจนเขาแน่ใจว่ารถคันนั้นตามตัวเองมา

“เดี๋ยว นี่คุณจะพาผมไปไหน” อลินตาถามขึ้นด้วยความสงสัยเมื่อเห็นว่าคีรันขับรถพาเขาเลี้ยวไปอีกทางที่ไม่ใช่ทางกลับคอนโดขอเขา

“มีรถสีดำไม่ติดป้ายทะเบียนขับตามเรามาตั้งแต่ตอนที่พี่จอดรับลิน เดี๋ยวพี่จะขับล่อมันไปอีกทาง” คีรันพูดพร้อมเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็วขึ้นอีก

ให้เดาไม่ผิดไอ้คนที่กำลังขับรถไล่ตามเขาอยู่ก็คงเป็นคนของไอ้ราเชนที่มันส่งมาแก้แค้นเขาที่ทำให้มันเสียหน้า

คีรันขับรถวนไปมาเพื่อล่อให้อีกคันเข้ามาติดกับ เมื่อเห็นว่าไฟเขียวเหลืออีกไม่กี่วินาทีเขาก็เหยียบคันเร่งตีห่างจากรถอีกคันที่ตามอยู่ ร่างบางที่นั่งอยู่ข้างๆ ได้แต่นั่งกำเสื้อสูทแน่นเพราะคนตัวสูงขับรถเร็วเกินไปจนตัวเองตกใจและกลัวไปด้วย

“พี่รันลินกลัว” อลินตาเผลอเอื้อมมือไปจับแขนของคีรันให้อีกฝ่ายลดความเร็วลงหลังจากที่เห็นว่ารถที่ตามมาจอดติดไฟแดงอยู่ 

ความเร็วของรถค่อยๆ ลดลงก่อนจะกลับมาเป็นความเร็วปกติ มือหนาเปลี่ยนมากุมมือเล็กเอาไว้เพื่อปลอบคนข้างๆ ให้หายตกใจกลัว

“พี่ขอโทษลินเป็นอะไรมั้ย” อลินตาส่ายหน้าไปมา แต่ภายในใจก็ยังตกใจกับเหตุการณ์เมื่อกี้ไม่หาย

รถหรูขับเข้ามาจอดหน้าคอนโดของอลินตาแต่คนที่นั่งอยู่ในรถก็ยังไม่ยอมปล่อยมือนุ่มนิ่มนั้น จนอีกฝ่ายต้องกำมือของคีรันแน่นเมื่อให้เขาปล่อยมือ

“ถึงคอนโดของผมแล้วก็ปล่อยมือผมสิครับ” 

“ไม่ปล่อยได้มั้ย”

“อย่ามาเนียนครับ ปล่อย!” คนตัวเล็กพูดเสียงเข้มขึ้น จนคีรันยอมปล่อยมือของเขา

“เมื่อกี้ยังยอมให้พี่จับอยู่เลยทำไมตอนนี้ทำเสียงดุจังล่ะ” ร่างบางกลอกตามองบนให้กับความเจ้าเล่ห์ของคนตัวสูงก่อนจะเอ่ยขอบคุณที่มาส่งเขาที่คอนโด

“ขอบคุณที่มาส่งนะครับ”

คีรันนั่งมองคนตัวเล็กเดินหายเข้าไปในคอนโดพร้อมกับลูกน้องเดินตามเข้าไปในคอนโดเขาจึงขับรถกลับไปที่คอนโดของตัวเอง 

#อลินตคีรัน

“เมื่อไหร่มึงจะว่างไปเที่ยวกับกูสักทีอะไอ้ลิน” สกายที่นั่งอยู่โซฟาในห้องทำงานร้องถามขึ้นพร้อมทำหน้าดื้อใส่เพื่อนเต็มที่ เพราะจำได้ว่าตั้งแต่ที่ลินกลับมาจากอิตาลีนี่ก็อาทิตย์กว่าแล้วที่เพื่อนของเขาเอาแต่ทำงานงกๆ ไม่ว่างไปเที่ยวไหนกับเขาสักที

“ทำหน้าเหมือนหมาโกเด้นอีกแล้ว งอแงอะไรนักหนาวะ” ลินเงยหน้ามองเพื่อนก่อนจะพูดขึ้นยิ้มๆ

“ก็มึงผิดสัญญากับกูอะ”

“เออๆ กูขอโทษ งั้นไถ่โทษด้วยการพามึงไปผับดีมั้ย”

“งั้นไปร้านประจำกู”

“กูตามใจมึง กูขอทำงานก่อน” สกายพยักหน้าส่งให้ก่อนจะนอนราบไปกับโซฟาพลางเล่นเกมในมือถือไปด้วย

อลินตามองเพื่อนพร้อมส่ายหัวเบาๆ ให้กับความเป็นเด็กในตัวเพื่อนของเขา เพราะคบกันอยู่สองคนสกายจึงติดเขามากเป็นพิเศษ ลินเคยบอกให้หาเพื่อนไว้คุยแก้เหงาแต่สกายก็ปฏิเสธเพราะคิดว่าไม่มีใครทนกับนิสัยตัวเองได้เท่าลิน

“กูเลิกกับแฟนกูแล้วนะ” จู่ๆ สกายก็พูดขึ้นมาขณะที่ลินกำลังนั่งอ่านเอกสารอยู่

“ทำไมวะ”

“จับได้ว่านอกใจเลยเลิก”

“แล้วมึงเป็นไงบ้าง โอเคขึ้นหรือยัง” ลินถามด้วยความเป็นห่วง สกายถึงภายนอกจะดูเล่นๆ ไม่จริงจังกับอะไร แต่เรื่องความรักสกายทุ่มกับมันเต็มที่แต่ที่ผ่านๆ มาก็เห็นแล้วว่าทุกคนที่เข้ามาในชีวิตของมันล้วนแล้วแต่หวังผลประโยชน์กันมันทั้งนั้น

“กูโอเคขึ้นแล้วแค่อกหักไม่ได้ตายสักหน่อย”

“งั้นคืนนี้กูขอชวนพี่ศิลาไปด้วยนะ”

ได้ยินชื่อที่เพื่อนเอ่ยขึ้นลินก็จ้องหน้าเพื่อนนิ่งๆ ไม่รู้ว่าลืมหรือแกล้งทำเป็นไม่รู้ว่าพี่ศิลาเป็นเพื่อนกับอีตาคีรัน ถ้าชวนมาก็เท่ากับว่าคืนนี้ เห้อ~

สกายเห็นเพื่อนนั่งนิ่งก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าพี่ศิลาเป็นเพื่อนกับพี่รัน

“เอาน่า แค่นั่งกินเหล้ากับแฟนเก่า โอ๊ะ! หรือไม่เคยเลิกกันนะ เฮ้ยๆ! ไอ้ลินกูพูดเล่นวางป้ายชื่อมึงลงก่อนมันอันใหญ่นะเว้ยเดี๋ยวกูตาย”

“น่ารำคาญ! นั่งเงียบไปเลยมึงอะกูจะทำงาน”

“ครับๆ”

สกายปล่อยให้เพื่อนทำงานต่อก่อนจะหันกลับมาสนใจมือถือตรงหน้าพร้อมพรมนิ้วพิมพ์ข้อความส่งหาใครสักคน

‘เรียบร้อย’

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • อลินตคีรัน    บทส่งท้าย

    เวลาล่วงเลยผ่านมาจนตอนนี้อาทิตย์หน้าอลินตาก็ต้องเตรียมของใช้ไปที่โรงพยาบาลเพื่อความปลอดภัยเพราะถึงเดือนที่เขาใกล้จะคลอดแล้ว ตอนนี้ว่าที่คุณพ่อลูกสองก็เริ่มยุ่งๆ อยู่กับงานที่บริษัทเพราะเขาต้องมอบหมายหน้าที่ให้กับอีกคนเพราะคีรันอยากจะหยุดทำงาน 3 เดือนเพื่อออกมาดูแลลูกแฝดช่วยอลินตาตอนแรกที่ลินรู้ก็ไม่ยอมเพราะไม่อยากให้คีรันหยุดงานนานเกินไปเผื่อมีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้นที่บริษัท คีรันก็บอกกับเขาว่าคนที่ตัวเองมอบหมายให้ทำหน้าที่เป็นประธานบริษัทแทนคีรันในช่วงที่คีรันหยุดงานเป็นคนที่อยู่กับเขามานานและไว้ใจได้ แล้วคีรันก็ไม่ได้ให้คนนั้นมาดูแลแค่คนเดียวแต่จะมีป๊าของเขาเข้ามาดูแลช่วยด้วยอีกคนคนตัวสูงบดจมูกลงบนแก้มจ้ำม่ำของคุณแม่ลูกสองที่กำลังนั่งอ่านหนังสือเด็กแรกเกิดอยู่ที่เตียงนอนเพื่อรอคีรันอาบน้ำเสร็จแล้วเข้านอนพร้อมกัน“อื้ออ!!”“หอมจัง” พูดจบก็เดินมาอ้อมเตียงมาฝั่งที่ตัวเองนอนก่อนจะขึ้น

  • อลินตคีรัน    บทที่ 29 เซอร์ไพรส์

    เข้าสู่เดือนที่ 5 ร่างกายของคุณแม่ลูกแฝดก็เริ่มมีน้ำมีนวลขึ้น หน้าท้องที่เคยแบนราบตอนนี้กลับเริ่มนูนยื่นออกมาเพราะในท้องของคุณแม่มีเด็กๆ อยู่ด้วยกันตั้งสองคน“หนูระวังครับ!” คีรันสาวเท้ารีบเดินไปประคองคุณแม่ที่กำลังเดินลงมาจากชั้นสองด้วยความเป็นห่วง พร้อมกับโดนอลินตาเหวใส่เพราะเสียงดังจนเจ้าตัวสะดุ้งตกใจ“พี่รันจะเสียงดังทำไมครับ”“ก็ลินจะเดินลงมาจากชั้นบนทำไมไม่เรียกพี่ละครับพี่จะได้เดินขึ้นไปรับ”“แค่นี้เองลินเดินลงมาเองได้สบายมากครับ”“ดื้อ!!” คีรันดุคนรักอย่างไม่จริงจังมากนักพร้อมกับยกมือขึ้นบีบจมูกรั้นของอลินตาอย่างมันเขี้ยวคีรันพาอลินตาเดินไปนั่งที่ห้องนั่งเล่นเพื่อรอสกายกับสายฟ้าที่โทรมาบอกเมื่อช่วงเช้าว่าจะเข้ามาหา อลินตานั่งกินมะม่วงกับคีรันรออยู่ไม่นานคนที

  • อลินตคีรัน    บทที่ 28 ความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนไป

    สกายเดินมาขึ้นรถที่จอดอยู่ที่โรงจอดรถของบ้านสายฟ้า เมื่อเขากำลังปิดประตูก็มีมือหนามาจับเอาไว้ไม่ให้สกายปิดประตูรถได้“เดี๋ยวพี่ไปส่ง” สายฟ้าเอ่ยกับสกายด้วยน้ำเสียงเรียบ“ไปส่งทำไมครับผมเอารถมา” สรรพนามที่เรียกผมแทนชื่อตัวเองบ่งบอกว่าเจ้าตัวดูจะไม่พอใจเอามากๆ จนสายฟ้ารู้สึกเจ็บจื๊ดๆ ที่อกข้างซ้ายเสียอย่างนั้น“พี่ขอโทษครับ”“ขอโทษทำไมครับพี่ฟ้าไม่ได้ทำอะไรผิดเสียหน่อย ปล่อยด้วยครับผมจะกลับบ้าน”“ให้พี่ไปส่งนะครับคนดี พี่ฟ้าขอโทษต่อไปนี้พี่ฟ้าจะไม่แกล้งหนูแล้ว” สายฟ้าพูดพร้อมจับที่ข้อมือของสกายพร้อมออกแรงดึงให้อีกฝ่ายลงมาจากรถ“พี่ฟ้าจะพาผมไปไหนครับ”“ไปหาแด๊ดกับแม่พี่ครับ” พูดจบก็ลากคนตัวเล็กเดินกลับเข้าไปในบ้าน พอดีกับคีรันและอล

  • อลินตคีรัน    บทที่ 27 ลูกแกล้งพี่

    คุณหมออนุญาตให้คีรันออกจากโรงพยาบาลได้แต่ก็ต้องกลับไปให้หมอล้างแผลและรักษาบาดแผลที่เหลือให้หายต่อ คีรันเลือกกลับมาฟื้นฟูร่างกายที่บ้านแทนคอนโดเพราะอลินตาเสนอจะมาดูแลเขาหลังจากที่ออกจากโรงพยาบาล แม้จะค้านแต่คุณแม่ท้องอ่อนก็ดื้อดึงที่จะมาคีรันไม่อยากให้อีกฝ่ายเดินเหินเยอะเพราะท้องอ่อนอยู่จึงเลือกมาที่บ้านดีกว่าเพราะที่บ้านยังมีแม่บ้านที่พอจะเรียกใช้ได้“ค่อยๆ เดินนะครับ” คนตัวเล็กบอกคนเจ็บที่กำลังช่วยกันพยุงตัวมานั่งที่เก้าอี้อยู่ที่สวนหน้าบ้านในยามเช้าของวัน“หนูทำไมไม่หาผ้ามาคลุมด้วยครับอากาศเย็นๆ แบบนี้เดี๋ยวจะไม่สบายเอานะ”“เดี๋ยวลินให้พี่แป้งไปหยิบให้ก็ได้ครับ” อลินตาหันไปบอกกับพี่เลี้ยงที่ตามมาดูแลเขาที่นี่ตามคำสั่งของแด๊ดให้พี่แป้งไปหยิบผ้าคลุมมาให้ตามที่คีรันบอก เมื่อได้ผ้าคลุมตัวเองแล้วอลินตาก็ถูกคนตัวสูงบังคับให้ไปนั่งข้างๆ กันก่อนที่แขนแกร่งจะกอดเขาไว้แน่น&ldq

  • อลินตคีรัน    บทที่ 26 ฟ้าหลังฝน

    “ไม่จริง…พ่อโกหก พ่อพูดโกหกไอ้รันเป็นคนบอกผมเองว่าเกาะนั่นเป็นชื่อของมันไม่ใช่ชื่อผม ไม่จริง! พ่อโกหก พ่อโกหกผม!!!”ภายในห้องเงียบสงัดเมื่อสิ้นประโยคที่พายุตะโกนออกมาทั้งน้ำตา ขาทั้งสองข้างก็พลันทรุดนั่งลงบนพื้นอย่างแรงตรงหน้าผู้เป็นบิดาที่ยืนน้ำตาไหลด้วยความเสียใจที่เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะคนคนเดียว“พะ อึก พ่อโกหก”“ทุกอย่างที่ฉันพูดเป็นเรื่องจริงทั้งหมด”“อึก”“ยอมรับผิดเถอะนะพายุเรื่องทุกอย่างจะได้ทุเลาลง”“ผะ ผมขอโทษ พ่อผมขอโทษ” ณรงค์เดินเข้าไปหาลูกชายพลางทรุดตัวนั่งคุกเข่าข้างเดียวลงกับพื้นพร้อมเอื้อมมือไปแตะลงบนไหล่อันสั่นเทาของลูกชาย“ฉันไม่เคยโกรธเคยเกลียดแกเลยเพราะแกเป็นล

  • อลินตคีรัน    บทที่ 25 ความจริงทั้งหมด

    "ถ้าหนูไม่พูดพี่ฟ้าจะไม่ใจดีแล้วนะครับ"“....” สกายนั่งนิ่งไม่แม้แต่จะเอ่ยอะไรใด ๆ ออกมาเมื่อได้ยินที่คนตัวสูงพูดแบบนั้น“หมดฤทธิ์แล้วเหรอครับ” สายฟ้าพูดยิ้มๆ โดยที่คนบนตักไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่ากำลังถูกเขาต้อนให้จนมุมอยู่“เมื่อไหร่จะเลิกทำแบบนี้กับผมสักทีครับ”“พี่ทำอะไรเหรอครับ”“ก็ที่ทำอยู่นี่ไงครับ ผมไม่อยากรู้สึกกับพี่ไปมากกว่านี้แล้วพี่ฟ้าปล่อยผมไปได้มั้ยครับแล้วผมสัญญาว่าจะไม่มาให้พี่ฟ้าเจอหน้าผมอีกเลย” คนพูดพยายามเก็บอาการไม่ให้อีกฝ่ายจับน้ำเสียงของเขาได้ว่ามันกำลังสั่นแค่ไหน“พูดเหมือนจะไปที่ไหนเลยนะครับ” สายฟ้าเอ่ยถามคนบนตัก“ผมกำลังจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ผมกำลังจะตัดใจจากพี่ฟ้าและไปเริ่มต้นใหม่ที

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status